“ฮาฮา ทำไมพวกติ่งเซนท์แชร์กแมงถึงไม่แสดงความเห็นต่อล่ะ?” “อัจฉริยะทำดีมาก” ….   พวกนักเรียนของเหยี่ยวดำรู้สึกระทึกใจขึ้นมาทันที แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนไม่มาก แต่เนื่องจากคนอื่นๆหยุดพิมพ์กันหมด ทำให้พวกเขามีโอกาสตอบโต้   จีเหยียนหรันดูจะตื่นเต้นมากกว่าคนอื่นๆ เธอหน้าแดงและกำลังออกหมัดตามหานเซิ่น “เป็นไงล่ะ กล้ามาแสดงความเห็นโง่ๆอีกไหมทีนี้?”   “เป็นไปไม่ได้… นั่นมันหมัดขาวชัดๆ…” ใบหน้าของหลี่ยู่มืดมน   “ยู่ ตั้งสมาธิให้ดี ตั้งป้องกันไว้ด้วย อีกฝ่ายไม่ใช่มือใหม่ธรรมดา” สวี่ยวิ๋นตี่พูดกับหลี่ยู่   หลี่ยู่เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์สูงมากในชมรม และในอนาคตเขาจะไม่ด้อยไปกว่านาลานเฉิงนั่ว แต่เขากับเสียคะแนนให้กับมือใหม่จากเหยี่ยวดำ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก   “ครับโค้ช!” หลี่ยู่ตอบ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและหันไปหาคู่แข่ง เตรียมพร้อมสู้อีกครั้ง   เป็นการแข่งแบบ 3 ใน 5 เขาพึ่งจะแพ้แค่รอบเดียว   เกมเริ่มอีกครั้ง เหวินซิ่วซิ่วเริ่มบรรยายต่อ “ดูเหมือนว่าจักรพรรดิหมัดดำค่อนข้างโชคดีนะคะ ที่เขาได้คะแนนแรกไป นั่นอาจจะเพราะหลี่ยู่ประมาทเกินไปในรอบแรก…”   ปัง! ก่อนที่เหวินซิ่วซิ่วจะพูดจบ หลี่ยู่ถูกส่งลอยไปในอากาศอีกครั้ง ภาพช้าแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงจากหมัดของหานเซิ่น ภาพโฮโลแกรมของหลี่ยู่ลอยไปสุดขอบกาแล็กซี่   เหวินซิ่วซิ่วอึ้งไม่ต่างจากผู้ชมในรายการ เธอเพิ่งอธิบายไปว่าหลี่ยู่แพ้รอบแรกเพราะประมาทเกินไป แต่รอบที่ 2 มันยากที่จะอธิบาย   พวกคนที่ดูถูกเหยี่ยวดำก่อนหน้านี้เงียบกันหมด และเริ่มมีความเห็นที่สนับสนุนเหยี่ยวโผล่ขึ้นมาแทน “ทำดีมาก” “หมัดดำของแท้มันต้องแบบนี้” ‘จักรพรรดิดำฝีมือไม่ธรรมดาเลย” “ใช้หมัดดำ 2 รอบติด แต่ตนักสู้สายลมก็ยังไม่สามารถคาดเดามันได้ สมควรแพ้จริงๆ” “เด็กคนนั้นแสดงความมั่นใจ และไม่ยอมตั้งแขนป้องกัน ถ้าเป็นการแข่งจริงๆเขาคงน็อคไปแล้ว ฮาฮา” “อัจฉริยะของเรายอดเยี่ยมที่สุด” …   เหวินซิ่วซิ่วไม่กล้าที่จะออกความเห็นสุ่มสี่สุ่มห้าอีก เมื่อหลี่ยู่กลับมาบนเวทีอีกครั้ง เธอก็บรรยายแบบไม่ค่อยมั่นใจ “จักรพรรดิหมัดดำทำได้ดีมากกว่าที่คิด การแข่งครั้งนี้จะต้องสนุกแน่ เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่าง 2 ยอด…”   ปัง! เสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ยู่ยกแขนขึ้นมาป้องกัน ภาพช้าจึงไม่ออกมาทุเรศเหมือน 2 รอบที่ผ่านมา แต่ตระบบก็ยังทำให้ภาพของหลี่ยู่ถอยหลังไปถึง 30 ฟุตด้วยแรงหมัดของฝ่ายตรงข้าม   แม้ว่ามันจะเป็นแค่ภาพจำลอง แต่ก็ทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา “โอ้โห! หมัดดำ 3 รอบติด ถ้าสู้กันจริงๆ นักสู้สายลมคงจะหมดสภาพไปแล้ว โชคดีที่เป็นการแข่งออนไลน์” “ยอดไปเลย ถึงจะใช้หมัดดำ 3 รอบติด แต่คู่แข่งก็ยังมองไม่ออก” “เขาเป็นใครกัน?” “ว้าว! นักกีฬาของเซนท์แชร์กแมงจะแพ้นักเรียนใหม่ของเหยี่ยวดำแบบ 0 คะแนนหรอเนี่ย” “นั่นก็เด็กใหม่ของเซนท์แชร์กแมงเหมือนกัน พวกนายจะตื่นเต้นอะไรนักหนา? รอบหน้าถ้าเจอกับหวังหยางจิน เดี๋ยวก็เห็นเองว่าความแข็งแกร่งจริงๆเป็นยังไง” “นั่นก็จริง เด็กใหม่ไม่ควรออกมาสู้เป็นคนแรก เขายังไม่มีประสบการณ์” …   “ยู่ เธอเป็นอะไรไป? คู่ต่อสู้ใช้หมัดดำ แล้วทำไมเธอถึงไม่หลบ?” สวี่ยวิ๋นตี่เริ่มอารมณ์เสีย นักเรียนคนโปรดของเขาแพ้ 0 คะแนน มันทำให้เขาอับอายมาก   “ผมขอโทษครับโค้ช” หลี่ยู่พูดอย่างขมขื่น เขารู้ว่าคู่ต่อสู้ใช้แต่หมัดดำ แต่เขากับรู้สึกว่าคู่แข่งออกหมัดขาวตลอด ซึ่งทำให้ตัวเขาไม่ยอมขยับไปไหน   หลี่ยู่คิดว่าหานเซิ่นต้องออกหมัดดำมาแน่ แต่สัญชาตญาณและการสังเกตของเขากับบอกว่าคู่ต่อสู้ออกหมัดขาว ความคิดของเขากับสัญชาตญาณมันสวนทางกัน เขาไม่รู้ว่าจะต้องรับมือยังไง   “ไม่ต้องเศร้าไปหรอก เดี๋ยวฉันแก้แค้นให้เอง” หวังหยางจินหัวเราะ เขาจับไหล่ของหลี่ยู่ และลุกขึ้นยืน   “จำไว้ด้วยว่าชื่อของเขาคือจักรพรรดิหมัดดำ ดังนั้นเขาน่าจะมั่นใจในหมัดดำของตัวเองมาก พยายามหลบไว้ดีกว่า ถ้าไม่มั่นใจ” สวี่ยวิ๋นตี่ให้คำแนะนำ   “ผมเข้าใจครับโค้ช” หวังหยางจินหยักหน้าและนั่งลงบนอุปการณ์จำลองภาพโฮโลแกรม   หวังหยางจินเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองมาก เขาเชื่อว่าที่หลี่ยู่แพ้ก็เพราะยังอ่อนประสบการณ์อยู่ ในขณะที่เขาลงแข่งมานับไม่ถ้วน เขาไม่มีทางพลาดเหมือนกับหลี่ยู่   “ตอนนี้แหละ ฉันจะแสดงให้นายเห็นถึงความแข็งแกร่งของเซนท์แชร์กแมง ฉันจะลดขั้นนายให้เหลือแค่ขันทีหมัดดำก็พอ” หวังหยางจินยืนตรงข้ามกับหานเซิ่นเอย่างมั่นใจ   การแข่งครั้งนี้ใช้ระบบสุ่มเลือกฝ่ายรุกกับฝ่ายรับแค่รอบแรกเท่านั้น พอหวังหยางจินขึ้นมาเป็นคนที่ 2 เขาจะได้เป็นฝ่ายตั้งรับก่อนเหมือนกับหลี่ยู่โดยอัตโนมัติ   “นักสู้สายลมยังขาดประสบการณ์ในการแข่งขัน แต่หวังหยางจินไม่เหมือนกัน เขาผ่านการแข่งมาอย่างโชกโชน ดังนั้นกลยุทธ์ของจักรพรรดิหมัดดำอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับเขา” น้ำเสียงของเหวินซิ่วซิ่วดูไม่ค่อยมั่นใจเหมือนตอนแรกๆ   แต่เธอก็ยังเชื่อว่าหวังหยางจินมีโอกาสชนะมากกว่า และยังมองว่าเซนท์แชร์กแมงจะชนะในการแข่งครั้งนี้   “หล่อนเอาอีกแล้ว” ฉวี้ลี่ลี่ไม่สบอารมณ์กับการบรรยายของเหวินซิ่วซิ่ว   “ปล่อยให้หล่อนพูดไป เดี๋ยวแข่งจริงก็จะรู้เอง” ครั้งนี้จีเหยียนหรันสงบมาก เพราะหานเซิ่นสัญญาไว้แล้วว่าจะชนะ และเธอก็เชื่อเขา   เกมเริ่มขึ้นอีกครั้ง หานเซิ่นออกหมดที่ดูรวดเร็วและรุนแรงมาก   หวังหยางจินดูจะระมัดระวังเป็นพิเศษ เขารู้สึกเหมือนๆกับหลี่ยู่ รายละเอียดต่างๆบอกกับเขาว่าเป็นหมัดขาว และเขาไม่ควรจะหลบ มัน แต่ตกระนั้น หลังจากการที่ได้ดูการแข่งของหานเซิ่นกับหลี่ยู่แล้ว เขาก็พูดกับตัวเองว่า ‘นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้หลี่ยู่แพ้ ฉันจะไม่ยอมผิดพลาดแบบเดียวกับเขา’ เขาตัดสินใจหลบหมัดของหานเซิ่น   “หวังหยางจินสมแล้วที่เป็นนักกีฬาที่มีประสบการณ์สูง คู่ต่อสู้มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน และการออกหมัดในครั้งนี้ควรจะเป็น…” เหวินซิ่วซิ่วบรรยายยังไม่ทันจบ เธอก็ต้องหยุดชะงักทันที   หมัดของหานเซิ่นค้างอยู่ในอากาศ และมันคือหมัดขาว   “นั่นมันจะเป็นหมัดขาวไปได้ยังไง!” เหวินซิ่วซิ่วตะโกนออกมาเสียงดัง ตาของเธอเบิกกว้าง     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 666 แล้วครับ

“ถึงแม้เหยี่ยวดำจะมีโอวหยางเสี่ยวซานที่เป็นนักกีฬาระดับท็อปของกาแล็กซี่ แต่ดูเหมือนว่าเขายังแข็งแกร่งไม่พอจะนำทีมเหยี่ยวดำได้ ด้วยเหตุผลบางอย่างทางทีมเหยี่ยวดำจึงตัดสินใจส่งจักรพรรดิหมัดดำลงมาเป็นคนแรกแทน แต่กระนั้นคู่ต่อสู้ของพวกเขาก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก มันคงจะดีไม่น้อยถ้าการแข่งออกมาสูสี…” หลังเกมเริ่ม ทั้ง 2 ทีมก็ส่งนักกีฬาคนแรกล็อคอินเข้าเกมมา เหวินซิ่วซิ่วพูดแนะนำหานเซิ่นก่อน   เมื่อจีเหยียนหรันได้ฟังคำพูดของเหวินซิ่วซิ่ว เธอก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที “ยัยพิธีกรคนนี้ มาสัมภาษณ์ทีมของเรา แต่กับดูไม่มั่นใจเลยว่าเราจะชนะ และยังไปเชียร์อีกฝั่งออกหน้ามาก”   “หล่อนดูไม่เป็นมืออาชีพเลยจริงๆ” ฉวี้ลี่ลี่เองก็ไม่สบอารมณ์เช่นกัน   หลังจากที่เฟิงหมิงเฉวียนได้ฟังคำพูดของเธอ ใบหน้าของเขาก็บูดบึงทันที เขาหวังดีกับเธอถึงส่งไปที่เหยี่ยวดำ เขายังบอกให้เก็บข้อมูลและใกล้ชิดกับนักกีฬามากที่สุด แต่เธอกับทำให้เขาผิดหวังมาก   เฟิงหมิงเฉวียนโทรไปหาเหวินซิ่วซิ่วทันที “เหวิน เธอกำลังทำอะไร ฉันบอกให้เธอไปโฟกัสที่เหยี่ยวดำ เธอก็ควรจะยืนอยู่ข้างพวกเขา”   ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหวังดีกับเธอ เขาจะไม่โทรไปแนะนำเธอในสถานการณ์แบบนี้   “คุณเฟิง ฉันคิดว่าผู้บรรยายควรมีจุดยืนที่เป็นกลางนะคะ เนื่องจากเหยี่ยวดำเป็นทีมที่ด้อยกว่าชัดเจน คุณคงไม่หวังให้ฉันพูดโกหกเพื่อทำให้พวกเขาดูดีหรอกใช่ไหม? ฉันไม่อยากจะทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกตัวเอง” เหวินซิ่วซิ่วหยุดการบรรยายชั่วครู่และตอบเฟิงหมิงเฉวียน   “แล้วเธอเชื่อว่ายังไง” เฟิงหมิงเฉวียนส่ายหัว พวกหนุ่มสาวสมัยนี้เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป ทำให้ไม่ฟังคำแนะนำของคนมีประสบการณ์   “ไม่ว่ายังไง ฉันก็มีความเชื่อเป็นของตัวเอง ฉันต้องขอโทษ แต่ยังไงฉันก็ต้องทำความความเชื่อของตัวเอง” เหวินซิ่วซิ่วพูดอย่างมั่นใจ   ด้วยเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์สูง เขาจะไม่ใช้คำพูดที่รุนแรงกับผู้หญิงตัวเล็กๆ เขายิ้มและพูดอย่างสงบ “แล้วตามที่เธอเชื่อ เธอคิดว่าทีมไหนจะชนะ?”   “เหยี่ยวดำจะแพ้ราบคาบ” เหวินซิ่วซิ่วตอบแบบไม่ลังเล เธอยังหงุดหงิดเรื่องที่เฟิงหมิงเฉวียนส่งเธอมาที่เหยี่ยวดำไม่หาย   “แล้วถ้าฉันบอกว่าเหยี่ยวดำจะชนะล่ะ เธอจะว่ายังไง?” เฟิงหมิงเฉวียนพูดอย่างนุ่มนวล   “นั่นจะไม่เกิดขึ้น” ไม่ว่าจะมุมไหน เธอก็ไม่คิดว่าเหยี่ยวดำจะชนะได้เลย   “งั้นถ้าเหยี่ยวดำแพ้ ฉันจะให้เธอเป็นคนเลือกเองเลยว่าต้องการจะไปสัมภาษณ์ที่ไหน” เฟิงหมิงเฉวียนหยุดชั้วครู่ก่อนพูดต่อ “แต่ถ้าเหยี่ยวดำชนะ เธอต้องทำงานที่ฉันมอบหมายให้เธอโดยห้ามปริปากบ่น”   “คุณเฟิง คุณคิดจริงๆหรอว่าเหยี่ยวดำจะชนะ?” เหวินซิ่วซิ่วเริ่มสงสัยถึงความเป็นมืออาชีพของเฟิงหมิงเฉวียน ใครที่รู้เรื่องมวยขาวและดำสักนิดก็จะรู้ว่าเหยี่ยวดำไม่มีทางชนะ เธอไม่เข้าใจว่าเฟิงหมิงเฉวียนกำลังคิดอะไรอยู่   “เหยี่ยวดำไม่ได้แค่ชนะธรรมดา แต่เหยี่ยวดำจะเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด เซนท์แชร์กแมงจะแพ้อย่างหมดรูป” เฟิงหมิงเฉวียนพูดอย่างมั่นใจ     ตอนนี้เหวินซิ่วซิ่วเริ่มเสียใจแล้วที่วิ่งเต้นใช้เส้นสายจนได้มาทำงานกับเฟิงหมิงเฉวียน เธอเคยชื่นชมเขามากจึงให้ครอบครัวติดต่อกับสถานีโดยตรงจนได้มาทำงานกับเขา   แต่ระดับความเป็นมืออาชีพของเฟิงหมิงเฉวียนทำให้เธอผิดหวังมาก เขาพูดเหมือนคนไร้สมอง ทำให้เธอรู้สึกแย่มาก   เหวินซิ่วซิ่วยังคงบรรยายต่อไปตามที่เธอเชื่อ เธอแสดงให้อย่างชัดเจนว่าเธอคิดว่าเซนท์แชร์กแมงมีโอกาสชนะมากกว่า   หานเซิ่นและหลี่ยู่ล็อคอินเข้ามาในพื้นที่สำหรับแข่งขัน   การแข่งขันเป็นแบบคนแพ้ต้องออกจากสนาม ส่วนผู้ชนะจะได้สู้ต่อไปเรื่อยๆ ทีมไหนที่ผู้เล่นแพ้ครบทุกคนก็จะแพ้ในการแข่งขัน   ด้วยการแข่งในลักษณะนี้ ทำให้คนเก่งมีโอกาสเอาชนะได้ทั้ง 5 คน แต่การแข่งมวยขาวและดำ เป็นการแข่งที่ไม่มีอะไรที่แน่นอน มันจึงยากที่จะเอาชนะได้ทั้ง 5 คน   เพราะว่าเป็นการแข่งออนไลน์ ระบบจึงได้ทำการสุ่มฝ่ายที่ได้เริ่มรุกก่อน และระบบก็ได้เลือกให้หานเซิ่นเป็นรุกก่อน   ทันทีที่เกมเริ่ม หานเซิ่นออกหมัดทันที ภาพโฮโลแกรมของเขาในเน็ตก็ออกหมัดพร้อมๆกับเขา หมัดของเขาตรงไปที่ภาพโฮโลเเกรมของหลี่ยู่   อุปกรณ์ที่ใช้ในการเเข่งขันเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยมาก มันจึงสามารถสแกนร่างกายและสร้างค่าความแข็งแกร่งที่เหมือนกับนักกีฬาได้เกือบ 100% เมื่อหมัดที่ชกออกมาผ่านระดับความรุนแรงตามที่ระบบกำหนดเอาไว้จะถือว่าเป็นหมัดดำ แต่ถ้าไม่ถึงก็จะถือว่าเป็นหมัดขาว   หลี่ยู่จ้องหานเซิ่นอย่างสงบ หมัดนี้รุงแรงและรวดเร็ว แต่หลี่ยู่ก็ยืนอยู่นิ่งๆ เขาไม่แม้แต่จะยกแขนขึ้นมาป้องกัน   หลี่ยู่มั่นใจในการคาดเดาของเขามาก หมัดของหานเซิ่นเหมือนจะเป็นหมัดดำ แต่ดูจากรายละเอียดอื่นๆแล้ว เขาสามารถบอกได้เลยว่าเป็นหมัดขาวแน่นอน หมัดที่ออกมาไม่ได้ทรงพลังอย่างที่เห็น เนื่องจากเป็นการแข่งขันผ่านเน็ต เนื่องจากเป็นการแข่งออนไลน์ทำให้อีกฝ่ายไม่ได้เกรงกลัวและทำการป้องกัน   “นักสู้สายลมเป็นนักกีฬาหน้าใหม่ แต่สามารถบอกได้เลยว่าเขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์จริงๆ เขามั่นใจในการคาดเดาของเขามาก…” เหวินซิ่วซิ่วชมหลี่ยู่อย่างออกนอกหน้า เพราะว่าเธอเองก็คิดแบบเขาเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นนักกีฬาระดับล่างและระดับกลางจะคิดว่ามันเป็นหมัดดำ แต่ถ้าเป็นนักกีฬาระดับสูงจะสามารถดูรายละเอียดส่วนอื่นๆและบอกได้ว่าจริงๆแล้วมันคือหมัดขาว   แต่ก่อนที่เหวินซิ่วซิ่วจะพูดจบก็มีเสียงดังเหมือนกับระเบิด หมัดของหานเซิ่นชกเข้าไปที่หน้าของหลี่ยู่เต็มๆ ระบบอัตโนมัติแสดงภาพช้า ภาพโฮโลแกรมของหลี่ยู่ถึงกับกระเด็นไปไกล   ตอนนี้ทุกคน รวมทั้งเหวินซิ่วซิ่วและนักกีฬาของเซนท์แชร์กแมงต่างก็อ้าปากค้าง ความเห็นในรายการสดถึงกับหยุดไปชั่วขณะ   “นี่คือผลของการทำให้แฟนของฉันอารมณ์เสีย” หานเซิ่นตารุกเป็นไฟ ในตอนแรกเขาอยากจะให้การแข่งออกมาสูสี เพราะเขาจะได้สนุกกับมันมากที่สุด แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้วเนื่องจากรางวัลที่จีเหยียนหรันสัญญาไว้คือจูบ ทำให้หานเซิ่นไม่ปราณีให้ใครทั้งนั้น     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 663 แล้วครับ