Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 169 หานเซิ่นสุดยอด
Super God Gene – ตอนที่ 169 หานเซิ่นสุดยอด

ปัง! หานเซิ่นชกไปที่แขนของอวี้ซื่อหมิงอย่างแรง ใบหน้าของอวี้ซื่อหมิงชาทันที เขาคิดว่าหมัดนี้ต้องเป็นหมัดหยินอย่างแน่นอน เขาเลยพยายามยกแขนขึ้นมากันหมัดของหานเซิ่น แต่จริงๆแล้วกับเป็นหมัดสีดำ และเนื่องจากไม่ได้หลบ เขาจึงโดนแรงกระแทกจากนวมสีดำชนแขนที่ยกมากัน และกระเด็นไปกระแทกหน้าของเขา   เขารู้สึกเหมือนมีดาวกำลังหมุนติ้วๆอยู่บนหัวของเขา และรู้สึกว่าจมูกของเขาได้รับแรงกระแทก จนเขาล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้น   นักเรียนทั้งห้องต่างก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็น ผลลัพธ์ของหมัดแรกอาจจะพออธิบายได้ว่าอวี้ซื่อหมิงนั้นยังไม่ได้ตั้งตัว แต่หมัดที่ 2 อวี้ซื่อหมิงนั้นตั้งใจเต็มที่แล้ว แต่เขาก็ยังคาดการผิด   “หานเซิ่นเจ๋งเป็นบ้าเลย! ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะเก่งมวยขาวและดำด้วย” “หมัดนั่นสุดยอดจริงๆ ขนาดคู่ต่อสู้เป็นถึงผู้ถูกเลือกก็ยังรับมือไม่ได้!” “หานเซิ่น นายมันสุดยอด!” “เป็นเกียรติของโรงเรียนเราจริงๆที่มีคนอย่างเขาอยู่” “ฮาฮา ดูเหมือนว่าท่าทีของอวี้ซื่อหมิงจะเปลี่ยนไปแล้วนะ” “หานเซิ่นคือไอดอลของฉัน” “คุ้มจริงๆที่มาเข้าเรียนคาบของศาสตราจารย์เหยียน”   ตอนนี้ถังเตียงลิ่วเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ให้หัวเราะไม่ไหวแล้ว เขาต้องเอามือขึ้นมาปิดปาก ‘อวี้ซื่อหมิง ถ้านายฉลาดก็รีบๆหาข้ออ้างแล้วถอนตัวออกมา ก่อนที่นายจะขายหน้าไปมากกว่านี้ ‘   ศาสตราจารย์เหยียนทำการวิเคราะห์อย่างจริงจัง “ตามตำราเรียนได้เขียนบอกไว้ว่า ให้จับจ้องไปที่เท้าของคู่ต่อสู้ โดยให้ดูลักษณะการยืน เนื่องจากโดยปรกติแล้วเท้าจะต้องบิดเข้ามาข้างใน ถ้าต้องส่งกำลังจากหัวไหล่เวลาออกหมัดที่รุนแรง แต่หานเซิ่นกับเข้าใจถึงจุดนี้ และขยับเท้าหลอกคู่ต่อสู้ ทำให้อีกฝ่ายสับสน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้เปลี่ยนไปสังเกตที่เอวหรือหัวไหล่แทน…”   ศาสตราจารย์เหยียนเปิดภาพโฮโลแกรม และทำการวิเคราะห์วิดีโอที่หานเซิ่นออกหมัดเมื่อสักครู่ ทำให้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของหมัดและเทคนิคของหานเซิ่น แม้ว่าศาสตราจารย์จะอธิบายด้วยน้ำเสียงเหมือนอย่างเคย แต่ดูเหมือนครั้งนี้พวกนักเรียนจะตั้งใจฟังกันมาก   “โอ้โห แค่หมัดเดียวกับมีรายละเอียดมากขนาดนี้” หลังจากที่ได้ยินศาสตราจารย์อธิบาย พวกนักเรียนก็พยักหน้า   อวี้ซื่อหมิงเช็ดเลือดที่จมูกและลุกขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะฝืนยิ้มไม่ได้อีกแล้ว แต่เขายังไม่ยอมแพ้ เขาไม่เหมือนกับถังเตียงลิ่ว เขายังคงคิดว่าครั้งนี้เขาก็ยังไม่ได้ระวังให้มากพอ เขาเดินไปข้างหน้าของหานเซิ่นอีกครั้ง   หานเซิ่นอ่านใจของอวี้ซื่อหมิงออก เขารู้ว่าอวี้ซื่อหมิงต้องการโชว์ต่อหน้าพวกนักเรียน โดยใช้เขาเป็นเครื่องมือ ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่ยอมให้เขาทำได้ตามใจ   หมัดของหานเซิ่นตรงเข้าไปที่หน้าของอวี้ซื่อหมิงอีก 1 หมัด ตอนนี้สายตาของอวี้ซื่อหมิงจับจ้องไปที่ทุกส่วนของหานเซิ่น เพื่อคาดการและอ่านการเคลื่อนไหว ครั้งนี้หมัดของหานเซิ่นดูเหมือนจะไม่รุนแรง อวี้ซื่อหมิงคาดเดาว่าหมัดนี้น่าจะเป็นหมัดหยิน   เขาใช้ชีวิตในก็อตแซงชัวรี่มาเกือบ 10 ปี เขาผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน ทำให้เขามั่นใจในการคาดเดาของเขามาก   แม้จะเป็นแต่การฝึกซ้อมระหว่างเพื่อน แต่ตราบใดที่อีกฝ่ายออกหมัดที่รุนแรง เขาจะสัมผัสถึงมันได้อย่างแน่นอน   “รอบนี้หมัดขาว” อวี้ซื่อหมิงมั่นใจมาก เขายกแขนขึ้นมาป้องกันอีกครั้ง   ปัง! หน้าของอวี้ซื่อหมิงสั่นอย่างรุนแรง เขาพยายามพยุงร่างกายไม่ให้ล้ม และเดินโซเซถอยหลังไป เขามองไปที่หานเซิ่นด้วยสีหน้าประหลาดใจ เขาคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะออกหมัดอย่างรุนแรง โดยที่เขาสัมผัสมันไม่ได้   พวกนักเรียนกำลังตื่นเต้นกันมาก พวกเขาเกือบจะตะโกนออกมา ไม่มีใครคิดว่าหานเซิ่นจะชกอวี้ซื่อหมิงได้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน   ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้อยู่ในคาบเรียน พวกเขาจะวิ่งเข้าไปกอดหานเซิ่น เพราะเขาสร้างชื่อให้เหยี่ยวดำมาก ไม่มีนักเรียนคนไหนจะสามารถชกผู้ถูกเลือกได้ 3 ครั้งซ้อน   ต่อไปถ้ามีใครกล้าเอาผู้ถูกเลือกมาคุยโวต่อหน้าพวกเขา พวกเขาจะสวนกลับไปว่า “ผู้ถูกเลือกอันดับที่ 6 แพ้เพื่อนร่วมชั้นของผมขาดลอย ดีนะที่ผมไม่ได้ไปร่วมมือด้วย ไม่งั้นผู้ถูกเลือกคงเจ็บตัวมากกว่านี้ คิดว่าผมโกหกหรอ? ไม่เชื่อลองไปถามใครในเหยี่ยวดำก็ได้…”   ศาสตราจารย์เหยียนยังคงทำหน้าที่ของเขาต่อไป เขาพยายามอธิบายเทคนิคต่างๆที่หานเซิ่นใช้ และวิเคราะห์ให้พวกนักเรียนฟัง แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกนักเรียนจะไม่อยู่ในอารมณ์สนใจฟังศาสตราจารย์   ถังเตียงลิ่วรู้สึกอายแทนอวี้ซื่อหมิง ซึ่งเป็นคนที่พูดขึ้นมาคนแรกว่าอยากจะเชิญนักเรียนมาเป็นคู่สาธิต ถังเตียงลิ่วส่ายหัว ‘เป็นไง อยากจะโชว์มากนัก ผลมันเลยออกมาเป็นแบบนี้’   เมื่ออวี้ซื่อหมิงเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว เขาจึงขอให้สลับฝ่าย หานเซิ่นยอมรับข้อเสนอของอวี้ซื่อหมิง และยอมสลับมาเป็นฝ่ายรับบ้าง   อวี้ซื่อหมิงตาลุกเป็นไฟ เขาเหวี่ยงหมัดตรงไปที่หน้าของหานเซิ่น ‘ตอนนี้นายคงคิดว่าฉันต้องหาทางเอาคืนแน่ และคิดว่าครั้งนี้ฉันต้องออกหมัดหยาง(หมัดดำ) ซึ่งเป็นหมัดที่รุนแรงกว่า แต่เสียใจด้วยเพราะครั้งนี้ฉันใช้หมัดหยิน(หมัดขาว) ฉันจะเอาชนะในรอบนี้ และกู้ชื่อกลับคืนมาก’ อวี้ซื่อหมิงคิด   อวี้ซื่อหมิงเชื่อว่าหานเซิ่นต้องหลบแน่ๆ เพราะเขาไม่แม้แต่จะยกแขนขึ้นมาป้องกันตัว แต่ทันใดนั้นหานเซิ่นยื่นมือออกไป   ใบหน้าอวี้ซื่อหมิงซีดเผือด เนื่องจากหมัดของเขาถูกมือของหานเซิ่นจับเอาไว้   “โห สุดยอด ฉันยังคิดว่ามันต้องเป็นหมัดดำแน่นอนแล้วนะ แต่กลับเป็นหมัดขาว หานเซิ่นสุดยอด” “เขาดูมั่นใจมากด้วย” “ดูเหมือนเขาจะเก่งทุกอย่างเลยนะ”   ศาสตราจารย์เหยียนยังคงทำการวิเคราะห์และสอนต่อไปเรื่อยๆ ในขณะที่นักเรียนไม่มีใครสนใจฟังศาสตราจารย์ พวกเขานั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับฝีมือของหานเซิ่น   ในตอนนี้ข่าวเรื่องที่หานเซิ่นเล่นงานผู้ถูกเลือกแพร่ออกไปแล้ว ทำให้มีนักเรียนจำนวนมากเข้ามาดูเพิ่มขึ้น ตอนนี้ทั้งทางเดิน พื้นหรือแม้แต่หน้าต่างก็มีนักเรียนเต็มไปหมด   ขณะคนที่ไม่สามารถมาดูได้ พวกเขาก็ดูผ่านภาพโฮโลแกรมด้วยอุปกรณ์พกพาของพวกเขา     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 566 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 168 พระเจ้าก็ช่วยนายไม่ได้
Super God Gene – ตอนที่ 168 พระเจ้าก็ช่วยนายไม่ได้

“หานเซิ่น มาช่วยเป็นคู่สาธิตมวยขาวและดำกับอวี้ซื่อหมิงหน่อย” ศาสตราจารย์เหยียนไม่ต้องการเสียเวลา เขาเรียกหานเซิ่นออกมาทันที   หานเซิ่นไม่มีทางเลือก เขาลุกยืนและเดินขึ้นไปบนเวที   “ศาสตราจารย์ เนื่องจากอวี้เลือกคนเอง งั้นผมก็ขอเลือกเอง” ถังเตียงลิ่วพูด   เขาไม่ต้องการจับคู่กับหานเซิ่น และก็ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวเหมือนกับอวี้ซื่อหมิง   ศาสตราจารย์เหยียนไม่ขัดข้องกับคำขอของถังเตียงลิ่ว “มีใครต้องการจับคู่กับผมไหม?” ถังเตียงลิ่วรู้สึกโล่ง เขารีบถามพวกนักเรียนพร้อมกับยิ้ม   นักเรียนเกือบทั้งห้องยกมือขึ้น ถังเตียงลิ่วยิ้มและพูด “ผมขอเลือกตามใจตัวเอง โดยการเลือกสาวน่ารักคนนี้ คุณผู้หญิงช่วยมาจับคู่กับผมหน่อยได้ไหม?”   พวกนักเรียนหัวเราะ เด็กผู้หญิงที่ถูกถังเตียงลิ่วถามก็หน้าแดง และเดินขึ้นเวทีไป   เมื่อถังเตียงลิ่วถามชื่อเธอเสร็จ เขาก็หันไปถามศาสตราจารย์ “ศาสตราจารย์เหยียน ให้พวกเราเริ่มก่อนเลยได้ไหม?”   ศาสตราจารย์เหยียนพยักหน้า ถังเจียงลิ่วกับเด็กผู้หญิงเริ่มสาธิตมวยขาวและดำ ถังเจียงลิ่วไม่ได้ใช้ฝีมือเต็มที่ เขาเพียงแค่สาธิตการเคลื่อนไหวที่หลากหลายตามที่ศาสตราจารย์สอน และเอาชนะเด็กผู้หญิงไปได้แบบสบายๆ การสาธิตของเขาได้รับเสียงปรบมือจากนักเรียนทั้งห้อง   “หานเซิ่นตอนนี้ก็ถึงตาพวกเราบ้างแล้ว” อวี้ซื่อหมิงแทบจะอดรอไม่ไหวที่จะได้โชว์ฝีมือต่อหน้านักเรียน เขายิ้มให้หานเซิ่น   ถังเตียงลิ่วเดินไปนั่งด้วยรอยยิ้ม เขารอที่จะเห็นอวี้ซื่อหมิงต้องขายหน้า ถังเตียงลิ่วกับอวี้ซื่อหมิงไม่ได้สนิทกันมาก และถังเตียงลิ่วก็ไม่สนใจว่าอวี้ซื่อหมิงจะเป็นยังไง เพราะเขาอยากหาเรื่องใส่ตัวเอง   หานเซิ่นเดินไปยืนตรงข้ามกับอวี้ซื่อหมิง และตั้งท่าเตรียมพร้อมเหมือนกับที่อวี้ซื่อหมิงทำ   มวยขาวและดำ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการฝึกตามเเนวคิดหยินเเละหยาง ผู้เล่นทั้ง 2 คนต้องมายื่นตรงข้ามกัน และห่างกัน 1 ช่วงแขน โดยคนหนึ่งเป็นฝ่ายรุก และอีกคนเป็นฝ่ายป้องกัน   ฝ่ายรุกสามารถโจมตีโดยใช้ทั้ง 2 หมัด หมัดที่ใส่นวมสีดำคือหยาง และนวมสีขาวคือหยิน นวมที่ใช้จะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยนวมสีดำจะมีพลังที่รุนแรง ขณะที่นวมสีขาวจะเบากว่า   ฝ่ายตั้งรับ ต้องสังเกตดูให้ดีว่าคู่ต่อสู้ออกหมัดสีอะไร ถ้าเป็นหมัดสีดำ พวกเขาต้องหลบหมัด ส่วนถ้าเป็นหมัดสีขาว พวกเขาต้องยกแขนขึ้นมาป้องกัน ซึ่งถ้าเป็นหมัดสีดำแล้วไม่หลบ แต่ยกแขนมาป้องกันแทน ฝ่ายรับจะต้องเจอกับแรงกระแทกที่รุนแรง   มวยขาวและดำเป็นการฝึกที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาสมาธิและการคาดเดา นักเรียนโรงเรียนทหารทุกคนต้องเรียนมันตั้งแต่ 3 เดือนแรกแล้ว ดังนั้นนักเรียนทุกคนต่างก็เคยเล่นมันมาก่อน   เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยืนใกล้กันมาก ถ้ามัวรอให้คู่ต่อสู้ออกหมัดแล้วค่อยตัดสินใจจะไม่ทันการ ฝ่ายรับจำเป็นต้องอ่านการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายให้ออก และวิเคราะห์ดูว่าเขาจะออกหมัดไหนนี่ถือเป็นหัวใจ ส่วนปฏิกิริยาการตอบสนองจะสำคัญรองลงมา ถ้าการคาดการไม่แม่นยำ ถึงมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วขนาดไหนก็ไม่ช่วยอะไร   “หานเซิ่น ฉันให้นายเป็นฝ่ายรุกก่อน” อวี้ซือหมิงแสดงน้ำใจ เพราะฝ่ายรุกก่อนจะได้เปรียบกว่าฝ่ายรับแน่นอนอยู่แล้ว   อวี้ซือหมิงมั่นใจในความสามารถตัวเองมาก เขาเชื่อว่าแค่เห็นการเคลื่อนไหวของร่างกายหานเซิ่นเพียงเล็กน้อย เขาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าหานเซิ่นจะออกหมัดไหน   “พวกเราจะเริ่มเลยไหม?” หานเซิ่นมองที่อวี้ซื่อหมิงและถาม   “แน่นอน…โอ้ย..” อวี้ซื้่อหมิงพึ่งจะตอบตกลง แต่หมัดของหานเซิ่นก็ลอยมาที่หน้าอกของเขาทันที ทำให้เขาไม่สามารถตอบสนองอะไรได้ อวี้ซื่อหมิงเดินโซเซถอยหลังไป   ศาสตราจารย์เหยียนเริ่มอธิบายอย่างจริงจัง “หานเซิ่นทำได้ดีมาก นี่เป็นเทคนิคพื้นฐานที่สำคัญ การใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนในจิตใจของคู่ต่อสู้และโจมตีอย่างรุนแรง แต่กระนั้น หานเซิ่นสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยการโจมตีไปที่จุดสำคัญของคู่ต่อสู้ เช่นจมูกหรือตา”   นักเรียนพยัก ขณะที่หวี้ซื่อหมิงโกรธจัด แต่เขาเก็บความโกรธเอาไว้ในใจ เนื่องจากศาสตราจารย์กำลังอธิบายอยู่   “หานเซิ่น หมัดเมื่อกี้ไม่เลวเลย ตอนนี้พวกเรามาต่อกันได้แล้ว” อวี้ซื่อหมิงฝืนยิ้มออกมาอย่างไม่เต็มใจ และเดินกลับไปประจำตำแหน่ง   ถังเตียงลิ่วหัวเราะหนักมาก แต่เขาต้องพยายามเก็บอาการ ‘อวี้ซื่อหมิง นายหาเรื่องเองนะ มันเป็นแค่การสาธิต แทนที่จะเชิญพวกผู้หญิงขึ้นมาร่วมสนุก ทำไมนายต้องไปยั่วสัตว์ประหลาดแบบนั้นด้วย? แม้แต่พระเจ้าก็คงช่วยนายไม่ได้แล้ว’   อวี้ซื่อหมิงไม่ได้คิดเหมือนถังเตียงลิ่ว เขาคิดว่าตอนแรกเขาแค่ไม่ระวัง ถ้าเขาเอาจริงไม่มีทางที่หานเซิ่นจะทำอะไรได้ แค่นักเรียนโรงเรียนทหารจะมาเทียบกับผู้ถูกเลือกได้ยังไง?   ในความเป็นจริง นักเรียนเกือบทั้งหมดก็คิดแบบนั้น แม้พวกเขาจะรู้ว่าหานเซิ่นฝีมือดี แต่ถ้าต้องมาต่อสู้กับผู้ถูกเลือก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในก็อตแซงชั่วรี่เขต 1 หานเซิ่นไม่น่าจะมีโอกาสชนะ   อีกฝ่ายเป็นถึงผู้ถูกเลือกอันดับที่ 6 ของก็อตแซงชั่วรี่เขต 1 ส่วนหานเซิ่นเป็นแค่แชมป์วอเฟรมระดับโรงเรียน ดังนั้นพวกนักเรียนจึงเชื่อว่าอวี้ซื่อหมิงน่าจะเก่งกว่าหานเซิ่น   “หานเซิ่นบุกเข้ามาได้เลย” หลังจากที่อวี้ซื่อหมิงพูดจบประโยค เขาก็จ้องไปที่หานเซิ่นทันที   ครั้งนี้หานเซิ่นจะออกหมัดตรงมาที่ใบหน้าของเขา เนื่องจากศาสตราจารย์พึ่งจะแนะนำให้เขาโจมตีไปที่จุดสำคัญของคู่ต่อสู้   อวี้ซื่อหมิงจ้องมองที่หานเซิ่น เขาสังเกตท่ายืนและองศาการเคลื่อนไหวของร่างกายบริเวณหัวไหล่ ไม่นานอวี้ซื่อหมิงก็สามารถคาดการณ์การโจมตีของหานเซิ่นได้   ‘เป็นการตบตาที่ใช้ได้ แต่ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการโจมตีที่ไร้น้ำหนัก มันต้องเป็นหมัดหยินอย่างแน่นอน’ อวี้ซื่อหมิงยกแขนขึ้นมาเตรียมป้องกันหมัดสีขาวของหานเซิ่นด้วยสีหน้าที่มั่นใจมาก