Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 441 สู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ
Super God Gene – ตอนที่ 441 สู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ

หานเซิ่นกระโดดขึ้นไปบนหลังของร็อคเวิร์มโดยไม่ต้องคิด จากนั้นเขาก็สั่งให้มันบินขึ้นไปสูงๆ     เมื่อมองลงมาข้างล่าง หานเซิ่นก็เห็นว่าแมงมุมที่มีขนาดใหญ่พอจะกินคนเข้าไปได้กำลังขึ้นมาบนหน้าผา     หานเซิ่นไม่รู้ว่าแมงมุมยักษ์ตัวนี้เป็นมอนสเตอร์กลายพันธ์หรือเลือดศักดิ์สิทธิ ถึงเขาจะไม่กลัวมอนสเตอร์กลายพันธ์ แต่ถ้าเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ มันจะเป็นการต่อสู้ที่มีความเสี่ยงสูงมาก     ขณะที่หานเซิ่นกำลังสังเกตการแมงมุมยักษ์อยู่ แมงมุมก็อ้าปากของมันทันที และพ่นใยสีขาวๆที่มีความหนาเท่ากันแขนของเด็กมาที่หานเซิ่นและร็อคเวิร์ม     “บ้าเอ้ย! หนีก่อน” หานเซิ่นสั่งให้ร็อคเวิร์มบินสูงขึ้นไปอีก แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ใยสีขาวจับติดก้ามข้างหนึ่งของร็อคเวิร์มไว้แล้ว ร็อคเวิร์มพยายามใช้ก้ามอีกข้างตัด แต่ทว่าพอมันพยายามตัด ก้ามอีกข้างหนึ่งของมันก็ดันไปติดกับใยเหนียวๆ ทำให้ขยับไม่ได้     แมงมุมยักษ์ดึงใยของมันอย่างแรง แม้ร็อคเวิร์มจะกระพือปีกทั้ง 4 ของมันอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ไม่สามารถต้านความแข็งแกร่งของแมงมุมตัวนี้ได้ มันถูกดึงลงไปข้างล่างโดยใยสีขาว     “มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ!” หานเซิ่นช็อค ตอนนี้เขายังไม่มีความสามารถพอที่จะฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้ และมันก็ไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องเสี่ยงชีวิตสู้ด้วย     เมื่อเห็นร็อคเวิร์มถูกแมงมุมลากไป หานเซิ่นก็ไม่ลังเลอีก เขารีบเรียกวิญญาณอสูรนกทะเลทราย และมีดเคิร์สวูฟออกมา     นกทะเลทรายเปลี่ยนสภาพเป็นนกที่มีเปลวเพลิงสีแดงห่อหุ้ม มันกระพือปีกอยู่เหนือหัวของหานเซิ่น พลังของมันช่วยให้มีดเคิร์สวูฟและร็อคเวิร์มปกคลุมด้วยออร่าสีแดง และมีพลังมากขึ้น     ด้วยผลของออร่านกทะเลทราย ร็อคเวิร์มมีระดับความแข็งแกร่งสูงขึ้น มันกระพือปีกอย่างหนักพยายามจะดิ้นให้หลุดจากใยของแมงมุม     แต่เห็นได้ชัดว่าระดับความแข็งแกร่งของมันยังไม่พอ ร็อคเวิร์มยังคงถูกลากเข้าไปที่ปากของแมงมุม แม้ความเร็วในการโดนลากจะลดลงก็ตาม     หานเซิ่นที่ยืนอยู่บนหลังของร็อคเวิร์มเปลี่ยนร่างเป็นแฟรี่ควีน เขาใช้มนตรานอกรีตและโอเวอร์โหลด ร่างกายของเขามีพลังเพิ่มขึ้นในชั่วพริบตา     หานเซิ่นใช้มีดเคิร์สวูฟฟันไปที่ใยสีขาว หานเซิ่นรู้สึกว่ามีดของเขาติดอยู่กับอะไรบางอย่างที่เหนียวๆ แต่เขายังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาใส่แรงมากยิ่งขึ้นเพื่อพยายามจะตัดมันให้ได้     ใยเริ่มขาดออกจากกันทีละนิด ในที่สุดหานเซิ่นก็ตัดมันได้สำเร็จ ใยที่ขาดถูกแมงมุมดึงกลับไป     เมื่อเป็นอิสระแล้ว หานเซิ่นก็เรียกร้อคเวร์มกลับไป หลังจากที่ลงมาถึงพื้นแล้ว หานเซิ่นก็รีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว     มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิปรกติจะมีระดับความแข็งแกร่งอย่างน้อยๆก็ 80 ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแมงมุมตัวนี้มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 80 แน่ๆ หานเซิ่นไม่อยากจะเข้าไปเสี่ยง ถึงเขาต้องการฆ่ามัน แต่เขาก็ต้องรอให้ซีโร่มาถึงก่อน     เมื่อเห็นหานเซิ่นวิ่งหนี แมงมุมยักษ์ก็อ้าปากอีกครั้ง และพ่นใยสีขาวๆตรงไปหาหานเซิ่น     หานเซิ่นระวังตัวอยู่แล้ว ทำให้เขามีเวลาพอที่จะหลบใยสีขาว และรีบวิ่งหนีต่อไป     แมงมุมยักษ์พร้อมกับแมงมุมตัวอื่นๆที่เป็นระดับโบราณยังคงไล่ตามเขาต่อไป ตัวที่เป็นระดับเลือดศักดิ์สิทธิเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก แต่ละก้าวของมันไปได้ไกลเป็น 100 ฟุต หานเซิ่นที่วิ่งหนีสุดชีวิตไม่น่าที่จะหนีมันได้ทัน     ที่สำคัญในตอนนี้แมงมุมก็พยายามพ่นใยใส่เขาตลอดเวลา ซึ่งหานเซิ่นก็สามารถหลบมันได้เรื่อยๆ แต่ถ้าเขาโดนมันเมื่อไหร่ เขาจะตกอยู่ในวิกฤต หลังจากวิ่งหนีไปได้สักพักพวกแมงมุมโบราณก็ไม่สามารถไล่ตามเขาได้ทัน ตอนนี้เหลือเพียงแค่แมงมุมยักษ์ที่เป็นระดับเลือดศักดิ์สิทธิตัวเดียว     “พวกเขาบอกว่ามีแค่สปิริตขุนนางกับมอนสเตอร์กลายพันธ์ไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงได้มีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอยู่ได้?” หานเซิ่นเริ่มรู้สึกเสียใจที่ใจร้อนบุกมาใกล้เมืองสปิริต     แต่อย่างไรก็ตาม มันก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะคิดแบบนั้น เพราะสปิริตระดับขุนนางไม่สามารถควบคุมมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้ ดังนั้นมอนสเตอร์ตัวนี้น่าจะเป็นแค่พวกมอนสเตอร์ทั่วๆไป ซึ่งยังไม่ถูกสปิริตควบคุม     หานเซิ่นไม่สามารถหนีแมงมุมได้พ้น หลังจากวิ่งมาได้สักพัก เขาก็ไม่มีทางให้ไปต่อแล้ว ไม่ว่าที่ไหนก็มีแต่หน้าผาทั้งนั้น     หานเซิ่นต้องการจะเรียกร็อคเวิร์มออกมา แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องของนกดังมาจากใต้หน้าผา นกยักษ์ตัวสีดำเหมือนกับน้ำหมึกกำลังบินขึ้นมาจากหน้าผา ปีกของมันกว้างกว่า 100 ฟุต     “เวร! พระเจ้า ทำไมทำกับผมแบบนี้” มอนสเตอร์ประเภทบินได้เป็นประเภทที่หานเซิ่นกลัวที่สุด     ย้อนกลับไปในวันที่เขาเกือบจะถูกนกสีเงินฆ่า และต้องหนีตายกระโดดลงแม่น้ำ เมื่อมาเจอกับนกตัวใหญ่อีกครั้ง ทำให้เขาใจคอไม่ดี     หลังจากปรากฏตัวออกมา นกสีดำก็พุ่งเข้าใส่หานเซิ่นทันทีโดยไม่รอช้า มันรวดเร็วเหมือนกับพายุสีดำ ทั้งเร็วและรุนแรง     ถึงจะใช้ตูดดู หานเซิ่นก็ยังดูออกว่ามอนสเตอร์ตัวนี้เป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ นกสีดำกำลังพุ่งเข้ามา เพื่อแย่งอาหารจากแมงมุมยักษ์     ถ้าดูจากความเร็วของนกสีดำ หานเซิ่นรู้เลยว่ามันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ     เขาได้แต่ตำหนิโชคชะตา หานเซิ่นไม่มีทางให้หนีแล้ว เพราะข้างหลังก็กำลังถูกแมงมุมยักษ์ไล่ตามอยู่ และนกสีดำก็กำลังบินตรงเข้ามาหาเขาจากด้านหน้า     ถ้าเขาเรียกร็อคเวิร์มออกมา และสั่งให้มันบินขึ้นไปตอนนี้ก็เท่ากับว่าเขาส่งตัวเองไปเป็นอาหารให้นกสีดำ     ไม่ว่าร็อคเวิร์มจะเร็วแค่ไหนก็ตาม ยังไงมันก็ไม่มีทางเร็วไปกว่านกตัวนี้ ซึ่งเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอย่างแน่นอน     หานเซิ่นตัดสินใจเลิกหนี หลังจากเปลี่ยนร่างเป็นแฟรี่ควีน ดวงตาสีทองของเขาก็เริ่มเปล่งประกาย เขาจับจ้องการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์ทั้ง 2 ตัวอย่างละเอียด     ในตอนที่นกสีดำบินโฉบลงมา หานเซิ่นเคลื่อนไหวหลบกรงเล็บของมัน ขณะเดียวกันแมงมุมก็พ่นใยใส่หานเซิ่น แต่เขาก็หลบมันได้เช่นกัน     หลังจากหลบได้หานเซิ่นไม่ได้วิ่งหนีต่อ เขาเลือกที่จะวิ่งตรงเข้าไปหาแมงมุมยักษ์     ขาทั้ง 8 ของแมงมุมขยับไปมาอย่างรวดเร็ว มันพยายามใช้ขาฉีกหานเซิ่นที่กำลังวิ่งมาเป็นชิ้นๆ     หานเซิ่นยังคงสงบเยือกเย็น หัวใจของเขาเต้นรัว เขาเคลื่อนไหวหลบการโจมตีจากขาทั้ง 8 ของแมงมุมได้ทั้งหมด     นกสีดำบินตรงเข้ามา และใช้กรงเล็บของมันโจมตีหานเซิ่นอีกครั้ง     ด้วยแมงมุมและนกที่กำลังไล่ล่าเขาพร้อมๆกัน เขาไม่มีทางที่จะหนีไปไหนได้     VIPถึงตอนที่ 1340 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/

Super God Gene – ตอนที่ 440 แมงมุมหิมะ
Super God Gene – ตอนที่ 440 แมงมุมหิมะ

  “ที่เธอพูดมาก็ถูก แต่ฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้น ฉันต้องการยึดเมืองสปิริตให้ได้ภายใน 1 เดือน” หานเซิ่นพูด     “1 เดือน?” หยางม่านมองหานเซิ่นราวกับมองไอ้บ้าคนหนึ่ง     “ใช่ 1 เดือน” หานเซิ่นพยักหน้าและพูดย้ำอีกครั้ง     จริงๆแล้ว 1 เดือนถือว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหานเซิ่น ด้วยระดับความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้อยู่ที่ประมาน 80 ซึ่งไม่น่าจะมีมอนสเตอร์กลายพันธ์ตัวไหนสู้เขาได้ แต่กระนั้นในเมืองสปิริตก็อาจจะมีมอนสเตอร์กลายพันธ์อยู่นับ 10 และในกรณีที่มีตัวที่เข้าโหมดเบอร์เซิร์กได้อีก สถานการณ์ก็ยิ่งจะซับซ้อน ที่สำคัญหานเซิ่นยังไม่เคยสู้กับสปิริตมาก่อน ดังนั้นเขาเลยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 เดือนก่อน     ถึงเขาทำไม่สำเร็จ อีกไม่ถึงเดือนซีโร่ก็จะมาที่นี่อยู่แล้ว ในตอนที่ซีโร่มาถึง มันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะยึดเมืองที่มีสปิริตระดับขุนนางเฝ้าอยู่     อย่างไรก็ตาม สำหรับหยางม่านลี่แล้วคำพูดของหานเซิ่นมันดูไร้เดียงสาเกินไป มันไม่ควรจะออกมาจากปากผู้ใหญ่ที่มีเหตุมีผล     หยางม่านลี่ยังคงนิ่งเงียบ เธอเริ่มเสียใจที่เธอเลือกทางนี้ การที่เธอต้องมาติดตามคนไร้เหตุผลแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย     หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาไม่ได้คิดจะเกลี่ยกล่อมหยางม่านลี่ เขาไม่เคยคิดจะพาหยางม่านลี่ไปบุกยึดเมืองพร้อมกับเขาอยู่แล้ว เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นความสามารถที่แท้จริงของเขา     หานเซิ่นมีแผนที่จะให้หยางม่านลี่คอยดูแลเมืองหลังจากที่เขายึดมันได้แล้ว เขารู้จักเธอดีและไว้ใจเธอ ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีคนอื่นที่เขาจะพึ่งพาได้เลย     “เอาเนื้อส่วนที่เหลือกลับไปก่อน” หานเซิ่นกินเนื้อบาร์บีคิวไปบางส่วน แต่ทว่าร่างของอสูรเกราะน้ำแข็งใหญ่เกินไป เนื้อที่เขากินเข้าไปทั้งหมดยังไม่พอที่จะทำให้เขาได้จีโนพ้อยโบราณแม้แต่พ้อยเดียว ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจหยุดกินมัน     หานเซิ่นต้องการล่ามอนสเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่านี้ ซึ่งมันจะทำให้เขากินมันได้ง่าย และได้จีโนพ้อยไวๆ     แม้มอนสเตอร์ตัวอื่นอาจจะอันตรายเหมือนกัน แต่ยังไงเขาก็คิดว่าเขาน่าจะรับมือกับมอนสเตอร์ระดับโบราณได้สบายๆ     “ให้ฉันเอามันกลับไปคนเดียวหรอ?” หยางม่านลี่อึ้ง ตอนแรกเธอคิดว่าหานเซิ่นคงจะขออะไรเป็นขอแลกเปลี่ยนที่เขาให้เนื้อเธอกิน     “ไม่งั้นจะให้ฉันขอให้เธอเข้าไปยึดเมืองพร้อมกับฉันเลยไหม?” หานเซิ่นถามพร้อมกับยิ้ม     หยางม่านลี่กำหมัดของเธอแน่น แต่เธอไม่พูดอะไร ถึงหานเซิ่นจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่เธอก็รู้ว่าหานเซิ่นคิดว่าเธอเป็นแค่ตัวถ่วงเขาเท่านั้น     ที่สำคัญเขาเป็นคนที่เธอเคยดูถูกมาก่อน ซึ่งมันทำให้หยางม่านลี่อับอายจนอยากจะมุดรูหนีไปให้พ้นๆ     “รอฉัน เดี๋ยวฉันจะรีบกลับ” หานเซิ่นไม่รู้ว่าหยางม่านลี่กำลังคิดอะไรอยู่ ในสายตาของเขา หยางม่านลี่เป็นคนที่เขาไว้ใจได้จริงๆในการดูแลเมือง ดังนั้นเขาต้องการให้เธอมาเป็นผู้ช่วย เขาไม่เคยมีความคิดอย่างอื่น     หานเซิ่นลืมเรื่องในอดีตไปนานแล้ว จริงๆหยางม่านลี่ก็ไม่เคยทำอะไรที่เป็นผลร้ายกับเขาเลย ตรงกันข้ามเธอสอนเขายิงธนูด้วยซ้ำ     หานเซิ่นเก็บข้าวของเตรียมออกเดินทาง เขาโบกมือลาหยางม่านลี่ และหายไปท่ามกลางพายุหิมะ ขณะมองดูหานเซิ่นเดินออกไป หยางม่านลี่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอยังไม่ได้ตระหนักจนกระทั่งถึงเมื่อสักครู่ แต่ละครั้งที่เธอเห็นเขา เขาจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในตอนนี้เธอทำได้แค่เฝ้าดูเขา ความห่างชั้นระหว่างเธอกับเขามีมากเกินไป     ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกหานเซิ่นว่าให้เขามาที่ก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ไวๆ เพราะสถานที่นี้คู่ควรกับเขา แต่ทว่าเธอพึ่งจะตระหนักว่าเธอไม่สามารถเทียบกับหานเซิ่นได้ ถึงเธอจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ก่อนเขา แต่ทั้งหมดที่เธอทำได้ก็แค่เป็นผู้ช่วยเขาเหมือนเมื่อก่อน     หานเซิ่นควบสัตว์อสูรตรงไปที่ภูเขาหิมะลูกใหญ่ ซึ่งเป็นที่ที่เมืองสปิริตตั้งอยู่ มันจะเป็นเรื่องที่ดีถ้าเขาสามารถยึดมันมาได้ด้วยตัวคนเดียว ถ้าเขาทำไม่สำเร็จอย่างน้อยเขาก็น่าจะฆ่าพวกมันได้บ้าง     แม้เส้นทางที่ไปยังภูเขาจะเป็นเส้นตรง แต่เขาก็ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะถึง หานเซิ่นควบโกลเด้นโกรวเลอร์มาได้ครึ่งวันแล้ว แต่เขาก็ยังไปไม่ถึงภูเขา ตรงหน้าเขามีหน้าผาขนาดใหญ่ ซึ่งมันห่างจากหน้าผาอีกฝั่งถึง 1000 ฟุต     เมื่อมองลงไปดูข้างล่าง หานเซิ่นมองไม่เห็นก้นของมัน มันดูลึกมากเหมือนกับจะลงไปถึงขุมนรกได้     เมื่อหานเซิ่นเตรียมจะเรียกร็อคเวิร์มออกมาเพื่อให้มันพาข้ามไปอีกฝั่ง อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากข้างล่างหน้าผา     “แกร็ก… แกร็ก..” เสียงเริ่มดังและเร็วขึ้น ราวกับมีใครบางคนกำลังตอกหรือเจาะน้ำแข็งอยู่     หานเซิ่นมองลงไปข้างล่าง ซึ่งเสียงมันก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานหานเซิ่นก็ได้เห็นต้นตอของเสียงที่ว่า     บนกำแพงของหน้าผามีแมงมุมขนาดใหญ่กำลังปีนขึ้นมาตามหน้าผา มันใช้ขาที่เหมือนกับเคียวของมันเดินไต่หน้าผาขึ้นมา เหมือนว่ามันจะสังเกตเห็นหานเซิ่น และคิดว่าเขาเป็นเหยื่อของมัน     “จริงๆแกมีโอกาสรอดชีวิต แต่ดันเข้ามาหาที่ตาย” หานเซิ่นถอยหลังมาเล็กน้อย เขากำลังรอให้แมงมุมเดินขึ้นมาจากหน้าผา     ในตอนที่แมงมุมเดินขึ้นมาจากหน้าผา ลำตัวของมันเหมือนกับก้อนหิมะขนาดใหญ่ ขาทั้ง 8 ของมันคมเหมือนกับใบมีด มันดูน่ากลัวจริงๆ หานเซิ่นมองดูมันอย่างระมัดระวัง เขาคิดว่ามันดูคล้ายๆกับปู ดูแล้วเนื้อของมันน่าจะอร่อยใช่เล่น     เขายังไม่รู้ว่าแมงมุมตัวนี้แข็งแกร่งขนาดไหน หานเซิ่นเรียกร็อคเวิร์มออกมา และสั่งให้มันตรงเข้าไปเล่นงานแมงมุมทันที     ถึงมันจะดูน่ากลัว แต่แมงมุมตัวนั้นก็เป็นแค่มอนสเตอร์ระดับโบราณ หลังจากที่สู้กันได้ไม่นาน ร็อคเวิร์มก็ตัดแมงมุมตัวนั้นเป็นชิ้นๆ     “แมงมุมหิมะโบราณถูกฆ่า ไม่ได้รับวิญญาณอสูร เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0-10 จีโนพ้อยโบราณ”     หานเซิ่นรู้สึกดี ถึงแมงมุมหิมะจะตัวใหญ่กว่าแมงมุมทั่วๆไปมาก แต่ขนาดของมันก็ใหญ่กว่าลูกบาสเก็ตบอลไม่มาก แม้ขาของมันจะยาว หานเซิ่นก็ไม่คิดว่ามันจะมีเนื้อมากนัก ดังนั้นการกินมันให้หมดไม่ใช่เรื่องยาก     เมื่อมองดูซากของมอนสเตอร์ที่ถูกตัดเป็นชิ้นๆโดยร็อคเวิร์ม หานเซิ่นก็เห็นเนื้อสีขาวๆที่ดูงดงามของมัน ช่วยไม่ได้ที่เขาจะน้ำลายหก จากประสบการณ์ของเขา นี่เป็นเนื้อที่ดีที่สุดในด้านของรสชาติ     ขณะที่หานเซิ่นกำลังจะเก็บซากของแมงมุม เขาก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปรกติ เพราะเสียงที่เขาได้ยินก่อนหน้านี้ยังไม่หายไป     หานเซิ่นมองลงไปดู และเห็นว่ามีฝูงแมงมุมกำลังไต่ขึ้นมาบนหน้าผา หานเซิ่นไม่ได้เกรงกลัวแมงมุมพวกนี้เลย ไม่ว่าพวกมันจะมีมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ทว่าในตอนที่หานเซิ่นเกือบจะเริ่มทำอะไรบางอย่าง เขาก็เห็นแมงมุมสีขาวขนาดใหญ่กำลังขึ้นมาบนหน้าผาด้วยขาที่ใหญ่พอๆกับท่อส่งน้ำ     VIPถึงตอนที่ 1340 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/