Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 141 ลงเเข่ง
Super God Gene – ตอนที่ 141 ลงเเข่ง

‘ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนแบบนั้นจะเข้าเหยี่ยวดำได้ เหยี่ยวดำลดมาตรฐานลงงั้นหรอ?’ จีเหยียนหรันคิดขณะเดิน เธอไม่ได้เชื่อมโยงหานเซิ่นกับแฟนผมคือ-จีเหยียนหรันเลย   ในความคิดจีเหยียนหรัน หานเซิ่นเป็นแค่พวกหลอกลวง และไม่มีทางเป็นยอดฝีมือได้   ไม่นานจีเหยียนหรันก็เห็นหานเซิ่นเดินตามมา เธอหันกลับไปขมวดคิ้วให้เขา “นายต้องการอะไร?”   “ผมจะกลับหอพัก เธอคิดว่าผมเดินตามงั้นหรอ?” หานเซิ่นพูด   “นายอยู่หน่วยไหน? และหอพักของนายอยู่ไหน?” จีเหยียนหรันไม่เชื่อหานเซิ่น   “หน่วยธนู ตึก e10 ห้อง 304” หานเซิ่นยิ้มให้เธอ   จีเหยียนหรันชะงักไปชั่วครู่ หอพักของหานเซิ่นนั้นอยู่ทางนี้จริงๆ และตึกที่หานเซิ่นอยู่ก็อยู่ใกล้ๆตึกของเธอ   “หน่วยธนู.. อย่างนี้นี่เอง ถึงว่าทำไมนายถึงเข้าเหยี่ยวดำได้ โกงในเกมไม่พอ ยังมาโกงในการสอบอีก” จีเหยียนหรันพูด   “ทำไมเธอปฏิบัติกับแฟนของเธอแบบนี้?” หานเซิ่นถาม   “เก็บคำพูดของนายไว้เถอะ ถ้านายยังชนะฉันไม่ได้” จีเหยียนหรันพูด   “เรื่องกล้วยๆ ผมจะชนะเธอเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าต้องการ” หานเซิ่นรู้หงุดหงิดเล็กน้อย หลังจากถูกเรียกว่าพวกโกงหลายครั้ง   “จะโกงอีกแล้วหรอ?” จีเหยียนหรันพูดอย่างดูถูก   หานเซิ่นหมดคำพูด “เธอบอกว่าผมโกง แต่ก็ไม่ยอมให้พิสูจน์ ตกลงจะเอายังไง?”   “ถ้าอยากจะพิสูจน์ก็มาใช้เครื่องเล่นที่ชมรมวันพรุ่งนี้” จีเหยียนหรันพูดอย่างมั่นใจ   “ดี งั้นขอเบอร์โทร ผมจะได้ติดต่อไปวันพรุ่งนี้” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   “อย่ามาเนียน พรุ่งนี้ตอนบ่าย 3 ฉันจะรอที่ตึก e16 ห้อง 138”   “โอเค เธอกลับไปเตรียมตัวรอที่จะมีผมเป็นแฟนได้เลย” หานเซิ่นหัวเราะ จีเหยียนหรันไม่พูดอะไรอีก และเดินจากไป   บ่ายวันถัดมา เมื่อหานเซิ่นเตรียมพร้อมที่จะไปหาจีเหยียนหรัน ซินเสวียนก็เรียกตัวเขาให้เข้าไปที่สตีลอาเมอร์ทันที บอกว่ามีงานด่วน   หานเซิ่นยอมล้มเลิกความคิดที่จะไปพบจีเหยียนหรัน และเทเรพอร์ตไปที่ก็อตแซงชัวรี่แทน   แม้ว่าเขาอยากจะบอกจีเหยียนหรันก่อน แต่เขาก็ไม่รู้เบอร์ติดต่อ ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรได้   จีเหยียนหรันไปรอตามนัด แต่ก็ไม่เห็นมีใครมา มันทำให้เธอยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าหานเซิ่นเป็นพวกโกงตัวจริงเสียงจริง   หานเซิ่นกลับมาหลังจากผ่าน 2 วัน เขายังไม่ได้ติดต่อกับจีเหยียนหรัน แต่เขาก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก เขามุ่งมั่นกับการฝึกฝนวอเฟรมของเขาต่อไป   “ทุกคนฉันมีอะไรจะพูด” ประธานอ้วนกลืนน้ำลายและพูด ขณะถือแผ่นกระดาษในมือ   “ประธานจะพูดอะไรก็พูดเลย พวกเราได้ยิน” ซื่อจื้อคังพูด ขณะฝึกซ้อมด้วยเครื่องโฮโลแกรม   คนอื่นๆก็กำลังฝึกซ้อมอยู่เช่นเดียวกัน ประธานอ้วนพูดต่อ “ในอีกไม่กี่วัน สตาร์รี่คัพก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ในฐานะที่พวกเราเป็นชมรมย่อยของชมรมวอเฟรม พวกเราก็ต้องลงแข่งในบางประเภทเช่นเดียวกัน ซึ่งพวกเราจะลงแข่งอะไรมั้ง?”   “คุณเป็นประธาน คุณตัดสินใจได้เลย” ลู่เหมินพูดแบบขอไปที   “ลงให้หมดเลย” จางหยางพูดอย่างกระตือรือร้น   “แต่ว่าจำนวนสมาชิกของเราไม่พอที่จะลงทุกประเภทนะ” หวังเหมียนเหมียนพูด   “ใช่ พวกเราชมรมวอเฟรมหนักมีคนไม่พอ เราคงลงแข่งทุกอย่างไม่ได้จริงๆ” หลี่เจินเจินพูด   หวังชุนพูดเสริม “ประเภทต่อสู้เหมือนว่าพวกเราจะทำได้ไม่ค่อยดี และพวกเราก็ยังไม่เคยฝึกซ้อมสู้แบบทีม 5 ต่อ 5 เลย ถ้าลงผลงานคงจะแย่มาก”   “นั่นแหละคือสิ่งที่ท้าทาย ตราบใดที่พวกเราร่วมแรงร่วมใจกัน พวกเราจะชนะ” จางหยางพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม   ประธานอ้วนหันมองมาหวังเหมียนเหมียนและพูด “พวกเราควรลงแข่งอะไรดี?”   หวังเหมียนเหมียนมองมาที่หานเซิ่น ซึ่งกำลังอ่านข้อมูลวอเฟรมอยู่ “พี่หาน พี่คิดว่าไง?”   “สตาร์รี่คัพนี่ ถ้าได้แชมป์จะได้อะไรเป็นรางวัล?” หานเซิ่นครุ่นคิดและพูด   “รางวัลแบ่งตามประเภทการแข่ง 3 อันดับแรกของแต่ละประเภทจะได้รับรางวัล รางวัลที่ 1 จะดีที่สุด ตัวอย่างสมาชิกทุกคนที่ลงแข่งและได้แชมป์ในการแข่งประเภทต่อสู้เป็นทีม 5 คน จะได้รับวอเฟรม Starbeast series ซึ่งมีราคาหลายล้าน ส่วนแชมป์ประเภทการต่อสู้คนเดียวจะได้รับวอเฟรมรุ่นใหม่ล่าสุด King series ซึ่งราคาประมาน 10 ล้าน” ลิงผอมพูด   “มีรางวัลให้สำหรับ 3 อันดับแรกของทุกรายการ พวกเราน่าจะพยายามให้เต็มที่ ถึงจะไม่ชนะรายการไหนเลยก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ได้ฝึกฝน” ประธานอ้วนพูด   “งั้นสมัครไปให้หมดเลยก็ได้” เมื่อหานเซิ่นได้ยินว่ามีรางวัลเยอะ เขาก็ตัดสินใจ   “เอาจริงดิ?” ประธานอ้วนมองไปที่หวังเหมียนเหมียนอีกครั้ง   “ถ้าพี่หานว่าแบบนั้น ก็เอาตามนั้น” หวังเหมียนเหมียนคิดอยู่ชั่วครู่แล้วถาม “มีรายการไหนที่เวลาแข่งทับกันบ้างไหม ถ้าเกิดจะให้คนคนเดียวลงทุกรายการจะพอเป็นไปได้ไหม?”   ประธานอ้วนเช็คดูตารางแข่งขันและพูด “ไม่มีปัญหา นอกจากแข่งแบบต่อสู้ 5 ต่อ 5 แล้วที่เหลือก็เป็นแบบแข่งคนเดียวเวลาไม่ทับกันเลย”   “งั้นประธานช่วยดูแลเรื่องการสมัครให้ด้วย” หวังเหมียนเหมียนพูดพร้อมกับยิ้ม   “เหมียนเหมียนจะไหวแน่หรอ? ชมรมเรามีคนน้อย และพวกเราเกือบทุกคนก็เป็นเด็กใหม่หมดเลย มันจะดูไม่ดีนะ ถ้าเกิดเราทำผลงานแย่ในทุกประเภทที่ลงแข่ง” หลี่เจินเจินพูดด้วยความกังวล   “ไม่ต้องห่วง พวกเรามีพี่หานอยู่ พวกเราไม่แพ้แน่นอน” หวังเหมียนเหมียนไว้ใจหานเซิ่นมาก   หลีเจินเจินกับหวังชุนมองมาที่หานเซิ่นด้วยสายตาแปลกๆ พวกเธอไม่รู้ว่าหานเซิ่นมีความสามารถพิเศษอะไร และพวกเธอก็ไม่เคยเห็นฝีมือของหานเซิ่นมาก่อนเลย แต่ดูเหมือนหวังเหมียนเหมียนจะนับถือเขามาก   พวกเธอเคยถามหวังเหมียนเหมียน แต่หวังเหมียนเหมียนก็บอกแค่ว่าหานเซิ่นเป็นคนที่สุดยอดมากเท่านั้น   หลี่เจินเจินกับหวังชุนยังไม่ค่อยเชื่อนัก เพราะตั้งแต่เข้าชมรมมาหานเซิ่นยังไม่เคยแสดงฝีมืออะไรออกมาเลย ทำให้พวกเธอยังไม่อยากที่จะเชื่อว่าชมรมวอเฟรมหนักจะได้รางวัลจากการแข่งขัน     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 484 เเล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 140 พบกับจีเหยียนหรันอีกครั้ง
Super God Gene – ตอนที่ 140 พบกับจีเหยียนหรันอีกครั้ง

“เธอเป็นนักเรียนใช่ไหม?” หลัวเซียงหยางถาม   “สวัสดีครับ ผมชื่อหานเซิ่น ผมพึ่งจะเข้าชมรมวอเฟรมหนัก คุณก็อยู่ในชมรมเราด้วยหรอ? ผมไม่เคยเจอคุณมาก่อนเลย ฝีมือของคุณสุดยอดมาก คุณจะช่วยสอนผมหน่อยได้ไหม ถ้าคุณพอมีเวลา?” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   “เธอบอกว่าพึ่งเข้าชมรมวอเฟรมหนัก เเสดงว่าเธอเป็นเด็กใหม่?” หลัวเซียงหยางไม่อยากเชื่อว่าเข้าพึ่งปะมือกับเด็กปี 1   “ใช่ ผมพึ่งจะเข้าชมรมวอเฟรมหนักมาได้ 7-8 วัน” หานเซิ่นตอบ   “เธอเคยขับวอเฟรมหนักมาก่อนรึเปล่า?”   “ไม่ครับ ผมแค่เคยใช้วอเฟรมสำหรับฝึกหัดในโรงเรียนมาบ้าง และพึ่งจะได้มีโอกาสใช้วอเฟรมหนักหลังจากเข้าชมรมนี้ มันยากกว่าวอเฟรมแบบปรกติพอสมควรเลย และดูเหมือนผมจะไม่ค่อยก้าวหน้ามากเท่าไหร่ แต่คุณฝีมือดีมาก ผมต้องใช้วิญญาณอสูรเปลี่ยนร่างเพื่อสู้กับคุณ” หานเซิ่นอธิบาย   ตอนนี้ในสายตาของหานเซิ่น คนที่เขาคุยอยู่ดูแก่กว่าเขานิดหน่อย หานเซิ่นคิดว่าเขาน่าจะเป็นรุ่นพี่ หานเซิ่นไม่ได้ตระหนักว่าหลัวเซียงหยางนั้นเป็นครู และยังเป็นโค้ชของชมรมวอเฟรม   หลัวเซียงหยางคิด ‘เขาพึ่งจะจับวอเฟรมหนักได้ไม่กี่วันก็สู้ได้ถึงขนาดนั้น! นั่นยังเรียกว่าไม่ค่อยจะก้าวหน้าอีกหรอ ถ้านั่นเรียกว่าไม่ก้าวหน้า นักเรียนในชมรมวอเฟรมคงต้องไปลาสุนัขตายกันหมดแน่’   “เธอมาจากหน่วยไหน? ทำไมถึงมาเข้าชมรมวอเฟรมหนักได้?” หลัวเซียงหยางเชื่อว่าถ้าเขาชักจูงเด็กหนุ่มคนนี้ไปเข้าชมรมวอเฟรมของเขาได้ละก็ ความฝันที่จะทำให้ชมรมวอเฟรมของเหยี่ยวดำขึ้นไปติดท็อป 3 ของกาเเล็กซี่ก็จะไม่ใช้เรื่องไกลเกินเอื้อม   “ผมมาจากหน่วยธนู และเพื่อนของผมเป็นคนแนะนำให้มาเข้าชมรมนี้” หานเซิ่นตอบ   “หน่วยธนู?” หลัวเซียงหยางเสียใจมากที่เขาไม่เคยไปดูฟอร์มของนักเรียนหน่วยธนูเลย เนื่องจากปีนี้พวกเขาเข้ามาด้วยโควตาพิเศษ หลัวเซียงหยางรู้สึกว่าเขาพึ่งจะพลาดเด็กที่มีพรสวรรค์ไป   ในขณะที่หลัวเซียงหยางกำลังคิดวิธีโน้มน้าวให้หานเซิ่นเข้าชมรมวอเฟรมอยู่นั้น คอมพกพาของหานเซิ่นก็ดังขึ้นมา เนื่องจากหานเซิ่นคิดว่าหลัวเซียงหยางเป็นแค่รุ่นพี่ เขาจึงรับสายระหว่างที่กำลังคุยกัน   “รุ่นพี่ ผมต้องไปแล้ว ไว้เจอกันใหม่วันหลังนะครับ” หานเซิ่นโบกมือลาหลัวเซียงหยาง แล้ววิ่งออกจากโรงฝึกไป   เมื่อไม่มีจังหวะให้เขาโน้มน้าวหานเซิ่นได้ หลัวเซียงหยางก็คิด ‘ไม่เป็นไร ตอนนี้เราก็รู้ชื่อเขาแล้ว ยังไงก็คงได้เจอกันอีกเดียวค่อยชวนทีหลังละกัน’   ขณะที่วอเฟรมหนักทั้ง 3 เครื่องนั้น หลัวเซียงหยางก็ไม่คิดจะเอาพวกมันกลับไปแล้ว เนื่องจากหานเซิ่นใช้มันอยู่ เขาจะรอให้หานเซิ่นย้ายชมรมก่อนแล้วค่อยเอาพวกมันไป   หลัวเซียงหยางเดินออกจากโรงฝึกที่ 7 อย่างมีความสุข เขาพึ่งจะเจอกับอัจฉริยะ เขาลืมเรื่องที่โกรธก่อนหน้านี้ไปจนหมด เขาคิดแต่วิธีที่จะทำให้หานเซิ่นมาเข้าชมรมวอเฟรมให้ได้ หานเซิ่นพึ่งจะเข้ามาเหยี่ยวดำปีแรก เขายังมีเวลาอยู่ที่เหยี่ยวดำอีกนาน หลัวเซียงหยางสามารถสร้างทีมที่หวังแชมป์ระดับกาแล็กซี่ก็ยังได้   หลังออกมาจากโรงฝึกที่ 7 หานเซิ่นเดินไปร้านอาหาร รูทเมทโทรมาขอให้เขาซื้ออาหารว่างไปให้ และตอนนี้หานเซิ่นเองก็หิวมากหลังจากต่อสู้ด้วยวอเฟรมมาอย่างหนัก   ร้านอาหารแห่งนี้มีน้ำผลไม้ที่อร่อยมาก และก็อยู่ใกล้หอพักของเขา ซึ่งหานเซิ่นมาซื้อน้ำผมไม้ที่นี่เกือบทุกวัน   แต่เนื่องจากมันเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมาก ทำให้มันขายหมดเป็นประจำ และวันนี้หานเซิ่นก็ต่อสู้จนลืมเวลา   ตอนที่เขามาถึงร้านอาหาร เขาก็เห็นน้ำผลไม้เหลืออยู่หนึ่งขวดพอดี เขารีบจ่ายเงินทันที แต่เมื่อเขากำลังจะหยิบขวดน้ำผลไม้ก็มีมืออีกมือยื่นมาจับขวดน้ำผมไม้เหมือนกับเขา   หานเซิ่นรีบหันไปดูว่าเป็นใคร “เธอ/นาย!” พวกเขาทั้ง 2 คนพูดออกมาเกือบจะพร้อมกัน   หานเซิ่นเห็นใบหน้าหวานๆอยู่ต่อหน้า เขาไม่ได้หวังว่าจะมาเจอจีเหยียนหรันที่นี่   เห็นได้ชัดว่าจีเหยียนหรันเองก็ประหลาดใจที่เห็นเขา เธอขมวดคิ้วและถาม “ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้?”   “ผมเป็นนักเรียนของเหยี่ยวดำ และผมมาที่นี่ก็ต้องเพื่อซื้อของกินอยู่แล้ว” หานเซิ่นตอบ   “ฉันไม่คิดว่าคนอย่างนายจะสอบเข้าได้” จีเหยียนหรันมองไปที่มือของหานเซิ่นและพูด “ออกไป”   “เธอต่างหากที่ควรจะไป ผมจ่ายเงินก่อน” หานเซิ่นพูด   จีเหยียนหรันมองหานเซิ่นด้วยสายตาดูถูก “วิธีจีบสาวของนายมันเก่าเกินไป ไปซะ ไม่งั้นฉันจะตะโกนแล้วนะ”   “หมายความว่าไง ทำไมผมจะต้องทำแบบนั้น? เธอเคยเห็นใครที่ไหนจีบแฟนของตัวเองมั้ง?” หานเซิ่นพูด   “นายไม่มีสิทธิพูดแบบนั้น นายมันพวกขี้โกง” จีเหยียนหรันพูด   “ใครโกง?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว   “ถ้านายไม่โกง แล้วทำไมนายถึงไม่มาหาฉันหลังจากที่เข้าเหยี่ยวดำได้?” จีเหยียนหรันตัดสินไปแล้วว่าหานเซิ่นเป็นพวกขี้โกง เพราะเขาไม่กล้ามาหาเธอ   “ผมแค่ไม่มีเวลา” หานเซิ่นพูด   “เลิกแก้ตัวดีกว่า” จีเหยียนหรัพูด   “จะเชื่อแบบนั้นก็ตามใจ แต่น้ำขวดนี้ผมเป็นคนจ่ายเงินก่อน ยังไงผมก็ต้องได้มัน” หานเซิ่นขี้เกียจอธิบาย   “ฉันก็จ่ายเงินไปแล้ว และฉันก็จับมันก่อนด้วย คราวหลังโปรดมาให้ไวกว่านี้หน่อย” จีเหยียนหรันยิ้ม   หานเซิ่นไม่ยอมง่ายๆ เขาก้มหัวลงไปและทำท่าว่าจะใช้ลิ้นเลียไปที่มือของจีเหยียนหรัน จีเหยียนหรันกรีดร้องออกมาทันที   “ครั้งหน้า โปรดมาให้ไวกว่านี้” หานเซิ่นคว้าน้ำผลไม้และเดินออกไป พร้อมกับโบกมือลา   “ช่างเป็นผู้ชายที่ทุเรศที่สุด” จีเหยียนหรันกัดริมฝีปากตัวเอง และมองหานเซิ่นถือขวดน้ำผลไม้ไป   เมื่อเธอเห็นว่าหานเซิ่นเดินไปซื้ออย่างอื่นต่อ เธอก็เกิดความคิดขึ้นมา เธอเดินอ้อมๆเข้าไปหาเขาจากอีกทาง และเมื่อหานเซิ่นวางขวดน้ำผลไม้ลงเพื่อถืออย่างอื่น เธอก็คว้าขวดน้ำผลไม้ และเดินหนีไป   “เฮ้ ตั้งใจจะทำอะไรน่ะ?” หานเซิ่นกำลังถือของอย่างอื่นที่เพื่อนของเขาฝากซื้อด้วยมือทั้ง 2 ข้าง และมองดูจีเหยียนหรันเดินหนีไป   “ตาต่อตาฟันต่อฟันไง” จีเหยียนหรันแลบลิ้นออกมา และเดินหนีไปอย่างมีความสุข ขณะทำหน้าล้อเลียนหานเซิ่น     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 481 เเล้วครับ