หลังจากกลับมาถึงห้องพัก หานเซิ่นก็รีบโทรหาหวงฟูผิงชิงทันที ภาพของเธอปรากฏเป็นภาพโฮโลแกรมขึ้นมา   หวงฟูผิงชิงในชุดเดสสายเดี่ยวสีดำยาวพูดพร้อมกับยิ้ม “น้องหานโทรมาหาฉัน เพราะต้องการความช่วยเหลือใช่ไหม?”   “เอ่อ พี่สาวเป็นคนฉลาดและน่านับถือมาก เห็นได้ชัดว่าคุณเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้สืบทอดสถาบันเอเรส…” หานเซิ่นพยายามฝืนยิ้ม เขายังไม่เคยเป็นฝ่ายโทรไปหาหวงฟูฟิงชิงก่อนเลย เขารู้สึกแย่เพราะครั้งนี้เขาโทรมาขอให้เธอช่วย   “แค่บอกมาว่านายต้องการอะไร นายยอคนไม่เก่งเอาซะเลย..” หวงฟูผิงชิงยิ้ม ใบหน้าของเธอเหมือนกับดอกไม้ที่เบ่งบาน   “พี่สาว งั้นผมขอพูดตรงๆเลย คุณพอจะบอกเกี่ยวกับพื้นที่ VIP ของสถาบันเอเรสให้ผมรู้ได้ไหม?” หานเซิ่นถาม   หลังจากที่หวังดีบอกหานเซิ่นเกี่ยวกับวิญญาณอสูรเสริมพลัง หานเซิ่นก็สนใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังไม่ได้ตอบตกลงไปทันที   โลกแห่งความจริงมันต่างจากก็อตแซงชัวรี่ คู่ต่อสู้ที่เก่งที่สุดที่หานเซิ่นจะเจอได้ในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ก็คือผู้ที่พึ่งจะวิวัฒนาการ แต่ทว่าในโลกแห่งความจริงนั้นมีคนมากมายที่มีความสามารถมากพอจะฆ่าหานเซิ่นได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงโทรมาหาหวงฟูผิงชิง   “อย่าบอกนะว่านายเข้าไปในพื้นที่ VIP แล้ว?” หวงฟูผิงชิงโกรธขึ้นมาทันที “ฉันเตือนไปแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่าเข้าไป ฉันอุสาย้ำแล้วย้ำอีก?”   “ไม่ใช่ผม แต่เป็นเพื่อนของผม” หานเซิ่นเล่าเรื่องเกี่ยวกับหวังดีให้หวงฟูผิงชิงฟัง ถ้าเป็นไปได้หานเซิ่นก็อยากจะหาทางช่วยเขา   เมื่อหวงฟูผิงชิงได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากหานเซิ่น เธอก็ขมวดคิ้ว เธอครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูด “ถ้าเป็นจริงตามที่นายเล่ามา คนคนนั้นถือว่าตายเรียบร้อยแล้ว อย่าเข้าไปยุ่งด้วยจะดีกว่า”   “ทำไมเป็นงั้นล่ะ? ถ้าเขาเอาชนะในการต่อสู้เดธแมทได้ เขาก็จะใช้หนี้ได้ไม่ใช่หรอ?” หานเซิ่นถามต่อ   “นายคิดว่าไอ้พวกวิกลจริตในพื้นที่ VIP มันจะยอมให้เขารอดไปได้ง่ายๆงั้นหรอ?” หวงฟูผิงชิงพูดต่อ “สิ่งที่ฉันจะบอกนายก็คือตอนนี้เขาคนนั้นก็เหมือนกับลูกไก่ที่รอถูกเชือด โอกาสที่เขาจะรอดชีวิตมีน้อยกว่า 1%”   “ถ้าผมยอมจ่ายหนี้แทน พอเป็นไปได้ไหมที่จะช่วยเขาออกมา?” หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับมัน และถามออกไป เขาก็ไม่อยากเห็นหวังดีต้องตาย   “นายคิดว่างูจะยอมปล่อยเหยื่อของมันไหม?” หวงฟูผิงชิงพูดอย่างเคร่งขรึม “นี่ไม่ใช่เรื่องของนาย อย่าเข้าไปยุ่ง และฉันก็ช่วยอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ด้วย”   “แล้วถ้าผมสู้แทนเขาล่ะ?” หานเซิ่นถาม เขาไม่อยากปล่อยให้วิญญาณอสูรเสริมพลังหลุดมือไป วิญญาณอสูรเสริมพลังเลือดศักดิ์สิทธินั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาซื้อได้ตามท้องตลอด และมันจะช่วยเขาได้มากในการล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด   “นายสนิทกับเขามากงั้นหรอ?” หวงฟูผิงชิงจ้องหานเซิ่น   “จริงๆก็ไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ” หานเซิ่นบอกหวงฟูผิงชิงเรื่องที่หวังดีจ้างให้เขาสู้แทนโดยใช้วิญญาณอสูรเป็นรางวัล   “นายยังไม่ได้ตอบตกลงไปใช่ไหม?” หวงฟูผิงชิงขมวดคิ้ว   “ยังไม่ได้ตกลง แต่ผมต้องการวิญญาณอสูรเสริมพลังจริงๆ ไม่มีวิธีช่วยเขาได้เลยหรอ?” หานเซิ่นถาม   หวงฟูผิงชิงมองค้อนหานเซิ่นและพูด “ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะเลิกความคิดโง่ๆนั่น ถ้านายไปสู้แทนเขาละก็เป็นไปไม่ได้เลยที่นายจะรอดชีวิต คนที่หวังดีจะต้องสู้ด้วยคือผู้วิวัฒนาการแล้ว ถ้านายไปสู้แทนเขา นายคิดว่าจะมีโอกาสรอดชีวิตไหม?”   “นั่นมันเหมือนเอาคนไปฆ่าชัดๆ” หานเซิ่นขมวดคิ้ว   “ใช่ แล้วนายคิดว่าจะทำอะไรได้? คนพวกนั้นล้วนแต่แข็งแกร่งมาก พวกเราไม่ควรจะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยว ล้มเลิกความคิดนี้ไปซะ” หวงฟูผิงชิงพูด   “แล้วถ้าผมไปสู้แทน ผมต้องสู้กับผู้วิวัฒนาการแบบไหน?” หานเซิ่นครุ่นคิดและถาม   “สตินายยังดีอยู่รึเปล่า? นายคิดว่าจะเอาชนะผู้วิวัฒนาการแล้วได้หรอ? ไม่ว่าจะเจอกับผู้วิวัฒนาการคนไหน มันก็เกินกำลังของคนที่ยังไม่วิวัฒนาการทั้งนั้น โดยเฉพาะการต่อสู้แบบเดธแมท คู่ต่อสู้จะไม่มีทางออมมือ เพราะมันเป็นการต่อสู้แบบเอาชีวิตเข้าแลก” หวงฟูผิงชิงพูด   “ถ้าคู่ต่อสู้เป็นคนพึ่งวิวัฒนาการ ผมคิดว่าน่าจะพอเอาชนะได้” หานเซิ่นพูดอย่างสงบ   หวงฟูผิงชิงจ้องหน้าหานเซิ่นอยู่นาน ก่อนที่เธอจะพูด “ฉันจะส่งวิดีโอให้นายดู ถ้านายคิดว่าสามารถฆ่าคนคนนี้ได้ นายก็ไปสู้ได้”   หานเซิ่นคลิกเล่นวิดีโอ และเห็นชาย 2 คนกำลังสู้กันในสนามประลอง คนหนึ่งดูแข็งแกร่งเหมือนกับตึก เขาสูงถึง 8 ฟุต ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ   วิญญาณอสูรที่คู่ต่อสู้ของเขากำลังใช้ ทำได้แค่ทิ้งรอยไว้บนผิวหนังของเขาเท่านั้น ผู้ชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามยกคู่ต่อสู้ขึ้น และฉีกร่างของเขาเหมือนกับฉีกไก่ไม่มีผิด มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นฉากที่น่าสยดสยอง   ผู้ชมในสนามประลองส่งเสียงเชียร์อย่างตื่นเต้น พวกเขาตะโกนและทุบกำแพง แล้ววิดีโอก็เล่นการต่อสู้อีกแมทให้ดู ตัวเก็งยังคงเป็นชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ครั้งนี้คู่ต่อสู้ของเขาถูกตัดหัวทันทีที่เริ่มสู้   ทุกวิดีโอเป็นการต่อสู้คล้ายๆกัน คู่ต่อสู้ทุกคนของชายคนนี้ต่างก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆด้วยมือเปล่า คนที่แข็งแกร่งที่สุดยังต้านไว้ได้แค่ 30 นาที ก่อนจะถูกฆ่า   “คนคนนี้เป็นใคร?” หานเซิ่นปิดวิดีโอ และถามหวงฟูผิงชิง   “เขาเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือนายกำลังเอาชีวิตตัวเองไปทิ้ง มีโอกาสสูงที่เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของนาย” หวงฟูผิงชิงพูด   จริงแล้วหวงฟูผิงชิงพูดเกินจริงไปเล็กน้อย เนื่องจากพวกวิกลจริตส่วนมากที่เข้าไปดูการต่อสู้เดธแมทจะชอบการฆ่าแบบค่อยๆฆ่ามากกว่าการฆ่าแบบรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่านักสู้เป็นผู้ยังไม่วิวัฒนาการ พวกเขาก็อยากจะเห็นผู้ยังไม่วิวัฒนาการได้ดิ้นร่นก่อนจะตาย แต่ทว่าวิดีโอที่หวงฟูผิงชิงส่งให้หานเซิ่นนั้นคือวิดีโอของผู้วิวัฒนาการระดับสูง และเป็นคนที่มีชื่อเสียงในด้านความโหดร้ายป่าเถื่อน   ชายคนนี้ไม่ได้ถูกเลือกมาสู้กับผู้วิวัฒนาการบ่อยๆ แต่หวงฟูผิงชิงจงใจส่งวิดีโอของเขาไปให้หานเซิ่นดู เพื่อทำให้เขาล้มเลิกความคิดที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยง   “คุณแน่ใจใช่ไหม ถ้าผมเข้าไปสู้แล้วจะเจอกับคนคนนี้?” หานเซิ่นถามอย่างจริงจัง   “แน่นอน” หวงฟูผิงชิงพูดอย่างเคร่งขรึม เธอไม่ต้องการให้หานเซิ่นคิดว่าเขามีโอกาส   “งั้นก็ตกลง ผมตัดสินใจแน่แล้วว่าจะไปสู้แทนหวังดี” หานเซิ่นพูดอย่างสงบ ทำให้หวงฟูผิงชิงถึงกับพูดไม่ออก  

นักเรียนคนนี้ชื่อว่า หวังดี เขาเองก็เป็นนักเรียนปี 4 เหมือนกัน เขาเป็นคนที่มีฝีมือติด 1 ใน 3 ของหน่วยศิลปะป้องกันตัว และค่อนข้างมีชื่อเสียงในโรงเรียนเหยี่ยวดำ   บวกกับหน้าตาที่ดีของเขา ทำให้หนุ่มคนนี้ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่มีอนาคตสดใส แต่แล้วตั้งแต่ที่หวังดีเข้าไปในกลาดิเอเตอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป   เหตุผลของเขาก็เหมือนๆกับหานเซิ่น หวังดีเข้าไปในกลาดิเอเตอร์ เพื่อฝึกฝนทักษะของตัวเอง แต่ทว่าเขาได้บังเอิญไปพบว่าในกลาดิเอเตอร์มีส่วนที่เป็นพื้นที่ของ VIP อยู่   เพื่อที่จะได้เข้าพื้นที่ VIP นั้นหวังดีต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นเงินจำนวนมาก แต่เนื่องจากเขามาจากครอบครัวที่มีฐานะดี และเขาก็ได้เงินมาจากก็อตแซงชัวรี่มากพอสมควร หวังดีจึงจ่ายค่าสมาชิกเพื่อเข้ามาในพื้นที่ VIP   ในพื้นที่ VIP นั้นก็เหมือนเกมธรรมดาๆที่มีชนะและแพ้ แต่ก็มีเงินจำนวนมากเข้ามาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ คนที่แพ้จะต้องจ่ายเงินให้กับผู้ชนะ ในพื้นที่ VIP นั้นคู่ต่อสู้จะถูกจัดให้แบบสุ่ม แต่กระนั้นผู้ที่ยังไม่วิวัฒนาการ และผู้วิวัฒนาการแล้วจะถูกแบ่งกลุ่มกันอย่างชัดเจน   ในช่วงแรกๆ หวังดียังรู้สึกว่าการเดิมพันในการแข่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เขาเจอทั้งคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งและอ่อนกว่าคละกันไป แต่หลังจากนั้นมันก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่เขาต้องสูญเสียเงินจนหมดตัวเท่านั้น เขายังติดหนี้เป็นจำนวนมหาศาล   “แล้วจะให้ฉันช่วยยังไง? ฉันไม่มีเงินให้นายยืมหรอก” หานเซิ่นไม่อยากช่วยผีพนัน แม้แต่เพื่อนถ้าไปยุ่งกับการพนัน หานเซิ่นก็ยังไม่ให้ยืมเงินเลย นับประสาอะไรกับคนที่เขาไม่รู้จักอย่างหวังดี   “ไม่พี่ ผมไม่ต้องการเงิน ผมแค่อยากให้คุณช่วยชีวิตผม..” หวงดีส่ายหัว   เนื่องจากหวังดีเริ่มเสพติดมัน ไม่เพียงแค่เขาไปยืมเงินคนอื่นมาจำนวนมากเท่านั้น เขายังไปเซ็นสัญญาในการต่อสู้แบบเดธแมท เนื่องจากหวังดีติดหนี้จำนวนมากจนเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหาเงินมาใช้ได้หมด เขาจึงถูกบังคับให้ลงสู้แบบแลกชีวิต   มันไม่ใช้การต่อสู้หรือประลองฝีมือใดๆทั้งสิ้น มันคือการเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้ผู้ชมในพื้นที่ VIP ได้ดู   การต่อสู้แบบเดธแมทสามารถเอาอะไรมาใช้ก็ได้ เป้าหมายมีเพียงอย่างเดียวคือการฆ่าคู่ต่อสู้ และเอาชีวิตรอดให้ได้ ทั้งเลือดและความตายกลายเป็นสนุกสนานของผู้ชมบางกลุ่ม   ในอีก 2 วัน สตาฟของกลาดิเอเตอร์จะนำตัวหวังดีไปต่อสู้แบบเดธแมท ถึงหวังดีจะเป็นแค่นักเรียน แต่เนื่องจากเขาเซ็นสัญญาไปแล้ว กลาดิเอเตอร์มีสิทธิที่จะพาตัวเข้าไป   “แล้วฉันจะช่วยนายได้ยังไง?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว จริงๆแล้วหานเซิ่นคิดว่าหวังดีไม่ควรให้เขาสงสารด้วยซ้ำ   ด้วยการมีครอบครัวฐานะดีเป็นแบล็คอัพ และยังมีฝีมือการต่อสู้ที่ดี แต่หวังดีกับไม่ใช้ประโยชน์จากมัน เท่านั้นยังไม่พอเขายังไปติดการพนันอีก   แม้หานเซิ่นจะเป็นคนที่เล่นเกมเก่ง แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการการพนัน   ถ้าเขาไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากต้องเข้าไปเล่นการพนัน หานเซิ่นยังพอเข้าใจได้ แต่อย่างไรก็ตามหวังดีมีทางเลือกเยอะมาก แต่กระนั้นเขาก็ยังเลือกการพนัน ซึ่งมันคือความผิดของเขาเอง   แต่ยังไงหวังดีก็เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียน หานเซิ่นจะไม่เหลียวแลเลยก็ไม่ได้ เขาก็อยากจะช่วยเท่าพอที่ช่วยได้   “ผมต้องการให้คุณไปต่อสู้ในเดธแมทแทนผม…” ก่อนที่หวังดีจะพูดจบ หานเซิ่นก็หันหลังหนีทันที คำขอของหวังดียากที่ใครจะยอมรับได้   หานเซิ่นไม่ได้ไม่อยากช่วยเพื่อนร่วมโรงเรียน แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่ไร้เทียมทาน ถึงในหมู่คนที่ยังไม่วิวัฒนาการจะไม่มีใครสู้เขาได้ แต่มันก็ยังมีคนอยู่อีกมากในกาแล็กซี่ที่สามารถฆ่าเขาได้ ถ้าเขาไปเข้าร่วมการต่อสู้แบบเสี่ยงชีวิต มันก็เหมือนกับเขายื่นชีวิตของตัวเองไปให้กับผู้อื่น   สำหรับคนแปลกหน้าอย่างหวังดี ไม่มีทางที่หานเซิ่นจะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง   “พี่…รอก่อน.. ผมสามารถจ่ายค่าตอบแทนให้คุณได้” หวังดีรีบดึงแขนเสื้อหานเซิ่น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว   “ฉันรู้ว่านายไม่มีเงินเหลือแล้ว และถึงนายจะมี เงินมันก็ซื้อชีวิตคนไม่ได้” หานเซิ่นพูดอย่างสงบ   หานเซิ่นพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับพื้นที่ VIP นี้บ้าง ในตอนที่หวงฟูผิงชิงแนะนำกลาดิเอเตอร์ให้เขา หล่อนบอกเขาเกี่ยวกับพื้นที่ VIP ด้วย   ในทางเทคนิคแล้วกลาดิเอเตอร์เป็นของสถานบันเอเรส แต่ก็มีบอร์ดบริหารหลายคนที่ลงมามีผลประโยชน์ในพื้นที่ VIP นี้ด้วย หวงฟูผิงชิงย้ำนักย้ำหนากับหานเซิ่นว่าอย่าเข้าไปยุ่งกับพื้นที่ VIP เพราะมันจะไม่เป็นผลดีกับเขา เธอบอกว่าที่นั่นเป็นที่สำหรับพวกคนวิกลจริตที่ชอบเห็นคนถูกฆ่า   หานเซิ่นเป็นผู้ฟังที่ดี และทำตามคำแนะนำของเธอ ถ้าไม่มีสิ่งล่อใจมากพอ หานเซิ่นจะไม่มีทางเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพื้นที่ VIP   หวังดีขุมหลุมฝังตัวเอง มันไม่มีความจำเป็นอะไรที่หานเซิ่นจะต้องไปช่วยคนแบบนี้   “ไม่…พี่ชาย ถึงผมจะไม่มีเงิน แต่ผมสามารถให้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิกับคุณได้..” หวังดีพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น เขาปล่อยแขนของหานเซิ่นอย่างไม่เต็มใจ   “วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิแลกชีวิตคนไม่ได้” หานเซิ่นส่ายหัว และคิด ‘ทำยังไงถึงหมอนี่เข้าใจว่าเขาจะไม่ได้อะไรจากการพนันนะ?’   “มันไม่ใช่แค่วิญญาณอสูรธรรมดา… พี่ชาย… ผมมีวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิเสริมพลังที่หายากมาก คุณแข็งแกร่งมาก คุณต้องรอดชีวิตจากการต้องสู้เดธแมทได้แน่นอน.. ผมยังมีอาวุธวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิด้วย ผมสามารถให้คุณได้… โปรดช่วยผมด้วย” หวังดีขอร้องหานเซิ่น ราวกับว่าหานเซิ่นเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเขาแล้ว   เดิมทีหวังดีหมดหวังเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเขาพบหานเซิ่น เขาก็รู้สึกว่ามีหวังอยู่บ้าง หวังดีู้รู้สึกเหมือนพระเจ้ามอบโอกาสให้เขา ดังนั้นเขาต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้   หานเซิ่นต้องการปฏิเสธ แต่เขาลังเลเมื่อได้ยิน ‘วิญญาณอสูรเสริมพลังเลือดศักดิ์สิทธิ’ วิญญาณอสูรเสริมพลังแต่ละดวงที่หานเซิ่นเคยเห็นล้วนแต่เป็นวิญญาณอสูรที่แข็งแกร่งมาก อย่างเช่น ภูติวารีของซินเสวียน และไทม์เคิร์สของเยี่ยหยู่เฟิง   “นายอยู่เมืองไหน? และวิญญาณอสูรเสริมพลังของนายมันทำอะไรได้บ้าง?” หานเซิ่นถามอย่างลังเล   “ผมรู้ว่าคุณอยู่ที่สตีลอาเมอร์ ผมอยู่ไม่ไกลจากที่นั่นเท่าไหร่….” หวังดีรู้สึกดีขึ้นมา เขารีบบอกเมืองที่เขาอยู่กับหานเซิ่น และอธิบายความสามารถของวิญญาณอสูรเสริมพลังให้หานเซิ่นฟัง