Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 365 จุดอ่อน
Super God Gene – ตอนที่ 365 จุดอ่อน

พวกเขา 4 คนเข้าไปในรังทีละคนตามแผนที่วางไว้ คราวนี้เฉินหนานชิงเป็นแรกคนที่เข้าไป   เฉินหนานชิงเดินนำหน้า พร้อมกับยกโล่เลือดศักดิ์สิทธิขึ้นมาป้องกันส่วนหัวของเขา หน้าที่ของเขาก็คือป้องกันการโจมตีครั้งแรกของหมาป่า เพื่อซื้อเวลาให้เยี่ยหยู่เฟิงใช้ไทม์เคิร์ส   สำหรับหานเซิ่น ถึงเขาจะถือหอกบีทเทิลไนท์อยู่ แต่เขาก็ไม่คิดจะใช้มัน เพราะยังไงเกียร์จะไม่ได้รับผลจากเฟลมเลฟเทรแนนท์ ซึ่งหานเซิ่นกำลังซ่อนดาบวิญญาณอสูรและวิญญาณอสูรเดวิลซอร์ดอยู่ เขาตั้งใจที่จะใช้มันโจมตีไปที่จุดอ่อนของหมาป่าถ้ามีโอกาส   เฉินหนานชิงถือโล่กลมๆสีดำเดินเข้าไปในรังอย่างช้าๆ เขารู้สึกเครียดมาก โล่อันนี้แม้จะเป็นโล่ที่ใหญ่ แต่มันก็มีขนาดที่เล็กกว่าโล่อันก่อนหน้านี้ของเขา เมื่อนึกถึงความเร็วและความแข็งแกร่งของหมาป่าแล้ว เขาก็รู้สึกไม่มั่นใจว่าจะใช้มันป้องกันได้   พร้อมๆเสียงหอนมีเงาสีดำพุ่งออกจากห้อง โดยไม่เปิดโอกาสให้เฉินหนานชิงหลบ เฉินหนานชิงรีบยกโล่ขึ้นมาป้องกันตัวทันที   ปัง! เขารู้สึกถึงแรงมหาศาลที่กระแทกมาที่โล่ของเขา เฉินหนานชิงกระเด็นไปข้างหลังหลายฟุตแม้เขาจะใช้ไหล่ดันโล่เอาไว้ เฉินหนานชิงรีบลุกขึ้นมา เขาเห็นรอยยาวๆ 3 รอยบนโล่ของเขา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเกิดจากกรงเล็บของหมาป่า   ด้วยการเสริมพลังจากเฟลมเลฟเทนแนนท์ โล่จึงมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ถ้าไม่ได้รับการเสริมพลังมันอาจจะถูกทำลายไปแล้วก็ได้   เฉินหนานชิงรีบหันไปมองหมาป่า และเห็นว่าเยี่ยหยู่เฟิงใช้ไทม์เคิร์สใส่มันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นหมาป่าเคลื่อนไหวช้าลง เฉินหนานชิงก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก   แต่กระนั้นหมาป่าก็ยังมีความเร็วที่สูงอยู่ มันกระโจนใส่เฉินหนานชิงอีกครั้ง ถึงมันจะช้าลง แต่ความเร็วของมันก็ยังถือว่าน่ากลัวมาก   หลังจากโดนกระโจนใส่อีกรอบ เฉินหนานชิงก็กลิ้งไปตามพื้น เขารีบตะโกน “ถ้าพวกนายไม่รีบ ฉันจะถูกฆ่า”   เฉินจื่อเฉินดึงเฉินหนานชิงออกมาห่างจากหมาป่า ขณะเดียวกันหานเซิ่นและเยี่ยหยู่เฟิงก็กระหน่ำโจมตีใส่หมาป่าอย่างรวดเร็ว   ภายใต้การเสริมพลังจากเฟลมเลฟเทรแนนท์ ไทม์เคิร์สทำให้หมาป่าช้าลงได้ชัดเจน แต่กระนั้นหมาป่าก็ยังสามารถหลบการโจมตีของพวกเขาทั้ง 4 คนได้ทั้งหมด   แม้จะเป็นสถานการณ์ที่สู้แบบ 1 ต่อ 4 แต่หมาป่าก็ยังดูเหนือกว่า พวกเขาทั้ง 4 คนร่วมมือกันต่อสู้กับหมาป่า แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ โชคดีที่พวกเขาวางแผนกันมาก่อน ทำให้พวกเขาไม่ได้ตื่นตระหนกมาก   “บ้าเอ้ย! ทำไมหมาป่าตัวนี้มันถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?” เฉินหนานชิงถูกตะปบเข้าที่ไหล่ ถึงเขาจะหลบเลี่ยงจุดสำคัญได้ แต่ไหล่ของเขาก็เป็นแผลลึก และมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง   ปัง! หานเซิ่นแทงหอกไปที่หมาป่า มันเป็นครั้งแรกที่เขาโจมตีโดนหมาป่า แต่กระนั้นพลังหมุนของหอกก็ทำอะไรมันไม่ได้   หมาป่าสะบัดตัวของมัน ทำให้หอกกระเด็นกลับมา ขนของมันยังอยู่ครบถ้วนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   “ถอยก่อน..” เฉินจื่อเฉินตะโกนออกมา พวกเขาทั้ง 4 คนได้รับบาดเจ็บมากบ้างน้อยบ้าง ดังนั้นมันจะไม่มีประโยชน์ถ้าพวกเขายังฝืนสู้ต่อไป   ตามแผนที่วางไว้พวกเขาจะสู้ไปถอยไป หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในอุโมงค์แคบๆได้ หมาป่าก็เลิกไล่ตามพวกเขา เนื่องจากอุโมงค์แคบเกินกว่าที่หมาป่าจะเข้ามาได้   หลังจากพักรักษาตัวกันเป็นเวลา 2 วัน พวกเขาทั้ง 4 คนก็กลับลงไปสู้กับหมาป่าอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ   อย่างไรก็ตาม แม้พวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะหมาป่าได้ แต่พวกเขาก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับหมาป่ามากขึ้นเรื่อยๆ   พวกเขาสามารถโจมตีโดนหมาป่าบ่อยขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บน้อยลงเรื่อยๆ แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถทำให้หมาป่าบาดเจ็บได้ถึงจะใช้อาวุธระดับเลือดศักดิ์สิทธิก็ตาม   “มอนสเตอร์ตัวนั้นมันแข็งแกร่งมาก ฉันคิดว่าถึงเราจะพยายามกันต่อไปก็ทำอะไรมันไม่ได้” เฉินหนานชิงถอดใจแล้ว หลังจากลองมาหลายครั้ง   เฉินจื่อเฉินและเยี่ยหยู่เฟิงนิ่งเงียบ จริงๆพวกเขาก็เห็นด้วยกับเฉินหนานชิง หมาป่าตัวนี้มันแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บได้เลย แต่พวกเขาก็มาไกลเกินกว่าที่จะยอมแพ้ไปง่ายๆ พวกเขาหันมามองที่หานเซิ่น   จริงๆแล้วหานเซิ่นไม่ต้องการยอมแพ้ ถึงพวกเขาจะไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บได้ก็ตาม แต่พวกเขาก็โจมตีมันโดนหลายครั้งแล้ว   หานเซิ่นสังเกตปฏิกิริยาของหมาป่าอย่างละเอียด แม้มันจะเป๋นมอนสเตอร์ที่เร็วที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา แต่มันก็ยังอ่อนแอกว่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวอื่นๆ   ความแข็งแกร่งของมันถ้าไม่นับความเร็วแล้วก็ไม่ได้ดีเด่นไปกว่าลูกของโกลเด้นโกรวเลอร์เลย จุดเด่นของมันมีแค่ความเร็วอย่างเดียวเท่านั้น แต่เนื่องจากมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดมันแข็งแกร่งมาก แม้แต่จุดอ่อนของมันก็ยังแข็งแกร่งกว่าจุดแข็งของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ   ตัวอย่างเช่นตอนที่หานเซิ่นเจอลูกโกลเด้นโกรวเลอร์ เขาไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บได้ ถึงจะโจมตีไปที่ตาของมันก็ตาม   ครั้งนี้สถานการณ์ก็คล้ายๆกัน แต่ยังดีกว่าตอนนั้น หลังจากที่ได้ลองสู้มาหลายครั้ง หานเซิ่นก็เริ่มพบจุดอ่อนของหมาป่ามากขึ้นเรื่อยๆ   แต่อย่างไรก็ตามแม้แต่จุดอ่อนของมัน หานเซิ่นก็ต้องการระดับความแข็งแกร่งมากกว่า 35.0 บวกกับดาบเลือดศักดิ์สิทธิ รวมถึงเดวิลซอร์ดและเฟลมเลฟเทนแนนท์ ถึงจะทำให้มันบาดเจ็บได้   หานเซิ่นรู้แล้วว่าจุดอ่อนที่สุดของหมาป่าตัวนี้ก็คือขากรรไกรหรือปากของมัน   แต่โดยปรกติแล้วหมาป่าจะพยายามระวังตรงจุดนั้นเป็นพิเศษ ดังนั้นมันยากมากที่จะโจมตีให้โดนจุดนั้น   โชคดีที่กลุ่มของพวกเขาอ่อนแอเกินไป ทำให้หมาป่าเริ่มลดความระวังลง หลังจากที่ได้สู้กับพวกเขาหลายครั้ง มันก็เริ่มคิดว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรมันได้   นี่คือสิ่งที่หานเซิ่นรอคอยอยู่ และก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขายังไม่ใช้วิญญาณอสูรดาบเลือดศักดิ์สิทธิและเดวิลซอร์ด   เขามีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ ครั้งต่อไปหมาป่าจะระวังตัวมากขึ้น   ดังนั้นหานเซิ่นจึงยังไม่ได้ทุ้มกำลังเต็มที่ และรอคอยโอกาสที่ดีที่สุดในการโจมตีแบบเอาตายในครั้งเดียว     Facebook Page : SGG ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 1160 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 364 ลองอีกครั้ง
Super God Gene – ตอนที่ 364 ลองอีกครั้ง

“บอกมาได้เลย” เยี่ยหยู่เฟิงพูด   “ลงไปกับฉันอีกรอบ และไปฆ่าหมาป่าตัวนั้น” หานเซิ่นพูดอย่างสงบ   เมื่อได้ยินคำพูดของหานเซิ่น พวกเขาทั้ง 3 คนก็อึ้ง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าหานเซิ่นจะพูดแบบนั้นออกมา ถ้าสติยังดีอยู่ แค่ดูก็น่าจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าหมาป่าตัวนั้น   แม้ตอนนี้พวกเขาทุกคนจะเป็นผู้วิวัฒนาการ พวกเขาก็พึ่งวิวัฒนาการได้ไม่นาน และก็ยังไม่เคยฝึกวิชาไฮเปอร์จีโนสำหรับผู้วิวัฒนาการ ถ้าเปรียบเทียบกับผู้วิวัฒนาการคนอื่นๆโดยเฉลี่ยแล้ว พวกเขายังถือว่าอ่อนแอกว่าคนอื่น   “ตกลง นายช่วยชีวิตฉันไว้ มันก็สมควรที่ฉันจะต้องมอบชีวิตคืนให้นาย” แม้เยี่ยหยู่เฟิงจะเชื่อว่าการกลับลงไปเท่ากับตาย แต่เขาก็ยังตอบตกลง   หานเซิ่นยิ้มและพูด “ที่ฉันขอให้นายมาด้วยก็เพราะฉันพอจะมีวิธีสู้กับหมาป่าแล้ว ถ้าฉันจะขอให้นายไปตาย ฉันคงไม่ช่วยนายไว้แต่แรก”   ก่อนที่เยี่ยหยู่เฟิงจะได้พูด เฉินจื่อเฉินพูด “ดอลลาร์ นายมีวิธีฆ่าหมาป่าตัวนั้นจริงๆหรอ?”   “ถ้ามีแค่ฉันกับเยี่ยหยู่เฟิง ฉันคิดว่าโอกาสฆ่าได้ 50% แต่ถ้านายกับน้องนายยอมลงไปด้วย โอกาสที่พวกเราจะทำสำเร็จคือ 70%” หานเซิ่นพูด เขาดูมั่นใจมาก   “70%เลยหรอ?” เฉินหนานชิงมองที่หานเซิ่นและพูดต่อ “เมื่อกี้พวกเราก็ลงไปกัน 4 คนไม่ใช่หรอ? แต่พวกเราก็แพ้กันหมดรูป แถมยังเสียวิญญาณอสูรอีก แล้วทำไมพอจะลงไปลองเป็นครั้งที่ 2 โอกาสถึงได้เพิ่มเป็น 70%?”   “รอบที่แล้ว พวกเรายังไม่รู้จักหมาป่าตัวนั้นดีพอ แต่ตอนนี้พวกเรารู้แล้ว พวกเราสามารถวางแผนใหม่ได้” หานเซิ่นยิ้มและอธิบาย   เฉินจื่อเฉินครุ่นคิดและพูด “ถึงนั่นจะเป็นความจริง แต่ฉันกลัวว่าแค่แผนธรรมดาคงจะใช้กับหมาป่าตัวนั้นไม่ได้ผล ทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งของมันเหนือว่ามอนสเตอร์ตัวอื่นๆมาก”   “แล้วถ้าพวกเราเพิ่มเจ้านี้เข้าไปด้วยล่ะ?” หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรเฟลมเลฟเทนแนนท์ออกมา   เฟลมเลฟเทนแนนท์ปรากฏที่ข้างๆหานเซิ่น วิญญาณอสูรทุกดวงที่อยู่ใกล้ๆส่องแสงสีแดงออกมาทันที   “นี่คือออร่าเลือดศักดิ์สิทธิงั้นหรอ?” พวกเขาทั้ง 3 คนเบิกตากว้างหลังจากที่ได้เห็นเฟลมเลฟเทนแนนท์ และรู้สึกได้เลยว่าวิญญาณอสูรของพวกเขามีพลังเพิ่มขึ้น   “ใช่ วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิดวงนี้สามารถเพิ่มพลังให้กับวิญญาณอสูรทุกดวงที่อยู่ในระยะได้ ถ้าพวกเราใช้มันร่วมกับไทม์เคิร์ส พวกเราจะสามารถลดความเร็วของหมาป่าลงได้อีก ซึ่งถ้าพวกเราวางแผนกันดีๆละก็พวกเราจะมีโอกาสที่จะฆ่ามันได้” หานเซิ่นพูด   เฉินหนานชิงมองที่เฟลมเลฟเทนแนนท์ด้วยความประหลาดใจ วิญญาณอสูรออร่ามันหายากพอๆกับคน 3 ขาเลยก็ว่าได้ ทุกกลุ่มพร้อมยอมทุมเงินมหาศาลเพื่อออร่า แม้จะเป็นแค่ระดับกลายพันธ์ก็ตาม   ในบรรดากลุ่มต่างๆในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ที่มีอยู่มากมาย มีไม่กี่กลุ่มที่มีวิญญาณอสูรออร่าใช้ แต่หานเซิ่นกับมีออร่าเลือดศักดิ์สิทธิ ซึ่งมันดูน่าเสียดายมากในความคิดของเฉินหนานชิง   ดอลลาร์เหมือนกับหมาป่าเดียวดาย ขณะที่ออร่าถูกออกแบบมาเพื่อล่าเป็นทีม ยิ่งมีคนมากเท่าไหร่ ออร่ายิ่งใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น   “ด้วยออร่าเลือดศักดิ์สิทธิ พวกเราพอมีโอกาสก็จริง แต่ยังไงพวกเราก็ต้องวางแผนให้รอบครอบเสียก่อน” เฉินจื่อเฉินมองที่เฟลมเลฟเทนเเนนท์อย่างละเอียด และหันไปถามเฉินหนานชิง “หนานชิง นายยังมีโล่วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิอยู่อีกดวงใช่ไหม?”   “ฉันมีสำรองอยู่อีกดวง แต่มันเป็นดวงสุดท้ายแล้ว วิญญาณอสูรโล่มันค่อนข้างหายาก” เฉินหนานชิงรู้สึกลังเลที่จะใช้วิญญาณอสูรโล่ที่เขาสำรองเอาไว้ เขากลัวว่ามันจะถูกหมาป่าทำลายอีก ถ้าเขาต้องเสียโล่ถึง 2 อันเป็นอะไรที่เสียหายหนักมาก   ถึงตอนที่เขาเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 มันอาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากนัก แต่มันก็พอจะใช้ปกป้องตัวเขาได้ในช่วงแรกๆ ถ้าเขาต้องมาเสียทุกอย่างในตอนนี้ ตอนที่เขาเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 จะยากลำบากมากขึ้น   “ด้วยออร่าเลือดศักดิ์สิทธิ โล่น่าจะแข็งแกร่งมากขึ้น และน่าจะสามารถทนการโจมตีของหมาป่าได้นานกว่าเดิม นายอาจจะไม่ต้องใช้มันมากนัก แค่ใช้ป้องกันตอนที่จวนตัวก็พอ” เฉินจื่อเฉินพูด   ทั้งเฉินจื่อเฉินและเฉินหนานชิงยอมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะลงไปสู้อีกรอบ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ทำเพื่อหานเซิ่น แต่เพื่อวิญญาณอสูรหมาป่าตัวนั้น   หมาป่าตัวนั้นมันแข็งแกร่งมาก ถ้าพวกเขาได้วิญญาณอสูรของมันมา หลังจากเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 มันจะมีประโยชน์มาก   “สำหรับส่วนแบ่ง ฉันขอเนื้อของหมาป่าตัวนั้น และใครก็ตามที่ฆ่ามันได้ก็ได้วิญญาณอสูรไป ตกลงไหม?” หานเซิ่นเสนอ   หมาป่าตัวนั้นต้องเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดแน่ เขาต้องการทั้งวิญญาณอสูรและผลึกพลังชีวิต เขายังไม่แน่ใจว่าจะได้วิญญาณอสูรรึเปล่า แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่สามารถให้ใครล่วงรู้เรื่องผลึกพลังชีวิตได้   พวกเขาไม่ได้ต้องการเนื้อเลือดศักดิ์สิทธิ เพราะพวกเขาวิวัฒนาการแล้ว ที่พวกเขาพอทำได้คือเอามันไปขาย   “แล้วเรื่องไข่ล่ะจะเอายังไง?” เฉินจื่อเฉินถามเรื่องที่สำคัญที่สุด พวกเขาอาจจะไม่ได้วิญญาณอสูรจากหมาป่า แต่ไข่เป็นสิ่งเดียวที่จะการันตีวิญญาณอสูรได้   “มันยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องไข่ เราลองไปสู้กับมันดูก่อน” หานเซิ่นยังไม่อยากตกลงอะไรตอนนี้ มันมีโอกาสที่จะได้วิญญาณอสูรขั้นสุดยอดจากไข่เช่นเดียวกัน และหานเซิ่นเองก็ไม่ต้องการให้คนอื่นๆทำลายไข่   พี่น้องตระกูลเฉินเองก็เล็งไข่ไว้เช่นเดียวดัน แต่พวกเขาก็ยังไม่พูดอะไรในตอนนี้ ถ้าเกิดมีการโต้เถียงกันก็อาจจะทำให้ทุกคนไม่สามารถร่วมทีมกันได้   “งั้นก็ได้” เฉินจื่อเฉินพยักหน้าห็นด้วยกับหานเซิ่นที่จะยังไม่ตกลงกันตอนนี้ เขาเชื่อว่าถ้าพวกเขาสามารถฆ่าหมาป่าได้จริงๆ พวกเขา 2 คนจะมีโอกาสทำลายไข่ได้มากกว่าถ้าร่วมมือกัน   พวกเขาทั้ง 4 คนเริ่มอธิบายเกี่ยวกับวิญญาณอสูรแต่ละดวงที่พวกเขามี และคิดแผนการสู้กับหมาป่าตามนิสัยและรูปแบบการต่อสู้ของหมาป่า พวกเขาใช้เวลานานมากกว่าจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายได้   “จำไว้ ถ้าทำตามแผนแล้วยังเอาชนะมันไม่ได้ รีบหนีทันที อย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยง พวกเราสามารถกลับมาสู้กับมันเมื่อไรก็ได้ ยังไงหมาป่าตัวนั้นมันก็อยู่ข้างในรัง ไม่ต้องจำเป็นต้องรีบ” เฉินจื่อเฉินย้ำแผนการก่อนที่จะลงไปในรัง   เขากลัวกว่าหานเซิ่นและเยี่ยหยู่เฟิงจะอยากได้วิญญาณอสูรมากเกินไปจนทำอะไรฝืนๆ ซึ่งอาจจะทำให้เสียแผน   “พวกเราจะทำทุกอย่างตามแผน” หานเซิ่นพูด ในใจเขาเชื่อว่าไม่มีใครแย่งวิญญาณอสูรไปจากเขาได้ มีเขาแค่คนเดียวที่สามารถฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้