Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 167 หาเรื่องใส่ตัว
Super God Gene – ตอนที่ 167 หาเรื่องใส่ตัว

หานเซิ่นลังเล เนื่องจากเขาไม่รู้จักนักเรียนคนนี้ “มันเป็นธรรมดาที่นายจะไม่รู้จักผม ผมก็อยู่หน่วยธนู ในการแข่งขันสตาร์รี่คัพนายสร้างชื่อเสียงให้หน่วยของเรามาก ผมจะไม่ยอมให้ที่นั่งกับใคร แต่เป็นนายผมถึงยอม” นักเรียนยิ้มและยอมสละที่นั่งให้หานเซิ่น   “ขอบคุณครับ” หานเซิ่นไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะได้รับการปฏิบัติที่ดีแบบนี้   “นั่นมันหานเซิ่นนิ” “ใช่เขาจริงด้วย การแข่งวอเฟรมของเขาสุดยอดจริงๆ” “เขาก็คลั่งพวกดาราด้วยงั้นหรอ?” …. นักเรียนจำนวนมากเริ่มผิวปาก บางคนก็ปรบมือ ทำให้ทุกคนหันมามองหานเซิ่นกันหมด แต่พวกเขาทุกคนก็มีมารยาท ไม่มีใครเข้ามารบกวนหานเซิ่น   ขณะนี้คาบเรียนเริ่มขึ้นแล้ว ศาสตราจารย์เหยียนเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับชายอีก 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นคนที่หานเซิ่นคุ้นหน้าคุ้นตาดี ถังเตียงลิ่วยิ้มทักทายพวกนักเรียน   ส่วนชายอีกคนหานเซิ่นรู้ว่าเขาเป็นผู้ถูกเลือกอันดับที่ 6 อวี้ชื่อหมิง เนื่องจากหานเซิ่นไม่ได้เข้าร่วมการประลองเพื่อจัดลำดับ เขาจึงไม่เคยสู้กับอวี้ชื่อหมิง   นักเรียนของเหยี่ยวดำปรบมือตอนรับพวกเขาอย่างสุภาพเรียบร้อย ตอนที่ถังเตียงลิ่วแนะนำตัว จางหยางตบปรบมือของเขาอย่างแรงจนมือของเขาเกือบจะบวม   ศาสตราจารย์เหยียนยังคงสอนด้วยสไตล์เดิมของเขา แต่เมื่อเขาบรรยายถึงทฤษฏี เขาจะขอให้ถังเตียงลิ่วและอวี้ซื่อหมิงสาธิตให้พวกนักเรียนดู   ด้วยการมีส่วนร่วมของพวกเขา ทำให้การสอนดูมีประสิทธิภาพขึ้นมาก ทั้ง 2 คนโชว์ความสามารถในการต่อสู้ และการสาธิตของพวกเขาสำเร็จอย่างงดงาม   “อธิบายง่ายๆก็คือ จุดมุ่งหมายของศิลปะการต่อสู้ก็คือเพื่อผ่อนเเรงที่เราต้องใช้ และในการต่อสู้จริงๆ นอกเหนือจากความแข็งแกร่งแล้ว สภาพจิตใจก็สำคัญมาก มีการฝึกหลายอย่างที่ใช้พัฒนาจิตใจได้ ตัวอย่างเช่นการรำไทเก็ก” ศาสตราจารย์เหยียนอธิบายต่อด้วยน้ำเสียงโทนเดียวของเขา “อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือมวยขาวและดำ เดี๋ยวผู้ถูกเลือกอวี้ชื่อหมิงกับถังเตียงลิ่วจะสาธิตมวยขาวและดำให้เราดูกัน”   อวี้ชื่อหมิงรีบพูดตัดบททันที “ศาสตราจารย์ ถ้ามีแค่พวกเรา 2 คน พวกนักเรียนอาจจะเบื่อก่อน พวกเขาต้องมีส่วนร่วมในการสอนบ้าง คุณจะเชิญนักเรียน 2 คนขึ้นมาเป็นคู่สาธิตให้ผมและถังได้รึเปล่า?”   มีเสียงปรบมือดังมาจากในห้องเรียน การได้จับคู่กับดาราไม่ใช่โอกาสที่หาได้ง่ายๆ   “ถัง เธอคิดว่ายังไง?” ศาสตราจารย์มองไปที่ถังเจียงลิ่ว   “นี่เป็นชั้นเรียนของศาสตราจารย์ ผมยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง” ถังเจียงลิ่วพูดพร้อมกับยิ้ม   ถังเตียงลิ่วจ้องไปที่อวี้ซื่อหมิง เขารู้ว่าอวี้ซื่อหมิงกำลังคิดอะไรอยู่ อวี้ซื่อหมิงนั้นเคยสู้กับเขาในการประลองจัดลำดับ และก็แพ้ให้เขาอย่างหมดรูป ตอนนี้ถ้าเขาต้องมาจับคู่สาธิตกับถังเตียงลิ่ว เขากลัวว่าจะขายหน้าต่อหน้าพวกนักเรียน   “ถ้าอย่างงั้น พวกเราจะเลือกนักเรียน 2 คนขึ้นมาจับคู่สาธิตกับผู้ถูกเลือก มีนักเรียนคนไหนจะอาสาไหม?” ศาสตราจารย์เหยียนมองไปรอบๆห้อง   นักเรียนเกือบทุกคนยกมือขึ้นมาแทบจะพร้อมๆกัน ยกเว้นหานเซิ่นและอีก 3-4 คนที่ไม่ได้ยกมือ   ถังเตียงลิ่วนั้นสังเกตเห็นหานเซิ่นมาสักพักแล้ว และเมื่อเขาเห็นว่าหานเซิ่นนั้นไม่ได้ยกมือ เขาก็รู้สึกโล่งอกทันที เขารู้ดีว่าหานเซิ่นนั้นฝีมือไม่ธรรมดา เขากลัวว่าอาจจะต้องเสียหน้าได้ ถ้าต้องจับคู่กับหานเซิ่น   ในขณะที่ถังเตียงลิ่วกำลังโล่งอก อวี้ซื่อหมิงก็ถามขึ้นมาทันที “ศาสตราจารย์เหยียน ผมได้ยินมาว่าโรงเรียนเหยี่ยวดำมีนักเรียนที่ชื่อ โอวหยางเสี่ยวซาน ซึ่งเป็นระดับท็อปของการแข่งขันศิลปะการป้องกันตัวในกาแล็กซี่ลีกใช่รึเปล่า?”   “ใช่ แต่เสียใจด้วยเพราะเขาไม่ได้อยู่ในคาบเรียนนี้” ศาสตราจารย์เหยียนพูดอย่างสบายๆ “เธออยากลองเลือกคนอื่นๆด้วยตัวเองไหมล่ะ?”   อวี้ซือหมิงยิ้มและถามพวกนักเรียน “นอกจากโอวหยางเสี่ยวซานแล้ว ใครในที่นี้มีความสามารถด้านศิลปะการป้องกันตัวสูงที่สุด?”   นักเรียนทุกคนในห้องหันหน้าไปมองหานเซิ่นทันที แม้พวกเขาจะไม่เคยเห็นฝีมือด้านการต่อสู้ของหานเซิ่นมาก่อน แต่แค่ดูจากฝีมือการขับวอเฟรมของเขาแล้ว ฝีมือในการต่อสู้ของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่   อวี้ซือหมิงชะงักไปชั่วครู่ เขาไม่ได้คาดคิดว่านักเรียนทั้งชั้นจะเห็นเป็นเสียงเดียวกัน แต่อวี้ซื่อหมิงก็ไม่ได้คิดจริงจังกับหานเซิ่นนัก เพราะพวกนักเรียนโรงเรียนทหารก็อยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 กัน แต่ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือกก็ไม่มีอะไรที่อวี้ซือหมิงต้องกลัว เขาไม่คิดว่านักเรียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้   เมื่อถังเตียงลิ่วเห็นแววตาของอวี้ซือหมิง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอวี้ซือหมิงกำลังคิดจะทำอะไรโง่ๆ ถังเจียงหลิ่วรีบหันหน้าไปมองอวี้ซือหมิง และพยายามส่งซิกด้วยสายตา เพื่อห้ามอวี้ซื่อหมิง   แต่ดูเหมือนอวี้ซื่อหมิงจะไม่เข้าใจสิ่งที่ถังเตียงลิ่วพยายามสื่อ เขายิ้มให้หานเซิ่นและถาม “นายชื่ออะไร? นายยินดีจะมาจับคู่สาธิตมวยขาวและดำกับฉันไหม?”   หานเซิ่นรู้สึกหัวเสียเล็กน้อย เขาอุส่าไม่ยกมือแล้ว แต่ทำไมอวี้ซือหมิงจะต้องมาเลือกเขาอีก   “ลุยเลยหานเซิ่น” “นายมันสุดยอดอยู่แล้ว” …. คนอื่นๆในชั้นเรียนพยายามกระตุ้นหานเซิ่น พวกเขาอยากเห็นความสามารถในการต่อสู้ของหานเซิ่น   อวี้ซื่อหมิงรู้สึกดีใจมากที่เห็นหานเซิ่นฮอทในหมู่พวกนักเรียนมากกว่าที่เขาคิดไว้   ตอนแรกเขาคิดจะเลือกโอวหยางเสี่ยวซานออกมา เพื่อจะได้โชว์ฝีมือ และแสดงให้พวกนักเรียนถึงความห่างชั้นระหว่างนักเรียนโรงเรียนทหารกับผู้ถูกเลือก แต่ทว่าโอวหยางเสี่ยวซานไม่ได้อยู่ที่นี่   “ดูเหมือนว่าเพื่อนในชั้นเรียกจะอยากให้นายมาร่วมสาธิต โปรดลงมาเถอะ แค่ลงมาร่วมสนุกกันก็ได้ ไม่ต้องสนใจผลลัพธ์” อวี้ซื่อหมิงยิ้มให้หานเซิ่นและพูด   ‘ว้าว อวี้ซื่อหมิงกำลังหาเรื่องใส่ตัว’ ถังเจียงลิ่วยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่เคยเห็นใครที่พยายามเรียกร้องเพื่อหาเรื่องทำลายตัวเองแบบนี้มาก่อน     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 560 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 166 ผู้ชายที่โชคดี
Super God Gene – ตอนที่ 166 ผู้ชายที่โชคดี

“งั้นก็ลองพูดมา” หยางม่านลี่ต้องการฟังเงื่อนไขของหานเซิ่น   ถ้าทหารคนอื่นมีโอกาสได้ทดสอบสินค้าของดีกัง แม้ว่าจะไม่ได้ค่าตอบแทนสักดอลลาร์เดียว พวกเขาก็ยินดีทำ ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่กลุ่มดีกังเสนอให้หานเซิ่นเป็นค่าตอบแทน   ด้วยข้อเสนอระดับนี้ พวกเขาสามารถจ้างผู้วิวัฒนาการที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็ยังได้ ตอนนี้หานเซิ่นได้รับข้อเสนอที่ดีเยี่ยม ขณะที่เขายังเป็นนักเรียน แต่เขากับตั้งเงื่อนไขเพิ่ม   “ตอนนี้ผมมีวอเฟรมจากแล็บของดีกัง ซึ่งผมหวังว่าพวกเขาจะสามารถติดตั้งระบบอาวุธให้กับมัน และให้บริการซ่อมแซมตลอดอายุการใช้งานแบบฟรีๆ” หานเซิ่นรู้ว่าวอเฟรมของเขาเป็นรุ่นต้นแบบ แต่ด้วยมาตรฐานของกองทัพ พวกเขาต้องสามารถติดอาวุธให้มันได้อย่างแน่นอน   และวอเฟรมที่หานเซิ่นจะต้องไปทดสอบและเป็นพรีเซนเตอร์ให้นั้นเป็นรุ่นที่คนทั่วไปสามารถถือครองได้ ซึ่งคุณภาพจะด้อยกว่าSilver Killer   มีสิ่งเดียวที่หานเซิ่นรู้สึกว่าSilver Killerยังด้อย ก็คือไม่มีระบบอาวุธ การใช้อาวุธที่ติดตั้งเองนั้นไม่สะดวก และเขาก็ไม่ต้องการถืออาวุธเดินไปไหนมาไหนด้วย ซึ่งถ้าเป็นอาวุธที่ห้องแล็บผลิตSillver killerทำมาให้ มันน่าจะสามารถใส่เข้าไปในกระเป๋าพร้อมๆกับSilver Killerได้   เหตุผลสำคัญอีกอย่างก็คือถ้าเกิดSilver Killerเสียหาย พวกร้านซ่อมทั่วๆไปจะไม่สามารถซ่อมซุปเปอร์ไบโอนิเคิลวอเฟรมได้ ดังนั้นเขาต้องการบริการซ่อมแซมของดีกัง   “มีเงื่อนไขอื่นอีกไหม?” หยางม่านลี่ถามเหมือนกับหุ่นที่ถูกตั้งโปรแกรมมา   “ตอนนี้ยังไม่มี” หานเซิ่นยิ้ม   หยางม่านลี่ลุกขึ้นและพูด “ฉันรับรู้คำขอของนายแล้ว ฉันจะไปบอกหัวหน้าแล้วหัวหน้าจะเป็นคนไปต่อรองให้นายเอง นายกลับไปที่เหยี่ยวดำก่อน เดี๋ยวฉันติดต่อไปทีหลัง”   หลังจากพูดเสร็จหยางม่านลี่ก็เดินออกจากห้องไปทันที เธอไม่ต้องการอยู่กับคนแบบนี้นานๆ   “ในที่สุดผมก็รวยจริงๆสักที ค่าจ้างปีละ 20 ล้าน และวอเฟรมรุ่นใหม่ล่าสุด ถ้ากลุ่มดีกังรับเงื่อนไขของผมอีกล่ะก็ มันจะสมบูรณ์แบบมาก” หลังจากที่หยางม่านลี่ออกไปแล้ว หานเซิ่นพึมพำออกมาอย่างตื่นเต้น โดยปรกติหานเซิ่นจะไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอดีๆแบบนี้อยู่แล้ว ….   หลังจากกลับมาเหยี่ยวดำ สิ่งหนึ่งที่หานเซิ่นยังไม่รู้ก็คือตอนนี้จีเหยียนหรันนั้นกำลังเดือดปุดๆ หลังจากคืนนั้นเธอก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอไม่แน่ใจว่าต้องทำยังไงต่อไป เธอต้องกลายเป็นแฟนของหานเซิ่นจริงๆหรือไม่ เธอก็ต้องทำให้หานเซิ่นยอมตัดใจไป   แต่เธอจะทำยังไงให้เขายอมตัดใจ? เขาแสดงออกมาให้เห็นแล้วว่าเขาจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ   จีเหยียนหรันนอนคิดอยู่ตลอดทั้งคืนถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด และเธอยังคิดว่าหลังจากนี้ไป เธอต้องโดนหานเซิ่นตามติดตลอดเวลาแน่นอน แต่ทว่าหลังจากผ่านคืนนั้นไปเธอไม่กับเห็นเขาอีกเลย   ในวันแรกที่เธอไม่เห็นหานเซิ่น เธอก็เบ๊ะปากและคิด ‘ทำเป็นเล่นตัวหรอ? ฉันเคยเห็นลูกไม้แบบนี้มาเยอะแล้ว ฉันจะไม่สนใจนาย และรอดูว่านายจะทำหน้ายังไงในวันพรุ่งนี้’   แต่ในวันต่อมา จีเหยียนหรันก็ยังไม่เห็นหานเซิ่น ‘นายอดทนกว่าที่ฉันคิดนะ แต่ลูกไม้ของนายมันใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก’   ในวันที่ 3 หานเซิ่นก็ยังไม่โผล่หน้ามา จีเหยียนหรันเหมือนเริ่มจะหมดความอดทนนิดๆแล้ว ‘หรือว่าเขาจะประสบอุบัติเหตุ ถูกยานเหาะชน? หรือขาของเขาจะหัก?’ จีเหยียนหรันคิด   ในวันที่ 4 หานเซิ่นก็ยังไม่ปรากฏตัว ‘หมอนั่นต้องรู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรกับเราที่ทั้งอ่อนโยน น่ารัก สง่างามและเซ็กซีแน่ๆ นั่นจะต้องเป็นเหตุผลที่เขาไม่ยอมโผล่หน้ามาอีกเลยตั้งแต่คืนนั้น… แน่นอนมันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ’   ในวันที่ 5 6 7.. หลังจากวันที่ 10 เธอก็ยังไม่เห็นเขา และเธอก็หมดความอดทนเรียบร้อยแล้ว ‘ไอ้บ้าหานเซิ่น นายจะเอายังไงกับฉัน? จูบเสร็จแล้วหนีเลยงั้นหรอ? ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น’ จีเหยียนหรันโกรธจนควันออกหู   ในเวลานั้นเองที่ หานเซิ่นกลับมาที่โรงเรียน และยังไม่มีโอกาสไปพบเธอ “เซิ่น นายกลับมาได้เหมาะเจาะจริงๆ ไปกับฉันหน่อย ไปคาบเรียนของ ศาสตราจารย์เหยียนกัน” จางหยางเดินออกมาจากห้องพอดี และเห็นหานเซิ่น เขาก็ลากแขนของหานเซิ่น และเริ่มออกเดินทันที   “นายน่ะหรอจะไปคาบเรียนของศาสตราจารย์เหยียน?” หานเซิ่นทำหน้างง   จางหยางเป็นหนุ่มเลือดร้อน ปรกติเขาจะเป็นคนที่เรียนรู้ได้ไว แต่ถ้าต้องไปเรียนคาบที่มีแต่ทฤษฎีน่าเบื่อ เขาจะไม่สนใจ   วิชาที่ศาสตราจารย์เหยียนสอนคือวิชาทฤษฎีศิลปะการป้องกันตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาที่ทำให้จางหยางปวดหัว ศาสตราจารย์เป็นคนที่สอนแบบไร้อารมความรู้สึก ทำให้จางหยางโดดเรียนเป็นประจำ   แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเรียน ซึ่งมันทำให้หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ   “นายยังไม่รู้หรอ? วันนี้ศาสตราจารย์เหยียนเชิญ 2 ผู้ถูกเลือก อวี้ซือหมิงและถังเตียงลิ่วมาร่วมสาธิตการต่อสู้ในชั้นเรียน” จางหยางเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น   หานเซิ่นตระหนักทันทีว่าทำไมจางหยางถึงตื่นเต้นมากขนาดนี้ ถังเตียงลิ่วคือไอดอลของจางหยาง เพราะบนหัวนอนของจางหยางมีโปสเตอร์ของถังเตียงลิ่วติดอยู่   หน่วยที่จางหยางชอบนั้นไม่ใช่หน่วยธนู แต่เป็นศิลปะการป้องกันตัว แต่เพราะความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายของเขาไม่ถึงเกณฑ์ ทำให้เขาต้องสอบเข้าโดยใช้โควต้าพิเศษของหน่วยธนู   ในตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมจางหยางถึงต้องยอมเข้าหน่วยธนูที่เขาไม่ชอบ เนื่องจากถังเตียงลิ่วจะถูกเชิญมาสาธิตที่เหยี่ยวดำเป็นประจำทุกปี   หานเซิ่นถูกจางหยางพาไปชั้นเรียนด้วย และเขาก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าคาบเรียนที่ปรกติแทบจะไม่มีคนเข้าเรียน แต่วันนี้กับแน่นไปด้วยคนจำนวนมาก   ตอนนี้ไม่มีที่นั่งเหลืออยู่เลย แม้แต่ทางเดินก็เต็มไปด้วยผู้คน พวกนักเรียนหญิงกำลังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับอวี้ซื่อหมิงและถังเตียงลิ่ว   “หานเซิ่น นายก็มาดูอวี้ซื่อหมิงกับถังเตียงลิ่วเหมือนกันหรอ มาตรงนี้เลยมีที่นั่งอยู่” เมื่อนักเรียนคนหนึ่งเห็นหานเซิ่น เขาก็เสนอเก้าอี้ให้อย่างกระตือรือร้น     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 557 แล้วครับ