Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 249 การแก้แค้น
Super God Gene – ตอนที่ 249 การแก้แค้น

“หัวหน้า เรากำลังจะไปสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ พวกเราอาจจะต้องบาดเจ็บ ฉันไม่คิดว่าพวกเราควรจะพาคนที่ไม่เกี่ยวข้องไปด้วย” หยางม่านลี่คัดค้านเมื่อเธอได้ยินว่าชิงจะไปด้วย   “หานเซิ่น นี่เป็นโอกาสที่ดี ผมอยากเห็นการล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิของคุณ ได้โปรดพาผมไปด้วย” เงื่อนไขในภารกิจไม่ได้กำหนดว่าชิงจะต้องไปด้วย ดังนั้นชิงเลยขอหานเซิ่นเป็นการส่วนตัว   “ที่ฉันแนะนำไปก็เพราะกังวลถึงความปลอดภัยเป็นหลัก” หยางม่านลี่พูด   “มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร พวกเราไปกันหมดนี่แหละ” หานเซิ่นรู้ว่าหยางม่านลี่พูดถูก ถ้าพาชิงไปด้วย และเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น พวกเขาอาจจะรับผิดชอบไม่ไหว   แม้ว่าชิงกับหยวนจะเก็บจีโนพ้อยทุกชนิดยกเว้นเลือดศักดิ์สิทธิได้เต็มหมดแล้ว ด้วยเงินและอิทธิพลที่พวกเขามี แต่พวกเขายังขาดประสบการณ์ในการต่อสู้จริงอยู่มาก ซึ่งพวกเขาไม่มีประโยชน์อะไรในการต่อสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ แต่ตหานเซิ่นเหมือนจะมีแผนอยู่ในใจ เขาเลยยอมให้ชิงตามไปด้วย   “ฮาฮา ม่านลี่ คุณควรจะเรียนรู้จากหัวหน้าให้มากกว่านี้นะ” ชิงพูดเหน็บแนม   หยางม่านลี่กัดฟันแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ตอนที่ซินเสวียนยังเป็นหัวหน้าอยู่   หยางม่านลี่ยิ่งรู้สึกไม่ชอบการตัดสินใจของซินเสวียนที่เลือกหานเซิ่นมาเป็นหัวหน้ามากขึ้นไปอีก หานเซิ่นดูเหมือนเป็นคนไร้เหตุผลมาก เขาคิดจริงๆหรอว่าเขาจะฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้?   พวกเขาทั้ง 4 คนเดินไปตามเส้นทาง โดยใช้สัตว์ขี่ของพวกเขา ผ่านไปแค่ 2 วัน พวกเขาก็เดินทางถึงจุดหมาย   “หานเซิ่น มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอยู่ในป่านั้น มันดูเหมือนกับลิงที่มีความคล่องแคล่วที่น่าเหลือเชื่อมาก สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมันก็คือความเร็ว ถ้าแกมเบิลไม่ได้อยู่ด้วยตอนที่เราเจอมัน พวกเราอาจจะตายไปแล้ว” ชิงพูดด้วยความกลัว   หานเซิ่นพยักหน้า เขาได้ยินว่าแกมเบิลบาดเจ็บหนักจากภารกิจ เนื่องจากเขาไม่เคยถามแกมเบิล เขาเลยไม่รู้ว่าที่แกลเบิลบาดเจ็บก็เพราะมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวนี้   หยางม่านลี่พูดด้วยท่าทางเคร่งเครียด “ครั้งสุดท้ายที่ฉันกับซินเสวียนมาตรวจสอบที่นี่ พวกเราพบว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวนี้มีความเร็วที่สูงมาก เมื่ออยู่ในป่ายากมากที่พวกเราจะฆ่ามันได้ ถึงจะมากันกลุ่มใหญ่ก็ตาม และยิ่งภารกิจนี้พวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่ามันได้โดยตรง ทำให้งานของพวกเรายิ่งยากขึ้นไปอีก”   หานเซิ่นมองไปทั่วป่า มีต้นไม้สูงกว่า 10 ฟุตอยู่เป็นจำนวนมาก แม้แต่แสงอาทิตย์ก็ไม่สามารถส่องผ่านลงมาได้ การต่อสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิในความมืดเป็นเรื่องที่ยากมาก   ซินเสวียนเขียนบอกไว้ด้วยว่ามอนสเตอร์ตัวนี้แข็งแกร่งและเร็วมาก ถ้าในด้านความแข็งแกร่ง เธอพอจะรับมือได้ แต่เธอไม่สามารถรับมือกับความคล่องแคล่วของมันได้   แม้แต่ตซินเสวียนยังเขียนบอกไว้แบบนั้น แสดงว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทะตัวนี้ มันต้องแข็งแกร่งจริงๆ   “ชิง หยวย โปรดรออยู่ข้างนอก ฉันจะเข้าไปข้างในกับม่านลี่ก่อน แล้วจะเรียกให้พวกนายเข้าไป ตอนที่พวกเราทำให้มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเคลื่อนไหวไม่ได้สำเร็จแล้ว” หานเซิ่นบอกสองหนุ่ม และพาหยางม่านลี่เข้าไปในป่า   หยางม่านลี่คือสุดยอดนักธนู แต่ความสามารด้านธนูของเธอจะใช้ประโยชน์ไม่ได้มาถ้าเจอสิ่งแวดล้อมแบบนี้ แต่กระนั้นด้วยหน้าที่ ทำให้เธอต้องเชื่อฟังหานเซิน และตามเขาเข้าไปในป่า   เมื่อพวกเขาอยู่ที่ขอบของป่า หานเซิ่นหยุดและพูดกับหยางม่านลี่ “ม่านลี่ เธอเข้าไปก่อนเลย และล่อมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิออกมา ฉันจะคอยระวังหลังให้เธอด้วยธนู ไม่ต้องกังวลฉันจะฆ่ามันทันที ถ้าเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี”   หยางม่านลี่อึ้ง ตอนนี้ในหัวของเธอเต็มไปด้วยคำว่า ‘แก้แค้น’ หานเซิ่นคงหาทางแก้แค้นเธอแน่ ด้วยการที่มีต้นไม้อยู่เต็มไปหมดแบบนี้ แล้วเขาจะระวังหลังให้เธอได้ดีแค่ไหน? ในสถานการณ์แบบนี้นักธนูไม่น่าจะทำอะไรได้มาก   หยางม่านลี่คิดว่าความเป็นไปได้อย่างเดียวก็คือหานเซิ่นต้องการจะฆ่าเธอด้วยวิธีนี้ “นายพยายามจะกำจัดฉันให้พ้นทางใช่ไหม?” หยางม่านลี่กัดฟันและพูด   หานเซิ่นไม่อธิบายอะไรเพิ่ม เขายิ้มและพูด “เธอไม่มีสิทธิจะเลือก หรือว่าเธอคิดจะขัดคำสั่ง?”   หยางม่านลี่มองหานเซิ่นด้วยสายตาอาฆาต และเดินเข้าไปในป่า เธอแตกต่างจากหานเซิ่น เธอมาจากตระกูลทหาร และถูกสั่งสอนมาว่าคำสั่งของหัวหน้าถือเป็นที่สุด   ในป่านี้มีต้นไม้หนาแน่นมาก แทบจะไม่มีแสงส่องลงมาเลย หยางม่านลี่เรียกดาบวิญญาณอสูรกลายพันธ์ออกมา และเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ขณะที่เธอกำลังเดิน เธอคิดว่าเธอจะยื่นเรื่องขอย้ายออกจากหน่วย หลังจากที่เธอรอดชีวิตกลับไปได้   ‘ซินเสวียน เธอคิดผิดแล้ว ตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอออกไป เขาก็ตั้งใจจะเขี่ยฉันให้พ้นทาง นี่หรอที่เธอเรียกเขาว่าคนที่มีพรสวรรค์ และเลือกเขามาเป็นหัวหน้า?’ หยางม่านลี่รู้สึกขมขื่นและโกรธในเวลาเดียวกัน นอกจากไม่ได้เป็นหัวหน้าแล้วยังต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่   ขณะที่เดินอยู่หยางม่านลี่ตัดสินใจหันหลังกลับไปดู แต่เธอไม่เห็นหานเซิ่นแล้ว ทำให้เธอยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องการกำจัดเธอแน่นอน เมื่อเธอหันหน้ากลับมา ลิงสีดำขนาดใหญ่ก็โดดออกมาจากพุ่มไม้   ลิงตัวนี้ไวมาก มันมาถึงหน้าของเธอในชั่วพริบตา การที่เธอหันหลังกลับ ทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นมันได้ทัน ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่เธอจะหลบหรือวิ่งหนี เธอตัดสินใจใช้ดาบฟันไปที่ลิง   ถึงฝีมือดาบของเธอจะถือว่าดีเยี่ยม และเธอก็มีความแข็งแกร่งที่สูงมาก แต่เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ ยิ่งกว่านั้นยังไงเธอก็เป็นนักธนูที่ไม่ค่อยได้โดดเด่นเรื่องสู้ระยะใกล้   มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิจับอาวุธของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง อาวุธระดับกลายพันธ์ไม่ระคายผิวของมันเลย และมันก็ใช้มืออีกข้างจับที่คอของหยางม่านลี่   เมื่อเห็นกรงเล็บที่แหลมคมเหมือนกับมีดของมัน หยางม่านลี่ก็ถอดใจยอมแพ้ เธอถอนหายใจ ‘บ้าเอ้ย ทำไมเราถึงต้องมาตายอย่างน่าทุเรศแบบนี้ด้วย?’   เมื่อเธอรู้สึกหมดหวังแล้ว เธอก็เห็นเหมือนกับมีสายฟ้าสีเงินตัดมือของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่อยู่ใกล้กับคอของเธอ มือของมอนสเตอร์ล่วงลงไปบนพื้น พร้อมกับเลือดที่กระจายออกมา   หานเซิ่นเคลื่อนไหวไปอีกด้านอย่างรวดเร็ว ขณะที่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิกำลังกรีดร้องอยู่   หยางม่านลี่มองดูหานเซิ่น เธอไม่รู้ว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เธอมองเขาด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ตอนนี้เธอยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับไปไหน   “เขาไม่ได้ต้องการจะกำจัดเราให้พ้นทางงั้นหรอ? เขามาปรากฏตัวตรงนี้ได้ยังไง?” หยางม่านลี่มองเห็นหานเซิ่นแบบลางๆ ตัวของหานเซิ่นเหมือนจะกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม หานเซิ่นเคลื่อนไหวอย่างว่องไว อาวุธสีเงินของเขาเหมือนกับกำลังเต้นระบ่ำ ในชั่วพริบตาแขนและขาของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิถูกตัดขาดทั้งหมด และมันเกือบจะขาดใจตายแล้ว     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 803 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 248 ผมคือหัวหน้า
Super God Gene – ตอนที่ 248 ผมคือหัวหน้า

หานเซิ่นต้องการไปเจอแฟนของเขา แต่เขายังไม่มีโอกาสเลย ตอนที่เขาออกมาจากโรงฝึก เขาก็ถูกซินเสวียนเรียกตัวด่วน เขาเลยต้องไปสตีลอาเมอร์ก่อน   ซินเสวียนควรจะต้องเข้าไปก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 ตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว แต่ที่เธอต้องดีเลย์มาจนถึงตอนนี้ก็เพื่อรอหานเซิ่นกลับมา และมอบตำแหน่งให้เขาอย่างเป็นทางการ   ซินเสวียนเรียกหานเซิ่นเข้าพบ และส่งมอบเอกสารสำคัญให้เขา   ม่านลี่ยังคงเป็นรองหัวหน้าของหน่วยพิเศษ และสมาชิกคนอื่นๆก็ยังคงอยู่กันพร้อมหน้า ซึ่งหานเซิ่นก็คุ้นเคยกับพวกเขาดี   หลังจากการส่งมอบตำแหน่งเสร็จสิ้น ซินเสวียนก็บอกกับหานเซิ่นเป็นการส่วนตัว “ม่านลี่เป็นคนที่เย่อหยิ่งเละภูมิใจในตัวเอง แต่เธอก็มีความสามารถสูง นายควรจะไว้ใจให้เธอทำงานสำคัญๆ ในฐานะหัวหน้า มันคือเรื่องสำคัญที่นายต้องทำให้ลูกน้องเชื่อใจ ที่หยางม่านลี่ไม่มีคุณสมบัติในการเป็นหัวหน้าก็เพราะว่าเธอมักจะทำอะไรด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งพาคนอื่น”   “ผมเข้าใจครับหัวหน้า” หานเซิ่นพูด   ซินเสวียนยืนขึ้น ละพูดพร้อมกับยิ้ม “ตั้งแต่ตอนนี้ไป นายคือหัวหน้า ฉันต้องฝากหน่วยพิเศษไว้กับนาย ทำงานให้ดีและอย่าขี้เกียจล่ะ รีบๆวิวัฒนาการให้ไวที่สุด ก็อตเเซงชัวรี่เขต 2 เป็นที่ที่เหมาะสมกับนาย” …..   หลังจากออกจากสตีลอาเมอร์ หานเซิ่นแทบจะรอไม่ไหวที่จะล็อคอินเข้าไปในแพลตฟอร์มของหน่วยพิเศษ มันต้องผ่านการรับรองหลายขั้นตอนกว่าที่เขาจะสามารถล็อคอินเข้ามาในนี้ได้   หลังจากเข้ามาในแพลตฟอร์ม หานเซิ่นก็ค้นหาชื่อของเขา และพบว่าตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษของสตีลอาเมอร์อย่างเป็นทางการแล้ว ภายใต้บัญชาของเขามีสมาชิก 8 คน ซึ่งรวมถึงหยางม่านลี่ด้วย หน่วยพิเศษเป็นหน่วยที่เคร่งครัดในการเลือกสมาชิกมาก ต้องขอบคุณซินเสวียนที่ทำให้หานเซิ่นได้เข้ามาในหน่วยโดยไม่ต้องลำบากอะไร   ภารกิจแต่ละอย่างที่สมาชิกของหน่วยทำสำเร็จจะไม่เพียงแค่ทำให้พวกเขาได้รางวัลเท่านั้น แต่เมื่อพวกเขาทำภารกิจสำเร็จจะมีคะแนนพิเศษให้หัวหน้าหน่วยด้วย ซึ่งคะแนนพวกนี้สามารถเอาแลกอะไรได้หลายอย่าง   เนื่องจากหานเซิ่นพึ่งจะขึ้นมาเป็นหัวหน้า เลยยังไม่มีคะแนนตรงส่วนนี้ แต่ในตอนนี้มีสมาชิกหน่วยของเขา 4 คนรวมถึงแกมเบิลกำลังอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจ ถ้าพวกเขาทำภารกิจสำเร็จ หานเซิ่นจะได้ประโยชน์จากพวกเขาด้วย   หานเซิ่นเช็คข้อมูลภารกิจที่พวกเขากำลังดำเนินอยู่ และพบว่าภารกิจของแกมเบิลสามารถเพิ่มคะแนนให้เขาได้ 3 คะแนนเมื่อทำสำเร็จ ขณะที่ภารกิจของอีก 3 คนสามารถเพิ่มคะแนนให้เขาได้คนละ 2 คะแนน   ถ้าพวกเขาทุกคนทำภารกิจสำเร็จ หานเซิ่นจะได้ 9 คะแนน   “9 คะแนนนี่เอาไปทำอะไรได้มั้งนะ?” หานเซิ่นเข้าไปในส่วนของที่สามารถนำคะแนนมาแลกได้ และเขาก็ต้องช็อค   มีใบอนุญาตระดับ s ของสถาบันเซนท์ และยาปรับปรุงพันธุกรรม ยาปรับปรุงพันธุกรรมของวิชาระดับS 1 ขวดจะต้องใช้ 10 คะแนน และใบอนุญาต 1 ใบต้องใช้ 30 คะแนน   “ในที่สุดเราก็ได้เป็นหัวหน้า” หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะถ้าได้เป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษไปเรื่อยๆ ต่อให้เขาไม่ได้ทำภารกิจอะไรเลย เขาก็ยังได้รับผลประโยชน์   “ในที่สุดผมก็เข้าใจว่าทำไมหยางม่านลี่ถึงได้อยากเป็นหัวหน้าขนาดนั้น มันดีอย่างนี้นี่เอง” หานเซิ่นไล่เช็คภารกิจที่สามารถรับได้ทันที และเห็นว่าตอนนี้มีเพียงแค่ภารกิจเดียวที่สามารถรับได้ในสตีลอาเมอร์ ซึ่งเป็นภารกิจของหยวน   เนื้อหาของภารกิจคือช่วยให้หยวนฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขที่ว่าหยวนต้องเป็นคนโจมตีคนสุดท้าย   รางวัลของภารกิจคือยาปรับปรุงพันธุกรรมของวิชาระดับS ขณะที่หัวหน้าหน่วยจะได้รับ 10 คะแนน ซึ่งสามารถนำไปแลกยาปรับปรุงพันธุกรรมได้อีก 1 ขวด   “เยี่ยมเลย! แล้วจะให้ใครไปทำภารกิจนี้ดี?” หานเซิ่นมีลูกน้องใต้บังคับบัญชาหลายคน และเขาไม่ต้องการทำงานหนักด้วยตัวเอง   เขาปริ้นท์ข้อมูลของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่หยวนเป็นคนให้ข้อมูลมา และเข้าไปในก็อตแซซงชัวรี่อีกครั้ง เขาเรียกหยางม่านลี่เข้าพบทันที “ม่านลี่ เธอคิดว่าสามารถทำงานนี้สำเร็จได้ไหม?”   “หัวหน้าได้โปรดเรียกชื่อฉันแบบเต็มๆด้วย” หยางม่านลี่รู้สึกระคายหู เมื่อได้ยินหานเซิ่นที่อายุน้อยกว่าเรียกเธอห้วนๆแบบนั้น   หยางม่านลี่ดูเอกสารที่หานเซิ่นเอามาให้โดยที่เธอไม่ได้เตะต้องมันเลย เธอพูด “นี่มันเกินกว่าความสามารถของพวกเรา”   “เธอรู้ได้ยังไงในเมื่อเธอยังไม่ได้ดูเอกสาร?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว   “ซินเสวียนประเมินแล้วว่าต่อให้ไปทั้งหน่วย พวกเราก็ไม่สามารถฆ่ามอนสเตอร์ตัวนี้ได้ และนั่นเป็นเหตุผลที่หล่อนไม่รับภารกิจนี้ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวนี้ คุณสามารถไปดูได้ที่ห้องรวบรวมข้อมูล ซึ่งอยู่ทางซ้ายของห้องนี้” หยางม่านลี่อธิบายอย่างสงบ   หานเซิ่นลุกขึ้นและเดินไปอีกห้อง เขาพบรายงานของซินเสวียนเกี่ยวกับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ ซึ่งมีรายละเอียดที่ค่อยข้างเยอะเลยทีเดียว เหมือนกับว่าซินเสวียนเคยพยายามฆ่ามันแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ   หลังจากที่ได้ดูข้อมูลทั้งหมดแล้ว หานเซิ่นก็ยิ้มให้หยางม่านลี่ “ม่านลี่ ถ้าผมจำไม่ผิด เธอมีหน้าที่คอยช่วยผมใช่ไหม?”   “แค่งานของหน่วยเท่านั้น แล้วก็ช่วยเรียกชื่อของฉัน…” หานเซิ่นพูดแทรก “งั้นก็เก็บของและเตรียมตัวให้พร้อม เธอต้องไปกับผม”   “พวกเราจะไปที่ไหน?” หยางม่านลี่ขมวดคิ้ว   “ที่ที่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอยู่” หานเซิ่นเอานิ้วเคาะเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ “บอกหยวนด้วยว่าพวกเรารับภารกิจ และต้องขอให้เขาเป็นคนนำทาง”   “ซินเสวียนบอกว่า…” หยางม่านลี่ต้องการจะโต้แย้ง   “ตอนนี้ผมคือหัวหน้าหน่วย และเธอก็เป็นรองหัวหน้า ผมตัดสินใจรับภารกิจนี้ เธอมีคำถามอะไรไหม?” หานเซิ่นถาม   “ไม่” หยางม่านลี่ทำความเคารพหานเซิ่น และไม่โต้แย้งอะไรอีก   “โปรดพาหยวนมาที่นี่ด้วย” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   หยางม่านลี่ต้องเชื่อฟังคำสั่ง แต่ลึกๆแล้วเธอไม่เชื่อว่าหานเซิ่นมีปัญญาทำภารกิจนี้สำเร็จได้ เพราะซินเสวียนเป็นคนบอกเธอเองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำภารกิจนี้   ซินเสวียนถือเป็นระดับท็อปของก็อตเเซงชัววรี่เขต 1 หยางม่านลี่เชื่อว่าความแข็งแกร่งของหานเซิ่นยังเป็นรองซินเสวียน ภารกิจที่หล่อนไม่สามารถทำได้ หานเซิ่นก็ไม่น่าจะทำได้   แต่ในฐานะที่เป็นทหาร หยางม่านลี่ถูกอบรมมาให้ฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เธอจำต้องไปหาหยวนตามคำสั่งของหานเซิ่น   ชิงเองก็มาพร้อมกับหยวนด้วย เมื่อชิงเห็นหานเซิ่น เขาก็พูดทันที “หานเซิ่น ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องทำได้ ดูตอนนี้สิ คุณได้เป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษ ผมกับหยวนคงต้องพึงพาคุณอีกมากในอนาคต”     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 800 แล้วครับ