Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 139 ดวลกับโค้ช
Super God Gene – ตอนที่ 139 ดวลกับโค้ช

เหตุผลที่มันเคลื่อนไหวแปลกๆก็เพราะ Builder กำลังถือท่ออัลลอยยาวๆ ด้วยมือทั้ง 4 ข้าง และกวัดแกว่งท่อไปมาเหมือนกับมนุษย์กวัดแกว่งดาบไม่มีผิด ทำให้ Builder ที่ดูค่อนข้างเทอะทะและมีแขน 4 ข้าง ดูเคลื่อนไหวแปลกๆ   หลัวเซียงหยางมองดูด้วยความประหลาดใจ คนที่สามารถขับ Builder ได้ขนาดนี้ต้องเป็นระดับผู้วิวัฒนาการขึ้นไปแน่   “ใครขับมันกัน ครูงั้นหรอ หรือว่าจะเป็นพวกศิษย์เก่า?” หลัวเซียงหยางไม่คิดว่านักเรียนจะเป็นคนขับ เพราะผู้ที่ยังไม่วิวัฒนาการไม่น่าจะขับมันได้ด้วยความเร็วขนาดนี้   หลังจากยืนดูอยู่สักพัก หลัวเซียงหยางก็รู้สึกเครื่องร้อนขึ้นมา เขาเคยขับวอเฟรมหนักสมัยที่เป็นทหาร เขารู้ว่ามันสนุกขนาดไหน และเขาก็ชอบมันมาก   เมื่อเขาได้เห็นใครบางคนขับวอเฟรมหนักได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เขาก็ไม่อาจจะทนดูเฉยๆได้อีกต่อไป   เมื่อเขาหันไปเห็น Porter RS จอดอยู่ไม่ไกลมากนัก หลัวเซียงหยางเดินตรงเข้าไปที่ Porter RS และเข้าไปในห้องคนขับทันที   หานเซิ่นกำลังฝึกซ้อมขับ Builder อย่างหนัก เขาชอบมันมาก เพราะว่ามันใกล้เคียงมนุษย์มากกว่าอีก 2 เครื่อง   แต่ทันใดนั้น หานเซิ่นก็เห็นเงาพุ่งเข้ามาจากภาพโฮโลแกรม ปฏิกิริยาการตอบสนองของหานเซิ่นนั้นยอดเยี่ยม เขาบังคับให้ Builder ยกท่อในมือขึ้นมาป้องกันทันที   เคร๊ง! เสียงปะทะกันของโลหะดังขึ้นมา หานเซิ่นเห็น Porter RS กำลังเข้ามาโจมตีเขาโดยใช้ประแจความยาวกว่า 30 ฟุต และในมืออีกข้างของ Porter RS ก็มีใบเลื่อยที่ถูกเปิดใช้งาน   หานเซิ่นไม่มีเวลาคิดว่าคนขับ Porter RS เป็นใคร เขาต้องป้องกันมืออีกข้างของ Porter RS   ท่ออัลลอยถูกเลื่อยตัดขาดเป็น 2 ท่อนทันที ใบเลื่อยที่กำลังหมุนด้วยความเร็วสูง ตรงเข้ามาหา Builder   ด้วยความช็อค หานเซิ่นใช้ความเร็วสูงสุดของเขาบังคับให้ Builder ถอยออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจาก Porter RS   “ไม่เลว!” หลัวเซียงหยางรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ เขาบังคับ Porter RS ให้กระหน่ำโจมตีใส่ Builder อย่างต่อเนื่อง ทั้งประแจ ใบเลื่อย ตะขอและอุปกรณ์อื่นๆถูกนำมาใช้ทั้งหมด ทุกอย่างดูน่ากลัวไปหมด เมื่อเขาเป็นคนบังคับมัน   หลัวเซียงหยางคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขานั้นเป็นระดับผู้ชำนาญและยังมีประสบการณ์สูง ทำให้เขาไม่ได้ยั้งมือเลย   ตอนนี้หานเซิ่นตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าคนขับ Porter RS เป็นใคร แต่ฝีมือและความเร็วของอีกฝ่ายสูงกว่าเขา หานเซิ่นเกือบจะเสียท่าหลายครั้ง เขาไม่อยากจะยอมรับความพ่ายแพ้ ตอนนี้เขาใช้ความเร็วระดับเดียวกับที่ใช้ผ่านหัตถ์พระเจ้าระดับผู้วิวัฒนาการ-4   แต่กระนั้น หานเซิ่นก็ยังไม่สามารถต่อกรคู่ต่อสู้คนนี้ได้ หานเซิ่นยังคงโดนไล่ต้อน หานเซิ่นไม่มีทางเลือก เขาตัดสินใจใช้วิญญาณอสูรแฟรี่ควีนช่วยในการบังคับ ด้วยประสาทสัมผัสของแฟรี่ควีนกับความเร็วของหานเซิ่น ตอนนี้มือทั้ง 4 ของ Builder เคลื่อนไหวเร็วจนดูแทบไม่ทัน   หลัวเซียงหยางรู้สึกว่าคู่ต่อสู้ไม่ค่อยเก่งในตอนแรก และคิดว่าคู่ต่อสู้อาจจะเป็นทหารที่เคยฝึกวอเฟรมหนักมาบ้าง หรือไม่ก็เป็นคนที่ไม่ได้จับวอเฟรมมานานจนฝีมือขึ้นสนิมไปหมดแล้ว   แต่ตอนนี้หลัวเซียงหยางพบว่าคู่ต่อสู้ฝีมือพัฒนาไปอย่างมาก การเคลื่อนไหวของ Builder ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ และมันยังดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งความยืดหยุ่นและว่องไวราวกับเป็นการเคลื่อนไหวของมนุษย์จริงๆ   หลัวเซียงหยางตื่นเต้นระทึกใจถึงขีดสุด มันยากที่จะเจอคู่ซ้อมเก่งขนาดนี้ เขาใช้ความสามารถทั้งหมดออกมาเพื่อสู้กับคู่ต่อสู้คนนี้   เมื่อสู้กันไปเรื่อยๆ หลัวเซียงหยางก็พบว่าคู่ต่อสู้เริ่มเคลื่อนไหวดีขึ้น และการโจมตีของเขาก็แม่นยำมากขึ้น เหมือนกับเขากำลังพัฒนาในระหว่างการต่อสู้ มันเริ่มทำให้หลัวเซียงหยางมั่นใจแล้วว่าคู่ต่อสู้ต้องชำนาญวอเฟรมหนักเหมือนกับเขา และระดับฝีมือก็ไม่ห่างกันมาก   “ยอดจริงๆ!” หลัวเซียงหยางไม่ได้สนุกอย่างนี้มานานแล้ว เขาเคยเป็นทหารที่ขับวอเฟรมหนักมาก่อน แต่พอมาเป็นครู เขาก็กลายเป็นโค้ชของชมรมวอเฟรม ถ้าถามเขาจริงๆ เขาชอบวอเฟรมหนักมากกว่า เขาคิดว่าวอเฟรมก็เปรียบเหมือนผู้หญิง ส่วนผู้ชายต้องวอเฟรมหนัก   การต่อสู้ที่ดุเดือดยังคงดำเนินต่อไป เสียงกระทบกันของโลหะระหว่างประแจกับท่ออัลลอยดังสะเทือนไปทั่วโรงฝึก เลือดของหลัวเซียงหยางเริ่มเดือดขึ้นมาแล้ว   หานเซิ่นไม่รู้ว่าเขากำลังสู้อยู่กับใคร แต่เขารู้สึกกดดันมาก แม้เขาจะใช้ทุกอย่างที่มีแล้ว แต่เขาก็รู้สึกว่าคู่ต่อสู้เหนือกว่าทั้งด้านความเร็วและเทคนิคในการขับ ทำให้หานเซิ่นได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง   “ประธานอ้วนหรือลิงผอม? พวกเขาเก่งขนาดนี้เลยหรอ” หานเซิ่นพยายามเดา เพราะในชมรมนอกจากพวกสาวๆแล้วก็มีรูทเรททั้ง 3 คน ซึ่งไม่น่าจะทำแบบนี้ได้ จึงเหลือแค่ประธานอ้วนกับลิงผอม   หานเซิ่นไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังสู้กับโค้ชของชมรมวอเฟรมอยู่ และเขายังเคยเป็นถึงนายทหารชำนาญการปฏิบัติการด้วยวอเฟรมหนัก   ถึงจะรู้สึกกดดันมาก แต่หานเซิ่นก็ตื่นเต้นกับการต่อสู้เช่นกัน เพราะเขาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งมากกว่าที่เขาพยายามฝึกอยู่คนเดียว   ‘เหมือนว่าผมจะประเมินความสามารถของประธานอ้วนและลิงผอมต่ำเกินไป ผมต้องฝึกซ้อมให้หนักว่านี้’ หานเซิ่นคิด   เมื่อต่อสู้มาได้กว่า 1 ชั่วโมง หานเซิ่นก็ไม่สามารถทนรับความเครียดจากการต่อสู้ได้อีกต่อไป เขาออกมาจากวอเฟรมหนัก ตัวของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ   การต่อสู้ด้วยวอเฟรมหนักใช้พลังงานเยอะมาก แถมต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่เก่งขนาดนี้ มันทำให้เขากดดันและเครียดมาก การที่เขาสู้มาได้ 1 ชั่วโมงถือว่าเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อแล้ว   หลัวเซียงหยางเหมือนจะอารมณ์ค้างอยู่ แต่เมื่อเห็นคู่ต่อสู้ลงมาจากห้องคนขับแล้ว ทำให้เขาเองก็ต้องหยุด และออกมาจากห้องคนขับเช่นกัน เขาต้องการจะสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคู่ต่อสู้คนนี้หลังจากปะมือกันมา 1 ชั่วโมงเต็ม   แต่เขาก็ต้องช็อค เมื่อเห็นเด็กหนุ่มออกมาจาก Builder เขาคิดอยู่ตลอดว่าคนขับต้องเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญเหมือนๆกับเขา แต่ที่เขาเห็นคือเด็กหนุ่มอายุประมาน 17 เท่านั้นเอง ซึ่งอายุเขายังไม่ถึงเกณฑ์ของกองทัพด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงการเป็นผู้เชี่ยวชาญเลย     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 478 เเล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 138 อุบายของจีเหยียนหรัน
Super God Gene – ตอนที่ 138 อุบายของจีเหยียนหรัน

นอกจากจ้าวเหลียนหัวแล้ว จีเหยียนหรันก็เป็นอีกคนที่กำลังตามหาตัวหานเซิ่นอย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนนี้เธอรู้แน่แล้วว่าเขาไม่ใช่โอ้วหยาง เสี่ยวซานแน่นอน เพราะตอนที่แข่งเป็นช่วงที่โอ้วหยางเสี่ยวซานไปเข้าค่ายกับชมรมศิลปะการป้องกันตัวพอดี   ยังไงจีเหยียนหรันก็ไม่เชื่ออยู่แล้วว่าจะเป็นโอ้วหยางเสี่ยวซาน เพราะเขาไม่มีทางชนะหลี่ยู่เฟิงได้ถึง 20 คะแนน   “เขาเป็นใครกันแน่? โรงเรียนเรายังมียอดฝีมือซ่อนอยู่อีกหรอเนี่ย” จีเหยียนหรันคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอตั้งใจไว้ว่ายังไงก็ต้องหาตัว แฟนผมคือ-จีเหยียนหรันให้ได้   “ถ้าเธอต้องการหาตัวเขาให้พบจริงๆ ฉันก็มีวิธีนะ” ฉวี้ลี่ลี่พูดพร้อมกับยิ้ม   “วิธีอะไร?” จีเหยียนหรันเหมือนไม่ค่อยเชื่อฉวี้ลี่ลี่   “ง่ายมาก ถ้าดูจากชื่อไอดีเขาแล้ว เขาก็คงเป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบเธอ เธอก็แค่จัดการแข่งขันหัตถ์พระเจ้าภายในเหยี่ยวดำขึ้นมา และบอกว่าแชมเปี้ยนส์จะได้รับจุมพิตของเธอเป็นรางวัล ฉันคิดว่าเขาต้องมาเข้าร่วมอย่างแน่นอน” ฉวี้ลี่ลี่กระพริบตา   “เป็นความคิดที่แย่มาก แล้วถ้าหากเขาไม่ปรากฏตัวจะทำยังไง?”   ฉวี้ลี่ลี่ยิ้มและพูด “หมายความว่าถ้าเขามาเข้าร่วมจริงๆ เธอจะจูบเขาเป็นรางวัลจริงๆใช่ไหม?”   “ไร้สาระน่า ทำไมฉันจะต้อง…” จีเหยียนหรันทั้งโกรธและอายในเวลาเดียวกัน   เธอจับฉวี้ลี่ลี่ล็อคคอและข่มขู่ “เด็กน้อย ค่อยดูว่าฉันจะทำยังไงกับเธอ”   ฉวี้ลี่ลี่พยายามร้องขอความปราณี แต่จีเหยียนหรันก็ยังล็อคคอเธออยู่ และดูเหมือนเธอเกือบจะหายใจไม่ออก   ความคิดของฉวี้ลี่ลี่ดูงี่เง่าก็จริง แต่ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งเดือนก็จะถึงการแข่งขัน ‘สตาร์รี่คลับ’ แล้ว ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับกาแล็กซี่ ที่มีกลุ่มสตาร์รี่เป็นสปอนเซอร์ ทำให้เธอต้องรีบหาตัวเขาให้พบ และชวนเขาเข้าชมรมให้เร็วที่สุด   จีเหยียนหรันไม่รู้ว่าเขาอยู่หน่วยไหน และหัตถ์พระเจ้าก็เป็นแค่การแข่งขันหนึ่งในสตาร์รี่คลับเท่านั้น ซึ่งมันมีทั้งการต่อสู้ วอเฟรม ยิงธนูและอื่นๆ   ถ้าคนคนนั้นไม่มาเข้าชมรมหัตถ์พระเจ้า แต่ไปสมัครชมรมอื่นก่อนละก็ มันก็ยิ่งยากสำหรับเธอ   “ดูเหมือนต้องใช้อุบายสักหน่อยแล้ว” จีเหยียนหรันยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา ……   ในโรงยิมกลาง ซึ่งมีนักเรียนจำนวนมากกำลังนั่งคุยกันอยู่ “นายได้ยินข่าวมาหรือป่าว ที่ว่าแชมเปี้ยนส์หัตถ์พระเจ้าในการแข่งขันสตาร์รี่คลับจะได้รับอาวุธโลหะ z ใน king series เป็นรางวัล แถมยังได้เยี่ยมชมโรงงานของกลุ่มสตาร์รี่ด้วย” “ตอนนี้ข่าวแพร่กระจายไปทั่วแล้ว ใครๆก็รู้ทั้งนั้นแหละ” “ฉันได้ยินว่ากลุ่มบริษัทสตาร์รี่เชิญประธานชมรมหัตถ์พระเจ้าไปร่วมชมการผลิตในโรงงานของพวกเขาด้วย” “ประธานชมรมหัตถ์พระเจ้า? นั่นจีเหยียนหรันไม่ใช่หรอ?” “ใช่ มันเป็นการเยี่ยมชมแบบ 5 วัน 4 คืน” “ว้าว ฉันต้องเข้าร่วมให้ได้” “เราไปร่วมก็ไม่มีประโยชน์หรอก ดูแล้วงานนี้คงเป็นเหมือนการฮันนี่มูนของจีเหยียนหรันกับแฟนของเธอมากกว่า” “ทุกอย่างเป็นไปได้หมดแหละ ทุกคนก็พลาดกันได้ นายคิดว่าแฟนของจีเหยียนหรันจะไม่พลาดบ้างเลยหรอ?” “เขาเอาชนะหลี่ยู่เฟิงได้ 20 คะแนน ต่อให้เขาพลาดขนาดไหนเราก็หมดหวัง” “ใช่” ไม่นานข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนอย่างรวดเร็ว เมื่อฉวี้ลี่ลี่ได้ยินข่าวนี้ เธอก็รีบถามจีเหยียนหรันทันที “เธอขโมยความคิดของฉันไปใช่ไหม ? จ่ายค่าลิขสิทธิ์มาซะดีๆ!” ฉวี้ลี่ลี่ยื่นมือออกไป   จีเหยียนหรันคิดว่าวิธีนี้จะทำให้เจ้าของไอดีปัญหาปรากฏตัวออกมาอย่างแน่นอน เขาต้องมาสมัครเข้าชมรมหัตถ์พระเจ้าแล้วลงแข่งแน่ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เพราะตอนนี้เจ้าของไอดีปัญหาเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการฝึกวอเฟรมจนไม่ได้ยินข่าวลือ   หานเซิ่นกำลังสนุกกับการขับ Builder อยู่ ความแข็งแกร่งและคล่องแคล่วของ Builder ทำให้หานเซิ่นชอบมันมาก หานเซิ่นสามารถใช้ความเร็วสูงสุดของเขาขณะที่ฝึกซ้อมได้   ในห้องผู้อำนวยการโรงเรียน หลัวเซียงหยางมองไปที่ผู้อำนวยการและบ่น “นี่มันไร้เหตุผล คุณให้โรงฝึกที่ 7 กับวอเฟรมหนัก แก่พวกชนรมวอเฟรมหนักงั้นหรอ? วอเฟรมหนักพวกนั้นมันอยู่เหนือความสามารถของพวกเขา ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง?”   “คุณหลัว บางครั้งพวกเราก็ต้องยอมอะลุ่มอล่วยบ้าง พวกเขาเป็นนักเรียนที่ดี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงมอบโรงฝึกให้พวกเขาใช้” ผู้อำนวยการพูดอย่างช้าๆ   “ก็แค่นักเรียนที่รวยและมีอิทธิพลใช่ไหม?” หลัวเซียงหยางพูดด้วยท่าทางดูถูก   “หลัวอย่าใช้อารมณ์ บางครั้งเราก็ต้องยอม” ผู้อำนวยการพูด   ใบหน้าของหลัวเซียงหยางบิดเบี้ยว “ผมไม่สนใจว่านักเรียนพวกนั้นจะเป็นลูกคนใหญ่คนโตมาจากไหน ผมยอมให้โรงฝึกกับพวกเขาได้ แต่วอเฟรมหนักพวกนั้น ผมจะไม่ยอมให้พวกมันถูกใช้อย่างเปล่าประโยชน์ ผมต้องเอามันกลับมา”   หลัวเซียงหยางเดินออกจากห้องไปทันที ผู้อำนวยการพยายามเรียกเขาแต่ก็ไม่เป็นผล ผู้อำนวยการส่ายหน้า “พวกคนหนุ่มสมัยนี้ใจร้อนกันจริงๆ”   ผู้อำนวยการนั่งครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เขาคิดว่าหวังเหมียนเหมียนกับเพื่อนๆคงไม่ได้ใช้งานพวกมันอยู่แล้ว มันก็คงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าหลัวเซียงหยางจะเอามันกลับ   หลัวเซียงหยางเดินเข้าไปในโรงฝึกที่ 7 ด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาต้องการโรงฝึกนี้มาตลอด แต่ทางโรงเรียนไม่เคยอนุมัติ แต่ตอนนี้พวกเขากับมอบมันให้ชมรมวอเฟรมหนัก   เขารู้เกี่ยวกับชมรมวอเฟรมหนักดี คนส่วนมากที่มาเข้าชมรมนี้ก็มักจะมานั่งฆ่าเวลา พวกเขาแทบไม่มีใครสนใจวอเฟรมจริงๆ แล้วทำไมพวกเขาถึงสมควรได้วอเฟรมหนักของจริงมาไว้ฝึกซ้อม? ในขณะที่ทหารจริงๆกับได้แค่ฝึกซ้อมกับภาพโฮโลแกรมเสมือนจริง มีแค่ทหารส่วนน้อยเท่านั้นที่ได้ฝึกของจริง   ตอนนี้เขาเป็นโค้ชชมรมวอเฟรม ซึ่งเขากำลังทำหน้าที่ได้ดี ชมรมวอเฟรมมีสมาชิกจำนวนมากซึ่งล้วนแล้วแต่มีพรสวรรค์ แต่สถานที่ฝึกซ้อมของพวกเขากับมีอย่างจำกัด   เขาต้องการโรงฝึกที่ 7 แห่งนี้มาก เพื่อใช้เป็นสนามฝึกซ้อมของชมรม แต่ทางโรงเรียนกับมอบให้กับชมรมวอเฟรมหนักแทน แล้วเขาจะสงบสติอารมณ์อยู่ได้ยังไง?   หลัวเซียงหยางรู้ดีว่าผู้อำนวยการตัดสินใจลำบาก ดังนั้นเขาจะยอมให้โรงฝึกนี้กับพวกชมรมวอเฟรมหนักก็ได้ แต่ยังไงเขาก็ต้องเอาวอเฟรมหนักทั้ง 3 เครื่องกลับไปให้ได้ เขาต้องการให้นักเรียนในชมรมวอเฟรมของเขาได้ฝึกมัน ซึ่งดีกว่าจะมาจอดให้ฝุ่นจับอยู่ที่นี่   เมื่อหลัวเซียงหยางเข้ามาในโรงฝึกที่ 7 เขาเห็น Builder ถูกขับโดยใครบางคน และมันกำลังเคลื่อนไหวแบบแปลกๆอยู่ในสนามฝึกซ้อม     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 475 เเล้วครับ