Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 122 บ่ายที่น่าสงสัย
Super God Gene – ตอนที่ 122 บ่ายที่น่าสงสัย

“หัวหน้าวันนี้ผมว่าง ต้องการเล่นหัตถ์พระเจ้าหน่อยไหม?” เมื่อลู่เหมินกับซื่อจื้อคังออกไป หานเซิ่นชวนจางหยางเล่นหัตถ์พระเจ้า   “แน่นอน” จางหยางเข้าเกมและส่งคำเชิญไปให้หานเซิ่น   หานเซิ่นคลิก ‘ตกลง’ และเข้าห้องเล่นเกมกับจางหยาง   ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเวลาอาหารเย็น หานเซิ่นกับจางหยางเล่นกันตลอดเวลา ซึ่งตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนจบ จางหยางก็ยังไม่สามารถจิ้มได้แม้แต่จุดเดียว เขาได้ 0 คะแนนตลอด แต่เขาก็ยังเล่นตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น   วิญญาณของหานเซิ่นเหมือนจะหลุดออกจากร่าง เขาเริ่มไม่ไหวแล้ว แต่ในที่สุดจางหยางก็ยอมแพ้ก่อน เหมือนว่าเขาเองก็เล่นต่อไปไม่ไหวแล้ว   “เซิ่น มันจะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วนะ พอแค่นี้ดีกว่า” คำพูดของจางหยางเกือบทำให้น้ำตาของหานเซิ่นไหลออกมา   “โอเคครับ หัวหน้า” หานเซิ่นรีบปิดคอมทันที   จริงๆหานเซิ่นรู้สึกชื่นชมจางหยางอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าเป็นเขาไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับจางหยาง เขาคงยอมแพ้ไปตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรกแล้ว ขณะที่จางหยางยังคงเล่นอย่างตื่นเต้นตลอดบ่าย   ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จางหยางก็ไม่เคยชวนเขาเล่นหัตถ์พระเจ้าอีกเลย ซึ่งทำให้หานเซิ่นรู้สึกโล่งมาก   เรื่องนี่ทำให้ลู่เหมินกับซื่อจื้อคังสงสัยเป็นอย่างมากว่าตอนบ่ายวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมจางหยางที่เปี่ยมไปด้วยพลังถึงยอมแพ้   แต่หานเซิ่นกับจางหยางก็ปิดปากเงียบไม่ยอมพูดอะไร พวกเขาจึงเรียกบ่ายวันนี้ว่า ‘บ่ายลึกลับที่ห้อง 304’ และลู่เหมินกับซื่อจื้อคังเองก็ไม่เคยชวนหานเซิ่นเล่นหัตถ์พระเจ้าอีกเลย   หานเซิ่นไม่ค่อยได้เล่นโหมดดวลบ่อยนัก เพราะเขารู้สึกว่าพื้นที่การเล่นมันค่อนข้างจำกัด เขาชอบโหมดเล่นคนเดียวมากกว่า ซึ่งมันจะทำให้แขนของเขาได้ใช้งานอย่างเต็มที่   หานเซิ่นนั้นให้ความสนใจการปฏิบัติการวอเฟรมมาก ซึ่งมันคือชุดเกราะและอาวุธสำหรับต่อสู้ในอวกาศ ซึ่งเป็นกึ่งเครื่องจักรกึ่งชีวภาพ ถ้าเปรียบเทียบกับรถถัง วอเฟรมนั้นคล่องแคล่วกว่ามาก มันสามารถปรับตัวใช้ได้กับทุกสมรภูมิ แต่คนใช้ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนัก   ตอนที่หานเซิ่นอยู่โรงเรียนรัฐบาล เขาไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ปฏิบัติการวอเฟรม ถึงเขาจะสนใจมัน เขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้เรียนรู้ แต่หลังจากที่ได้เข้ามาในเหยี่ยวดำ เขามีความสุขมาก เพราะเขาสามารถเรียนวอเฟรมได้สมใจอยาก   ใน 3 เดือนแรก หานเซิ่นได้เรียนรู้วิธีใช้วอเฟรมขั้นพื้นฐาน และได้มีโอกาสลองฝึกใช้มันด้วย   ในสนามรบ วอเฟรมเป็นหน่วยรบพื้นฐานที่สุดของกองทัพ เพราะว่าทหารในยุคนี้จะไม่ออกไปรบโดยใส่ชุดทหารเหมือนสมัยก่อน แม้จะสู้บนถนนพวกเขาก็จะสวมวอเฟรมเสมอ   ดังนั้นหานเซิ่นจึงจำเป็นต้องฝึกปฏิบัติการด้วยวอเฟรมเอาไว้ ในกรณีที่เขาต้องออกไปอยู่แนวหน้า ทักษะนี้จะได้ช่วยชีวิตของเขาได้   ถ้าเขาสามารถทำได้ดีในปฏิบัติการด้วยวอเฟรม การต่อสู้ด้วยยานเหาะจะง่ายสำหรับเขามาก รวมถึงการต่อสู้ด้วยยานอวกาศด้วย เหยี่ยวดำมียานอวกาศเพียงแค่สำหรับโชว์เท่านั้น ซึ่งการฝึกปฏิบัติการบนยานอวกาศจะใช้ระบบภาพเสมือนจริงในการฝึกแทน   ติ๊ง! ขณะที่หานเซิ่นกำลังฝึกวอเฟรมอยู่ เขาได้ยินเสียงเหมือนมีคนโอนเงินเข้ามา เขารีบเช็คในคอมของเขาทันที เขาเห็นเงิน 10 ล้านดอลลาร์ถูกโอนเข้าบัญชี ซึ่งมันทำให้เขาช็อค ก่อนที่เขาจะหาเจอว่าใครเป็นคนโอนมาก็มีเสียงสายเรียกเขาดังขึ้นมา   “เซิ่น นายได้เงินแล้วใช่ไหม” เขาคือหลินเป้ยเฟิง   “มากขนาดนี้เลยหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดว่าวิญญาณอสูรเปลือกหยกจะขายได้กำไรขนาดนี้ เขาคิดว่าอย่างมากคงได้สัก 3-4 ล้าน   “ฉันได้มา 20 ล้าน แบ่งครึ่งก็เหลือคนละ 10 ล้าน เซิ่น ครั้งหน้าถ้านายไปเมืองกลอรี่ พวกเราจะซื้อวิญญาณอสูรบางอย่างที่สตีลอาเมอร์ไปขายที่กลอรี่ด้วย นี่จะทำให้เราได้เงินทั้งขาไป ขากลับ” หลินเป้ยเฟิงพูด   “ผมคงไม่ได้ไปในเร็วๆนี้ ถ้าผมจะไปอีกเดี๋ยวผมโทรไปบอก” หานเซิ่นอยากไปมาก แต่เขาไม่มีเวลาจริงๆ   หลักสูตรที่เขาเรียนนั้นเข้มข้นมาก และในตอนนี้เขาก็ใกล้จะถึงช่วงสอบแล้ว เขาจะไปก็อตแซงชัวรี่ แค่เฉพาะตอนที่มีคนมาชวนไปล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิหรือกลายพันธ์เท่านั้น มันยังยากสำหรับเขาที่จะล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิคนเดียว   แม้ว่าเขาจะพยายามไปล่ามอนสเตอร์กลายพันธ์คนเดียว เขาก็ต้องไปที่อย่างหนองน้ำแห่งความมืด ซึ่งมันยากที่จะเดินเข้าไปในหนองน้ำแห่งความมืด เขาต้องบินเข้าและบินออก ทำให้เขาไม่สามารถขนเนื้อของมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆออกมาได้ ดังนั้นถึงเขาไปที่นั่นก็จะไม่ได้อะไรมาก   และในตอนนี้พวกเเบล็คสตริงเกอร์กลายพันธ์ก็ไร้ประโยชน์สำหรับหานเซิ่น เนื่องจากเขากินมันไปเยอะแล้ว เขาทำได้เพียงแค่ขายมัน ส่วนอสูรแมวเหมียวก็ยังกินพวกแบล็คสตริงเกอร์ที่เหลือจากคราวก่อนไม่หมด   แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้รีบร้อน เพราะคริสตัลสีดำจะทำให้เขามีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิทุกๆ 3 เดือน ซึ่งดียิ่งกว่าออกไปล่าเองเสียอีก   หานเซิ่นโอนเงินไปให้แม่ของเขา 1 ล้าน และเขียนอธิบายไว้ด้วยว่าเขาได้มันมาจากในก็อตแซงชัวรี่ เขากลัวว่าแม่ของเขาจะคิดมากเกินไป เขาวางแผนจะทยอยโอนไปเดือนละ 1 ล้าน แม่ของเขาจะได้ไม่ตกใจ มันควรจะเป็นเวลาที่เเม่ของเขาได้มีความสุขกับชีวิตยังจากที่ลำบากมาหลายปี   หานเซิ่นกลับมาที่หอพักตอนกลางดึก และเห็นซื่อจื้อคังอยู่ในห้องคนเดียว เขากำลังสบถขณะเล่นเกม หานเซิ่นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนเขาจะโมโหมาก   เมื่อเห็นหานเซิ่นกลับมา ซื่อจื้อคังก็พูดอย่างโกรธจัด “เซิ่น นายมาได้จังหวะพอดีเลย นายช่วยเข้าเกมแล้วมาสั่งสอนไอ้พวกบ้านี่ให้หน่อย”   “พวกมันเป็นใคร?” หานเซิ่นเดินไปข้างๆซื่อจื้อคัง และเห็นซื่อจื้อคังอยู่ในห้องเล่นเกมกับผู้เล่นอีก 2 คน ไอดีหนึ่งชื่อ เบอร์ดี้ และอีกไอดีชื่อ แมนก็อด   ซื่อจื้อคังกำลังถูกเบอร์ดี้และแมนก็อดพิมพ์ด่าอยู่ ซึ่งทำให้เขาหัวเสียมาก     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 427 เเล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 121 ปราบเรียบ
Super God Gene – ตอนที่ 121 ปราบเรียบ

ไม่กี่วินาทีต่อมา หน้าของซื่อจื้อคังก็ซีดทันที ตาของเขาเบิกกว้างและมือของเขาสั่น “เซิ่น เวรเอ้ย เอ็งเป็นเคนชิโร่กลับชาติมาเกิดรึไงฟ่ะ?”   เมื่อเห็นความเร็วในการเคลื่อนไหวของมือหานเซิ่น ซื่อจื้อคังก็ยิ่งช็อคขึ้นไปอีก เขาเริ่มตื่นตระหนกจนไม่สามารถจิ้มนิ้วไปที่จุดไหนได้เลย   “จื้อคัง นายนี่มันร้องเหมือนหมูถูกเชือดเลย เลิกเวอร์สักทีเถอะ” ลู่เหมินยังคงเล่นออนไลน์อยู่ แต่เหมือนซื่อจื้อคังจะทำให้เขาเสียสมาธิ   ซื่อจื้อคังยอมแพ้ และมองดูมือของหานเซิ่นที่กำลังเคลื่อนไหวเหมือนกับเต้นระบำ เขาไม่ต้องการเล่นอีกต่อไปแล้ว   ซื่อจื้อคังหันมาพูดกับลู่เหมิน “เซิ่นเป็นสุดยอดฝีมือจริงๆ ฉันเชื่อว่าในห้องเราไม่มีใครสู้มันได้”   ลู่เหมินหันมาพูด “นายแพ้เพราะนายอ่อนเองรึป่าว อย่าคิดว่าคนอื่นจะอ่อนแบบนายสิ”   “เหมิน ถึงนายจะดีกว่าฉันแค่นิดหน่อยก็อย่าเพิ่งทำคุยไป เพราะต่อให้นายมาเล่นกับเซิ่นแทนฉัน นายก็จะแพ้เขาเหมือนกัน” ซื่อจื้อคังเริ่มขึ้นเสียง   “เดี๋ยวฉันจะโชว์ให้นายดูเองว่าใครคือของจริง ถ้าฉันชนะเดือนนี้นายต้องทำความสะอาดห้องแทนพวกเราทั้งเดือน?” ลู่เหมินพูด   ใบหน้าของซื่อจื้อคังเริ่มมีรอยยิ้ม แต่เขาต้องปกปิดมันไว้ เขาแกล้งทำเป็นลังเลและพูด “ก็ได้ แต่ถ้านายแพ้นายก็ต้องทำเหมือนกัน”   “ไม่มีปัญหา รอให้ฉันเล่นจบเกมนี้ก่อนเถอะ” ลู่เหมินเชื่อมั่นในตัวเองมาก เขาผ่านระดับผู้ยังไม่วิวัฒนาการ-9ได้แล้ว ซึ่งถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว แม้ว่าเขาจะไม่ได้เก่งที่สุด แต่ก็เข้าร่วมชมรมหัตถ์พระเจ้าได้สบายๆ   นอกจากนี้การที่พวกเขาอยู่หน่วยธนู ซึ่งเป็นหน่วยที่ไม่ได้ต้องการความเร็วอะไรมาก โดยปรกติแล้วพวกนักเรียนธนูจะเล่นเกมนี้ไม่เก่งสักเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่หานเซิ่น   ลู่เหมินคิดว่าไม่มีเพื่อนร่วมห้องคนไหนเอาชนะเขาได้ และที่ซื่อจื้อคังแพ้หานเซิ่นก็เพราะว่าฝีมือของเขานั้นอ่อนหัด ใครๆก็สามารถเอาชนะเขาได้ ดังนั้นลู่เหมินไม่เชื่อคำพูดของซื่อจื้อคังที่ว่าหานเซิ่นนั้นเก่ง   ลู่เหมินเพิ่งจะเล่นจบเกม และคะแนนก็ปรากฏต่อหน้าพวกเขา “เห็นไหม? ดูชัยชนะนี่ 63 ต่อ 45 ฉันเป็นอัจฉริยะ”   “นั่นมันไร้ประโยชน์ เดี๋ยวถ้านายเล่นกับเซิ่น นายก็รู้เอง” ซื่อจื้อคังยิ้ม และหันไปมองหานเซิ่น “เซิ่น นายไม่อยากทำความสะอาดใช่ไหม? ถ้านายชนะหมอนี่ได้ พวกเราจะสบายไป 1 เดือน”   หานเซิ่นยิ้มและพูด “ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง”   ลู่เหมินชวนหานเซิ่นเข้ามาในห้องเล่นเกม และพูดอย่างสบายๆ “เซิ่น ชื่อไอดีนายจะทำให้นายลำบาก ถ้าไม่เชื่อฉันนายลองไปเล่นออนไลน์ดู คงมีคนอยากจะสั่งสอนนายเต็มไปหมด”   “แบบนั้นก็สนุกสิ” หานเซิ่นยิ้ม   “ความล้มเหลวก็ไม่ได้แย่เสมอไป มันจะช่วยให้นายพัฒนา” ลู่เหมินกดเริ่มเกม เขาหยิบขวดน้ำขึ้นดื่มอย่างช้าๆ ขณะกำลังดื่ม เขาก็ยั่วยุซื่อจื้อคัง “จื้อคัง รอดูฉันจะชนะเซิ่นด้วยมือข้างเดียว”   “เยี่ยม เหมิน เยี่ยมมาก” ซื่อจื้อคังยืนกอดอก เขากำลังรอดูใบหน้าของลู่เหมินตอนแพ้อย่างหมดรูป ‘ทุกคนเขาก็ใช้มือเดียวในโหมดดวลกันเป็นปรกติอยู่แล้ว ฉันจะรอดูนาย’ ซื่อจื้อคังคิดในใจ   “แน่นอน” ลู่เหมินพูดอย่างภูมิใจ เขาไม่ได้ตระหนักว่าซื่อจื้อคังไม่ได้ต้องการจะชื่นชมเขา   พอการนับถอยหลังจบลง ก็มีจุดปรากฏขึ้นมา ลู่เหมินก็ไม่ได้วางขวดน้ำลงแต่อย่างใด เขายื่นมือไปสัมผัสจุดขณะดื่มน้ำ เขาไม่ได้ให้ความสนใจมือของหานเซิ่นเลย   เขารู้สึกว่าแค่เล่นแบบสบายๆ เขาก็ชนะหานเซิ่นได้อย่างแน่นอน เพียงแค่จุดปรากฏขึ้นมาไม่กี่จุด เขาก็เหลือบไปดูหานเซิ่น และรู้สึกว่าความเร็วมันผิดปรกติ   เมื่อมองดูชัดๆเขาก็ต้องตกตะลึง เขาลืมแม้จะกระทั่งวิธีจิ้มให้โดนจุด ขวดน้ำยังคงคาอยู่ที่ปากของเขา เขาค้างอยู่ในท่านั้นโดยที่ไม่ขยับอยู่พักใหญ่   มือของหานเซิ่นกำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ ราวกับว่าเขาลงโปรแกรมลับบางอย่างเข้าไป ทุกจุดที่ปรากฏขึ้นมาหายไปจนหมด   ลู่เหมินเลือกระดับผู้ยังไม่วิวัฒนาการ-10 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าระดับที่เขาเล่นได้ เขาไม่สามารถเคลียร์แม้แต่จุดที่อยู่ฝั่งของเขาได้ ขณะที่หานเซิ่นเคลียร์ฝั่งของตัวเองจนหมด และก็ข้ามมาเคลียร์ฝั่งของเขาด้วย ซึ่งดูเหมือนว่าเขายังดูสบายๆอยู่เลย   “เหมิน ไหนบอกว่าจะชนะเซิ่นด้วยมือข้างเดียวไง? ตอนนี้จะใช้ 2 มือช่วยก็ได้นะ ฮาฮา..” ซื่อจื้อคังมองดูใบหน้าช็อคๆของลู่เหมิน และก็หัวเราะออกมา   “เซิ่น นายเคยผ่านระดับผู้ยังไม่วิวัฒนาการ-10งั้นหรอ?” ลู่เหมินถาม   “ใช่” หานเซิ่นตอบอย่างสบายๆ ความจริงแล้วเขาผ่านระดับผู้วิวัฒนาการ-4 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าระดับผู้ยังไม่วิวัฒนาการ-10 อยู่หลายขั้น   “เชี่ยย!” ลู่เหมินเลิกเล่น และก็ร้องออกมา “บ้าชัดๆ ใครจะไปชนะได้ จื้อคัง นายหลอกฉันนี่หว่า”   “นายเป็นคนพูดเรื่องทำความสะอาดขึ้นมาเองไม่ใช่หรอ?” ซื่อจื้อคังพูด   “ผู้ยังไม่วิวัฒนาการ-10? เซิ่นมาลองเล่นกันหน่อยสิ” จางหยางได้ยินที่พวกเขาคุยกัน และรู้สึกมีไฟขึ้นมาทันที   หลังจากนั้น หานเซิ่นก็เอาชนะจางหยางได้อย่างง่ายดาย ระดับของจางหยางนั้นดีกว่าลู่เหมินเล็กน้อย พวกเขาทั้งคู่น่าจะอยู่แถวระดับผู้ยังไม่วิวัฒนาการ-9   “ขอลองอีกครั้ง” จางหยางยังไม่ยอมแพ้ เมื่อเขาแพ้อีกครั้ง “ขอลองอีกครั้ง” จางหยางต้องการเล่นอีกครั้ง เมื่อเขาแพ้อีกครั้ง “อีกครั้ง” หัวของจางหยางเกือบจะไหม้แล้ว “พี่ชาย พอแค่นี้ดีกว่าจะนับว่าผมแพ้ก็ได้” หานเซิ่นขอถอนตัว   “ในที่สุด ฉันก็เจอคู่ต่อสู้ที่คู่ควร เซิ่น เป็นการต่อสู้ที่ดีจริงๆ!” จางหยางพูดอย่างตื่นเต้น และลากหานเซิ่นกลับไปเล่นต่อ เมื่อลู่เหมินกับซื่อจื้อคังเห็นก็หัวเราะคิ๊กคัก   “จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ผมต้องเล่นสุดฝีมือให้เขาเห็นสักครั้ง เขาจะได้ไม่อยากเล่นกับผมอีก” ตาของหานเซิ่นเริ่มลุกเป็นไฟ     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 424 เเล้วครับ