Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 289 สุดยอดวิชาไฮเปอร์จีโน
Super God Gene – ตอนที่ 289 สุดยอดวิชาไฮเปอร์จีโน

ไม่มีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดเลยในกาเเล็กซี่เน็ต หรือแม้แต่ข้อมูลของหน่วยพิเศษ มันเหมือนกับว่ามนุษย์ยังไม่เคยฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้มาก่อน   บางทีอาจจะมีคนเคยเจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดมาบ้างแล้ว แต่เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถฆ่ามันได้ พวกเขาเลยไม่รู้ว่ามันเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด พวกเขาคงจะคิดว่ามันเป็นแค่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่แข็งแกร่งมากๆ   ตอนที่หานเซิ่นเห็นโกลเด้นโกรวเลอร์ครั้งแรก เขาเองก็คิดว่ามันเป็นแค่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเช่นเดียวกัน และเขาไม่ได้ตระหนักเลยว่ามันคือมอนสเตอร์ระดับสูงกว่านั้น   เนื่องจากไม่มีข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์ หานเซิ่นจึงต้องพึ่งพาตัวเองในการหาวิธีฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด เพราะไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วที่จะทำให้เขาได้จีโนพ้อยขั้นสุดยอด หานเซิ่นจะต้องหาทางฝึกฝนวิชาไฮเปอร์จีโนที่ระดับสูงกว่านี้ให้ได้   หานเซิ่นต้องเก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิให้เต็ม แต่ถึงเขาจะเก็บจีโนพ้อยได้เต็มทั้ง 4 ชนิด หานเซิ่นก็ยังไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถทำอะไรมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้   หานเซิ่นเคยเห็นมากับตาว่าโกลเด้นโกรวเลอร์นั้นแข็งแกร่งขนาดไหน ทำให้สามารถประเมินได้ว่าความแข็งแกร่งระดับไหน ถึงพอจะทำอะไรมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้   ความหวังหนึ่งเดียวของหานเซิ่นตอนนี้ก็คือศิลปะการต่อสู้ไฮเปอร์จีโน หานเซิ่นกำลังฝึกกายหยกอยู่ แต่มันเป็นวิชาที่ต้องใช้เวลาในการฝึก และไม่สามารถที่จะเร่งลัดอะไรได้   ถ้าหานเซิ่นเริ่มฝึกมันตั้งแต่ตอนเด็กๆ บางทีตอนนี้เขาคงจะสำเร็จไปหลายขั้นแล้ว แต่ทว่าเขาเริ่มฝึกมันช้าเกินไป และมันต้องใช้เวลามากกว่าจะสำเร็จขั้นแรกได้   ในตอนนี้หานเซิ่นมีใบอนุญาตเรียนวิชาระดับSของสถาบันเซนท์อยู่ 5 ใบ และในช่วง1 ปีที่ผ่านมา หน่วยพิเศษทำภารกิจสำเร็จไปไม่น้อย ทำให้เขาได้คะแนนพิเศษของหัวหน้าหน่วยมาอีกเกือบ 100 คะแนน ซึ่งมันสามารถนำไปแลกใบอนุญาตระดับSหรือยาปรับปรุงพันธ์กรรมได้   แต่ตอนนี้หานเซิ่นยังไม่รู้ว่ามีวิชาไฮเปอร์จีโนอะไรที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาได้บ้าง หานเซิ่นเห็นเบอร์ของไป๋อี้ซานอยู่ในลิสต์เบอร์ที่ไม่ได้รับด้วย   ไป๋อี้ซานคือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของสถาบันเซนท์ ไป๋อี้ซานมีส่วนช่วยในการคิดค้นวิชาไฮเปอร์จีโนจำนวนมาก ในโลกนี้คงจะไม่มีใครที่รู้เกี่ยวกับวิชาไฮเปอร์จีโนมากกว่าเขาอีกแล้ว หานเซิ่นตัดสินใจจะขอคำปรึกษาจากเขา   ไป๋อี้ซานรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นหานเซิ่น เขาต้องการติดต่อหานเซิ่นมาโดยตลอด เพราะเขาต้องติดตามผลการฝึกคลื่นหยินยางของหานเซิ่น เขาต้องการรู้ว่าหานเซิ่นฝึกถึงขั้นไหนแล้ว และใช้มันยังไงบ้าง   ในตอนที่หานเซิ่นหายตัวไปช่วงๆแรก ไป๋อี้ซานก็ได้สอบถามผู้อำนวยการของเหยี่ยวดำเกี่ยวกับหานเซิ่น แต่กระนั้นหานเซิ่นก็หายตัวไปนานมากจนทำให้ไป๋อี้ซานคิดว่าเขาอาจจะเกิดอุบัติเหตุ เขารู้สึกประหลาดใจและดีใจมากที่เห็นหานเซิ่นกลับมา เขาถามหานเซิ่นหลายคำถามเกี่ยวกับวิชาคลื่นหยินหยาง   หานเซิ่นให้ไป๋อี้ซานถามจนพอใจ เขาตอบไป๋อี้ซานทุกคำถาม หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เริ่มถาม “ศาสตราจารย์ครับ ผมมีคำถามเกี่ยวกับวิชาไฮเปอร์จีโน และอยากจะปรึกษาหน่อย ศาสตราจารย์พอจะมีเวลาไหมครับ?”   “เธอต้องการถามอะไรก็ลองว่ามา”   “ผมต้องการรู้ว่าในบรรดาวิชาไฮเปอร์จีโนทุกวิชาที่ผู้ยังไม่วิวัฒนาการสามารถฝึกได้ วิชาไหนที่มีพลังทำลายรุนแรงที่สุด?” หานเซิ่นถามไปตรงๆ   “พลังทำลายเป็นคำที่กำกวมเกินไป ช่วยอธิบายให้ชัดเจนหน่อย” ไป๋อี้ซานคิดเกี่ยวกับมันและพูด “ตัวอย่างเช่นคลื่นหยินหยางที่เธอกำลังฝึกอยู่ มันก็มีพลังทำลายมหาศาล ถ้าเธอใช้มันได้อย่างเหมาะสม เธอสามารถใช้อาวุธระดับกลายพันธ์ฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธินั่นมันยังไม่พออีกหรอ?”   ‘โชคร้ายที่ผมต้องการฆ่า มันเป็นมอนสเตอร์ที่ระดับสูงกว่าเลือดศักดิ์สิทธิน่ะสิ’ หานเซิ่นคิด แต่เขาไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปได้ หานเซิ่นยิ้มอย่างขมขื่นและเรียบเรียงคำพูด “มันพอจะมีวิชาไฮเปอร์จีโนอะไรที่พอจะทำให้ผมสามารถเจาะกระดองหนาๆของเต่าระดับเลือดศักดิ์สิทธิได้ด้วยมือเปล่าบ้างไหม?”   มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิประเภทเต่า เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ากระดองของมันแข็งแกร่งที่สุดในก็อตแซงชัวรี่เขต 1   แต่ในความคิดของหานเซิ่นตอนนี้ เขาคิดว่าขนของโกลเด้นโกรวเลอร์แข็งกว่าประดองของเต่าระดับเลือดศักดิ์สิทธิซะอีก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เขาก็ไม่สามารถบรรยายให้คนอื่นฟังได้ ดังนั้นเขาเลยต้องใช้เต่ามาเป็นตัวอย่าง   “การเจาะกระดองของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิประเภทเต่า โดยไม่ใช้อาวุธอะไรช่วยเลย มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ ถึงจะเป็นคนที่เก็บจีโนพ้อยทั้ง 4 ชนิดเต็มแล้วก็ตาม” เมื่อไป๋อี้ซานได้ยินคำพูดของหานเซิ่น เขาก็คิดหนักเลยทีเดียว   “ไม่มีวิชาไฮเปอร์จีโนอะไรเลยหรอที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของมนุษย์ให้สามารถทำเรื่องแบบนั้นได้?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว ถ้าเขาทำไม่ได้แม้กระทั่งฉีกกระดอกเต่าเลือดศักดิ์สิทธิ มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้   ไป๋อี้ซานครุ่นคิดเกี่ยวกับมันและพูด “มันน่าจะไม่ยาก ถ้าเธอฝึกวิชาไฮเปอร์จีโนของผู้วิวัฒนาการ มีวิชาไฮเปอร์จีโนหลายวิชาที่สามารถเปลี่ยนเซลล์ในร่างกายให้สามารถทำในสิ่งที่เธอต้องการได้ แต่สำหรับวิชาของผู้ยังไม่วิวัฒนาการ ฉันยังนึกไม่ออก”   “หานเซิ่น ทำไมเธอถึงมาถามเรื่องนี้กับฉัน? เธอไม่เห็นจำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นเลย แค่เธอมีอาวุธเลือดศักดิ์สิทธิสักอัน ระดับเธอก็น่าจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ทุกตัวในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ได้อยู่แล้ว และเมื่อเธอวิวัฒนาการและไปยังก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 เมื่อไหร่ ทุกๆอย่างก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเธอ” ไป๋อี้ซานมองหานเซิ่น เขาไม่เข้าใจว่าหานเซิ่นจะถามแบบนั้นทำไม   “ผมก็แค่อยากรู้เฉยๆ มันเป็นความชอบส่วนตัวน่ะครับ แต่มันไม่มีวิชาไฮเปอร์จีโนอะไรที่ทำให้ผมสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆใช่ไหมครับ?” หานเซิ่นถามอีกครั้ง   ถ้าไม่มีวิชาไฮเปอร์จีโนที่ช่วยให้เขาทำแบบนั้นได้ สิ่งเดียวที่เขาจะพึ่งพาได้ก็คืออาวุธวิญญาณอสูรขั้นสุดยอด   แต่กระนั้นทำยังไงถึงจะได้วิญญาณอสูรขั้นสุดยอดมายังเป็นเรื่องที่คิดไม่ตก สิ่งเดียวที่หานเซิ่นพอจะคิดได้ก็คือรังของมอนสเตอร์ แต่โอกาสมันก็น้อยซะยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่   “จริงๆแล้วถ้าเธอฝึกคลื่นหยินหยางจนถึงขั้นละก็ เธอสามารถใช้พลังหยินในการเจาะทะลุกระดองของเต่า และทำลายอวัยวะภายในของมันได้โดยตรง” ไป๋อี้ซานแนะนำ เขาค่อนข้างภูมิใจในวิชาที่เขาเป็นคนคิดค้นขึ้น   หานเซิ่นแอบส่ายหัวอยู่ในใจ ถ้านั่นได้ผลจริง เขาคงไม่ต้องมาปวดหัวอยู่แบบนี้หลอก เขาเคยแทงตาของลูกโกลเด้นโกรวเลอร์ด้วยหอกหมุนที่ใส่พลังหยินเข้าไป   แม้ดวงตาจะเป็นจุดที่อ่อนที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ผล หานเซิ่นคิดว่าอวัยวะภายในของมันจะต้องแข็งแกร่งกว่านั้นอีก ถ้าเขาไม่มีพลังที่แข็งแกร่งพอ ถึงจะด้วยพลังหยิน เขาก็ไม่สามารถทำอะไรอวัยวะภายในมันได้   “ศาสตราจารย์ มันไม่มีวิชาอะไรจริงๆหรอที่จะทำให้ความแข็งแกร่งของคนอยู่ในระดับที่สูงจนไม่น่าเชื่อ?” หานเซิ่นถามต่อ   เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาที่ผิดหวังของหานเซิ่น ไป๋อี้ซานก็เอามือจับไปที่คางและคิดอยู่นาน ก่อนที่เขาจะพูดออกมา “ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มี แต่…”    

Super God Gene – ตอนที่ 288 แผนที่
Super God Gene – ตอนที่ 288 แผนที่

หานเซิ่นคิดว่าเนื่องจากเขาหายตัวไปนาน หัวหน้าคนใหม่ของหน่วยพิเศษสตีลอาเมอร์คงจะถูกแต่งตั้งแล้ว เพราะว่ามันมีกฎเกี่ยวกับเรื่องนี้เขียนระบุไว้   แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวัง เขายังคงอยู่ในตำแหน่งหัวหน้า ซึ่งหยางม่านลี่คือคนที่ทำหน้าที่แทนในช่วงที่เขาไม่อยู่   หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจมาก ในกรณีนี้หยางม่านลี่ที่เป็นรองหัวหน้ามีสิทธิที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าแทนเขาก็ยังได้ แต่เธอกับเลือกที่จะรักษาตำแหน่งให้หานเซิ่น   หลังจากที่ได้คุยกับพวกสมาชิกในหน่วยแล้ว หานเซิ่นก็รู้ว่าเบื้องบนต้องการให้หยางม่านลี่ขึ้นเป็นหัวหน้าแทน แต่หยางม่านลี่ปฏิเสธ   หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขารู้จักหยางม่านลี่ดี เธอแสดงออกมาตลอดว่าเธอต้องการเป็นหัวหน้า เขาไม่เข้าใจเลยว่าเธอยอมทิ้งโอกาสแบบนี้ไปได้ยังไง   เขาโทรหาหยางม่านลี่เพื่อต้องการจะขอบคุณเธอ แต่ทว่าหยางม่านลี่ก็พูดกับเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆภายในหน่อยพิเศษในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์เหมือนอย่างเคย โดยที่เธอไม่ปล่อยโอกาสให้หานเซิ่นได้เอ่ยคำขอบคุณเลย   จริงๆแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขา 2 คนนั้นไม่สู้ดีนัก หานเซิ่นรู้สึกว่ามันยากมากสำหรับเขาที่จะเอ่ยขอบคุณ   ถึงหานเซิ่นไม่ได้สนใจเกี่ยวกับตำแหน่งมาก แต่ยังไงเขาก็ต้องการเอ่ยขอบคุณหยางม่านลี่ที่รักษาตำแหน่งไว้ให้เขาอยู่ดี   “น้องชาย ทำไมถึงไม่รีบโทรมา เมื่อนายกลับมาแล้ว?” หวงฟูผิงชิงเป็นฝ่ายโทรมาหาหานเซิ่นเองและพูด   “ก็เพราะว่าผมกลัวน่ะสิ” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   เขาแบล็คเมล์สวี่ยู่เหยียนซึ่งเป็นคนของสตาร์รี่ไปอย่างเลวร้ายที่สุด และแน่นอนว่าเขาได้ท้าทายกลุ่มสตาร์รี่เข้าให้แล้ว หวงฟูผิงชิงเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเซินเทียนจื่อ ดังนั้นหานเซิ่นไม่แน่ใจว่าเขาควรจะโทรหาเธอดีหรือเปล่า   สถาบันเอเรสนอกจากจะสอนศิลปะการต่อสู้แล้ว พวกเขายังทำธุรกิจขายวิญญาณอสูรระหว่างเมือง ดังนั้นคงไม่มีใครที่จะรู้เส้นจากเมืองกรีนไปยังเมืองสตีลอาเมอร์ดีกว่าหวงฟูผิงชิงอีกแล้ว   หานเซิ่นต้องการข้อมูลจากหวงฟูผิงชิง ไม่อย่างงั้นแล้วเขาจะไม่สามารถเดินทางกลับไปที่เมืองสตีลอาเมอร เพื่อไปกินมอนสเตอร์ที่เขาให้มันกินคริสตัลสีดำได้   “ฮาฮา นายกล้าดียังไงไปแบล็คเมล์สวี่ยู่เหยียนแบบนั้น นายไม่กลัวบ้างรึไง? ถ้าเซินเทียนจื่อยังอยู่ที่สตีลอาเมอร์ ฉันจะแนะนำว่าอย่ากลับที่นั่นจะดีกว่า แต่ตอนนี้เขาวิวัฒนาการและไปยังก็อตเเวงชัวรี่เขต 2 แล้ว นายคงไม่มีโอกาสได้เจอเขาที่นั่นอีก” เห็นได้ชัดว่าหวงฟูผิงชิงรู้วีรกรรมที่หานเซิ่นทำไว้บนเกาะวายุแล้ว และเธอก็ค่อนข้างช็อคทีเดียว   “เซินเทียนจื่อวิวัฒนาการแล้วหรอ?” หานเซิ่นอึ้ง แต่มันก็สมเหตุสมผลอยู่ เนื่องจากเซินเทียนจื่อขาดจีโนพ้อยอีกไม่มาก มันก็ควรจะได้เวลาที่เขาต้องไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 แล้ว   “นายต้องการกลับมาที่สตีลอาเมอร์ใช่ไหม?” หวงฟูผิงชิงถามอย่างจริงจัง   “แน่นอน คุณพอจะมีความคิดอะไรดีๆบ้างไหม?” หานเซิ่นไม่คิดว่าหวงฟูผิงชิงจะเป็นคนเอ่ยถึงเรื่องนี้ก่อน   “แน่นอน แต่ค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างสูง” หวงฟูผิงชิงยิ้ม   “เท่าไหร่?” หานเซิ่นได้วิญญาณอสูรกลายพันธ์มาจากสวี่ยู่เหยียนจำนวนมาก ในตอนนี้เขามีกำลังที่จะจ่าย   “ถ้าเป็นคนอื่น ฉันจะไม่ยอมช่วยแน่ไม่ว่าจะจ่ายเท่าไหร่ก็ตาม แต่เนื่องจากเป็นนาย ตราบใดที่นายมาเป็นสมาชิกของสถาบันเอเรส ฉันจะทำให้นายกลับมาได้อย่างปลอดภัย” หวงฟูผิงชิงกระพริบตาให้หานเซิ่น   “โปรดบอกราคามา” หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาไม่ต้องการเป็นสมาชิกของสถาบันเอเรส และเขาก็ไม่อยากจะเสียเวลาด้วย   ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่เขาได้เห็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด หานเซิ่นก็ตั้งใจไว้แล้วว่าต่อไปนี้เป้าหมายของเขาก็คือการเพิ่มจีโนพ้อยขั้นสุดยอด ซึ่งการส่วนหนึ่งขององค์กรใดองค์การหนึ่งจะทำให้เขาสำเร็จเป้าหมายช้าลง   “แลกกับวิญญาณอสูรที่นายได้มาจากรังนั้นเป็นยังไง?” หวงฟูผิงชิงเสนอ   “ราคามันไม่สูงเกินไปหน่อยหรอ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว   “นายก็น่าจะรู้ว่าเมืองกรีนไกลจากสตีลอาเมอร์แค่ไหน นายต้องเดินทางผ่านเมืองใกล้ๆมาถึง 5 เมือง มันเป็นการเดินทางที่มีความเสี่ยงสูงมาก ฉันต้องติดต่อคนของเราจากทุกๆเมือง เพื่อให้พวกเขาพานายกลับมาอย่างปลอดภัย ความยากและค่าใช้จ่ายมันสูงเกินกว่าที่นายจินตนาการไว้ ถ้าไม่ใช่นายละก็ ถึงจะได้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ ฉันก็จะไม่ยอมทำขนาดนี้” หวงฟูผิงชิงพูดอย่างจริงจัง   “แล้วถ้าแค่ให้แผนที่ผมมา ผมคิดว่าผมสามารถกลับด้วยตัวเองได้” หานเซิ่นครุ่นคิดและพูดออกไป   “ถ้าหากไม่มีคนที่คุ้นเคยเส้นทางคอยนำทางให้ล่ะก็ นายจะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ง่ายๆ คิดเกี่ยวกับมันให้ดีๆ” หวงฟูผิงชิงแนะนำ   “นั่นไม่มีปัญหา แค่เอาแผนที่มาก็พอ” หานเซิ่นยืนกราน ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ   แต่กระนั้นแม้จะเป็นแค่แผนที่ แต่มันก็เป็นข้อมูลลับทางการค้า หานเซิ่นต้องใช้วิญญาณอสูรกลายพันธ์ถึง 5 ดวง เพื่อซื้อแผนที่จากหวงฟูผิงชิง   หานเซิ่นเทเลพอร์ตเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ เพื่อทำการแลกเปลี่ยนกับคนของหวงฟูผิงชิงที่อยู่เมืองกรีน แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ยังไม่ได้เดินทางกลับไปที่สตีลอาเมอร์ทันที   เขาต้องผ่านการสอบซ่อมของเหยี่ยวดำให้ได้ซะก่อน ถ้าเขาเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่และใช้เวลานานเกินไป เขาอาจจะถูกไล่ออกจริงๆก็ได้   การสอบซ่อมค่อนข้างราบลื่นสำหรับหานเซิ่น แม้เขาจะทำคะแนนได้ไม่ดีในส่วนทฤษฎี แต่เกรดของเขาก็ผ่านเกณฑ์ได้อย่างสบายๆ หานเซิ่นเป็นนักเรียนที่สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมากมาย เขาจึงมีคะแนนพิเศษช่วย ดังนั้นเขาจึงได้เลื่อนเป็นนักเรียนปี 2   แน่นอนว่าปีนี้หานเซิ่นได้พลาดการแข่งขันระดับกาแล็กซี่แล้ว และเขายังพลาดการประลองชิงตำแหน่งผู้ถูกเลือกของก็อตเเซงชัวรี่อีกด้วย แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลย ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาได้รับมา ซึ่งมันก็คือจีโนพ้อยขั้นสุดยอดที่ไม่สามารถสามารถประเมินค่าได้ ในตอนนี้สิ่งอื่นๆแทบไม่มีความหมายเลยสำหรับเขา แต่กระนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่หานเซิ่นจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ด้วยตัวคนเดียว มันก็คล้ายๆกับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่ยากจะถูกฆ่าด้วยอาวุธระดับกลายพันธ์ ซึ่งอาวุธระดับเลือดศักดิ์สิทธิแทบจะไม่มีผลกับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดเลย   หานเซิ่นใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรโกลเด้นโกรวเลอร์ที่เพิ่งเกิดได้ และยิ่งเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่โตแล้ว ยิ่งยากเข้าไปใหญ่   หลังจากที่คิดหาหนทางอยู่นาน หานเซิ่นก็ตัดสินใจที่จะเพิ่มจีโนพ้อยอื่นๆให้เต็มก่อน และเขายังต้องพัฒนาวิชาไฮเปอร์จีโนของเขาให้มีระดับสูงขึ้นไปอีก   คงมีแต่วิชาไฮเปอร์จีโนที่แข็งแกร่งที่สุด ถึงจะมีโอกาสทำให้เขาล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้   ‘บางทีเราอาจจะเป็นมนุษย์คนแรกที่เก็บจีโนพ้อยขั้นสุดยอดได้เต็ม’ ตอนนี้หานเซิ่นเพ่งความสนใจไปที่จีโนพ้อยขั้นสุดยอดจนหมดแล้ว   แต่ทำยังไงเขาถึงจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ ยังคงเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดในหัวของเขาตอนนี้