“เกิดอะไรขึ้น? หลินเป้ยเฟิงไม่ใช่คนที่ซื้อปีกเลือดศักดิ์สิทธิไปงั้นหรอ? มันไปอยู่ในมือของเซินเทียนจื่อได้ยังไง?” หานเซิ่นขมวดคิ้วด้วยความงง   แม้สายตาของเซินเทียนจื่อไม่ได้ดีเท่าหานเซิ่น แต่ด้วยการที่หานเซิ่นใส่ชุดเกราะสีทอง ทำให้สังเกตเห็นได้ง่าย หลังจากที่เห็นหานเซิ่น เซินเทียนจื่อก็รีบบินขึ้นไปบนเกราะลึกลับทันที เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการให้หานเซิ่นเข้าไปใกล้   หานเซิ่นอยู่ไม่ไกลจากเซินเทียนจื่อมาก เขาตัดสินใจบินไปทิศทางเดียวกับเซินเทียนจื่อ   ‘นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ฆ่าเซินเทียนจื่อ ตอนนี้มันอยู่คนเดียว ไม่มีพวกลูกน้องคอยตามติดเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา เราต้องกำจัดซะตอนนี้’ หานเซิ่นทำตาแคบลงและบินตรงไปยังเกาะลึกลับ   ปีกของเซินเทียนจื่อมีความเร็วไม่ได้ด้อยไปกว่าปีกของหานเซิ่นเลย ทำให้หานเซิ่นไม่สามารถเข้าไปประชิดตัวเขาได้ ยิ่งพวกเขาบินขึ้นสูงเท่าไหร่อากาศก็ยิ่งเย็นลงเรื่อยๆ แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้ทุกร้อนกับสภาพอากาศ เพราะเขามีเกราะเลือดศักดิ์สิทธิและฝึกกายหยกมา ในขณะที่เซินเทียนจื่อไม่ได้โชคดีเหมือนกับหานเซิ่น ชุดเกราะของเซินเทียนจื่อเป็นแค่ระดับกลายพันธ์ ตอนนี้เขารู้สึกหนาวมาก   ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเซินเทียนจื่อมีจีโนพ้อยเกือบเต็มแล้ว ในตอนนี้ต่อให้เขามีปีกเลือดศักดิ์สิทธิ เขาก็ไม่สามารถบินถึงเกาะลึกลับได้   หลังจากบินมาได้สักพัก เส้นผมของเซินเทียนจื่อก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว เพราะมีน้ำแข็งมาเกาะ   “บ้าเอ้ย ทำไมมันถึงหนาวขนาดนี้?” เซินเทียนจื่อสบถออกมา นี้เป็นครั้งแรกที่เขาบินขึ้นไปบนเกาะลึกลับ เขาเคยเห็นมันมาก่อนก็จริง แต่ในตอนนั้นเขาไม่มีปีกระดับเลือดศักดิ์สิทธิ ทำให้ไม่สามารถขึ้นมาได้ เซินเทียนจื่อเริ่มบินช้าลง ดูเหมือนว่าเขาเริ่มตัวแข็งแล้ว   ในตอนที่หานเซิ่นกำลังลังเลว่าจะบินเข้าไปจัดการเซินเทียนจื่อเลยดีไหม เขาก็เห็นว่ามีอีกคนกำลังบินขึ้นมา   ‘ในสตีลอาเมอร์ยังมีปีกเลือดศักดิ์สิทธิอยู่อีกอันหรอเนี่ย? ใครกัน? ซินเสวียน?’ หานเซิ่นมองลงไปด้วยความประหลาดใจ และสังเกตว่าเขาคือนิ้วโป้งที่กำลังใช้ปีกที่มีลักษณะเหมือนกับปีกค้างคาวบินขึ้นมา   หานเซิ่นขมวดคิ้ว แม้ว่าเขากับนิ้วโป้งจะเคยร่วมทีมกันล่าหลายครั้ง แต่ตอนนี้เขาไม่อาจจะเรียกนิ้วโป้งว่าเพื่อนได้ เนื่องจากเขาใช้ตัวตนของดอลลาร์บินขึ้นมา เพราะฉะนั้นนิ้วโป้งก็ถือว่าเป็นคู่แข่งคนหนึ่งที่จะมาแย่งวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิกับเขา   ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิด เซินเทียนจื่อบินตรงไปหานิ้วโป้ง ซึ่งทำให้หานเซิ่นประหลาดใจมาก   แม้ว่าเซินเทียนจื่อกับนิ้วโป้งจะเคยร่วมมือกันมาบ้าง แต่พวกเขาต่างก็เป็นผู้นำกลุ่มในสตีลอาเมอร์ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งกันอยู่ มันค่อนข้างแปลกที่อยู่ๆเซินเทียนจื่อบินเข้าไปหานิ้วโป้งแบบนั้น   “นายคิดว่ายังไง ร่วมมือกันกำจัดดอลลาร์ก่อนดีไหม?” เซินเทียนจื่อพูดกับนิ้วโป้ง   “ทำไมฉันต้องทำตามที่นายพูดด้วย?” นิ้วโป้งพูด   “ฉันสามารถขายวอเฟรมให้นายในราคาลด10%” เซินเทียนจื่อพูด   “20%” นิ้วโป้งพูด “ก็ได้ แต่นายต้องช่วยฉันจัดการดอลลาร์ให้ได้” “ตกลง”   หลังจากที่ทั้ง 2 คนตกลงกันเสร็จ พวกเขาก็บินตรงเข้ามาหาหานเซิ่นทันที หานเซิ่นเห็นพวกเขา แต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร   “ดอลลาร์ ฉันต้องขอโทษด้วย จริงๆฉันก็ชื่นชมนาย และเราก็ไม่เคยมีความขัดแย้งกัน แต่เซินเทียนจื่อเสนอผลตอบแทนให้ฉัน ฉันเลยต้องสู้กับนาย แต่ถ้านายยอมกลับไปโดยดี ฉันจะไม่ทำอะไรนาย” นิ้วโป้งพูดกับหานเซิ่นเสียงดัง   “ฉันเข้าใจ แต่ฉันก็ต้องการวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิบนเกาะนั้นเหมือนกัน” หานเซิ่นพูดอย่างสงบ   “เลิกพูดกันสักที ถ้านายต้องการส่วนลด นายควรรู้ว่าต้องทำยังไง” เซินเทียนจื่อเรียกวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่เป็นดาบสีแดงออกมา และฟันไปที่หานเซิ่น   นิ้วโป้งเรียกวิญญาณอสูรโล่กับดาบออกมา และพุ่งเข้ามาโจมตีหานเซิ่นจากอีกด้าน   โล่ที่นิ้วโป้งใช้โล่อันเดียวกับที่หานเซิ่นเอาไปแลกกับเขา หานเซิ่นรู้ดีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้มีแผนที่จะหนี เขาชักดาบของชูร่าออกมา และฟันไปที่ดาบของเซินเทียนจื่อ   เซินเทียนจื่อจดจำดาบของหานเซิ่นได้ดี เขารู้ว่ามันแข็งแกร่งพอจะตัดอาวุธโลหะzได้สบายๆ แต่ถ้าเทียบกับดาบเลือดศักดิ์สิทธิ มันก็ยังเทียบกันไม่ได้   ไม่ใช่เพียงแค่อาวุธของหานเซิ่นเท่านั้นที่ด้อยกว่าของเซินเทียนจื่อ แต่เซินเทียนจื่อเกือบจะเก็บจีโนพ้อยได้ครบแล้ว และเขายังฝึกไฮเปอร์จีโนหลายวิชา ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่าหานเซิ่น   ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตอนที่ดอลลาร์สู้กับซินเสวียน เขาเห็นว่าความแข็งแกร่งของดอลลาร์ยังเทียบกับซินเสวียนไม่ได้ เขาจึงมั่นใจว่าตอนนี้ดอลลาร์ยังเทียบกับเขาไม่ได้   แม้ว่าดอลลาร์จะแข็งแกร่งพอๆกับเขาก็ตาม ถ้าเขาเสียจังหวะจากการโจมตีของเซินเทียนจื่อ และต้องรับมือกับนิ้วโป้งด้วยจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก   เคร็ง! เซินเทียนจื่อถูกหานเซิ่นฟันจนกระเด็นไป กว่าเขาจะตั้งหลักให้มั่นคงได้ก็ต้องใช้เวลาหลายวิ ใบหน้าของเขามืดมนทันที   “ทำไมความแข็งแกร่งของมันถึงได้เพิ่มขึ้นขนาดนี้?” เซินเทียนจื่อไม่สามารถยอมรับความจริงที่ความแข็งแกร่งของดอลลาร์มากกว่าเขาตอนนี้ได้ ทั้งๆที่เขาเก็บจีโนพ้อยทุกอย่างเกือบครบแล้ว   นิ้วโป้งพุ่งมาหาหานเซิ่นพร้อมกับส่งเสียงคำราม เขาใช้โล่กระแทก พร้อมกับใช้ดาบของเขาฟันไปที่หานเซิ่น   แต่ทว่าดาบของหานเซิ่นไวมาก หลังจากปัดดาบของนิ้วโป้งแล้ว เขายังสามารถใช้ดาบฟันไปที่โล่ของนิ้วโป้ง   เคร๊ง! นิ้วโป้งถูกส่งกระเด็นไปอีกคน ทำให้เซินเทียนจื่อช็อคยิ่งกว่าเดิม เขารู้ดีว่านิ้วโป้งแข็งแกร่งขนาดไหน รวมถึงพลังของโล่ด้วย แต่ดอลลาร์กับรับมือเขาได้อย่างสบายๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าดอลลาร์แข็งแกร่งมากขนาดไหน   หานเซิ่นแค่ต้องการดูว่าเขาจะสามารถรับมือกับสถานการนี้ได้ดีแค่ไหน ซึ่งผลที่ออกมาดีกว่าที่เขาคิดไว้ แม้ว่าเซินเทียนจื่อจะเกือบเก็บจีโนพ้อยได้ครบแล้วก็ยังอ่อนแอกว่าเขา สภาพร่างกายของผู้ที่ฝึกกายหยกแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ   มันก็ไม่แปลก เพราะเสวียหลงเหยียนสามารถใช้วิชานี้ตัดอาวุธวิญญาณอสูรด้วยแขนของเขาแบบสบายๆ ถ้าเขาไม่บาดเจ็บหนักมาก่อน แม้มีเกราะเลือดศักดิ์สิทธิหานเซิ่นก็อาจจะไม่รอด   เซินเทียนจื่อและนิ้วโป้งเริ่มโจมตีหานเซิ่นอย่างหนักหน่วงพร้อมๆกัน หานเซิ่นใช้เพลงดาบวายุรับมือพวกเขาทั้ง 2 คน ทำให้พวกเขาถอยกลับไป   ในสตีลอาเมอร์ คนที่กำลังดูการต่อสู้ของพวกเขาด้วยกล้องส่องทางไกลต่างก็ตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าดอลลาร์แข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่คิดว่าดอลลาร์จะเก่งถึงขนาดที่เซินเทียนจื่อกับนิ้วโป้งร่วมมือกันก็ยังหยุดเขาไม่ได้     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 687 แล้วครับ

ในยามค่ำคืน ใต้ต้นหลิวข้างทะเลสาบ มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนอยู่ด้วยกัน “หลับตาก่อนสิ” “ทำไมผมต้องหลับด้วยล่ะ?” “ได้โปรด” “ไม่” “ถ้านายไม่หลับตา ฉันจะไปแล้วนะ” “งั้นเธอจะผิดคำพูดงั้นหรอ?” “งั้นก็หลับตาสิ” “ก็ได้” “อย่าแอบมองนะ” “โอเค โอเค” เมื่อหานเซิ่นหลับตาลง จีเหยียนหรันที่กำลังหน้าแดงก็เขย่งเท้า และยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าของหานเซิ่น   แต่ทว่าก่อนที่ริมผีปากสีชมพูของเธอจะสัมผัสกับริมผีปากของหานเซิ่น เธอก็เห็นเขาลืมตาอยู่และมองที่เธอพร้อมกับยิ้ม ด้วยความอายจีเหยียนหรันต้องการหันหลังหนี   แต่ครั้งนี้เธอก็หนีไม่รอดอีกตามเคย มือของหานเซิ่นจับไปเอวของเธอ จากนั้นเขาก็ประกบปากกับเธอทันที   “อืมม” ในตอนที่หานเซิ่นกำลังมีความสุข คอมพกพาของเขาก็ดังขึ้นมาทันที   หานเซิ่นต้องการกดวางสาย แต่จีเหยียนหรันกดรับสายทันที ทันใดนั้นภาพโฮโลแกรมของผู้หญิงรูปร่างเซ็กซี่ในสภาพใส่ชุดชั้นในสีขาวก็ปรากฏขึ้นมา   “ขอโทษนะเซิ่น ดูเหมือนว่าฉันจะโทรไปขัดจังหวะนาย งั้นเดี๋ยวฉันวางสายก่อน” ผู้หญิงรูปร่างเซ็กซี่แสดงใบหน้ามืดมน และวางสายไป   “ไอ้บ้าเอ้ย…” จีเหยียนหรันเหยียบเท้าของหานเซิ่นอย่างแรง และหันหลังหนี   “ผมสามารถอธิบายได้นะ” หานเซิ่นตามจีเหยียนหรันไป   “ฉันไม่ต้องการฟัง” จีเหยียนหรันไม่ได้วิ่งหนีไปไหน แต่เธอหันหน้าหนีเขาเหมือนกับเด็กๆ   ขณะเดินตามจีเหยียนหรัน หานเซิ่นก็ตำหนิหวงฟูผิงชิงในใจ เขาเชื่อว่าเธอจงใจโทรมากลั่นแกล้งเขาแน่นอน   ในหอพัก หวงฟูผิงชิงกำลังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี แน่นอนว่าเธอตั้งใจทำแบบนั้น เธอข่าวมาจากใครบางคนว่าหานเซิ่นกับจีเหยียนหรันเดินไปที่ทะเลสาบ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงโทรไปขัดจังหวะเขาได้อย่างเหมาะเจาะ   “นายไม่มีทางหนีจากฉันไปได้” หวงฟูผิงชิงพูด ขณะอาบน้ำในอ่างอย่างมีความสุข ….   คู่ต่อสู้ในรอบต่อไปของเหยี่ยวดำก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ถึงหานเซิ่นกับโอวหยางเสี่ยวซานเอาชนะได้คนละรอบ แต่ก็ไม่พอที่จะทำให้ทีมผ่านเข้ารอบได้ เนื่องจากอีก 3 คนต่างก็แพ้ราบคาบ ระดับโดยรวมของทีมเหยี่ยวดำยังต่ำเกินไปที่จะหวังแชมป์   หานเซิ่นไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับมัน เขาทำเท่าที่ทำได้แล้ว ซึ่งผู้ชมจำนวนมากก็รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมของการเปลี่ยนกฎกะทันหัน และพยายามจะประท้วง แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถทำอะไรได้   เนื่องจากเหยี่ยวดำและเซนท์แชร์กแมงต่างก็ตกรอบ และโรงเรียนทหารส่วนกลางก็ไม่ได้ส่งทีมเข้าแข่ง ทำให้ความนิยมของรายการลดลงไปทันที สปอนเซอร์จัดการแข่งขันรู้สึกแย่มาก   หลังจากที่เหยี่ยวดำตกรอบไป คนดูก็ประท้วงด้วยการไม่ดูรายการ ทำให้เรทติ่งตกต่ำถึงขีดสุด   แต่กระนั้น วิดีโอการแข่งของหานเซิ่นก็แพร่กระจายไปทั่วกาแล็กซี่ และชื่อไอดีจักรพรรดิก็ถูกนำไปใช้ในการเล่นมวยขาวและดำในเน็ตจำนวนมาก   หานเซิ่นไม่สนใจเกี่ยวกับมันมาก ถึงมวยขาวและดำจะช่วยในการฝึกตามหลักหยินหยาง และยังฝึกคาดเดาการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้ แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ไม่ได้คิดจะจริงจังกับมัน เขาลงแข่งเพียงก็เพราะมีเพื่อนในโรงเรียนมาขอให้ช่วย เขาไม่ได้ต้องการเป็นนักกีฬาอาชีพ   หานเซิ่นไปร่วมงานประมูลที่หวงฟูผิงชิงพูดถึง แต่วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิทั้ง 2 ดวงก็ถูกประมูลไปในราคาสูงเสียดฟ้า หานเซิ่นไม่มีปัญญาจะแข่งกับพวกเขา   วิญญาณประเภทบิน ผู้ชนะการประมูลคือ หลินเป้ยเฟิงด้วยราคา 178 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ฉมวก 3 แฉกกับได้รับความนิยมสูงกว่า และคนที่ชนะการประมูลคือ เซินเทียนจื่อด้วยราคา 230 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้หานเซิ่นไม่อยากจะเชื่อ   แม้เขาจะขายSKTS บวกกับเงินเก็บที่เขามีทั้งหมดก็ยังมีเงินไม่พอซื้ออยู่ดี   ด้วยราคาที่บ้าระห่ำขนาดนี้ ทำให้หานเซิ่นต้องการขายวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิสักดวงเหมือนกัน และเขาจะกลายเป็นเศรษฐี 100 ล้านทันที แต่กระนั้นด้วยจำนวนเงินแค่นี้ก็ยังไม่เพียงพอจะซื้อของแพงอย่างยานอวกาศได้ ซึ่งยังไม่สามารถเทียบกับพวกมหาเศรษฐีอย่างหลินเป้ยเฟิงและเซินเทียนจื่อได้   หลังจบการประมูล ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิดอยู่ว่าจะล่ามอนสเตอร์ที่ไหนดี ท้องฟ้าก็กลายเป็นมืดทันที   “นี่มันตอนบ่ายนะ ทำไมอยู่ๆมืดแบบนี้? หรือว่าฝนจะตก?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ เพราะก่อนหน้านี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งมาก   เมื่อเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น ไม่มีเมฆสักก้อนอยู่บนท้องฟ้า แต่กลับมีเกาะลอยฟ้าขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือสตีลอาเมอร์ และบดบังแสงอาทิตย์จนหมด ทำให้สตีลอาเมอร์และบริเวณโดนรอบตกอยู่ในเงามืด   “เกาะลึกลับ มันคือเกาะลึกลับ!” เสียงร้องของใครบางคน   หานเซิ่นเองก็จำมันได้ดี มันคือเกาะลึกลับ เขาเคยเห็นมันในเน็ตมาก่อน ซึ่งนี้ครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้เห็นของจริง   เกาะลึกลับคือเกาะลอยฟ้าที่จะปรากฏออกมาเป็นบางครั้ง เกาะลึกลับแต่ละเกาะจะมีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิคอยปกป้องดูแลอยู่ และจากคำบอกเล่าของผู้มีประสบการณ์ ถ้าใครสามารถฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิบนเกาะลึกลับได้จะได้รับวิญญาณอสูรแบบ 100%   ดังนั้นการที่มีเกาะลอยฟ้ามาปรากฏต่อหน้า ก็หมายความว่ามีโอกาสได้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ แต่กระนั้นมันก็ไม่ง่ายที่จะบินขึ้นไปบนเกราะลึกลับที่อยู่สูงขนาดนั้น   ไม่ว่าปีกระดับโบราณหรือกลายพันธ์ก็ไม่สามารถบินขึ้นสูงขนาดนั้น มีเพียงแค่ปีกเลือดศักดิ์สิทธิเท่านั้นที่สามารถบินขึ้นไปได้   หานเซิ่นรู้สึกระทึกใจขึ้นมาทันที สตีลอาเมอร์ไม่ค่อยมีมอนสเตอร์ประเภทบิน ทำให้ไม่ค่อยมีวิญญาณอสูรประเภทบินขาย และยิ่งไม่ต้องพูดถึงปีกระดับเลือดศักดิ์สิทธิ นอกจากมังกรปีกม่วงแล้วก็ไม่น่าจะมีตัวอื่นอีก   แต่วิญญาณประเภทบินอีกดวงที่อยู่ในสตีลอาเมอร์เพิ่งจะถูกประมูลไป และตอนนี้มันตกอยู่ในมือของหลินเป้ยเฟิง   หานเซิ่นรู้สึกขำ “หวงฟูผิงชิงคงต้องรู้สึกเสียใจแน่ ถ้าเธอรอนานกว่านี้หน่อย ราคาของปีกเลือดศักดิ์สิทธิจะต้องพุ่งกระฉูดแน่ และเซินเทียนจื่อเองก็ต้องหัวร้อนที่เลือกทุ่มประมูลฉมวก แทนที่จะทุ่มกับปีกเลือดศักดิ์สิทธิ”   หานเซิ่นรีบวิ่งออกไปหาที่ลับตาคน และเรียกเกราะด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิกับปีกของมังกรปีกม่วงออกมา จากนั้นเขาก็รีบบินขึ้นไปบนเกาะโดยไม่รอช้า   เมื่อเขาบินขึ้นมาบนอากาศ เขาก็เห็นจากระยะไกลว่ามีใครบางคนกำลังบินขึ้นมาจากอีกทางหนึ่ง   ‘หลินเป้ยเฟิงเร็วเหมือนกันแหะ’ หานเซิ่นบินเข้าไปใกล้ๆเขา แต่เมื่อเข้าไปใกล้ เขาก็เห็นว่าคนๆนั้นไม่ใช่หลินเป้ยเฟิง แต่เป็นเซินเทียนจื่อ     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 687 แล้วครับ