Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 429 เพลงเตะสังหาร
Super God Gene – ตอนที่ 429 เพลงเตะสังหาร

  มันช่างบังเอิญ ตอนนี้ก็ถึงคิวของหนุ่มคนที่เข้าแถวอยู่ข้างๆเช่นเดียวกัน เขาเดินตรงเข้าไปที่เคาน์เตอร์ และพูดเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน “ฉันมาเพื่อขอใบรับรองผู้มีเกียรติระดับกลายพันธ์”   หลังจากนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็หันมาหาหานเซิ่นเพื่อเยาะเย้ย เหมือนกับเขากำลังพูดว่าฉันคือผู้วิวัฒนาการระดับกลายพันธ์แล้วนายล่ะ?   หานเซิ่นไม่อยากจะพูดกับเขา เขาเดินไปที่เคาน์เตอร์ และกระซิบกับเจ้าหน้าที่ พร้อมกับบัตรประจำตัว “คุณช่วยจัดการเรื่องใบรับรองผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิให้ผมได้ไหม?”   ถึงเสียงของหานเซิ่นจะค่อนข้างเบา แต่มันก็พอที่หนุ่มคนนั้นจะได้ยิน ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันที คนอื่นๆหันมามองหานเซิ่นด้วยความประหลาดใจ เจ้าหน้าที่ที่กำลังเหนื่อยล้าจากการทำงานมาหลายชั่วโมงเบิกตากว้าง และมองหานเซิ่นตั้งแต่หัวจรดเท้า   เนื่องจากหานเซิ่นยังดูหนุ่มมากๆ เจ้าหน้าที่เลยถามย้ำให้แน่ใจ “คุณจะขอใบรับรองผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิใช่ไหม?”   แม้แต่ในยุคนี้ผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิก็ยังถือว่าหาได้ยาก บนดาวดวงเล็กๆอย่างดาวรูก้า ปีหนึ่งจะมีผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิไม่เกิน 3-5 คน ซึ่งนั่นก็ถือเป็นจำนวนที่สูงมากแล้ว ถ้าเทียบกับสมัยก่อน   ที่สำคัญหานเซิ่นยังดูหนุ่มมาก แม้เขาจะอายุ 20 แต่หน้าตาของเขาก็ดูเด็กกว่านั้นอีก มันยากที่จะเชื่อว่าเขาคือผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ   “ครับ” หานเซิ่นพยักหน้า   เจ้าหน้าที่รีบรับบัตรประจำตัวของหานเซิ่นมาทันที หลังจากสแกนมัน เจ้าหน้าที่ก็พูดติดๆขัดๆ “อายุ 20 ปี จบจากโรงเรียนทหารเหยี่ยมดำ ยศพันตรี?” ขณะที่เขากำลังพูด ทุกคนรอบๆหันมามองหานเซิ่นเป็นสายตาเดียว   โรงเรียนทหารเหยี่ยวดำคือโรงเรียนระดับท็อปในสายตาของคนทั่วๆไป คนที่จบจากเหยี่ยวดำได้ย่อมไม่ธรรมดา และคนที่จบมาด้วยยศพันตรียิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่ คนพวกนี้จะถูกเรียกว่าพวกพยัคฆ์หรือไม่ก็มังกร พวกเขามีอนาคตที่รุ่งโรจน์ พร้อมที่จะพุ่งทะยาน คนพวกนี้คือคนพิเศษ ซึ่งอยู่คนละระดับกับคนปรกติธรรมดา   สีหน้าของชายหนุ่มที่พูดจาอวดดีก่อนหน้านี้เกือบจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง เขาอยากจะมุดดินหนีไปให้พ้นๆ ตอนนี้ทุกคนมองหานเซิ่นด้วยสายตาที่ชื่นชม และพวกผู้หญิงก็กระพริบตาให้เขา   ผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิด้วยอายุแค่นี้ หัวกระทิของโรงเรียนทหารระดับท็อป และยังเป็นหนุ่มที่หน้าตาผิวพรรณดี ไม่ด้อยกว่าผู้หญิงคนไหน   “ผู้พันเชิญทางนี้ พวกเราต้องทำการทดสอบก่อน” เจ้าหน้าที่เรียกหานเซิ่นด้วยชั้นยศ เพื่อแสดงความเคารพต่อเขา   หานเซิ่นเข้าไปทดสอบอุปกรณ์ ภายใต้สายตาของทุกคนที่จับตามอง อุปกรณ์พวกนี้หานเซิ่นคุ้นเคยกับพวกมันอยู่แล้ว อุปกรณ์พวกนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ระดับความแข็งแกร่งต้องอยู่ในระดับผู้วิวัฒนาการเลือดศักดิ์สิทธิขึ้นไป ถึงจะสามารถผ่านได้   นี่มันไม่ยากสำหรับหานเซิ่น เขาต้องควบคุมร่างกายตัวเอง เพื่อให้ระดับความแข็งแกร่งลงมาอยู่แถวๆ 30 ไม่งั้นมันจะดูผิดปรกติเกินไป   หลังจากหานเซิ่นทดสอบเสร็จ ทุกคนก็มองเขาราวกับเป็นดารา สายตาทุกคนเต็มไปด้วยความชื่อชม ส่วนชายหนุ่มที่คุยโวแอบหนีไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่มีใครรู้   “นี่สิพวกหัวกระทิของสหพันธ์ดวงดาว!” “ผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิแถมยังอายุแค่ 20 หล่อจริงๆ!” “อยากรู้ว่าเขามีแฟนแล้วรึยัง ฉันอยากจะแต่งงานกับเขา” “ส่วนฉันขอแค่ได้นอนกับเขาสักคืนก็พอ” “…”   3 วันต่อมา ในยานอวกาศ หานเซิ่นกำลังนั่งอ่านเกี่ยวกับวิชาภาษาโบราณ เขาต้องไปรายงานตัวที่ยานแดฟเน่ แต่สถานที่ที่เขาถูกสั่งให้ไปรายงานตัวคือกาแล็กซี่ที่ห่างไกลเรียกว่า ตงอิน มันถือเป็นกาแล็กซี่ที่อยู่รอบนอกสหพันธ์ดวงดาว ซึ่งกาแล็กซี่ตงอินหรือกาแล็กซี่อื่นที่อยู่ไกลกว่านั้นจะไม่มีพวกชูร่า จะมีก็แต่กาแล็กซี่ที่ด้อยพัฒนา   หานเซิ่นไม่รู้ว่าแดฟเน่ได้รับภารกิจอะไรมากันแน่ ถึงไปที่ที่ห่างไกลขนาดนั้น แต่กระนั้นเขาก็ได้กลิ่นแปลกๆ   ถ้ายานรบลำนี้ต้องไปทำภารกิจในที่ห่างไกล มันก็จะยากลำบากสำหรับหานเซิ่นที่จะเดินทางกลับบ้าน มีคนจำนวนมากถูกส่งไปทำภารกิจพิเศษ บางคนถึงขนาดไม่ได้กลับบ้านทั้งชีวิตเลยก็มี   แม้หานเซิ่นไม่ได้สนใจว่าจะถูกส่งไปทำภารกิจแบบไหน แต่ที่เขารู้สึกแย่ก็เพราะว่าเขาต้องอยู่ห่างจากแม่และน้องหลายปีกว่าจะได้กลับ   แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว เขาจำเป็นต้องไปรายงานตัว   เพราะกาแล็กซี่ตงอินตั้งอยู่ที่ชายแดนของสหพันธ์ดวงดาว ซึ่งอยู่ไกลมาก มันจึงใช้เวลายาวนานกว่าจะเดินทางไปถึง หานเซิ่นเริ่มสายตาล้าจากการที่เขาอ่านวิชาภาษาโบราณมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นและไปยังห้องที่มีอุปกรณ์จำลองภาพโฮโลแกรม เขากะว่าจะเข้าไปสู้ในกลาดิเอเตอร์เพื่อฆ่าเวลา   มันนานแล้วที่เขาไม่ได้ล็อคอินเข้ามาในกลาดิเอเตอร์ สิ่งแรกที่เขาทำก็คือเช็คดูรายชื่อเพื่อน เขาอยากจะสู้กับควีนอีกสักครั้ง ตอนนี้ระดับความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมากแล้ว ดังนั้นเขาน่าจะสู้กับหล่อนได้นานขึ้น   โชคไม่ดีที่ควีนไม่ออนไลน์ ในรายชื่อเพื่อนที่ออนไลน์มี QHZ เพียงคนเดียว   หานเซิ่นเคยสนใจสู้กับQHZมาก แต่ตอนนี้เขาเริ่มเบื่อแล้ว   ระดับความแข็งแกร่งของQHZอยู่ประมาน 40 ถึงเขาจะพัฒนาขึ้นเช่นกัน แต่มันก็ยากที่จะถึงระดับของหานเซิ่นตอนนี้ การเอาชนะQHZไม่มีความหมายกับหานเซิ่นอีกต่อไป เพราะระดับของพวกเขาห่างกันเกินไป   ต่อหน้าคนที่มีระดับความแข็งแกร่งสู้เกินไป ถึงเรามีเทคนิคการต่อสู้ที่สูงแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์   มันเหมือนกับพวกสไนเปอร์ฝีมือดีไปสูงกับระเบิดปรมาณู ยังไงมันก็เทียบกันไม่ได้   เมื่อหานเซิ่นเตรียมจะใช้การจับคู่ต่อสู้แบบสุ่ม อยู่ๆQHZก็ส่งคำท้าสู้มา   หานเซิ่นลังเลก่อนที่จะกดตกลง เมื่อก่อนQHZยังไม่เคยปฏิเสธคำชวนของเขาเลย แม้ตอนนั้นเขาจะอ่อนแอกว่าQHZ แต่QHZก็ยอมฝึกสู้กับหานเซิ่นเป็นเวลานาน ดังนั้นครั้งนี้เขาก็ควรจะตอบแทนQHZบ้าง   ในตอนนี้เชียนเหอเจิ้นกำลังยืนคุยกับชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เขาคนนั้นชื่อ หลูปิน เขาเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งในวงการศิลปะการต่อสู้   แม้หลูปินจะเป็นแค่ผู้วิวัฒนาการ แต่เขาก็มีพรสวรรค์ด้านทักษะการใช้ขา เขาเป็นผู้ที่คิดค้นวิชาเพลงเตะสังหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาที่ถูกนำไปให้ทหารฝึก   เหตุผลที่วิชาเพลงเตะของเขาเป็นวิชาที่สุดยอดก็คือตัวของหลูปินผ่านศึกการต่อสู้กับชูร่ามามากมาย และยังผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน วิชาของเขาเป็นวิชาที่มาจากประสบการณ์เสี่ยงชีวิต   เนื่องจากหลูปินไม่ได้มาจากตระกูลคนใหญ่คนโต เขาเป็นเพียงแค่ผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยโบราณ จนกระทั่งปลดเกษียณ เขาก็ยังเป็นแค่พันเอก อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในหมู่พวกทหาร ทุกคนชื่นชมเขาไม่ใช่เพียงเพราะเขามีเพลงเตะที่สุดยอดเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงเขาเป็นคนที่กล้าหาญมากอีกด้วย  

Super God Gene – ตอนที่ 428 ผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิ์
Super God Gene – ตอนที่ 428 ผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิ์

  บริเวณสถานที่ออกใบรับรองมีคนเข้าแถวต่อคิวเป็นจำนวนมาก หน้าต่างทุกช่องมีคนต่อแถวยาวเหยียด แต่คนส่วนมากที่มาขอใบรับรองที่นี่จะเป็นผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์และโบราณ แม้แต่ผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยโบราณเองก็จะได้รับการรับรองว่าเป็นผู้มีเกียรติเหมือนกัน แต่สถานะของพวกเขาจะต่ำกว่าผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิ   ยิ่งเวลาผ่านไป คนก็ยิ่งทำผลงานในก็อตแซงชัวรี่ได้ดีมากขึ้น และก็ยิ่งมีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่สามารถฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้ แต่กระนั้นคนที่สามารถวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิมีอยู่จำกัดมาก   เมื่อเห็นว่ามีคนเยอะมาก หานเซิ่นก็เข้าไปต่อแถวที่สั้นที่สุด แถวเคลื่อนตัวไปค่อนข้างช้า และหานเซิ่นก็ไม่มีอะไรทำฆ่าเวลาระหว่างรอเลย   เพราะการขอใบรับรองจะต้องทดสอบร่างกายด้วยเลยค่อนข้างใช้เวลา ซึ่งหานเซิ่นก็ไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องรอต่อไป   “น้องชาย เป็นผู้วิวัฒนาการที่ดูหนุ่มมากเลย น้องชายต้องอายุน้อยกว่า 23 ใช่ไหม?” คนที่อยู่ข้างหน้าหานเซิ่นอายุประมาน 30 ปี เขาดูเป็นคนที่พูดคุยเก่ง เนื่องจากไม่มีอะไรทำ เขาจึงชวนหานเซิ่นคุย   “ก็เกือบๆแล้วครับ” หานเซิ่นยิ้ม แต่จริงๆแล้วหานเซิ่นพึ่งจะอายุ 20 ปีเท่านั้น   “น้องชายคงจะต้องวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยโบราณใช่ไหม?” ชายคนนั้นถามอีกครั้ง   “ใช่ครับ ผมวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยโบราณ” หานเซิ่นพยักหน้า   “คนหนุ่มสมัยนี้ไม่ธรรมดาเลย เก็บจีโนพ้อยโบราณเต็มได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนตอนที่พวกเราพึ่งจะเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ แค่จะล่ามอนสเตอร์โบราณสักตัวก็ยากแล้ว ขนาดยอดฝีมือสมัยก่อนยังได้รับบาดเจ็บเกือบจะทุกครั้งที่ออกล่า…” ชายคนนั้นกำลังนึกถึงเรื่องสมัยก่อน   “ดูท่า พี่ชายคงวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์ใช่ไหม” หานเซิ่นรีบถามก่อนที่เขาจะเล่ายาวกว่านี้   ชายคนนั้นยืดอกและพูดอย่างภูมิใจ “หลังจากที่พยายามอยู่นานหลายปี ในที่สุดฉันก็เก็บจีโนพ้อยกลายพันธ์ได้เต็ม น้องชาย ถ้านายทนอยู่อีกสัก 2-3 ปี นายก็อาจจะทำได้ก็ได้ การเก็บจีโนพ้อยกลายพันธ์เต็มกับโบราณเต็มมันแตกต่างกันมาก ถ้านายได้เป็นผู้มีเกียรติจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมาย..”   เมื่อได้ยินที่ชายคนนั้นพูด คนอื่นๆที่เข้าแถวต่างก็หันมามองด้วยความอิจฉา การเก็บจีโนพ้อยกลายพันธ์เต็มเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน สำหรับคนที่มาจากครอบครัวฐานะยากจนหรือปานกลางการจะเก็บจีโนพ้อยกลายพันธ์ได้เต็มเป็นเรื่องที่ยากมาก ชายอายุ 30 คนนี้ดูจะเป็นคนที่มีอนาคตสดใสทีเดียว ในยุคนี้ที่อายุขัยเพิ่มจากการวิวัฒนาการ อายุ 30 ถ้าว่าไม่มาก   สำหรับครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย วิวัฒนาการตอนอายุ 30 ถือว่าเร็ว มีคนจำนวนมากทนอยู่ก็อตแซงชัวรี่เขต 1 เพื่อเก็บจีโนพ้อยกลายพันธ์จนอายุ 40-50 เลยก็มี เนื่องจากพอวิวัฒนาการแล้วอายุขัยจะเพิ่มเป็น 300 ปี ถ้าเก็บจีโนพ้อยได้เต็มตอนอายุ 40-50 ก็ไม่ได้แย่มาก   แน่นอนว่ามีพวกหนุ่มสาวที่ไม่อยากจะรอ พวกเขามีหลายเหตุผลที่รอไม่ได้ บางคนก็อยากจะวิวัฒนาการในช่วงวัยที่ยังหนุ่มสาวอยู่ เพราะถ้าได้อายุขัยเพิ่ม วัยหนุ่มสาวของพวกเขาก็จะนานขึ้น แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากจะอยู่แบบแก่ๆไปนานๆ ต่างคนก็มีแผนการดำเนินชีวิตของตัวเอง ทำให้พวกเขารอนานไม่ได้เลยต้องรีบวิวัฒนาการ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร   “เรื่องแค่นี้จะมาคุยโม้ทำไม? กว่าจะวิวัฒนาการได้ก็ปาเข้าไป 30 แล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าอายด้วยซ้ำ ถ้าเป็นฉัน ฉันแทบจะไม่อยากโผล่หน้าออกมาเจอผู้คนด้วยซ้ำ” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเข้าแถวอยู่พูดขึ้นมา   ชายอายุ 30 โกรธขึ้นมาก เขาตะโกนออกมาทันที “อายุ 30 แล้วมันผิดตรงไหน? ฉันเป็นผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์ยังไงก็ดีกว่าคนที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยโบราณอย่างนาย”   “ใครบอกว่าฉันวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยโบราณ? นายคิดว่าทุกคนจะวิวัฒนาการได้ช้าหมดงั้นหรอ? นายคงไม่เคยเห็นคนที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์ตอนอายุ 20 ล่ะซิ? ฉันเร็วกว่านายเป็นสิบปี” ชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นและพูด   ชายอายุ 30 นิ่งเงียบไป เขาหน้าแดง และกำหมัดแน่น แต่ยังไงเขาก็ไม่รู้จะเถียงอะไรดี   ผู้วิวัฒนาการคนอื่นๆที่กำลังเข้าแถวอยู่ต่างก็อิจฉาหนุ่มคนนั้น เมื่อได้ยินว่าเขาวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์ตั้งแต่แต่อายุแค่นี้ ผู้หญิงบางคนถึงกับส่งสายตายั่วยวนหนุ่มคนนั้น   วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์ตั้งแต่อายุ 20 ปี เขาย่อมมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ย่อมป็อปในหมู่ผู้หญิง   “เพื่อน นายจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ถ้าไม่มีคนรุ่นก่อนๆที่สู้และเรียนรู้สิ่งต่างๆเพื่อปูแนวทางให้พวกเราไว้ก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะเนื้อและวิญญาณอสูรที่พวกเขาเอากลับมา และพวกเราจะไปซื้อเนื้อหรือวิญญาณอสูรจากไหน? ถ้าเป็นแบบนั้นนายคิดว่านายจะวิวัฒนาการได้เร็วขนาดนี้หรอ? พวกเราทำสำเร็จได้ก็เพราะความเหนื่อยยากของพวกเขา นายไม่ขอบคุณยังไม่พอ แต่นายกับลบหลู่พวกเขา” หานเซิ่นรู้สึกทนไม่ได้จนเขาต้องพูด   ที่เขาพูดเป็นความจริงทุกประการ ต้องขอบคุณคนรุ่นก่อนๆ มนุษย์ในยุคนี้ถึงประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ พวกเขาทนลำบากในช่วงแรกๆกันมาก ทำให้คนในยุคนี้พอเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ก็เหมือนถูกปูแนวทางเอาไว้แล้ว ทำให้พวกเขาง่ายที่จะวิวัฒนาการ   “พูดดีนิน้องชาย” ชายอายุ 30 พูด   พวกคนอายุเยอะๆหลายคนรู้สึกพอใจกับคำพูดของหานเซิ่น เมื่อ 40-50 ปีก่อนก็อตแซงชัวรี่มันเลวร้ายกว่าทุกวันนี้มาก ในสมัยนั้นไม่ต้องพูดถึงมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเลย แค่มอนสเตอร์กลายพันธ์คนก็ไม่มีความสามารถพอจะล่ามันได้แล้ว คนที่จะล่ามอนสเตอร์กลายพันธ์ต้องเสี่ยงชีวิตมาก   แต่ในยุคนี้ต่างกันมาก ขอแค่มีความอดทน มันไม่ยากที่จะวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์ตอนอายุ 30 ถึง 40   “อ่อนแอก็คืออ่อนแอ อย่าทำมาเป็นพูดดี นายมันก็แค่พวกวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยโบราณ” ชายหนุ่มมองหานเซิ่นด้วยสายตาดูถูก   “ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ คนเราก็ควรจะมีมารยาท ไม่งั้นนายจะต่างอะไรกับพวกมอนสเตอร์?” หานเซิ่นพูด   ท่าทีของชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกอาย และพูด “ไอ้พวกสวะอย่างนายก็มักจะมีข้ออ้างเยอะแบบนี้แหละ ถ้านายเก่งจริงก็มาสู้กันด้วยกำปั้นดีกว่า ถ้านายเอาชนะฉันได้ นายอยากจะพูดอะไรก็เชิญ ถ้าทำไม่ได้ก็หุบปาก”   หานเซิ่นยักไหล่และไม่พูดอะไร เขาเคยเห็นคนประเภทนี้มามาก ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะไปเถียงกับคนประเภทนี้ ส่วนเรื่องชกต่อยหานเซิ่นไม่คิดจะลดตัวลงไปมีเรื่องกับคนที่มีระดับความแข็งแกร่งแค่นั้น   เมื่อเห็นหานเซิ่นนิ่งเงียบไป ชายหนุ่มคนนั้นก็รู้สึกว่าหานเซิ่นกลัวเขา เขาพูดจาเยาะเย้ยหานเซิ่น แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจเขา   ชายอายุ 30 ที่ยืนอยู่หน้าหานเซิ่นเริ่มหมดความอดทน เขาต้องการจะสั่งสอนชายหนุ่มคนนั้น แต่หานเซิ่นห้ามเขาเอาไว้ และพูด “พี่ชาย มันใกล้จะถึงรอบของคุณแล้ว ใส่ใจเรื่องของตัวเองดีกว่า อย่าไปสนใจเด็กแบบนั้นเลย”   “พวกสวะมันก็มีข้ออ้างเยอะแบบนี้แหละ” ชายหนุ่มคนนั้นยังพูดต่อ   หานเซิ่นไม่ใส่ใจ คนแบบนี้กล้าแสดงท่าทางแบบนั้นก็แค่ในสหพันธ์ดวงดาวเท่านั้น ถ้าไปบนสังเวียนจริงๆ เขาคงจะถูกน็อคไปแล้ว ถ้าเขากล้าทำแบบนี้ในก็อตแซงชัวรี่ เขาก็อาจจะตายไปแล้ว   ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัด เมื่อถูกสายตาของผู้คนจ้องมอง เขาเลิกพูด และกลับไปเข้าแถวรอคิว   หลังจากรออยู่นาน ชายอายุ 30 ที่อยู่หน้าหานเซิ่นก็ทำเรื่องขอใบรับรองสถานะผู้มีเกียรติสำเร็จ และก็ถึงตาของหานเซิ่น