Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 344 เขาแกล้งทำ
Super God Gene – ตอนที่ 344 เขาแกล้งทำ

นักเรียนทุกคนหันไปมองหานเซิ่น หลังจากที่พวกเขาได้ยินฟางกั๋วเทาพูด หานเซิ่นเองก็ตกใจเหมือนกัน   ถึงเขาจะไม่ได้สนใจวิชาบริสุทธิดั้งเดิม แต่ฟางกั๋วเทาก็คือคนที่ทางโรงเรียนเชิญตัวมา และเขายังหวังดีกับหานเซิ่น ดังนั้นหานเซิ่นเลยไม่อยากทำให้เขาต้องขายหน้า   หลังจากลังเลอยู่สักพัก หานเซิ่นก็เดินไปหาฟางกั๋วเทา “ชื่อของเธอคือ…” ฟางกั๋วเทาอธิบายวิชาของเขาแบบเดียวกับที่ทำกับคนอื่นๆ และถาม   หานเซิ่นตอบเขาทุกอย่าง เขาต้องการจะกลับไปฝึกต่อให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้   ฟางกั๋วเทาถามหานเซิ่นว่าเขาสามารถผ่านได้ถึงระดับไหนในการฝึกในห้องแรงโน้มถ่วง และหานเซิ่นตอบว่า 13.0 ฟางกั๋วเทาก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะทำให้หานเซิ่นสามารถผ่านระดับ 14.0 ได้   หานเซิ่นทำทุกอย่างตามที่ฟางกั๋วเทาบอก และเขาก็ผ่านการทดสอบระดับ 14.0 จริงๆ   ฟางกั๋วเทาหวังว่าจะได้รับคำชม แต่กับไม่มีอะไรเลย พวกนักเรียนมองมาที่เขาและหานเซิ่นด้วยท่าทางแปลกๆ แต่ฟางกั๋วเทาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น   ฟางกั๋วเทางง เนื่องจากเขาเป็นผู้วิวัฒนาการแล้ว เขาจึงไม่ค่อยได้ใส่ใจเกี่ยวกับพวกนักเรียนโรงเรียนทหารมาก เขาเลยไม่รู้ว่าหานเซิ่นเป็นคนที่มีชื่อเสียงแค่ไหน   เมื่อหานเซิ่นบอกว่า 13.0 พวกนักเรียนก็ขำ เมื่อเขาผ่านการทดสอบระดับ 14.0 ได้ พวกเขาก็หัวเราะออกมากันยกใหญ่   พวกเขาต่างก็คิดแบบเดียวกันคือหานเซิ่นยังไม่ได้ใช้ความสามารถจริงๆออกมา เขาแค่แกล้งออมมือ   แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าระดับความแข็งแกร่งของหานเซิ่นจริงๆคือเท่าไหร่ แต่พวกเขารู้ว่าหานเซิ่นเก่งกว่าจิงจี้หยา ซึ่งจิงจี้เหยามีระดับความแข็งแกร่งไม่ต่ำกว่า 15 เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่ระดับความแข็งแกร่งของหานเซิ่นจะน้อยกว่า 15   ขณะที่หานเซิ่นพยายามทำทุกอย่างเพื่อกลับไปฝึกต่อไวๆ แต่ในสายตาของคนอื่นเห็นได้ชัดเลยว่าหานเซิ่นออมมือไว้ เมื่อหานเซิ่นเตรียมจะเดินกลับ ใครบางคนก็ตะโกนขึ้นมา “อัจฉริยะ คุณต้องเป็นมืออาชีพให้มากกว่านี้นะ ตอนนี้คุณเป็นผู้ช่วยในการทดลอง คนอย่างคุณสามารถผ่านการทดลองระดับ 14.0 ได้ด้วยมือเดียวด้วยซ้ำ” “ฮาฮา รุ่นพี่ คุณต้องล้อพวกเราเล่นแน่ๆ” “ไม่เนียนเลยหานเซิ่น” “ลองอีกรอบ อัจฉริยะ” …   พวกนักเรียนไม่ยอมให้หานเซิ่นหนีไปง่ายๆ มันยากที่พวกเขาจะได้เห็นความแข็งแกร่งของหานเซิ่น พวกเขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้ชม ฟางกั๋วเทาก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา แม้บริสุทธิดั้งเดิม จะใช้ได้ผลก็จริง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นหลัก หานเซิ่นแสร้งทำการทดสอบตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ฟางกั๋วเทากับดูไม่ออกเลยว่าเขาออมมือไว้ ถ้าหานเซิ่นสามารถควบคุมความแข็งแกร่งได้ดีขนาดนี้ เขาจะต้องเป็นคนทีมีความมั่นใจเต็มเปลี่ยนอยู่แล้ว   เมื่อต้องมาใช้กับคนที่มีความมั่นใจสูง บริสุทธิดั้งเดิมจะไร้ประสิทธิภาพ สำหรับคนอย่างหานเซิ่น บริสุทธิดั้งเดิม แทบจะไร้ผลโดยสิ้นเชิง   ฟางกั๋วเทาเสียใจมากที่เขาเรียกหานเซิ่นมา เขาไม่ได้คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น   “ศาสตราจารย์ ลองทำอีกสักครั้ง ถ้าคุณสามารถใช้บริสุทธิดั้งเดิมเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของอัจฉริยะได้ พวกผมจะยอมเชื่อคุณอย่างสนิทใจ” …   พวกนักเรียนส่งเสียงกระตุ้นพวกเขาทั้ง 2 คน ฟางกั๋วเทาและหานเซิ่นหันมามองหน้ากัน   ฟางกั๋วเทาเดินเข้ามาหาหานเซิ่น และก็พูด “หานเซิ่น เหมือนว่าเธอจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงในเหยี่ยวดำใช่ไหม?”   ขณะที่พูดฟางกั๋วเทาก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหานเซิ่น ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยอยู่ว่าทำไมฟางกั๋วเทาถึงพยายามขนาดนี้ เขาก็ได้ยินฟางกั๋วเทากระซิบที่ข้างหูของเขาว่า “แกล้งเล่นตามน้ำไปก่อน แล้วเธอจะได้รางวัล”   “จะให้ผมทำยังไง?” หานเซิ่นกระซิบกลับไป   เนื่องจากหานเซิ่นเคยตบตามาแล้วครั้งหนึ่ง ฟางกั๋วเทาก็อยากจะลองเสี่ยงดูสักครั้ง หานเซิ่นตอบกลับมาทันที ทำให้เขาประหลาดใจ   ฟางกั๋วเทารู้สึกดีขึ้นมา เขารีบกระซิบกลับไป “ไม่ว่าเธอต้องการอะไร ฉันสัญญาว่าจะให้เธอ”   “โอเค” หานเซิ่นพยักหน้า ฟางกั๋วเทาเป็นแขกของโรงเรียน และยังสัญญาว่าจะให้รางวัลกับเขาอีก ดังนั้นหานเซิ่นเลยไม่ต้องการทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าสาธารณะชน   ที่สำคัญวิชา บริสุทธิดั้งเดิม ค่อนข้างมีประโยชน์ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝึก และก็ยังไม่มีอันตราย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม บริสุทธิดั้งเดิม ถึงได้เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ไม่งั้นแล้วรัฐบาลคงจะไม่ยอมให้มันถูกเผยแพร่ และผู้อำนวยการโรงเรียนเหยี่ยวดำก็คงจะไม่เชิญฟางกั๋วเทามาเป็นแขกพิเศษ   เมื่อหานเซิ่นตอบตกลง ฟางกั๋วเทาก็รู้สึกดีมาก เขารีบออกห่างจากหานเซิ่น และเริ่มถามต่อ “หานเซิ่น บอกฉันมาตรงๆว่าระดับความแข็งแกร่งของเธอคือเท่าไหร่กันแน่? ฉันมั่นใจมากว่าบริสุทธิดั้งเดิม จะช่วยเธอได้อย่างแน่นอน”   หานเซิ่นเล่นไปตามน้ำ และเขาก็เพิ่มระดับความแข็งแกร่งขึ้นไปจากก่อนหน้านี้อีก เขาไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆในโรงเรียนจะเชื่อเขาหรือไม่ แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่   โชคดีที่พวกนักเรียนพอใจกับตัวเลข 16.0 ที่หานเซิ่นแสดงให้พวกเขาได้เห็น   หลังจากสิ้นสุดการสาธิต ฟางกั๋วเทาก็พูดกับหานเซิ่นผ่านทางคอมพกพา และเขาก็บอกให้หานเซิ่นไปพบที่ห้องอาหารส่วนตัว   จริงๆหานเซิ่นไม่ได้ต้องการอะไรจากฟางกั๋วเทาตั้งแต่แรกแล้ว เขาขอตัวออกมา โดยไม่ได้ทิ้งเบอร์ไว้ให้ฟางกั๋วเทาเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่าฟางกั๋วเทาไปได้เบอร์ของเขามาจากที่ไหนสักแห่ง และยืนกรานว่าเขาต้องการพบหานเซิ่น ในที่สุดหานเซิ่นก็ต้องยอมไปพบเขา   หลังจากมาถึงห้องอาหารส่วนบุคคล ฟางกั๋วเทาก็จับมือทักทายกับหานเซิ่นทันที และเขาก็สั่งอาหารที่แพงที่สุดในร้านรวมถึงเครื่องดื่มมา   “ขอบคุณมากหานเซิ่น… ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ถ้าไม่ได้เธอช่วยเล่นตามน้ำ..” เมื่อพูดคุยกับหานเซิ่นเป็นการส่วนตัว ฟางกั๋วเทาก็ไม่ได้ดูเหมือนกับเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เขาพยายามแสร้งทำในที่สาธารณะ ทำให้หานเซิ่นเริ่มสงสัยแล้วว่าเขาเป็นคนที่คิดค้นวิชาบริสุทธิดั้งเดิม จริงหรือเปล่า   คนที่สามารคคิดค้นและพัฒนาบริสุทธิดั้งเดิม ขึ้นมาได้จะต้องเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง แต่ฟางกั๋วเทาคนนี้ดูไม่เหมือนว่าจะเป็นแบบนั้นเลย        

Super God Gene – ตอนที่ 343 บริสุทธิดั้งเดิม
Super God Gene – ตอนที่ 343 บริสุทธิดั้งเดิม

ฟางกั๋วเทาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะป้องกันตัว เขากลายเป็นคนที่โด่งดัง เพราะเขาคิดค้นวิชาไฮเปอร์จีโนที่ชื่อว่า บริสุทธิดั้งเดิม   ปัจจุบันในบรรดาผู้ยังไม่วิวัฒนาการ บริสุทธิดั้งเดิมเป็นที่นิยมกันมาก พวกเด็กวัยรุ่น 40-50% อ่านหนังสือของฟางกั๋วเทาเกี่ยวกับ บริสุทธิดั้งเดิม   เหตุผลที่วิชาไฮเปอร์จีโนนี้ได้รับความนิยมก็เพราะแนวคิด ‘ผู้บริสุทธิ์ปราศจากความกลัว’ หัวใจสำคัญของมันก็คือมนุษย์มีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด แต่เนื่องจากปัจจัยลบทางด้านอารมณ์ เช่นความกลัว ทำให้มนุษย์นั้นด้อยลง มันยากที่จะทำให้พวกเขาได้ศักยภาพที่แท้จริง   เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ หัวใจหลักคือการรักษาสภาพจิตใจให้บริสุทธิ์และละทิ้งความกลัวไป ด้วยวิธีนี้จะทำให้มนุษย์สามารถมีอิสระและเพิ่มความสามารถของตัวเองได้   เพราะความมีชื่อเสียงของ บริสุทธิดั้งเดิม โรงเรียนเหยี่ยวดำจึงได้เชิญฟางกั๋วเทามาบรรยายที่โรงเรียนด้วย   นักเรียนจำนวนมากมาที่หอประชุมใหญ่ของโรงเรียน เพื่อฟังฟางกั๋วเทาพูด หลังจากฟังพวกเขาก็มีไฟขึ้นมา ราวกับว่าพวกเขาไร้ซึ่งความกลัวใดๆในชั่วอึดใจ   แต่หานเซิ่นนั้นไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการบรรยายของฟางกั๋วเทา และเขาก็ไม่ได้สนใจวิชา บริสุทธิดั้งเดิม เลยสักนิด   บริสุทธิดั้งเดิม มีชื่อเสียงมาก แม้แต่ซื่อจื้อคังก็เอาหนังสือของ ฟางกั๋วเทามาศึกษาด้วย หานเซิ่นลองอ่านดูผ่านๆ และพบว่าเนื้อหาส่วนมากไร้ประโยชน์   มีน้อยคนมากที่จะไปถึงสภาวะไร้ซึ่งความกลัวจริงๆ ถ้าพวกเขาไม่ได้โดนล้างสมอง แม้จะไปถึงจุดนั้นได้จริงๆมันก็มีอันตรายมากกว่าผลดี   ความกลัวคือความรู้สึกที่จำเป็นสำหรับของการดำรงชีวิต มันก็คล้ายๆกับความรู้สึกเจ็บ ซึ่งเป็นตัวบอกคุณว่าควรจะทำอะไรหรือหลีกเลี่ยงอะไรที่อาจจะเป็นอันตราย   แม้ความรู้สึกเหล่านั้นจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่มีพวกมันเลยจะเป็นผลเสียมากกว่า ถ้ามนุษย์สูญเสียความรู้สึกเจ็บไป ในตอนที่นอนหลับ ถ้าพวกเขาถูกไฟเผาหรือถูกทำร้าย พวกเขาจะไม่รู้ตัวเลย   มันก็คล้ายๆกับความกลัว พวกคนที่ไม่มีความกลัวก็อาจจะทำอะไรที่มันเกินตัว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก   ดังนั้นหานเซิ่นเลยไม่สนใจการบรรยายของฟางกั๋วเทาหรือวิชา บริสุทธิดั้งเดิม   แต่อย่างไรก็ตามฟางกั๋วเทาเป็นคนที่มีสีสันคนหนึ่ง เขาไม่พอใจถ้าแค่พูดอย่างเดียว เขาต้องการสาธิตให้ผู้ฟังได้เห็นผลของ บริสุทธิดั้งเดิม ในสนามฝึกซ้อมที่หานเซิ่นกำลังฝึกอยู่   “ศักยภาพของมนุษย์นั้นไร้ขีดจำกัด ซึ่งบริสุทธิดั้งเดิม จะช่วยให้พวกเธอไปถึงศักยภาพสูงสุดได้ ฉันจะสาธิตให้ดูด้วยการใช้ห้องฝึกแรงโน้มถ่วง” ฟางกั๋วเทาชี้ไปที่นักเรียนคนหนึ่งและพูด “นักเรียนคนนั้นช่วยามทำการสาธิตให้เพื่อนๆดูหน่อยจะได้ไหม”   “ผมหรอ?” นักเรียนคนนั้นชี้ตัวเองด้วยความประหลาดใจ   “ใช่แล้ว” ฟางกั๋วเทาตอบ   นักเรียนลังเลอยู่สักพักและเดินไปหาฟางกั๋วเทา ฟางกั๋วเทาพูด “ชื่อของเธอคือ?”   “ผมชื่อหวังหง” นักเรียนตอบ   “หวังหง เธอบอกฉันได้ไหมว่าขีดจำกัดในการใช้ห้องฝึกแรงโน้มถ่วงของเธอคือระดับไหน” ฟางกั๋วเทาถาม   “ปรกติผมยากที่จะผ่านการทดสอบระดับ 12.0” หวังหงตอบ   “เยี่ยม ถ้าฉันบอกเธอว่าตอนนี้เธอสามารถผ่านระดับ 13.0 ได้ เธอจะเชื่อฉันไหม?”   “นั่นจะเป็นไปได้หรอครับ?” หวังหงรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี แค่ผ่านระดับ 12.0 ก็ยากแล้ว เขาไม่ผ่านระดับ 13.0 แน่นอน   “เธอไม่เชื่อฉันใช่ไหม? ฉันจะสอนบริสุทธิดั้งเดิมให้เธอ และเธอจะสามารถผ่านระดับ 13.0 ได้ทันที” ฟางกั๋วเทาพูดและเปิดวิธีการฝึกบริสุทธิดั้งเดิมให้หวังหงดู   หวังหงเคลื่อนไหวตามที่ฟางกั๋วเทาพูด และหวังหงก็สามารถผ่านการทดสอบได้ ซึ่งทำให้นักเรียนที่ดูอยู่อึ้ง และส่งเสียงชื่นชมกันยกใหญ่   แม้จะขึ้นแค่ 1.0 แต่มันก็ถือว่าค่อนข้างมากสำหรับนักเรียนโรงเรียนทหาร การเพิ่มแค่ 1.0 ก็ถือว่าสร้างความแตกต่างได้มากแล้วในหมู่ผู้ยังไม่วิวัฒนาการ   หลังจากนั้นฟางกั๋วเทาก็เลือกอีกนักเรียนหลายคนมาทำการทดลองแบบเดียวกัน ซึ่งพวกเขาก็พัฒนาความแข็งแกร่งได้เหมือนกับหวังหง ทำให้พวกนักเรียนเริ่มเชื่อฟางกั๋วเทามากขึ้น   หลังจากที่ออกมาจากห้องฝึกแรงโน้มถ่วง หานเซิ่นก็งงที่เห็นนักเรียนจำนวนมากมาอยู่ที่โรงฝึกซ้อมแห่งนี้ หลังจากมองไปรอบๆ เขาก็ตระหนักว่าฟางกั๋วเทามาทำการสาธิตที่นี่ ดังนั้นหานเซิ่นเลยดูการสาธิตของเขา   หลังจากดูไปได้สักพัก หานเซิ่นก็หมดความอดทน จริงๆแล้ววิธีการของฟางกั๋วเทาก็ไม่ได้พิเศษอะไร แม้บริสุทธิดั้งเดิมจะมีผลอยู่บ้าง แต่มันขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นหลัก   นักเรียนทั้งหมดที่ฟางกั๋วเทาเลือกมานั้นมักจะเป็นคนที่ขี้อายและขาดความมั่นใจ พูดง่ายๆก็คือคนพวกนี้มักจะเพิ่มขีดจำกัดของตัวเองได้ง่ายมาก เมื่อพวกเขาได้รับความมั่นใจเพิ่มขึ้น ยิ่งกว่านั้นในวิชา บริสุทธิดั้งเดิม ก็มีเคล็ดลับคล้ายๆกับโอเวอร์โหลด ดังนั้นมันไม่ได้ยากที่จะทำให้คนพวกนั้นพัฒนาขึ้นหลังจากฝึกได้แค่แปปเดียว   การสาธิตแบบนี้หานเซิ่นเองก็ทำได้เหมือนกัน ดังนั้นมันทำให้เขารู้สึกเบื่อมาก   ถ้าไม่มีคำพูดชวนเชื่อและคำพูดกระตุ้น บริสุทธิดั้งเดิมก็ไม่สามารถเทียบกับโอเวอร์โหลดได้เลย   การให้คำแนะนำตามหลักจิตวิทยา ทำให้คนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่หานเซิ่นไม่ได้สนใจแนวคิดนั้น แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องยอมรับว่า บริสุทธิดั้งเดิม นั้นมีประโยชน์กับคนประเภทที่ขาดความมั่นใจ   หานเซิ่นตัดสินใจกับไปฝึกที่ห้องฝึกแรงโน้มถ่วงต่อ   ในสายตาของฟางกั๋วเทา อยู่ๆหานเซิ่นก็ลุกขึ้นมา และกำลังจะเดินออกไป ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆต่างก็นั่งฟังเขากันหมด   “นักเรียนคนนั้น เธอจะไปเข้าไปลองบริสุทธิดั้งเดิมในห้องฝึกแรงโน้มถ่วงใช่ไหม? โปรดรอสักครู่ มันมีเคล็ดลับที่เธอต้องทำความเข้าใจก่อน เชิญมาตรงนี้ ฉันจะสอนเคล็ดลับให้เธอเอง” ฟางกั๋วเทาคิดว่าหานเซิ่นได้รับแรงกระตุ้นจากคำพูดของเขา จนอยากจะไปลองเอง เขาเลยต้องการแนะนำหานเซิ่นก่อนที่จะใช้ห้องฝึกแรงโน้มถ่วง