Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 315 ทอร์นาโดวูฟ
Super God Gene – ตอนที่ 315 ทอร์นาโดวูฟ

วันที่ 2 ในหนองน้ำแห่งความมืด หานเซิ่นเห็นจากระยะไกลว่ามีเกาะลอยอยู่บนฟ้า เขารู้สึกระทึกใจขึ้นมาทันที เขาคิดว่ามันจะต้องเป็นเกาะลึกลับอย่างแน่นอน มีเกราะลึกลับลอยอยู่เหนือหนองน้ำแห่งความมืด!   เจอเกาะลึกลับก็เท่ากับว่าเจอวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ เมื่อก่อนหานเซิ่นต้องใช้บูมเมอแรงเลือดศักดิ์สิทธิเพื่อฆ่าโฮลี่แองเจิล แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการอาวุธระดับนั้นอีกแล้ว ทั่วทั้งก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ไม่มีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวไหนที่หานเซิ่นฆ่าไม่ได้   หนองน้ำแห่งความมืดเป็นที่ที่ห่างไกลและอันตราย ไม่ค่อยมีคนผ่านมาที่นี่ ดังนั้นหานเซิ่นเชื่อว่าครั้งนี้เขาคงจะไม่มีคู่แข่ง   เขาเรียกวิญญาณอสูรมังกรปีกม่วงออกมา หานเซิ่นบินตรงไปยังเกาะลึกลับ แม้จะมีลมที่รุนแรงก็ไม่สามารถหยุดเขาได้   ครั้งนี้หานเซิ่นใช้มังกรปีกม่วงบินขึ้นไปตรงๆ เขาไม่ได้ทำตัวให้เป็นดอลลาร์ ตอนนี้เขาไม่สนใจมันแล้ว ไม่มีใครเคยเห็นปีกของเขาในสภาพที่ไม่ถูกเกราะทองปกคลุมมาก่อน ยิ่งกว่านั้นทุกคนที่เคยเห็นมังกรปีกม่วงก็วิวัฒนาการไปหมดแล้ว   เมื่อหานเซิ่นบินขึ้นไปถึงเกาะลึกลับ เขาก็ขมวดคิ้ว เพราะเขาได้ยินเสียงการต่อสู้ มีใครบางคนขึ้นมาบนเกาะลึกลับนี้ก่อนเขา   หานเซิ่นเห็นผู้ชายกับผู้หญิง 2 คนกำลังช่วยกันสู้กับหมาป่าขนาดใหญ่ขนสีเงิน หานเซิ่นคิดว่าหมาป่าตัวนี้จะต้องเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่อยู่บนเกาะลึกลับแน่   หานเซิ่นไม่รู้จักผู้ชายและผู้หญิงที่กำลังสู้กับหมาป่าอยู่ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้มาจากสตีลอาเมอร์   บางทีพวกเขาคงจะมาจากเมืองกลอรี่ เพราะสตีลอาเมอร์และเมืองกลอรี่เป็น 2 เมืองที่อยู่ใกล้หนองน้ำแห่งความมืดมากที่สุด   ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีวิญญาณอสูรระดับสูงหลายดวง พวกเขาไม่ได้มีเพียงแค่ปีกเลือดศักดิ์สิทธิเท่านั้น แต่พวกเขายังมีอาวุธและชุดเกราะระดับเลือดศักดิ์สิทธิด้วย   ยิ่งกว่านั้นพวกเขาทั้ง 2 คนยังเปลี่ยนร่างด้วยวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ วิญญาณอสูรที่พวกเขาใช้ทำให้หานเซิ่นช็อค   แต่ถึงพวกเขาจะมีวิญญาณอสูรสุดหรู แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะหมาป่าสีเงินได้   หมาป่าสีเงินเร็วกว่าพวกเขามาก ขณะวิ่งตัวมันจะเบลอๆเหมือนกับเงา หานเซิ่นบอกได้เลยว่าหมาป่าตัวนี้มันเกินกำลัง 2 คนนั้น   หลังจากดูอยู่ชั่วขณะ หานเซิ่นก็ตัดสินใจที่จะไม่รีบเข้าไป เขายิ้มและยืนดูอยู่จากระยะไกล   ในตอนนี้เห็นชัดว่าพวกเขาทั้ง 2 คนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมาป่าสีเงิน หานเซิ่นไม่ต้องการให้พวกเขาตาย แต่เขาจะเข้าไปฆ่าหมาป่า หลังจากที่ 2 คนนั้นหนีไปแล้ว   ‘เหมือนว่าเทพีแห่งโชคลาภจะเข้าข้างฉันอีกแล้ว’ หานเซิ่นคิด   ในตอนนี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายพบว่ามันยากขึ้นเรื่อยๆที่พวกเขาจะสู้กับหมาป่าตัวนี้ และเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นหานเซิ่น พวกเขาก็ไม่ต้องการจะสู้อีกต่อไป   พวกเขาทั้ง 2 คนวิ่งหนีมาทางหานเซิ่น “เพื่อน ผมชื่อหม่าหมิงจวิ้นมาจากเมืองกลอรี่ คุณจะช่วยพวกเราล้มมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวนี้ได้ไหม?” ชายหนุ่มพูดออกมาทันที ขณะวิ่งตรงมาหาหานเซิ่น   “ถ้าพวกเราร่วมมือกันแล้วจะแบ่งของกันยังไง?” หานเซิ่นถาม   “ใครก็ตามที่โจมตีคนสุดท้ายได้ก็ได้ไป” หม่าหมิงจวิ้นพูด   “ตกลง” หานเซิ่นยิ้มและเข้าไปร่วมต่อสู้กับพวกเขา ทั้งหอกและดาบเพชรยังคงอยู่ที่หลังของหานเซิ่น เขายังไม่ใช้พวกมันตอนนี้ เขาเรียกวิญญาณอสูรฉมวก 3 แฉกออกมา และพุ่งเข้าไปหาหมาป่าสีเงิน   หม่าหมิงจวิ้นและซูซินเหมยหันมามองหน้ากัน และรีบเข้าไปร่วมกับหานเซิ่น พวกเขาไม่ได้คิดว่าหานเซิ่นจะบุกเข้าไปตรงๆแบบนี้ ทำให้พวกเขาเริ่มกลัวแล้วว่าหานเซิ่นอาจจะได้วิญญาณอสูรไป   ด้วยการที่มีหานเซิ่นมาช่วยสู้ หม่าหมิงจวิ้นและซูซินเหมยก็รู้สึกกดดันน้อยลง พวกเขาช็อคกับความสามารถในการต่อสู้ของหานเซิ่น เนื่องจากพวกเขาไม่รู้จักหานเซิ่นมาก่อน ทำให้พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นคงไม่ได้มาจากเมืองกลอรี่ ไม่งั้นพวกเขาจะต้องรู้จักหานเซิ่นอย่างแน่นอน   พวกเขาทั้ง 2 คนไม่กล้าที่จะประมาท เพราะกลัวว่าหานเซิ่นจะฆ่าหมาป่าสีเงินได้ก่อน   จริงๆแล้วหานเซิ่นยังไม่ได้ใช้ความสามารถจริงๆของเขา ไม่งั้นแล้วเขาคงจะฆ่าหมาป่าสีเงินได้ตั้งแต่การโจมตีครั้งแรกแล้ว   หานเซิ่นพยายามที่จะฝึกวิชา 13 คมดาบกับหมาป่าสีเงิน เขาไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้ใช้มัน เนื่องจากเขายากที่จะหาคู่ต่อสู้ที่คู่ควรได้ ด้วยการฝึกกับหมาป่าตัวนี้ หานเซิ่นสามารถฟื้นความจำเกี่ยวกับวิชานี้ได้   แต่อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ หมาป่าตัวนี้เป็นของเขา หม่าหมิงจวิ้นกับซูซินเหมยไม่มีโอกาสที่จะฆ่ามันได้   แม้พวกเขา 2 คนจะพยายามอย่างหนักที่จะฆ่าหมาป่าสีเงินให้ได้ก่อนหานเซิ่น แต่หานเซิ่นก็เป็นคนที่จบชีวิตของหมาป่าสีเงินได้ด้วย 13 คมดาบ   หม่าหมิงจวิ้นและซูซินเหมยอึ้ง พวกเขา 2 คนกำลังจะโจมตีอย่างรุนแรงที่สุดเพื่อฆ่าหมาป่าสีเงิน แต่พวกเขาไม่คิดว่าหานเซิ่นจะเคลื่อนไหวทันที หานเซิ่นตัดหัวของหมาป่าสีเงินก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสใช้ท่าไม้ตาย   “ทอร์นาโดวูฟเลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรทอร์นาโดวูฟ เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ”   หานเซิ่นเช็คข้อมูล และพบว่ามันคือวิญญาณอสูรประเภทสัตว์ขี่ หานเซิ่นรู้สึกดีที่ได้สัตว์ขี่ระดับเลือดศักดิ์สิทธิตัวแรก   “ขอบคุณ” หานเซิ่นพูด และเดินไปเก็บซากของทอร์นาโดวูฟ   “รอเดี๋ยวก่อน” หม่าหมิงจวิ้นหยุดหานเซิ่นไว้ทันที   “นายคิดจะกลับคำพูดงั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอย่างสงบ   “เพื่อน พวกเราไม่ได้จะทำแบบนั้น พวกเราแค่อยากจะถามว่านายอยากขายวิญญาณอสูรและเนื้อไหม?” หม่าหมิงจวิ้นถามหานเซิ่น   “ไม่” หานเซิ่นปฎิเสธในทันที   เขายังต้องการจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิอยู่ ถึงเขาไม่ต้องการก็ยังมีโฮลี่แองเจิล   “เพื่อน ถ้านายอยากจะขาย พวกเราสามารถจ่ายราคาที่นายพอใจได้” หม่าหมิงจวิ้นหันไปมองหน้าซูซินเหมย และพูดกับหานเซิ่น   “ฉันไม่สนใจเงิน แต่ถ้านายมีวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิของก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 เราสามารถแลกกันได้” หานเซิ่นพูด   จากการที่ร่วมทำธุรกิจกับหลินเป้ยเฟิง ทำให้ตอนนี้เขามีเงินในบัญชีกว่า 700 ล้านดอลลาร์ บวกกับวิญญาณอสูรกลายพันธ์ที่ได้มาจากสวี่ยู่เหยียนและรังมอนสเตอร์ หานเซิ่นถือว่าเป็นคนที่ร่ำรวยคนหนึ่ง   เขาใช้เส้นสายที่มีในการซื้อวิญญาณอสูรกลายพันธ์ของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ให้แม่ของเขาใช้อยู่ในตอนนี้ ซึ่งมันช่วยหลัวซูหลานได้มาก แต่อย่างไรก็ตามวิญญาณอสูรระดับเลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 หายากมาก ทำให้หานเซิ่นยังไม่มีโอกาสที่จะซื้อมาให้แม่ของเขาได้ เขาคงต้องรอเข้าไปที่นั่นด้วยตัวเองแล้วค่อยไปหาให้เเม่ของเขา    

Super God Gene – ตอนที่ 314 มูชู
Super God Gene – ตอนที่ 314 มูชู

นี่เป็นอีกครั้งที่หานเซิ่นเข้ามาที่หนองน้ำแห่งความมืด ครั้งสุดท้ายที่เขาเดินทางจากเมืองกลอรี่ไปเมืองสตีลอาเมอร์ เขาใช้เวลาประมานครึ่งเดือน   ในครั้งนั้นเขาเดินทางโดยมีเพียงอสูรวัว 3 ตากลายพันธ์สำหรับขี่ และในช่วงที่อยู่ในหนองน้ำแห่งความมืดเขาก็ต้องบิน แต่ครั้งนี้เขาสามารถขี่เหมียวตลอดการเดินทาง ซึ่งแทบไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนกล้าวิ่งเข้ามาขวางหน้าเหมียวเลย   หานเซิ่นพยายามฆ่ามอนสเตอร์ให้น้อยที่สุด นอกจากมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิแล้ว เขาไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น และร็อคเวิร์มเองก็ยังไม่ฟื้นตัวจากความอิ่มในตอนที่เข้าไปกินในรัง ทำให้หานเซิ่นไม่ต้องการเสียเวลาระหว่างทางมาก   ด้วยความเร็วของเหมียว แทบไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนตามทัน แต่กระนั้นเหมียวก็ไม่ใช่สัตว์ที่เอาไว้สำหรับขี่โดยเฉพาะ ถึงมันจะวิ่งได้เร็ว แต่การขี่จะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ หานเซิ่นเลยใช้โอกาสนี้ในการฝึกเทคนิคการยึดเกาะของวิชาพาโนราม่า   หลักสำคัญของเทคนิคนี้ก็คือการติดตามแรงของคู่ต่อสู้ ถึงมันจะเป็นเทคนิคที่คล้ายๆกับดิเวอร์ชั่น แต่การฝึกแตกต่างกันมาก   ดิเวอร์ชั่นคือการใช้แรงของคู่ต่อสู้ แต่ทว่าการยึดเกาะคือการผสานกับพลังของคู่ต่อสู้ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสที่จะปลดปล่อยพลังออกมา   ขณะที่เหมียวย่อตัวลง หานเซิ่นจะเคลื่อนตัวลงไปพร้อมกับเหมียว ทำให้เขาได้รับแรงกระแทกจากการวิ่งของเหมียวน้อยลง   ในฐานะสารานุกรมของสถาบันเซนท์ พาโนราม่าได้รวบรวมหลักพื้นฐานในการใช้แรงและความแข็งแกร่ง ซึ่งหลักพื้นฐานเหล่านั้นสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อที่จะทำให้สมบูรณ์แบบที่สุด หานเซิ่นฝึกมันแม้กระทั่งตอนที่พักด้วย   ถึงเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกให้สมบูรณ์แบบ 100% แต่เขาก็จะพยายามเข้าใกล้กับคำว่าสมบูรณ์แบบให้ได้มากที่สุด   เพราะยิ่งเขาแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีโอกาสที่จะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้มากเท่านั้น จริงๆแล้ววิชาการต่อสู้ส่วนมากก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขีดจำกัดของมนุษย์เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว   สถานะที่อยู่เหนือผู้วิวัฒนาการขึ้นไปก็คือผู้เป็นเลิศ(surpasser) ซึ่งความหมายของมันก็คือคนคนนั้นได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว ผู้เป็นเลิศสามารถบดขยี้ยานอวกาศได้ด้วยมือเปล่า   ขณะที่ควบเหมียวไป ทันใดนั้นหานเซิ่นก็มองเห็นมอนสเตอร์ที่ดูเหมือนกับตะขาบ ซึ่งมันกำลังเคลื่อนที่ไปตามหนองน้ำข้างหน้าเขา   มอนสเตอร์ตัวนี้ยังมีความยาวกว่า 30 ฟุต เปลือกของมันเป็นเงาวาววับสีม่วงคล้ำ ลำตัวของมันแข็งเหมือนกับเหล็ก และขาของมันคมราวกับมีด   ตะขาบสีม่วงเลื่อยไปรัดๆตัวมอนสเตอร์ที่มีลักษณะเหมือนควาย ด้วยขาที่คมกริบของมัน มอนสเตอร์ที่ดูเหมือนควายแทบจะตายในทันที   “ตะขาบตัวนี้น่าจะเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ โชคดีจริงๆ! ถึงตัวมันจะใหญ่ แต่มันก็ไม่น่าจะมีเนื้อมากนัก” หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้นที่เจอมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิทั้งๆที่พึ่งเข้ามาในหนองน้ำแห่งความมืดได้ไม่นาน   ขณะที่ตะขาบยักษ์กำลังจะกินควาย หานเซิ่นก็ชักดาบเพชรออกมา และกระโดดจากหลังเหมียว ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว เขาก็ตัดทั้งตะขาบและควายไปพร้อมๆกัน ตะขาบถูกตัดเป็นชิ้นๆเนื่องจากมันพันรอบตัวควายอยู่   “มูชูเลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่า ไม่ได้รับวิญญาณอสูร เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ”   “ควายแห่งหนองน้ำกลายพันธ์ถูกฆ่า ไม่ได้รับวิญญาณอสูร เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 จีโนพ้อยกลายพันธ์”   แม้จะไม่ได้รับวิญญาณอสูร แต่หานเซิ่นก็ยังตื่นเต้นที่เขาสามารถฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธ์ได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว   เขาเรียกร็อคเวิร์มเลือดศักดิ์สิทธิออกมากินเนื้อควายแห่งหนองน้ำ เห็นได้ชัดเลยว่าร็อคเวิร์มสนใจเนื้อของมูชูมากกว่า แต่ที่สำคัญดูเหมือนมันจะไม่ได้หิวกระหายเหมือนแต่ก่อน มันเหลือเนื้อควายไว้กว่าครึ่งหลังจากที่กินจนพอใจ   หานเซิ่นหาแหล่งน้ำ และนำซากมูชูไปล้างให้สะอาด ก่อนจะแกะเอาเนื้อของมันออกมา   แม้มูชูจะดูน่าเกลียดน่ากลัว แต่เนื้อของมันก็นุ่มเหมือนกับเยลลี่ หลังจากเอามันมาย่าง หานเซิ่นก็ได้กลิ่นหอมน่ากลิ่นทันที   หานเซิ่นเรียกโฮลี่แองเจิลออกมา เธอมองดูบาร์บีคิวที่หานเซิ่นกำลังย่างด้วยใบหน้าที่อยากจะกินมาก   “รออีกหน่อย มันยังไม่สุก” หานเซิ่นพูดและลูบหัวของโฮลี่แองเจิล   เธอไม่พูดอะไร ตาของเธอจ้องมองเพียงแค่บาร์บีคิว ราวกับว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้   แต่เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งจากหานเซิ่น เธอเลยยังไม่สามารถกินมันได้   หานเซิ่นรู้สึกขบขัน สาวน้อยเลือกกินเฉพาะเนื้อระดับเลือดศักดิ์สิทธิเท่านั้น แม้แต่เนื้อระดับกลายพันธ์เธอก็ไม่ชายตามอง   ในตอนนี้หานเซิ่นไม่ได้เก็บเนื้อของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิกลับไปกินเหมือนแต่ก่อน เพราะตอนนี้เขาเกือบจะเก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิเต็มแล้ว และยังไงการล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดก็ต้องใช้เวลาอีกมาก ซึ่งในช่วงนั้นหานเซิ่นก็สามารถล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ และเก็บจีโนพ้อยได้เต็มอยู่แล้ว   ดังนั้นทุกครั้งที่เขามีโอกาส เขาจะให้โฮลี่แองเจิลกินเนื้อเลือดศักดิ์สิทธิด้วย ถ้าหล่อนวิวัฒนาการได้เหมือนเหมียวละก็ หล่อนจะกลายเป็นวิญญาณอสูรขั้นสุดยอด ถ้าถึงตอนนั้นเขาแทบจะไม่ต้องกระดิกนิ้วด้วยซ้ำ เขาสามารถให้หล่อนสู้แทนได้   เมื่อบาร์บีคิวพร้อม โฮลี่แองเจิลก็เริ่มกินเนื้อของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตามที่หานเซิ่นบอกทันที เนื้อชิ้นใหญ่ๆหายไปในชั่วพริบตา   ความหิวกระหายของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธ์เหนือคำบรรยายจริงๆ หานเซิ่นเพิ่งจะกินไปแค่ชิ้นเดียว ขณะที่โฮลี่เเองเจิลกินไป 10 กว่าชิ้นแล้ว และดูเหมือนเธอยังไม่รู้สึกอิ่มอะไรเลย   หานเซิ่นปล่อยให้โฮลี่แองเจิลกินจนพอใจ เขาเก็บเนื้อไว้บางส่วนเพื่อเอาไว้กินระหว่างทาง ในส่วนที่หานเซิ่นกินเข้าไปเพิ่มจีโนพ้อยให้เขาได้อีก ทำให้ตอนนี้หานเซิ่นมีจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิทั้งหมด 79 จีโนพ้อยแล้ว