Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 265 จักรพรรดิจงเจริญ
Super God Gene – ตอนที่ 265 จักรพรรดิจงเจริญ

ถ้าคุณคือจักรพรรดิ ให้ฉันสวมมงกุฎให้คุณ ถ้าคุณคือจักรพรรดิ โปรดยอมรับศรัทธาและความจงรักภักดีจากฉันด้วย ถ้าคุณคือจักรพรรดิ ขอบคุณสำหรับเหตุผลที่ทำให้พวกเราเชียร์ ถ้าคุณคือจักรพรรดิ โปรดชูลูกธนูแห่งชัยชนะของคุณและนำพวกเราไปสู่อนาคตที่สุกสว่าง ในตอนนี้ คุณคือจักรพรรดิ ในตอนนี้ คุณคือผู้ปกครองของพวกเรา ในตอนนี้ เพียงแค่คุณที่จะนำความสุขมาให้เรา ในตอนนี้ พวกเราคือผู้ติดตามของคุณ พวกเราเชียร์คุณ พวกเราจะชื่นชมคุณตลอดไป เพราะว่าคุณคือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ … เหวินซิ่วซิ่วอ่านบทกวีที่เธอเขียนขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะให้แก่หานเซิ่น   พวกแฟนๆของโรงเรียนทหารส่วนกลางต่างก็พากันเดินทางออกจากสนาม ขณะที่คนอื่นๆต่างก็ฉลองและกระโดดโลดเต้นไปรอบๆ   ในโลกโซเชียลเองก็ดุเดือดไม่แพ้กัน คนจำนวนมากกำลังถกเถียงกันว่าหานเซิ่นเอาชนะจิงจี้อู่ได้ยังไง “ลูกธนูดอกสุดท้ายนั่นเขาทำได้ยังไง?” “ราชาคนเก่าถูกโค่นลง และราชาคนใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น ในอนาคตหานเซิ่นต้องเป็นราชาที่ไร้เทียมทานในลีกการแข่งระดับกาแล็กซี่อย่างแน่นอน” “จักรพรรดิจงเจริญ!” “ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลย จิงจี้อู่แพ้งั้นหรอ?” “นี่คือการเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่” “ปีศาจตายด้วยลูกธนูของจักรพรรดิ” “ลูกธนูนั่นแปลกประหลาดมาก เขาทำอะไรกับลูกธนูดอกนั่นงั้นหรอ? หรือเขาควบคุมมันด้วยรีโมทคอนโทรล” “เขาเพียงแค่ชนะการแข่งธนูเท่านั้น มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเป็นยุคสมัยของเขา” “จักรพรรดิจงเจริญ!” “เป็นการยิงที่แปลกประหลาดมาก!”   ในคืนนั้นทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกันมาก นักกีฬาจากเหยี่ยวดำทุกคนต่างก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้ รวมถึงซื่อถูเซียงด้วย   การเอาชนะโรงเรียนทหารส่วนกลางที่มีจิงจี้อู่อยู่ในทีม มันเหมือนกับความฝันจริงๆ นักเรียนทุกคนในกาแล็กซี่ต่างก็มีความฝันแบบกัน ขณะที่เหยี่ยวดำเป็นทีมเดียวที่ทำได้สำเร็จ พวกเขาโค่นจิงจี้อู่ลงได้   แม้บางคนจะคิดว่าเป็นแค่เรื่องของดวงหรือโชคก็ตาม แต่ชนะก็คือชนะ   ถ้าพวกเขาไม่มีการแข่งในวันพรุ่งนี้ละก็ พวกเขาคงจะออกไปเลี้ยงฉลองกันตลอดทั้งคืนแล้ว   ถึงพวกเขาจะนอนอยู่บนเตียง แต่พวกเขาตื่นเต้นเกินกว่าจะหลบลงได้   “เซิ่น พวกเราชนะจริงๆใช่ไหม” ซื่อจื้อคังถาม ขณะนอนอยู่บนเตียง “ใช่” หานเซิ่นตอบ   “จางหยาง พวกเราชนะแล้วใช่ไหม” ซื่อจื้อคังถามจางหยาง “ใช่” จางหยางตอบ   “ลู่…” ก่อนที่ซื่อจื้อคังจะได้ถาม ลู่เหมินก็พูดแทรกขึ้นมา “ถ้านายยังรบกวนการนอนของคนอื่น ฉันจะไปบอกโค้ชว่าอย่าให้นายลงเป็นตัวจริงในวันพรุ่งนี้”   “บ้าเอ้ย! ทำไมนายจะต้องทำแบบนั้นด้วย? ฉันเอาชนะปีศาจไร้เทียมทานได้ แล้วทำไมนายถึงไม่ให้ฉันลงไปสู้กับคู่ต่อสู้อ่อนๆมั้ง?” ซื่อจื้อคังลุกขึ้นมา   “ถ้านายอยากลองดีก็ลองพูดอีกสักประโยคสิ” ลู่เหมินพูดอย่างสงบ ซื่อจื้อคังอ้าปาก แต่เขาไม่ส่งเสียงออกมา ซื่อจื้อคังกลัวว่าจะไม่ได้ลงแข่งเป็นตัวจริงในวันพรุ่งนี้   ซื่อถูเซียงยังไม่หลับเช่นเดียวกัน จนถึงตอนนี้เธอยังรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันอยู่เลย ลูกทีมของเธอเอาชนะโรงเรียนทหารส่วนกลางได้ แ_ละทำให้ความฝันของคนที่เป็นโค้ชทุกๆคนเป็นจริงขึ้นมา   “หานเซิ่นเป็นเด็กมหัศจรรย์จริงๆ” ซื่อถูเซียงหวังให้หานเซิ่นมายืนอยู่ข้างหน้าเธอตอนนี้ เธอจะได้เข้าไปกอดเขาสักที   ไม่ใช่แค่สมาชิกทีมเหยี่ยวดำเท่านั้นที่ยังไม่นอน พวกนักข่าวทั่วทั้งกาแล็กซี่ต่างก็กำลังทำงานอยู่เช่นเดียวกัน   ไม่มีใครคิดว่าโรงเรียนทหารส่วนกลางจะแพ้ให้กับโรงเรียนเหยี่ยวดำ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก   สำนักข่าวทุกสำนักในกาแล็กซี่ต่างก็รายงานข่าวเกี่ยวกับแมทการแข่งขันระหว่างเหยี่ยวดำและโรงเรียนทหารส่วนกลาง ซึ่งไฮไลท์หลักอยู่ที่กลยุทธ์ของเหยี่ยงดำ และการดวลกัน 1 ต่อ 1 ระหว่างหานเซิ่นกับจิงจี้อู่   สำนักข่าวส่วนใหญ่ก็เอาบทกวีของเหวินซิ่วซิ่วที่กล่าวถึงหานเซิ่นมาลงเช่นเดียวกัน ในชั่วข้ามคืนจักรพรรดิก็แทบจะกลายเป็นชื่อเล่นของหานเซิ่นไปเรียบร้อยแล้ว   จิงจี้อู่เป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก ทำให้คนที่สามารถเอาชนะเขาได้อย่างหานเซิ่นโด่งดังและกลายเป็นจุดสนใจขึ้นเป็นเท่าตัว ตอนนี้หานเซิ่นกลายเป็นดาวดวงใหม่ในการแข่งขันโรงเรียนทหารระดับกาแล็กซี่เรียบร้อยแล้ว   บนหลังคา มีหนุ่ม 3 คนกำลังนอนเอนหลัง และชมวิวในยามค่ำคืนอยู่ “ตอนนี้นายรู้สึกยังไงบ้างกับความพ่ายแพ้ครั้งแรก” ถังเตียงลิ่วดื่มเบียร์ และถามจิงจี้อู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ   “ก็ไม่เลว หานเซิ่นเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้” จิงจี้อู่ยิ้ม   “แล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับลูกธนูดอกสุดท้าย?” ถังเตียงลิ่วถามเรื่องที่สงสัยมานาน   “ลูกธนูมันกำลังหมุนอยู่” จิงจี้อู่ตอบ   “อะไรนะ? นายหมายความว่าไง ‘ลูกธนูกำลังหมุนอยู่’?” ถังเตียงลิ่วชะงักไป   ลูกธนูไม่เหมือนกับหอกที่ขว้างด้วยมือ ถ้าไม่ใช่ลูกธนูที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มันจะไม่มีทางหมุนได้ ซึ่งในทัวร์นาเมนต์ ลูกธนูทั้งหมดที่สปอนเซอร์จัดให้เป็นแค่ลูกธนูธรรมดาๆ   “ฉันก็ไม่รู้” จิงจี้อู่ตอบ “เป็นไปได้ยังไง นายไม่รู้?” ถังเตียงลิ่วมองจิงจี้อู่ด้วยความประหลาดใจ จิงจี้อู่เป็นคนที่เผชิญหน้ากับลูกธนูนั่น ด้วยความสามารถระดับเขา เขาควรจะรู้ว่าลูกธนูนั้นมันถูกยิงออกมาแบบไหน   หลินเฟิงพูดแทรกขึ้นมา “เขาไม่รู้มันก็ไม่แปลกหลอก เหมือนว่ามันพอจะมีวิธีการยิงให้มันหมุนได้ โดยการใช้กระแสลมช่วย แต่ผู้ที่ยังไม่วิวัฒนาการ ไม่มีทางสังเกตเห็นกระแสลมที่ว่านั้นได้”   “เป็นชายที่น่าสนใจจริงๆ น่าเสียดายนี่เป็นปีสุดท้ายของฉันแล้ว ฉันคงไม่มีโอกาสได้สู้กับเขาอีกแล้ว” จิงจี้อู่โยนกระป๋องเบียร์ที่ว่างเปล่าใส่ถังขยะ และกระโดดลงจากหลังคา “บาย หวังว่าจะเจอพวกนายอีก”   “ตอนนี้นายมีแผนที่จะทำอะไรต่อไป?”   “ปรกติฉันต้องไปยังสนามแข่งหลังจากแข่งจบ แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้ว” จิงจี้อู่พูดโดยที่ไม่ได้หันกลับมามอง   “แล้วฉันจะรอนาย” หลินเฟิงพูดขณะมองดูจิงจี้อู่เดินจากไป   จิงจี้อู่หันกลับมา และยิ้มให้หลินเฟิง “นายยังไม่ได้ลองสู้กับเขาใช่ไหม?”   “นายหมายถึงหานเซิ่นหรอ?” ไม่นานหลินเฟิงก็เข้าใจ จิงจี้อู่ไม่พูด เขายิ้มและเดินจากไป   “เขาหมายความว่าไง” ถังเตียงลิ่วงง   “เขาคงตั้งใจจะบอกว่าเขายังเอาชนะหานเซิ่นไมได้ ฉันเองก็คงเอาชนะหานเซิ่นไม่ได้เช่นเดียวกัน” หลินเฟิงพูด เมื่อได้ยินคำตอบถังเตียงลิ่วก็อ้าปากค้าง  

Super God Gene – ตอนที่ 264 จักรพรรดิถือกำเนิด
Super God Gene – ตอนที่ 264 จักรพรรดิถือกำเนิด

คันธนูของหานเซิ่นประสิทธิภาพด้อยกว่า ซึ่งไม่น่าจะยิงถูกจิงจี้อู่ได้ ถึงแม้เขาจะยิงถูกก็ตาม แต่ลูกธนูของเขาก็ยังเคลื่อนที่ช้ากว่าของจิงจี้อู่ ยังไงเขาก็ต้องเป็นฝ่ายถูกยิง และแพ้ก่อนแน่นอน   ด้วยการที่คันธนูของจิงจี้อู่อยู่ในระดับที่สูงมาก ถึงลูกธนูทั้ง 2 ดอกของหานเซิ่นจะสามารถยิงโดนลูกธนูของเขาได้ แต่ยังไงมันก็ไม่สามารถหยุดลูกธนูของเขาได้ เหมือนกับว่าตอนนี้ ผลลัพธ์มันเห็นกันอยู่ชัดๆแล้ว   ลูกธนูทั้ง 2 ดอกของหานเซิ่นไม่สามารถสัมผัสถูกร่างกายของจิงจี้อู่ได้ ขณะที่ลูกธนูของจิงจี้อู่พุ่งผ่านลูกธนู 2 ดอกของหานเซิ่นไปอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นในชั่วพริบตา   “ไม่!” จีเหยียนหรันไม่ต้องการดูต่อไปอีก   “จบแล้วสินะ” ซื่อถูเซียงรู้สึกเสียใจ เธอปรารถนาจะให้ธนูที่ดีกว่านี้กับหานเซิ่น เพื่อให้การต่อสู้เท่าเทียมกว่านี้ หานเซิ่นไม่ควรจะมาแพ้แบบนี้   “แม้แต่จักรพรรดิก็ไม่สามารถเอาชนะปีศาจได้” เหวินซิ่วซิ่วพูดในรายการ ทุกคนต่างก็คิดว่าหานเซิ่นแพ้แน่นอนแล้ว   แต่ทว่าในขณะที่ลูกธนูกำลังตรงเข้ามาหาหานเซิ่น หานเซิ่นยังเหลือลูกธนูที่ถูกรั้งสายรอยิงอยู่ เขาจับหางของลูกธนู และใช้หัวลูกธนูป้องกันลูกธนูของจิงจี้อู่ โดยใช้สายธนูค้ำไว้ เพื่อที่จะต้านลูกธนูของจิงจี้อู่ให้ได้   ถึงจะใช้ทั้งลูกธนู สายธนูและน้ำหนักตัวช่วย แต่หานเซิ่นก็ยังถูกแรงกระแทกจนกระเด็นไปบนพื้น   แต่ในเวลานี้ลูกธนูดอกแรกที่หานเซิ่นยิงออกมากำลังจะปะทะกับลูกธนูอีกดอกของจิงจี้อู่ ขณะที่ลูกธนูอีก 2 ดอกพุ่งตรงไปที่จิงจี้อู่   มันเหมือนกับว่าลูกธนู 2 ดอกสุดท้ายสูญเสียความแม่นยำไปแล้ว เนื่องจากหานเซิ่นยิงมันออกมาตอนที่เขากำลังจะล้มลง ดอกหนึ่งพุ่งไปทางซ้าย และอีกดอกพุ่งไปทางขวา มันพุ่งผ่านตัวของจิงจี้อู่ไป   ในตอนที่ผู้ชมกำลังถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก สีหน้าท่าทางของจิงจี้อู่ก็เปลี่ยนไปทันที ลูกธนูดอกแรกที่ควรจะปะทะกับลูกธนูของเขา กับยังไม่หยุด มันยังคงพุ่งตรงมาหาเขา   “นั่นมันเป็นไปได้ยังไง? จิงจี้อู่ทำผิดพลาดง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง?” ฉินเฉิงลุกขึ้นยืนทันที เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น   “ความผิดพลาดงั้นหรอ? นั่นมันเกิดขึ้นได้ยังไง?” เหวินซิ่วซิ่วเองก็ช็อคเช่นเดียวกัน คนอย่างจิงจี้อู่ไม่น่าจะสกัดลูกธนูพลาดได้   ใน 4 ปีที่ผ่านมา จิงจี้อู่ลงแข่งมาเป็นพันรายการ ประสบการณ์ของเขาโชกโชนมาก และเขายังไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว   แต่เพราะความผิดพลาดครั้งนี้ ทำให้ลูกธนูของหานเซิ่นพุ่งไปตรงหน้าของจิงจี้อู่ และจิงจี้อู่ก็สังเกตเห็นว่าลูกธนูอีก 2 ดอกของหานเซิ่นพุ่งมาทางซ้ายและขวาของเขา เพื่อป้องกันการหลบหนีของเขา   จิงจี้อู่ประเมินสถานการณ์ในชั่วพริบตา เขาตัดสินใจทำแบบเดียวกับหานเซิ่น เขาจับที่ปลายลูกธนูและรั้งสายจะยิงลูกธนู แต่ไม่ยิงออกไปและคิดจะใช้หัวของมันป้องกันลูกธนู ในบรรดานักเรียนจากโรงเรียนทหารทั้งกาแล็กซี่ น่าจะมีแค่หานเซิ่นกับจิงจี้อู่ที่เก่งพอจะทำท่าป้องกันพิสดารนี้ได้   ทุกคนจับจ้องไปที่มือของจิงจี้อู่ มันเหมือนว่าหัวลูกธนูของจิงจี้อู่เกือบจะชนกับลูกธนูของหานเซิ่นอยู่แล้ว ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาคงป้องกันมันได้ และหานเซิ่นจะหมดโอกาส   เนื่องจากทั้งหานเซิ่นและจิงจี้อู่ใช้เทคนิคแบบเดียวกัน แต่ลูกธนูของหานเซิ่นถูกยิงออกมาจากธนู 11.0 ซึ่งมันน่าจะป้องกันได้ง่ายกว่า   แต่ทันใดนั้นลูกธนูของหานเซิ่นมันก็ดูราวกับมีชีวิต มันเคลื่อนที่เหินขึ้นไปอีกครึ่งนิ้ว ราวกับงูไม่มีผิด หัวลูกธนูของจิงจี้อู่ไม่สามารถป้องกันมันได้ ลูกธนูของหานเซิ่นพุ่งไปปักที่อกของจิงจี้อู่   จิงจี้อู่มองลูกธนูบนอกด้วยความตะลึง   ฉินเฉิงอ้าปากค้างพูดไม่ออกเช่นเดียวกับเหวินซิ่วซิ่ว ซื่อถูเซียง และผู้ชมทุกๆคน   แม้ทุกคนจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจิงจี้อู่จะโดนยิงแบบนี้   จีเหยียนหรันและฉวี้ลี่ลี่กระโดดโลดเต้นไปทั่วห้องเหมือนคนบ้า   “จิงจี้อู่…แพ้งั้นหรอ?” ซื่อจื้อคังไม่อยากจะเชื่อ   “ใช่ ฉันคิดว่าใช่…” จางหยางเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเช่นเดียวกัน ไม่มีใครในเหยี่ยวดำที่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น   พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ปีศาจไร้เทียมทานจิงจี้อู่ คนที่เป็นเหมือนกับราชาของการแข่งระดับกาแล็กซี่ ที่แข่งมา 4 ปี ไม่เคยแพ้ใครกับถูกยิงแบบนั้น   “จิงจี้อู่จากโรงเรียนทหารส่วนกลางต้องออกจากสนาม โดยลูกธนูของหานเซิ่นจากโรงเรียนเหยี่ยวดำ” เมื่อได้ยินเสียงจากระบบอัตโนมัติ ทุกคนถึงเริ่มเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น   “เฮ้!” ซื่อจื้อคังกระโดดกอดลู่เหมินและตะโกน   “พวกเราชนะ!” สวี่เทียนดีใจจนร้องไห้ออกมา   จางหยางโยนผ้าขนหนูในมือของเขาและกระโดดโลดเต้นไปทั่ว จากนั้นสมาชิกในทีมเหยี่ยวดำทุกคนก็พากันวิ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่น และจับเขาโยนขึ้นฟ้าเพื่อฉลองชัยชนะ   “โค้ช พวกเราชนะแล้วใช่ไหม?” ผู้จัดการทีมมองซื่อถูเซียง   “ใช่ พวกเราชนะแล้ว” ซื่อถูเซียงตอบให้ทั้งผู้จัดการและตัวเธอเองฟัง   ทั่วทั้งสนามและในเน็ตเต็มไปด้วยข้อความมากมาย “จิงจี้อู่แพ้…” “เขาทำอะไรกับลูกธนูนั้น? ฉันไม่ได้เห็นคนเดียวใช่ไหม? มันหลบหัวธนูของจิงจี้อู่!” “ยุคของจิงจี้อู่จบลงแล้วงั้นหรอ?” “ปีศาจไร้เทียมทานแพ้แล้ว…” “ไม่อยากจะเชื่อเลย…”   เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกว่าเลือดของเธอกำลังเดือด และเสียงของเธอก็เปลี่ยนไปจากตอนแรก แต่เธอไม่สนใจมัน เธอตะโกนสุดเสียง “ปาฏิหาริย์ค่ะ ปาฏิหาริย์… เหยี่ยวดำสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นแล้ว หานเซิ่นเอาชนะปีศาจอย่างจิงจี้อู่ด้วยลูกธนูที่ราวกับมีชีวิต จักรพรรดิคนใหม่ของโรงเรียนทหารทั่วทั้งกาแล็กซี่ถือกำเนิดขึ้นแล้ว”