Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 358 พบรังมอนสเตอร์
Super God Gene – ตอนที่ 358 พบรังมอนสเตอร์

“โอเค” หานเซิ่นเพิ่มความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่านำทางได้ช้าอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะพอควบคุมสถานการณ์ได้ หลังจากเดินทางมาได้ครึ่งวัน หานเซิ่นก็เห็นฝูงมอนสเตอร์ที่ดูเหมือนครึ่งม้าครึ่งวัวกำลังวิ่งอยู่ภายในภูเขา หานเซิ่นมองดูมันอย่างละเอียด และคิดว่าพวกมันทั้งหมดน่าจะเป็นมอนสเตอร์ระดับกลายพันธ์   “ดอลลาร์ เราลองมาแข่งกันหน่อยไหม?ว่าใครจะฆ่ามอนสเตอร์กลายพันธ์พวกนั้นได้เยอะกว่ากัน” เฉินหนานชิงไม่ได้มีความคิดในแง่ลบอะไรกับหานเซิ่น เพียงแค่ดอลลาร์เป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก และทุกคนก็พูดกันว่าเขาสามารถเป็นผู้ถูกเลือกอันดับ 1 ได้ ทำให้เขาอยากจะรู้ว่าหลังจากวิวัฒนาการแล้ว เขาพอจะเทียบกับดอลลาร์ได้ไหม   การเอาชนะดอลลาร์มีความหมายกับเฉินหนานชิงมาก แค่เอาชนะดอลลาร์ได้ เขาก็สามารถเอาไปคุยโวได้ทั้งชาติ   เฉินหนานชิงไม่สนใจว่าจะต้องแข่งอะไรกับดอลลาร์ ขอแค่เขาเอาชนะให้ได้ก็พอ   “ไม่จำเป็นต้องแข่งหรอก ฉันไม่เหมาะจะเป็นคู่แข่งของนาย” หานเซิ่นพูด   ในสายตาของหานเซิ่น เฉินหนานชิงยังไม่คู่ควรจะเป็นคู่แข่งของเขา การแข่งกับเฉินหนานชิงเป็นเรื่องที่เสียเวลาเปล่าๆ   ในกลุ่มคงไม่มีใครต้องการเนื้อมอนสเตอร์ระดับกลายพันธ์ หรือแม้แต่วิญญาณอสูรระดับกลายพันธ์ก็อาจจะไร้ประโยชน์สำหรับพวกเขาที่เป็นผู้วิวัฒนาการแล้ว การมาเสียเวลาล่ามอนสเตอร์พวกนี้เป็นเหมือนเรื่องเล่นของเด็กๆสำหรับหานเซิ่น   เฉินหนานชิงหัวเราะอย่างพอใจ เช่นเดียวกับผู้วิวัฒนาการอีก 4 คนที่มองหานเซิ่นด้วยสายตาดูถูก พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นกลัวที่จะต้องสู้กับเฉินหนานชิง   แต่ทว่าเฉินจื่อเฉินมองหานเซิ่นตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้เพื่อนของเขาจะไม่ได้สังเกต แต่เฉินจื่อเฉินเห็นความเยือกเย็นของหานเซิ่น ถึงจะโดนดูถูกแต่สีหน้าท่าทางของเขาไม่เปลี่ยนเลย   การที่หานเซิ่นไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา มันยิ่งกว่าการดูถูกของพวกเขาซะอีก ในสายตาของเฉินจื่อเฉิน หานเซิ่นคงไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา   เฉินจื่อเฉินรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับท่าทีของหานเซิ่น แม้เขาไม่ได้ต้องการจะเอาชนะเพื่อเอาไปโอ้อวดเหมือนกับเฉินหนานชิง แต่ตอนนี้เขาเองก็เริ่มอยากจะเอาชนะหานเซิ่นบ้าง   อย่างไรก็ตามเฉินจื่อเฉินลังเล เขาคิด ‘ลืมมันไปดีกว่า ยังไงเราก็วิวัฒนาการแล้ว การเอาชนะเขาได้ตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าจะให้ดีต้องรอให้เขาวิวัฒนาการก่อน ถึงจะยุติธรรม’   เนื่องจากหานเซิ่นไม่ได้ถือสาท่าทีดูถูกของพวกเขา ทำให้กลุ่มยังคงเดินทางต่อไปอย่างราบลื่น   หลังจากผ่านไป 2 วัน พวกเขาก็ยังไม่เห็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเลยสักตัว ทำให้กลุ่มของพวกเขาเริ่มรู้สึกผิดหวังและหงุดหงิดมาก   “เห็นคนมักจะพูดกันว่าในภูเขามังกรหยกมีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเยอะนักไง? แล้วทำไมเราเดินทางกันมาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่เห็นเจอสักตัว หรือว่านายจะนำทางพวกเรามาผิด?” เฉินหนานชิงถามหานเซิ่นอย่างหมดความอดทน   “พวกเรามากันถูกทางแล้ว ภูเขานี้กว้างใหญ่มาก พวกเราเดินทางกันมาได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น” หานเซิ่นตอบอย่างใจเย็น   หานเซิ่นเลือกเส้นทางที่เขาเคยไปเจอโกลเด้นโกรวเลอร์ ดังนั้นมันก็ควรจะต้องมีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอยู่มากมาย   หลังจากเดินทางมาอีกครึ่งวัน อยู่ๆหานเซิ่นก็หยุด และมองไปที่ชั้นของภูเขาที่อยู่ข้างหน้าด้วยความรู้สึกยินดี   “ทำไมอยู่ๆนายถึงหยุด?” เฉินหนานชิงขมวดคิ้วและถาม   “ฉันกลัวว่าพวกเราจะไปต่อไม่ได้แล้ว” หานเซิ่นพูด   คนที่เหลือในกลุ่มมองไปข้างหน้า แต่พวกเขาก็ไม่เห็นอะไร เฉินหนานชิงพูดอย่างหมดความอดทน “ไม่เห็นมีมอนสเตอร์หรืออะไรที่ผิดปรกติเลย แล้วทำไมพวกเราถึงไปต่อไม่ได้?”   “ถ้าฉันมองไม่ผิด ข้างหน้าเราน่าจะมีดอกบัวแห่งชีวิตอยู่” หานเซิ่นชี้ไปที่ชั้นของภูเขาและพูด   “อะไรนะ? นายจะบอกว่ามีรังอยู่ที่นี่งั้นหรอ?” ทุกคนเริ่มตื่นเต้นทันที และมองไปที่ภูเขา แต่กระนั้นพวกเขาก็บอกไม่ได้ว่าดูยังไงถึงเป็นดอกบัวแห่งชีวิต ในบริเวณนี้มีภูเขาจำนวนมาก แต่ภูเขาพวกนี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษสำหรับพวกเขา   “นายแน่ใจหรอว่าที่นี่มีรังจริงๆ?” เฉินหนานชิงถามหานเซิ่นทันที   “ฉันเพียงแค่คาดเดา” หานเซิ่นตอบ แต่ในใจของเขามั่นใจมากว่ามันต้องเป็นรังแน่   หานเซิ่นกำลังวางแผนอยู่ว่าทำยังไงถึงจะได้ทำลายไข่ก่อนคนอื่นๆ   ในสัญญาระบุไว้เพียงแค่ให้หานเซิ่นนำทางพวกเขามาที่นี่ เมื่อมีมอนสเตอร์ปรากฏตัว หานเซิ่นสามารถที่จะฆ่ามันได้ ใครก็ตามที่ฆ่ามอนสเตอร์ได้ก็จะถือว่าเป็นเจ้าของมอนสเตอร์ตัวนั้น   ซึ่งนั้นเป็นเงื่อนไขที่หานเซิ่นเป็นคนเสนอเองก่อนที่จะออกเดินทาง และกลุ่มของพวกเขาก็ยอมตอบตกลงง่ายๆ เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าผู้ยังไม่วิวัฒนาการจะสามารถแย่งพวกเขาฆ่ามอนสเตอร์ได้   “งั้นไปดูกันเถอะ” เฉินจื่อเฉินควบสัตว์ขี่ตรงเข้าไปที่ดอกบัวแห่งชีวิตเป็นคนเเรก   ตรงดอกบัวแห่งชีวิตเป็นเนินที่ชันมาก ถ้าไม่มีปีกก็จะต้องปีนขึ้นไปเท่านั้น   หานเซิ่นตามพวกเขาไป ถ้าเป็นที่อื่นหานเซิ่นคงจะวิ่งเข้าไปข้างในก่อนคนอื่นๆแล้ว แต่ในเมื่อที่นี่คือภูเขามังกรหยก หานเซิ่นจึงต้องระวังมากเป็นพิเศษ เขายังไม่แน่ใจว่ามีมอนสเตอร์อะไรอยู่ข้างในบ้าง   หลังจากปีนเข้ากันไปได้สักพัก ทุกคนก็เริ่มเห็นชัดแล้วว่ามันคือดอกบัวแห่งชีวิตไม่ผิดแน่ พวกเขาดีใจกันมากและพูด “มันคือรังจริงๆ พวกเราโครตโชคดี!”   ถึงพวกเขาจะเจอมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิสัก 3-4 ตัว พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าไม่โชคดีเท่าเจอรัง เพราะการฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิไม่ได้การันตีว่าจะได้วิญญาณอสูร แต่การทำลายไข่จะได้วิญญาณอสูร 100%   แม้แต่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิก็ยังพอจะมีประโยชน์อยู่บ้างในช่วงแรกๆ และถึงจะไม่มีประโยชน์เลยก็ตามมันก็เอาไปแลกกับวิญญาณอสูรของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 หรือขายเป็นเงินได้ ดังนั้นถึงกลุ่มของพวกเขาจะวิวัฒนาการกันหมดแล้ว แต่พวกเขาก็ยังต้องการวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิกันมาก ไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้หลุดลอยไป   หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าเป็นรังจริงๆ พวกเขาก็เร่งความเร็วตรงเข้าไปที่ศูนย์กลางของดอกบัวแห่งชีวิต   “ระวัง!” อยู่ๆหานเซิ่นที่ตามมาด้านหลังก็ตะโกนออกมา   กลุ่มของพวกเขาช็อค และรีบหันไปมองหานเซิ่น หานเซิ่นชี้นิ้วไปบนท้องฟ้า พวกเขามองตามขึ้นไป และเห็นว่ามีนกตัวหนึ่งกำลังบินตรงมาที่พวกเขาเหมือนก้อนเมฆสีดำ     Facebook Page : SGG ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 1136 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 357 ไปภูเขามังหยกเป็นครั้งที่ 2
Super God Gene – ตอนที่ 357 ไปภูเขามังหยกเป็นครั้งที่ 2

หานเซิ่นรู้สึกสับสนมากกว่าเดิม หลังจากที่แม่ของเขาเอาของที่พ่อฝากเอาไว้มาให้ดู ตอนแรกเขาคิดแค่ว่ากลุ่มสตาร์รี่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด และทุกอย่างน่าจะเป็นแค่เรื่องของธุรกิจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะซับซ้อนกว่าที่เขาคิด   หานเซิ่นคิดว่ากลุ่มสตาร์รี่อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อเขา แต่ก่อนตายพ่อของเขาได้บอกกับแม่ว่าให้ไปหาหนิง ซึ่งเป็นเจ้าของกลุ่มสตาร์รี่ 2 เรื่องนี้มันขัดแย้งกัน หานเซิ่นยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่   หลังจากพักอยู่บ้านได้ 2-3 วัน หานเซิ่นก็กลับไปที่เหยี่ยวดำ และเริ่มเตรียมตัวสำหรับการไปล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดอีกครั้ง   หานเซิ่นยังไม่สำเร็จขั้นที่ 3 ของมนตรานอกรีต ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่สำเร็จขั้นนี้ได้ง่ายๆ มันต้องใช้เวลา สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือเก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิให้เต็ม   หานเซิ่นวางแผนที่จะไปล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเพื่อเก็บจีโนพ้อย พร้อมกับตามหามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดไปด้วย   เนื่องจากเขาไม่รู้วิธีจะจัดการกับนกฟินิกซ์ เขาเลยต้องปล่อยให้มันอยู่ต่อไปแบบนั้น และค่อยไปจัดการมันตอนที่มีวิธีดีๆแล้ว   หานเซิ่นตั้งใจที่จะไปภูเขามังกรหยกคนเดียว เขาต้องการล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ พร้อมๆกับหามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดไปด้วย บางทีเขาอาจจะเจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดเหมือนกับที่เจอโกลเด้นโกรวเลอร์เมื่อคราวก่อนก็ได้   แต่ทว่าก่อนที่หานเซิ่นจะออกเดินทาง เขาก็เห็นสัญญาณที่เขาเคยบอกกับลู่เว่ยหนานเอาไว้ มีเชือกถูกผูกเอาไว้ที่ต้นไม้นอกเมืองสตีลอาเมอร์   ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ลู่เว่ยหนานบอกให้เขาไปช่วยล่าบีทเทิลไนท์ และหานเซิ่นก้ตกลงที่จะให้ส่วนแบ่งลู่เว่ยหนาน 20% แต่เขาก็ไม่ได้พบลู่เว่ยหนานอีกเลย แต่วันนี้หานเซิ่นเห็นสัญญาณของลู่เว่ยหนาน   หานเซิ่นปลอมตัวเป็นดอลลาร์ และก็ไปสถานที่นัดที่บอกเอาไว้ เมื่อไปถึงเขาก็เห็นลู่เว่ยหนานยืนอยู่ที่ข้างๆลำธาร   “ครั้งก่อนฉันหานายไม่เจอ ฉันเลยกินเนื้อเลือดศักดิ์สิทธิไปจนหมด ดังนั้นฉันเลยคิดว่าจะจ่ายเป็นเงินแทนหรือไม่ก็จะทำงานให้นายสักอย่างเป็นการตอบแทน” หานเซิ่นพูด   ลู่เว่ยหนานเห็นหานเซิ่นมา เขาก็ประหลาดใจและรีบพูด “พี่ชาย คุณฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ 2 ตัวนั้นได้จริงๆหรอ? ผมไปเช็คดูที่นั่นอีกรอบ แต่ก็ไม่เห็นพวกมันแล้ว ผมคิดว่าพวกมันย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วซะอีก”   “ฉันฆ่าพวกมันเอง” หานเซิ่นพูดอย่างสงบ   “พี่ชาย ผมไม่ต้องการเงินคุณหรอก แต่ผมมีบางอย่างจะขอให้ช่วย และคิดว่าคุณน่าจะช่วยผมได้” ลู่เว่ยหนานลังเลและพูด   “บอกมาได้เลย แต่ฉันไม่ชัวร์นะว่าจะช่วยได้มากแค่ไหน” หานเซิ่นขมวดคิ้วอยู่ในใจ เขาอยากจะให้เป็นเงินมากกว่าเรื่องจะได้จบๆ   “เอ่อ ผมมีเพื่อนอยู่ พวกเขาต้องการไปล่ามอนสเตอร์ในภูเขามังกรหยก แต่ที่นั่นมันอันตรายเกินไปสำหรับผม ถ้าคุณพอมีเวลา คุณช่วยไปกับพวกเขาแทนผมหน่อยได้ไหม คุณจะถือว่านี่คือค่าตอบแทน 20% ของผมก็ได้” ลู๋เว่ยหนานพูด   “ใครกันที่อยากไปภูเขามังกรหยก?” หานเซิ่นประหลาดใจ เพราะปรกติแล้วไม่มีใครจะกล้าเข้าไปที่นั่น   “พวกเพื่อนรวมถึงญาติห่างๆ พวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง และพวกเขาเกือบทุกคนก็วิวัฒนาการกันเรียบร้อยแล้วด้วย เมื่อพวกเขาจบการล่าครั้งนี้ พวกเขาก็จะเข้าไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 นี่คือการล่าส่งท้ายของพวกเขา” ลู่เว่ยหนานอธิบาย   หานเซิ่นเข้าใจทันทีว่าคนพวกนั้นไปภูเขามังกรหยก เพื่อหารายได้เพิ่มก่อนจะไปก็อตเเซงชัวรี่เขต 2   “ขอสถานที่และเวลานัดด้วย” หานเซิ่นครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจรับงานนี้ ยังไงเขาก็จะไปภูเขามังกรหยกอยู่แล้ว เนื่องจากเพื่อนของลู่เว่ยหนานเป็นผู้วิวัฒนาการ ถ้าร่วมมือกับพวกเขาอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ถ้าเจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด   ที่สำคัญถ้าเขาเลือกไปเอง และบังเอิญไปเจอกับพวกเขาอาจจะเกิดเรื่องขัดแย้งกันได้ เนื่องจากพวกเขามีผู้วิวัฒนาการหลายคน หานเซิ่นไม่อยากเปลืองพลังไปการต่อสู้กับพวกเขา   ลู่เว่ยหนานดีใจมาก เขารีบบอกสถานที่และเวลานัดให้หานเซิ่นรู้ และแนะนำหานเซิ่นให้เพื่อนๆของเขาได้รู้จักไว้ก่อน   “พี่ชาย อย่างคุณน่าจะเก็บจีโนพ้อยเต็มหมดทุกอย่างแล้ว ทำไมคุณถึงยังไม่ไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 สักที?” หลังจากพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงานแล้ว ลู่เว่ยหนานก็ถามสิ่งที่เขากำลังสงสัย   ลู่เว่ยหนานเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้พูดคุยกับดอลลาร์มากขนาดนี้ คนส่วนมากจะคิดว่าดอลลาร์ไปยังก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ตั้งนานแล้ว   ลู่เว่ยหนานยังได้เห็นความแข็งแกร่งของหานเซิ่นกับตาตัวเอง ครั้งล่าสุดที่พวกเขาเจอกันมันก็หลายปีมาแล้ว แต่ในตอนนั้นเขายังคิดเลยว่าหานเซิ่นน่าจะเก็บจีโนพ้อยได้เต็มหมดแล้ว ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ทว่าอีก 2 -3 ปีต่อมา หานเซิ่นก็ยังอยู่ในก็อตแซซงชัวรี่เขต 1 ทำให้เขารู้สึกสงสัย   “ฉันยังมีงานที่ยังทำไม่เสร็จ และคงจะยังไม่ไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 เร็วๆนี้” หานเซิ่นตอบแบบขอไปที เขาไม่อยากให้ข้อมูลอะไรมาก   หานเซิ่นไม่ได้คิดมากเรื่องที่ต้องไปภูเขามังกรหยกในฐานะดอลลาร์ เขากำลังสงสัยอยู่ว่ากลุ่มของผู้วิวัฒนาการจะสามารถทำให้มอนสเตอร์ขั้นสุดยอดบาดเจ็บได้หรือไม่ หานเซิ่นประมานดูแล้วว่าคนที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเต็มทั้ง 4 ชนิดจะมีระดับความแข็งแกร่งประมาน 30 ขณะที่มอนสเตอร์ขั้นสุดยอดจะมีระดับความแข็งแกร่งอย่างน้อย 40 ยิ่งถ้าไม่ได้ฝึกวิชาไฮเปอร์จีโนสำหรับผู้วิวัฒนาการ ผู้ที่เพิ่งวิวัฒนาการใหม่ก็ไม่น่าจะเอาชนะมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้   หานเซิ่นเดินทางไปยังสถานที่นัดหมาย เพื่อพบกับกลุ่มผู้วิวัฒนาการ   “เว่ยหนานบอกว่าเขาจ้างดอลลาร์ให้ช่วยนำทางให้พวกเราได้ พวกเราคิดว่าเขาล้อเราเล่นซะอีก แต่ปรากฏว่าคุณมาจริงๆ” เฉินจื่อเฉินขยี้ตาตัวเอง เขามองหานเซิ่นตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนว่าเขาจะสนใจดอลลาร์มาก   “ฉันก็แค่คนธรรมดา ถ้าได้เงิน ฉันก็ย่อมทำงานให้” หานเซิ่นพูด   “มันก็คงจะจริง ถ้าคิดเหมือนกับคนปรกติ นายคงจะไม่อยู่ในก็อตเเซงชัวรี่เขต 1 มาจนถึงตอนนี้” เฉินหนานชิงที่อยู่ใกล้ๆเฉินจื่อเฉินพูด   หานเซิ่นไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเขา “พวกนายมีแผนที่จะออกเดินทางกันเมื่อไหร่”   “ตอนนี้เลย” เฉินจื่อเฉินพูด   หานเซิ่นนำทางกลุ่มของพวกเขาด้วยการขี่เหมียว มีเพียงแค่ 2 เฉินจื่อเฉินและเฉินหนานชิงที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ ขณะที่อีก 4 คนที่เหลือวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์ ซึ่งโดยปรกติแล้วพวกเขาจะอ่อนแอกว่าเฉินหนานชิงและเฉินจื่อเฉิน   ถึงพวกเขาจะไม่ได้รู้สึกกลัวหานเซิ่นก็ตาม แต่พวกเขาก็พึ่งจะวิวัฒนาการ พวกเขายังไม่ได้ฝึกวิชาไฮเปอร์จีโนที่ออกแบบมาสำหรับผู้วิวัฒนาการ ดังนั้นไม่มีทางที่พวกเขาจะเอาชนะหานเซิ่นได้   ทุกคนรู้ชื่อเสียงของดอลลาร์ดี แต่สำหรับพวกเขาที่เป็นผู้วิวัฒนาการ พวกเขาก็ไม่คิดว่าดอลลาร์จะเหนือกว่าพวกเขา   เฉินจื่อเฉินสนใจในตัวดอลลาร์มาก และพยายามจะทดสอบว่าหานเซิ่นนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ไม่ได้โชว์อะไร เขาเพียงแค่นำทางพวกเขาไปอย่างเงียบๆ   มันไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับหานเซิ่นที่มาภูเขามังกรหยก แต่เขาก็ระวังตัวทันทีหลังจากเข้ามาในภูเขา เพราะเขารู้ดีว่าที่นี่มีมอนสเตอร์แข็งแกร่งมากมาย รวมถึงมีมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดด้วย   “ดอลลาร์ไม่ต้องกังวล นำทางไปได้เลย ถึงจะมีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิหลายตัวก็ไม่เป็นไร พวกเราสามารถจับมันมาย่างบาร์บีคิวกินกันได้คืนนี้” เฉินหนานชิงพูด เมื่อเห็นว่าหลังจากเข้ามาในภูเขาหานเซิ่นก็ลดความเร็วลง