หานเซิ่นมองนาลานเฉิงนั่ว ซึ่งเขาดูน่าจะอายุมากกว่าหานเซิ่นประมาน 1-2 ปี เขารูปร่างหน้าตาดี แม้จะไม่ได้หล่อมากมาย แต่ก็ถือว่าดูดีเลยทีเดียว   ตาของนาลานเฉิงนั่วเหมือนกับน้ำที่สามารถสะท้อนได้ทุกอย่าง ลึกลงไปในม่านตาสีดำของเขาฉายแววแห่งสติปัญญาที่เหนือกว่าผู้อื่นออกมา   แค่ได้เห็น หานเซิ่นก็รู้ว่าคราวนี้เขาต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่หินจริงๆ   หานเซิ่นถนัดการลอบโจมตี ซึ่งในเกมที่ต้องพึ่งการวิเคราะห์และการคาดเดาแบบนี้ ง่ายมากที่หานเซิ่นจะใช้เทคนิคในการตบตา และเขายังสามารถหลอกล่อคู่ต่อสู้ด้วยการใช้จุดอ่อนในจิตใจให้เป็นประโยชน์ ซึ่งทำให้เขาได้เปรียบมาก   แต่แววตาของนาลานเฉิงนั่วนั้นดูใสบริสุทธิ์มาก หานเซิ่นมองไม่เห็นจุดอ่อนของเขาเลย   ไม่มีความสุขหรือกังวล ไม่เศร้าหรือโกรธ เขาเหมือนไม่มีความต้องการอะไรเลย   ทุกคนกำลังจับตามองไปที่หานเซิ่น และรอดูการโจมตีอันเฉียบขาดของเขา แม้หานเซิ่นจะเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้แล้ว 4 คน แต่เมื่อต้องมาสู้กับนาลานเฉิงนั่ว ทำให้หัวใจของพวกผู้ชมเต้นรัว   ในเน็ตมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังดูการแข่งระหว่างหานเซิ่นกับนาลานเฉิงนั่ว ชายคนนี้ชื่อ ไป๋อี้ซาน เขาคือผู้เป็นเลิศที่ยังอายุน้อย   ไป๋อี้ซานเป็นคนที่มีชื่อเสียงในหมู่ผู้เป็นเลิศ ไม่ใช่เพราะว่าเขามีจีโนพ้อยจำนวนมาก แต่เพราะว่าเขาถูกเรียกว่าเป็นสุดยอดฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้แห่งยุคคนหนึ่งเลยทีเดียว   ไป๋อี้ซานมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง ตั้งแต่เด็กๆเขาคลุกคลีอยู่กับศิลปะการต่อสู้ เขาทุ่มเทกับการทำวิจัยเกี่ยวกับไฮเปอร์จีโน จนเขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันเซนท์ วิชาไฮเปอร์จีโนระดับsหลายวิชา เขาเป็นคนคิดค้นขึ้นมา ในเวลาเดียวกันเขาก็เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนทหารส่วนกลางของกาแล็กซี่ด้วย   ทั้งๆที่ตารางงานของเขาน่าจะยุ่งมาก เหตุผลที่เขาดูการแข่งขัน ไม่ใช่เพราะว่าเขาชื่นชอบมวยขาวและดำ ในสายตาของผู้เป็นเลิศอย่างเขา เกมประเภทนี้ก็เป็นแค่เกมที่พวกเด็กๆเล่นกันเท่านั้น สิ่งที่เขาสนใจก็คือนาลานเฉิงนั่ว   ตอนนี้ไป๋อี้ซานกำลังคิดค้นวิชาไฮเปอร์จีโนที่มีชื่อว่า ‘คลื่นหยินหยาง’ ซึ่งเป็นวิชาที่มีแนวคิดซับซ้อน แต่โดยหลักการแล้วมันคล้ายกับมวยขาวและดำ มันเกี่ยวข้องกับหลักการของหยินและหยาง   ก่อนที่วิชาไฮเปอร์จีโนแต่ละวิชาจะถูกคิดขึ้นมาได้ ต้องผ่านการศึกษาค้นคว้าและทดลองมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่งั้นก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้วางขายที่สถาบันเซนท์   ถ้าวิชาไฮเปอร์จีโนมีความเสี่ยงสูงเกิน มันจะถูกแบน และไม่สามารถนำมาวางขายได้   คลื่นหยินหยางที่ไป๋อี้ซานกำลังคิดค้นอยู่ เป็นหนึ่งในวิชาไฮเปอร์จีโนที่ต้องการผู้ฝึกมาเป็นผู้ช่วยในการทดลองและค้นคว้า เพราะการฝึกวิชาไฮเปอร์จีโนอาจมีความเสี่ยง จึงจำเป็นต้องเลือกคนที่มีศักยภาพสูง เพื่อลดความเสี่ยงในการทดลอง   ไป๋อี้ซานลงทุนลงแรงกับคลื่นหยินหยางมาเกือบ 10 ปีแล้ว ถ้าเขาไม่บังเอิญไปพบบันทึกโบราณ ศาสตร์เเห่งหยินเเละหยาง เขาจะไม่มีทางสร้างวิชาคลื่นหยินหยางขึ้นมาได้ มันเป็นวิชาที่พิเศษและทรงพลัง จุดอ่อนเดียวของมันคือต้องการผู้ฝึกที่มีคุณสมบัติสูงมาก   มีคนที่กองทัพส่งมาเพื่อทดลองฝึกคลื่นหยินหยาง แต่พวกเขาก็ทำไม่สำเร็จ คนหนึ่งจบด้วยความตาย ขณะที่อีกคนพิการ ทำให้คลื่นหยินหยางถูกแบนจากสถาบันเซนท์ พวกเขายกเลิกการสนับสนุนไป๋อี้ซานทุกอย่างในการคิดค้นคลื่นหยินหยาง แต่ไป๋อี้ซานไม่ต้องการให้คลื่นหยินหยางต้องล้มเลิกไปกลางคัน เขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะได้มีโอกาสทดลองต่อ   เพื่อจะทำให้ผลของการทดลองสำเร็จ ไป๋อี้ซานต้องเลือกคนที่มีความสามารถพอที่จะควบคุมคลื่นหยินหยางได้ หลังจากที่เสาะหาอยู่นาน เขาก็คิดว่านาลานเฉิงนั่วเป็นตัวเลือกที่ดี   แต่ไป๋อี้ซานก็ยังไม่มั่นใจ เขาเพียงแค่ให้นาลานเฉิงนั่วเป็นหนึ่งในคนที่อาจจะมีคุณสมบัติ ในครั้งนี้เขาตั้งใจจะตัดสินว่านาลานเฉิงนั่วเหมาะหรือไม่ โดยดูจากการแข่งมวยขาวและดำ ซึ่งใช้หลักการของหยินและหยางเหมือนกับคลื่นหยินหยาง   แต่ก่อนที่นาลานเฉิงนั่วจะออกมา ฟอร์มของหานเซิ่นเองก็ทำให้ไป๋อี้ซานประหลาดใจเหมือนกัน   ไม่ใช่เพราะว่าหานเซิ่นมีความเข้าใจในหลักการของหยินหยาง แต่ด้วยความสามารถในการอ่านความคิดคู่ต่อสู้ การหลอกล่อและการคาดเดา ทำให้ไป๋อี้ซานรู้สึกเสียใจที่ไม่เจอหนุ่มคนนี้เร็วกว่านี้   “ความสามารถที่เขามีก็นับว่าหาได้ยาก และเขาอาจจะฝึกคลื่นหยินหยางได้เหมือนกัน น่าจะต้องจับตาดูเขาอีกคน” ไป๋อี้ซานรู้ดีถึงคุณค่าของความสามารถที่หานเซิ่นมี   ความสามารถแบบนี้ต้องอาศัยทั้งความพยายามและพรสวรรค์ที่สูง ซึ่งในบรรดาคนที่เขาเจอมาด้วยอายุเท่านี้ หานเซิ่นถือว่ามีทักษะด้านนี้โดดเด่นที่สุด   ไป๋อี้ซานสนใจนาลานเฉิงนั่ว เพราะเขามีความสามารถในการอ่านความคิดคู่ต่อสู้ แต่ตอนนี้เขาสามารถบอกได้ว่าความสามารถแบบนั้นหานเซิ่นเองก็มีเช่นเดียกัน และอาจจะดีกว่าด้วย   “แสดงให้ฉันดูหน่อยว่าพวกเธอทั้ง 2 คนมีความสามารถถึงขั้นไหน” ไป๋อี้ซานรอดูการแข่งอย่างใจจดใจจ่อ   กลับมาที่การแข่งมวยขาวและดำ หลังจากที่หานเซิ่นสังเกตนาลานเฉิงนั่วอย่างละเอียดแล้ว เขาก็ออกหมัดที่ดุร้ายราวกับเสือที่หลุดออกมาจากกรง   ภายในแววตาที่ใสราวกับน้ำของนาลานเฉิงนั่ว ปรากฏความประหลาดใจ   เขาฝึกฝนจิตใจมาตั้งแต่เด็กๆ จิตใจของเขาเหมือนกับกระจก แม้จะเป็นฝุ่นก็ไม่สามารถหลุดรอดจากการสังเกตของเขาได้   แม้ว่าเขาจะอายุน้อย แต่ด้วยพรสวรรค์ที่สูงของเขา ทำให้เขาสามารถฝึกวิชาไฮเปอร์จีโนอคาลาเเมนตร้าได้ ซึ่งเป็นวิชาที่ใช้หลักการของศาสนาพุทธนิกายเซน และเขาได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งของวิชานี้   ไม่ว่าจิตใจของคนจะคิดอะไรอยู่จะต้องมีสิ่งที่ขุ่นมัวหรือสิ่งรบกวนอยู่ ซึ่งเขาสามารถมองเห็นพวกมันได้ แต่หลังจากที่หานเซิ่นปล่อยหมัดออกมา เขาไม่สามารถบอกได้เลยว่าคู่ต่อสู้กำลังคิดอะไรอยู่ จิตใจของหานเซิ่นดูเป็นธรรมชาติมาก มันทำให้เขาประหลาดใจ     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 672 แล้วครับ

“บ้าเอ้ย ฉันน่าจะเชื่อความรู้สึกตัวเอง” หวังหยางจินรู้สึกหงุดหงิดตัวเอง   “หยางจิน เธอกำลังทำอะไร? อย่าสับสนสิ เชื่อมั่นในการคาดเดาของตัวเอง” สวี่ยวิ๋นตี่ตะโกนบอกหวังหยางจิน   หวังหยางจินกัดฟัน และตั้งท่าเตรียมพร้อมต่อสู้   เมื่อเห็นหมัดของหานเซิ่นพุ่งเข้ามา หวังหยางจินเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าลักษณะของมันเหมือนกับหมัดสักครู่ไม่มีผิด จากความรู้สึกของเขามันต้องเป็นหมัดขาวแน่นอน ถ้าดูจากรายละเอียดทุกอย่าง   “นายคิดจะใช้ลูกไม้เดิมๆซ้ำ 2 งั้นหรอ? ฉันไม่มีทางหลงกลแบบเดิมหรอก” หวังหยางจินยืนอย่างมั่นคง และยกมือขึ้นมาป้องกันหมัดของหานเซิ่น “ด้วยประสบการณ์ของฉัน ฉันสามารถรับมือกับนายได้อย่างสบายโดยการใช้สัญชาตญาณ…” ปัง! หมัดของหานเซิ่นโดนแขนของหวังหยางจินเต็มๆ ภาพโฮโลแกรมของเขากระเด็นลอยขึ้นไปหมุนติ้วๆในอากาศ และตกลงมาบนพื้น หมัดดำ! ครั้งนี้หานเซิ่นเปลี่ยนเป็นหมัดดำ!   ในตอนนี้พวกแฟนคลับและคนที่สนับสนุนเซนท์แชร์กแมงเงียบกริบ รวมถึงเหวินซิ่วซิ่ว เธอแม้กระทั่งจะลืมว่าตัวเองกำลังบรรยายการแข่งอยู่ เธอไม่อยากเชื่อว่าหวังหยางจินจะแพ้ถึง 2 รอบติด และถ้ารอบหน้าเขาแพ้อีก เซนท์แชร์กแมงจะเสียนักกีฬาไป 2 คนแล้ว   ในครั้งนี้สภาพจิตใจและความมั่นใจของหวังหยางจินถูกทำลายลงอย่างราบคาบ มันทำให้เขาไม่สามารถสงบจิตสงบใจลงได้   “หมัดขาวหรือหมัดดำ?” ครั้งนี้หวังหยางจินจ้องไปที่หานเซิ่น เขาไม่สามารถใช้การวิเคราะห์ด้วยเหตุผลได้อีกต่อไป   ปัง! ไม่ต้องสงสัยหวังหยางจินเองก็แพ้ 0 ต่อ 3 คะแนน และมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น หลิวยวิ๋นเชิ้งและหม่าฉางคงก็ไม่สามารถหยุดฟอร์มอันร้อนแรงของหานเซิ่นได้ พวกเขาทั้ง 2 คนก็แพ้ 3 ต่อ 0 อีกแล้ว   เซนท์แชร์กแมงแพ้ 3 ต่อ 0 คะแนน 4 รอบติดต่อกัน ความเห็นของผู้ชมเริ่มบ้าคลั่ง “โอ้พระเจ้า จักรพรรดิหมัดดำเขาเป็นใครกัน!” “จักรพรรดิหมัดดำ!เถื่อนเกินไปแล้ว แม้แต่นักกีฬาระดับท็อป 20 ของกาเเล็กซี่อย่าง หวังหยางจิน หม่าฉางคงและหลิวยวิ๋นเชิ้งก็ยังไม่สามารถทำได้สักคะแนน” “โหดเกินไปแล้ว” “จักรพรรดิหมัดดำโผล่มาจากไหนเนี่ย?” “หานเซิ่น ชื่อนี้มันคุ้นจริงๆ…” “เขาเป็นอัจฉริยะของโรงเรียนเหยี่ยวดำ และเป็นคนขับSKTSในงานเปิดตัว จำเขาไม่ได้ได้ยังไง?” “ใช่เขาจริงๆ ฉันเพิ่งไปหาข้อมูลมา” “ว้าว เขาไม่ได้ขับวอเฟรมเก่งอย่างเดียวหรอ? ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเก่งมวยขาวและดำขนาดนี้” “จัดการพวกมันให้หมด” “ชนะ 5 ครั้งติดต่อกันเลย!” “ยังไงก็คงเอาชนะนาลานเฉิงนั่วไม่ได้ง่ายๆแน่” “ไม่น่ายาก ดูคะแนนของเขาซะก่อน เขาเป็นเทพมวยขาวและดำ” …   เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกสับสนอย่างมาก เธอไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง นักกีฬาของเซนท์แชร์กแมง 4 คนถูกเด็กหน้าใหม่คนเดียวเอาชนะได้   ‘เหยี่ยวดำไม่ใช่แค่ชนะธรรมดา แต่พวกจะเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด เซนท์แชร์กแมงจะต้องแพ้อย่างหมดรูป’ เมื่อเธอนึกถึงความพูดของเฟิงหมิงเฉวียน เธอก็รู้สึกขมขื่นและละอายใจมาก   ยังมีนาลานเฉิงนั่วอยู่อีกคน นักกีฬาอันดับ 2 ของกาเเล็กซี่ เขาคงไม่แพ้แน่ ใช่ เขาต้องไม่แพ้’ เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกว่าเธอยังมีความหวังอยู่ เธอเดิมพันกับคนสุดท้ายที่เหลืออยู่   นาลานเฉิงนั่วคือหนึ่งในสุดยอดนักสู้ของกาแล็กซี่ เขาเป็นนักเรียนที่มีฝีมือด้านศิลปะการป้องกันตัวดีที่สุดเท่าที่เซนท์แชร์กแมงเคยมีมา เขาโชว์ฟอร์มสุดยอดในการแข่งมานับครั้งไม่ถ้วน   นอกจากมวยขาวและดำแล้ว เขายังติดอยู่ระดับท็อบ 3 ในทุกประเภทการแข่งศิลปะการป้องกันตัว ฝีมือของเขาอยู่เหนือกว่าระดับของนักเรียนโรงเรียนทหาร   ถ้าในด้านศิลปะป้องกันตัว นาลานเฉิงนั่วโด่งดังยิ่งกว่าผู้ถูกเลือกด้วยซ้ำ   “นาลาน เธอต้องเอาชนะเท่านั้นเข้าใจใช่ไหม” สวี่ยวิ๋นตี่พูด ตอนนี้นาลานเฉิงนั่วเป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขา ถ้าทีมเต็งแชมป์ต้องมาตกรอบแรก ในฐานะโคชเขาต้องรับผิดชอบเต็มๆ   นาลานเฉิงนั่วพยักหน้า และเดินตรงไปที่อุปกรณ์จำลองภาพโฮโลแกรม   หวังหยางจินและคนอื่นๆของเซนท์แชร์กแมงดูรายการสดอย่างเป็นกังวล พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆเหยี่ยวดำถึงแข็งแกร่งขึ้นมาได้   “สวัสดีครับผมนาลาน” เมื่อเดินมายืนประจันหน้ากับหานเซิ่น นาลานเฉิงนั่วกล่าวคำทักทาย ไอดีของเขาตั้งชื่อแบบง่ายๆว่า ‘นาลาน’   “สวัสดีเช่นกันครับ ผมจักรพรรดิหมัดดำ ถ้าคุณรู้สึกว่ามันยาวเกินไปเรียกสั้นๆว่าจักรพรรดิก็ได้” หานเซิ่นยิ้ม   มือของเฉินหลิงกำลังสั่นอยู่ เธอรู้ว่าหานเซิ่นแข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่าจะถึงขนาดจัดการกับทีมของเซนท์แชร์กแมงได้ 4 คน   แต่ถึงอย่างงั้น เธอก็ยังคงเป็นกังวลอยู่ เพราะตอนนี้หานเซิ่นยืนประจันหน้ากับนาลานเฉิงนั่ว คนที่เรียกได้ว่าตำนานของการแข่งเลยก็ว่าได้ นาลานเฉิงนั่วไม่เคยแพ้ใคร นอกจากคนที่เรียกได้ว่าเป็นปีศาจจากโรงเรียนทหารส่วนกลางของกาแล็กซี่   โดยเฉพาะมวยขาวและดำ แม้แต่ปีศาจจากโรงเรียนทหารส่วนกลางก็ยังเอาชนะเขาได้แค่ 3 ต่อ 2 ในการแข่งครั้งล่าสุด   ตามที่ผู้เชี่ยวชาญมวยขาวและดำบอกไว้ นาลานเฉิงนั่วใช้ใจสัมผัสการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ เขาไม่เหมือนกับคนอื่นที่จะมองดูการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทำให้ไม่มีใครจะใช้ลูกไม้ตบตาเขาได้   และหานเซิ่นก็ถนัดการตบตาคน โดนทฤษฏีแล้วนาลานเฉิงนั่วมีความสามารถที่แก้ทางหานเซิ่นได้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เฉินหลิงเป็นกังวล   “ลี่ลี่ เธอว่าเขาจะเอาชนะนาลานเฉิงนั่วได้ไหม?” จีเหยียนหรันจับแขนของฉวี้ลี่ลี่แน่นและถาม แม้เธอจะไม่ค่อยได้สนใจการแข่งศิลปะการป้องกันตัวมาก แต่ชื่อเสียงของนาลานเฉิงนั่วนั้นโด่งดังมาก นักเรียนโรงเรียนทหารแทบไม่มีใครไม่รู้จักเขา แม้ว่าจีเหยียนหรันจะเชื่อมันในตัวหานเซิ่น แต่เธอก็ยังกังวล   “มันพูดยากนะ ถ้าคู่ต่อสู้เป็นคนอื่น ฉันเชื่อว่าเขาต้องชนะแน่ แต่นาลาน…” ฉวี้ลี่ลี่ลังเล   “เธอลังเลอะไรกัน? เซิ่นต้องชนะแน่นอน” ก่อนที่ฉวี้ลี่ลี่จะพูดจบ ซื่อจื้อคังพูดแทรกขึ้นมา   “คนที่จะเอาชนะเซิ่นได้มีแค่ฉันคนเดียว ก่อนจะถึงตอนนั้น เขาจะไม่แพ้ใครทั้งนั้น” จางหยางพูด   ลู่เหมินยิ้มและพูด “พี่สะใภ้ คุณมั่นใจได้เลย เซิ่นจะไม่แพ้แน่นอน”   คำพูดของลู่เหมินทำให้จีเหยียนหรันหน้าแดง แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 669 แล้วครับ