Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 143 ใต้แก้วใบนี้ไม่มีอะไรอยู่
Super God Gene – ตอนที่ 143 ใต้แก้วใบนี้ไม่มีอะไรอยู่

จีเหยียนหรันกำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งสตาร์รี่คัพที่กำลังจะมาถึง เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวันเพื่อฝึกซ้อม เธอไม่ได้หวังว่าจะเจอหานเซิ่นที่นี่อีกครั้ง   เธอมองมาที่หานเซิ่นแต่ไม่ได้พูดอะไร เนื่องจากเขาไม่ได้ไปตามนัด นั่นหมายความว่าเขายอมรับแล้วว่าเขาโกงจริง ทำให้เธอไม่ต้องการพูดกับเขาอีก   หานเซิ่นนั่งตรงข้ามกับเธอและพูด “ขอโทษที่ผมไม่ได้ไปตามนัด พอดีมีธุระด่วนเข้ามา และคุณก็ไม่ได้ให้เบอร์ผมไว้ ผมเลยไม่รู้จะบอกยังไง”   “ทำไมนายชอบมีข้ออ้างเยอะ?” จีเหยียนหรันถาม   หานเซิ่นรู้ว่ามันยากที่จะอธิบาย และเขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เขาจึงตัดสินใจไม่อธิบายไปน่าจะดีกว่า   “พวกเราแข่งกันพรุ่งนี้แทนไหม?” หานเซิ่นคิดอยู่สักพัก และตัดสินใจจะขอพิสูจน์ตัวเอง   “ลืมมันไปดีกว่า ฉันไม่อยากเล่นกับนายอีกแล้ว” จีเหยียนตัดสินไปแล้วว่าหานเซิ่นเป็นพวกขี้โกง ซึ่งเธอจะไม่สนใจเขาอีก   เมื่อหานเซิ่นต้องการจะอธิบายก็มีเด็กหนุ่มกลุ่มเดินเข้ามา หนึ่งในพวกเขาถามจีเหยียนหรัน “เหยียนหรัน เขาเป็นใคร?”   “เด็กปี 1 ฉันไม่รู้จักชื่อเขาหรอก” จีเหยียนหรันไม่อยากพูดเรื่องหานเซิ่นให้หลี่ยู่เฟิงฟัง เพราะกลัวว่าหลี่ยู่เฟิงอาจจะไปหาเรื่องเขา   หลี่ยู่เฟิงพยักหน้าและถามหานเซิ่น “นายอยู่หน่วยไหน?”   “ธนู” หานเซิ่นตอบ   ชายตัวผอมอีกคนนั่งลงข้างๆหานเซิ่น เขาเอามือจับไปที่ไหล่ของหานเซิ่นและพูด “น้องชาย ถ้าต้องการหาแฟน นายต้องฉลาดกว่านี้หน่อย ตอนนี้เธอเป็นประธานของพวกเรา นายกล้าดียังไง?”   “ทุกคนสามารถไล่ตามผู้หญิงที่ตัวเองชอบได้ แล้วทำไมผมจะทำไม่ได้?” หานเซิ่นตอบด้วยท่าทางที่ดูใสซื่อ   ชายตัวผอมยิ้ม เขาวางกระดาษที่ถูกปั้นเป็นลูกกลมๆลงบนโต๊ะ และใช้แก้วครอบมันไว้   เขาเอาแก้วมาเพิ่มอีก 2 ใบ และวางมันข้างๆแก้วที่ครอบก้อนกระดาษไว้ จากนั้นเขาก็เคลื่อนขยับแก้วทั้ง 3 สลับไปมาอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้สึกลายตามาก   ชายผอมยิ้ม และพูดกับหานเซิ่น “ถ้านายสามารถบอกได้ว่าก้อนกระดาษอยู่ในแก้วไหนก็แล้วไป แต่ถ้านายเลือกผิด ก็อย่าโผล่หน้ามาให้ประธานของเราเห็นหน้าอีก ไม่งั้นนายเจอดีแน่”   จีเหยียนหรันไม่ได้หยุดชายผอม เพราะเธอเองก็อยากรู้ว่าหานเซิ่นจะตอบยังไง ความเร็วของชายผอมคนนี้ติด 1 ใน 3 ของชมรมหัตถ์พระเจ้า   หานเซิ่นมองไปที่ชายผอม และวางมือลงบนแก้วใบหนึ่งพร้อมกับยิ้ม ชายผอมเองก็ยิ้มเช่นเดียวกันเมื่อเห็นหานเซิ่นวางมือบนแก้วใบนั้น   หานเซิ่นยิ้มและพูด “ไม่มีอะไรในแก้วใบนี้” หานเซิ่นยกแก้วขึ้น และก็ไม่มีอะไรอยู่ใต้แก้วใบนั้นจริงๆ   หานเซิ่นวางมือลงบนแก้วใบถัดไปและพูด “แก้วนี้ก็ไม่มีอะไร” หานเซิ่นยกแก้วอีกใบขึ้น และมันก็ไม่มีอะไรอยู่ข้างในจริงๆ   จากนั้นเขาก็วางมือลงบนแก้วใบสุดท้ายที่เหลืออยู่ พร้อมกับยิ้ม “ผมคงไม่ต้องพูดอะไรสำหรับแก้วใบนี้”   ชายผอมและคนอื่นๆรู้สึกอับอาย แม้แต่จีเหยียนหรันเองก็ไม่คาดคิดว่าหานเซิ่นจะทายถูก “วันนี้นายโชคดีไป อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก” ชายตัวผอมพูด   “นายจะจบง่ายๆแบบนี้หรอ?” หานเซิ่นมองไปที่ชายตัวผอม ตอนนี้หานเซิ่นไม่ใช่คนที่จะยอมให้คนอื่นมารังแกอยู่ฝ่ายเดียว   “นายต้องการอะไร?” ชายตัวผอมมองมาที่หานเซิ่น   หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาวางแก้ว 3 ใบลงข้างหน้าเขา และเขาก็ใส่ก้อนกระดาษเข้าไปใต้แก้วใบหนึ่งเหมือนกับที่ชายตัวผอมทำ จากนั้นเขาก็เริ่มเคลื่อนแก้วสลับไปมา แต่การเคลื่อนเเก้วของเขาดูไม่ค่อยรวดเร็วสักเท่าไหร่   จีเหยียนหรัน หลี่ยู่เฟิงและชายตัวผอม มองเห็นการเคลื่อนไหวของแก้วออกทั้งหมด พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นเหมือนกำลังสอนปลาให้ว่ายน้ำ   ความเร็วของเขาน้อยกว่าชายตัวผอมมาก คนอื่นๆเริ่มมองเขาด้วยสายตาดูถูก   หานเซิ่นทำเป็นไม่สนใจ และยังคงเคลื่อนแก้วต่อไป เขามองไปที่คนอื่นๆและพูด “เหมือนกับที่นายพูด ถ้านายเลือกถูก อยากจะทำอะไรก็เชิญตามสบาย แต่ถ้าเลือกไม่ถูกก็ออกไปห่างๆจีเหยียนหรันซะ”   ชายตัวผอมหัวเราะออกมา เขายื่นมือออกไปเพื่อจะยกแก้วขึ้นและพูด “ดูเหมือนนายจะไม่รู้ขีดจำกัดของตัวเอง”   หานเซิ่นปัดมือของเขาออกไป เขาจ้องมาที่หานเซิ่นด้วยความโกรธ “นายจะทำอะไร?”   หานเซิ่นหันไปมองคนอื่นๆ และพูด “พวกนายแน่ใจนะว่าจะให้หมอนี่เป็นตัวแทนของพวกนาย? ถ้าไม่แน่ใจก็ส่งคนที่พอจะเป็นตัวแทนได้ออกมา”   ชายตัวผอมหันไปมองหลี่ยู่เฟิง ถึงเขาจะมั่นใจมากว่ามันอยู่ในแก้วใบนั้น แต่เขาไม่รู้ว่าหลี่ยู่เฟิงจะยอมให้เขาเป็นตัวแทนรึเปล่า   “ยกมันขึ้นมา” หลี่ยู่เฟิงพูดอย่างมั่นใจ   เมื่อได้ยินหลี่ยู่เฟิงพูด ชายตัวผอมก็มั่นใจมากขึ้น เขาพูดกับหานเซิ่น “เด็กน้อย ฉันจะแสดงให้ดูว่าใครคือของจริง มันอยู่ใต้แก้วนี้”   ชายตัวผอมยกแก้วที่อยู่ตรงกลางขึ้นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่หลังจากที่เขายกแก้วขึ้นมา ทุกคนก็ต้องตกตะลึง เพราะไม่มีอะไรอยู่ใต้แก้วใบนั้น   “เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นไปไม่ได้!” ชายตัวผอมเบิกตากว้าง และมองเข้าไปในแก้ว แต่มันก็ไม่มีอะไรอยู่ข้างใน   จีเหยียนหรันเองก็ตกตะลึง เธอมั่นใจมากว่ามันอยู่ในแก้วใบนั้น มันหายไปได้ยังไง?   “ฉันจะให้โอกาสนายเลือกอีกครั้ง” หานเซิ่นชี้นิ่วไปยังแก้วที่เหลือบนโต๊ะ และพูดกับหลี่ยู่เฟิง   หลี่ยู่เฟิงยิ้มและยื่นมือไปวางบนแก้วใบหนึ่ง “แก้วนี้ไม่มีอะไรอยู่” หลี่ยู่เฟิงเรียนรู้วิธีของหานเซิ่น เนื่องจากก้อนกระดาษไม่ได้อยู่ในแก้วที่ควรจะอยู่ ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะอยู่ในแก้วใบไหนเลย เขาคิดว่าหานเซิ่นต้องใช้ทริคบางอย่าง เพื่อซ่อนมันไว้อย่างแน่นอน ดังนั้น 2 แก้วใบนี้ต้องว่างเปล่าอย่างแน่นอน   แต่เมื่อหลี่ยู่เฟิงยกแก้วขึ้น เขาก็ต้องช็อค เพราะก้อนกระดาษมันอยู่ใต้แก้วใบนั้น   ชายตัวผอมและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง ถ้าหานเซิ่นเพียงแค่ซ่อนมันไว้พวกเขาจะไม่แปลกใจ แต่นี่มันกลับมาอยู่ในแก้วที่พวงเขาไม่คาดคิด ซึ่งมันทำให้ทุกคนตกตะลึง   จีเหยียนหรันมองหานเซิ่นด้วยความประหลาดใจ เธอไม่รู้ว่าเขาทำได้ยังไง     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 490 เเล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 142 คำชวนจากหลัวเซียงหยาง
Super God Gene – ตอนที่ 142 คำชวนจากหลัวเซียงหยาง

เดิมทีหลัวเซียงหยางต้องการไปโน้มน้าวหานเซิ่นให้มาเข้าชมรมวอเฟรม แต่เขายังไม่มีโอกาสไปหาหานเซิ่น เพราะติดงานหลายอย่าง เมื่อเขาเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จ เขาก็ไปที่ชมรมวอเฟรมหนักในทันที   ตอนที่หลัวเซียงหยางมาถึงชมรมวอเฟรมหนัก พวกเขาพึ่งตัดสินใจลงสมัครแข่งขันทุกรายการ   “หานเซิ่น” หลัวเซียงหยางเดินเข้ามาในชมรมและเรียก   “รุ่นพี่ ทำไมพึ่งมา?” หานเซิ่นรุกขึ้น และทักทายหลัวเซียงหยาง   “เขาเป็นใครหรอ?” หลี่เจินเจินทำหน้างงและถาม คนอื่นๆเองก็มองที่หานเซิ่นเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่รู้จักหลัวเซียงหยาง   แต่ทว่าประธานอ้วนและลิงผอมรู้สึกประหลาดใจ พวกเขารู้จักหลัวเซียงหยางดีว่าเป็นโค้ชของชมรมวอเฟรม แต่เรื่องที่เขาไม่เข้าใจก็คือที่หานเซิ่นเรียกเขาว่ารุ่นพี่   “อ่าว เขาไม่ใช่สมาชิกชมรมเราหรอ?” หานเซิ่นเองก็เริ่มจะงงๆเช่นกัน เขาเองก็ลืมถามคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปเลย แต่เขาก็ยังคิดว่าหลัวเซียงหยางเป็นนักเรียนเหมือนกัน   เมื่อได้ยินคำพูดของหานเซิ่น ประธานอ้วนกับลิงผอมก็เกือบจะหัวเราะออกมา หลัวเซียงหยางเป็นโค้ชของชมรมวอเฟรมแล้วเขาจะเป็นนักเรียนได้ยังไง?   หลัวเซียงหยางยิ้ม และจับไปที่ไหล่ของหานเซิ่น “หานเซิ่น ทักษะการใช้วอเฟรมของเธอไม่ธรรมดาเลย เธอสนใจมาเข้าชมรมวอเฟรมไหม? โอ้ลืมไป ฉันลืมแนะนำตัว ฉันหลัวเซียงหยางเป็นโค้ชของชมรมวอเฟรม ถ้าเธอมาเข้าชมรมฉัน ฉันให้สัญญาเลยว่าเธอจะได้รับการฝึกสอนอย่างดีที่สุด และเธอจะได้ใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุดของโรงเรียนในการฝึกซ้อม ซึ่งฉันจะแนะนำเธอเอง”   คำพูดของหลัวเซียงหยางทำให้คนอื่นๆนอกจากหวังเหมียนเหมียนช็อค พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าโค้ชของชมรมวอเฟรมจะมาชักชวนหานเซิ่นเป็นการส่วนตัวขนาดนี้   ชมรมวอเฟรมและชมรมศิลปะป้องกันตัว เป็น 2 ชมรมที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียน ในแต่ละปีมีนักเรียนที่มีพรสวรรค์จำนวนมากเข้าร่วมชมรมของพวกเขา ซึ่งพวกเขาไม่จำเป็นต้องหาสมาชิกเพิ่มเลย เพราะมีนักเรียนจำนวนมากแห่ไปสมัคร และคนที่จะเข้าชมรมได้ก็ต้องผ่านการคัดเลือกเท่านั้น   ทั้ง 2 ชมรมกวาดนักเรียนที่มีพรสวรรค์ในโรงเรียนไปเกิน 60% ซึ่งแตกต่างจากชมรมวอเฟรมหนักที่หาคนยังแทบไม่ได้ราวฟ้ากับดิน   การที่โค้ชของชมรมใหญ่มาชวนคนในชมรมวอเฟรมหนัก และยังให้สัญญาแบบนั้น ซึ่งเป็นอะไรที่ช็อคมาก   ประธานอ้วนกับลิงผอมอ้าปากค้าง พวกเขาคุ้นเคยกับหลัวเซียงหยางดี เหตุผลที่พวกเขามาอยู่ชมรมนี้ก็เพราะพวกเขาไม่สามารถเข้าชมรมวอเฟรมได้   พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างหลัวเซียงหยางจะมาชวนใครด้วยตัวเอง แถมยังมาชวนถึงชมรมวอเฟรมหนัก   “ผมต้องขอโทษด้วยครับ โค้ชหลัว ผมเข้าร่วมชมรมวอเฟรมหนักก่อนแล้ว” หานเซิ่นปฏิเสธ   มี 2 เหตุผลที่หานเซิ่นปฏิเสธหลัวเซียงหยาง เหตุผลแรก เขาทำตามที่หวังเหมียนเหมียนขอ เหตุผลที่ 2 คือ เขามีอิสระอย่างมากเมื่ออยู่ที่นี่ เขาสามารถไปไหนมาไหนก็ได้ ไม่มีใครว่า ทำให้เขาสามารถเข้าไปทำงานในก็อตแซงชัวงรี่ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยชอบ ถ้าเกิดจะต้องถูกคุมเข้มให้ฝึกวอเฟรมทุกๆวันด้วย   หลัวเซียงหยางยังไม่ยอมแพ้ เขาพยายามโน้มน้าวต่อ “พรสวรรค์และความสามารถของเธอมันคงจะต้องสูญเปล่า ถ้ายังอยู่ที่นี่ ขอให้ฉันได้มีเวลาฝึกเธอสัก 2 ปี และฉันจะสามารถพาเธอขึ้นไปถึงระดับ 1-3 ในของกาแล็กซี่ได้ แม้แต่แชมป์ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”   คนอื่นๆที่เหลือต่างก็ตกตะลึงกับคำพูดของหลัวเซียงหยาง พวกเขายังไม่เคยเห็นหานเซิ่นแสดงฝีมืออะไรเลย แต่หลัวเซียงหยางกับพูดถึงขนาดนั้น   “ขอโทษครับโค้ชหลัว ผมรับคำชวนไม่ได้จริงๆ” หานเซิ่นปฏิเสธอีกครั้ง   “ยังไม่ต้องรีบปฏิเสธ คิดเกี่ยวกับมันให้รอบคอบ ถ้าเธอเป็นแชมป์ในระหว่างที่เธอเรียนอยู่ละก็ คะแนนสอบปลายภาคของเธอจะสูงขึ้นมาก” หลัวเซียงหยางพูดเสริม “ฉันจะพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยให้คะแนนของเธอดีขึ้น ถ้าเธอคิดได้แล้วก็ไปหาฉันที่ชมรมวอเฟรมได้ทุกเมื่อ ฉันยินดีตอนรับเธอเสมอ”   หลังจากหลัวเซียงหยางออกไป คนอื่นๆที่เหลือก็จ้องมาที่หานเซิ่น “โค้ชหลัวเสนอเงื่อนไขพิเศษให้ถึงขนาดนั้น แต่นายกลับปฏิเสธจริงๆหรอเนี่ย?” ประธานอ้วนไม่อยากจะเชื่อ เขาถามหานเซิ่น “นายไม่รู้หรอว่าคะแนนสอบปลายภาคสูงๆจะมีผลยังไง?”   “แน่นอน ผมรู้อยู่แล้ว” หานเซิ่นตอบพร้อมกับยิ้ม ถ้าคะแนนสอบปลายภาคสูงๆ ตอนเรียนจบก็จะได้ตำแหน่งสูงๆในกองทัพ ซึ่งเรื่องไปรบแนวหน้าลืมไปได้เลย   “แต่คุณกลับปฏิเสธงั้นหรอ?” หลี่เจินเจินพูด เธอเองก็ไม่อยากเชื่อ   “ถ้าผมต้องการผลประโยชน์แบบนั้นผมคงไม่เข้าชมรมนี้แต่แรกแล้ว” หานเซิ่นยักไหล่   จุดประสงค์หลักของหานเซิ่นยังคงเป็นการวิวัฒนาการอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงเขาสนใจการปฏิบัติการวอเฟรมมากก็จริง แต่มันก็เป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น เขาจะไม่เอาทุกอย่างไปฝากไว้กับมัน   ถ้าเขากลายเป็นผู้วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิได้ มันจะมีประโยชน์กว่าการที่เขาได้คะแนนสอบระดับ s มาก   ยิ่งกว่านั้น หานเซิ่นก็มั่นใจว่าจะได้ระดับ s อยู่แล้ว ถึงจะไม่มีคะแนนพิเศษช่วยเลยก็ตาม   คนอื่นๆมองหานเซิ่นเหมือนกับพวกเขาเห็นเอเลี่ยน ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะยอมทิ้งโอกาสดีๆแบบนั้น   แต่ดูเหมือนรูทเมทของเขาจะไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก ด้วยฝีมือหัตถ์พระเจ้าของหานเซิ่น ซึ่งสามารถชนะหลี่ยู่เฟิงได้ 20 คะแนน ถ้าเขาอยากจะได้คะแนนพิเศษจริงๆ เขาคงไปเข้าชมรมหัตถ์พระเจ้านานแล้ว เขาคงไม่ต้องรอให้หลัวเซียงหยางมาชวน?   “ฉันก็บอกแล้วไงว่าพวกเราจะชนะในการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง ถ้าเรามีพี่หาน ก็ไม่มีใครเชื่อ” หวังเหมียนเหมียนพูดอย่างภูมิใจ   ประธานอ้วนเริ่มคิดเกี่ยวกับสตาร์รี่คัพ เขาเริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันที ด้วยการมีหานเซิ่น ซึ่งเป็นคนที่หลัวเซียงหยางลงทุนมาชวนด้วยตัวเอง บางทีชมรมวอเฟรมหนักอาจจะติดอันดับ 1 ใน 3 สักรายการหนึ่งก็ได้   แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ถ้าเกิดได้ที่ 3 สักหนึ่งรายการก็ถือว่าสร้างชื่อให้ชมรมได้มากแล้ว   แต่ดูจากที่เขาคิด เห็นได้ชัดว่าเขายังประเมินหานเซิ่นต่ำเกินไป ถ้าเขารู้เรื่องที่หานเซิ่นสู้กับหลัวเซียงหยางได้เป็นชั่วโมงละก็ เขาคงจะตั้งเป้าหมายสูงกว่านี้แน่นอน   หานเซิ่นออกจากโรงฝึกเป็นคนสุดท้ายอีกตามเคย เขาเดินไปที่ร้านอาหารเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน และพบว่าน้ำผลไม้หมดแล้ว แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาได้มีโอกาสเจอจีเหยียนหรัน ซึ่งกำลังนั่งทานอาหารของเธออยู่     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 487 เเล้วครับ