Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 199 ความมั่นใจ
Super God Gene – ตอนที่ 199 ความมั่นใจ

“พี่สาว ทำไมคุณถึงมาที่นี่?” หานเซิ่นเดินตามหวงฟูผิงชิงมานอกโรงฝึก บริเวณนั้นแทบไม่มีคนอื่นเลย เนื่องจากมันเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว   “ถ้าไม่มีเหตุผล ฉันมาหานายไม่ได้งั้นหรอ?” หวงฟูผิงชิงมองหานเซิ่น   “แน่นอนว่าได้ แต่ตอนนี้มันดึกแล้ว ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูด ผมขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อน ไว้เรามาคุยต่อกันวันหลังได้ไหม?” หานเซิ่นเลียริมฝีปากและพูด   “ทำไม? รึนายกลัวว่าจีเหยียนหรันจะรู้งั้นหรอ?” หวงฟูผิงชิงสืบเรื่องราวเกี่ยวกับหานเซิ่นมาแล้วตั้งแต่ที่เธอมาอยู่เหยี่ยวดำ รวมทั้งเรื่องแฟนของเขาด้วย   “เอ่อ พี่สาว พวกเราพูดกันแค่เรื่องธุรกิจได้ไหม?” หานเซิ่นถาม   “งั้นก็ดี เพราะคราวที่แล้วเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเลยไม่ได้พูดต่อ” หวงฟูผิงชิงมองที่หานเซิ่นและเริ่มใช้สายตายั่วยวนอีกครั้ง ทำให้หัวใจของหานเซิ่นเริ่มเต้นรัว   “งั้นก็พูดต่อได้เลย” หานเซิ่นยิ้ม   “ถ้านายต้องการฉมวก 3 แฉกเลือดศักดิ์สิทธิ ยังมีอีกทางหนึ่ง ฉันรู้ว่านายมีชุดเกราะวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิอยู่ อันที่นายเคยให้เหมียนเหมียนใส่ นายสนใจเอามาแลกไหม?”   “ไม่” หานเซิ่นปฏิเสธทันทีโดยไม่คิด ชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิเป็นสิ่งที่หายากมาก และยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้รอดชีวิตในยามคับขันได้ เขาไม่ต้องการใช้มันแลกกับอาวุธ   “แต่นายมีชุดเกราะวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิอยู่ 2 ดวง นายคงไม่ได้ใช้มันทั้ง 2 อัน มันจะไม่ดีกว่าหรอถ้าเอามาแลกกับอาวุธ? ฉันสามารถเพิ่มเงินให้ได้ตามที่นายต้องการ” หวงฟูผิงชิงพูดแนะนำ   “ขอโทษพี่สาว ผมไม่ต้องการแลก” หานเซิ่นยังคงตอบแบบไม่ลังเล ดูเหมือนว่าหวงฟูผิงชิงจะเข้าใจผิดว่าเกราะของแฟรี่ควีนคือชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิ แต่จริงๆแล้วชุดเกราะของแฟรี่ควีนยังด้อยกว่าชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิอยู่   และที่สำคัญ หานเซิ่นไม่มีทางยอมขายชุดเกราะแฟนท่อมแอนท์เลือดศักดิ์สิทธิ เพราะเขาสัญญากับหลินเป้ยเฟิงไว้แล้วว่าถ้าเขาต้องการขายให้ติดต่อหลินเป้ยเฟิงเป็นคนแรก   หลินเป้ยเฟิงเคยช่วยเขามาหลายครั้งแล้ว มันคงไม่ดีถ้าเขาผิดสัญญาและไปขายให้คนอื่นก่อน   ชุดเกราะแฟนท่อมแอนท์ไม่เพียงแค่มีพลังป้องกันที่สุดยอดพอๆกับด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิเท่านั้น แต่มันยังสวยงามมาก ราคาของมันยากที่จะประมานค่าได้   “คิดเกี่ยวกับมันให้ดี เรื่องเงินฉันไม่สน ไม่ว่านายต้องการเท่าไหร่ฉันยินดีจ่าย” หวงฟูผิงชิงยังจดจำรูปลักษณ์ของมันได้ติดตา ความงดงามของมันดึงดูดเธอมาก มันเป็นเกราะที่เหมาะจะให้ผู้หญิงใส่มาก ที่สำคัญด้วยธุรกิจของเธอ ทำให้เธอต้องเดินทางและเจออันตรายบ่อยครั้ง ถ้ามีชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิมันจะช่วยเธอได้มาก   “ผมไม่ต้องการเงิน” หานเซิ่นพูดและยิ้ม เขาต้องการตอบโต้เธอให้สาสม “แต่ถ้าคุณมีต้องการขนาดนั้น งั้นเราเปิดห้องกันเลยไหม?”   “นายกล้าดียังไงพูดแบบนี้ในโรงเรียน?” หวงฟูผิงชิงหน้าแดงและยอมแพ้ เธอเช็คเวลาในคอมของเธอและพูดกับหานเซิ่น “คิดเกี่ยวกับมันให้ดี และบอกให้ฉันรู้ถ้านายต้องการขาย ฉันคงต้องไปแล้ว…”   เมื่อเห็นเธอรีบหนีไป หานเซิ่นก็ยิ้ม เขาตระหนักว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะไล่เธอไป …..   การแข่งมวยขาวและดำถูกจัดขึ้นบนเน็ต ผู้ชมสามารถดูได้โดยตรงผ่านทางออนไลน์ ซึ่งพวกนักกีฬาจะใช้อุปกรณ์แข่งทางออนไลน์จากที่โรงเรียนของพวกเขา   เหวินซิ่วซิ่วเดินทางมาถึงสนามแข่งที่มีอุปการณ์สร้างภาพโฮโลแกรมวางเรียงรายอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ ในสถานที่ไม่มีคนอื่นเลยนอกจากพวกนักเรียนชมรมศิลปะป้องกันตัว   เธอติดตั้งกล้องและเตรียมพร้อมที่จะสัมภาษณ์พวกนักกีฬา ถ้าพวกเขามาถึง นี่เป็นงานแรกของเธอ เธอไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาด เธอลงทุนมารอก่อนเวลาหลายชั่วโมง   เธอเป็นนักข่าวคนเดียวที่มารายงานข่าวที่โรงเรียนเหยี่ยวดำ เนื่องจากทีมของเหยี่ยวดำไม่ได้ดังและมีโอกาสชนะสูงเหมือนโรงเรียนระดับท็อป ทำให้สถานีอื่นไม่ส่งคนมาทำข่าว   เหวินซิ่วซิ่วสามารถเข้ามาใกล้ชิดพวกนักกีฬาได้ด้วยสิทธิพิเศษของนักข่าว   ทันใดนั้น เธอเห็นหานเซิ่นนั่งอยู่ในกลุ่มนักกีฬา และกำลังพูดคุยกับสมาชิกชมรมศิลปะป้องกันตัว   ‘หมอนั่นก็เป็นสมาชิกของชมรมเหมือนกันหรอเนี่ย’ เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เขาไม่ยอมนำทาง แต่ในเมื่อแฟนของเขาน่ารักซะขนาดนั้น เธอก็พอจะเข้าใจได้ที่เขาไม่สนใจเธอ   เหวินซิ่วซิ่วพยายามไม่สนใจหานเซิ่น เธอเดินเข้าไปสัมภาษณ์พวกนักกีฬาตัวจริงและเฉินหลิง   “โค้ชเฉิน คุณมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับการแข่งรอบแรกคะ? เหยี่ยวดำต้องเจอกับโรงเรียนเซนท์แชร์กแมงที่เป็นตัวเต็งในการแข่ง พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก พวกเขายังมีนาลานเฉิงนั่ว คุณมีแผนหรือกลยุทธ์อะไรบ้างคะ?” เหวินซิ่วซิ่วถามเฉินหลิง   “ไม่มีแผนหรือกลยุทธ์อะไรทั้งนั้น แต่ครั้งนี้เหยี่ยวดำชนะแน่นอน” เฉินหลิงพูดแบบสบายๆ   คำตอบของเฉินหลิง ทำให้เหวินซิ่วซิ่วชะงักไปเลย เธอไม่เข้าใจว่าเฉินหลิงไปเอาความมั่นใจมากจากไหน เธอไปต่อไม่ถูกเนื่องจากเธอยังอ่อนประสบการณ์มาก   เพราะคำตอบที่เกิดคาด ทำให้คำถามอื่นๆที่เธอเตรียมมากลายเป็นคำถามไร้ประโยชน์ไปในทันที เธอคิดว่าเฉินหลิงจะตอบว่าโรงเรียน เซนท์แชร์กแมงเป็นคู่ต่อสู่ที่แข็งแกร่ง แต่พวกเราจะทำให้ดีที่สุด   ตอนนี้เธอได้แต่อ้าปากค้าง เธอไม่รู้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนกับนักข่าวคนอื่นๆที่มีประสบการณ์   “ขอตัวก่อนนะคะ ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ เชิญคุณเหวินตามสบาย คุณน่าจะไปลองสัมภาษณ์พวกนักกีฬาดู” เมื่อเฉินหลงเห็นท่าทางของนักข่าวสาวคนนี้ เธอก็แอบขำในใจ   เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกว่าเธอทำอะไรน่าอายลงไป เธอรีบหันไปสัมภาษณ์นักกีฬาแทน ทันใดนั้นเธอก็เห็นโอวหยางเสี่ยวซาน แต่เธอลังเลที่จะเข้าไปถามเขา เธอเลือกที่จะเดินเข้าไปสัมภาษณ์สวี่เฉียนก่อน   “สวัสดีคุณสวี่เฉียน! คุณมีความมั่นใจมากแค่ไหนในการแข่งรอบนี้?” สวี่เฉียนเป็นคนที่ง่ายต่อการสัมภาษณ์มากที่สุดแล้ว เพื่อดึงความมั่นใจกลับคืนมา เธอเลยต้องมาสัมภาษณ์เขาก่อน เขายิ้มและพูด “ผมมั่นใจมาก! พวกเราต้องชนะอย่างแน่นอน”   เมื่อได้ยินที่เขาพูด เหวินซิ่วซิ่วก็รู้สึกว่าเขามองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว เขาเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป โดยไม่มองความเป็นจริง   เหวินซิ่วซิ่วถามอีก 2-3 คำถามและก็ไปสัมภาษณ์นักกีฬาอีก 2 คน แต่คำตอบที่เธอได้ก็เหมือนกับหมด เหยี่ยวดำจะชนะเซนท์แชร์กแมงและเข้ารอบต่อไป   “คุณโอวหยาง คุณมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับนาลานเฉิงนั่ว” ในที่สุดเหวินซิ่วซิ่วก็เดินเข้าไปสัมภาษณ์โอวหยางเสี่ยวซาน   “ผมไม่รู้จักเขา” โอวหยางเสี่ยวซานพูดแบบไร้อารมณ์ตามเคย เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าเหวินซิ่วซิ่ว   เหวินซิ่วซิ่วชะงัก คำตอบของแต่ละคนเกินกว่าที่เธอคาดไว้ ทำให้เธอไปต่อไม่ถูก ตอนนี้ในเน็ตเริ่มมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับบทสัมภาษณ์ของเธอ     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 654 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 198 5 หนุ่ม
Super God Gene – ตอนที่ 198 5 หนุ่ม

หลังจากเหวินซิ่วซิ่วทำการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น เธอก็หมดหวังกับเหยี่ยวดำ เนื่องจากเธอไม่แม้แต่จะเห็นโอวหยางเสียวซานระหว่างการสัมภาษณ์   ‘ฉันต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับเซนท์แชร์กแมงเพิ่ม และต้องพูดเกี่ยวกับพวกเขาในรายการสดเยอะหน่อย’ เหวินซิ่วซิ่วกลับมาที่ห้องพักที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ และเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับทีมของเซนท์แชร์กแมงทันที   เธอต้องมารายการเกี่ยวกับมวยขาวและดำเพราะหัวหน้าสั่งมา ตัวเธอเองนั้นแทบจะไม่รู้เกี่ยวกับมวยขาวและดำเลย แต่เนื่องจากอยู่ในวงการสื่อมวลชน เธอจึงคุ้นเคยกับพวกนักกีฬาของโรงเรียนดังๆ ไม่นานเธอก็พบข้อมูลของเซนท์แชร์กแมง เธอนั่งดูวิดีโอที่พวกเขาอัพโหลดลงในเว็บไซต์ของโรงเรียน   พวกแฟนคลับของเซนท์แชร์กแมงต่างก็ดีใจกันมากที่คู่ต่อสู้ในรอบแรกคือเหยี่ยวดำ พวกเขาคิดว่าเซนท์แชร์กแมงจะเอาชนะได้สบายๆ   ความจริงมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้น สมาชิก 4 ใน 5 คนของพวกเขาติด 1 ใน 20 ของกาเเล็กซี่ และNalan Chengnuo คืออันดับ 2 ของกาแล็กซี่   ในขณะที่เหยี่ยวดำ นอกจากโอวหยางเสี่ยวซานแล้ว ก็มีแค่หนึ่งคนที่ติด 1 ใน 100 ที่เหลือไม่มีใครติดอันดับ ถ้าเปรียบเทียบกันแล้วเหยี่ยวดำดูหมดหวังที่จะชนะ   ด้วยเหตุนี้ทำให้โอวหยางเสี่ยวซานไม่อยากลงแข่งแบบทีม เพราะเขาคิดว่าเสียเวลาเปล่าๆ   ยิ่งเหวินซิ่วซิ่วหาข้อมูลมากเท่าไหร่ เหยี่ยวดำก็ยิ่งไม่มีหวังที่จะชนะขึ้นไปเรื่อยๆ เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเฟิงหมิงเฉวียนถึงส่งเธอมาที่เหยี่ยวดำ   ในความคิดของเหวินซิ่วซิ่วตอนนี้ เธอคิดว่าเฟิงหมิงเฉวียนแค่พยายามจะสกัดเธอเลยส่งให้เธอมาทำงานในที่ไม่น่าจะแจ้งเกิดได้ เธอตั้งใจแล้วว่าจะโฟกัสไปที่โรงเรียนเซนท์แชร์กแมง ….   หานเซิ่น ซื่อจื้อคังและลู่เหมินกำลังฝึกซ้อมวอเฟรมอยู่ในโรงฝึกที่ 7 เนื่องจากใกล้ถึงวันแข่งแล้ว หานเซิ่นจึงไม่ได้ไปก็อตแซงชัวรี่ แม้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะหายดีแล้วก็ตาม   “เซิ่น ทำไมฉันไม่เห็นพวกสาวๆเลย?” “แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง?” หานเซิ่นตอบ จริงๆแล้วหานเซิ่นรู้ว่าหวังเหมียนเหมียนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในก็อตแซงชัวรี่ เธอแทบจะไม่มาโรงเรียนเลย ด้วยอิทธิของครอบครัวเธอต่อให้เธอไม่มาเรียนเลยก็ยังเรียนจบได้แบบสบายๆ อนาคตของเธอถูกครอบครัวปูทางไว้ให้แล้ว เธอจึงไม่ต้องห่วงเรื่องเรียน ตอนนี้เป้าหมายหลักของเธอคือการเพิ่มจีโนพ้อยให้เร็วที่สุดและวิวัฒนาการ   ถ้าหวังเหมียนเหมียนไม่มาที่นี่ พวกเพื่อนๆของเธอก็จะไม่มาเช่นกัน เนื่องจากพวกเธอไม่ได้สนใจวอเฟรมอยู่แล้ว คนที่จะโผล่หน้ามาบางครั้งก็คือ ประธานอ้วนกับลิงผอม แม้หานเซิ่นจะไม่ได้มาที่นี่เพียงไม่กี่วัน แต่ดูเหมือนสภาพจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย   ประธานอ้วนกับลิงผอมมาตอนที่พวกเขาฝึกเสร็จพอดี ในที่สุดหนุ่มทั้ง 5 ก็เริ่มพูดคุยกัน “พวกนายได้ข่าวรึยัง? นักเรียนแลกเปลี่ยนคนใหม่ เธอน่ารักและเซ็กซี่มาก โอ พระเจ้า!” ประธานอ้วนพูดอย่างตื่นเต้น   “ทุกคนเขารู้กันหมดแล้ว ชื่อของเธอคือหวงฟูผิงชิง”   “เดี๋ยวรอให้ฉันพูดจบก่อน! พวกนายอาจจะรู้ชื่อของเธอแล้ว แต่พวกนายคงไม่รู้อย่างอื่นเกี่ยวกับเธอใช่ไหมล่ะ?” ประธานอ้วนรีบพูด   “พวกเราจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ? นายรู้หรอ?” ซื่อจื้อคังมองที่ประธานอ้วนและถาม   “แน่นอน! ดูด้วยว่าฉันเป็นใคร!” ประธานอ้วนพูดอย่างภูมิใจ “หวงฟูผิงชิง ไม่ใช่แค่หน้ารักอย่างเดียว แต่เธอมาจากตระกูลใหญ่ด้วย”   “น้ำลายนายไหลแล้วหมูตอน” ลิงผอมพูดแทรก   ประธานอ้วนเช็ดน้ำลายก่อนจะพูดต่อด้วยโทนเสียงแปลกๆ “พวกนายเคยได้ยินเกี่ยวกับสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้เอเรสไหม?”   “แน่นอน ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้น นั่นมันหนึ่งในสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุดในกาแล็กซี่ พวกเขามีสาขากระจายอยู่ทั่วกาแล็กซี่” ซื่อจื้อคังพูด   “ใช่นั่นแหละ! พวกนายคงเคยได้ยินชื่อ หวงฟูสงเฉิง ประธานของสถาบันเอเรสใช่ไหม? นั่นคือปู่ของหวงฟูผิงชิง” ประธานอ้วนพูด   “เห้ย เรื่องจริงหรอเนี่ย?!” คนอื่นๆที่เหลือบ้างตากว้างทันที   “แน่นอน พ่อของฉันทำงานอยู่ที่เอเรส ประธานหวงฟูเคยพาหลานสาวมาแนะนำในงานครบรอบของสถาบัน ไม่ผิดแน่ๆ” ประธานอ้วน   “สุดยอดเลย ใครก็ตามที่เอาชนะใจเธอได้ ก็คงเหมือนกับหนูตกถังข้าวสารเลย คงสบายไปทั้งชีวิตๆแน่นอน” ลิงผอมพูด   “มันคงไม่ง่ายแบบนั้นหรอก อย่างเธอน่ะหรอจะมาเลือกเรา?” ประธานอ้วนหัวเราะ   “แย่หน่อยนะที่เซิ่นมันมีแฟนแล้ว ไม่งั้นหวงฟูผิงชิงอาจจะตกหลุมรักมันก็ได้ ก็ผิวมันเนียนซะขนาดนั้น” ซื่อจื้อคังหัวเราะ   “ฉันก็อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ไม่แน่ใจว่าน้องหานจะคิดยังไง” มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมา พวกหนุ่มๆสะดุ้งทันที   พวกเขารีบหันไปมอง และเห็นผู้หญิงรูปร่างเซ็กซีกำลังเดินเข้ามาในโรงฝึกด้วยขาอันเรียวยาวของเธอ พร้อมกับรอยยิ้ม   “หวงฟูผิงชิง!” พวกเขามองมาที่เธอตาค้าง พวกเขากำลังพูดถึงเธออยู่แล้วเธอก็เดินเข้ามา ทำให้พวกเขารู้สึกซ็อค   หวงฟูผิงชิงเดินตรงมาที่หานเซิ่น เธอกระพริบตาและพูด “น้องหาน อยากมาทำงานให้ฉันไหม? ฉันจะยอมรับข้อเสนอทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรียกร้องค่าจ้างเท่าไหร่”   พวกที่เหลืออ้าปากค้าง และมองหานเซิ่นด้วยสายตาแปลกๆ “เอ่อ คุณหวงฟู อย่าล้อผมเล่นเลย” หานเซิ่้นไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการเขาจริงๆ เธอเพียงแค่อยากให้เขาทำงานให้บริษัทของเธอเท่านั้น   “ฉันไม่ได้ล้อเล่น ถ้านายต้องการ ฉันสามารถจ่ายให้นายได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี” หวงฟูผิงชิงยิ้ม   “พวกเราไปคุยกันที่อื่นได้ไหม?” หานเซิ่นรีบพูดทันที เขากลัวว่าถ้ายังยืนคุยกันอยู่ตรงนี้ เขาอาจจะโดนพวกที่เหลือฆ่าด้วยสายตาก็ได้   “เซิ่น แกนะแก” ขณะมองหานเซิ่นเดินไปกับหวงฟูผิงชิง ซื่อจื้อคังก็ตะโกนขึ้นมา     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 651 แล้วครับ