Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 243 บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย
Super God Gene – ตอนที่ 243 บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย

ช่วงแรกๆลู่เว่ยหนานจะกลับมาดูหานเซิ่นอยู่เรื่อยๆ แต่ตช่วงหลังๆมานี่หานเซิ่นแทบไม่เห็นเขาเลย หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าลู่เว่ยหนานยอมแพ้ไปแล้วหรือแค่ไปหาคนมาช่วย   เมื่อไม่มีใครอยู่แถวนี้ หานเซิ่นก็คิดอยากจะลองใช้ธนูเลือดศักดิ์สิทธิดู แต่ตทว่าเขาไม่มีลูกธนูระดับเลือดศักดิ์สิทธิ ลูกธนูระดับกลายพันธ์คงไม่สามารถทำอะไรมันได้ เขาเลยต้องเลิกล้มความคิดนี้ไป   โชคดีที่ตอนนี้หานเซิ่นฝึกคลื่นหยินหยางขั้นแรกสำเร็จแล้ว และตอนนี้เขาก็อยากลองใช้มัน   หานเซิ่นสะพายดาบเพชรไว้บนหลัง และเปลี่ยนร่างเป็นนักฆ่ากระหายเลือด จากนั้นเขาก็เข้าไปสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอีกครั้ง   เหตุผลที่เขาไม่ใช้ดาบเพชร ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ต้องการใช้มัน แต่เพราะด้วยระดับของวิชาคลื่นหยินหยางที่เขาฝึกสำเร็จตอนนี้ ยังไม่สามารถใช้มันร่วมกับอาวุธได้   ครั้งนี้หานเซิ่นต้องใช้สมาธิ ละความระวังเป็นพิเศษ การที่เขาไม่ใช้ดาบ เขาจะบาดเจ็บหนักได้ง่ายๆ ถ้าโจมตีผิดพลาด   หานเซิ่นไม่แน่ใจว่าทำไมมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิถึงได้มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ พวกมันอยู่แถวนี้มาเกือบเดือนแล้ว แต่ตพวกมันก็ไม่ยังมีท่าทีว่าจะไปจากที่นี่เลย มันอาจจะมีอะไรบางอย่างอยู่ในทะเลสาบ   เมื่อเห็นหานเซิ่นเข้ามาอีกครั้ง มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิก็ดูจะไม่ประหลาดใจเท่าไหร่ มันใช้หอกของมันแทงไปที่หานเซิ่นทันที   หานเซิ่นคำรามออกมา และใช้สปาติเคิลหลบหอกด้วยเท้าทั้ง 4 ของเขา   จากนั้นหานเซิ่นก็ชกหมัดไปที่อัศวิน มันยกหอกขึ้นมาป้องกันหมัดของหานเซิ่นแทบจะทันที   หมัดของเขาปะทะกับหอก หอกเริ่มหมุนตามเข็มนาฬิกา เพื่อผลักหานเซิ่นออกไป   หานเซิ่นรู้สึกพอใจที่เห็นมอนสเตอร์ตัวนี้สามารถบอกได้ว่าเขาจะโจมตีไปที่จุดไหน แต่มันไม่สามารถรู้ได้ว่าหานเซิ่นใช้แรงแบบไหนในการโจมตี   การหมุนตามเข็มนาฬิกาของมันไม่ได้ผลักหานเซิ่นให้กระเด็นไปแบบที่มันหวัง แต่มันกลับดึงหมัดของหานเซิ่นเข้าไปเร็วยิ่งขึ้น ตอนนี้หมัดตรงไปที่หน้าอกของมัน   หานเซิ่นต้องการชกไปที่หน้าของมัน แต่เขาไม่สามารถควบคุมความแข็งแกร่งของตัวเองได้ดีหนัก ทำให้ผลสุดท้ายแล้วหมัดของหานเซิ่นชกไปที่หน้าอกของมอนสเตอร์ตัวที่เป็นอัศวินเต็มๆ   หานเซิ่นต้องรีบถอยกลับมาทันที เพราะม้ายูนิคอร์นกำลังจะโจมตีมาที่เขา   ยังดีที่หานเซิ่นสู้กับพวกมันมาหลายครั้งแล้ว เขาเลยรู้ดีว่ามันจะโต้ตอบยังไงบ้าง ทำให้เขาสามารถหลบได้ทัน   “เมื่อกี้เราใช้พลังหยินอัดเข้าไปเต็มๆ มันน่าจะได้ผลบ้างแหละ” หานเซิ่นยังไม่มั่นใจกับผลลัพธ์   มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิจ้องมาที่หานเซิ่นด้วยตาสีแดงๆของมัน แต่มันไม่ได้วิ่งเข้ามาหาหานเซิ่นเหมือนอย่างเคย หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวที่เป็นอัศวิน   หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจและยินดีในเวลาเดียวกัน เขาไม่คิดเลยว่าพลังหยินที่เป็นพลังอ่อนนุ่มจะมีพลังในการทะลุทะลวงถึงขนาดนี้ เขาเชื่อว่าเกราะของมอนสเตอร์ตัวนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าเกราะเลือดศักดิ์สิทธิเลย แต่กระนั้นเมื่อโดนพลังหยิน มันก็ได้รับบาดเจ็บถึงอวัยวะภายใน   ในตอนที่หานเซิ่นกำลังรู้สึกตื่นเต้น อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของมอนสเตอร์ มันวิ่งเข้ามาหาหานเซิ่น พร้อมกับยกหอกในมือขึ้นด้วยความเร็วที่มากกว่าที่ผ่านๆมา   หานเซิ่นไม่กล้าปะทะกับมันตรงๆโดยไม่ใช้อาวุธ เขาชักดาบเพชรของเขาออกมาป้องกันการโจมตีของมัน   ปัง! เมื่ออาวุธของทั้ง 2 ปะทะกัน หานเซิ่นก็เสียการทรงตัว และกระเด็นถอยหลังไป ขณะที่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิมีเลือดไหลออกมาจากปากของมันอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มันเริ่มใช้หอกของมันโจมตีอย่างบ้าคลั่ง   ‘นี่มันแปลกมาก มันยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อมันได้รับบาดเจ็บงั้นหรอ?’ หานเซิ่นตัดสินใจถอยก่อน ตอนนี้เขาไม่สามารถต้านพลังของมันได้แล้ว เขาเรียกเหมียวออกมาก่อกวนมัน ทำให้เขามีเวลาบินหนีไปด้วยปีก   เมื่อเขาขึ้นมาบนอากาศ หานเซิ่นก็เรียกเหมียวกลับมา เพราะเขาคิดว่าปลอดภัยแล้ว แต่อยู่ๆเขาก็รู้สึกเย็นไปทั้งตัว เขาพยายามจะบินหนีทันที แต่มันก็สายเกินไปแล้ว   สายฟ้าสีดำพุ่งผ่านอากาศ และโดนที่ปีกของหานเซิ่น ด้วยแรงหมุนที่รุนแรง   เคร็ง! ถึงปีกของเขาจะมีเกราะเลือดศักดิ์สิทธิห่อหุ้มอยู่ แต่มันก็ไม่สามารถหยุดหอกที่มีพลังทะลุทะลวงมหาศาลได้ ปีกของเขาเป็นรูด้วยพลังของหอก   ตัวของหานเซิ่นชุ่มไปด้วยเหงื่อ ยังโชคดีที่หอกมันเล็งมาที่ปีกของเขา ถ้าเกิดมันพุ่งมาที่ตัวเขาละก็ เขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้   ด้วยสัญชาตญาณและประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชน ทำให้เขาสามารถหลบเลี่ยงจุดตาย และเอาชีวิตรอดมาได้ หานเซิ่นต้องพยายามใช้ปีกที่บาดเจ็บทรงตัวในอากาศ เขาไม่สามารถตกลงไปได้ ถ้าเขาตกลงไปข้างล่าง เขาต้องถูกมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเล่นงานอย่างแน่นอน   ด้วยเหตุผลบางอย่าง มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัดสินใจปล่อยเขาไป   หานเซิ่นถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาบินไปลงที่พุ่มไม้และเก็บปีกของเขา ‘เราชกไปที่มันเต็มๆ และเหมือนว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ รอให้ปีกเลือดศักดิ์สิทธิกับมาสภาพสมบูรณ์ก่อนเถอะ เราจะได้เห็นดีกัน’ หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้น เขาเริ่มมีหวังที่จะฆ่ามันได้   ก่อนที่ปีกของเขาจะฟื้นสภาพกลับมา เขาออกไปซุ่มดูมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิในตอนกลางคืน และพบว่ามันฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว   ‘บ้าชัดๆ! มอนสเตอร์ตัวนี่มีความสามารถในการฟื้นตัวสูงขนาดนี้เชี่ยวหรอ?’ หานเซิ่นตะลึง มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิสามารถฟื้นตัวได้ในเวลาข้ามคืน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะฆ่ามันได้   แต่ในตอนนี้หานเซิ่นพบว่ามันเพิ่งจะขึ้นมาจากทะเลสาบ ด้วยอาการบาดเจ็บขนาดนั้น มันไม่น่าจะลงไปแค่อาบน้ำเล่นๆ   ‘มันก็แค่มอนสเตอร์ มันคงไม่ลงไปแช่น้ำแค่สนุกๆแน่ มันจะต้องมีอะไรบางอย่างอยู่ในทะเลสาบนั้นแน่นอน’ หานเซิ่นคิด และมองไปที่ทะเลสาบ    

Super God Gene – ตอนที่ 242 หอกหมุน
Super God Gene – ตอนที่ 242 หอกหมุน

หานเซิ่นไม่พบความผิดปรกติบริเวณทะเลสาบแห่งนี้เลย มันค่อนข้างเงียบสงบ   มีหญ้าที่เติบโตในน้ำจำนวนมากรอบๆทะเลสาบ นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ   ‘ไอ้ตัวนี่มันมาอาบน้ำรึไงนะ? มันเป็นมอนสเตอร์ที่รักสะอาดจริงๆ แต่มันก็น่าจะลงจากม้าก่อนสิ’ แม้หานเซิ่นจะไม่รู้เหตุผลจริงๆว่าทำไมมันถึงมาอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ แต่เขาก็ตัดสินใจลืมมันไป เขาชักดาบเพชรและเรียกเหมียวออกมา จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าไปโจมตีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิในสภาพนักฆ่ากระหายเลือด   เเม้หานเซิ่นและเหมียวจะช่วยกันต่อสู้ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ต้านมันไว้ 20 นาที ความสามารถในการใช้หอกของมันเหนือชั้นกว่าเพลงดาบวายุของหานเซิ่นมาก แต่ที่เขาพอจะต้านมันได้ก็เพราะเขาใช้กายหยกและสปาติเคิล   ครั้งนี้แม้แต่เกราะเลือดศักดิ์สิทธิของเขาก็ได้รับความเสียหาย   หานเซิ่นตัดสินใจบินหนี และเรียกเหมียวกลับมาทันที ถ้าไม่ใช่เพราะมีเหมียวค่อยช่วย เขาจะไม่มีทางต่อสู้ได้นานถึง 20 นาที   ด้วยการที่เขามีปีกเลือดศักดิ์สิทธิ ทำให้เขาสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ หานเซิ่นสู้กับมันตลอดทั้งอาทิตย์ แต่เขาก็ยังไม่ใกล้เคียงที่จะชนะได้เลย   “ลูกพี่ ดูเหมือนพวกเราไม่มีทางเอาชนะมันได้เลย พวกเราน่าจะลองหาคนมาช่วย ลูกพี่คิดว่าไง?” ลู่เว่ยหนานเห็นหานเซิ่นพ่ายแพ้กลับมาหลายต่อหลายครั้ง เขาเริ่มเป็นกังวล แม้หานเซิ่นจะรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ   ถึงหานเซิ่นจะพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็เริ่มเข้าใจวิชาหอกแปลกๆของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิแล้ว ในตอนนี้หานเซิ่นคิดว่าเขาเข้าใจหลักการของวิชาหอกยิ่งกว่าตัวมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเองเสียอีก   เวลาที่แทงหอกออกไป หอกจะหมุนด้วยความเร็วสูงจนเกิดลมหมุนห่อหุ้มตัวหอกไว้ มันไม่ได้เป็นแค่การหมุนธรรมดา แต่มันสามารถหมุนได้ทั้งแบบตามเข็มนาฬิกา และทวนเข็มนาฬิกา เมื่อมันหมุนตามเข็มนาฬิกาทุกอย่างที่สัมผัสกับมันจะถูกปัดจนกระเด็นออก แต่เมื่อมันหมุนทวนเข็มนาฬิกา ทุกสิ่งที่อยู่ใกล้ๆจะถูกดูดเข้าไป   มันคล้ายๆกับวิชาคลื่นหยินหยางที่สามารถทำให้เกินผลแบบเดียวกันได้ ถ้าผสมผสานพลังหยินกับพลังหยางอย่างเหมาะสม   คล้ายกับวิชาคลื่นหยินหยาง การหมุนตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกาจะต้องใช้ความเข้าใจ และความสามารถในการคาดเดาการเคลื่อนไหวคู่ต่อสู้ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับมวยขาวและดำ   มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวนี้สมบูรณ์แบบมาก มันสามารถเลือกการหมุนได้อย่างเหมาะเจาะ ทำให้หานเซิ่นต้องตกตะตึง หานเซิ่นถนัดการตบตาคู่ต่อสู้ แต่มอนสเตอร์ตัวนี้ก็ยังคาดการการเคลื่อนไหว และการใช้แรงของเขาได้   ‘หรือว่ามันอ่านใจของเราได้?’ หานเซิ่นคิด   ลู่เว่ยหนานเริ่มหมดความอดทนและพูดกับหานเซิ่น “ลูกพี่ ถ้าคุณอยากจะลองสู้ต่อไป งั้นเดี๋ยวผมไปล่ามอนสเตอร์กลายพันธ์ก่อนนะ เผื่อจะเจอมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวอื่น”   ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ลู่เว่ยหนานเห็นความพ่ายแพ้ของหานเซิ่นมานับครั้งไม่ถ้วน และตอนนี้เขาถอดใจเรียบร้อยแล้ว ถึงจะมีคนมาช่วยเพิ่ม มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่อยู่ด้วยกัน 2 ตัวก็ยังรับมือได้ยากมาก   ด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งของพวกมัน แม้แต่คนกลุ่มใหญ่ก็ไม่สามารถต้านทานมันได้ ถ้ามันคิดจะวิ่งหนีจริงๆ   หานเซิ่นเห็นด้วยกับลู่เว่ยหนาน เเต่เขายังคงครุ่นคิดอยู่ว่าทำไมมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิถึงสามารถอ่านใจเขาได้   เขาลองจินตนาการถึงการต่อสู้ที่ผ่านตลอดทั้งอาทิตย์ มันทำให้เขายิ่งมั่นใจว่ามอนสเตอร์ตัวนี้สามารถอ่านใจได้ ไม่งั้นมันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่มันสามารถเลือกวิธีการตอบโต้ได้อย่างสมบูรณ์แบบขนาดนี้   ‘ถ้ามันอ่านใจเราได้ การโจมตีแบบปรกติก็คงไม่ได้ผล’ หานเซิ่นคิดขณะเอามือจับที่คาง   ถ้าเขาต้องการจะเอาชนะมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวนี้ให้ได้ เขาต้องหาทางปกปิดความคิด และซ่อนแรงที่เขาใช้ในการโจมตีแต่ละครั้ง ถึงมอนสเตอร์ตัวนี้จะอ่านใจเก่งยังไง มันก็น่าจะทำได้แค่อ่านเป้าหมายการโจมตี มันคงจะไม่สามารถอ่านวิธีการโจมตีและแรงที่ใช้ได้ ถ้าหานเซิ่นซ่อนมันไว้ดีๆ   ‘เพื่อจะทำแบบนั้นให้ได้ คลื่นหยินหยางถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยการโจมตีแบบเดียวกัน แต่พลังหยินและพลังหยางสามารถแสดงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันได้ ซึ่งมันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะมอนสเตอร์ตัวนี้’ แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ยังคงมีความกังวล ‘โชคร้ายที่เราพึ่งเริ่มฝึกคลื่นหยินหยาง และยังไม่สามารถใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพ’   2 วันถัดมา หานเซิ่นสู้กับมอสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอีกหลายครั้ง ซึ่งตอนนี้เขามั่นใจ100%แล้วว่ามอนสเตอร์ตัวนี้สามารถอ่านการโจมตีของเขาได้หมด   หานเซิ่นต้องฝึกคลื่นหยินหยาง ซึ่งมันเป็นเพียงวิธีเดียวที่เขาจะสามารถเอาชนะมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตัวนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว   จริงๆแล้วการมีคนมากก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอาจจะตัดสินใจวิ่งหนีไปโดยไม่สู้ก็ได้ แต่ที่สำคัญที่สุดหานเซิ่นไม่ต้องการแบ่งผลประโยชน์กับคนอื่นๆ   มันค่อนข้างง่ายสำหรับหานเซิ่นที่จะฝึกคลื่นหยินหยาง เนื่องจากเขามีระดับความแข็งแกร่งที่สูงมาก   แต่กระนั้นการสลับไปมาระหว่างการใช้พลังหยินและพลังหยางก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หานเซิ่นฝึกวิชาคลื่นหยินหยางระหว่างการต่อสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ และเริ่มก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามเขายังคงต้องการเวลาอีกกว่าครึ่งเดือน ถึงจะสำเร็จขั้นแรงของวิชาคลื่นหยินหยาง และเขาจะสามารถใช้แรงได้อย่างเหมาะสม