Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 321 โอเวอร์โหลด
Super God Gene – ตอนที่ 321 โอเวอร์โหลด

หานเซิ่นนึกถึงการกัดของเต่า ซึ่งมันทั้งเร็วและรุนแรงมาก ในตอนนี้หานเซิ่นไม่มีทางหลบการกัดของมันได้ เขารู้เรื่องนี้ดีโดยไม่ต้องทดสอบ ตราบใดที่เขาอยู่ในระยะการกัดของเต่า เขาต้องตายอย่างแน่นอน   ‘เราต้องเร็วกว่านี้’ หานเซิ่นครุ่นคิดว่าจะทำยังไงเพื่อให้เป็นไปตามทั้ง 2 เงื่อนไข   มนตรานอกรีตสามารถเพิ่มความเร็วและความแข็งแกร่งได้ แต่หานเซิ่นยังฝึกขั้นที่ 3 ไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาคงต้องหาทางอื่น   สปาติเคิลไม่ได้อยู่ในตัวเลือก เขาต้องการฟุตเวิร์คที่เร็วยิ่งกว่านั้น อย่างน้อยก็ต้องเป็นฟุตเวิร์คที่เร็วพอจะหลบการกัดของเต่าได้ ไม่งั้นมันก็จะไร้ความหมายต่อให้มีพลังโจมตีที่รุนแรงมาก ขั้นแรกเขาต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ก่อน หานเซิ่นยังไม่กลับไปที่สตีลอาเมอร์ เขาซ่อนหอกของบีทเทิลไนท์และมีดของโครงกระดูกไว้ในถ้ำแห่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็เข้าไปในเมืองกลอรี และเทเลพอร์ตกลับไปที่เหยี่ยวดำ   เกียร์ไม่เหมือนกับวิญญาณอสูรที่สามารถนำออกจากก็อตแซงชัวรี่ได้ และเนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ในสตีลอาเมอร์เลยไม่สามารถนำมันไปเก็บไว้ในห้องได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือซ่อนมันไว้   หลังจากกลับมาโรงเรียน หานเซิ่นก็ล็อคอินเข้าไปในแพลตฟอร์มของหน่วยพิเศษ ตอนนี้หานเซิ่นมีคะแนนมากกว่า 100 คะแนน ในฐานะหัวหน้าหน่วย ดังนั้นมันไม่น่ายากสำหรับเขาที่จะหาซื้อใบอนุญาตระดับSของสถาบันเซนท์ หานเซิ่นลองไล่หาข้อมูลวิชาไฮเปอร์จีโนระดับSอย่างช้าๆ และหวังว่าจะเจอวิชาที่พอเป็นประโยชน์   แต่กระนั้นมันก็ยากที่จะหาวิชาฟุตเวิร์คที่เร็วกว่าสปาติเคิล เพราะสปาติเคิลคือหนึ่งในวิชาฟุตเวิร์คระดับท็อปของผู้ยังไม่วิวัฒนาการ   แม้จะมีเทคนิคมากมายในพาโนราม่า แต่พวกมันก็ล้วนแต่เป็นเทคนิคขั้นพื้นฐาน ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้มากเท่าที่หานเซิ่นต้องการ พาโนราม่ายังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่จะเร่งฝึกตอนนี้ มันคือวิชาที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาในระยะยาว   การจะพัฒนาพลังได้ในระยะเวลาอันสั้น ควรจะต้องเป็นวิชาแบบเดียวกับมนตรานอกรีต   หานเซิ่นลองไล่ดูวิชาฟุตเวิร์คระดับSทั้งหมด แต่เขาก็ไม่พบวิชาที่ดีกว่าสปาติเคิลเลย แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ยังไม่ยอมแพ้ เขายังคงหาต่อไปเรื่อยๆ เขาตัดสินใจว่าถ้าหาไม่เจอจริงๆเขาจะถามไป๋อี้ซาน   แต่หานเซิ่นก็ต้องประหลาดใจ หลังจากที่เขาไล่ดูวิชาฟุตเวิร์คเกือบทั้งวัน เขาก็เจอวิชาไฮเปอร์จีโนที่มีชื่อว่า โอเวอร์โหลด (Overload) ซึ่งทำให้เขามีความหวังขึ้นมา   หลักการของโอเวอร์โหลดคือการทำให้ร่างกายของมนุษย์ทำงานเกินขีดจำกัด มันจะเผาผลาญพลังงานของผู้ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกาย ยิ่งร่างกายได้รับภาระหนักเท่าไหร่ ผู้ใช้ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น   มันเหมือนกับการโอเวอร์คล็อกซีพียูในคอมพิวเตอร์ การที่ทำมันทำงานมากกว่าปรกติ ประสิทธิภาพของมันก็จะสูงกว่าที่โรงงานตั้งมา ความเร็วในการโอเวอร์คล็อกมีตั้งแต่ 2.0 3.0 หรือแม้แต่สูงกว่า 3.5   แต่อย่างไรก็ตามหลังจากทำแบบนั้น ร่างกายจะต้องรับภาระที่หนัก การใช้โอเวอร์โหลดบางครั้งอาจจะทำให้หมดสติได้เลย ยิ่งถ้าใช้เกินกว่าที่ร่างกายรับไหวอาจจะทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพ   ในทางเทคนิคโอเวอร์โหลดสามารถเพิ่มความสามารถของมนุษย์ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ตราบใดที่ร่างกายรับภาระไหว แต่ถ้าหากรับไม่ไหว และยังฝืนใช้การขีดจำกัดก็อาจจะทำให้ผู้ใช้ตายได้   ระดับความแข็งแกร่งคือตัวแปรสำคัญในการฝึกโอเวอร์โหลด ยิ่งมีสภาพร่างกายดีก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพได้มาก ซึ่งผู้ใช้ต้องมีความสามารถในการควบคุมร่างการและพลังด้วย ไม่งั้นแล้วร่างกายอาจจะถูกทำลายระหว่างใช้   หานเซิ่นไม่มีเวลาคิดอีกแล้ว โอเวอร์โหลดคือวิชาเดียวที่เพิ่มประสิทธิภาพของเขาให้สูงขึ้นได้ในเวลาอันสั้น   แถมมันยังเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายได้โดยตรงยิ่งกว่ามนตรานอกรีตซะอีก โอเวอร์โหลดสามารถเพิ่มความเร็วและความแข็งแกร่งได้ในชั่วพริบตา แต่มนตรานอกรีตดีกว่าตรงที่เวลาใช้ไม่มีผลข้างเคียง ขณะที่โอเวอร์โหลดมีอันตรายในการใช้งาน   ด้วยโอเวอร์โหลด หานเซิ่นไม่ต้องเรียนวิชาฟุตเวิร์คอื่นอีกแล้ว ถ้าเขาใช้โอเวอร์โหลดกับสปาติเคิลพร้อมกัน เขาน่าจะหลบการกัดของเต่าได้   หานเซิ่นใช้ 30 คะแนนหัวหน้าหน่วยพิเศษในการซื้อโอเวอร์โหลด ซึ่งมันทำให้เขามีความสุขมาก เขาจะจ่ายทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นได้   ความคิดที่จะวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยขั้นสุดยอดเป็นคนแรก ทำให้หานเซิ่นมีไฟมาก   ยาปรับปรุงพันธุกรรมของโอเวอร์โหลดจะถูกส่งมาที่เหยี่ยวดำในวันรุ่งขึ้น ดังนั้นหานเซิ่นเลยดาวน์โหลดวิธีการฝึกโอเวอร์โหลดมาก่อน   “เซิ่น นายกำลังทำอะไร?” ซื่อจื้อคังเห็นหานเซิ่นอยู่ในหอพัก   “ฉันกำลังหาวิชาไฮเปอร์จีโนสำหรับฝึกอยู่” หานเซิ่นตอบ   “นายพอจะมีเวลาว่างไหม? ช่วยอะไรฉันหน่อย” ซื่อจื้อคังพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน   “ให้ช่วยอะไร? ถ้ามันไม่เสียเวลาก็พอช่วยได้” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   “ไม่เสียเวลา มันน่าจะเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับนาย” ซื่อจื้อคังพูดขณะกอดคอหานเซิ่น “นายเข้าไปเล่นในกลาดิเอเตอร์บ่อยๆใช่ไหม?”   “ใช่ มีอะไรหรอ? ถ้านายอยากลองดูบ้าง นายก็สามารถสมัครไอดีและลองดูได้เลย ค่าธรรมเนียมการสมัครก็ถูกๆ” หานเซิ่นไม่เข้าใจว่าซื่อจื้อคังจะให้ช่วยอะไร   “ฉันเป็นสมาชิกเรียบร้อยแล้ว.. แต่นายก็รู้ว่าฉันไม่ใช่นักสู้ที่เก่ง..” ซื่อจื้อคังพูดติดอ่าง   “งั้นนายก็ฝึกให้เยอะๆ นายไม่ได้สมัครมันเพื่อฝึกรึไง?” หานเซิ่นถาม   “มันไม่ทันแล้วอะดิ ฉันถึงต้องมาขอให้นายช่วยนี่ไง” ซื่อจื้อคังหน้าแดง และบอกหานเซิ่นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น   “แฟนของนายไม่ได้อยู่หน่วยวอเฟรมหรอ? หล่อนย้ายไปอยู่หน่วยศิลปะป้องกันตัวตั้งแต่เมื่อไหร่” หานเซิ่นมองซื่อจื้อคังตั้งแต่หัวจรดเท้า ชายรูปร่างกำยำคนนี้มีเทคนิคการจีบผู้หญิงที่ดีกว่าหานเซิ่นมาก เท่าที่หานเซิ่่นรู้ซื่อจื้อเปลี่ยนแฟนมา 6 คนแล้ว   ตอนนี้แฟนของซื่อจื้อคังเป็นนักเรียนหน่วยศิลปะการป้องกันตัว และเธอมักจะเข้าไปเล่นกับเพื่อนในกลาดิเอเตอร์บ่อยๆ แม้ซื่อจื้อคังจะมีร่างกายที่แข็งแรง แต่เขาก็สู้คนจากหน่วยศิลปะการป้องกันตัวไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องการให้หานเซิ่นช่วย   “ก็ได้ ยังไงฉันก็ต้องเข้าไปในกลาดิเอเตอร์อยู่แล้ว” หานเซิ่นยอมตอบตกลง  

Super God Gene – ตอนที่ 320 เต่า
Super God Gene – ตอนที่ 320 เต่า

ในภูเขาทองแดง หานเซิ่นกำลังไล่ตามเต่าอยู่ ซึ่งมันกำลังไล่กินผลไม้ไปทั่วภูเขา แม้บางครั้งบริเวณที่มันไปจะไม่มีผลไม้อยู่เลย แต่เต่าก็ยังจะขุดเห็ดขึ้นมากิน   ยิ่งตามมันหานเซิ่นยิ่งรู้สึกช็อคมากขึ้นเรื่อยๆ โดยทั่วไปพวกมอนสเตอร์จะไม่ค่อยกินมากนัก แต่มอนสเตอร์ตัวนี้กับกินมากผิดปรกติ   ในบรรดามอนสเตอร์ทุกตัวที่หานเซิ่นเคยเห็น ตัวที่กินมากที่สุดก็คือโกลเด้น โกรวเลอร์ และอันดับ 2 ก็คือเต่าตัวนี้   ในระหว่างที่ตามมัน พฤติกรรมของเต่ามันแปลกยิ่งกว่าโกลเด้นโกรวเลอร์ โกลเด้นโกรวเลอร์จะกินเพียงแค่มอนสเตอร์ด้วยกันเท่านั้น แต่ทว่าเต่ากับเลือกกินเฉพาะพืชที่ดูแล้วมีคุณภาพ   เมื่อตามเต่าเข้าไปในหุบเขา หานเซิ่นก็ตัดสินใจว่ามันได้เวลาที่จะทดสอบว่าเต่าตัวนี้เป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดจริงรึเปล่า   หานเซิ่นเรียกทอร์นาโดวูฟกลับ และสวมชุดเกราะด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ เขาชักดาบเพชรออกมา และใช้วิญญาณอสูรเดวิลซอร์ดเสริมพลังให้กับดาบ   จากนั้นเขาก็เรียกวิญญาณอสูรเฟลมเลฟเทนแนนท์ออกมา ซึ่งมันลอยตามหานเซิ่นไป และทำให้วิญญาณอสูรอื่นๆของหานเซิ่นถูกย้อมด้วยสีแดงของเปลวไฟ   หานเซิ่นเปลี่ยนร่างเป็นนักฆ่ากระหายเลือด และใช้มนตรานอกรีตเปลี่ยนให้หัวใจของเขาเต้นเร็วและสูบฉีดเลือดราวกับเครื่องยนต์   หานเซิ่นเสริมพลังทุกอย่างที่พอจะทำได้ตอนนี้ การเผชิญหน้ากับเต่าที่อาจจะเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด หานเซิ่นไม่กล้าประมาท   แม้แต่ลูกโกลเด้นโกรวเลอร์เกิดใหม่ยังแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวเต็มวัย   หานเซิ่นถือดาบเพชรด้วยมือทั้ง 2 ข้าง และพุ่งเข้าไปหาเต่า เต่ารู้ว่าหานเซิ่นเดินตามมานานแล้ว มันหันมาที่หานเซิ่นทันที และใช้ตาที่เหมือนกับมรกตของมันจ้องมาที่หานเซิ่น   หานเซิ่นใช้ดาบเพชรฟันมันด้วยความเร็วที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ นี่คือการโจมตีที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขาทำได้ในตอนนี้แล้ว แม้ซินเสวียนมาอยู่ตรงนี้ เธอก็ไม่มีทางรับมือกับการโจมตีนี้ได้อย่างแน่นอน   แต่ทว่าการโจมตีของเขามาได้แค่ครึ่งทาง เต่าก็ยืดคอของมันทันที จากนั้นมันก็ใช้ปากของมันกัดไปที่ดาบเพชรของหานเซิ่น   หานเซิ่นหน้าซีด เขาพยายามที่จะดึงดาบกลับมา แต่เขาไม่สามารถดึงมันกลับมาได้   ปากของเต่าเหมือนกับคีม มันกัดดาบเพชรไว้แน่น ในเวลาต่อมาหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงแตกหัก   ดาบเพชรที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ และยังได้รับการเสริมพลังจากเดวิลซอร์ดและเฟลมเลฟเทนแนนท์กับหักครึ่งด้วยการกัดของเต่า   หานเซิ่นช็อคมาก เต่าเคี้ยวดาบเพชรที่แตกหัก และกลืนมันลงไป “มอนสเตอร์ขั้นสุดยอด.. มันเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดแน่นอน..” หานเซิ่นตกตะลึง และรีบหันหลังวิ่งหนีทันที มอนสเตอร์ตัวนี้มันเคี้ยวเกียร์เลือดศักดิ์สิทธิเหมือนกับเคี้ยวลูกอมธรรมดาๆ แล้วหานเซิ่นจะไปสู้กับมันได้ยังไง?   เต่าเริ่มเคลื่อนที่ด้วยขาทั้ง 4 ทันที มันวิ่งตามหานเซิ่นมาด้วยความเร็วสูงมาก ความเร็วของมันอาจจะไวกว่าทอร์นาโดวูฟด้วยซ้ำ   “บ้าเอ้ย! ใครมันบอกว่าเต่าตัวนี้ช้า?” เมื่อเห็นเต่าเกือบจะตามทัน หานเซิ่นคิดเต่าตัวนี้จะต้องกัดอีกครั้งแน่ และหานเซิ่นอาจจะไม่สามารถหลบมันได้ด้วยสปาติเคิล   หานเซิ่นขว้างดาบเพชรที่เหลืออยู่ในมือไปที่เต่า จากนั้นเขาก็เรียกปีกเลือดศักดิ์สิทธิออกมา และบินหนีขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว   เต่าอ้าปากรับดาบที่ลอยมา จากนั้นมันก็เคี้ยวดาบและกลืนลงไป   มันจ้องหานเซิ่นที่บินหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าอยู่หลายนาที ก่อนที่มันจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในหุบเขา เพื่อหาอาหารกินต่อ   ขณะกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า หานเซิ่นรู้สึกโล่งอกที่เต่ากลับเข้าไปในหุบเขา เขาพบว่าตอนนี้ทั้งตัวของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ   โชคดีที่เต่ามันกัดดาบเพชรแทนการกัดที่ตัวของเขา ไม่งั้นเขาอาจจะตายไปแล้ว แม้จะสวมชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิอยู่ก็ตาม   “มันคือมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวจริงเสียงจริง” หานเซิ่นมองดูเต่าด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน   ยังดีที่เขาเสียแค่ดาบเพชร ตอนนี้หานเซิ่นไม่มีหวังที่จะฆ่ามันได้เลย หลังจากเห็นความเร็วและความแข็งแกร่งของเต่าตัวนี้   มอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่เหมือนกับเต่าตัวนี้แข็งแกร่งกว่าลูกโกลเด้น โกรวเลอร์มาก   บางที่คนในเมืองกลอรี่ที่บอกว่าเต่าตัวนี้ไม่เร็วนั่นอาจจะเป็นเพราะเต่า มันไม่ได้ไล่ตามพวกเขาจริงจัง   “เหมือนว่าเรายังแข็งแกร่งไม่พอที่จะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ถึงจะใช้การลอบโจมตี แต่ถ้ามีพลังไม่พอที่จะเจาะทะลุตัวมันได้ มันก็ไร้ประโยชน์” ตาของหานเซิ่นลุกเป็นไฟ   แม้เขาจะไม่สามารถฆ่าเต่าตัวนี้ได้ แต่เขาก็มั่นใจ 100% แล้วว่ามันเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด และรู้ว่ามันแข็งแกร่งขนาดไหน   เนื่องจากหานเซิ่นจดจำความแข็งแกร่งของมันได้แล้ว เขาคิดว่าจะกลับก่อน เพื่อหาวิธีที่จะฆ่าและป้องกันมันให้ได้   ตอนนี้หานเซิ่นรู้ว่าถ้าไม่มีชุดเกราะวิญญาณอสูรขั้นสุดยอด คงไม่สามารถป้องกันการโจมตีของเต่าตัวนี้ได้แน่ มี 2 เงื่อนไขที่ต้องทำให้ได้ ถ้าเขาต้องการจะฆ่าเต่าตัวนี้จริงๆ อย่างแรกเขาต้องใช้ฟุตเวิร์คเพื่อหลบการโจมตีของมันให้ได้ และอย่างที่สองเขาต้องแข็งแกร่งพอที่จะใช้อาวุธฟันมันเข้า   เนื่องจากหานเซิ่นยังไม่มีอาวุธวิญญาณอสูรขั้นสุดยอด เขาเลยต้องเน้นพัฒนาร่างกายเป็นหลัก ไม่งั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำอะไรเต่าตัวนี้ได้ แม้จะโจมตีไปที่จุดอ่อนที่สุดก็ตาม   ขณะที่ฟุตเวิร์คแม้สปารติเคิลจะค่อนข้างเร็ว แต่มันก็ยังช้าเกินไปที่จะหลบการกัดของเต่า