Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 439 โลกที่โหดร้าย
Super God Gene – ตอนที่ 439 โลกที่โหดร้าย

หานเซิ่นเรียกโกลเด้นโกรวเลอร์ออกมา และเขาก็เอาซากของอสูรเกราะน้ำแข็งขึ้นมาบนหลังของมัน จากนั้นเขาก็ขึ้นไปขี่ และโบกมือให้หยางม่านลี่ขึ้นมา พร้อมกับถาม “แถวนี้มีที่ไหนให้พวกเราหลบพายุได้มั้งไหม? ไปพักที่นั่นกันก่อนดีกว่า”     หยางม่านลี่ลังเล แต่เธอก็กระโดดขั้นไปบนหลังของโกลเด้นโกรวเลอร์ และบอกทางให้หานเซิ่นไปถ้ำใกล้ๆ     หานเซิ่นชำแหละซากของอสูรเกราะน้ำแข็งด้วยมีดเคิร์สวูฟ เขาเอาอุปกรณ์จุดไฟออกมา และก็เริ่มย่างบาร์บีคิว     ‘เขาเป็นแค่ผู้วิวัฒนาการจริงๆหรอเนี่ย?’ หยางม่านลี่กำลังคิดถึงหมัดของหานเซิ่นที่ฆ่ามอนสเตอร์ต่อหน้าต่อตาเธอ ถึงจะเป็นผู้วิวัฒนาการเลือดศักดิ์สิทธิเหมือนกัน เเต่เธอก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้     แม้เธอจะชกมอนสเตอร์ตัวนั้นสัก 100 ครั้ง ก็ไม่มีทางที่เธอจะฆ่าอสูรเกราะน้ำแข็งในโหมดเบอร์เซิร์กได้ ไม่ต้องพูดถึงการฆ่าด้วยหมัดเดียว ถ้าเป็นแค่มอนสเตอร์ระดับสามัญ เธอยังพอจะฆ่าได้ แต่เธอยังไม่เคยทำลายเกราะของมอนสเตอร์ในโหมดเบอร์เซิร์กมาก่อน   เปรียบเทียบกับหมัดของหานเซิ่นที่บดขยี้ทั้งเกราะและกะโหลกของมอนสเตอร์ไปพร้อมๆกัน มันเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเหนือกว่าพวกผู้วิวัฒนาการทั่วๆไปมาก     “เธอเคยได้ยินชื่อของหานจิงจื่อมาบ้างไหม?” หานเซิ่นมองหยางม่านลี่และถาม     เมื่อได้ยินชื่อนั้น ท่าทางของหยางม่านลี่ก็เปลี่ยนไปทันที ถึงเธอจะมาเป็นปรกติอย่างรวดเร็ว แต่หานเซิ่นก็สังเกตเห็นมัน     “หานจิงจื่อคนไหน?” หยางม่านลี่ขมวดคิ้วและถาม     “หัวหน้าของหน่วยพิเศษบลูบลัด ปรมาจารย์ชี่กง” หานเซิ่นตอบ     “นายรู้เรื่องเกี่ยวกับหานจิงจื่อด้วยหรอ?” ท่าทางของหยางม่านลี่เปลี่ยนไปอีกครั้ง เธอประหลาดใจที่หานเซิ่นรู้จักชื่อหานจิงจื่อด้วย     ‘ดูท่าหล่อนน่าจะรู้เรื่องหานจิงจื่อเหมือนกัน’ หานเซิ่นคิดและพูด “ปู่ทวดของฉันก็ชื่อหานจิงจื่อเหมือนกัน”     “อะไรนะ? หัวหน้าหานเป็นปู่ทวดของนายหรอ? นั่นมันเป็นไปไม่ได้!” หยางม่านลี่อุทานออกมา     “ปฏิกิริยาแบบนั้นมันอะไรกัน? ฉันแค่บอกว่าปู่ทวดของฉันก็ชื่อหานจิงจื่อเหมือนกัน ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าเขาคือคนคนเดียวกัน” หานเซิ่นยิ้ม     หยางม่านลี่นิ่งเงียบไปในทันที เธอจ้องหานเซิ่น พร้อมกับกัดริมฝีปาก ถ้าหานเซิ่นเป็นลูกหลานของหานจิงจื่อจริงๆ มันก็ไม่น่าแปลกที่เขาจะแข็งแกร่งขนาดนั้น อย่างไรก็ตามในสายตาของหยางม่านลี่มันเป็นไปไม่ได้ เท่าที่เธอรู้มาหานจิงจื่อไม่มีลูก แต่การที่หานเซิ่นรู้จักชื่อของหานจิงจื่อ และการที่เขาแข็งแกร่งผิดมนุษย์ ทำให้หยางม่านลี่เริ่มรู้สึกสับสน     เดิมทีหยางม่านลี่คิดว่าหานเซิ่นเป็นแค่เด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์สูง และก็โชคดี แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าคิดแบบนั้นอีกแล้ว     “นายมาจากครอบครัวแบบไหน?” หลังจากเงียบไปนานหยางม่านลี่ก็ถามออกมา     “เธอคิดว่าแบบไหนล่ะ?” หานเซิ่นมองหยางม่านลี่แล้วก็ยิ้ม หยางม่านลี่เงียบไปอีกครั้ง     หานเซิ่นส่งบาร์บีคิวให้หยางม่านลี่ แต่หยางม่านลี่ไม่ยื่นมือมารับ เธอกัดริมฝีปากและพูด “ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย ดังนั้นฉันไม่มีสิทธิจะกินมัน”     หานเซิ่นยิ้ม เขาเอามันใส่มือของหยางม่านลี่และพูด “เธอเคยเป็นผู้ช่วยของฉันมาก่อน และฉันก็หวังว่าเธอจะติดตามฉันต่อไป ฉันไม่สามารถรับประกันอะไรให้เธอได้ แต่อย่างน้อยฉันก็มั่นใจว่ามีเนื้อให้กิน”     หยางม่านลี่จ้องมองบาร์บีคิว เธอต้องการส่งมันคืนให้หานเซิ่น แต่มือของเธอไม่ยอมขยับ     เธอเคยดูถูกหานเซิ่นมาก่อน หลังจากที่ซินเสวียนออกไป หล่อนก็มอบตำแหน่งหัวหน้าหน่วยพิเศษให้หานเซิ่นแทนที่จะเป็นเธอ ซึ่งมันทำให้หยางม่านลี่ไม่ค่อยชอบหน้าหานเซิ่นเท่าไหร่     แม้ว่าตอนหลังเธอจะยอมรับในความสามารถของหานเซิ่นและก็ตั้งใจช่วยเขาทำงาน แต่เธอก็แค่ทำมันไปตามหน้าที่ ในตอนนี้เธอไม่ใช่ลูกน้องของเขาอีกแล้ว ผู้หญิงที่หยิ่งและภูมิใจในตัวเองแบบหยางม่านลี่จะไม่ก้มหัวให้ใครง่ายๆ     ถ้าเป็นเมื่อก่อน หยางม่านลี่อาจจะขว้างเนื้อใส่หน้าหานเซิ่นไปแล้วเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด เพราะไม่มีทางที่เธอจะยอมติดตามหรือทำตามคำสั่งของหานเซิ่น ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าที่บังคับ     แต่ทว่าหลังจากที่เธอใช้ชีวิตในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 มานาน หยางม่านลี่ทุกข์ทรมานมามาก เธอเข้าใจดีว่ามันยากลำบากขนาดไหนในการออกล่าในสถานที่นี้     ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอก็มองไม่เห็นความหวังที่จะออกไปไหนได้เลย และในสักวันเธอเองก็คงจะยอมแพ้เหมือนกับคนอื่นๆในถ้ำ     ถึงหยางม่านลี่จะไม่อยากติดตามหานเซิ่น แต่ด้วยความแข็งแกร่งของหานเซิ่น ทำให้เธอเข้าใจว่าเธอกับเขาห่างชั้นกันมากแค่ไหน และมันก็ทำให้เธอรู้สึกมองเห็นความหวังขึ้นมาบ้าง     หยางม่านลี่มองเนื้อในมืออยู่นาน และในที่สุดเธอก็กัดมัน ขณะที่เธอกลืนเนื้อเข้าไปน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา     หานเซิ่นยิ้มให้หยางม่านลี่ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เมื่อเธอกินหมด เขาก็ส่งเนื้อให้เธออีก     หยางม่านลี่ไม่หันมามอง เธอรับเนื้อมาและกินต่อไป หลังจากกินจนพอใจแล้ว เธอกัดฟันและถามหานเซิ่น “บอกมาว่านายต้องให้ฉันทำอะไร?”     “เธอทำอย่างกับฉันจะขมขืนเธออย่างงั้นแหละ ฉันแค่ต้องการให้เธอมาเป็นผู้ช่วย และค่อยช่วยฉันทำอะไรบางอย่างก็เท่านั้น” หานเซิ่นรีบพูดออกมาเมื่อได้ยินหยางม่านลี่พูด     เมื่อมองดูหน้าของหยางม่านลี่ในตอนนี้ เขารู้สึกว่าเธอทำหน้าเหมือนกับนางเอกในหนังที่กำลังจะสละตัวเองเพื่อประเทศชาติ     “ฉันจะทำอะไรได้?” แม้แต่คนที่มีมั่นใจในตัวเองอย่างหยางม่านลี่ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร     “มีอะไรหลายอย่างที่เธอทำได้ ตัวอย่างเช่น เธอสามารถบริหารจัดการเมืองสปิริตหลังจากที่ฉันยึดมันได้แล้ว เก็บค่าคุ้มครอง ขายเนื้อและก็รับคนเข้ามาช่วยงาน รวมถึงฝึกพวกเขา” หานเซิ่นชี้ไปที่เมืองสปิริตบนภูเขา     หยางม่านลี่พูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นายได้ใจมากเกินไปแล้ว อย่าคิดว่าจะยึดเมืองสปิริตได้ เพราะว่านายสามารถฆ่ามอนสเตอร์ในโหมดเบอร์เซิร์กได้ ที่นั่นมีมอนสเตอร์กลายพันธ์อยู่เป็นสิบ และยังมีสปิริตระดับขุนนางอยู่ในเมืองด้วย นายรู้ไหมว่าพวกมันแข็งแกร่งแค่ไหน? มอนสเตอร์กลายพันธ์ทุกตัวมีระดับความแข็งแกร่งอย่างน้อยๆ 50 และบางตัวที่แข็งแกร่งก็อาจจะมีระดับความแข็งแกร่ง 70-80 มอนสเตอร์กลายพันธ์นับสิบบวกกับสปิริตที่มีสติปัญญาสูง ถึงนายจะเก็บจีโนพ้อยสามัญและโบราณเต็ม ก็ไม่มีทางที่นายจะยึดเมืองสปิริตได้”     “มีแค่นั้นใช่ไหม?” หานเซิ่นไม่อยากจะโต้เถียงอะไร เขาเลยพูดออกไปแบบนั้น     อย่างไรก็ตามแค่ดูท่าทางของเขาตอนนี้ หยางม่านลี่ก็ดูออกว่าเขาไม่เข้าใจสถานการณ์หรือไม่เขาก็คงคิดว่าสู้พวกมันได้จริงๆ ซึ่งมันทำให้หยางม่านลี่เริ่มหงุดหงิด เธอพูด “ฉันยอมรับว่านายแข็งแกร่งกว่าฉันมาก แต่ยังไงก็ตามถ้าเปรียบเทียบกับพวกที่อยู่ในเมืองสปิริต ความแข็งแกร่งของนายยังไม่พอ นายคนเดียวทำไม่ได้แน่ สิ่งที่ดีที่สุดที่นายทำได้ตอนนี้ก็คือฆ่ามอนสเตอร์โบราณให้มากที่สุด และขายเนื้อให้กับคนอื่นๆ ด้วยวิธีนี้นายจะได้ทั้งเงิน และทำให้คนอื่นๆแข็งแกร่งขึ้นไปด้วย เมื่อพวกเรามีหลายคนที่มีจีโนพ้อยสามัญและโบราณเต็มแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าพวกเราร่วมมือกันก็อาจจะยึดเมืองสปิริตได้”     VIPถึงตอนที่ 1316 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/

Super God Gene – ตอนที่ 438 เบอร์เซิร์ก
Super God Gene – ตอนที่ 438 เบอร์เซิร์ก

หานเซิ่นถอยหลังออกมาก ขณะที่เหมียวกระโดดเข้าใส่อสูรเกราะน้ำแข็งเรียบร้อยแล้ว     เมื่อมอนสเตอร์ทั้ง 2 สู้กัน เหมียวดูเหนือกว่าแค่นิดๆเท่านั้น มันต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่าที่จะเอาชนะอสูรเกราะน้ำแข็งได้     หานเซิ่นขมวดคิ้ว มอนสเตอร์เกราะน้ำแข็งเป็นแค่ระดับโบราณ แต่มันกลับแข็งแกร่งพอๆกับเหมียว ซึ่งเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 1     มอนสเตอร์ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 แตกต่างจากมอนสเตอร์ในก็อตแซงชั่วรี่เขต 1 มากจริงๆ     กรงเล็บและฟันของเหมียวไม่สามารถเจาะทะลุเกราะที่เป็นน้ำแข็งของมอนสเตอร์ตัวนี้ได้ เหมียวจึงเลือกที่จะโจมตีไปบริเวณที่มีขนสีขาวๆแทน ซึ่งทำให้อสูรเกราะน้ำแข็งมีเลือดไหลออกมา เหมียวเองก็เต็มไปด้วยบาดแผลมากมายแต่ไม่ได้รุนแรงอะไร     เมื่อหานเซิ่นเข้าใจรูปแบบการต่อสู้ รวมถึงความสามารถของมอนสเตอร์อสูรเกราะน้ำแข็งแล้ว แต่ทว่าในขณะที่เขาเตรียมจะเข้าไปสู้ด้วยตัวเอง อสูรเกราะน้ำแข็งก็คำรามออกมาทันที บาดแผลและอาการบาดเจ็บของมันทั้งหมดฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ในขณะส่วนที่เป็นเกราะน้ำแข็งก็แพร่กระจายไปจนปกคลุมไปทั่วทั้งตัว ตอนนี้มันมีลักษณะคล้ายๆกับรูปเเกะสลักน้ำแข็ง     แม้ว่ามันดูคล้ายๆเดิม แต่อสูรเกราะน้ำแข็งตัวนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ อยู่ๆมันก็เปลี่ยนจากมอนสเตอร์ธรรมดาๆกลายเป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวขึ้นมา     “เบอร์เซิร์ก!” หานเซิ่นทั้งประหลาดใจและรู้สึกยินดีในเวลาเดียวกัน มันแตกต่างจากก็อตแซงชัวรี่เขต 1 มอนสเตอร์บางตัวในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 จะสามารถเข้าโหมดเบอร์เซิร์กได้     สถานะนี้มันคล้ายๆกับวิชาไฮเปอร์จีโนที่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างเซลล์ในร่างกายได้ เมื่ออยู่ในโหมดเบอร์เซิร์ก เซลล์ในร่างกายของมอนสเตอร์จะเปลี่ยนแปลงไปทันที ทำให้ระดับความแข็งแกร่งและความสามารถในการต่อสู้ของมันสูงขึ้น     แน่นอนว่าเมื่อใครก็ตามที่ฆ่ามอนสเตอร์ในสถานะเบอร์เซิร์กได้ พวกเขาก็จะมีโอกาสได้รับวิญญาณอสูรที่เป็นโหมดเบอร์เซิร์กเช่นเดียวกัน ซึ่งมันจะแข็งแกร่งกว่าวิญญาณอสูรทั่วๆไป     หานเซิ่นไม่คิดว่ามอนสเตอร์ตัวแรกที่เขาเจอในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 จะเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถเข้าสู้โหมดเบอร์เซิร์กได้่     เห็นได้ชัดว่าโหมดเบอร์เซิร์กของอสูรเกราะน้ำแข็งจะเด่นในด้านพลังป้องกัน หลังจากที่ทั้งตัวของมันปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แม้แต่กรงเล็บของเหมียวก็ทำได้แค่สร้างลอยข่วนเล็กๆเท่านั้น อสูรเกราะน้ำแข็งเปลี่ยนเป็นอสูรที่บ้าคลั่งปราศความกลัว มันไม่สนใจการโจมตีของเหมียว     หานเซิ่นเรียกเหมียวกลับทันที เพราะมันไม่น่าจะสู้กับมอนสเตอร์ในโหมดเบอร์เซิร์กได้ นอกจากนี้แล้วหานเซิ่นก็อยากจะลองสู้กับมอนสเตอร์ในโหมดเบอร์เซิร์กด้วย     หลังจากเหมียวหายไปแล้ว อสูรเกราะน้ำแข็งก็หันมามองหานเซิ่น มันคำราม และก็วิ่งเข้ามาหาหานเซิ่นอย่างรวดเร็ว ในตอนที่มันอยู่ห่างจากหานเซิ่นประมาน 50 ฟุต และมันก็กระโจนใส่เขาทันที     “หานเซิ่นระวัง!” มีเสียงคำตะโกนดังมาจากระยะไกล ผู้หญิงที่สวมชุดกันหนาวแบบจัดเต็มวิ่งเข้ามาหาหานเซิ่น พร้อมกับตะโกน     หานเซิ่นหันไปมองผู้หญิงคนนั้น และเขาก็ต้องอึ้ง คนคนนั้นก็คือหยางม่านลี่ เธอเองก็ถูกส่งมาอยู่ที่นี่เช่นกันหลังจากที่วิวัฒนาการ     “บ้ารึไง นายจะหันมองมาทางนี้ทำไม? รีบหนีเร็ว!” หยางม่านลี่้เห็นหานเซิ่นหันมามองเธอในสถานการณ์ที่วิกฤตขนาดนี้ ทำให้เธอช็อคและวิตกกังวลมาก     ถ้าเสียงตะโกนของเธอไม่ได้ช่วยชีวิตเขา แต่เป็นการทำร้ายเขาละก็ มันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตเธอ     ถึงอสูรเกราะน้ำแข็งจะมาถึงหน้าของหานเซิ่นแล้ว แต่หานเซิ่นก็ยังมองมาทางหยางม่านลี่ ซึ่งมันทำให้เธอกลัวมาก แต่กระนั้นเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วตอนนี้     ตอนนี้หยางม่านลี่รู้สึกเสียใจมากที่เธอวิ่งออกมาทันทีหลังจากที่ได้ยินจากทุกคนว่าหานเซิ่นเองก็ถูกส่งมาที่นี่ด้วย ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ หานเซิ่นก็อาจจะหลบการโจมตีครั้งนี้ได้ทัน     เธอมาที่นี่ก่อนหานเซิ่น ทำให้เธอรู้ว่าอสูรเกราะน้ำแข็งแข็งแกร่งขนาดไหน ที่สำคัญมันยังอยู่ในโหมดเบอร์เซิร์ก ถึงจะเป็นผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิก็ไม่สามารถหลบการโจมตีของมันได้     เมื่อมองดูอสูรเกราะน้ำแข็งโจมตี หยางม่านลี่ก็ต้องการจะหลับตา แต่ทว่าเหตุการณ์หลังจากนั้นทำให้เธอต้องเบิกตากว้าง     หานเซิ่นจ้องมองหยางม่านลี่ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก แต่เขาก็ชกไปที่อสูรเกราะน้ำแข็งที่กระโจนเข้ามาในเวลาเดียวกัน     ตูม!   อสูรเกราะน้ำแข็งถูกซัดจนกระเด็นไป ทำให้พื้นน้ำแข็งตรงจุดที่มันตกแตก จากนั้นมันก็ไหลไปตามพื้นน้ำแข็งอีกประมาน 10 เมตร มันนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น พร้อมกับมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก     หยางม่านลี่อึ้ง เธอมองหานเซิ่นราวกับเธอกำลังจ้องมองปีศาจ เธอยืนนิ่งอยู่นานท่ามกลางพายุหิมะ     การฆ่ามอนสเตอร์ในโหมดเบอร์เซิร์กด้วยหมัดเดียว ทำให้หยางม่านลี่ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเธอเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา เขาเหมือนกับปีศาจ ถึงจะพึ่งวิวัฒนาการแต่กับทำได้ถึงขนาดนี้     “อสูรเกราะน้ำแข็งถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรอสูรเกราะน้ำแข็งเบอร์เซิร์ก เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 จีโนพ้อยโบราณ”     เมื่อได้ยินเสียงในหัว หานเซิ่นก็ยิ้มออกมา เขาได้วิญญาณอสูรดวงแรกจากการฆ่ามอนสเตอร์ตัวแรกในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 นี่ถือเป็นลางที่ดี     “หยางม่านลี่ ไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่ ที่นี่เองก็มีหน่วยพิเศษงั้นหรอ?” หานเซิ่นไม่สนใจซากของมอนสเตอร์ เขาหันมาถามหยางม่านลี่     หยางม่านลี่ได้สติกลับมา เธอมองหานเซิ่นและซากมอนสเตอร์บนพื้น และพูด “ก่อนที่นายจะมาที่นี่ ฉันก็เป็นสมาชิกหน่วยพิเศษคนเดียวที่อยู่ที่นี่ เมื่อฉันได้ยินว่านายก็ถูกส่งมาที่นี่ ฉันก็เลยออกมาดู”     “เธอรู้จักพื้นที่แถวนี้ดีใช่ไหม? เมืองมนุษย์ที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหน?” หานเซิ่นถาม นี่เป็นสิ่งที่หานเซิ่นต้องการรู้มากที่สุดในตอนนี้     “ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเราอยู่ส่วนไหนในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ที่รู้อย่างเดียวก็คือยังไม่เคยมีใครเดินทางออกจากที่นี่ได้” หยางม่านลี่ส่ายหัวและพูด     “ที่นี่ก็ไม่เลว ถ้ามีคนไม่มาก พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาแย่งพวกเราฆ่ามอนสเตอร์” หานเซิ่นยักไหล่ และเดินไปที่ซากของอสูรเกราะน้ำแข็ง     “แต่นายต้อง…” หยางม่านลี่อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อนึกถึงหมัดของหานเซิ่นเมื่อสักครู่ เธอก็ต้องกลื่นคำพูดเข้าไป     VIPถึงตอนที่ 1316 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/