Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 161 สัตว์เลี้ยงวิวัฒนาการ
Super God Gene – ตอนที่ 161 สัตว์เลี้ยงวิวัฒนาการ

หลังกับไปที่ห้องในสตีลอาเมอร์ หานเซิ่นต้องผงะเมื่อพบกับเสือดำที่มีตา 3 ตา ขนาดใหญ่ และกรงเล็บของมันเหมือนกับเหล็กสีดำ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้านี่คือแมวเหมียวของเขา และเขาก็ยิ่งประหลาดใจกว่าเดิมเมื่อเช็คข้อมูลของมัน   ประเภทของวิญญาณอสูร แมว 3 ตาเลือดศักดิ์สิทธิ : สัตว์เลี้ยง (เปลี่ยนร่างและวิวัฒนาการ)   เป็นคำอธิบายที่เข้าใจง่าย แต่มันก็ยังช็อคสำหรับหานเซิ่น เพราะหลังจากที่มันกินเนื้อแฟนท่อมแอนท์ระดับกลายพันธ์เข้าไป มันก็น่าจะเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์เลี้ยงระดับกลายพันธ์ที่ต่อสู้ได้ นี่เป็นสิ่งที่หานเซิ่นคิดตอนแรก แต่หลังจากที่มันเปลี่ยนร่าง มันกับวิวัฒนาการขึ้นไปเป็นสัตว์เลี้ยงเลือดศักดิ์สิทธิ ซึ่งหานเซิ่นไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีแบบนี้ด้วย   หานเซิ่นเรียกมันกลับมาเป็นวิญญาณอสูรอีกครั้ง และเทเรพอร์ตกลับไปที่กาแล็กซี่ เขาต้องการหาข้อมูลในเน็ต “นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ผมอ่านข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมามาก แต่ไม่เคยเห็นมีใครบอกว่ามันวิวัฒนาการได้ด้วย”   หลังจากหาที่ข้อมูลอยู่นาน ในที่สุดเขาก็เจอข้อมูลที่น่าสนใจในฟอรั่มพอล่าไนท์   ชื่อไอดีของคนโพสต์คือ ‘สัตว์เลี้ยงคือชีวิต’ เขาเป็นคนที่คลั่งไคล้ในวิญญาณอสูรประเภทสัตว์เลี้ยง เพราะว่าวิญญาณอสูรประเภทสัตว์เลี้ยงนั้นหาค่อนข้างหายาก และยังดูแลได้ยาก ซึ่งคนส่วนมากจะไม่อยากเลี้ยงพวกมัน ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการวิวัฒนาการของสัตว์เลี้ยง   แต่’สัตว์เลี้ยงคือชีวิต’เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมานับ 1000 ตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และพวกมันเกือบทั้งหมดก็เปลี่ยนร่างแล้ว   ในบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเขา มีสัตว์เลี้ยงที่เป็นหมาตัวเล็กระดับสามัญ ซึ่งหลังจากที่เปลี่ยนร่าง มันได้วิวัฒนาการเป็นสัตว์เลี้ยงระดับโบราณ   ‘สัตว์เลี้ยงคือชีวิต’ได้โพสต์รูปของสัตว์เลี้ยงระดับโบราณลงในฟอรั่ม และยังบอกอีกว่าสัตว์เลี้ยงมีโอการวิวัฒนาการหลังจากที่เปลี่ยนร่างได้   ถึงแม้ว่าโพสต์นี้จะเป็นโพสต์ที่เก่า แต่ก็มีคนจำนวนมากเข้าแสดงความคิดเห็นในโพสต์ของเขา คนส่วนมากจะบอกว่า สัตว์เลี้ยงคือชีวิต นั้นแต่งเรื่องโกหก เพราะว่ามีคนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีกจำนวนหนึ่งยังไม่เคยเห็นมันวิวัฒนาการหลังจากเปลี่ยนร่างมาก่อน แต่ก็มีบางคนเหมือนกันที่บอกว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาวัฒนาการณ์   “สัตว์เลี้ยงวิวัฒนาการได้จริงๆ และดูเหมือนจะมีแค่วิญญาณอสูรประเภทสัตว์เลี้ยงเท่านั้นที่มีโอกาสวิวัฒนาการได้ ส่วนวิญญาณอสูรประเภทอื่นจะไม่สามารถวิวัฒนาการได้” หานเซิ่นรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่วิญญาณอสูรแมวเหมียวของเขาที่วัฒนาการณ์เท่านั้น แต่เขายังมีความหวังเต็มเปี่ยมกับวิญญาณอสูรร็อคเวิร์มเลือดศักดิ์สิทธิ   ถึงโอกาสวิวัฒนาการจะมีน้อย แต่มันก็ได้เกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของเขาครั้งหนึ่งแล้ว และจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าร็อคเวิร์มซึ่งเป็นเลือดศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ววิวัฒนาการไปอีก มันจะไปอยู่ที่ระดับไหน?   แต่หานเซิ่นก็รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่อให้คิดยังไงก็คิดไม่ตก นอกจากต้องลองด้วยตัวเอง เขาแค่โชคดีที่อสูรแมวเหมียววิวัฒนาการได้ แต่สำหรับร็อคเวิร์มมันคงไม่ง่าย ถึงความเป็นไปได้จะมีไม่มาก แต่หานเซิ่นก็ยังคงเลี้ยงดูร็อคเวิร์มต่อไป   เมื่อเห็นเจ้าเหมียวสามารถเปลี่ยนไปมา ระหว่างโหมดต่อสู้กับโหมดสัตว์เลี้ยงได้ตามที่หานเซิ่นต้องการ หานเซิ่นก็ยิ้มออกมา   เมื่อกลับมาที่สตีลอาเมอร์อีกครั้ง จุดหมายปลายทางของหานเซิ่นในครั้งนี้คือทะเลทรายปีศาจ เนื่องจากตอนที่ไปครั้งที่แล้ว เขาไม่สามารถล่าได้ตามที่ใจต้องการ เพราะเขาต้องคอยคุ้มกันหวังเหมียนเหมียน แต่ครั้งนี้หานเซิ่นตั้งใจไว้แล้วว่าเขาจะต้องล่าราชาจิ้งจอกเลือดศักดิ์สิทธิให้ได้ เขาจะจับมันทำบาร์บีคิวถ้าเขาเจอมันอีกครั้ง   หานเซิ่นสวมใส่ชุดเกราะด้วงทมิฬเลือดศักดิ์ในที่ลับตาคน และเรียกวิญญาณอสูรแมวเหมียวออกแล้วเปลี่ยนมันเป็นโหมดต่อสู้   ขนของมันเหมือนกับโลหะทังสเตน และขนาดของมันใหญ่กว่าเสือโคร่งถึง 2 เท่า หานเซิ่นขี่มันไปเหมือนกับสัตว์อสูรประเภทขี่ และเขาพบว่ามันวิ่งได้ไวกว่าวิญญาณวัว 3 ตากลายพันธ์ของเขาเสียอีก   และเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเห็นมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ เจ้าเหมียวจะวิ่งตรงเข้าไปสังหารมันทันที พวกมอนสเตอร์ระดับต่ำจะหลีกเลี่ยงที่จะเข้ามาใกล้เมื่อได้กลิ่นของมันเข้ามาใกล้ๆ   “ฮาฮา เลี้ยงมันมาตั้งนาน ตอนนี้มันช่างคุ้มค่าจริงๆ มันดีกว่าวิญญาณอสูรประเภทสัตว์ขี่มาก”   วิญญาณอสูรประเภทสัตว์ขี่จะไม่โจมตีมอนสเตอร์ตัวอื่นก่อน ถ้าคนเรียกยังไม่ออกคำสั่ง และความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันก็ไม่สามารถเทียบกันได้ ตอนนี้เจ้าเหมียวไม่ต่างจากเครื่องจักรสังหาร   มีข้อเสียอย่างเดียวคือเวลาที่มันวิ่ง มันเคลื่อนไหวรุนแรงเกิน ทำให้นั่งได้ไม่ค่อยสบายเหมือนกับวิญญาณอสูรสำหรับขี่ทั่วๆไป   ในการเดินทางมาที่ทะเลทรายปีศาจครั้งนี้ หานเซิ่นแทบจะไม่เจอมอนสเตอร์เข้ามาขวางทางเลย อาจจะเป็นเพราะว่าพวกมันกลัวเหมียว หานเซิ่นขี่มันมุ่งตรงไปทางที่เขาเคยพบกับราชาจิ้งจอกทันที   หานเซิ่นพบว่าตอนนี้ชีวิตของเขาสบายกว่าเดิมมาก หลังจากมีสัตว์เลี้ยงเลือดศักดิ์สิทธิ เขาไม่แม้แต่จะต้องกระดิกนิ้ว พวกมอนสเตอร์ธรรมดาๆ เหมียวสามารถฆ่ามันได้ทันทีด้วยการตะปบเพียงครั้งเดียว กรงเล็บที่แหลมคมของมันสามารถตัดกะโหลกหนาๆของพวกมอนสเตอร์ระดับต่ำได้อย่างสบาย   แมว 3 ตาเลือดศักดิ์สิทธิมีหน้าที่ไล่ฆ่าพวกมอนสเตอร์ ส่วนร็อคเวิร์มเลือดศักดิ์สิทธิมีหน้าที่กินอย่างเดียวเหมือนเครื่องกำจัดขยะ มันสามารถกินมากเท่าไหร่ก็ได้ และผลลัพธ์ที่ออกมาคือร็อคเวิร์มตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนจะไม่รวดเร็วเหมือนกับตอนที่มันกินเนื้อมอนสเตอร์ระดับกลายพันธ์   “งูทะเลทรายระดับโบราณถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรงูทะเลทรายโบราณ เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0-10 จีโนพ้อยโบราณ”   หานเซิ่นมองดูเหมียวฉีกงูทะเลทรายเป็นชิ้นๆ และได้ยินเสียงดังขึ้นมาในหัวของเขา   “ฮาฮา เยี่ยมจริงๆ นี่เป็นอะไรที่วิเศษที่สุด!” หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรงูทะเลทรายระดับโบราณออกมา และพบว่ามันเป็นอาวุธประเภทหอก   ตั้งแต่ใช้ชีวิตอยู่ในก็อตแซงชัวรี่มา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาล่าแล้วรู้สึกสนุกที่สุด เจ้าเหมียวมีหน้าที่ล่า และร็อคเวิร์มมีหน้าที่กำจัดซากมอนสเตอร์ ส่วนเขาแค่นั่งอยู่อย่างเดียว   หานเซิ่นรู้สึกผิดหวังที่ไม่เห็นพวกจิ้งจอกทะเลทรายแม้แต่ระดับกลายพันธ์ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชาจิ้งจอกเลย   “แปลก… หรือว่ามีใครมาฆ่าพวกจิ้งจอกไปหมดแล้ว?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 542 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 160 ทำตามสัญญา
Super God Gene – ตอนที่ 160 ทำตามสัญญา

จีเหยียนหรันก้มหน้าลงและกัดริมฝีปาก ตอนนี้มีความรู้สึกหลายๆอย่างในหัวของเธอ เธอไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้จะต้องมารู้สึกแบบนี้   “พี่สาว หวังว่าคุณจะทำตามสัญญานะ” หานเซิ่นยื่นหน้าออกไปอีกครั้ง   “นายอย่าหวังว่าจะให้ฉันทำในที่สาธารณะแบบนี้” ตอนนี้จีเหยียนหรันดูเหมือนคนเมาเพราะแก้มของเธอนั้นแดงมาก   หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวๆ ตาของเขาเบิกกว้างและพูด “เธอต้องการทำในห้องงั้นหรอ?”   “หุบปาก!” จีเหยียนหรันขว้างแก้วน้ำใส่หานเซิ่นและเดินหนีไป   หานเซิ่นรีบตามเธอไปอย่างรวดเร็ว เขาเดินเข้าไปข้างๆเธอ และเอาแขนของเขาไปคล้องกับแขนของเธอ   “อะไรอีก?” จีเหยียนหรันหันไปมองและตะคอกใส่เขา   “คนเป็นแฟนกัน เขาก็ต้องเดินไปด้วยกันแบบนี้” หานเซิ่นจับมือของจีเหยียนหรัน   แก้มของจีเหยียนหรันแดงยิ่งกว่าเดิม แต่เธอก็ไม่ได้ดึงมือของเธอกลับไปแต่อย่างใด “นายนี่ไม่รู้สึกอายมั้งหรือไง!”   “แม่ของผมบอกว่าผู้ชายยิ่งหน้าด้านเท่าไหร่ผู้หญิงยิ่งชอบ” หานเซิ่นพูดออกไปอย่างไม่อายใคร   เหมือนจีเหยียนหรันพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเธอเห็นกลุ่มนักเรียนเดินตรงมาทางนี้ เธอรีบเอาฮูดของเธอมาคลุมหัวเหมือนกับแมวตกใจ เธอกำลังบีบแขนของหานเซิ่นแน่น และใช้แขนของหานเซิ่นบังหน้าของเธอไว้   แม้ว่าจีเหยียนหรันจะซ่อนตัว แต่พวกนักเรียนก็ยังเดินตรงเข้ามาหาหานเซิ่น “หานเซิ่นนี่น่า คุณคือหานเซิ่นใช่ไหม?” “คุณเป็นไอดอลของผมเลย” “การแข่งของนายสุดยอดมาก ฝีมือนายเจ๊งๆจริงๆ!” …   พวกเด็กปี 1 เข้ามาพูดคุยกับหานเซิ่นอย่างตื่นเต้น ตอนนี้หานเซิ่นกลายเป็นคนมีชื่อเสียงในเหยี่ยวดำไปเรียบร้อยแล้ว   “คนนี้คือแฟนของคุณหรอ?” พวกเขาพูดพร้อมกับมองผู้หญิงที่ซ่อนอยู่ข้างๆหานเซิ่น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะจำจีเหยียนหรันไม่ได้ เพราะเธอเอาฮูดขึ้นมาบังหน้าไว้   ตอนนี้จีเหยียนหรันอยากจะมุดดินหนีไปให้พ้นๆ แต่เธอไม่สามารถหนีไปจากสถานการณ์แบบนี้ได้   “ใช่ เธอเป็นแฟนของผมเอง เธอเป็นคนขี้อายและไม่ค่อยพูด” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   “เป็นสาวเงียบสินะ ท่าทางไม่เลวนะ…” พวกนักเรียนยังคงพูดคุยกับหานเซิ่น และหานเซิ่นเองก็มีความสุขมากที่ได้พูดคุยกับพวกเขา   ในเวลานี้ จีเหยียนหรันจับแขนของเขาแน่น ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลซึ่งกำลังสัมผัสแขนของเขา ซึ่งเขามีความสุขกับมันมาก เขาหวังว่าจะได้ยืนคุยแบบนี้ไปอีกนานๆ   แต่ดูเหมือนว่าพวกนักเรียนกลัวว่าจะไปรบกวนพวกเขา หลังจากคุยกันต่อได้อีกสักพัก พวกเขาก็ขอตัวไปก่อน   “นายจงใจคุยนานๆใช่ไหม” จีเหยียนหรันหยิกเอวของหานเซิ่นหลังจากที่พวกนักเรียนไปกันหมดแล้ว   “นั่นก็ผิดด้วยหรอ?” หานเซิ่นถาม จีเหยียนหรันหมดคำพูด หานเซิ่นจับมือของเธอและเดินต่อไป   เนื่องจากมันดึกมาแล้ว เขาจึงพาจีเหยียนหรันไปส่งที่หอพัก “พี่สาว คุณคงจะไม่กลับไปแบบนี้ใช่ไหม? คุณยังไม่ได้ทำตามสัญญาเลย” หานเซิ่นพูดอย่างขมขื่น   จีเหยียนหรันยื่นมือออกไป “ส่งสัญญามาให้ฉัน”   หานเซิ่นส่งใบสัญญาคืนให้เธอแต่โดยดี เธอเอาสัญญากลับไปและพูดด้วยหน้าแดงๆ “หลับตาก่อนสิ” หานเซิ่นทำตามที่เธอบอก   จีเหยียนหรันสูดลมหายใจเข้าลึก เธอพยายามต่อสู้กับความต้องการที่จะหนีไปให้พ้นของเธอ หัวใจของเธอเต้นรัวๆ เธอยืนเขย่งเท้า และยื่นหน้าไปหาหานเซิ่น ริมฝีปากสีชมพูอันอ่อนละมุ่นของเธอจูบไปที่ปากของหานเซิ่นเบาๆ หลังจากจูบหานเซิ่นเสร็จเธอก็ต้องการจะถอยออกทันที   แต่มันสายเกินไปเสียแล้ว ก่อนที่เธอจะเอาริมปากออก มือของหานเซิ่นก็โอบไปที่เอวของเธอ และมือของเขาอีกข้างก็จับไปที่คอของเธอ   ตอนนี้จีเหยียนหรันอยู่ในอ้อมแขนของหานเซิ่น และปากของเธอก็ประกบกับปากของหานเซิ่นอยู่   ร่างกายของเธอเกร็งในตอนแรกและเริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ มือของเธอจับไปที่เสื้อของหานเซิ่น เธอถอยหลังไปอย่างควบคุมไม่ได้ เนื่องจากขาของเธออ่อนแรงลง   หานเซิ่นกำลังมีประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิต และเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เขายังคงกอดเธอแน่นและดันเธอไปชิดกับผนังตึก   พวกเขากำลังลิ้มรสจูบแรกของพวกเขา แต่ความสุขของพวกเขาก็โดนขัดจังหวะด้วยของผู้หญิงคนหนึ่ง “นี่พวกคุณ อย่างน้อยก็น่าจะเข้าห้องไปให้เรียบร้อยก่อนที่พวกคุณจะต่อกันมากกว่านี้”   เมื่อจีเหยียนหรันได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนี้ เธอก็ตกใจกลัวขึ้นมาทันที เพราะมันคือเสียงของฉวี้ลี่ลี่ ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเธอและก็เป็นรูทเมทของเธอด้วย   ความรู้สึกแรกของเธอคือต้องผลักหานเซิ่นออกไปก่อน แต่ว่าเธอทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะหานเซิ่นกำลังยืนบังตัวของเธออยู่   จีเหยียนหรันรีบเอาหน้าเข้าไปชุกที่อกของหานเซิ่นทันที ใบหน้าของเธอร้อนเหมือนกับถูกไฟเผา เธอได้แต่ด่าหานเซิ่นในใจที่ทำให้เธอต้องมาอยู่ในสภาพที่น่าอายแบบนี้   “พี่สาว ทำไมยังไม่ไปนอนอีกนี่มันก็ดึกมากแล้วนะ? อยากจะมาร่วมวงกับพวกเราด้วยหรอ?” หานเซิ่นรู้ว่าจีเหยียนหรันกำลังอาย เขาพยายามยืนบังเธออยู่เพื่อไม่ให้ฉวี้ลี่ลี่นั้นมองเห็น   “ทุเรศที่สุด!” ฉวี้ลี่ลี่กระทืบเท้าลงบนพื้น และรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องของเธอ   หลังจากที่ฉวี้ลี่ลี่ไปแล้ว จีเหยียนหรันก็ใช้ส้นเท้าของเธอกระทืบไปที่เท้าของหานเซิ่นอย่างแรง และเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในหอพักทันที ปล่อยให้หานเซิ่นเอามือจับที่เท้าของเขา   จีเหยียนหรันไม่กล้ากลับไปที่ห้องตอนนี้ เธอเข้าไปซ่อนตัวในห้องน้ำอยู่นาน ก่อนจะกลับไปที่ห้อง และทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   เมื่อเห็นจีเหยียนหรันกลับมา ฉวี้ลี่ลี่ก็พูด “เหยียนหรัน เธอเห็นคู่รักหน้าไม่อายที่ชั้นล่างไหม?”   “คู่รักไหน?” จีเหยียนหรันแกล้งทำเป็นจัดที่นอนและหันหลังให้ฉวี้ลี่ลี่ เพื่อซ่อนหน้าที่กำลังแดงของเธอ   “คู่รักนั่นกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ข้างล่างตึกของเราเนี่ยแหละ โอ้พระเจ้า พวกเขาหน้าด้านที่สุด โดยเฉพาะเจ้าหนุ่มนั่น เขาบอกว่า… ช่างเถอะ ฉันไม่สามารถพูดมันอีกรอบได้!” ฉวี้หลี่หลี่พูด   จีเหยียนหรันอยากจะมุดดินหนี เธอรู้สึกอายมาก แต่เธอต้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 539 แล้วครับ