Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 332 ชี้แนะ
Super God Gene – ตอนที่ 332 ชี้แนะ

หลังจากกระโดดจากหน้าผา หานเซิ่นก็เรียกปีกของเขาออกมา เต่ามองลงไปข้างล่างหน้าผา และหันไปรอบๆ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ต้องการจะตามหานเซิ่น   เมื่อหานเซิ่นเข้ามารวมกลุ่มกับคนอื่นๆที่เหลือ ทุกคนก็ดีใจกันมาก “หานเซิ่น ที่พวกเรารอดชีวิตมาได้ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เธอเกือบถูกฆ่า” ซุนหมิงฮว่ารู้สึกผิดมาก   “มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ศาสตราจารย์ นี่เป็นเพราะผมคนเดียว หานเซิ่น คุณจะลงโทษผมยังไงก็ได้ตามที่คุณต้องการ” หลู่หมิงต๋าพูด   จินรื่อเจี๋ยต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกหานเซิ่นขัดจังหวะซะก่อน “พวกเราทุกคนแค่พยายามจะปกป้องศาสตราจารย์ พวกนายแค่ไม่รู้ว่าเต่าตัวนั้นมันน่ากลัวขนาดไหน แค่รอดตายก็ถือว่าโอเคแล้ว”   “หานเซิ่น นายช่วยชีวิตพวกเราทุกคนเอาไว้ พวกเราเป็นหนี้นายแล้ว ถ้านายต้องการอะไรก็บอกมา พวกเราจะช่วยนายทุกอย่าง” จินรื่อเจี๋ยพูดอย่างจริงจัง   หลังจากปรึกษากันแล้ว กลุ่มของพวกเขาก็ตัดสินใจกลับไปที่เมืองกลอรี่ เพื่อพักและประชุมวางแผนกันใหม่ ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปหาเต่าอีกครั้ง   หานเซิ่นใช้โอกาสนี้กลับไปเหยี่ยวดำ เขารีบล็อคอินเข้าไปในกลาดิเอเตอร์ เขาเปิดรายชื่อเพื่อนขึ้นมา และเห็นว่าควีนออนไลน์อยู่ หานเซิ่นรู้สึกดีใจมาก และเขารีบส่งคำท้าสู้ไปทันที   เทคนิคการไคท์ติงที่เขาลอกเลียนแบบควีนมายังมีจุดผิดพลาดอยู่มาก มีหลายๆจุดที่เขาไม่เข้าใจและต้องแก้ไข   ถ้าเขาสามารถใช้เทคนิคการไคท์ติงได้ระดับเดียวกับควีนละก็ เขาแทบไม่ต้องพึงพาความเร็วเลย ดังนั้นหานเซิ่นปรารถนาว่าเขาจะได้สู้กับควีนอีก เพื่อสังเกตเทคนิคของหล่อน   แต่หานเซิ่นก็ไม่รู้ว่าควีนจะยอมรับคำท้าหรือเปล่า เพราะระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาแตกต่างกันมาก ถ้าควีนสู้กับเต่า หล่อนจะสามารถฆ่าเต่าได้อย่างง่ายดาย   หานเซิ่นลองประมานดูแล้วว่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดน่าจะมีระดับความแข็งแกร่งอยู่ประมาน 40 ขณะคนที่แข็งแกร่งที่สุดในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 มีระดับความแข็งแกร่งไม่เกิน 20 ซึ่งมันยังไม่พอที่จะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้   สำหรับผู้วิวัฒนาการที่มีระดับความแข็งแกร่งเกิน 100 แบบควีน น่าจะสามารถฆ่าเต่าได้ไม่ยาก   แต่ผู้วิวัฒนาการแล้วไม่สามารถกลับไปที่ก็อตเเซงชัวรี่เขต 1 ได้ นอกจากพวกเขาจะพึ่งวิวัฒนาการใหม่ๆ แต่สำหรับคนที่ยังไม่เป็นผู้ยังวิวัฒนาการหรือพึ่งจะวิวัฒนาการใหม่ ก็ไม่น่าจะมีใครที่สู้กับเต่าได้   หานเซิ่นไม่รู้ว่าหล่อนจะยอมรับคำท้าหรือเปล่า แต่เขาต้องการสู้มาก อย่างน้อยเขาก็ขอให้ได้สู้อีกสักครั้ง   เมื่อเห็นว่าหานเซิ่นท้าสู้มา ควีนก็นิ่งไปสักพัก หล่อนตั้งค่าไว้ว่าจะไม่รับคำท้าจากคนแปลกหน้า และเธอก็ไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับคำท้าต่อสู้   เมื่อเห็นว่าทหารคนหนึ่งบนยานรับท้าสู้มา ควีนลังเลก่อนที่จะกดตกลง   หานเซิ่นดีใจมากที่ควีนกดตกลง เขากำลังจะได้เห็นเทคนิคการไคท์ติงอันน่ามหัศจรรย์ของหล่อนอีกครั้ง หลังจากการนับถอยหลังเสร็จสิ้น หานเซิ่นก็วิ่งเข้าใส่หล่อนทันที เขาไม่กล้าที่จะรอให้หล่อนเป็นฝ่ายโจมตี ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาแตกต่างกันเกินไป ซึ่งเขาจะแพ้ทันทีถ้าถูกหล่อนโจมตี ในตอนนี้ระดับความแข็งแกร่งของเขามีเพียงแค่ 30 ขณะที่ควีนน่าจะมีประมาน 100   ควีนเพียงแค่หลบการโจมตีเหมือนกับครั้งที่แล้ว หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้น เขาออกหมัดใส่หล่อนอีกครั้ง และเคลื่อนที่ไป 1 ก้าว ควีนรู้สึกประหลาดใจ หมัดและการเคลื่อนที่ของหานเซิ่นนั้นไม่ธรรมดาเลย แม้เขาจะไม่ได้เร็วมากในสายตาเธอ แต่เธอก็รู้สึกประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวของเขา   การเคลื่อนที่ของหานเซิ่นตอนนี้เกือบจะเหมือนเทคนิคไคท์ติงของเธอ ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะต้อนให้หานเซิ่นเข้ามุม   ‘เขากำลังเลียนแบบเรางั้นหรอ?’ ควีนมองหานเซิ่น เธอสังเกตเขาอย่างละเอียด   ไม่นานเธอก็มั่นใจว่าหานเซิ่นกำลังลอกเลียนแบบเทคนิคไคท์ติงของเธอ ถึงจะมีจุดบกพร่องและการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นอยู่บ้าง แต่มันก็ถือว่าน่าอัศจรรย์มากที่เขาทำได้ถึงขนาดนี้ในเวลาอันสั้น   ควีนยังไม่รีบจบการต่อสู้ เธอต้องการเห็นฝีมือของหานเซิ่นให้มากกว่านี้   เทคนิคไคท์ติงมันไม่ได้เป็นวิชาลับอะไร ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ แต่มันยากที่จะเชี่ยวชาญ   มันเหมือนกับการเล่นหมากล้อม ใครก็ตามที่รู้กฎของมันก็สามารถเล่นได้หมด แต่การจะเล่นให้เก่งนั้นยากมาก   ควีนถนัดเทคนิคนี้มาก อย่างน้อยๆในบรรดาคู่ต่อสู้ที่เธอเคยสู้มาก็ยังไม่เคยมีใครใช้เทคนิคนี้ได้ดีกว่าเธอ   ฟอร์มของหานเซิ่นตอนนี้ทำให้เธอประหลาดใจ เขายังมีบางจุดที่มั่วๆอยู่ แต่ในสายตาของเธอ เขาก็ถือว่าเข้าใจหลักการของเทคนิคนี้อย่างถ่องแท้ หานเซิ่นแค่เลียนแบบได้เก่งหรือว่าเขามีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ เธอต้องการพิสูจน์ให้เห็นกับตา   หลังจากพิสูจน์ระดับของหานเซิ่น ควีนก็หยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ การมีพรสวรรค์ก็เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น แต่การที่เขาจะไปได้ไกลกว่านี้มันยังต้องมีหลายปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง   ควีนไม่คิดอะไรอีก เธอแค่หลบการโจมตีของหานเซิ่นต่อไป แต่กระนั้นหานเซิ่นกับรู้สึกถึงแรงกดดันมากกว่าเดิม มันเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆสำหรับเขาที่จะคาดเดาการเคลื่อนไหวของควีน   พวกเขาเหมือนนักหมากล้อม 2 คน หานเซิ่นคือผู้เล่นที่ฝีมือด้อยกว่า และการเคลื่อนไหวของเขาก็อยู่ในการคำนวนของควีนหมดแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะโต้กลับไปได้ ไม่นานหานเซิ่นก็ถูกต้อนเข้ามุมอีกครั้งเหมือนกับครั้งที่แล้ว   ปัง! ด้วยลูกเตะของควีน หานเซิ่นถูกส่งออกจากเกม เมื่อเขาเปิดรายชื่อเพื่อนดูเขาพบว่าควีนได้ออฟไลน์ไปแล้ว   แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เขากับรู้สึกตื่นเต้นกว่าที่เคย เขาไม่แน่ใจว่าควีนตั้งใจชี้แนะเขาหรือเปล่า แต่การเคลื่อนไหวแต่ละจังหวะของเธอสามารถบ่งชี้จุดที่ผิดพลาดของเขาได้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกกดดันจนถึงตอนจบ   แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับหานเซิ่น มันถือเป็นเรื่องที่ดี ควีนก็เหมือนกับอาจารย์ของเขา ที่ช่วยเขาหาจุดผิดพลาด   ไม่ว่าหล่อนจะตั้งใจทำแบบนั้นจริงๆหรือไม่ก็ตาม หานเซิ่นก็ต้องขอบคุณควีน เทคนิคไคท์ติงคือสิ่งที่จำเป็นกับเขามากในการล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด   หลังจากดาวน์โหลดวิดีโอการต่อสู้ หานเซิ่นก็ออกจากกลาดิเอเตอร์ และกลับไปที่โรงฝึกของชมรมวอเฟรมหนัก ขณะที่เขากำลังดูวิดีโอ เขาก็ครุ่นคิดอยู่ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของเขาในการใช้เทคนิตไคท์ติง   เป็นความจริงที่ควีนพยายามชี้จุดผิดพลาดให้หานเซิ่น มีคนไม่มากที่จะสนใจฝึกเทคนิคไคท์ติง เนื่องจากหานเซิ่นสนใจมัน เธอก็อยากจะบอกเคล็ดลับให้หานเซิ่นรู้   ‘ถ้าเราสามารถใช้เทคนิคไคท์ติงเพื่อหลบการโจมตีของเต่าได้ละก็ อย่างๆน้อยเราก็ไม่แพ้มัน และเราก็มีโอการฆ่ามันได้ไม่ช้าก็เร็ว’ หานเซิ่นคิดอย่างตื่นเต้น    

Super God Gene – ตอนที่ 331 หลบหลีก
Super God Gene – ตอนที่ 331 หลบหลีก

“หานเซิ่น!” จินรื่อเจี๋ยที่รอดจากความตายได้หวุดหวิด หน้าซีดเหมือนกับกระดาษ เมื่อเห็นหานเซิ่นใช้ค้อนทุบให้เต่า เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นฉากที่น่ากลัวมาก   “อย่ามั่วแต่ยืน รีบหนีเร็ว!” หานเซิ่นพูดขณะจ้องมองเต่าตาไม่กระพริบ   แม้หัวของเต่าจะยุบลงไปเกือบถึงพื้น แต่หานเซิ่นก็ไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บได้ มันเหมือนกับการทุบไปที่ยาง   เหมือนกับที่หานเซิ่นคาดเอาไว้ เต่ายกหัวขึ้นมาอีกครั้ง และหันมาจ้องที่หานเซิ่น ด้วยตาสีเขียวเหมือนกับมรกตของมัน   หานเซิ่นไม่ลังเล เขารีบใช้ค้อนทุบหัวมันอีกครั้ง โดยใช้มนตรานอกรีต ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวเหมือนกับเครื่องยนต์ ทั้งเลือดและพลังภายในของหานเซิ่นเพิ่มขึ้น มีเส้นเลือดปูดขึ้นมาบนผิวหนังของเขา   ค้อนที่แม้แต่หลู่หมิงต๋ายังกวัดแกว่งได้ช้าๆ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถทุบให้โดนเต่า หานเซิ่นเร็วกว่าหลู่หมิงต๋ามาก แต่เขาก็ยังไม่สามารถทุบให้โดนหัวเต่าได้ เขาต้องใช้มนตรานอกรีตและโอเวอร์โหลด ถึงจะสามารถทุบโดนหัวเขามันในตอนที่มันไม่ทันได้ตั้งตัว   แม้การทุบในครั้งที่ 2 หานเซิ่นจะใช้แรงและความเร็วแบบเดียวกับครั้งแรก แต่เต่าก็สามารหดหัวกลับเข้าไปในกระดอง เพื่อหลบการโจมตีของหานเซิ่นได้ทัน   หลังจากที่มันหดหัวกลับ มันก็ใช้เท้ายันพื้น และพุ่งเข้าใส่หานเซิ่นเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่   หานเซิ่นรีบเหวี่ยงค้อนทุบไปที่กระดองเต่า แต่ทว่าเต่ามันก็ยังเร็วพอที่จะกัดค้อน ทำให้มันหักครึ่ง   ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ในมือซ้ายของหานเซิ่นก็คือด้ามของค้อน หานเซิ่นรีบขยับตัวหลบไปทางด้านข้าง ในตอนนี้เต่ามันโกรธจัดแล้ว และเป้าหมายของมันก็คือหานเซิ่น มันตัดสินใจพุ่งเข้าใส่หานเซิ่้นอีกครั้ง   “ยื้อไว้ก่อน พวกเรามาช่วยแล้ว!” จินรื่อเจี๋ยเรียกอาวุธวิญญาณอสูรออกมา และเตรียมที่จะช่วยหานเซิ่น   หานเซิ่นรู้สึกหมดคำพูดเเละคิด ‘พวกนายจะมาอยู่ที่นี่ทำซากอะไร? พวกนายอยากจะโดนเต่านี่ฆ่างั้นหรอ? นี่มันมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด’   “ช่วยทำบ้าอะไร! บอกให้วิ่ง! เดี๋ยวฉันตามไป” หานเซื่นตะโกนออกมา   จินรื่อเจี๋ยหยุดชะงัก และเขาก็รีบวิ่งหนีไปพร้อมกับคนอื่นๆ พวกเขาหันกลับมามองหานเซิ่น ขณะที่กำลังวิ่งหนี   หานเซิ่นหลบเต่าอย่างรวดเร็ว และกลิ้งไปหาค้อนที่ด้ามของมันหักอยู่   แม้ด้ามของมันจะหักไปแล้ว แต่มันก็ยังมีส่วนที่ติดอยู่กับค้อนอยู่ หานเซิ่นจับบริเวณด้ามที่เหลืออยู่ และทุบไปที่เต่าอีกครั้ง   พวกเขาทั้ง 3 คนเข้าไปรวมตัวกับซุนหมิงฮว่า พวกเขายืนดูหานเซิ่นที่กำลังสู้กับเต่าด้วยตัวคนเดียว ค้อนที่หนักอึ้งเป็นเหมือนของเล่นในมือหานเซิ่น มันเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้า   พวกเขาทั้ง 3 คนตะลึง พวกเขารู้ดีว่าค้อนอันนั้นหนักขนาดไหน แม้แต่หลู่หมิงต๋ายังหอบเมื่อใช้มันทุบประมาน 10 กว่าครั้ง และเขาไม่มีทางใช้มันแบบหานเซิ่นได้   “โห ความแข็งแกร่งของเขา…” หลู่หมิงต๋าอ้าปากค้าง   “หานเซิ่นจะไม่เป็นไรใช่ไหม?” ซุนหมิงฮว่ามองหานเซิ่นด้วยสีหน้าเป็นกังวล ถ้าไม่ใช่เพราะหานเซิ่นยื้อเวลาไว้ พวกเขาคงจะตายกันหมดแล้ว   “รอดูสถานการณ์อยู่ตรงนี้ ถ้าเขาไม่ไหวจริงๆ พวกเขาต้องกลับไปช่วยเขา” จินรื่อเจี๋ยกัดฟันและพูด เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ฟังพูดของหานเซิ่น ไม่งั้นพวกเขาคงจะไม่เจอสถานการณ์ที่วิกฤตแบบนี้   “รอเดี๋ยวก่อน บางทีหานเซิ่นอาจจะมีแผนอยู่” จินฉิวหลี่ห้ามจินรื่อเจี๋ยไว้   “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันเอง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันอยากเห็นเต่าใกล้ๆ มันก็คงก็ไม่สังเกตเห็นพวกเรา ฉันต้องขอโทษหานเซิ่น และฉันจะต้องเข้าไปสู้กับเต่านั่นด้วยตัวเอง ฉันจะไม่ให้เขาเสียสละเพื่อพวกเรา” ซุนหมิงฮว่าพูดด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว   “ใจเย็นๆไว้ก่อน ตอนนี้พวกเราต้องหาวิธีช่วยให้หานเซิ่นออกมาให้ได้ก่อน” จินฉิวหลี่พูด   แต่พวกเขาจะหาวิธีอะไรได้? เพราะระดับของเต่ามันอยู่สูงกว่าที่พวกเขาจิตนาการไว้ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรก็คงแก้ปัญหาไม่ได้   แม้จะมีการเสริมพลังจากมนตรานอกรีตกับโอเวอร์โหลด แต่หานเซิ่นก็ยังรู้สึกว่าเขาช้ากว่าเต่า ถึงเขาจะใช้สปาติเคิลในการหลบด้วยก็ตาม   แต่อย่างไรก็ตาม หานเซิ่นรู้สึกว่าการที่เขาฝึกมาอย่างหนักไม่ได้สูญเปล่า เพราะเขาไม่จำเป็นต้องไวกว่าเต่าก็ได้   ในตอนนี้สิ่งที่ช่วยหานเซิ่นได้มากที่สุดก็คือเทคนิคไคท์ติงของควีน(การเคลื่อนไหวพร้อมกับการโจมตี) หานเซิ่นเป็นคนที่มีความสามารถในการคาดการสูงอยู่แล้ว และด้วยเทคนิคนี้ หานเซิ่นสามารถคำนวณได้ว่าเต่าจะกัดยังไง และตำแหน่งไหนที่จะหลบมันได้ทัน   หานเซิ่นต้องคิดกลยุทธ์ในขณะหลบ เขาต้องล่อให้เต่ากัดในจุดที่เขาต้องการ ด้วยวิธีนี้จะทำให้หานเซิ่นหลบการกัดของมันได้ไม่ยาก   แม้หานเซิ่นจะไม่ไวเท่ากับเต่า แต่เขาก็ยังหลบการโจมตีทั้งหมดของมันได้   มันเหมือนกับการหลบกระสุน มีฉากแบบนี้มากมายในหนังแอ็คชั่นหลายๆเรื่อง แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น พวกเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ถ้าไกปืนถูกเหนี่ยวแล้ว ไม่ว่าจะเร็วแค่ไหนก็ไม่มีทางหลบได้   การที่จะหลบมันได้ คนที่หลบจะต้องคาดการล่วงหน้าได้ว่าเมื่อไรคู่ต่อสู้จะยิง และเขาจะต้องหลบออกจากวิถีกระสุนก่อนล่วงหน้า   หานเซิ่นกำลังทำแบบเดียวกัน เพื่อหลบการกัดของเต่า เขาต้องรู้ว่าเต่าจะกัดตรงไหน และหลบมันก่อนล่วงหน้า   เทคนิคของควีนสามารถทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ มันทำให้หานเซิ่นที่ช้ากว่าเต่าสามารถต่อสู้กับเต่าได้   แต่กระนั้นเทคนิคไคท์ติงจะต้องพึ่งพลังจากสมองมาก ภายใต้แรงกดดันจากโอเวอร์โหลด หานเซิ่นไม่สามารถทำแบบนี้ได้นานนัก   หานเซิ่นต้องขอบคุณวิญญาณอสูรแฟรี่ควีนด้วยที่ทำให้การเคลื่อนไหวของเต่าดูช้าลงในสายตาของเขา ซึ่งมันช่วยให้เขามีเวลาคิดกลยุทธ์ได้ดีขึ้น   แต่ทว่าทั้งหมดนี้ก็ยังไม่พอที่จะทำให้หานเซิ่นฆ่าเต่าตัวนี้ได้ หานเซิ่นสู้กับมันด้วยความสามารถทั้งหมดแล้ว เขาทุบเต่าด้วยค้อนที่เป็นเกียร์เลือดศักดิ์สิทธิไปหลายครั้ง แต่พลังที่น่ากลัวของค้อนก็ยังไม่สามารถทำความเสียหายให้เต่าได้แม้จะทุบตรงส่วนที่อ่อนที่สุดก็ตาม   ‘ความแข็งแกร่ง เราต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้!’ หานเซิ่นตะโกนอยู่ในใจ ถึงเขาจะไม่สามารถทำอะไรมันได้ แต่เขาก็ค่อนข้างพอใจที่สามารถสู้กับมันได้นานขนาดนี้   หลังจากหลบการกัดของเต่าอีกครั้ง หานเซิ่นก็วิ่งไปตรงหน้าผา และเขาก็กระโดดลงจากหน้าผาอย่างไม่ลังเล     Facebook Page : SuperGodGene ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 1051 แล้วครับ