Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 348 รู้สึกเหมือนสู้กับควีน
Super God Gene – ตอนที่ 348 รู้สึกเหมือนสู้กับควีน

หานเซิ่นมาถึงห้องแล็บของศาสตราจารย์เหยียน และยืนดูการทดสอบของจิงจี้หยา   การทดสอบที่จิงจี้หยากำลังทำนั้นค่อนข้างแตกต่างจากที่หานเซิ่นเคยทำ จิงจี้หยากำลังใช้อุปกรณ์พิเศษ ซึ่งจริงๆแล้วหานเซิ่นต้องเป็นคนทดสอบ ถ้าเกิดเขาไม่หาจิงจี้หยามาแทน   หานเซิ่นดูอยู่สักพัก และเขาก็รู้สึกสนใจขึ้นมา เขาถามคนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นดี เพราะเขามีที่นี่เกือบทุกวัน “พี่ชาย อุปกรณ์ที่จิงจี้หยากำลังใช้มันคืออะไร? มันดูน่าสนใจ”   ฉินจื้อหมิงยิ้มและพูด “มันถูกเรียกว่า เซลล์เเอ็คทิเวเตอร์ มันคืออุปกรณ์ที่พวกเราพัฒนาขึ้นมาโดนเฉพาะเพื่อการทดลองครั้งนี้ มันจะกระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้ตื่นตัวอยู่ตลอด ด้วยวิธีนี้จะทำให้พวกเราสามารถวัดศักยภาพสูงสุดได้”   เมื่อเห็นจิงจี้หยาตัวสั่นอยู่ในแทงค์ของเหลว หานเซิ่นก็คิด ‘เครื่องนี่น่าจะทำให้เราพัฒนาโอเวอร์โหลดได้ดี แต่ถ้าเรามาทดสอบแบบนี้ ความลับของเราทั้งหมดจะต้องถูกเปิดเผยแน่’   ขณะมองจิงจี้หยา หานเซิ่นคิด ‘โทษทีน้องชาย ไว้เดี๋ยวฉันจะสอนนายยิงธนู’   เมื่อเห็นหานเซิ่นเตรียมจะกลับ ฉินจื้อหมิงก็ยิ้มให้หานเซิ่นและพูด “นายอยากจะลองดูไหมล่ะ?”   “ไม่ดีกว่า” หานเซิ่นส่ายหัว   ฉินจื้อหมิงให้ขวดยาและอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ดูเหมือนนาฬิกาข้อมือกับหานเซิ่น “นี่คือยาที่เราทำขึ้นเป็นพิเศษไว้ใช้เพื่อทดสอบเซลล์ในร่างกายเท่านั้น ดื่มมันก่อนเข้านอน และทำการทดสอบเหมือนปรกติตอนที่นายตื่นขึ้นมา แล้วนายจะรู้ว่าศักยภาพจริงๆของเซลล์ในร่างกายอยู่ระดับไหน หลังจากได้ข้อมูลมาแล้ว พวกเราจะใช้ข้อมูลนั้นตัดสินว่าเซลล์ในร่างกายของนายมีประสิทธิภาพขนาดไหน?”   “ผมใช้มันได้จริงๆหรอ?” หานเซิ่นถามฉินจื้อหมิง ถึงเขาจะไม่อยากเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทดลอง แต่เขาก็อยากรู้ศักยภาพของตัวเองมาก   ฉินจื้อหมิงบอกหานเซิ่นเกี่ยวกับวิธีใช้อุปกรณ์ที่ได้ไป หานเซิ่นนำขวดยาและอุปกรณ์ที่ได้มาไปที่สนามฝึกซ้อม   ช่วงนี้หานเซิ่นไม่ค่อยได้ล็อคอินเข้าไปในกลาดิเอเตอร์ หลังจากเข้ามาหานเซิ่นก็เช็คดูรายชื่อเพื่อน และพบว่าทั้งควีนและQHZออฟไลน์ทั้งคู่ มีแค่เดสเพอร์ราโด้ที่ออนไลน์อยู่ ตั้งแต่แอดมาเดสเพอราโด้ยังไม่เคยส่งข้อความหรือส่งคำท้าสู้มาเลย   หานเซิ่นเลยไม่เข้าใจว่าเดสเพอราโด้จะแอดเข้ามาทำไมตั้งแต่แรก   หานเซิ่นประทับใจในเดสเพอราโด้มาก เขาเป็นคนที่มีระดับความแข็งแกร่งสูงมาก หานเซิ่นเคยสุ่มไปเจอกับเขาหลายครั้งแล้ว และเขาก็แพ้หลังจากที่สู้กันได้ไม่กี่กระบวนท่า   เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขามากเกินไป หานเซิ่นจะไม่ค่อยได้เรียนรู้อะไรมาก หลังจากปิดรายชื่อเพื่อน ทันใดนั้นเขาก็ได้รับคำท้าจากเดสเพอราโด้   หานเซิ่นลังเลแต่ก็กดตกลงไป เขาไม่ได้สนใจว่าเดสเพอราโด้จะท้ามาเพราะต้องการจะระบายอารมกับคู่ต่อสู้ที่อ่อนกว่าอย่างเขาหรือเปล่า เนื่องจากยิ่งเจอคู่ต่อสู้เก่งๆก็ยิ่งทำให้เขาพัฒนา   หานเซิ่นรับคำท้าและเข้าไปในสนามประลอง เมื่อเห็นว่าเดสเพอราโด้สู้มือเปล่า หานเซิ่นเองก็เลือกที่จะไม่ใช้อาวุธเช่นกัน   “เพื่อน นายมาจากสถาบันเอเรสสาขาไหน?” หลังจากการนับถอยหลังเสร็จสิ้น เดสเพอราโด้ยังไม่ได้โจมตี เขาส่งข้อความมาหาหานเซิ่น   หานเซิ่นอึ้งและตอบกลับไป “ฉันไม่ได้อยู่สถาบันเอเรส”   เดสเพอราโด้รู้สึกประหลาดใจ ในกลาดิเอเตอร์มีนักเรียนของสถาบันเอเรสอยู่มากมาย เนื่องจากหานเซิ่นสามารถลอกเลียนแบบ 13 คมดาบและดิเวอร์ชั่นได้ เดสเพอราโด้เลยคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนของสถาบันเอเรส   “แล้วนายสนใจมาเข้าสถาบันของพวกเราไหม?” เดสเพอราโด้ถาม เขาสนใจหานเซิ่นเพราะหานเซิ่นเป็นคนที่QHZสนใจ ถึงขนาดต่อสู้กับเขาหลายวันติดต่อกัน   “โทษที ฉันยังอยู่ในโรงเรียนทหาร” หานเซิ่นตอบ   เดสเพอราโด้อึ้ง ถ้าเขาอยู่ในโรงเรียนทหาร เขาก็เป็นได้แค่อาจารย์ไม่ก็นักวิจัย เพราะปรกติแล้วนักเรียนจะยังไม่วิวัฒนาการกัน   “โรงเรียนไหน?” เดสเพอราโด้ถาม   “บอกไม่ได้” หานเซิ่นพูด เขาไม่อยากให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลออกไป   เดสเพอราโด้ไม่ถามต่อ และตั้งท่าเตรียมต่อสู้ เขาต้องการให้หานเซิ่นเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อน   หานเซิ่นออกหมัดใส่ทันที และเดสเพอรอโด้ก็เลียนแบบการเคลื่อนไหวของเขา   หานเซิ่นประหลาดใจ เขาเข้าใจว่าเดสเพอราโด้พยายามจะทำอะไร เดสเพอราโด้กำลังพยายามลอกเลียนแบบเทคนิคของหานเซิ่น และก็พยายามกดระดับความแข็งแกร่งของเขาไว้แถวๆ 30   หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ เพราะทุกครั้งที่เขาต่อสู้ เขาจะเลียนแบบเทคนิคของฝ่ายตั้งข้าม แต่ครั้งนี้เหมือนว่าเขาจะต้องเลียนแบบคนที่เลียนแบบตัวเขาเอง เขาสงสัยว่าเดสเพอราโด้ทำไมถึงทำแบบนี้   แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจมากเมื่อถูกอีกฝ่ายเลียนแบบ เพราะเขาเองก็ได้เทคนิคพวกนี้มาจากคนอื่นเช่นกัน   หานเซิ่นยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง เขากำลังฝึกซ้อมสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มา มีเทคนิคหลายอย่างที่หานเซิ่นเรียนรู้มาจากQHZ QHZเป็นคนที่มีทักษะและเทคนิคการต่อสู้ที่หลากหลายมาก เทคนิคหลายอย่างที่QHZใช้มันเหมือนกับพาโนราม่า แต่มีระดับที่สูงกว่า หานเซิ่นสู้กับQHZมาหลายครั้ง และก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากเขา   แน่นอนว่าเดสเพอราโด้ไม่ได้ต้องการจะเลียนแบบหานเซิ่นเพื่อเรียนรู้อะไร สิ่งที่เขาต้องการก็คือการทำให้หานเซิ่นใช้ความสามารถทั้งหมดออกมา   ‘ฉันจะทำลายเทคนิคพวกนี้ของนายให้หมด และจะทำให้นายต้องใช้ความสามารถจริงๆออกมา ถึงตอนนั้นฉันจะได้ดูว่านายมีความสามารถขนาดไหน’ เดสเพอราโด้มีความมั่นใจมาก   แม้เดสเพอราโด้จะไม่ได้มีสไตล์การต่อสู้ที่แข็งแกร่ง รวดเร็วและรุนแรงแบบควีน แต่เขาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในคนที่มีการสไตล์การต่อสู้แบบผสมผสาน   หลังจากเลียนแบบได้ไม่นาน เดสเพอราโด้ก็เริ่มมึนงง หานเซิ่นเหมือนจะมีเทคนิคอย่างไม่จำกัดที่พร้อมงัดออกมาโชว์ และก็มีหลายวิชาที่ดูคล้ายๆกับวิชาของสถาบันเอเรส เดสเพอราโด้ไม่อยากจะเชื่อว่าหานเซิ่นไม่ใช่คนของสถาบันเอเรสอย่างที่เขาบอก   ยิ่งกว่านั้นเมื่อสู้กับหานเซิ่น เดสเพอราโด้จะรู้สึกอึดอัด มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับที่เขาสู้กับคนคนหนึ่งในสถาบันเอเรส แต่เขายังนึกไม่ออกว่าใคร   เดสเพอราโด้หลบหมัดของหานเซิ่นอีก 1 หมัด และพบว่าตัวของเขาถูกต้อนไปที่มุมสนามแล้ว   “ควีน!” ในที่สุดเดสเพอราโด้ก็จำความรู้สึกนี้ได้ ทหารคนหนึ่งบนยานรบกำลังใช้เทคนิคแบบเดียวกับควีน!    

Super God Gene – ตอนที่ 347 ไม่คู่ควรจะเป็นศัตรู
Super God Gene – ตอนที่ 347 ไม่คู่ควรจะเป็นศัตรู

“ฉันไม่เข้าใจเลยว่านายกำลังมัวทำอะไรอยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 1” หวงฟูผิงชิงถอนหายใจ และพูดหลังจากที่เซินเทียนจื่อเดินไปแล้ว   “มันมีเหตุผลหลายอย่างที่ผมต้องอยู่ที่นั่น” หานเซิ่นตอบอย่างสงบ   “ระดับนายน่าจะเก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิได้เต็มแล้วไม่ใช่หรอ? รีบมาก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้แล้ว ทุกอย่างมันเริ่มต้นที่นี่” หวงฟูผิงชิงพยายามโน้มน้าวหานเซิ่น   “ผมยังขาดจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิอีกเยอะ เหมือนว่าผมอาจจะต้องใช้เวลาอีก 2 ปี” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   หวงฟูผิงชิงมองหานเซิ่นอยู่ชั่วครู และก็พูดออกมาอย่างผิดหวัง “นายจะเชื่อฉันหรือไม่ก็ตาม แต่ฉันหวังดีกับนายเสมอ มาที่ก็อตแซงชัวรี่เขต 2 และนายจะได้รับความแข็งแกร่งที่แท้จริง”   “ผมเชื่อคุณ” หานเซิ่นกระพริบตา   “อย่าให้เรื่องความรักทำให้นายต้องเสียงาน นายน่าจะเข้าใจที่พี่ของฉันพูดใช่ไหม? เขาบอกว่าถ้านายวิวัฒนาการช้าเกินไป นายจะไม่คู่ควรแม้กระทั่งเป็นศัตรูของเขา เป็นเพื่อนยิ่งไม่ต้องพูดถึง” หวงฟูผิงชิงพูด   หวงฟูผิงชิงคิดว่าเหตุผลที่หานเซิ่นยังไม่ยอมออกจากก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ก็เพราะความรู้สึกที่เขามีต่อหวังเหมียนเหมียน ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจ   เมื่อเห็นหวงฟูผิงชิงเดินไปแล้ว หานเซิ่นก็พูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้ม “ไม่คู่ควรเป็นศัตรูงั้นหรอ? เซินเทียนจื่อก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร หวังว่าพอฉันเข้าในก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 แล้ว เขาจะยังมีความมั่นใจเหมือนอย่างวันนี้”   หานเซิ่นไม่ได้ใส่ใจกับเซินเทียนจื่อและหวงฟูผิงชิงมาก เขายังคงกินอาหารของเขาต่อไป   “พี่ นี่คืองานวันเกิดสุดท้ายของฉันในฐานะนักเรียนโรงเรียนทหารแล้ว ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมีโอกาสชวนพี่มาร่วมงานวันเกิดของฉันอีกรึเปล่า ฉันก็เลย..” ในที่สุดหวังเหมียนเหมียนก็หาเวลามาพูดกับหานเซิ่นได้   “ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอขอให้ฉันมา ฉันก็จะมา ครั้งหน้าเธอต้องบอกฉันเรื่องวันเกิดด้วยเข้าใจไหม ฉันจะได้เตรียมของขวัญมาให้ เธอก็รู้ว่าความจำฉันไม่ค่อยดี” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   “ของขวัญที่ดีที่สุดก็คือการที่พี่มาอยู่ที่นี่” หวังเหมียนเหมียนพูด ขณะหน้าแดงเล็กน้อย   “นั่นก็ฟังดูเข้าท่าดี แต่ยังไงฉันก็ต้องให้ของขวัญเธอ” หานเซิ่นครุ่นคิดและเขียนอะไรบางอย่างลงไปบนกระดาษเช็ดปาก เขาส่งให้กับหวังเหมียนเหมียนและพูด “ถือว่านี่เป็นของขวัญวันเกิด น้องสาวสุขสรรค์วันเกิด!”   “ขอบคุณค่ะ!” หวังเหมียนเหมียนเริ่มอ่านกระดาษเช็ดปากอย่างกระตือรือร้น   ทั้งเซินเทียนจื่อและหวงฟูผิงชิงสังเกตเห็นสิ่งที่หานเซิ่นทำ และสงสัยว่าหานเซิ่นเขียนอะไรลงไป   ขอความบนกระดาษเขียนว่า ‘หวังเหมียนเหมียนสามารถใช้คูปองนี้ทำให้ความปรารถนาของเธอ 1 อย่างเป็นจริง — หานเซิ่น’   เซินเทียนจื่อเบ้ปากอย่างสบประมาท ในสายตาของเขาวิธีการจีบผู้หญิงของหานเซิ่นมันค่อนข้างโบราณ ถ้าใช้กับผู้หญิงคนอื่นมันก็อาจจะโอเค แต่เมื่อมาใช้กับหวังเหมียนเหมียนที่มีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อมอยู่แล้ว มันอาจจะไม่ได้ผล   หวังเหมียนเหมียนเป็นเหมือนเจ้าหญิงของตระกูลหวังเลยก็ว่าได้ เธอสามารถมีทุกสิ่งบนโลกได้ถ้าเธอต้องการ แล้วแค่คนที่ยังไม่วิวัฒนาการจะมีปัญญาอะไรไปทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงได้? ของขวัญของหานเซิ่นไม่น่าจะทำให้หวังเหมียนเหมียนพอใจได้ ทำให้เขาคิดว่าหาเซิ่นเป็นคนที่ไม่มีหัวคิด   “พี่ ฉันจะขออะไรก็ได้จริงหรอ?” หวังเหมียนเหมียนถามอย่างมีความหวัง   “อะไรก็ได้” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   “ขอบคุณ พี่หาน นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดในวันนี้เลย” หวังเหมียนเหมียนเก็บคูปองของหานเซิ่นอย่างระมัดระวัง เหมือนว่าเธอยังไม่มีแผนที่ใช้มันเร็วๆนี้   หลังจากกลับมาที่เหยี่ยวดำ หานเซิ่นไม่ได้ไปที่ห้องฝึกแรงโน้มถ่วง เนื่องจากมันดึกมากแล้ว เขากลับไปนอนบนเตียงของเขา และใช้คอมเข้าไปหาข้อมูล   แม้เขาจะไม่ได้สนที่คนอื่นพูด แต่หานเซิ่นก็ต้องการเก็บจีโนพ้อยขั้นสุดยอดให้เต็มเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้   มีข่าวเกี่ยวกับก็อตแซงชัวรี่มากมายในกาแล็กซี่เน็ต หานเซิ่นโฟกัสไปที่ข่าวเกี่ยวกับมอนสเตอร์ใกล้ๆเมืองสตีลอาเมอร์เป็นหลัก รวมถึงเมืองที่อยู่ใกล้ๆด้วย   มันไม่ง่ายที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลในเน็ต หานเซิ่นพยายามหาข่าวทุกวัน แต่โชคของเขายังไม่ดีนัก   แต่วันนี้ระหว่างที่เขาหาข่าวอยู่ก็มีโพสต์หนึ่งที่หานเซิ่นสนใจเป็นอย่างมาก   คนที่โพสต์คือคนที่อยู่ในเมืองสตีลอาเมอร์ เขาบอกว่าเขาพบนกฟินิกซ์ในทะเลทรายปีศาจ   เนื่องจากในก็อตแซงชัวรี่ไม่สามารถถ่ายรูปหรืออัดวิดีโอได้ ผู้โพสต์ที่ใช้ชื่อไอดีว่า ‘ชายสายรุ้ง’ บรรยายลักษณะของนกฟินิกซ์ว่ามีลักษณะยังไงบ้าง   ตามคำบรรยายของเขา มอนสเตอร์ตัวนี้ดูเหมือนกับสัตว์ในตำนานไม่มีผิด แต่ทว่ามอนสเตอร์ที่มีรูปร่างเหมือนนกฟินิกซ์มักจะถูกพบในก็อตแซงชัวรี่ระดับสูงขึ้นไป หานเซิ่นยังไม่เคยได้ยินว่ามีมอนสเตอร์เหมือนนกฟินิกซ์ในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 เลย   หลายคนบอกว่าชายสายรุ้งแต่งเรื่องโกหก แต่ชายสายรุ้งก็ยืนกรานว่าเขาเห็นมอนสเตอร์ตามบรรยายจริงๆ แถมเขายังให้รายละเอียดมากขึ้น   ตามที่ชายสายรุ้งบอก มอนสเตอร์ที่เขาเห็นมันดูเหมือนนกยูงที่มีเปลวไฟสีทองห่อหุ้มอยู่   ยิ่งกว่านั้นชายสายรุ้งบอกว่า ในตอนที่เขาเดินเข้าไปเช็คต้นไม้ที่มอนสเตอร์ที่เหมือนนกฟินิกซ์พักอยู่ก่อนหน้า เขาก็พบว่ามันกลายเป็นถ่านไปแล้ว แต่มันไม่มีไฟไหม้อยู่ ต้นไม้ยังคงตั้งตะงาน แต่ทั้งต้นดำเหมือนกับถ่าน   หานเซิ่นไม่รู้ว่าที่ชายสายรุ้งบอกเป็นความจริงหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้เขามีความหวัง หานเซิ่นโพสต์ถามจุดที่ชายสายรุ้งเห็นมอนสเตอร์   ไม่นานชายสายรุ้งก็ตอบกลับหานเซิ่น และบอกว่าเขาไม่แน่ใจว่ามันอยู่ตรงไหนกันแน่ เพราะว่าเขาอยู่ในทะเลทราย ซึ่งมันหาจุดอ้างอิงค่อนข้างยาก แต่กระนั้นเขาก็บอกหานเซิ่นว่าเขาสามารถหาต้นไม้ที่ถูกเผานั้นได้   หานเซิ่นลังเล และส่งข้อความลับไปหาชายสายรุ้งว่าเขาจะจ่ายเงินให้ ถ้าหากพาเขาไปที่ต้นไม้นั้นได้   แต่อย่างไรก็ตามชายสายรุ้งไม่ได้ตอบจนกระทั่งหานเซิ่นเข้านอนแล้ว   ตอนเช้าเมื่อหานเซิ่นตื่นขึ้นมา และไปที่ห้องแล็ปของศาสตราจารย์เหยียน ครั้งก่อนเขาพาจิงจี้หยามากับเขาด้วย ซึ่งผลการทดสอบของจิงจี้หยาทำให้ศาสตราจารย์เหยียนสนใจในตัวเขามาก ตามที่หานเซิ่นคาดไว้ แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบซะทีเดียว เขายังไปเช็คดูที่ห้องแล็ปของศาสตราจารย์ทุกๆวัน