Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 287 กลับมา
Super God Gene – ตอนที่ 287 กลับมา

หานเซิ่นไม่ได้คิดจะตามพวกเขาเข้าไปในรัง เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าในรังตอนนี้มันไม่มีอะไรเหลืออยู่   หานเซิ่นบินลงมาจากภูเขา และรีบหนีไปพร้อมกับซากของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิ   เมื่อพวกเขาเข้าไปในรัง พวกเขาก็ไม่ได้คิดเกี่ยวกับหานเซิ่นอีกต่อไป พวกเขาคิดว่ายังไงหานเซิ่นก็ไม่สามารถหนีออกไปจากเกาะนี้ได้ เดี๋ยวพวกเขาค่อยไปตามหาหานเซิ่น หลังจากที่ทำลายไข่ได้แล้ว   แต่ทว่าหานเซิ่นก็บินหนีไป พร้อมกับโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิ โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อกลุ่มของพวกเขาเข้าไปในรัง พวกเขาก็พบว่ากำแพงสีเขียวได้ถูกทำลายแล้ว   แต่หลังจากที่พวกเขาเข้าไปข้างใน พวกเขาก็ไม่พบซากมอนสเตอร์ที่ตายเลย และห้องแต่ละห้องก็ยังอยู่สมบูรณ์ดี ทำให้พวกเขายังมีความหวังอยู่บ้าง   แต่เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็พบว่าไข่ถูกทำลายแล้ว หัวใจพวกเขาแทบจะหยุดเต้น   “หานเซิ่น ฉันจะฆ่าแก!” สวี่ยู่เหยียนโกรธจนแทบจะระเบิด เธอต้องตามหาตัวหานเซิ่นให้พบต่อให้ต้องพลิกแผ่นดิน   แต่กระนั้นพวกเขาก็ไม่พบตัวหานเซิ่นเลย แม้แต่ซากโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิก็หายไปอย่างไร้ล่องลอย   สวี่ยู่เหยียนโกรธจนแทบจะกระอักเลือด เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง ขณะที่หานเซิ่นได้ทุกอย่าง เธอและทีมของเธอออกตามหาหานเซิ่นทั่วทั้งเกาะ แต่หานเซิ่นก็หายไปอย่างไร้ล่องลอย   แต่ไม่ว่าจะโกรธแค่ไหนก็ไม่มีใครรู้ว่าหานเซิ่นอยู่ที่ไหนกันแน่ ไม่นานพวกเขาก็เริ่มถอดใจ   ความจริงแล้วหานเซิ่นเอาโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิไปซ่อนไว้ในทะเลใกล้ๆเกาะ และหลังจากที่พวกเขาถอดใจแล้ว หานเซิ่นก็กลับมาที่เกาะวายุอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนหน้าผาที่สูงชันมากๆ และเริ่มย่างบาร์บิคิวกินทันที   “เนื้อของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิถูกกิน คุณได้รับ 1 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ”   ทุกครั้งที่เขาได้ยินเสียงว่าเขาได้จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ เขาก็ยังมีความตื่นเต้นอยู่   หลังจากที่กินเนื้อโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิไปทั้งตัว เขาก็ได้รับจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิมาอีก 5 ทำให้ตอนนี้หานเซินมีจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิทั้งหมด 66 จีโนพ้อยแล้ว   หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งบนเกาะนี้มีภูเขาอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มของพวกเขามีคนน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถค้นหาได้อย่างทั่วถึง   ยิ่งกว่านั้นพวกเขาคิดว่าหานเซิ่นคงไม่ได้อยู่บนเกาะนี้แล้ว ไม่งั้นพวกเขาก็ต้องเจอซากของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิบนเกาะนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่ซากของโกสอายแบร์จะหายไปจากเกาะ ถ้าหานเซิ่นยังอยู่ที่นี้   ไม่ถึงครึ่งเดือนหลังจากนั้น หานเซิ่นก็เห็นเรือกำลังแล่นมาที่เกาะแห่งนี้ ซึ่งเรือแต่ละลำมีโลโก้ของกลุ่มสตาร์รี่อยู่   หานเซิ่นไม่รู้ว่าสวี่ยู่เหยียนพูดอะไรกับทีมช่วยเหลือบ้าง แต่หลังจากนั้นหนึ่งวัน พวกเขาก็เดินทางออกจากเกาะนี้   หานเซิ่นตามเรือของพวกเขาไปจากระยะไกล เรือพวกเขาต้องพึ่งพากระแสลมในการเคลื่อนที่ ซึ่งมันก็ไม่ได้เคลื่อนที่เร็วอะไรมาก สิ่งที่หานเซิ่นต้องทำก็แค่ให้เรืออยู่ในระยะที่เขามองเห็นก็พอ   จริงๆแล้วหานเซิ่นคิดว่าเรือแล่นช้าไปด้วยซ้ำ แต่ด้วยการที่ไม่สามารถนำเอาเทคโนโลยีชั้นสูงมาใช้ได้ในก็อตแซงชัวรี่ได้ ดังนั้นคงมีแต่เรือแบบนี้ที่จะนำมาใช้ได้   ในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หานเซิ่นยังไม่เจอกับสถานการณ์อันตรายเลย และเขายังได้จับมอนสเตอร์ในทะเลขึ้นมากินอยู่เรื่อยๆ   ขณะที่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิในทะเลที่พวกเขาเคยพูดถึง หานเซิ่นยังไม่เคยเห็นมันเลย บางทีมันอาจจะกลัวเรือของพวกเขาก็ได้   ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจว่าเมื่อกลุ่มของสวี่ยู่เหยียนมาที่เกาะวายุ พวกเขาคงจะมาด้วยเรือที่คล้ายๆกับเรือพวกนี้ แต่ทว่าพวกเขาบังเอิญไปเจอกับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิในทะเล และมีเรือเพียงลำเดียวที่สามารถแล่นไปถึงเกาะวายุได้ แต่เรือลำนั้นก็ไม่สามารถใช้การได้อีกเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง   ในที่สุดหานเซิ่นก็เห็นแผ่นดิน เขารู้สึกมีความสุขมาก เมื่อเขาบินมาจนถึงแผ่นดิน เขาก็ตระหนักว่ามันคือเกาะกรีน แต่ทว่ามันไม่ใช่เกาะจริงๆ มันคือคาบสมุทรที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินหลัก บนคาบสมุทรมีเมืองกรีนตั้งอยู่   หานเซิ่นใช้เครื่องเทเลพอร์ตจากเมืองกรีน เพื่อเดินทางกลับไปที่เหยี่ยวดำ มันเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ตั้งแต่เขาเข้าไปในก็อตเเซงชัวรี่ หานเซิ่นสงสัยว่าคนอื่นๆจะเป็นยังไงกันบ้าง   หลังจากที่เขากลับมาที่หอพัก รูทเมทของเขาก็รู้สึกดีใจมากที่เห็นเขากลับมา พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นอาจจะตายในก็อตเเซงชัวรี่ไปแล้วถ้าดูจากช่วงเวลาที่เขาหายไป แต่ในยุคนี้อายุแบบหานเซิ่น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากจะหายหน้าหายตาไปในก็อตเเซงชัวรี่เป็นปีๆ   รูปเมทของหานเซิ่นเป็นนักเรียนปี 2 กันหมดแล้ว แต่ทว่าหานเซิ่นยังต้องทำการสอบซ่อม ซึ่งคะแนนในการสอบซ่อมของเขาจะเป็นตัวตัดสินว่าเขาจะโดนไล่ออกหรือไม่   ในโรงเรียนทหารมีกฎอยู่ว่าตราบใดที่นักเรียนกลับมาที่โรงเรียน และผ่านการสอบซ่อมได้ พวกเขาก็ยังได้รับอนุญาตให้เรียนต่อได้ แต่ถ้าพวกเขาสอบไม่ผ่าน พวกเขาจะโดนไล่ออกทันที   หานเซิ่นไม่ได้กังวลเรื่องการสอบซ่อมมากนัก เขารีบเปิดคอมของเขา และเห็นว่ามีเบอร์ที่ไม่ได้รับสายจำนวนมาก ส่วนมากคือเบอร์ของจีเหยียนหรัน   อันดับ 2 คือแม่ของเขาที่โทรมาหลายต่อหลายครั้ง แล้วก็มีซานตันเฟิง ซินเสวียน หยางมานลี่ ถังเตียงลิ่ว หวังเหมียนเหมียน หวงฟูผิงชิง หลินเป้ยเฟิงและฉวี่ลี่ลี่เองก็โทรมาเช่นเดียวกัน   เบอร์แรกที่หานเซิ่นเลือกโทรกลับไปก็คือเบอร์แม่ของเขา เขารู้ว่าแม่ของเขาเป็นคนยังไง เธอคงจะเป็นกังวลมาก ถึงเธอจะไม่รู้เรื่องที่เขาหายตัวไปในก็อตแซงชัวรี่ แต่การที่เขาไม่ได้รับสายหรือโทรกลับนานขนาดนี้ เธอคงจะอยู่ไม่เป็นสุข   หานเซิ่นไม่กล้าที่จะบอกความจริงเรื่องที่เขาหายตัวไป เขาบอกแม่ของเขาไปว่าเขายุ่งอยู่กับการเรียนจนไม่มีเวลาทำอะไรอย่างอื่น   เขาอยากจะได้ยินคำบ่นของเธอมากกว่าที่จะทำให้เธอเป็นกังวล   หลังจากที่คุยกับแม่อยู่นาน หานเซิ่นก็พยายามโทรหาจีเหยียนหรันหลายครั้ง แม้เขาจะรู้ว่ามันคงไม่ง่ายแน่ที่เขาจะพูดกับเธอ แต่เขาก็ต้องโทรไปเพื่ออธิบายเรื่องราว   แต่ทว่าเบอร์ของเธอกลับไม่เปิดใช้งานในขณะนี้ รูทเมทของเขาบอกว่าจีเหยียนหรันออกจากเหยี่ยวดำไปฝึกงาน พวกเขาบอกว่าเธอฝึกงานอยู่บนยานอวกาศของกองทัพ   หลังจากเข้าไปฝึกงานบนยานอวกาศแล้ว พวกเขาจะไม่ให้ใช้คอมส่วนตัวอีกต่อไป ทุกคนบนยานอวกาศต้องใช้คอมพิเศษที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่หานเซิ่นจะติดต่อแฟนของเขา   รูทเมทของเขาบอกว่าจีเหยียนหรันน้ำหนักลดลงไปมาก ตั้งแต่รู้ว่าหานเซิ่นหายตัวไป เธอก็กลายเป็นคนเงียบไม่สุงสิงกับใคร เธอไปเรียนให้ผ่านๆไปเหมือนว่าไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว หลายเดือนก่อนเธอออกจากเหยี่ยวดำ เพื่อไปฝึกงานบนยานอวกาศ เธอแทบไม่โผล่หน้าไปที่ชมรมหัตถ์พระเจ้าเลย   หานเซิ่นรู้สึกผิดมาก แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้ เขาโทรกลับไปหาทุกคนที่โทรมาหา และบอกทุกคนว่าเขาปลอดภัยดี   ฉวี้ลี่ลี่เองก็ไปฝึกงานที่เดียวกับจีเหยียนหรัน ดังนั้นหานเซิ่นก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้เช่นเดียวกัน   เบอร์ของซินเสวียนยังใช้บริการอยู่ แต่ไม่มีคนรับสาย หานเซิ่นคิดว่าเธอคงจะยังอยู่ในก็อตเเซงชังรี่เขต 2

Super God Gene – ตอนที่ 286 โกสอายเเบร์เลือดศักดิ์
Super God Gene – ตอนที่ 286 โกสอายเเบร์เลือดศักดิ์

หานเซิ่นรู้สึกว่าใกล้ได้เวลาที่สวี่ยู่เหยียนจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ดังนั้นเขาเลยไม่ได้คาดคิดว่าสวี่ยู่เหยียนจะขอซื้อโกสอายแบร์กลายพันธ์อีก 3 ตัวจากเขา   ‘กลุ่มสตาร์รี่นี่เต็มไปด้วยพวกคนรวยจริงๆ!’ หานเซิ่นคิดว่าเขาคงจะหมดโอกาสหาเงินเพิ่มแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าสวี่ยู่เหยียนจะใช้จ่ายมากขนาดนี้   หานเซิ่นฆ่าโกสอายแบร์กลายพันธ์ 4 ตัวในวันนี้ เขาขายพวกมันให้กับสวี่ยู่เหยียน 3 ตัวและเก็บไว้กินเอง 1 ตัว   หลังจากที่กินเนื้อกันอย่างอเล็ดอร่อย สวี่ยู่เหยียนและคนอื่นๆก็รีบเดินทางไปที่รังทันที   หานเซิ่นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำ เขาทำเหมือนว่าไม่ต้องการที่จะตามสวี่ยู่เหยียนไป   ความกังวลหนึ่งเดียวของสวี่ยู่เหยียนหายไป เมื่อเธอเห็นว่าหานเซิ่นไม่ได้สนใจ เธอรีบเพิ่มความเร็วในการเดินทางขึ้นไปอีก   ในภูเขาที่เป็นที่ตั้งของดอกบัวเเห่งชีวิต มันแทบจะไม่มีส่วนที่เรียกว่าเส้นทางได้เลย ในการจะไปให้ถึงทางเข้ารัง พวกเขาจำเป็นต้องปีนก้อนหินขึ้นไป และผ่านเส้นทางที่ยากลำบากมาก   ในแต่ละเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาเป็นเส้นทางที่น่ากลัวมาก ทางที่พวกเขาใช้เดินมีความกว้างไม่ถึง 1 ฟุต และมันยังอยู่สูงจากพื้นมาก ถ้าเกิดตกลงไปก็ยากที่จะรอดชีวิต   มนุษย์ไม่สามารถเดินบนภูเขาได้คล่องแคล่วเหมือนกับโกสอายแบร์ ยิ่งกว่านั้นอุปกรณ์ในการปีนเขาที่พวกเขาเตรียมมาก็หายไปหมดแล้วในตอนที่พวกเขาถูกมอนสเตอร์ในทะเลโจมตี รวมถึงพวกเขาต้องเสียสมาชิกที่มีปีกเลือดศักดิสิทธิไประหว่างการเดินทาง ทำให้พวกเขาต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก   หลังจากที่เข้าไปในดอกบัวเเห่งชีวิตได้แล้ว ไม่นานพวกเขาก็สังเกตเห็นโกสอายแบร์ ถึงพวกมันจะมีขนาดตัวที่ใหญ่โต แต่มันสามารถเคลื่อนไหวในภูเขาที่สูงชันได้ว่องไวราวกับสายลม   เมื่อเห็นฝูงโกสอายแบร์วิ่งตรงเข้ามา สวี่ยู่เหยียนก็สั่งการให้ทุกคนเตรียมต่อสู้   โกสอายแบร์ระดับกลายพันธ์ที่มีความอันตรายสำหรับพวกเขาถูกหานเซิ่นจัดการไปหมดแล้ว ขณะที่ตัวระดับโบราณไม่ได้สร้างปัญหามากนัก ทำให้พวกเขาสามารถรับมือกับพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็น   พวกเขาทำการตั้งรับอย่างเหนียวแน่น และฆ่าพวกโกสอายแบร์ทั้งหมดที่บุกเข้ามาหาพวกเขา   หลังจากที่ต้องอยู่อย่างอดทนมาตลอด 1 ปี พวกเขาก็ได้ระบายความโกรธของพวกเขากับโกสอายแบร์ที่วิ่งเข้ามา   มีเสียงหอนดังมาจากโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิ พวกโกสอายแบร์ตัวอื่นๆถอยออกมาในทันที พวกมันรีบหนีขึ้นไปบนภูเขา   กลุ่มของสวี่ยู่เหยียนเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง พวกเขาฆ่าโกสอายแบร์ทุกตัวที่พวกเขาเห็น เนื่องจากโกสอายแบร์ระดับกลายพันธ์เหลือน้อยแล้ว ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลอันตรายจากพวกมัน   โกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิพุ่งตรงเข้ามาด้วยความโกรธ ขนสีขาวๆของมันเปล่งประกายราวกับโลหะเงิน   หานเซิ่นขึ้นมาอยู่บนยอดเขาสูงเรียบร้อยแล้ว เขากำลังซุ่มดูการต่อสู้ พร้อมกับกินบาร์บีคิวไปด้วย   เขาอยากรู้ว่าสวี่ยู่เหยียนมีแผนเด็ดอะไรในการต่อสู้กับโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิ   บนภูเขาแบบนี้ไม่มีพื้นที่มากพอให้คนจำนวนมากเคลื่อนไหวได้ ถ้าจะสู้กับโกสอายแบร์เลือดศักดิสิทธิให้ได้แบบชัวร์ละก็ควรจะต้องมีปีกระดับเลือดศักดิ์สิทธิ   แต่ความคิดของหานเซิ่นก็ต้องเปลี่ยนไปทันที เมื่อเห็นสวี่ยู่เหยียนขยายขนาดตัวจนมีความสูงกว่า 12 ฟุต เธอยกแขนขึ้น และชกไปโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิอย่างรุนแรง   หมัดของเธอเหมือนกับค้อนขนาดใหญ่ที่ทุบไปที่หัวของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิเต็มๆ   ร่างกายของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธินั้นแข็งแกร่งมาก ถ้าไม่มีอาวุธระดับเลือดศักดิ์สิทธิก็ยากที่จะทำอะไรมันได้ง่ายๆ   แต่ทว่าเมื่อเจอหมัดของสวี่ยู่เหยียน โกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิก็แสดงอาการออกมาว่ามันได้รับบาดเจ็บอย่างชัดเจน หลังจากนั้นสวี่ยู่เหยียนก็กระหน่ำชกไปที่หน้าอกของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิอย่างต่อเนื่อง   ไม่นานกระดูกของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิก็หัก มีเลือดไหลออกมาจากปากของมัน โกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิตกลงไปจากหน้าผา ในสภาพที่ใกล้จะตายแล้ว   สวี่ยู่เหยียนก็ดูเหนื่อยมาก ขนาดตัวของเธอหดกลับมาเหลือเท่าเดิม ขณะที่หน้าของเธอดูซีดมาก   หานเซิ่นตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าสวี่ยู่เหยียนใช้วิญญาณอสูรแบบไหนกันแน่ หลังจากที่ใช้เสร็จใบหน้าของเธอซีดมาก หานเซิ่นคิดว่าเธออยู่ในสภาพที่ไม่สามารถสู้ได้อีกแล้ว   ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมสวี่ยู่เหยียนถึงได้กลัวแค่โกสอายแบร์กลายพันธ์ นั่นก็เพราะว่าโกสอายแบร์กลายพันธ์มีจำนวนมากเกินไป เธอสามารถใช้วิญญาณอสูรของเธอได้แค่ครั้งเดียว เธอไม่สามารถใช้มันเสียเปล่าไปกับโกสอายแบร์กลายพันธ์ได้ เธอจะต้องเก็บมันไว้ใช้กับโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิเท่านั้น   หานเซิ่นไม่มีเวลาคิดอะไรอีก เขารีบเรียกวิญญาณอสูรธนูและลูกธนูออกมา จากนั้นเขาก็ธนูเล็งไปที่โกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิที่กำลังล่วงลงมาจากหน้าผา และยิงลูกธนูออกไป   ลูกธนูสีดำของเขาพุ่งผ่านอากาศราวกับสายฟ้าสีดำ มันเหมือนกับว่ามีจีพีเอสติดอยู่ยังไงยังงั้น มันพุ่งไปเสียบทะลุหัวของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิที่ลอยอยู่ในอากาศ   สวี่ยู่เหยียนที่กำลังฉลองอยู่ในใจต้องช็อตทันที เมื่อเห็นลูกธนูพุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ และเสียบเข้าไปที่หัวของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิ เธอรีบมองไปยังทิศทางที่ลูกธนูพุ่งออกมา และเห็นหานเซิ่นยืนถือธนูอยู่   ปัง! โกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิตกลงไปกระแทกกับพื้นข้างล่างอย่างรุนแรง สวี่ยู่เหยียนจ้องหานเซิ่นด้วยตาที่ลุกเป็นไฟ   เนื่องจากเธอไม่ได้ยินเสียงบอกว่าเธอได้ฆ่าโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิ นั่นแสดงว่าคนที่ได้ฆ่ามันก็ต้องเป็นหานเซิ่นอย่างแน่นอน   หานเซิ่นมีความสุขมากจนเกือบจะหัวเราะออกมา มันเหมือนกับว่าทุกครั้งที่เขาแย่งคนอื่นฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ เขาจะต้องได้วิญญาณอสูรทุกครั้งไป และครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น   “โกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิ เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0-10 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ”   “ช่างคุ้มค่าอะไรแบบนี้! น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้บาดเจ็บ เราเลยไม่มีโอกาสฆ่าสวี่ยู่เหยียน” หานเซิ่นพูดพร้อมกับถอนหายใจ   สวี่ยู่เหยียนกัดฟันและจ้องหานเซิ่นด้วยสายอาฆาต แต่เธอไม่พูดอะไร เธอรีบนำคนของเธอเข้าไปในรังทันที   สวี่ยู่เหยียนจัดให้คนของเธอเฝ้าหน้ารังเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้หานเซิ่นตามเข้าไปข้างในได้