Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 423 วิวัฒนาการ
Super God Gene – ตอนที่ 423 วิวัฒนาการ

ถ้าหานเซิ่นไม่สามารถเอาคริสตัลสีดำออกไปได้ คริสตัลสีดำก็จะยังอยู่ในห้องของหานเซิ่นต่อไปแบบนั้น   แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่หานเซิ่นวิวัฒนาการ และเทเลพอร์ตไปยังก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ตัวเขาก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับก็อตแซงชัวรี่เขต 1 อีกต่อไป และห้องในสตีลอาเมอร์ก็จะไม่ใช่ของเขาอีก   ไม่มีทางที่หานเซิ่นจะยอมปล่อยให้ของล้ำค่าแบบนี้หลุดมือไป ขณะที่กำลังนั่งมองมอนสเตอร์อาเชอร์โครวที่พึ่งจะกลายเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ หานเซิ่นก็ใช้ความคิดอย่างหนัก   ถ้าเขาจะเอาคริสตัลสีดำออกไปด้วย หานเซิ่นคิดออกแค่ทางเดียว ซึ่งก็คือเขาต้องกลืนมันลงท้องไปเลย   แม้ว่ามันอาจจะไม่สำเร็จ แต่มันก็มีทางนี้แค่ทางเดียวที่น่าจะเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามหานเซิ่นก็ยังไม่แน่ใจว่าคริสตัลสีดำมันจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของเขาหรือไม่ หลังจากที่กลืนมันลงไปแล้ว แม้สำหรับมอนสเตอร์มันจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะมีประโยชน์กับมนุษย์   ยกตัวอย่างพืชในก็อตแซงชัวรี่ การกินพืชอาจจะมีประโยชน์กับมอนสเตอร์บางตัว อย่างเช่นเต่าที่เป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด แต่มันก็เป็นผลเสียร้ายแรงกับมนุษย์ ถ้ามนุษย์พยายามจะกินพืชในก็อตแซงชัวรี่ พวกเขาก็อาจจะตายได้เลย   คริสตัลสีดำสามารถผลิตมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้อย่างง่ายๆ ซึ่งมันน่าจะมีพลังงานที่สูงบรรจุอยู่ภายใน ถ้าร่างกายของหานเซิ่นไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับพลังของมันได้ บางทีเขาอาจจะตายได้   จะทิ้งก็คงเป็นไปไม่ได้ ขณะที่จะกินมันเข้าไปก็เสี่ยงเกินไป แม้แต่หานเซิ่นที่ปรกติจะตัดสินใจเด็ดขาด ยังนั่งลังเลอยู่ในตอนนี้   หานเซิ่นมองที่อาเชอร์โครว ตอนนี้เขาไม่มีความจำเป็นต้องรอให้มันวิวัฒนาการเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดอีกต่อไป มันไม่มีประโยชน์สำหรับเขา และเขาก็ไม่มีเวลาที่จะรอแล้วด้วย   หานเซิ่นฆ่าอาเชอร์โครวเลือดศักดิ์สิทธิ และเอามันมาทำเป็นอาหาร หลังจากกินมอนสเตอร์ตัวนี้เสร็จ ในที่สุดเขาก็เก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ์ได้เต็ม   สามัญ โบราณ กลายพันธ์ เลือดศักดิ์สิทธิ ขั้นสุดยอด จีโนพ้อยทั้ง 5 ชนิดในที่สุดก็เต็ม เขาอาจจะเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่เก็บจีโนพ้อยทุกชนิดเต็มจริงๆ   หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงพลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายได้อย่างชัดเจน เขามั่นใจมากว่าระดับความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้เกิน 30 เมื่อเขาลงไปในบ่อน้ำแห่งการวิวัฒนาการ ระดับความแข็งแกร่งของเขาจะพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด   “เราควรจะกินมันหรือไม่กินดี?” หานเซิ่นถือคริสตัลสีดำอยู่ในมือ เขายังไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด   หลังจากนั่งมองอยู่นาน หานเซิ่นก็ตัดสินใจเก็บมันไว้ก่อน ถึงเขาจะต้องการกินมัน เขาก็ควรจะทำหลังจากที่วิวัฒนาการแล้ว อย่างน้อยๆถ้าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นก็อาจจะทำให้เขาสามารถต้านพลังของมันได้ หรือถ้าเกิดผลข้างเคียงก็อาจจะไม่ถึงตาย   มีรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการวิวัฒนาการเขียนบอกไว้ในเน็ต มันสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และไม่มีความเสี่ยงใดๆ ดังนั้นหานเซิ่นไม่ได้มีความกังวล เขาต้องการวิวัฒนาการให้เสร็จก่อนที่จะไปรายงานตัวที่แดฟเเน่ เพราะหลังจากเขาวิวัฒนาการแล้ว เขาสามารถทำเรื่องเพื่อขอฉายาผู้มีเกียรติเลือดศักดิ์สิทธิจากสหพันธ์ดาวดวงได้เลย ซึ่งมันจะทำให้เขาได้รับสิทธิประโยชน์ที่คนปรกติไม่ได้รับ   ในช่วงหลายวันนี้หานเซิ่นค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับชูร่าในเน็ตมากมาย ตามการศึกษาค้นคว้าของสหพันธ์ ชูร่าไม่ใช่แค่มีชีวิตอยู่ในก็อตแซงชัวรี่ได้ยากเท่านั้น แต่พวกเขายังไม่สามารถรับจีโนพ้อยได้เหมือนมนุษย์ หลังจากกินเนื้อของมอนสเตอร์เข้าไป ร่างกายของพวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นเหมือนกับมนุษย์ และที่สำคัญชูร่าไม่สามารถใช้วิญญาณอสูรได้   ถ้าชูร่าต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง พวกเขาทำได้แค่ฝึกฝนร่างกายและวิชาการต่อสู้ พวกเขาไม่ได้มีทางเลือกพิเศษเหมือนมนุษย์ที่สามารถใช้ก็อตแซงชัวรี่ได้   ถ้าตามข้อมูลที่ว่ามา ซีโร่ดูเหมือนกับพวกชูร่าตรงที่เธอไม่ได้สนใจผลึกพลังชีวิตของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด   แต่กระนั้นถ้าดูจากลักษณะภายนอกของซีโร่ตอนนี้ ยังไงเธอก็เป็นมนุษย์ 100% เมื่อหานเซิ่นมองเธอ เขาไม่รู้สึกว่าเธอจะเป็นชูร่าได้เลย   “ลืมมันไปดีกว่า หลังจากที่เราไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 เราก็ไม่จะต้องเห็นหน้าเธออีก” หานเซิ่นเดินออกจากห้อง เพื่อไปที่ปราสาทแห่งการวิวัฒนาการของสตีลอาเมอร์   ปราสาทแห่งการวิวัฒนาการดูเหมือนกับพวกวัดหรือวิหารโบราณ และตรงใจกลางของปราสาทจะมีบ่อน้ำรูปทรงสีเหลี่ยมผืนผ้า มีรูปปั้นสัตว์ลึกลับตั้งไว้เหมือนคอยคุ้มกันบ่อน้ำจากทุกมุม พวกมันจะคอยพ่นของเหลวใสๆออกมาจากปากของมัน   หานเซิ่นถอดเสื้อผ้าของเขาออกทั้งหมด และเขาก็ลงไปแช่ในของเหลวอุ่นๆที่อยู่ในบ่อแห่งการวิวัฒนาการ   ภายในของเหลว หานเซิ่นรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้กลับไปเป็นตัวอ่อนอยู่ในท้องแม่ มันให้ความรู้สึกประมานนั้น เซลล์ในร่างกายของเขาทั้งหมดกำลังพัฒนา ทำให้เขารู้สึกเหมือนเกิดใหม่   มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย มันไม่ร้อนหรือเย็น และร่างกายก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นด้วย การเติบโตและพัฒนาเป็นไปอย่างธรรมชาติที่สุด ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกเหมือนกับทุกส่วนในร่างกายของเขากลับไปเหมือนสมัยเป็นวัยรุ่น   การเติบโตจากภายในยังคงดำเนินต่อไป หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกทรมานอะไรเลย ตรงกันข้ามเขารู้สึกสบายเป็นอย่างมาก   เขารู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเลือดและเซลล์ที่เพิ่งเกิดใหม่ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าจะสามารถทำลายโลกได้ทั้งใบด้วยหมัดเดียว   หานเซิ่นเข้าใจว่ามันอาจจะหลอนไปเอง เนื่องจากการที่ร่างกายของเขาพัฒนาขึ้นเร็วมาก แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาก็รู้สึกดีมากๆ   รูขุมขนของเขาทั้งหมดเปิดออก ของเสียหรือสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในร่างกายของเขาไหลออกมาทั้งหมด หานเซิ่นรู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาลงในทันที และเขารู้สึกผ่อนคลายมาก   สิ่งที่ทำให้เซลล์ในร่างกายไม่บริสุทธิ์ไหลลงไปก้นบ่อหมดแล้ว หานเซิ่นรู้สึกเหมือนกับว่าเขาคือวิญญาณศักดิ์สิทธิที่เกิดใหม่ โดยที่บาปทั้งหมดถูกชำระแล้ว   มันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์จนหานเซิ่นเกือบจะคางออกมา ‘ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมคนถึงได้อยากวิวัฒนาการกันนัก ความรู้สึกตอนที่แช่อยู่ในบ่อนี่มันสุดจริงๆ มันเกือบจะเหมือนได้เกิดใหม่’ หานเซิ่นคิด   อย่างไรก็ตามเขารู้ว่ามันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เขาต้องแช่จนกว่าจะได้ยินเสียงบอกว่าการวิวัฒนาการของเขาเสร็จสมบูรณ์แล้ว   ที่สำคัญหานเซิ่นยังสนุกกับการแช่น้ำอยู่ เขาอยากจะแช่ไปนานๆ ไม่อยากจะลุกไปไหน มันรู้สึกดีพอๆกับการมีเซ็กกับผู้หญิงที่ตัวเองรัก แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน   มันเหมือนกับคนที่ป่วยมานาน และอยู่ๆก็หายสนิท ความเจ็บปวดและอาการป่วยหายไปในชั่วพริบตา มันเป็นความรู้สึกที่อาจจะทำให้ใครบางคนร้องไห้ออกมาเลยก็ได้   “การวิวัฒนาการเสร็จสิ้น คุณได้รับสถานะผู้วิวัฒนาการ คุณได้รับอายุขัย 100 ปี คุณได้รับร่างกายขั้นสุดยอดคิงสปิริต (king spirit)”   ชื่อ : หานเซิ่น ร่างกายขั้นสุดยอด – คิงสปิริต สถานะ : ผู้วิวัฒนาการ อายุขัย : 300 ปี จีโนพ้อย : – (ต้องการ 100 จีโนพ้อยเพื่อวิวัฒนาการขั้นถัดไป)    

Super God Gene – ตอนที่ 422 ปัญหาใหญ่
Super God Gene – ตอนที่ 422 ปัญหาใหญ่

“วิญญาณอสูรออร่าเลือดศักดิ์สิทธิ.. วิญญาณอสูรเสริมพลังเลือดศักดิ์สิทธิ… วิญญาณอสูรเปลี่ยนร่างเลือดศักดิ์สิทธิ… วิญญาณอสูรอาวุธเลือดศักดิ์สิทธิ… ปีกเลือดศักดิ์สิทธิ..” ด้วยสิ่งที่เขียนอยู่ในเอกสาร มันช่วยไม่ได้ที่จ้งเจิ่นหงจะอ่านมันเสียงดัง เสียงของเขาสั่นทุกครั้งที่เขาอ่านจบ แม้แต่มือที่กำลังถือเอกสารอยู่ก็ยังสั่น   ตัวเขารู้ดีว่าวิญญาณอสูรพวกนี้หมายความว่ายังไง ถึงมนุษย์จะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ได้ตั้งเกือบ 2 ศตวรรษแล้ว แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าการล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเป็นเรื่องง่าย มีมนุษย์มากกว่า 90% ที่ยังไม่เคยล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้เลย และยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่เคยได้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่ยิ่งน้อยลงไปอีก   แต่ทว่ารายชื่อวิญญาณอสูรในเอกสารทุกดวงล้วนแต่เป็นวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่โดดเด่นทั้งสิ้น โดนเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณอสูรออร่าเลือดศักดิ์สิทธิ ซึ่งมันสามารถเพิ่มพลังให้กับทีมได้มากขนาดไหนตัวจ้งเจิ่นหงนั่นรู้ดี   วิญญาณอสูรดวงอื่นๆก็เป็นระดับท็อปเช่นเดียวกัน ถึงจะไม่มีวิญญาณออร่ารวมอยู่ในเอกสารนี้ มันก็เพียงพอที่จะทำให้จ้งเจิ่นหงช็อค   วิญญาณอสูรระดับท็อปจำนวนมากเป็นของคนคนเดียว เขาจินตนาการไม่ออกว่าคนคนนั้นเป็นคนแบบไหน แม้เขาจะเป็นลูกหลานคนใหญ่คนโต มันก็ยังยากมากที่เขาจะรวบรวมวิญญาณอสูรที่สุดยอดขนาดนี้ได้   ถ้าวิญญาณอสูรพวกนี้ถูกนำมาใช้ในหน่วยพิเศษละก็ จ้งเจิ่นหงพอจินตนาการออกเลยว่าหน่วยพิเศษจะน่าเกรงขามขนาดไหน มันคงจะง่ายขึ้นมาก ถ้าพวกเขาต้องการล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิในอนาคต   ในสายตาของจ้งเจิ่นหง วิญญาณอสูรระดับท็อปพวกนี้สามารถใช้สร้างสุดยอดทีมที่น่าเกรงขามได้ 1 ทีม   ถ้าหากจ้งเจิ่นหงได้รู้ว่าที่เขาเห็นเป็นแค่วิญญาณอสูรบางส่วนของหานเซิ่น และยังมีบางส่วนที่เขาขายให้กับหลินเป้ยเฟิงและแลกกับหยางจื่อคุน เขาอาจจะช็อคจนตกเก้าอี้เลยก็ได้   จ้งเจิ่นหงรีบเปิดเอกสารไปหน้าสุดท้าย เขาอยากจะรู้ว่าใครกันที่เป็นเจ้าของวิญญาณอสูรพวกนี้ เขาไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้ในหน่วยพิเศษ   โดยปรกติแล้ว คนที่ทำงานให้หน่วยพิเศษมักจะไม่ใช่ลูกหลานของคนมีชื่อเสียงหรือคนใหญ่คนโต เพราะพวกคนจากตระกูลที่โดดเด่นจะอยากเป็นคนที่ได้รับการคุ้มครองจากหน่วยพิเศษมากกว่า และพวกเขาคงไม่อยากจะไปปกป้องใคร ดังนั้นจ้งเจิ่นหงจินตนาการไม่ออกเลยว่าใครกันที่มีวิญญาณอสูรที่สุดยอดขนาดนี้   “หานเซิ่น!” เมื่อเห็นชื่อนี้มันก็ช่วยไม่ได้ที่จ้งเจิ่นหงจะอึ้ง   “ผู้การ คุณต้องการคุยกับเขาหน่อยไหม? เขากำลังรอฟังคำตอบอยู่” เมื่อเห็นจ้งเจิ่นหงอ่านเสร็จ เจี้ยงเซิงก็ถามทันที   “แน่นอน วิญญาณอสูรพวกนี้จำเป็นต่อหน่วยงานของเรามาก คำขอของเขาคืออะไร?” จ้งเจิ่นหงพูดอย่างจริงจัง   “เขาขอโควตาสำหรับคุ้มครองน้องสาวของเขา ตั้งแต่วันแรกที่หล่อนเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ ยิ่งกว่านั้นเขายังขอให้พวกเราหาวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิอย่างน้อย 4 ดวงที่จำเป็นให้กับหล่อนให้เร็วที่สุดหลังจากที่หล่อนเข้ามาในก็อตเเซงชัวรี่แล้ว..” เจี้ยงเซิงอธิบายรายละเอียดคำขอของหานเซิ่น   หลังจากได้ยินรายละเอียด จ้งเจิ่นหงครุ่นคิดและพูด “ดูจากฐานะทางบ้านของหานเซิ่น ฉันประหลาดใจมากที่เขาสามารถหาวิญญาณอสูรระดับนี้มาได้ ตอบตกลงไปตามที่เขาขอ เตรียมเอกสารสัญญา และเซ็นมันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”   เนื่องจากหานเซิ่นเป็นคนที่คนที่ซินเสวียนสนใจ ทำให้จ้งเจิ่นหงจับตามองเขาไว้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม เดิมทีจ้งเจิ่นหงก็ยังคงสงสัยในความสามารถของหานเซิ่น โดยเฉพาะเขาชอบหายไปนานๆ และไม่ค่อยทำหน้าที่ของหัวหน้า ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกผิดหวัง   แต่ทว่าเมื่อเห็นรายชื่อวิญญาณอสูรของหานเซิ่น จ้งเจิ่นหงก็พบว่าเขาประเมินหานเซิ่นต่ำเกินไป ‘ชายที่คุณซินค้นพบเป็นคนที่โดดเด่นจริงๆ’   ‘เหมือนว่าหานเซิ่นจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์หาตัวจับได้ยากจริงๆ อยากจะรู้นักว่าเขาจะไปได้ไกลถึงระดับไหน เมื่อเข้าไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 หวังว่าพอเข้าไปที่นั่นแล้ว เขาจะกลับเข้ามาทำงานให้หน่วยพิเศษอีก เพราะมันจะเป็นอะไรที่สูญเปล่ามากหากคนมีพรสวรรค์ขนาดนี้ไปทำงานให้กับหน่วยงานอื่น’ จ้งเจิ่นหงจดโน็ตใส่คอมของเขาเอาไว้ ซึ่งมันหมายความว่าเขาให้ความสนใจหานเซิ่นเป็นพิเศษ   หานเซิ่นไม่ได้ขายวิญญาณอสูรส่วนมากออกไป แต่เขาใช้มันเพื่อแลกกับความปลอดภัยของน้องสาว และช่วยให้เธอวิวัฒนาการได้เร็วๆ ในสายตาของหานเซิ่นในโลกนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของครอบครัวอีกแล้ว ดังนั้นมันคุ้มค่าที่เขาจะสละวิญญาณอสูรเกือบทั้งหมดเพื่อแลกมัน   ที่สำคัญวิญญาณอสูรเลือดศักดิสิทธิ 4 ดวงที่เขาร้องขอไปจะเป็นประโยชน์ต่อน้องของเขามาก ในตอนที่หล่อนต้องการจะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ดังนั้นการแลกเปลี่ยนครั้งนี้มันยิ่งกว่าคุ้ม   แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้ประมาท ถึงเขาจะแลกวิญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิเกือบทั้งหมด แต่เขาก็ยังคงเก็บวิญญาณอสูรขั้นสุดยอด และวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่เขาขาดไม่ได้เอาไว้   ในตอนนี้หานเซิ่นมีวิญญาณอสูรขั้นสุดยอดทั้งหมด 7 ดวง : อควารีปเปอร์ เคิร์สวูฟ บลัดสเนล โกลเด้นโกรวเลอร์ ร็อคเวิร์ม โฮลี่เเองเจิลและนกทะเลทราย   วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ดังนั้นหานเซิ่นใช้มันแลกอย่างอื่นไปหมดแล้ว เขาเก็บไว้แค่บีทเทิลไนท์ แฟรี่ควีนและเหมียว   เดิมทีหานเซิ่นต้องการเก็บมังกรปีกม่วงและกิ้งก่าเปลี่ยนสีเอาไว้ด้วย แต่ทว่าหลังจากที่อ่านข้อมูลของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ดีๆแล้ว หานเซิ่นก็พบว่ามีมอนสเตอร์ที่บินได้อยู่เป็นจำนวนมากในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 พวกมันส่วนมากมีความเร็วมากกว่าปีกเลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่ เขต 1 ดังนั้นวิญญาณอสูรมังกรปีกม่วงถือว่าไม่ค่อยมีประโยชน์ ที่สำคัญสัตว์เลี้ยงขั้นสุดยอดทั้ง 2 ตัวของหานเซิ่นก็สามารถบินได้อยู่แล้ว หานเซิ่นจึงไม่ต้องการปีกวิญญาณอสูรอีก   กิ้งก่าเปลี่ยนสีเองก็ไม่มีประโยชน์ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 การซ่อนตัวโดยใช้แค่การเปลี่ยนสีเพื่อพลางตัวไม่เพียงพอสำหรับก็อตแซงชัวรี่เขต 2 เพราะมอนสเตอร์ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 มีประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นและสายตาที่ดีมาก พวกมันบางตัวถึงขั้นสามารถจับอุณหภูมิในร่างกายของมนุษย์ได้ ทำให้สุดท้ายหานเซิ่นเลยต้องเลิกคิดที่จะเอามันไปใช้   ส่วนการเก็บเหมียวเอาไว้เป็นเหตุผลความชอบส่วนตัว ตอนนี้เขาเห็นเหมียวเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาจริงๆ เขาผูกพันกับมันมาก ดอพเพลแกงเกอร์เองก็ยังมีประโยชน์อยู่มากในหลายๆสถานการณ์ ดังนั้นเขาจึงเก็บมันไว้   ส่วนแฟรี่ควีน มันไม่ง่ายเลยที่จะหาวิญญาณอสูรเปลี่ยนร่างที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ แม้แต่ในก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 ที่สำคัญมันเป็นรางวัลที่เขาได้มาจากการประลองชิงตำแหน่งผู้ถูกเลือก   ในตอนนี้หานเซิ่นกำลังเผชิญกับปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ถ้ายังไม่มีวิธีแก้ปัญหาดีๆ เขาก็ยังไม่สามารถทำใจวิวัฒนาการได้   ปัญหานั้นไม่ใช่ซีโร่ ถึงซีโร่จะเป็นปัญหา แต่หานเซิ่นเชื่อว่าหลังจากเขาเทเลพอร์ตไปยังก็อตเเซงชัวรี่้เขต 2 แล้วเขาจะสลัดการติดตามของเธอได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้กังวลเรื่องซีโร่แล้ว   สิ่งที่หานเซิ่นกำลังกังวลอยู่ก็คือคริสตัลสีดำ มันสามารถทำให้มอนสเตอร์วิวัฒนาการได้ ถ้าเขาสามารถเอามันไปยังก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ มันก็เหมือนสมบัติล้ำค่า มันจะช่วยเขาในการวิวัฒนาการได้มาก   ถ้าเขาสามารถเก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ แม้จะแค่ 2-3 ตัว เขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นแบบรวดเร็วมาก ถ้าเขาสามารถได้วิญญาณอสูรจากมันด้วยก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก   แต่ปัญหาก็คือหานเซิ่นยังไม่มีวิธีที่จะเอามันไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2   มันเป็นส่วนหนึ่งในกฎของก็อตแซงชัวรี่ ยกเว้นวิญญาณอสูรจะไม่มีอะไรที่สามารถนำออกจากก็อตแซงชัวรี่ได้เลย หานเซิ่นลองพยายามมาหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ