Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 313 จักรพรรดิคืนชีพ
Super God Gene – ตอนที่ 313 จักรพรรดิคืนชีพ

เมื่อลูกธนูของจิงจี้หยาเกือบจะปะทะกับลูกธนูของหานเซิ่นก็มีบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น ลูกธนูของจิงจี้หยาไม่ได้เคลื่อนที่ออกไปด้านข้าง แต่มันกับพุ่งเข้าหาลูกธนูของหานเซิ่นราวกับโดนแม่เหล็กดูด   ปัง! ลูกธนูปะทะกัน ลูกธนูที่พุ่งช้าๆของหานเซิ่นชนลูกธนูของจิงจี้หยาจนกระเด็นออกไป และมันก็เริ่มเคลื่อนที่เร็วขึ้นอีก   ปัง ปัง ปัง .. ลูกธนูทั้ง 10 ของจิงจี้่หยาถูกลูกธนูของหานเซิ่นชนกระเด็นออกไป ซึ่งความรุนแรงลูกธนูของหานเซิ่นไม่ได้ลดลงเลย แต่มันกับเพิ่มขึ้น   สวบ! ลูกธนูของหานเซิ่นพุ่งไปชนหน้าอกของจิงจี้หยา เมื่อโดนลูกธนูนี้เข้าไป จิงจี้หยาโซเซถอยหลังไปประมาน 3 ก้าว และก็ล้มลงบนพื้น   จิงจี้หยามองลูกธนูที่อยู่บนอกด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ ขณะอ้าปากค้าง   ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสนาม ไม่มีใครคาดคิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ ไม่มีใครเชื่อว่าลูกธนูที่หานเซิ่นใช้ธนู 11.0 ยิงออกมาแบบดูเหมือนไม่จริงจังจะมีพลังที่รุนแรงถึงขนาดนั้น   หานเซิ่นเดินเข้าไปหาจิงจี้หยา และลูบไหล่ของเขา พร้อมกับพูด “จิงจี้หยา ถ้านายต้องการเรียนรู้ลูกธนูหมุนของจริงก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อ ฉันจะสอนให้นายเอง”   หานเซิ่นดึงลูกธนูที่อยู่บนหน้าอกของจิงจี้หยาออกมาเก็บไว้ในซองลูกธนู และเขาก็ซองลูกธนูกับคันธนูไปเก็บไว้ไปที่เดิม จากนั้นเขาก็เดินออกจากสนามยิงธนูไป   จิงจี้หยามองดูหานเซิ่นเดินออกไป เขานั่งนิ่งเหมือนกับคนตาย   “อัจฉริยะก็คืออัจฉริยะ! นี่สิลูกธนูหมุนของจริง” “ฉันก็รู้ว่ามันคงไม่ง่ายที่จะลอกเลียนแบบอัจฉริยะ เหมือนจิงจี้หยาพอจะเลียนแบบเทคนิคบางอย่างได้ แต่ยังไม่เชี่ยวชาญ” “สุดยอดไปเลย หานเซิ่นไม่คิดว่าจิงจี้หยาเป็นคู่ต่อสู้ของเขา เขาเลยเลือกธนู 11.0 แทบจิตนาการไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง ถ้าเขาใช้ธนู 16.0!” “ยอดเยี่ยม! ลูกธนูหมุนแบบเดียวกับที่เขาเอาชนะจิงจี้อู่ได้ และเขาทำมันอีกครั้งด้วยธนูแบบเดิม ซึ่งครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงยิ่งกว่าครั้งก่อน” “…”   เวลาผ่านไปค่อนข้างนานเลยทีเดียวกว่าที่จิงจี้หยาจะฟื้นจากอาการช็อค เมื่อเห็นหานเซิ่นเดินออกไปแล้ว จิงจี้หยาก็ยิ้มอย่างขมขื่น   เขารู้ว่าสภาพของเขาตอนนี้มันน่าขำแค่ไหน เขาเชื่อเสมอว่าที่หานเซิ่นไม่รับคำท้าของเขา เพราะกลัวว่าแพ้ แต่หลังจากที่เห็นการยิงธนูของหานเซิ่นในวันนี้ ทำให้เขารู้ว่าหานเซิ่นไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลย นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นไม่อยากเสียเวลารับคำท้าของเขา   การยิงแบบง่ายๆจากธนูธรรมดาๆ แต่กับมีพลังที่รุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ ‘เขาคู่ควรจะเป็นคนที่เอาชนะพี่ชายของเราได้’ จิงจี้หยาลุกขึ้นยืน เขาไม่ได้รู้สึกเศร้าอีกต่อไป แต่เขากับรู้สึกมีไฟอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในฐานะผู้สืบทอดของตระกูล เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ยิ่งกว่าใคร เขาไม่แม้แต่จะต้องใช้ความพยายาม เพราะเขาไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่คู่ควรเลย แต่ทว่าหานเซิ่นกับทำให้เขารู้สึกเลือดร้อนขึ้น   “ฉันต้องเอาชนะเขาให้ได้!” นี่คือสิ่งเดียวที่จิงจี้หยาคิดอยู่ในหัวตอนนี้   หานเซิ่นเดินกลับไปที่หอพักของเขา และบอกลารูมเมท ก่อนที่เขาจะเทเลพอร์ตไปที่ก็อตเเซงชัวรี่   ในสายตาของคนหลายๆคนการที่หานเซิ่นเอาชนะจิงจี้หยาได้คือเรื่องที่เหลือเชื่อและสุดยอดมาก แต่สำหรับหานเซิ่นมันก็แค่การสอนบทเรียนให้กับเด็กเท่านั้น มันไม่ได้วิเศษอะไร   ด้วยการที่เขาได้แรงบันดาลใจมาจากหอกหมุนของบีทเทิลไนท์ ลูกธนูที่หานเซิ่นยิงออกไปสร้างแรงหมุนเข้าสู่ศูนย์กลางขึ้น และดึงลูกธนูอื่นๆเข้าไปหามัน ด้วยการใช้วิชาคลื่นหยินหยางผสมเข้าไป หานเซิ่นยังสามารถยืมแรงจากลูกธนูอื่นๆของจิงจี้หยาได้อีกด้วย   ลูกธนูทั้ง 10 ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับลูกธนูของหานเซิ่น แต่ตรงกันข้าม มันเพิ่มความรุนแรงให้กับลูกธนูของเขาขึ้นไปอีก ทำให้จิงจี้หยาถูกยิงก่อนที่จะตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น   ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากจิงจี้หยาไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เขาเลยไม่ได้เตรียมรับมือ   หานเซิ่นคิดว่าการดวลเมื่อสักครู่ไม่มีความท้าทายสักนิด ในบรรดาผู้ยังไม่วิวัฒนาการไม่มีใครสามารถต่อกรกับหานเซิ่นได้อีกแล้ว สิ่งเดียวในก็อตแซงชัวรี่ 1 ที่สามารถต่อกรกับหานเซิ่นได้ก็คือมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด   หานเซิ่นไม่ได้สนใจเรื่องราวในโรงเรียนมาก แต่ทว่าในเหยี่ยวดำตอนนี้เขาเป็นฮีโร่ของทุกๆคน   พวกนักเรียนปี 1 ถึงปี 3 รู้จักหานเซิ่นเพียงแค่เรื่องเล่าต่อๆกันมาจากรุ่นพี่ปี 4 แต่การดวลในวันนี้ ทำให้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตา และรู้ว่าใครคือคนที่เก่งที่สุดในโรงเรียนตัวจริง   จักรพรรดิกลับมาอีกครั้งด้วยฝีมือการยิงธนูที่สุดยอดยิ่งกว่าเดิม เหยี่ยวดำยังคงเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ต่อไป “ทำไมเขาถึงไม่เข้าร่วมการแข่งอะไรเลยในช่วงที่ผ่านมา? ถ้าเขาเข้าร่วมเหยี่ยวดำจะได้แชมป์ทุกรายการที่เขาลงแข่ง ด้วยฝีมือที่เหนือมนุษย์ของเขา ถ้ามีเขาอยู่แม้แต่โรงเรียนทหารส่วนกลางก็จะแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย” “เขาไม่ได้เก่งแค่ยิงธนูเท่านั้น เขายังไร้เทียมทานในมวยขาวและดำ รวมถึงวอเฟรมด้วย เขาได้ชื่อเล่นจักรพรรดิจากการแข่งขันมวยขาวและดำ ในตอนที่เขาคนเดียวเอาชนะนักเรียนจากเซนท์แชร์กแมงทั้ง 5 คน โดยทุกคนได้ 0 คะแนนหมด รวมถึงนาลานเฉิงนั่วด้วย” “จริงดิ?” “ฉันจะโกหกทำไม? ถ้าพวกนายอยากจะเห็น ก็ลองไปหาวิดีโอในเน็ตดู มันเป็นการแข่งออนไลน์ เชิญไปดูด้วยตาตัวเอง” …   ชื่อของหานเซิ่นกลายเป็นประเด็นร้อนที่สุดในเหยี่ยวดำตอนนี้ นักเรียนจำนวนมากหาวิธีโอการแข่งเก่าๆของหานเซิ่นมาดู ทำให้พวกเขายิ่งทึ่งในความสามารถของหานเซิ่นขึ้นไปอีก    

Super God Gene – ตอนที่ 312 ยิงแบบเหนื่อยๆ
Super God Gene – ตอนที่ 312 ยิงแบบเหนื่อยๆ

นักเรียนหลายคนแอบฟังการสนทนาของพวกเพื่อนหานเซิ่น แต่ทว่าเมื่อพวกเขาได้ยินหวังเหมียนเหมียนพูด พวกเขาก็มองเธอราวกับว่าเธอเสียสติไปแล้ว   แม้แต่รูทเมทของหานเซิ่นยังรู้สึกว่าคำตอบของหวังเหมียนเหมียนไม่สมเหตุสมผล มันคงเป็นไปไม่ได้ที่หานเซิ่นจะคิดว่าการเอาชนะจิงจี้หยาง่ายขนาดนั้น   ใครก็ตามที่สามารถยิงลูกธนูออกไป 10 ดอกติดต่อกันและ 9 ใน 10 ดอกยังเป็นลูกธนูหมุนไม่มีทางแพ้ง่ายๆแน่ หานเซิ่นจะเอาชนะเขาได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย   พวกนักเรียนที่แอบฟังต่างก็คิดว่าหวังเหมียนเหมียนเป็นแฟนคลับที่หน้ามืดตามัว คำพูดของเธอไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด   ซื่อถูเซียงและเฉินหลิงเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เมื่อเห็นการเลือกของหานเซิ่น เฉินหลิงถามซื่อถูเซียง “โค้ชซื่อถูก ฉันไม่เข้าใจเกี่ยวกับการยิงธนูมากหรอก แต่ว่าธนู 11.0 มันด้อยกว่า 16.0 มากไม่ใช่หรอ?”   ซื่อถูเซียงพยักหน้าและพูด “ถ้าพวกเขาทั้ง 2 คนมีฝีมือระดับเดียวกัน ธนู 16.0 จะได้เปรียบอย่างมหาศาล”   “แล้วทำไมหานเซิ่นถึงได้เลือกธนู 11.0? ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ถึงจะใช้ 16.0ไมได้ แต่อย่างน้อยๆก็น่าจะเลือก 14.0 หรือ 15.0?” เฉินหลิงไม่เข้าใจการตัดสินใจของหานเซิ่น   ซื่อถูเซียงยิ้มอย่างขมขื่นและพูด “ฉันเองก็ไม่เข้าใจ ถ้าจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาเลือกแบบนั้น มันก็คงจะเป็นเขาต้องการเอาชนะทั้งพี่ทั้งน้องด้วยธนูแบบเดียวกัน”   “มันจะเป็นไปได้หรอ?” แม้ว่าเฉินหลิงจะไม่ค่อยรู้เรื่องธนูมาก แต่เธอก็รู้ว่ามันยากมากที่จะเอาชนะจิงจี้หยาได้ด้วยธนูที่ด้อยกว่า   “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ซื่อถูเซียงพยายามพูดให้หานเซิ่นดูดี แต่ใจจริงเธอคิดว่าครั้งนี้หานเซิ่นต้องแย่แน่ๆ   เมื่อเห็นธนูของหานเซิ่น ใบหน้าของจิงจี้หยาก็มืดมนในทันที เขาถาม “พี่ชาย คุณจะใช้ธนูนั่นจริงๆหรอ?”   “ฉันใช้มันไม่ได้หรอ?” หานเซิ่นตอบ   “ได้แน่นอน” จิงจี้หยาสูดลมหายใจเข้าลึก และพยายามสงบจิตสงบใจ เขารู้ว่าการหัวเสียก่อนแข่งจะทำให้เขาเสียเปรียบ แม้เขาจะคิดว่าชนะอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่อยากที่จะประมาทหานเซิ่น   ไม่ว่าหานเซิ่นจะเลือกธนูแบบไหนก็ตาม จิงจี้หยาก็ตัดสินใจที่จะสู้สุดกำลัง เพื่อไม่เปิดโอกาสให้หานเซิ่น   “ถ้านายโอเค งั้นก็มาเริ่มกันเลย” หานเซิ่นไม่ต้องการเสียเวลาไปมากกว่านี้ หลังจากดวลเสร็จ เขาต้องออกเดินทางไปเมืองกลอรี่ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เขาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน   “โอเค” จิงจี้หยาตอบ เขาเดินออกไปห่างจากหานเซิ่น และหยุดเมื่ออยู่ห่าง 220 ฟุต   จิงจี้หยาหันหลังกลับมาพูดกับหานเซิ่น พร้อมกับยิ้ม “คุณเอาชนะพี่ชายของผมได้ที่ระยะนี้ เราจะมาดวลกันภายใต้สถานการณ์เดียวกับตอนนั้นเป็นยังไง?”   จิงจี้หยาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว เขาต้องการแก้แค้นให้พี่ชายของเขาในระยะเดียวกัน   “ตามใจนาย” หานเซิ่นพูด   “โค้ชซื่อถู คุณช่วยเป็นคนให้สัญญาได้ไหมครับ?” จิงจี้หยาถามซื่อถูเซียงด้วยรอยยิ้ม   ซื่อถูเซียงพยักหน้า เธอทำมือให้ทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมพร้อม จากนั้นเธอก็เป่านกหวีดที่แขวนอยู่ที่คอของเธอ   สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่จิงจี้หยาและหานเซิ่น ทันทีที่ได้ยินเสียงนกหวีด จิงจี้หยาก็ยิงลูกธนูออกไป 10 ดอกติดต่อกัน ลูกธนูทั้งหมดพุ่งตรงไปหาหานเซิ่น   เนื่องจากธนูของจิงจี้้หยาเป็นธนู 16.0 ทำให้ลูกธนูพุ่งตรงไปหาหานเซิ่นในชั่วพริบตา   จิงจี้หยารู้ดีแม้ว่าลูกธนูจะถูกยิงออกไปในแนวเดียวกัน แต่พวกมันก็จะเบนออกไป เพื่อป้องกันการหลบหนีของหานเซิ่นทุกทิศทาง ต้องขอบคุณเทคนิคการยิงธนูหมุนของหานเซิ่นที่ทำให้เขาทำแบบนี้ได้   จิงจี้หยาฝึกการยิงลูกธนูหมุนมาอย่างหนัก เขาต้องการเอาชนะหานเซิ่นด้วยเทคนิคของหานเซิ่นเอง เพื่อที่จะกู้ชื่อให้พี่ชาย   หานเซิ่นเห็นสิ่งที่จิงจี้หยาทำ แต่เขาก็ยิงธนูออกไปแบบเหนื่อยๆ มันเหมือนว่าเขาไม่แม้แต่จะรั้งสายธนูให้ตึงด้วยซ้ำ   เขายิงลูกธนูออกไป 1 ดอก จากนั้นหานเซิ่นก็ยืนดูสิ่งที่เกิดขึ้น   “ดูเหมือนหานเซิ่นจะยอมแพ้แล้ว” “เขาไม่ได้ต้องการชนะตั้งแต่แรก ถึงว่าทำไมเขาถึงเลือกธนู 11.0” “อัจฉริยะของเราตกต่ำถึงขนาดนี้เชี่ยวหรอ? นี่เป็นการดวลที่น่าเบื่อมาก” “น่าเสียดายที่จิงจี้หยาอุส่าเห็นว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควร เขาไม่เพียงไม่เคารพคู่ต่อสู้ แต่เขายังไม่เคารพตัวเองด้วย” “นี่เป็นอัจฉริยะคนเดียวกับที่ฉันเคยเคารพบูชารึเปล่า?” “ดูเหมือนเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนหลังจากที่เขาหายตัวไป”   ซื่อถูเซียงเองก็รู้สึกผิดหวังมากเช่นกัน ตามที่เธอจำได้หานเซิ่นไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาไม่มีทางยอมแพ้แบบนี้ แต่กระนั้นเธอก็ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตา ซื่อถูเซียงคิดจักรพรรดิธนูจบสิ้นแล้วหรอ?   แม้แต่จิงจี้หยาก็อึ้งกับการกระทำของหานเซิ่น เขาต้องการเอาชนะหานเซิ่น แต่ไม่ใช่แบบนี้ หานเซิ่นเป็นแค่พวกขี้แพ้ และไม่ยอมต่อสู้อย่างจริงจัง มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเขาเอาชนะหานเซิ่นได้แบบนี้? มันยิ่งจะทำให้พี่ชายของเขาดูแย่ยิ่งกว่าเดิม   ถ้าจิงจี้อู่แพ้ให้กับอัจฉริยะ เขายังพอทำใจรับได้ แต่ตอนนี้เหมือนกับจิงจี้อู่แพ้ให้กับพวกขยะเท่านั้น   แต่หานเซิ่นตรงกันข้ามเลย เขาดูพอใจกับลูกธนูที่ยิงออกไปมาก พลังของลูกธนูหมุนไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วหรือความรุนแรงในการยิง แต่มันขึ้นอยู่กับการหมุน   ถึงลูกธนุหมุนของจิงจี้หยาจะดูสุดยอดมาก แต่ในสายตาของหานเซิ่น ลูกธนูพวกนั้นมันไม่ค่อยจะหมุนเท่าไหร่   แม้ลูกธนูที่หานเซิ่นยิงออกไปจะไม่เร็ว แต่มันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังหมุนที่จิงจี้หยาก็ยังไม่อาจจะจินตนาการได้   ยิ่งกว่านั้นการยิงของหานเซิ่นยังใส่ความเข้าใจการหมุนและวิชาคลื่นหยินหยางในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้ว่ามันจะไม่เร็ว แต่หานเซิ่นก็รู้สึกพอใจกับลูกธนูที่ยิงออกไป   ลูกธนูที่จิงจี้หยายิงมาดอกแรกเกือบจะสัมผัสกับลูกธนูของหานเซิ่น   ผู้ชมทุกคนพึ่งจะเห็นสิ่งที่จิงจี้หยาโชว์ไปก่อนหน้านี้ พวกเขารู้ว่าลูกธนูของจิงจี้หยานั้นสามารถโค้งหลบลูกธนูของหานเซิ่นได้แน่ ดังนั้นถึงหานเซิ่นจะยิงลูกธนูหมุนออกมาเช่นกัน แต่มันก็ไม่น่าจะเปลี่ยนอะไรได้     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 975 แล้วครับ