หลังจากการนับถอยหลังเสร็จสิ้น หานเซิ่นและสังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ก็เข้ามาในเกม สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่เลียลิมผีปากตัวเอง และจ้องมองหานเซิ่น ขณะคิด ‘ถ้าฉันไม่สามารถชนะไอ้หนุ่มนี่ได้ละก็ เวลาทั้งหมดที่ฉันลงไปกับการฝึกวิชาดาบอาหรับคงต้องสูญเปล่า’   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ถือดาบในมือทั้ง 2 ข้าง โดยมือข้างหนึ่งถือในลักษณะหันขึ้นปรกติ แต่อีกข้างถือลักษณะหันตัวดาบลงพื้น   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่บุกเข้าหาหานเซิ่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาพุ่งเข้ามาเร็วราวกับสายฟ้า   หานเซิ่นจ้องมองเขาอย่างกระตือรือร้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สู้กับคนที่ใช้ดาบคู่และถือดาบแบบนั้น   หานเซิ่นไม่ได้รู้เทคนิคแบบเดียวกับเขา ทำให้เขายังคงถือดาบแบบปรกติ แต่เขาเองก็ได้เรียนรู้เทคนิคการใช้อาวุธคู่มาจากโครงกระดูกพอสมควร ซึ่งมันเป็นเทคนิคที่ดียิ่งกว่าวิชาไฮเปอร์จีโนระดับSวิชาไหนๆ   แต่อย่างไรก็ตาม หานเซิ่นไม่ได้เข้ามาเล่นที่นี่เพื่อเอาชนะ เขาตั้งใจมาเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ที่หลากหลาย เพื่อความเข้าใจในวิชาพบโนราม่า นั่นเป็นเหตุที่หานเซิ่นแทบจะไม่ชนะเลย   ดังนั้นหานเซิ่นจะไม่พยายามจบเกมให้ไว เขาจะพยายามสังเกตคู่แข่งให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้   ครั้งนี้คู่ต่อสู้ของเขามีทักษะการใช้ดาบที่รวดเร็วและรุนแรง ดาบคู่ของเขาพุ่งเข้ามาทั้ง 2 ทิศทาง แทบเป็นไปไม่ได้ที่หานเซิ่นจะป้องกันมัน   วันนี้หานเซิ่นรู้สึกกระตือรือร้นเป็นพิเศษ เนื่องจากคู่ต่อสู้วันนี้ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเขามากนัก จากที่หานเซิ่นลองประมานระดับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้น่าจะอยู่แถวๆ 25 ถึงจะสูงกว่าเขา แต่ก็ไม่ได้มากจนเกินไป อย่างไรก็ตามทักษะการใช้อาวุธของคู่ต่อสู้นั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ในแบบที่หานเซิ่นกำลังต้องการ   ถ้าคู่ต่อสู้มีระดับความแข็งแกร่งมากเกินไป หานเซิ่นก็จะแพ้เร็วเกินไป ยังไม่ทันได้ศึกษาวิชาที่คู่ต่อสู้ใช้ ทำให้เขาไม่ค่อยได้อะไรจากการต่อสู้   สำหรับคนอย่าง สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ คือคู่ต่อสู้ในอุดมคติ แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย และก็มีเทคนิคการต่อสู้ที่ดีเหมาะกับการเรียนรู้   หานเซิ่นใช้ความตั้งใจมากเป็นพิเศษ เพื่อสู้กับคู่ต่อสู้ด้วยเทคนิคที่เขาเรียนรู้มาจากโครงกระดูก แม้คู่ต่อสู้จะดูเหนือกว่า แต่ก็ยังไม่สามารถทำความสามารถหายที่รุนแรงใส่หานเซิ่นได้   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่เริ่มรู้สึกประหลาดใจกับฝีมือของหานเซิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ ‘ทหารคนหนึ่งบนยานรบ’ เห็นได้ชัดเลยว่ามีระดับความแข็งแกร่งต่ำกว่าเขา แต่ทว่ากับใช้เทคนิคการต่อสู้ที่ประหลาดมาก ทำให้เขารับมือไม่ถูก   ทุกๆการโจมตีและทุกๆก้าวของหานเซิ่น ทำให้คู่ต่อสู้รู้สึกว่าคาดเดาไม่ได้ สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่รู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นนั้นไร้หลักการและมั่วมาก   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่รู้ว่าเขามีระดับความแข็งแกร่งที่สูงกว่า และมีเทคนิคการใช้ดาบที่ถูกหลักการและดีกว่าคู่ต่อสู้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนนี้ได้ ถึงจะได้เปรียบและดูเหนือกว่า แต่เขากับรู้สึกไม่ค่อยดี   ‘ไอ้หมอนี้มันใช้วิชาอะไรเนี่ย?’ ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่าหานเซิ่นไม่ได้เลือกอาวุธตามเขาเพราะต้องการจะล้อเลียน แต่เขาเชื่อว่าหานเซิ่นเองก็ถนัดการใช้ดาบคู่เช่นเดียวกัน   แต่นี่ก็พึ่งจะเริ่มต้น ถึงหานเซิ่นจะมีระดับความแข็งแกร่งน้อยกว่า แต่เทคนิคการใช้ดาบคู่ของเขาน่าอัศจรรย์มาก ทั้งความเร็วและความรุนแรง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ที่จะเอาชนะเขาได้   ‘จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่งั้นเราจะต้องเป็นฝ่ายแพ้แน่ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้เล่นในกลาดิเอเตอร์จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ อุส่านึกว่าจะเจอคนอ่อนๆแล้วเชี่ยว แต่กับมีเทคนิคที่สุดยอดขนาดนี้ เห็นทีว่าเราจะต้องใช้ไม้เด็ดแล้ว’ สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ไม่สามารถยั้งมือได้อีกต่อไป เขาเปลี่ยนรูปแบบการถือดาบ โดยหันปลายดาบทั้ง 2 ข้างลงพื้นแทน   ’13 คมดาบ’ คือหนึ่งในวิชาดาบที่ฝึกยากที่สุด มีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถใช้ 13 คมดาบได้ มันคือหนึ่งในวิชาลับเฉพาะของสถาบันเอเรส   เหตุผลที่สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่สามารถเรียน 13 คมดาบได้ก็เพราะพ่อของเขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารของสถาบันเอเรส   ขณะที่เขาใช้ 13 คมดาบ หานเซิ่นก็ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตทันที ดาบทั้ง 2 ของสังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ รวดเร็วและแปลกขึ้นเรื่อยๆ   หลังจากที่ปัดป้องไปได้ 7 กระบวนท่า หานเซิ่นก็ไม่สามารถรับมือกับกระบวนท่าที่ 8 ได้ หานเซิ่นตัดสินใจเคลื่อนที่เพื่อหลบดาบแทน แต่กระบวนท่าที่ 9 ก็เฉือนผิวหนังของเขาจนเปิดออก   พวกเขาทั้งคู่อยู่ในการต่อสู้จำลอง ดังนั้นจึงไม่มีเลือดไหลออกมา แต่ระบบจะคำนวณให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งHPของหานเซิ่นตอนนี้ก็ลดลงไป 27% แล้ว ถ้า HP ของเขาเหลือ 0 เขาก็ต้องออกจากเกมและถือเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้   ถ้าหากผู้เล่นไม่ถูกตัดหัวหรือได้รับความเสียหายอย่างหนักที่หัวใจ เกมก็จะยังไม่จบจนกว่าจะมีฝ่ายทนฝ่ายหนึ่ง HP เหลือ 0   ถ้าเป็นชีวิตจริง ตอนนี้หานเซิ่นอาจจะถูกฆ่าไปแล้วก็ได้ ตาของหานเซิ่นลุกเป็นไฟ เขาใช้สปาติเคิลหลบการโจมตีครั้งต่อไปของคู่ต่อสู้   ดาบโค้งสไตล์อาหรับมันเหมือนกับเล็บของปีศาจไม่มีผิด ตอนนี้มันราวกับกำลังเต้นระบำอยู่ในมือของคู่ต่อสู้ บนร่างกายของหานเซิ่นเริ่มเกิดบาดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ   แต่กระนั้นคู่ต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้รู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย ถึงเขาจะทำให้หานเซิ่นบาดเจ็บได้ก็ตาม แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่พอใจ ทุกครั้งที่เขาคิดว่าสามารถปิดฉากการต่อสู้นี่ได้ แต่เขากับทำได้เพียงแค่ทิ้งรอยแผลเล็กๆไว้บนร่างกายของหานเซิ่นเท่านั้น   ไม่นาน เขาก็ใช้กระบวนท่าจากวิชา 13 คมดาบครบทุกกระบวนท่า แม้ว่าเขาจะทิ้งรอยแผลมากมายไว้บนร่างของหานเซิ่น แต่ HP ของหานเซิ่นก็ลดลงไปแค่ 70% เพราะฉะนั้นหานเซิ่นยังมีโอกาสอีกมาก เขาอาจจะถูกเตะออกจากเกม   ‘บ้าเอ้ย! ถ้าเป็นโลกแห่งความเป็นจริง หมอนั่นคงจะตายไปแล้ว’ สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่รู้สึกหงุดหงิด   นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหานเซิ่นถึงเลือกที่จะมาฝึกในกลาดิเอเตอร์ เพราะเขาไม่ต้องใช้เวลาในการฟื้นพลังเลย ก่อนที่จะเข้าไปสู้ในรอบต่อไป ซึ่งถือว่ามันเป็นสถานที่ในฝันของหานเซิ่นเลยก็ว่าได้ เขาสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเทคนิคการต่อสู้มากมายได้ที่นี่   ‘เนื่องจากฉันไม่สามารถฆ่านายได้ด้วย 13 คมดาบครั้งเดียว งั้นฉันก็จะทำมันอีกครั้ง’ สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ตัดสินใจ หานเซิ่นเหลือ HP เพียงแค่ 30% ดังนั้นหานเซิ่นคงจะต้าน 13 คมดาบอีกครั้งไม่ได้แน่   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่ถือดาบในลักษณะหันปลายดาบลงพื้น และเริ่มใช้วิชาลับ 13 คมดาบอีกครั้ง   แววตาของหานเซิ่นเหมือนกับสายน้ำที่สงบและใสมาก มันกำลังสะท้อนทุกกระบวนท่าที่คู่ต่อสู้ของเขากำลังใช้     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 927 แล้วครับ

แพลตฟอร์มการต่อสู้ที่หานเซิ่นเข้ามาก็คือ ‘กลาดิเอเตอร์’ มันเป็นแพลตฟอร์มการต่อสู้อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งไม่ได้จัดให้ผู้เล่นอยู่ในระดับเดียวกันเหมือนกับแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการ   ในกลาดิเอเตอร์ ผู้เล่นสามารถที่จะเข้าไปในส่วนของผู้ยังไม่วิวัฒนาการหรือผู้วิวัฒนาการก็ได้ เนื่องจากมันไม่ได้เป็นทางการ   เหตุผลที่หานเซิ่นเลือกเข้ามาเล่นในกลาดิเอเตอร์ก็เพราะเขาสามารถเข้าไปในส่วนของผู้วิวัฒนาการ และประลองกับผู้วิวัฒนาการแล้วได้   ด้วยความแข็งแกร่งของหานเซิ่นตอนนี้ ไม่มีใครในบรรดาผู้ยังไม่วิวัฒนาการที่จะเป็นคู่ต่อสู้ให้เขาได้อีกแล้ว มันจะไม่เกิดประโยชน์ ถ้าต้องไปสู้กับคนที่ยังไม่วิวัฒนาการ เพื่อที่จะฝึกพาโนราม่า เขาจึงเข้ามาเล่นในกลาดิเอเตอร์ และประลองกับผู้วิวัฒนาการแล้ว ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มทักษะ และยังได้เรียนรู้เทคนิคการต่อสู้จากฝ่ายตั้งข้ามด้วย   แต่ทว่าสถิติของหานเซิ่นนั้นไม่ดีเลย ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาเล่นกลาดิเอเตอร์เมื่อครึ่งปีก่อน หานเซิ่นพึ่งจะชนะได้แค่ 4 ครั้งจากทั้งหมด ชัยชนะครั้งแรกเขาเจอกับผู้ยังไม่วิวัฒนาการที่กดผิดเข้ามาในส่วนของผู้วิวัฒนาการแล้ว ครั้งที่สองคู่ต่อสู้เลิกเล่นไปกลางคันเหมือนว่าเขาจะมีเรื่องด่วนที่ต้องทำ ดังนั้นที่หานเซิ่นเอาชนะได้จริงๆมีเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น สำหรับจำนวนครั้งที่หานเซิ่นแพ้นั้น เขาไม่ได้สนใจที่จะนับ เพราะมันมากมายเกินไป แต่ถ้าประมานคราวๆเขาน่าจะแพ้เกิน 1000 ครั้ง   ในตอนนี้ระดับความแข็งแกร่งของเขาเกิน 20.0ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นสุดยอดและดีที่สุดในหมู่ผู้ยังไม่วิวัฒนาการ ผู้ยังไม่วิวัฒนาการบางคนที่แข็งแกร่งและเก็บจีโนพ้อยได้เต็มแล้วจะสามารถทำคะแนนได้เกิน 20.0 ในบางการทดสอบ แต่ก็ไม่มีใครเลยที่จะได้คะแนนเฉลี่ยรวมเกิน 20 แค่นี้ก็พอจะบอกได้ว่าหานเซิ่นแข็งแกร่งขนาดไหน   ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่หานเซิ่นยังไม่ได้ใช้มนตรานอกรีต เมื่อหานเซิ่นใช้มนตรานอกรีตระดับความแข็งแกร่งของเขาจะสูงขึ้นกว่านี้อีก   แต่กระนั้นถึงตัวเลขระดับความแข็งแกร่งนั่นจะสูงในหมู่ผู้ยังไม่วิวัฒนาการก็จริง แต่ตัวเลขแค่ 20.0 ก็ถือว่ายังอ่อนแอมากในหมู่ผู้วิวัฒนาการแล้ว   การจะทำให้มอนสเตอร์ระดับกลายพันธ์ในก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 บาดเจ็บได้ก็ควรจะต้องมีระดับความแข็งแกร่งเกินกว่า 20   เมื่อผู้ยังไม่วิวัฒนาการกลายเป็นผู้วิวัฒนาการ พวกเขาจะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น แต่มันจะขึ้นอยู่กับจำนวนจีโนพ้อยที่พวกเขามี ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งได้รับความแข็งแกร่งที่มากขึ้น   โดยปรกติแล้วคนที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิจะได้รับรางวัลที่ชื่อว่า ‘ร่างกายศักดิ์สิทธิ’ ซึ่งจะทำให้ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อวิวัฒนาการ   สำหรับคนที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยที่ระดับต่ำกว่านั้น ระดับความแข็งแกร่งที่พวกเขาจะได้รับก็จะลดลงมา   โดยทั่วไปแล้ว คนที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยกลายพันธ์จะมีระดับความแข็งแกร่งเกือบๆ 20 หลังจากที่วิวัฒนาการ ซึ่งจีโนพ้อยที่พวกเขาเก็บได้ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ทำให้ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาเกินกว่า 20 ได้ไม่ยาก เพราะฉะนั้นความแข็งแกร่ง 20 ไม่ได้ดีเด่นอะไรเลยในหมู่ผู้ที่วิวัฒนาการแล้ว   หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าเขาจะได้รางวัลเป็นอะไรแทน ‘ร่างกายศักดิ์สิทธิ’ ถ้าเกิดเขาสามารถรวบรวมจีโนพ้อยขั้นสุดยอดและวิวัฒนาการได้ แต่อย่างหนึ่งที่เขาแน่ใจได้เลยก็คือ เขาจะแข็งแกร่งกว่าทุกๆคนที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ   ผู้วิวัฒนาการ 2 คนที่หานเซิ่นเอาชนะได้น่าจะเป็นผู้วิวัฒนาการหน้าใหม่ เนื่องจากระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ประมาน 20   ในกลาดิเอเตอร์ไม่ค่อยจะมีผู้เล่นที่อ่อนขนาดนั้น ผู้เล่นที่ฝีมือไม่ดีมักจะเลือกเล่นในแพลตฟอร์มที่เป็นทางการมากกว่า ส่วนคนที่เลือกมาเล่นในกลาดิเอเตอร์ มักจะเป็นคนที่มีฝีมือสูง   ยิ่งกว่านั้นกลาดิเอเตอร์ยังเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันเอเรส นักเรียนของสถาบันเอเรสต่างก็จะมาฝึกฝนที่นี่ ทำให้ระดับการต่อสู้ในกลาดิเอเตอร์อยู่ในระดับที่สูงมาก   หานเซิ่นรู้จักกลาดิเอเตอร์จากหวงฟูผิงชิง เขาเลือกการแข่งโดยใช้การสุ่ม เขาไม่ได้ต้องการเจอใครเป็นพิเศษ เขาเพียงแค่ต้องการต่อสู้และพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ การเขาได้เจอคู่ต่อสู้ที่มีสไตล์แตกต่างกันออกไป ถือว่าเหมาะสมที่จะฝึกพาโนราม่า   ไม่นานหานเซิ่นก็ถูกจับคู่ให้สู้กับใครบางคน โดยฉากการต่อสู้ในรอบนี้คือ โคลอสเซียม ซึ่งถือเป็นฉากที่คลาสสิคที่สุดของกลาดิเอเตอร์   คู่ต่อสู้ของเขาใช้ชื่อไอดีว่า ‘สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่’ ซึ่งฟังดูแล้วค่อนข้างเถื่อนเลยทีเดียว เขาคือผู้ชายอายุ 30-40 เขากำลังถือดาบคู่ที่มีลักษณะโค้งๆ เขาเป็นผู้เล่นที่ถนัดวิชาดาบคู่อย่างแน่นอน แต่หานเซิ่นไม่แน่ใจความหมายของคำว่าสังหารทั้งหมด   หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับมัน เขาเปลี่ยนอาวุธโดยเขาเลือกอาวุธคล้ายๆกับคู่ต่อสู้ เป้าหมายของหานเซิ่นคือการเรียนรู้ ดังนั้นเขามักจะเลือกมาอาวุธที่คล้ายๆกับคู่ต่อสู่เสมอ ถ้าคู่ต่อสู้ใช้สู้มือเปล่า เขาก็จะสู้มือเปล่าเช่นเดียวกัน   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่เช็คดูโปรไฟล์ของหานเซิ่น เขาเป็นผู้วิวัฒนาการแล้ว และอยู่ในก็อตเเซงชัวรี่ 2 มานาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาเล่นในกลาดิเอเตอร์ ดังนั้นสถิติการต่อสู้ของเขาคือชนะ 0 แพ้ 0   เมื่อเห็นหานเซิ่นเลือกอาวุธแบบเดียวกับเขา ทำให้สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่เองรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ในสายตาของเขาดูยังไงหานเซิ่นก็มือใหม่   แต่ขณะที่หานเซิ่นไม่ได้สนใจจะเช็คดูสถิติของคู่ต่อสู้ ทำให้ไม่รู้ด้วยว่าสังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่เองก็พึ่งเคยเข้ามาเล่นเป็นครั้งแรก นั่นคือสิ่งที่หานเซิ่นมักจะทำกับคู่ต่อสู้ทุกคน   ‘พ่อหนุ่ม เดี๋ยวนายต้องชดใช้สำหรับความอวดดีของนาย’ คู่ต่อสู้ของหานเซิ่นยิ้มและเช็คไอดีของหานเซิ่น   ไอดีของหานเซิ่นชื่อว่า ‘ทหารคนหนึ่งบนยานรบ’ เพราะว่าหานเซิ่นอยากจะแสดงความคิดถึงจีเหยียนหรันที่ออกเดินทางไปกับยานรบ ซึ่งการเดินทางบนยานรบนั้นจะใช้เวลานานมากกว่าจะกลับมาที่ดาวอีกครั้ง   แต่ทว่าคู่ต่อสู้ส่วนมากมักจะคิดว่าหานเซิ่นเป็นแค่ทหารธรรมดาบนยานรบเท่านั้น   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่เองก็คิดเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ‘ชนะ 4 ครั้ง แต่แพ้เป็นพัน เป็นแค่ทหารปลายแถวกล้ามาท้าทายฉันงั้นหรอ? เดี๋ยวฉันจะสอนบทเรียนให้นายเอง’   สังหารทั้งหมดด้วยดาบคู่มั่นใจในวิชาดาบคู่ของเขามาก เขาฝึกมันมาตั้งแต่เด็กๆ และเขายังเชี่ยวชาญการใช้ดาบโค้งสไตล์อาหรับอีกด้วย   แม้ว่าเขาจะเป็นผู้วิวัฒนาการที่เก็บจีโนพ้อยได้ไม่มาก แต่ทักษะการใช้อาวุธของเขาก็ถือว่าอยู่แถวหน้าในหมู่ผู้วิวัฒนาการแล้ว แม้แต่ในสถาบันเอเรสมีน้อยคนที่จะมีทักษะการใช้ดาบคู่ดีเหมือนเขา