Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 197 เสน่ห์ของหญิงสาว
Super God Gene – ตอนที่ 197 เสน่ห์ของหญิงสาว

เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกไม่มีความสุข เธอถูกเฟิงหมิงเฉวียนมอบหมายให้มาทำข่าวเกี่ยวกับการแข่งมวยขาวและดำ   จริงๆแล้วด้วยโปรไฟล์ของเธอ เธอยังไม่มีคุณสมบัติพอจะมาทำงานกับเฟิงหมิงเฉวียน ซึ่งถือเป็นผู้สืบข่าวที่ดังที่สุดในกาแล็กซี่ตอนนี้ เหตุผลเดียวที่ทำให้เธอมาอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะเส้นสายจากครอบครัวของเธอ   เหวินซิ่วซิ่วคิดว่าเธอจะได้แสดงพรสวรรค์ของเธอให้ทุกคนได้เห็น ถ้าอยู่ภายใต้การแนะนำของเฟิงหมิงเฉวียน แต่ทว่างานแรกที่เธอได้รับคือถูกส่งมาที่โรงเรียนเหยี่ยวดำ   การแข่งมวยขาวและดำครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่รับสมัครผ่านทางเน็ต และสปอนเซอร์ก็คือบริษัทเวลโนว์เกมมิ่ง ซึ่งโรงเรียนที่มีชื่อเสียงหลายโรงเรียนถูกเชิญให้มาเข้าร่วมด้วย   เหวินซิ่วซิ่วหวังว่าเธอจะถูกส่งไปที่โรงเรียนตัวเต็งอันดับ 1 ไม่ก็อันดับ 2 แต่เฟิงหมิงเฉวียนกับส่งเธอมาที่เหยี่ยวดำ ซึ่งไม่ติด 1 ใน 16 ของกาแล็กซี่ด้วยซ้ำ แม้เธอจะพยายามโต้แย้งแล้ว แต่เฟิงหมิงเฉวียนก็ยังยืนกรานจะส่งเธอมาที่นี่ และบอกกับเธอว่าจะมีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น   เหวินซิ่วซิ่วแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรได้ เธอเช็คสายการต่อสู้แล้วพบว่าเหยี่ยวดำจะต้องเจอกับเซนท์แชร์กแมงในรอบแรก ซึ่งโรงเรียนเซนท์แชร์กแมงเป็นโรงเรียนที่ได้อันดับที่ 4 ในการแข่งขันระดับกาแล็กซี่เมื่อปีก่อน   โรงเรียนเซนท์แชร์กแมงมีชื่อเสียงในด้านศิลปะการต่อสู้อยู่แล้ว พวกเขาติด 1 ใน 4 เกือบทุกประเภทการแข่ง โดยเฉพาะมวยขาวและดำ ถึงพวกเขาจะได้อันดับ 4 ในการแข่งประเภททีม แต่ในการแข่งประเภทเดี่ยวพวกเขาได้รางวัลรองชนะเลิศ   แม้จะเป็นแค่การแข่งที่รับสมัครผ่านทางเน็ต แต่โรงเรียนเซนท์แชร์กแมงก็คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่ ซึ่งโรงเรียนเหยี่ยวดำแทบจะไม่มีโอกาสชนะเลย   เหวินซิ่วซิ่วสงสัยว่าเฟิงหมิงเฉวียนอาจจะส่งเธอมาเพื่อดูคู่ต่อสู้ทีมแรกของเซนท์แชร์กแมงรึเปล่า ซึ่งจริงๆแล้วเขาอาจจะให้เธอเน้นทำข่าวเซนท์แชร์กแมง?   “ยังไงก็เป็นแมทเดียวกัน และเดี๋ยวเราค่อยไปโฟกัสทางเซนท์แชร์กแมงอาจจะดีกว่า” เหวินซิ่วซิ่วไม่หวังกับโรงเรียนเหยี่ยวดำมาก   เหวินซิ่วซิ่วรู้ดีว่าเหยี่ยวดำไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก และปีนี้พวกนักกีฬาตัวหลักก็เรียนจบกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่โอวหยางเสี่ยวซานที่พอจะมีฝีมือ   แม้ว่าโอวหยางเสี่ยวซานจะติด 1 ใน 10 ของกาแล็กซี่ แต่เขาคนเดียวไม่สามารถแบกทีมได้อย่างแน่นอน   แม้จะไม่มีหวัง แต่เธอก็ต้องมาที่เหยี่ยวดำเพื่อสัมภาษณ์นักกีฬาและเก็บข้อมูลภาคสนามก่อน และทำความคุ้นเคยกับนักกีฬา   เธอถือบัตรประจำตัวผู้สืบข่าวและเข้ามาในโรงเรียน หลังจากเดินไปได้ไม่นานเธอก็หลงทาง เนื่องจากเหยี่ยวดำเป็นโรงเรียนที่กว้างใหญ่มากราวกับเมืองๆหนึ่งเลยทีเดียว และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าสนามฝึกซ้อมของพวกนักกีฬาอยู่ตรงไหน   เมื่อเธอมองไปรอบๆ และเห็นว่านักเรียนส่วนมากจะอยู่กันเป็นกลุ่ม แต่เนื่องจากเป็นงานแรกของเธอ เธอจึงไม่อยากเข้าไปถามนักเรียนที่อยู่กันเป็นกลุ่ม ไม่ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่ มีนักเรียนคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว   เหวินซิ่วซิ่วเดินเข้าไปหานักเรียนคนนั้นอย่างช้าๆ และดูมองเขาอย่างระมัดระวัง เธอคิดในใจ ‘โชคดีที่มีหนุ่มน้อยคนนี้อยู่ แหม่แต่ผิวของเขาดีจริงๆ’   “ขอโทษนะคะ คุณรู้ไหมว่าชมรมศิลปะป้องกันตัวอยู่ตรงไหน?” เหวินซิ่วซิ่วสะบัดผมของเธอขณะพูด เธอเชื่อว่าการเป็นผู้หญิงที่น่ารักสามารถหว่านเสน่ห์ทำให้นักเรียนยอมนำทางได้อย่างแน่นอน   เด็กหนุ่มมองเหวินซิ่วซิ่วและยิ้ม “ถ้าคุณต้องการไปชมรมศิลปะป้องกันตัว คุณต้องเดินไปตามถนนนี้ และเลี้ยวซ้ายที่ 3 แยก จากนั้นก็เดินต่อไปอีก 2 บล็อกและเลี้ยวขวา…”   เหวินซิ่วซิ่วอึ้งไปชั่วขณะ เธอรีบใช้รอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์ และพูดต่อ “คุณพอจะช่วยนำทางหน่อยได้ไหมคะ? ฉันไม่คุ้นเคยกับโรงเรียนนี้จริงๆ”   “ขอโทษด้วยครับ ตอนนี้ผมคงจะนำทางให้คุณไม่ได้ คุณลองไปขอให้คนอื่นช่วยดู” เด็กหนุ่มยิ้มและพูด   เหวินซิ่วซิ่วรู้สึกแย่ เธอเป็นถึงอดีตดาวโรงเรียน ในสมัยสาวๆไม่ว่าเธอจะเดินผ่านที่ไหน พวกผู้ชายก็ต้องมองเธอตาค้าง แต่นักเรียนคนนี้กับไม่สนใจความสวยของเธอ ซึ่งทำให้เธอไม่อาจจะยอมรับได้   เธอไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ เหวินซิ่วซิ่วต้องการจะพูดบางอย่าง แต่เธอเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งข้างๆเด็กหนุ่มคนนั้น เธอมองมาที่เหวินซิ่วซิ่วและถามเด็กหนุ่ม “คนนี้เป็นใครหรอ?”   เหวินซิ่วซิ่วตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กผู้หญิงคนนี้ แม้แต่เธอเองก็ต้องยอมแพ้ให้กับความสง่างามของเด็กหญิงคนนี้ แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่ความสวยและความสดใสของเธอก็น่าดึงดูดไม่น้อย   “เธอมาถามทาง” หานเซิ่นตอบพร้อมกับยิ้ม   จีเหยียนหรันมองเหวินซิ่วซิ่วและถาม “คุณเป็นนักเรียนของเหยี่ยวดำใช่ไหม? คุณต้องการไปที่ไหน?”   เหวินซิ่วซิ่วรีบเอาบัตรประจำตัวออกมาและพูด “ฉันเป็นนักข่าวจากสถานีชิงหัว ฉันมาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์นักเรียนชมรมศิลปะป้องกันตัว แต่ฉันไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหน”   จีเหยียนหรันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ และชี้นิ้วไปทางกลุ่มเด็กหนุ่มที่อยู่ไม่ไกล “พวกเขาคือสมาชิกชมรมศิลปะป้องกันตัว พวกเขาน่าจะนำทางให้คุณได้” เหวินซิ่วซิ่วขอบคุณจีเหยียนหรัน และเดินไปหาพวกเด็กหนุ่ม   โชคดีที่ครั้งนี้การหว่านเสน่ห์ของเธอสำเร็จได้ง่ายๆ พวกเขายอมนำทางให้เธอแต่โดยดี ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้างว่าความสวยของเธอยังพอมีประโยชน์กับอาชีพนักข่าว   ชมรมศิลปะป้องกันตัวของเหยี่ยวดำไม่ได้ใหญ่เหมือนกับที่เธอจินตนาการไว้ เหวินซิ่วซิ่วไม่ให้ความสำคัญกับพวกนักเรียนคนอื่นๆมาก ทีมที่ลงแข่งมีตัวสำรอง 3 คนและตัวจริง 5 คน ตัวสำรองและคนอื่นๆเธอไม่ได้สนใจเลย เธอโฟกัสแค่พวกตัวจริงทั้ง 5 คนเท่านั้น แต่เมื่อเธอเห็นรายชื่อพวกตัวจริง เธอก็รู้สึกว่าเหยี่ยวดำแทบไม่มีโอกาสชนะเลย   แต่เมื่อเธอคิดเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่เธอเจอตอนเข้าไปถามทาง เธอก็รู้สึกเหมือนว่าจะคุ้นๆหน้าเขา แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก   หลังจากการเปิดตัวSKTSเสร็จสิ้น หานเซิ่นก็ไม่เคยออกงานสาธารณะเลย ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่เธอจะจำเขาไม่ได้     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 648 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 196 อายุขัย 10 ปี
Super God Gene – ตอนที่ 196 อายุขัย 10 ปี

หวงฟูผิงชิงพูด “ตามหลักแล้ววิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิทั้ง 2 ดวงต้องถูกจัดแสดงในการประมูล แต่ถ้าคุณต้องการมัน ฉันสามารถขายมันให้คุณก่อนได้ แต่ในกรณีนั้น พวกเราต้องขายมันตามราคาที่ประมาณการไว้ ฉันไม่ใช่เจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ฉันเป็นตัวแทนของกลุ่มธุรกิจขายวิญญาณอสูร ซึ่งฉันทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้”   “ราคาที่ประมาณไว้คือเท่าไหร่” หานเซิ่นถาม   หวงฟูผิงชิงหยิบคอมของเธอขึ้น และโชว์ให้หานเซิ่นดูรายการราคาของวิญญาณอสูรแต่ละดวง   เมื่อเห็นราคาของฉมวก หานเซิ่นก็พูดอย่างขมขื่น “230 ล้าน ผมคงซื้อไม่ไหว”   ในตอนนี้เงินที่เขามีทั้งหมดคือ 60 ล้าน และเขายังมีวอเฟรมอีก 3 เครื่อง เขาไม่เคยคิดจะขายSilver KillerและSKTSที่มีลวดลายสีฟ้า แม้ว่าเขาจะขายSKTSอีกตัวที่เหลืออยู่ในราคา 70 ล้าน เขาก็มีเงินไม่พอซื้ออยู่ดี   “ที่ราคาถูกประเมินไว้สูงก็เพราะเรารู้ว่ามีคนรวยๆอยู่ที่สตีลอาเมอร์จำนวนมาก โดยเฉพาะเซินเทียนจื่อกับหลินเป้ยเฟิง คือเป้าหมายหลักของเรา” หวงฟูผิงชิงหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าคุณต้องการจริงๆ ฉันจะช่วยคุณด้วยส่วนลดพนักงาน ซึ่งราคามันจะเหลือประมาน 180 ล้านดอลลาร์”   ในตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าธุรกิจขายวิญญาณอสูรนั้นทำเงินได้มากมายขนาดไหน และเขายังได้รู้แล้วว่าวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธินั้นมีค่าแค่ไหน   ด้วยวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่เขามีอยู่ เขาจะกลายเป็นเศรษฐีได้ทันที ถ้าเขาขายพวกมันทั้งหมด   เมื่อเห็นหานเซิ่นเงียบ หวงฟูผิงชิงพูด “ถ้าคุณมีเงินไม่พอ ฉันก็มีข้อเสนอที่จะทำให้คุณได้ฉมวกมาโดยไม่เสียเงินแม้แต่ดอลลาร์เดียว”   “ผมขอฟังข้อเสนอที่ว่าหน่อย” หานเซิ่นประหลาดใจเล็กน้อย   “ถ้าคุณยอมเซ็นสัญญากับบริษัทของเราเป็นเวลา 2 ปี ฉมวก 3 แฉกจะกลายเป็นของคุณ โดยถือว่าเป็นเงินค่าจ้าง” หวงฟูผิงชิงพูดช้าๆ ขณะมองหานเซิ่น   หานเซิ่นลังเลก่อนจะหัวเราะออกมา “ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวเองมีค่าถึง 100 ล้านต่อปี”   หวงฟูผิงชิงพูด “ถ้าคุณเป็นแค่พรีเซนเตอร์ของSKTSอย่างเดียว ฉันคงไม่ยอมจ่ายขนาดนี้ แต่ฉันได้เห็นฝีมือของคุณที่ทะเลทรายปีศาจมากับตา ทำให้ฉันรู้ว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน ด้วยธุรกิจของพวกเราทำให้ต้องเดินทางไปมาระหว่างเมือง คุณจะช่วยพวกเราได้มาก คุณอยากเข้าร่วมกับพวกเราไหม?”   นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอยอมลงทุนมาเป็นนักเรียนของเหยี่ยวดำ เธอต้องการจ้างหานเซิ่น   “ขอบคุณครับพี่สาว แต่ผมไม่สามารถยอมรับข้อเสนอนั้นได้” หานเซิ่นปฏิเสธแบบไม่ลังเล   แม้การเป็นลูกน้องของเธอจะได้ท่องเที่ยวระหว่างเมือง และอาจจะได้เจอมอนสเตอร์ระดับสูงมากมาย แต่ด้วยการเป็นกลุ่มธุรกิจคงต้องเน้นไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย ซึ่งพวกเธอต้องเลี่ยงหลีกมอนสเตอร์ที่อันตรายเพื่อจะไปถึงที่หมายให้ไวที่สุด นั่นไม่ใช่สิ่งที่หานเซิ่นต้องการ   “อย่าพึ่งรีบปฏิเสธ คุณควรคิดเกี่ยวกับมันให้ถี่ถ้วนกว่านี้ พวกเราสามารถเจรจาเกี่ยวกับค่าตอบแทนใหม่ได้” หวงฟูผิงชิงยังไม่ยอมแพ้ แม้จะถูกหานเซิ่นปฏิเสธ   “คุณหวงฟู ผมต้องขอโทษจริงๆ แต่ผมต้องปฏิเสธ” หานเซิ่นตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอนี้   หวงฟูผิงชิงไม่คิดว่าหานเซิ่นจะปฏิเสธทันทีแบบนี้ แต่เนื่องจากเธอลงทุนมาถึงที่นี่แล้ว เธอจะไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ   “งั้นเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณเปลี่ยนใจ คุณมาพบฉันได้ตลอด” หวงฟูผิงชิงเปิดขวดไวน์และรินใส่แก้วให้หานเซิ่น   หลังจากที่ทั้งคู่จิบไวน์แล้ว หวงฟูผิงชิงก็พูด “ฉันหมดหน้าที่พูดคุยในฐานะตัวแทนบริษัทแล้ว ตอนนี้เรามาพูดเรื่องส่วนตัวกันดีกว่า”   “เรื่องส่วนตัว?” หานเซิ่นมองเธอดูสีหน้างงๆ   หวงฟูผิงชิงกอดแขนของหานเซิ่น และถามเขาพร้อมกับยิ้มยั่วยวน “คุณหาน คุณมีแฟนรึยัง? ถ้ายังไม่มี คนอย่างฉันดีพอจะเป็นแฟนของคุณรึเปล่า?” หานเซิ่นพ่นไวน์ที่เขาพึ่งจะดื่มไปที่หวงฟูผิงชิงในทันที   จากนั้นเขาก็รีบหาผ้าขนหนูมาเช็คไวน์ให้เธอ แต่ดูเหมือนเขาจะลนลานจนทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป ภายใต้ผ้าขนหนูคือหน้าอกขนาดใหญ่ของหวงฟูผิงชิง   “นาย…” หวงฟูผิงชิงหน้าแดง เธอไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น   “โทษที ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ” หานเซิ่นรีบดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว แต่เหมือนเขาจะลังเลนิดนึง   หวงฟูผิงชิงกัดริมฝีปาก และจ้องไปที่หานเซิ่นด้วยแววตาน่ากลัว เธอเอามือปิดเสื้อที่เปียกของเธอ   หานเซิ่นรีบถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก และเอาไปคุมให้เธอทันที   “พี่สาวผมขอโทษ ตอนนี้พวกเราก็คุยกันมานานมากแล้ว พวกเราควรจะกลับกันได้แล้ว ไว้เดี๋ยวพวกเรามาคุยกันต่อวันหลัง” หานเซิ่นรีบพูด   พวกเขาทั้ง 2 คนอยู่ในโรงเรียนทหาร และถ้าหวงฟูผิงชิงร้องขอความช่วยเหลือละก็ หานเซิ่นได้กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาคนอื่นทันที   “งั้นเอาไว้คราวหน้าล่ะกัน” หวงฟูผิงชิงไม่ต้องการอยู่ที่นี่แล้ว จริงๆเธอไม่ได้ต้องการเสียสละตัวเอง เธอเพียงแค่ลองหยั่งเชิงหานเซิ่นเท่านั้น   ‘อย่าคิดว่าจะหนีฉันพ้นได้ง่ายๆ’ หวงฟูผิงชิงคิด ขณะเดินออกจากห้องอาหารด้วยความอับอาย เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ เธอก็หน้าแดงขึ้นมาทันที   หานเซิ่นรอให้เธอไปก่อน หลังจากนั้นเขาก็เดินออกมาจากห้อง และมองที่มือของเขา “ขนาดนั้นมัน…”   หวงฟูผิงชิงเป็นผู้หญิงที่ประมาทไม่ได้ และหานเซิ่นเองก็ความรู้สึกไวมาก เมื่อเขาสัมผัสถูกหน้าอกของเธอ เธอก็แพร่จิตสังหารออกมาราวกับว่าต้องการจะฆ่าหานเซิ่น แม้ว่าเธอจะพยายามสงบมันไว้ แต่หานเซิ่นก็ยังสัมผัสถึงมันได้   และหานเซิ่นเห็นด้วยว่าคอมพกพาของเธอกำลังกระพริบอยู่ เหมือนกำลังอัดวิดีโอเอาไว้   ถ้าเขาทำอะไรผิดพลาดไปละก็ เธออาจจะอัดวิดีโอไว้หมดแล้วก็ได้ และถ้ามันถึงมือจีเหยียนหรัน เขาจะได้ไม่คุ้มเสีย   ‘ต่อไปเราต้องระวังให้มากกว่านี้ ตอนอยู่ใกล้เธอ’ หานเซิ่นเตือนสติตัวเอง   เมื่อซื่อจื้อคังเห็นหานเซิ่นกลับมาถึงห้อง เขาก็พูดทันที “เซิ่น นายกลับมาพอดีเลย นายรู้เรื่องที่มีนักเรียนแลกเปลี่ยนย้ายมาใหม่รึยัง?”   “นักเรียนแลกเปลี่ยนหรอ?” หานเซิ่นแกล้งทำเป็นประหลาดใจ   ซื่อจื้อคังเริ่มพูดอย่างตื่นเต้นทันที “ใช่ แม่สาวคนนี้สวยมาก โดยเฉพาะหน้าอกของเธอ… ตอนนี้หวงฟูผิงชิงกลายเป็นสาวที่ทรงเสน่ห์ที่สุดในโรงเรียนไปแล้ว ถ้าฉันได้สัมผัสมันสักครั้งนะ ต่อให้เอาอายุขัยของฉัน 10 ปีไปแลกก็ยอม..”   “10 ปี…” หานเซิ่นมองที่มือข้างขวาของเขาและคิด ‘ถ้าต้องสละขนาดนั้นก็คงไม่ไหวเหมือนกัน’     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 645 แล้วครับ