Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 253 คำเชื้อเชิญจากปีศาจ
Super God Gene – ตอนที่ 253 คำเชื้อเชิญจากปีศาจ

หานเซิ่นศึกษาแค่สมาชิกในทีมบางคนของโรงเรียนทหารส่วนกลาง เขาแทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนอื่นเลย เขาไม่แม้แต่จะรู้จักชิวหมิงเม่ย เขาเซ็นลายเซ็นและส่งกระดาษคืนให้เธอ   “ขอบคุณมากค่ะ ฉันหวังว่าพวกเราจะได้เจอกันในการแข่ง” ชิวหมิงเม่ยพูดอย่างตื่นเต้น และเดินกลับไปรวมกับทีมของเธอ   หานเซิ่นหันกลับมาและเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของเพื่อนร่วมทีม ซื่อจื้อคังใช้แขนที่กำยำของเขาล็อคคอหานเซิ่นและตะโกน “หานเซิ่น ชิวหมิงเม่ยมาขอลายเซ็นนายงั้นหรอ?!”   ตอนนี้ไม่เพียงแค่เพื่อนร่วมทีมของเขาเท่านั้น แต่สมาชิกทีมอื่นๆในล็อบบี้ต่างก็หันมามอง โดยเฉพาะสมาชิกที่เป็นผู้ชายต่างก็มองมาที่หานเซิ่นด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก   ชิวหมิงเม่ยนอกจากจะสวยแล้วยังมีฝีมือด้านธนูที่สุดยอดมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอคือดาวของการแข่งขันธนูในปีนี้ การที่เธอมาขอลายเซ็นหานเซิ่น ทำให้ผู้ชายคนอื่นรู้สึกไม่พอใจ   “หยุดซะ พวกเธอควรจะอยู่ในความสงบ อย่าทำให้โรงเรียนต้องขายหน้า” หลังจากที่ซื่อถูเซียงเช็คอินโรงแรมเสร็จ เธอก็พาพวกนักเรียนไปส่งตามห้องที่ทางฝ่ายจัดการแข่งขันจัดเตรียมไว้ให้   “อย่าไปไหนไกล เมื่อพวกเธอทานอาหารเสร็จให้ไปที่สนามแข่ง และทำการฝึกซ้อมให้ชินกับสนามแข่ง” ซื่อถูเซียงไม่ต้องการให้พวกนักเรียนใช้เวลาอย่างเปล่าประโยชน์   หลังจากทานอาหานเย็นเสร็จ สมาชิกทีมก็เดินทางไปที่สนามแข่งทันที ตอนนี้พวกเขามีเวลาเหลืออีก 10 วันก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น   “นั่นจิงจี้อู่!” เมื่อพวกเขามีถึงจุดรวมตัว ซื่อจื้อคังก็กระซิบกับเพื่อนร่วมทีม   ทุกคนมองไปที่ทีมของโรงเรียนทหารส่วนกลางที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ ซึ่งจิงจี้อู่เองก็กำลังยิงธนูอุ่นเครื่องโดยยิงเป้าเคลื่อนไหวที่อยู่ห่างออกไป 330 ฟุต และเขายิงโดนกลางเป้าทุกดอก   “ยอดเยี่ยมมาก เขานิ่งจริงๆ” ลู่เหมินแสดงความเห็น   แต่ทันใดนั้นก็มีหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาหานเซิ่น พร้อมกับถือธนูไว้ในมือ เขาถามด้วยน้ำเสียงยั่วยุ “นายคือหานเซิ่นงั้นหรอ?”   “ใช่ แล้วนายเป็นใคร?” หานเซิ่นมองไปที่ชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาไม่เคยเจอคนคนนี้มาก่อน   “จำฉันไว้ให้ดี ฉันคือฟางเหวินติ้งจากโรงเรียนสมิธ พวกเราจะเอาชนะทีมของนาย และเข้ารอบไปสู้กับโรงเรียนทหารส่วนกลาง” ชายหนุ่มพูดอย่างเย่อหยิ่ง   หานเซิ่นยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร ในตอนที่ซื่อจื้อคังกำลังพูดอะไรบางอย่าง ก็มีหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาหาพวกเขา   ปากของซื่อจื้อคังขยับ แต่เขาไม่ได้ส่งเสียง ตาของเขากำลังจ้องหนุ่มอีกคนที่เดินเข้ามา   ไม่ใช่แค่ซื่อจื้อคัง แต่เกือบทุกคนกำลังมองที่หนุ่มคนนั้น เพราะเขาคือจิงจี้อู่จากโรงเรียนทหารส่วนกลาง   “จิงจี้อู่” จิงจี้อู่แนะนำตัวเอง และยื่นมือขวาออกไปข้างหน้าหานเซิ่น   “หานเซิ่น” หานเซิ่นจับมือกับเขาเพื่อทักทาย   จิงจี้อู่ยิ้มและพูด “ผมต้องการจะทักทายตอนที่พวกเราเจอกันในการแข่ง แต่เนื่องจากคุณมาอยู่ที่นี่ ผมคิดว่าควรจะทักทายตอนนี้เลย ผมกำลังรอที่เจอกับคุณในการแข่ง”   “ผมก็เหมือนกัน” หานเซิ่นค่อนข้างสับสน นักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในกาแล็กซี่อยู่ๆก็เดินมาคุยกับเขา ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ   หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดของจิงจี้อู่ แต่คนอื่นๆที่ได้ยินถึงกับช็อค   พวกนักข่าวหลายคนที่อยู่แถวสนามแข่งต่างก็คิดหัวข้อข่าวไว้ในใจของพวกเขาหมดแล้ว ‘คำเชิญจากปีศาจ’ ‘คำท้าทายถึงจักรพรรดิ’ ‘โอกาสแห่งชัยชนะของเหยี่ยวดำ’….   ในตอนนี้ทุกคนรู้ว่าจิงจี้อู่ให้ความสำคัญกับโรงเรียนเหยี่ยวดำ และเห็นหานเซิ่นเป็นคู่แข่งที่คู่ควร   ฟางเหวินติ้งถูกทิ้งไว้คนเดียว ตอนนี้ไม่มีใครเลยที่ให้ความใส่ใจเขา คำพูดของเขาถูกลืมจนหมดสิ้นด้วยการปรากฏตัวของจิงจี้อู่   เหวินซิ่วซิ่วกำลังทำรายการสดบรรยากาศการฝึกซ้อมในสนามแข่ง เมื่อเธอเห็นฉากนี้ เธอก็รู้สึกประหลาดใจ   จริงๆเธอต้องทำรายการเกี่ยวกับมวยขาวและดำ แต่เนื่องจากเธอรู้ว่าหานเซิ่นลงแข่งธนู เธอจึงอาสามาทำรายการเกี่ยวกับธนูแทน   เธอไม่เข้าใจว่าทำไมหานเซิ่นถึงไม่ลงแข่งมวยขาวและดำในระดับกาแล็กซี่ ทั้งที่เขาสามารถคว้าแชมป์ได้อย่างสบายๆถ้าลงแข่ง   แม้เธอจะรู้ว่าเขาเป็นนักเรียนหน่วยธนู แต่เหวินซิ่วซิ่วก็ยังไม่เข้าใจความคิดของเขา   ปีนี้จิงจี้อู่เลือกลงแข่งธนู และตามกฎการแข่งใหม่ เขาจะไม่สามารถลงแข่งในรายการอื่นได้ ทำให้ในการแข่งมวยขาวและดำ เซนท์แชร์กแมงกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด   หานเซิ่นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถเอาชนะเซนท์แชร์กแมงได้อย่างง่ายดาย นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา แต่เขากับเลือกลงแข่งธนู และต้องเจอกับโรงเรียนทหารส่วนกลางในรอบที่ 2 ซึ่งมันเหนือกว่าความคาดหมายของเธอมาก   เมื่อได้เห็นการพูดคุยระหว่างหานเซิ่นกับจิงจี้อู่ เหวินซิ่วซิ่วก็รู้สึกเริ่มที่จะเข้าใจความคิดของหานเซิ่นแล้ว   ‘หานเซิ่นกับจิงจี้อู่ต้องทำให้การแข่งธนูปีนี้เป็นการแข่งที่สุดยอดแน่ นี่ต้องเป็นเหตุผลที่พวกเขาทั้ง 2 คน เลือกลงแข่งธนูพร้อมกับแน่’ เหวินซิ่วซิ่วเริ่มใช้จินตนาการอันบรรเจิดของเธอ   เธอแม้กระทั้งตั้งพาดหัวข่าวของเธอว่า ‘การนัดพบกันของปีศาจและจักรพรรดิ ‘   ขณะที่เหวินซิ่วซิ่วกำลังตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆกับงานที่เธอทำ เธอก็กลับไปที่ห้องทำงานของเธอแล้วเริ่มเขียนข่าวทันที   จริงๆแล้วจิงจี้อู่เพียงแค่เข้าไปทักทายกับหานเซิ่นเท่านั้น เพราะเขาได้ยินชื่อเสียงของหานเซิ่นมาจากถังเตียงลิ่วและหลินเฟิง แต่ที่เธอกำลังเขียนคือ หานเซิ่นกับจิงจี้อู่เหมือนจะมีเรื่องราวโรแมนติกระหว่างกัน รูปคู่ของพวกเขาที่เธอเป็นคนวาด มันดูเหมือนจริงมาก   หลังจากที่ได้อ่านข่าวของเธอ คนอื่นๆก็เริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหานเซิ่นกับจิงจี้อู่     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 815 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 252 ทัวร์คู่รัก 4 วัน 3 คืน
Super God Gene – ตอนที่ 252 ทัวร์คู่รัก 4 วัน 3 คืน

ในตอนแรกหานเซิ่นแค่คิดว่าจะรอให้ถึงการแข่ง เดี๋ยวก็ได้รู้ว่าผลมันจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เขามีแรงกระตุ้นในการเอาชนะโรงเรียนทหารส่วนกลาง   แค่คิดถึงทั่วร์คู่รักแบบ 4 วัน 3 คืนกับจีเหยียนหรัน หานเซิ่นก็รู้สึกว่าเลือดในกายของเขามันเดือดขึ้นมา   เหตุผลที่ทำให้จีเหยียนหรันต้องการให้หานเซิ่นเอาชนะจิงจี้อู่ คือเมื่อปีที่แล้วเธอนำทีมหัตถ์พระเจ้าลงแข่ง และแพ้ให้กับจิงจี้อู่แบบราบคาบ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย   ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอาฆาตพยาบาทสูงมาก และตอนนี้ทีมของหานเซิ่นก็กำลังจะเจอกับจิงจี้อู่ เห็นได้ชัดว่าจีเหยีนหรันไม่ต้องการให้แฟนของเธอแพ้คนคนนี้   เนื่องจากต้องการรางวัลจากจีเหยียนหรัน หานเซิ่นเลยหาวิดีโอการแข่งที่ผ่านๆมาของจิงจี้อู่มาดูเป็นจำนวนมาก   หานเซิ่นต้องยอมรับว่าจิงจี้อู่แข็งแกร่งจริงๆ เขาอยากที่จะหาจุดอ่อนของคนคนนี้ให้ได้ แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะคนคนนี้   ยิ่งกว่านั้นจิงจี้อู่คือระดับท็อปในหมู่ผู้ยังไม่วิวัฒนาการทั้งหมดในกาแล็กซี่ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาสุดยอดมาก   หานเซิ่นลองเปรียบเทียบตัวเองกับจิงจี้อู่ และพบว่าเขาด้อยกว่าทั้งด้านความแข็งแกร่งทางร่างกายและความเร็ว   ถังเตียงลิ่วบอกกับเขามาว่าจิงจี้อู่เก็บจีโนพ้อยทั้ง 4 ชนิดเต็มแล้ว แต่เหตุผลที่จิงจี้อู่ยังไม่ไปก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 ก็เพราะเขาต้องการต่อสู้กับหลินเฟิงในศึกชิงตำแหน่งผู้ถูกเลือกในปีหน้า   ยิ่งกว่านั้นไฮเปอร์จีโนที่จิงจี้อู่ฝึกฝนมาก็สุดยอดมาก แม้แต่ถังเตียงลิ่วกับหลินเฟิงก็ยังไม่รู้ว่ามันคือวิชาอะไรกันแน่ แต่ด้วยวิชานั้นทำให้คนทั่วๆไปที่เก็บจีโนพ้อยได้ครบทั้ง 4 ชนิดไม่สามารถสู้กับจิงจี้อู่ได้   “มันยากมากที่เอาชนะคนคนนี้ ถ้าเราเก็บจีโนพ้อยได้เต็มละก็ น่าจะสามารถเอาชนะเขาได้ แต่น่าเสียดายที่จีโนพ้อยของเรายังไม่เต็ม”   สิ่งหนึ่งที่หานเซิ่นยังไม่รู้ก็คือ ไม่ใช่เพียงแค่เขาที่กำลังศึกษาคู่แข่งอยู่ ตอนนี้คู่แข่งของเขาก็กำลังศึกษาเขาเช่นเดียวกัน หลินเฟิงบอกว่าจิงจี้อู่เป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่สุด และยังเป็นคนที่ทำงานอย่างหนักเพื่อความสำเร็จ เขามีจิตใจที่เข้มแข็ง และไม่เคยดูถูกคู่แข่ง โดยเฉพาะคนที่หลินเฟิงให้ความสนใจ   จิงจี้อู่รวบรวมข้อมูลของหานเซิ่นทั้งหมดบนเน็ต รวมถึงวิดีโอการแข่งวอเฟรมในการแข่งขันสตาร์รี่คัพ นอกจากนี้เขายังได้ดูการแข่งมวยขาวและดำที่หานเซิ่นเอาชนะนาลานได้ และการเปิดตัวSKTS จิงจี้อู่ตั้งใจดูทุกวิดีโอที่เขารวบรวมมาอย่างละเอียด   “จี้อู่ นายกำลังดูอะไร?” ฉินเฉิงเดินเข้ามาและยืนอยู่ข้างหลังจิงจี้อู่   ฉินเฉิงคือคนที่มีฝีมือเป็นอันดับ 2 ของทีมนักกีฬาธนูโรงเรียนทหารส่วนกลาง   เดิมทีฉินเฉิงไม่ได้อยู่ในทีมนักกีฬาธนู แต่เขาอยู่ในทีมวอเฟรม ซึ่งเขาเคยเป็นกัปตันทีมวอเฟรม และพาทีมชนะการแข่งขันระดับกาแล็กซี่ แต่เพราะว่าจิงจี้อู่พูด “ฉันต้องการนายมาร่วมทีมของฉัน” เขาเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ทีมธนูแทน   ฉินเฉิงคือนักเรียนระดับท็อปของโรงเรียนทหารส่วนกลาง ขอแค่มีเขาคนเดียว เขาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ไม่ยาก   “หานเซิ่นจากเหยี่ยวดำ” จิงจี้อู่พูดในขณะตาของเขายังดูวิดีโออยู่   “ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับคนคนนี้มาบ้าง เขาเอาชนะนาลานเฉิงนั่วได้ในการแข่งมวยขาวและดำ เขาน่าจะแข็งแกร่งมาก” ฉินเฉิงนั่งลงข้างๆจิงจี้อู่และถาม “แล้วจากที่นายดูมา นายคิดว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”   “เยี่ยมมาก” จิงจี้อู่พูด   ฉินเฉิงมองจิงจี้อู่ด้วยความประหลาดใจ มีอยู่ไม่กี่คนที่จิงจี้อู่จะแสดงความเห็นแบบนี้ออกมา อย่างน้อยๆตั้งแต่ที่เขาเคยร่วมทีมกับจิงจี้อู่มา เขายังไม่เคยได้ยินจิงจี้อู่พูดแบบนี้มาก่อน   “เขาเยี่ยมยังไง?” ฉินเฉิงถามอย่างจริงจัง   “ระดับความแข็งแกร่งของเขาพอๆกับนาย และเขายังมีความสามารถในการคาดการณ์ที่เหนือชั้นมาก เขารู้ความคิดของคู่ต่อสู้ทะลุปรุโปร่ง มันเหมือนกับว่าเขาอ่านใจคนได้”   “งั้นก็น่าสนใจจริงๆ เยี่ยมเลย ฉันอุส่าย้ายมาแข่งธนูทั้งที ถ้าไม่ได้เจอคู่ต่อสู้เก่งๆแบบนี้ มันก็คงจะน่าเบื่อมาก” ฉินเฉิงหัวเราะ   “นั่นก็ใช่ แต่ฉันอยากหาข้อมูลเขาให้มากกว่านี้หน่อย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือกับคนอย่างเขา” จิงจี้อู่หัวเราะเช่นกัน แม้ว่าเขามักจะศึกษาคู่แข่งอยู่เสมอ แต่เขาไม่เคยกลัวคู่ต่อสู้คนไหน   ฉินเฉิงพยักหน้า เขาเปิดกระป๋องเบียร์ และส่งให้จิงจี้อู่ พร้อมกับนั่งลงบนโซฟา หลังจากดูวิโอของหานเซิ่นจนหมด ฉินเฉิงก็พูด “เขาแข็งแกร่งจริงๆ แล้วเพื่อนร่วมทีมคนอื่นของเขาเป็นยังไงบ้าง”   “ไม่ค่อยเท่าไหร่” จิงจี้อู่เปิดวิดีโอคนอื่นๆของเหยี่ยวดำที่เขาหามา   ฉินเฉิงคุ้นเคยกับจิงจี้อู่ดี หลังจากที่เขาดูวิดีโอทั้งหมดเสร็จ เขาก็รู้สึกผิดหวัง “เพื่อนร่วมทีมของเขาฝีมือห่วยเกินไป”   การแข่งขันธนูปรกติจะเป็นการแข่งที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่กระนั้นการแข่งในปีนี้กับได้รับความนิยมมาก เพราะว่าจิงจี้อู่ตัดสินใจลงแข่งธนู   พวกแฟนคลับของโรงเรียนทหารส่วนกลางทุกคนต่างก็อยากเจอจิงจี้อู่และฉินเฉิงตัวเป็นๆ บางคนกระทั้งเดินทางไปยังดาวกอทที่เป็นสถานที่จัดการแข่ง เพื่อดูการแข่งแบบใกล้ชิด   นักกีฬาทั้งหมดจากโรงเรียนต่างๆก็ทยอยเดินทางมายังดาวกอท และถูกจัดให้เข้าพักภายในโรงแรมที่อยู่ข้างๆสนามแข่ง   เมื่อซื่อถูเซียงพานักเรียนของเธอเดินทางมาถึง เธอก็ให้นักเรียนรออยู่บริเวณล็อบบี้ ส่วนเธอจะไปเช็คอินกับทางโรงแรม ขณะกำลังยืนรออยู่ที่ล็อบบี้ พวกเขาก็ได้เห็นพวกนักเรียนจากโรงเรียนอื่นทยอยเดินทางกันเข้ามา   “คุณคือหานเซิ่นใช่ไหม?” หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มเห็นหานเซิ่นและเดินเข้ามาหา   “ใช่ครับ แล้วคุณคือ?” หานเซิ่นมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา เธอสวมชุดของโรงเรียนอื่นและกำลังถือซองใส่ลูกธนู   “ฉันชื่อชิวหมิงเม่ย ฉันเชื่อชอบการเปิดตัวSKTSของคุณมาก ฉันขอลายเซ็นคุณหน่อยจะได้ไหม?” หญิงสาวส่งปากกากับกระดาษให้หานเซิ่น และมองดูหานเซิ่นด้วยความชื่นชม   “ชิวหมิงเม่ย! เธอคือชิวหมิงเม่ยจากโรงเรียนทหารเซินวู่ใช่ไหม?” ซื่อจื้อคังและสมาชิกคนอื่นๆในทีมต่างก็จ้องไปที่หญิงสาวทันที   ชื่อของชิวหมิงเม่ยเป็นที่รู้จักดีในหมู่นักกีฬาธนู ปีที่แล้วเธอเป็นแค่เด็กปี 1 แต่เธอกับสามารถนำทีมที่ดูเหมือนจะอ่อนแอไปถึงอันดับ 3 ได้   ชิวหมิงเม่ยกลายเป็นคนมีชื่อเสียงตั้งแต่นั้นมา ปีนี้ชิวหมิงเม่ยและโรงเรียนเซินวู่เลยได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ