Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 299 ลูกค้าที่ยุ่งยาก
Super God Gene – ตอนที่ 299 ลูกค้าที่ยุ่งยาก

หวงอวี้เล่ยเดินออกมาจากเครื่องจำลองภาพโฮโลแกรมส่วนบุคคลอย่างใจลอย เขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่มันพึ่งจะเกิดขึ้นกับเขา   ใครบางคนมีฝีมือเทียบเขาไม่ได้ แต่ทว่าเขาไม่ใช่เพียงแค่พลิกเกมกลับมาชนะได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถลอกเลียนแบบวิชาลับ 13 คมดาบที่แสนภูมิใจของเขา   ‘เป็นไปไม่ได้.. นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ไม่ว่าจะมีพรสวรรค์ขนาดไหน แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะเรียนวิชา 13 คมดาบได้ใน 1 ชั่วโมง นี่มันบ้าชัดๆ โดยเฉพาะความไหลลื่นของการเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน มันไม่ใช่จะฝึกกันได้ง่ายๆ’ หวงอวี้เล่ยคิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่าง ใบหน้าของเขาก็มืดมนทันที   “ไอ้หนุ่มนั้นมันต้องรู้วิชา 13 คมดาบอยู่ก่อนแล้วแน่ๆ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ไอ้หนุ่มนั้นมันต้องการยั่วโมโหฉัน ต้องใช้แน่ๆ” หวงอวี้เล่ยโกรธจัด ถ้าแพ้แบบธรรมดาๆ เขาจะไม่รู้สึกโกรธอะไร แต่เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนเล็งเขาเป็นเป้าหมาย เพื่อยั่วโมโหหรือเล่นตลกกับเขาโดยเฉพาะ   แต่กระนั้นหวงอวี้เล่ยก็รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ ‘ทหารคนหนึ่งบนยานรบ’ เพราะวิชาดาบที่หานเซิ่นใช้กลับมานั้น มันดีกว่าที่เขาใช้เองเสียอีก หวงอวี้เล่ยไม่มีความมั่นใจที่จะท้าหานเซิ่นอีกครั้ง   แต่ความพ่ายแพ้อย่างนี้มันก็ยากที่จะลืมไปได้ หลังจากคิดอยู่นาน หวงอวี้เล่ยก็ตัดสินใจโทรไปหาใครบางคน   ไม่นานภาพโฮโลแกรมของชายผมสีแดง อายุพอๆกับหวงอวี้เล่ยก็ปรากฏขึ้นมา   ชายผมแดงยิ้มและพูด “อวี้เล่ย ไม่ได้คุยกันนานเลย ตอนนี้พวกเรากำลังจะมีงานปาร์ตี้ นายสนใจมาร่วมด้วยไหม?”   “พี่จู ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะพูดถึงเรื่องานปาร์ตี้ พี่ใหญ่อยู่ที่นั่นด้วยรึเปล่า?” หวงอวี้เล่ยรีบถามทันที   “พี่สาวไปที่ภัตตาคารควีนเพื่อแสดงโชว์ น่าจะกลับมาดึกๆหน่อย ทำไมนายถามถึงพี่งั้นหรอ?” สวี่จูมองที่หวงอวี้เล่ยด้วยความประหลาดใจ เขากำลังสงสัยว่าทำไมคนที่กลัวพี่สาวของเขาอย่างหวงอวี้เล่ย ถึงถามถึงหล่อนขึ้นมา   “ไม่มีอะไร” หวงอวี้เล่ยรีบพูด เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นเขาก็พูดกับสวี่จูต่อ “พี่ วันนี้ฉันไปเล่นในกลาดิเอเตอร์มา”   “นายพึ่งวิวัฒนาการได้ไม่นานจะใจร้อนไปไหน สีหน้าแบบนั้นแพ้มาใช่ไหม?” สวี่จูพูดพร้อมกับยิ้ม มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่หวงอวี้เล่ยจะแพ้ เนื่องจากเขายังมีจีโนพ้อยของก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 ไม่มาก   หวงอวี้เล่ยไม่อยากบอกเรื่องน่าขายหน้าแบบนี้ให้คนอื่นรู้ แต่เขาโกรธจัด และต้องการให้สวี่จูไปแก้แค้นให้ ทำให้เขาจำเป็นต้องบอกความจริงที่เกิดขึ้นให้สวี่จูฟัง   สวี่จูไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่หวงอวี้เล่ยพูดสักเท่าไหร่ เขายิ้ม “อวี้เล่ย ถ้านายต้องการให้ฉันช่วย มันก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่นายจะไม่พูดเวอร์เกินไปหน่อยหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีคนสามารถเรียนรู้ 13 คมดาบได้ใน 1 ชั่วโมง และก็เอาชนะนายได้ด้วยวิชานั้น?”   “ก็นั่นแหละที่ทำให้ฉันโมโหอยู่นี่ไง ไอ้หมอนั่นมันต้องรู้วิชา 13 คมดาบอยู่ก่อนแล้วแน่ สิ่งที่มันต้องการคือยั่วโมโหฉันโดยเฉพาะ ฉันยอมไม่ได้” เมื่อไหร่ก็ตามที่หวงอวี้เล่ยนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เขาก็จะรู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันที   “นั่นก็อาจจะเป็นไปได้ แต่การที่เขารู้วิชา 13 คมดาบ เขาก็น่าจะเป็นคนของเอเรส แต่สถาบันเอเรสก็ใหญ่มากและมีสาขามากมาย เนื่องจากนายไม่รู้จักคนคนนั้น มันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่ว่าจะหาว่าเขาเป็นใคร ฉันเชื่อว่าต้องเป็นคนที่ไม่ชอบหน้านายในสถาบันนั้นแหละ” สวี่จูครุ่นคิดและพูด   “พี่ ฉันพึ่งวิวัฒนาการ แล้วฉันจะไปมีเรื่องขัดแย้งกับใครได้? ถึงฉันอาจจะไปทำให้ใครไม่ชอบหน้า แต่ฉันก็ไม่โงพอที่จะไปมีเรื่องกับคนที่รู้วิชา 13 คมดาบหรอก” หวงอวี้เล่ยพูดต่อ “แค่ล็อคอินเข้ากลาดิเอเตอร์มาก่อนที่หมอนั้นจะล็อคเอ้าท์ ไม่งั้นจะหาเขาไม่เจออีก”   “ฉันไม่มีเครื่องจำลองโฮโลแกรมใกล้ๆเลย ขอเวลาฉันหาแปปหนึ่ง” สวี่จูพูด   “เร็วๆหน่อย” หวงอวี้เล่ยกลัวว่าทหารคนหนึ่งบนยานรบจะล็อคเอ้าท์ออกไปก่อน   หลังจากผ่านไปมากกว่าครึ่งชั่วโมง สวี่จูก็หาสถานีบริการเจอและก็ล็อคอินเข้าไปในกลาดิเอเตอร์ หวงอวี้เล่ยรีบส่งชื่อไอดีของหานเซิ่นให้กับสวี่จูทันที และขอให้สวี่จูท้าเขา   สวี่จูทำตามที่หวงอวี้เล่ยบอก แต่เขาพบว่าหานเซิ่นได้ล็อคเอ้าออกจากกลาดิเอเตอร์ไปเรียบร้อยแล้ว   หวงอวี้เล่ยรู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันทีและพูด “พี่ ฉันก็บอกอยู่ให้รีบๆไง เห็นไหมหมอนั่นมันออกไปแล้ว”   “เอาน่า นายเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าเขาชนะ 4 ครั้งและแพ้เป็นพัน? ดังนั้นเขาก็น่าจะเขามาเล่นบ่อยๆ ฉันแน่ใจว่าเราต้องเจอเขาสักวัน” สวี่จูพูดพร้อมกับยิ้ม หวงอวี้เล่ยจำต้องยอม   หานเซิ่นรีบออกจากกลาดิเอเตอร์ หลังจากที่เอาชนะหวงอวี้เล่ยได้ เพราะเขาต้องการไปสอนวิชา 13 คมดาบให้ซานตันเฟิง เพื่อนสนิทของเขา   เขาสัญญากับซานตันเฟิงไว้นานแล้วว่าถ้าเขารู้วิชาดาบดีๆละก็เขาจะไปสอนให้ ซานตันเฟิงไม่ยอมรับใบอนุญาตระดับSจากหานเซิ่น และเมื่อเขาพยายามสอนวิชามีดของโครงกระดูกให้ แต่ซานตันเฟิงก็ไม่สามารถเข้าใจแก่นของมันได้   วิชาของโครงกระดูกต้องการความยืดหยุ่นและความเข้าใจที่สูงมาก และยิ่งซานตันเฟิงเป็นคนที่ชอบความรวดเร็วและรุนแรง ทำให้เขาไม่ชอบวิชาของโครงกระดูกเท่าไหร่   แต่สำหรับวิชา 13 คมดาบ หานเซิ่นรู้สึกว่ามันเข้ากับซานตันเฟิงมาก หานเซิ่นอยากจะสอนให้เขา เพื่อที่จะให้เพื่อนของเขาได้ก้าวหน้าบ้าง   หานเซิ่นเรียกซานตันเฟิงที่บังเอิญอยู่ในดาวรูก้าพอดี และแสดงวิชา 13 คมดาบให้เขาดูผ่านเครื่องจำลองภาพโฮโลแกรม ซานตันเฟิงตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็น เขาชื่นชอบมันมาก ซานตันเฟิงขอให้หานเซิ่นสอนทุกอย่างเกี่ยวกับวิชานี้   หลังจากที่หานเซิ่นสอนซานตันเฟิงเสร็จมันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว เขาต้องการที่จะรีบไปนอน แต่เขาก็ได้ยินเสียงคอมของเขาดังขึ้นมาซะก่อน   “พวกเรามีลูกค้าที่ยุ่งยาก และไม่มีใครสามารถดูแลเขาได้” หยางม่านลี่พูด   หานเซิ่นขมวดคิ้วและถาม “แม้แต่เธอก็ดูแลเขาไม่ได้งั้นหรอ?”   “อีกไม่นานฉันต้องวิวัฒนาการและไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 แล้ว ดังนั้นหัวหน้า คุณต้องดูแลหน่วยพิเศษเองตั้งแต่ตอนนี้” หยางม่านลี่พูดพร้อมกับกระพริบตา   หยางม่านลี่เป็นคนที่โกหกไม่เก่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอโกหก เธอจะกระพริบตาถี่ๆ เหตุผลจริงๆที่เธอขอให้หานเซิ่นไปดูแลลูกค้าแทนก็เพราะเธอรับมือเขาไม่ไหวจริงๆ เรื่องวิวัฒนาการอะไรน่าจะเป็นข้ออ้างล้วนๆ  

Super God Gene – ตอนที่ 298 ความไหลลื่น
Super God Gene – ตอนที่ 298 ความไหลลื่น

สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ตัดสินใจใช้ 13 คมดาบเป็นครั้งที่ 2 เขาตั้งใจที่จะเอาชนะหานเซิ่นให้เร็วที่สุด แต่ไม่นานเขาก็พบว่ามันไม่ง่ายเหมือนที่เขาคิด   แม้ความเร็วและความแข็งแกร่งของหานเซิ่นจะไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่กระบวนท่าทั้งหมดของเขาตอนนี้มันกับยากที่จะโจมตีให้โดนหานเซิ่น   ครั้งแรกที่เขาใช้ 13 คมดาบ มันยังสามารถฝากรอยแผลจำนวนมากไว้บนร่างหานเซิ่นได้ แต่ทว่าครั้งนี้เพียงแค่ 10 กระบวนท่าแรกเท่านั้นที่ฝากรอยแผลเล็กๆบนร่างหานเซิ่นได้ หลังจากจบ 13 คมดาบครั้งที่ 2 หานเซิ่นก็เหลือ HP 11% ซึ่งมันเหนือกว่าที่เขาคิดไว้มาก   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ไม่เข้าใจว่าทำไมการโจมตีครั้งที่ 2 ถึงได้ผลน้อยลงอย่างน่าใจหาย แต่สิ่งเดียวที่เขาคิดอยู่ตอนนี้ก็คือต้องจัดการหานเซิ่นให้ไวที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ว่ายังไงถ้าเจอ 13 คมดาบครั้งที่ 3 เข้าไป หานเซิ่นต้องไม่รอดแน่   ในการโจมตีรอบที่ 3 หานเซิ่นสามารถป้องกันการโจมตีได้ 11 กระบวนท่า มีเพียงแค่ 2 กระบวนท่าที่สามารถฝากรอยแผลบนร่างหานเซิ่นได้ ทำให้ HP ของเขาลดลงไปอีก 5 %   แม้ HP ของหานเซิ่นจะเหลือเพียง 5 % แต่คู่ต่อสู้ของเขากับช็อคมาก และในครั้งที่ 4 ไม่มีกระบวนท่าไหนเลยที่ทำให้หานเซิ่นบาดเจ็บได้   หานเซิ่นยิ้ม พาโนราม่าได้รวบรวมพื้นฐานของเกือบทุกวิชาเข้าไว้ด้วยกัน ถึงมันจะไม่ใช้เทคนิคระดับสูง แต่พวกมันก็เป็นพื้นฐานของวิชาระดับสูงหลายวิชา ตอนนี้มันกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในขณะที่หานเซิ่นต่อสู้   หานเซิ่นต่อสู้กับสังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่เป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ดังนั้นเขาเข้าใจวิธีการใช้แรงของคู่ต่อสู้เกือบทั้งหมดแล้ว หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เริ่มตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้วิชาดาบคู่อันสุดยอดอย่าง 13 คมดาบ   การต่อสู้นี้คือการต่อสู้ที่เขาได้รับประโยชน์มากที่สุดใน 6 เดือนที่ผ่านมา เพราะคู่ต่อสู้ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าเขาทั้งสิ้น ความแตกต่างของระดับความแข็งแกร่งมีผลสูงมากในการต่อสู้ระดับนี้ คู่ต่อสู้ที่ผ่านมาๆของหานเซิ่นล้วนแต่มีระดับความแข็งแกร่งเกินกว่า 30 ซึ่งทำให้หานเซิ่นยากที่จะเรียนรู้จากพวกเขาได้   ครั้งนี้หานเซิ่นโชคดีเจอคู่ต่อสู้ที่เขาสามารถเรียนรู้ได้ และยิ่งกว่านั้นด้วยระดับความแข็งแกร่งที่ต่างกันไม่มาก ทำให้หานเซิ่นมีเวลาพอที่จะจดจำวิชา 13 คมเพื่อเอาไปใช้ได้   กุญแจสำคัญของวิชา 13 คมดาบคือความไหลลื่น แต่ละกระบวรท่าแทบไม่มีรอยต่อเลย ทั้ง 13 กระบวนท่าแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อโดนไปแล้ว 1 กระบวนท่าก็ยากที่จะหลบกระบวนท่าถัดไป   ในพาโนราม่ามีการฝึกหลากหลายรูปแบบที่สามารถเพิ่มความไหลลื่นในการเคลื่อนที่ได้ ซึ่งหานเซิ่นกำลังฝึกอยู่ แต่กระนั้นก่อนที่จะเริ่มสู้ เขาก็ไม่แน่ใจว่าความไหลลื่นที่ได้รับมันจะมีประโยชน์ยังไง แต่เมื่อเห็นคู่ต่อสู้ใช้วิชา 13 คมดาบ ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจว่าเขาได้อะไรจากความไหลลื่นบ้าง   ขณะที่หานเซิ่นกำลังเรียนรู้ คู่ต่อสู้ของเขาก็เบิกตากว้าง แม้ว่าHPของหานเซิ่นจะเหลือเพียง 5% แต่เขาก็ไม่สามารถโจมตีโดนหานเซิ่นเลย เขาใช้ 13 คมดาบไปมากกว่า 10 ครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้เลย   หลังจากที่กดดันจนคู่ต่อสู้ถอยหลังกับไป หานเซิ่นก็โยนดาบไปในอากาศ และก็เปลี่ยนมาจับดาบแบบเดียวกับที่คู่ต่อสู้ใช้   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่อึ้ง เมื่อเห็นหานเซิ่นเลียนแบบ และในเวลาต่อมาเขาก็แทบจะเป็นบ้า เพราะกระบวนท่าฟันครั้งแรกของหานเซิ่น มันเหมือนกับกระบวนท่าแรกของ 13 คมดาบไม่มีผิด   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ต้องการฆ่าหานเซิ่นให้ได้ในตอนนี้ เขามั่นใจว่าไอ้หนุ่นคนนี้พยายามจะยั่วโมโหเขา ที่เลือกดาบคู่เหมือนกัน มันก็ยังพอจะเข้าใจได้ แต่ตอนนี้เขาถึงขนาดเรียนแบบวิชาลับของเขา   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่รู้สึกโกรธและก็สิ้นหวังในเวลาเดียวกัน 13 คมดาบไม่ใช้อะไรที่จะเลียนแบบกันได้ง่ายๆ เขาต้องเริ่มเรียนพื้นฐานมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และก็เริ่มฝึกมันอย่างจริงจัง ในตอนที่เขาเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ตอนอายุ 16   แม้จะเรียนรู้พื้นฐานมาหลายปี แต่เขาก็ยังต้องใช้เวลาหลายเดือน ถึงจะใช้งาน 13 คมดาบได้จริงๆ แต่ตอนนี้คู่ต่อสู้ของเขาเพียงแค่ได้เห็นมัน 10 กว่าครั้ง มันไม่น่าเป็นไปได้ที่หานเซิ่นจะเลียนแบบมันได้   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่พยายามสงบจิตสงบใจ เขาคิดในทางบวกนี่อาจจะเป็นโอกาสดีของเขา เนื่องจากวิชานี้ไม่ใช่อะไรที่จะลอกเลียนแบบได้ง่ายๆ มันอาจจะทำให้เขามีโอกาสในการโจมตีคู่ต่อสู้ของเขาได้   ถ้าวัดจากความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับ 13 คมดาบแล้ว ถ้าหานเซิ่นใช้กระบวนท่า 13 คมดาบผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว เขาก็สามารถจัดการหานเซิ่นได้ทันที   ด้วยที่หานเซิ่นเหลืออยู่ หานเซิ่นน่าจะถูกจัดการได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว   เมื่อคิดได้เช่นนั้น สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ก็กักเก็บความโกรธของเขาเอาไว้ และดูการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นแบบตาไม่กระพริบ เขาพร้อมที่จะโจมตีปิดฉากทันที ถ้าหานเซิ่นพลาด   โชคร้ายที่สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ประมานคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป ถึงหานเซิ่นจะไม่เคยฝึก 13 คมดาบมาก่อน แต่ที่ผ่านมาเขาก็ทุ่มเทฝึกพาโนราม่าจนได้ความไหลลื่นในการเคลื่อนไหวมา ในตอนแรกเขายังไม่รู้ว่าจะใช้มันยังไง แต่เมื่อเห็นวิชา 13 คมดาบ หานเซิ่นก็เข้าใจแก่นแท้ของความไหลลื่นในการเคลื่อนไหว ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเชี่ยวชาญวิชา 13 คมดาบ