Archive for Uncategorized
“ถ้าพวกเราไม่เข้ากลุ่ม พวกเราต้องจ่ายเท่าไหร่สำหรับเนื้อของอสูรเกราะน้ำแข็ง?” ชายอายุประมาน 40-50 ถามหานเซิ่น “ใบอนุญาตระดับ A สำหรับผู้วิวัฒนาการของสถาบันเซนท์” หานเซิ่นตอบ “อะไรนะ? ใบอนุญาตระดับ A สำหรับผู้วิวัฒนาการแลกกับเนื้ออสูรเกราะน้ำแข็งเนี่ยนะ? ทำไมนายไม่เอามีดมาปล้นพวกเราเลยละ?” ชายที่ถามตะโกนด้วยความโกรธ คนอื่นๆเริ่มไม่พอใจหานเซิ่นเช่นกัน มีบางคนถึงขึ้นพยายามที่จะแย่งซากมอนสเตอร์บนหลังโกลเด้นโกรวเลอร์ นี่คือธรรมชาติของมนุษย์ พวกเขาผ่านความยากลำบากมามาก เมื่อเห็นหานเซิ่นนำซากมอนสเตอร์จำนวนมากกลับมา พวกเขาก็ย่อมต้องการมันใจจะขาด ยิ่งหานเซิ่นตั้งราคาที่เหมือนจะขูดรีดก็ยิ่งทำให้พวกเขาไม่พอใจ โอ้ยย! หานเซิ่นเคลื่อนไหวทันที และใช้มีดเคิร์สตัดมือใครบางคนที่ปีนโกลเด้นโกรวเลอร์ขึ้นมาขโมยซากมอนสเตอร์ เสียงกรีดร้องของคนที่ถูกตัดมือ ทำให้คนอื่นๆตกตะลึง พวกเขาหยุดเคลื่อนไหว และมองไปที่หานเซิ่น ชายคนที่โดนตัดมือยังคงนอนดิ้นอยู่บนพื้น “ถ้าไม่ได้รับคำอนุญาตจากฉัน ใครกล้ามาแตะต้องของของฉัน ถ้าเอามือมาจับ ฉันก็จะตัดมือ ถ้าขามาโดน ฉันก็จะตัดขา ถ้าหัวเขามาใกล้ ฉันก็จะตัดหัว” หานเซิ่นพูดอย่างเยือกเย็น ขณะถือมีดเคิร์สวูฟที่เปื้อนเลือด “บัดซบ ไอ้นี่มันบ้าไปแล้ว มันกล้าใช้ความรุนแรงกับพวกเรา รีบช่วยกันฆ่ามันเร็วเข้า” “นายมาทำร้ายสหายของพวกเรา นายยังมีความเป็นมนุษย์อยู่อีกหรอ?” “ฆ่าไอ้เวรนี่ซะ!” “แกมันเลวจริงๆ!” แค่ชั่วพริบตา หานเซิ่นก็กลายเป็นที่เกลียดชังของคนทุกคนที่นี่ ตอนนี้สีหน้าแววตาของทุกคน เหมือนกับว่าพวกเขาอยากจะฆ่าหานเซิ่น สวี่โหย่วและคนอื่นๆอีก 3-4 คน พยายามห้ามคนอื่นๆที่เหลือ แต่เนื่องจากพวกเขามีน้อยเกินไป ทำให้พวกเขาไม่สามารถห้ามได้ทัน ตอนนี้มีคน 4-5 คนบุกเข้าไปหาหานเซิ่นแล้ว พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่อยู่ที่นี่มามากกว่า 20 ปี แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการจะแก้แค้นให้กับเพื่อน พวกเขาแค่อยากจะได้ซากมอนสเตอร์ทั้งหมด หลังจากกำจัดหานเซิ่นได้ ในสายตาของพวกเขา หานเซิ่นก็เป็นแค่เด็กอมมือที่โชคดีก็เท่านั้น เนื่องจากเขาพึ่งจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 หานเซิ่นไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ การฆ่าหานเซิ่นเป็นอะไรที่ง่ายมาก พวกเขาเรียกวิญญาณอสูรของตัวเองออกมา และพยายามจะฆ่าหานเซิ่นให้ได้ ซากของมอนสเตอร์จำนวนมากมันน่าดึงดูดจริงๆ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยกินเนื้อกลายพันธ์ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และยังมีขาของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิรวมอยู่ด้วย มันเป็นเหมือนกับขุมสมบัติเลยก็ว่าได้ สีหน้าท่าทางของหานเซิ่นไม่เปลี่ยนเลยสักนิด เขายิ้มเหมือนกับเขาคิดไว้แล้วว่าถ้าเอาเนื้อกลับมาอาจจะเจอกับเรื่องแบบนี้ เขาไม่ได้ประหลาดใจเลย สีหน้าของหยางม่านลี่เคร่งเครียดมาก เธอรีบเรียกวิญญาณอสูรธนูและลูกธนูออกมาทันที คนพวกนี้เป็นคนประเภทที่เธอเกลียดที่สุด พวกเขามีพร้อมทุกอย่าง พวกเขาสามารถสู้เพื่อตัวเองได้ แต่พวกเขาก็ยังต้องการของของคนอื่น คนพวกนี้ก็ไม่ต่างจากโจร บางทีอาจจะแย่ยิ่งกว่าโจรด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆโจรก็ยังยอมรับว่าตัวเองเลว ขณะที่คนพวกนี้พยายามจะแย่งของคนอื่น และทำเหมือนกับว่าสิ่งที่พวกเขาทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง การกำจัดหานเซิ่นเป็นสิ่งที่สมควรทำ แต่ทว่าก่อนที่หยางม่านลี่จะยิงลูกธนูออกไป หานเซิ่นก็เคลื่อนไหวทันที เขาพุ่งผ่านชายทั้ง 5 คนไปอย่างรวดเร็ว โอ้ย! เสียงกรีดร้องของชายทั้ง 5 ดังขึ้นในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าเป็นเสียงร้องของคนคนเดียว พวกเขาทั้ง 5 คนสูญเสียมือขวาของพวกเขา ทำให้อาวุธที่พวกเขาถือไว้ตกลงไปบนพื้น พวกเขาทั้ง 5 คนกลิ้งไปบนพื้น และใช้มือซ้ายจับบาดแผลของตัวเองไว้ ขณะส่งเสียงร้องด้วยความทรมาน ทุกคนตกตะลึง หานเซิ่นที่ถูกรุมโจมตียืนหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่อีก 5 คนที่เข้าไปโจมตีลงไปนอนดิ้นอยู่บนพื้น ทำให้ทุกคนช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาทั้ง 5 คนเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ก่อนหานเซิ่นเป็น 10 ปี ถึงที่นี่จะหาเนื้อได้ยาก แต่ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เกิน 40 กันหมดแล้ว แต่ทว่าในพริบตาเดียว พวกเขาทั้ง 5 ก็ต้องสูญเสียมือขวาไป ทำให้ทุกคนช็อคมาก “มีใครยังต้องการเอาชีวิตฉันอีกไหม?” หานเซิ่นมองไปรอบๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย คนที่ต้องการจะเข้ามาฆ่าหานเซิ่นหรือคนที่พยายามจะขโมยซากมอนสเตอร์ขยับถอยหนีทันที หยางม่านลี่มองดูหานเซิ่นด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอไม่คิดว่าหานเซิ่นจะกล้าทำถึงขนาดนี้ “ลุงชิงมาแล้ว…” “ลุงชิง คุณต้องช่วยพวกเรา ไอ้เวรนี่มันทำร้ายพวกพ้องของพวกเรา” “ลุงชิง พวกเราที่อยู่ที่นี่ ทุกคนต้องช่วยเหลือกัน แต่หมอนี่โหดร้ายทารุณมาก เขาไม่ต่างจากพวกมอนสเตอร์” “…” ชายอายุประมาน 70-80 ปีเดินออกมาจากถ้ำ สำหรับผู้วิวัฒนาการแล้วอายุขัยมีถึง 300 ปี อายุ 70-80 ปี ยังเรียกว่าเป็นวัยกลางคนอยู่ ยังไม่ถือว่าเป็นวัยชรา เมื่อเห็นคนอื่นๆเริ่มเรียกชื่อลุงชิง หยางม่านลี่ก็เริ่มกังวลขึ้นมา เธอลดธนูลงและรีบพูด “ลุงชิง อย่าไปฟังพวกเขา พวกเขาพยายามจะขโมย….” ก่อนที่หยางม่านลี่จะพูดจบ ลุงชิงก็ทำมือบอกให้เธอเงียบ เมื่อเห็นการกระทำของลุงชิง คนอื่นๆในกลุ่มก็เริ่มตื่นเต้นทันที พวกเขาตะโกนด่าหานเซิ่นต่างๆนาๆ ราวกับว่าการที่หานเซิ่นไม่แบ่งเนื้อให้พวกเขาแบบฟรีๆเป็นเรื่องที่ชั่วช้ามาก หยางม่านลี่รู้สึกกังวลมาก ลุงชิงน่าจะเป็นคนแรกที่ถูกเทเลพอร์ตมาลงที่นี่ เขาอยู่ที่นี่มาหลายสิบปีแล้ว เขามีจีโนพ้อยมากที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ และเขายังเป็นคนเดียวที่มีความสามารถพอที่จะล่ามอนสเตอร์กลายพันธ์ได้ ตามที่ลุงชิงบอก ตัวเขามีระดับความแข็งแกร่งประมาน 60 แต่หยางม่านลี่เชื่อว่าน่าจะมากกว่านั้น ยิ่งกว่านั้นลุงชิงยังฝึกวิชาไฮเปอร์จีโนสำหรับผู้วิวัฒนาการแล้ว ดังนั้นเขาไม่ใช่ผู้วิวัฒนาการระดับทั่วๆไป พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าลุงชิงคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้ แม้หานเซิ่นเองก็แข็งแกร่ง แต่เขาพึ่งจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ถ้าลุงชิงต้องการจะฆ่าเขา หานเซิ่นอาจจะตายก็ได้ “ลุงชิง มันไม่ใช่ความผิดของหานเซิ่น…” สวี่โหย่วกัดฟัน และพูดเข้าข้างหานเซิ่น อย่างไรก็ตาม ลุงชิงทำมือบอกให้เขาเงียบเช่นกัน และเดินตรงไปที่หานเซิ่น สีหน้าของหยางม่านลี่ยิ่งมืดมนขึ้นเรื่อยๆ เธอรีบเดินตรงเข้าไปหาหานเซิ่นเช่นกัน เพื่อแสดงถึงความตั้งใจของเธอ คนอื่นๆที่เหลือกำลังเตรียมฉลองในความโชคร้ายของหานเซิ่น ขอแค่ลุงชิงกำจัดหานเซิ่น พวกเขาก็จะสามารถแบ่งเนื้อกันได้ ปรกติลุงชิงจะเป็นคนใจดีอยู่แล้ว ดังนั้นเขาก็น่าจะจัดการหานเซิ่นให้ทุกคนแน่ เมื่อเห็นลุงชิงเดินตรงเข้ามาหาหานเซิ่น คนจำนวนมากก็ตะโกนอยู่ในใจ “ฆ่าเขา…ฆ่าเขา…” แม้ว่าหานเซิ่นจะมีความสามารถที่โดดเด่น และมีทักษะการใช้มีดที่สุดยอดแค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าหานเซิ่นจะเอาชนะลุงชิงได้ ภายใต้การจับตาดูของทุกคน เมื่อลุงชิงอยู่ห่างจากหานเซิ่นไม่ถึง 6 ฟุต เขาชักมีดโลหะZที่เป็นสไตล์โบราณออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ สับสนและกลัว ลุงชิงกวัดแกว่งมีดเพื่อตัดหัวคนทั้ง 5 ที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้น จากนั้นลุงชิงก็โค้งคำนับหานเซิ่น “นายน้อยหาน หนิงชิงมาช้าไป สมควรได้รับการลงโทษ” ทุกคนช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลุงชิงคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ทำราวกับว่าเขาเป็นบริวารของหานเซิ่น พวกเขาทุกคนรู้สึกว่ามันต้องใช้พลังงานสมองอย่างมาก เพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น VIPถึงตอนที่ 1355 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/
หานเซิ่นกำลังมองดูวิญญาณอสูรที่เขามีทั้งหมด และในที่สุดเขาก็เล็งไปที่วิญญาณอสูรบลัดสเนล มันคือชุดเกราะสัตว์เลี้ยงขั้นสุดยอด แต่ตอนนี้มันไร้ประสิทธิภาพ เมื่ออยู่ต่อหน้ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 หานเซิ่นตัดสินใจว่าจะใช้มันเป็นตัวทดลองคริสตัลสีดำ วิญญาณอสูรมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดเข้ามาล้อมรอบคริสตัลสีดำ ขณะที่อาร์คแองเจิลไม่สนใจมันแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะคริสตัลสีดำไม่มีประโยชน์ต่อเธอแล้วหรือเป็นเพราะว่าหล่อนยังไม่เปลี่ยนร่างเลยไม่สนใจมันตอนนี้ ด้วยคำสั่งของหานเซิ่น บลัดสเนลเคลื่อนที่เข้าไปหาคริสตัลสีดำอย่างมีความสุข และกลืนคริสตัลเข้าไปทันที คล้ายๆกับอาร์คแองเจิล แสงเริ่มรวมตัวกันเป็นรังไหมห่อหุ้มบลัดเนลเอาไว้ หานเซิ่นไม่ได้รีบร้อน ยังไงมันก็เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าการป้อนคริสตัลสีดำให้วิญญาณอสูรกินได้ผลที่เร็วกว่าการป้อนให้มอนสเตอร์กิน ในกรณีของอาร์คแองเจิล หล่อนก็ใช้เวลาไม่นาน สำหรับบลัดสเนลก็น่าจะใช้เวลาประมาน 1 เดือนเช่นกัน หานเซิ่นคาดหวังไว้สูงมาก ถ้าสิ่งที่เขาคิดไว้ถูกต้อง มันจะเป็นเรื่องที่วิเศษมากๆ ภายในถ้ำน้ำแข็ง อสูรเกราะน้ำแข็งเบอร์เซิร์กที่หยางม่านลี่เอากลับมา สร้างความประหลาดใจให้กับคนอื่นๆที่อยู่ในถ้ำมาก ผู้วิวัฒนาการที่พึ่งจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 กับสามารถฆ่าอสูรเกราะน้ำแข็งในโหมดเบอร์เซิร์กได้ มันเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก เมื่อเห็นเช่นนั้นบางคนก็พูดว่าคนหนุ่มๆสมัยนี้ฝีมือไม่ธรรมดา แต่บางคนก็บอกว่าเขาแค่โชคดีเท่านั้น หยางม่านลี่ไม่ได้อธิบายอะไร ถ้าเธอบอกทุกคนว่าหานเซิ่นฆ่ามอนสเตอร์ในโหมดเบอร์เซิร์กด้วยหมัดเดียวละก็ คนอื่นๆคงไม่เชื่อแน่ ไม่มีใครเชื่อว่าผู้วิวัฒนาการหน้าใหม่จะสามารถฆ่าอสูรเกราะน้ำแข็งในโหมดเบอร์เซิร์กได้ด้วยการชกเพียงครั้งเดียว ถึงจะเป็นผู้วิวัฒนาการเลือดศักดิสิทธิก็ตาม ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของหานเซิ่นและอสูรเกราะน้ำแข็ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังคล้ายกับเสียงแผ่นดินไหว “พวกมอนสเตอร์มันเจอที่นี่แล้ว และกำลังมาโจมตีพวกเรา?” คนจำนวนมากรู้สึกช็อค พวกเขาไปกองกันอยู่ตรงเครื่องเทเลพอร์ต เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเทเลพอร์ตออกจากก็อตเเซงชัวรี่ ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้น หลังจากผ่านไปสักพัก เสียงนั้นก็หยุดลง พวกเขาได้ยินเสียงตะโกน “ม่านลี่ มาช่วยฉันหน่อย” หยางม่านลี่ได้ยินอย่างชัดเจน เธอสามารถบอกได้เลยว่านั่นคือเสียงของหานเซิ่น เธอรีบเดินออกไปข้างนอกถ้ำ คนอื่นๆที่กำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก็เดินตามเธอไปเช่นกัน เมื่อพวกเขาออกมานอกถ้ำแล้ว พวกเขาก็ต้องเบิกตากว้าง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่พวกเขาเห็น สิงโตตัวสีทองที่ตัวใหญ่เหมือนกับภูเขาลูกย่อมๆกำลังขนซากของมอนสเตอร์จำนวนมาก มีทั้งอสูรเกราะน้ำแข็ง และยังมีมอนสเตอร์กลายพันธ์เช่นหมาป่าหิมะและหมีน้ำแข็งรวมอยู่ด้วย บนกองซากพวกนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ เขาคือหานเซิ่นที่ไม่ฟังคำแนะนำของทุกคน และดึงดันที่จะออกไปล่าคนเดียว “น้องชาย..หานเซิ่น… พวกนี้เป็นของนายทั้งหมดเลยหรอ?” สวี่โหย่วถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ นี่มันยากที่เชื่อว่าจะได้ หลายคนพยายามขยี้ตาตัวเองแรงๆ ทุกคนมีปฏิกิริยาแบบเดียวกัน พวกเขาอยู่ที่นี่มาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่เคยมีใครล่าได้มากมายขนาดนี้มาก่อน ยิ่งกว่านั้นซากพวกนั้นยังมีมอนสเตอร์กลายพันธ์รวมอยู่ด้วย คนจำนวนมากรู้สึกแบบเดียวกับสวี่โหย่ว พวกเขาคิดว่าต้องฝันไปแน่ๆ ไม่เช่นนั้นทำไมถึงได้มีซากมอนสเตอร์มากมายขนาดนี้? และสัตว์ขี่บ้าอะไรจะตัวใหญ่ขนาดนั้น? หยางม่านลี่มองหานเซิ่นด้วยสีหน้าแปลกๆ เธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอเพิ่งจะพูดกับหานเซิ่นว่าไม่มีทางที่จะยึดเมืองสปิริตได้ แต่ตอนนี้เขากลับมาพร้อมกับซากมอนสเตอร์จำนวนมากแม้แต่มอนสเตอร์กลายพันธ์ก็มี ในเวลาสั้นๆแค่นี้ ‘หรือบางทีเขาอาจจะยึดเมืองสปิริตได้จริงๆ?’ หยางม่านลี่มองหานเซิ่นและคิด ชายหนุ่มคนที่เธอเคยดูถูก เติบโตได้เร็วขนาดนี้ เขาทำได้เหนือกว่าที่เธอคาดคิดมาก “จะพูดแบบนั้นก็ได้” หานเซิ่นเล่าเรื่องเกี่ยวกับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่เขาเจอ รวมถึงเรื่องสปิริตขุนนางให้ทุกคนฟัง อย่างไรก็ตามที่เขาเล่าให้ทุกคนฟังเป็นเวอร์ชั่นที่ดัดแปลงแล้ว ซึ่งเขาบอกว่าเขาได้เห็นการต่อสู้ของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ 3 ตัว รวมถึงสปิริตขุนนาง และเขาก็ฉวยโอกาสเก็บซากพวกนี้มาตอนที่พวกมันบาดเจ็บหนัก “ดูนี่สิ ขาของนกตัวที่ว่าถูกมอนสเตอร์อีกตัวหนึ่งกัด โชคร้ายที่มันเสียแค่ขา ทำให้มันบินหนีไปได้ ฉันเลยได้มาแค่ขา” หานเซิ่นยกขาของนกขึ้นมา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อาร์คแองเจิลเหลือเอาไว้ ทุกคนมองหานเซิ่นด้วยความชื่นชม พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นโชคดีมากที่เขาสามารถรวบรวมซากอสูรเกราะน้ำแข็ง และมอนสเตอร์กลายพันธ์ได้มากขนาดนี้ ที่สำคัญยังได้ขาของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิมาด้วย เทพีแห่งโชคลาภคงจะถูกชะตากับเขา ไม่มีใครสงสัยในสิ่งที่หานเซิ่นเล่าให้ฟังเลย หลายคนอยู่ที่นี่มาเป็น 10 ปีแล้ว และพวกเขาหลายคนก็เคยเห็นแมงมุมยักษ์และนกสีดำ รวมถึงสปิริตขุนนาง สำหรับคนที่พึ่งจะมาที่นี่ แต่สามารถเล่าได้ละเอียดขนาดนี้ แสดงว่าหานเซิ่นต้องเห็นพวกมันมากับตาแน่นอน ไม่งั้นเขาจะรู้จักพวกมันได้ยังไง? “น้องชายโชคดีจริงๆ” สวี่โหย่วมองที่กองซากมอนสเตอร์และถาม “นายคิดจะทำยังไงกับพวกมัน? นายคงไม่สามารถกินมันได้หมดแน่ สนใจจะขายให้พวกเราไหม? ทุกคนที่นี่คงยินดีจะให้ราคาที่ดี” ขณะที่สวี่โหย่วพูด สายตาของทุกคนก็จ้องไปที่หานเซิ่น พวกเขาต้องการเนื้อของมอนสเตอร์พวกนี้ใจจะขาด โดยเฉพาะมอนสเตอร์ระดับกลายพันธ์ หลายๆคนตื่นเต้นมากจนตาของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง “แน่นอน ซากทั้งหมดมีไว้ขาย” หานเซิ่นพูดอย่างแน่วแน่ “ฉันขอซื้อ อสูรเกราะน้ำแข็ง 1 แสนดอลลาร์” “ฉันให้ 1 แสน 5 หมื่นเลย..” ทันทีที่หานเซิ่นพูดจบ ทุกคนก็เริ่มตะโกนราคากัน “ฉันจะขายพวกมัน แต่สำหรับสมาชิกในกลุ่มเท่านั้น ถ้าคนอื่นๆจะซื้อ ราคาจะเป็น 2 เท่า และฉันจะรับแค่ใบอนุญาตของสถาบันเซนท์ระดับ A ขึ้นไปเท่านั้น” หานเซิ่นพูด ที่เขาเอาเนื้อกลับมาเป็นจำนวนมาก เขาไม่ได้ต้องการเงิน “น้องชายหมายความว่ายังไง?” สวี่โหย่วถาม ทุกคนต่างก็งง “ฉันจะจัดตั้งกลุ่มขึ้นมา ใครก็ตามที่เข้าร่วมกลุ่มของฉันจะสามารถซื้อเนื้อพวกนี้ได้ด้วยราคาสมาชิก และยังจะได้ประโยชน์อะไรอีกหลายอย่าง ถ้าเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่ม” หานเซิ่นพูด ในอนาคต เขาต้องไปยึดเมืองสปิริตอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาต้องการคนอีกมาก ตัวเขาคนเดียวไม่สามารถดูแลหรือบริหารจัดการเมืองได้ และเขาก็คงจะไม่ได้อยู่ในเมืองตลอดเวลา เขาต้องรับคนที่มีความสามารถในการต่อสู้เข้ามาเป็นผู้ติดตาม เพื่อช่วยเขาป้องกันเมือง ด้วยวิธีนี้ในอนาคตถ้ามีใครถูกส่งมาลงที่นี่ พวกเขาก็จะต้องทำตามกฎที่หานเซิ่นกำหนดเอาไว้ VIPถึงตอนที่ 1355 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/