ซินเสวียนแทบจะหยุดหายใจ เมื่อเธอเห็นมือของหานเซิ่นกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว   ผ่านมาครึ่งทางของผู้วิวัฒนาการ-3แล้ว หานเซิ่นยังไม่มีข้อผิดพลาด มือของเขารวดเร็วจนบางครั้งเธอแทบจะมองไม่ทัน ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจมาก   ถึงแม้ว่าการทดสอบยังไม่เสร็จสิ้น แต่หลังจากที่ได้เห็นซินเสวียนก็สามารถรู้ได้ทันทีเลยว่า ความสามารถของหานเซิ่นนั้นสามารถผ่านระดับผู้วิวัฒนาการ-3ได้อย่างแน่นอน   “ผู้วิวัฒนาการ-3… นี่คือระดับผู้วิวัฒนาการ-3!” ซินเสวียนรู้สึกดีใจกับตัวเอง   เธอเป็นคนพบหานเซิ่น และยืนกรานที่จะเอาเขาเข้ามาในหน่วยให้ได้ ความสามารถที่โดดเด่นของเขาพิสูจน์ให้เธอเห็นแล้วว่าการตัดสินใจของเธอนั้นถูกต้อง   ผู้ยังไม่วิวัฒนาการที่สามารถผ่านระดับผู้วิวัฒนาการ-3ของเกมหัตถ์พระเจ้าได้ ถือว่าเป็นสุดยอดในหมู่ผู้ยังไม่วิวัฒนาการด้วยกัน   “ความสามารถของเขาเหมือนจะสูญเปล่า ถ้าต้องเป็นแค่นักธนูหรือนักแม่นปืน” ซินเสวียนเริ่มลังเล เธอรู้สึกว่าความสามารถของหานเซิ่นนั้นเหมาะจะมาสู้แนวหน้ามากกว่าแนวหลัง เธอคิดว่าหานเซิ่นมีพรสวรรค์สูงมากเกินกว่าที่จะเป็นแค่นักธนู   ติ๊ง! เสียงที่ดังขึ้นขัดจังหวะการคิดของซินเสวียน มันคือเสียงแจ้งเตือนว่าหานเซิ่นนั้นผ่านระดับผู้วิวัฒนาการ-3แล้ว เธอไม่ได้ตกใจอีกต่อไป เพราะเธอคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่านี่ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา   แต่เธอรู้สึกเชื่อมั่นใจหานเซิ่นมากขึ้น เขามีศักยภาพที่น่าเหลือเชื่อ และเธอยังรู้สึกว่าเขายังมีความสามารถในด้านอื่นที่โดดเด่นอีกมาก   ‘เขาเป็นคนที่เราเลือกมา’ ซินเสวียนรู้สึกมีไฟขึ้นมา ขณะที่ดูหานเซิ่นเริ่มเล่นระดับผู้วิวัฒนาการ-3อีกครั้ง   แม้แต่ซินเสวียนเองก็ไม่คิดว่าเธอจะหวังในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ได้ ซึ่งเขาเป็นคนที่แทงก้นเธอตั้งแต่วันแรกที่เข้าในก็อตแซงชัวรี่   ‘ผู้วิวัฒนาการ. แล้วถ้าเกิดเขาเก็บจีโนพ้อยได้เยอะๆและวิวัฒนาการ เขาจะสามารถไปได้ถึงระดับไหนกัน?’ ซินเสวียนรู้สึกตื่นเต้น เธอดูหานเซิ่นเงียบๆอยู่นาน ก่อนที่เธอจะเดินออกจากยิมไป   ‘บางทีฉันควรต้องบอกม่านลี่ให้เพิ่มโปรแกรมการฝึกของเขาให้หนักกว่าเดิม’ ซินเสวียนคิดพร้อมกับยิ้ม   10 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว หานเซิ่นติดอยู่ที่ระดับผู้วิวัฒนาการ-4 ยังไม่สามรถผ่านระดับนี้ไปได้   การเล่นหัตถ์พระเจ้านั้นไม่ใช่เพียงแค่ช่วยในการควงมีดเท่านั้น แต่มันยังช่วงให้เขาใช้เพลงดาบวายุได้แม่นยำ และว่องไวมากยิ่งขึ้น   “การแข่งขันระหว่างแชมเปี่ยนของแต่ละเมืองกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ผมจะต้องติด 1 ใน 10 ให้ได้” หานเซิ่นศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งปีก่อนๆมาเป็นอีกดี เขารู้สึกว่าเขามีโอกาส   ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเขาแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะว่าผู้ถูกเลือกหลายคนวิวัฒนาการไปยังก็อตแซงชัวรี่เขต 2 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่าเขามีคู่แข่งเก่งๆน้อยลง   หานเซิ่นศึกษาคู่แข่งของเขามา และพบว่ามีคู่แข่งที่น่ากลัวอยู่ 2 คนก็คือถังเจียงลิ่ว และหลินเฟิง   ถังเตียงลิ่วเป็นผู้ถูกเลือกมาหลายครั้งแล้ว และในปีที่แล้วเขาได้อันดับ 5 ซึ่งในปีนี้ 3 ใน 4 ของผู้ถูกเลือก 4 อันดับแรกได้ไปยังก็อคแซงชัวรี่เขต 2 กันหมดแล้ว คนเดียวที่เหลืออยู่คือหลินเฟิง ซึ่งมีชื่อคล้ายๆกับเพื่อนของหานเซิ่น หลินเป้ยเฟิง หลินเฟิงได้อันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว   ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในปีนี้ถังเตียงลิ่วกับหลินเฟิงต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ชนะเลิศของปีนี้แน่นอน   หานเซิ่นอ่านข้อมูลที่ถูกบรรยายโดยผู้ชนจำนวนมากที่ได้ดูการแข่งเมื่อปีก่อน และพบว่าเขาทั้ง 2 นั้นแข็งแกร่งจริงๆ   พวกเขามีทักษะการต่อสู้สูง และมีวิญญาณอสูรจำนวนมาก รวมถึงวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่พวกเขาได้รับเป็นรางวัลเมื่อปีก่อนด้วย พวกเขาต้องยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีกแน่ในปีนี้   หานเซิ่นนั่นเคยพบถังเตียงลิ่วมาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะเอาชนะถังเตียงลิ่วได้ แต่นั้นก็เป็นแค่การเล่นเกม ซึ่งต้องขอบคุณความสามารถในการคาดการณ์ และปฏิกิริยาการตอบสนองของเขา แต่ในการต่อสู้จริงๆมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง   “ทำไมทั้ง 2 คนนี้ถึงยังไม่ไปก็อตแซงชัวรี่เขต 2 กันนะ?” หานเซิ่นเริ่มกังวลหลังจากที่ได้อ่านข้อมูล นอกจากความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาจะสู้แล้ว วิญญาณอสูรของพวกเขาก็น่ากลัวมาก   ‘หวังว่าผมจะไม่เจอพวกเขาในรอบแรกๆ ไม่งั้นคงต้องลำบากแน่ ถึงแม้ว่าผมจะชนะผ่านไปได้ก็คงต้องใช้พลังงานมาก ซึ่งมันจะทำให้เสียเปรียบในรอบต่อไป’ หานเซิ่นคิด   เขาจะได้รับวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิตราบใดที่เขาติด 1 ใน 10 ซึ่งวิญญาณอสูรจะถูกแจกโดยการสุ่ม ดังนั้นหานเซิ่นไม่ได้หวังที่ 1 เขาขอแค่เป็น 1 ในผู้ถูกเลือกก็พอแล้ว   ตอนที่หานเซิ่นกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ ก็มีเสียงคอมของเขาดังขึ้นมา หานเซิ่นหันไปมอง และเห็นเบอร์โทรแปลกๆ หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาไม่แน่ใจว่าเป็นใคร และรับสายอย่างลังเล   เหนือกว่าที่หานเซิ่นคาดไว้ ภาพโฮโลแกรมที่ปรากฏออกมาคือถังเตียงลิ่ว “ประหลาดใจรึป่าว?” ถังเตียงลิ่วหัวเราะ   “แน่นอน มีเรื่องอะไรรึป่าว?” หานเซิ่นถาม   “ฉันมีงานดีๆจะให้นายช่วยหน่อย” ถังเตียงลิ่วพูด   “ผมขอฟังก่อน ผมไม่แน่ใจว่าจะช่วยได้รึป่าว” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   “นายช่วยได้แน่นอน มันต้องเป็นนายเท่านั้น แต่ไม่ต้องกังวล นายสามารถเรียกร้องค่าจ้างเท่าไหร่ก็ได้” ถังเตียงลิ่วพูด   “แล้วตกลงมันเป็นงานแบบไหน?” หานเซิ่นเริ่มสนใจ   “ฉันขอพูดคุยเป็นการส่วนตัว ตอนนี้นายอยู่บ้านรึป่าว? ฉันจะไปรับนาย” ถังเจียงลิ่วรีบพูด   “ไม่จำเป็น บอกสถานที่ผมมาก็พอแล้ว เดี๋ยวผมจะไปพบคุณเอง” หานเซิ่นรู้สึกแปลก พรุ่งนี้การแข่งขันก็จะเริ่มอยู่แล้ว ถังเตียงลิ่วตั้งใจจะทำอะไรในวันนี้?   “มันจะเกี่ยวกับการประลองรึป่าว?” หานเซิ่นรู้สึกสงสัย เขาจำเป็นต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าถังเจียงลิ่วจะทำอะไร   Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 340 แล้วครับ

เพราะความเข้าใจผิด ทำให้หานเซิ่นยังคงฝึกเล่นเกมหัตถ์พระเจ้าอย่างต่อเนื่อง เขากำลังท้ายระดับผู้วิวัฒนาการของเกมหัตถ์พระเจ้า เขากำลังพัฒนาไปทีละนิดโดยใช้กายหยกช่วย   ในตอนนี้หยางม่านลี่นั้นพอใจหานเซิ่นมาก เขาตั้งใจฝึกตามโปรแกรมฝึกที่เธอออกแบบ ส่วนห้องแรงโน้มถ่วงข้อมูลเป็นปรกติดี เธอคิดว่าหานเซิ่นคงเลิกใช้วิธีโกงแล้ว แต่เธอยังไม่รู้เรื่องที่หานเซิ่นเพิ่มระดับความยากขึ้น เพื่อให้สัมพันธ์กับความสามารถจริงๆของเขา   ตอนนี้เวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว และหานเซิ่นเป็นคนเดียวที่อยู่ในยิม เขากำลังเล่นเกมหัตถ์พระเจ้า ซึ่งเขาพบว่าเกมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ   ตั้งแต่ที่หานเซิ่นฝึกกายหยก ความสามารถในการควบคุมกระดูกและกล้ามเนื้อของเขาดีขึ้นมาก และยังร่วมถึงความยืดหยุนของร่างกายก็สูงขึ้นด้วย เกมนี้สามารถช่วยพัฒนาปฏิกิริยาตอบสนอง และความเร็ว ซึ่งเป็นประโยชน์กับการควงมีด และเป็นประโยชน์กับวิชาที่ต้องใช้มือเป็นหลัก   ซินเสวียนเทเลพอร์ตออกจากก็อตเเซงชัวรี่ เพื่อมาหาหยางม่านลี่ แต่เมื่อเดินผ่านโรงยิม เธอเห็นแสงไฟในยิมที่ยังเปิดอยู่ และดูเหมือนว่ายังมีคนอยู่ในนั้น เธอสงสัยเลยเข้าไปดู และเห็นหานเซิ่นกำลังเล่นหัตถ์พระเจ้าอยู่   ซินเสวียนรู้สึกคิดถึงเกมนี้ เธอเคยเล่นมันตอนที่เธออยู่โรงเรียนทหาร เธอใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกมัน   ถึงแม้ว่าระบบพาหนะเดินทางแบบอัตโนมัติจะถูกใช้เป็นหลักในกาแล็คซี่มานานแล้ว แต่ระบบคนบังคับก็ยังจำเป็นอยู่ ในสงครามระหว่างดวงดาวระบบคนบังคับถือเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้ได้เปรียบในการต่อสู้   ในปัจจุบันความสามารถของนักบินถือปัจจัยใจสำคัญที่จะกำหนดผลแพ้ชนะของสงคราม นักเรียนในโรงเรียนทหารจะต้องฝึกบังคับยานเหาะ และการจู่โจมดวงดาว ซึ่งเกมหัตถ์พระเจ้าคือหนึ่งในวิธีฝึกที่ดีที่สุดในการเพิ่มความเร็ว และปฏิกิริยาการตอบสนอง ซึ่งเป็นประโยชน์กับการสู้รบโดยตรง   ซินเสวียนรู้สึกว่าเธอควรจะต้องเข้าไปสอนหานเซิ่นเกี่ยวกับเคล็ดลับของการเล่นเกมนี้ เขาเป็นคนที่เธอเลือกมา เธออยากจะให้เขาฝีมือดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้   “ขอดูก่อนดีกว่าว่าเขามีฝีมือขนาดไหน” ซินเสวียนเลือกที่จะแอบดูก่อนที่จะเข้าไปหาหานเซิ่น ถึงเธอจะอยู่ห่างจากเขา แต่เธอก็เห็นเขาเล่นพลาดอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงอยากเขาไปแนะนำ   แต่เมื่อซินเสวียนเดินมาดูใกล้ๆ เธอก็เห็นว่าจุดภาพโฮโลแกรมที่ขึ้นมามันหายไปเร็วมาก ซึ่งทำให้เขาพลาดอย่างต่อเนื่อง   “เขาเลือกระดับไหนกันเนี่ย?” ซินเสวียนเช็คข้อมูลบนหน้าจอ   “ผู้วิวัฒนาการ-3?” ซินเสวียนขมวดคิ้ว เธอคิดว่าหานเซิ่นนั้นทะเยอทะยานเกินตัว ระดับผู้วิวัฒนาการถูกออกแบบมาให้ผู้ที่วิวัฒนาการแล้วฝึก ถึงจะมีผู้ที่ยังไม่วิวัฒนาการบางคนสามารถเล่นระดับนี้ได้ แต่ก็หาได้ยากมาก   แม้แต่ซินเสวียนในปัจจุบัน เธอยังทำได้แค่ผ่านระดับผู้วิวัฒนาการ-2เป็นบางครั้ง ซึ่งถือว่าสุดยอดมากแล้วสำหรับผู้ที่ยังไม่วิวัฒนาการ เพราะผู้ยังไม่วิวัฒนาการไม่ควรมาเล่นอยู่ระดับนี้ด้วยซ้ำ แต่หานเซิ่นกำลังท้าทายระดับผู้วิวัฒนาการ-3อยู่ และดูเหมือนว่าเขาจะหวังสูงเกินไป   เธอคิดว่าจะไม่เข้าไปขัดจังหวะหานเซิ่น เพียงแค่ดูเขาเล่นพลาดไปเรื่อยๆ เธอต้องการสอนบทเรียนให้เขารู้จักยอมรับความพ่ายแพ้   พอดูไปสักพักซินเสวียนก็ต้องประหลาดใจ ถึงหานเซิ่นจะพลาดบ่อยก็จริง แต่ยิ่งเขาเล่นไปมากเท่าไหร่ เขายิ่งผิดพลาดน้อยลงเรื่อยๆ   สำหรับคนที่เล่นเกมนี้มานานอย่างซินเสวียน เธอรู้ดีว่าเมื่อถึงขีดจำกัดของตัวเองเมื่อไร ไม่ว่าจะพยายามหนักแค่ไหนก็ไม่สามารถปรับปรุงได้ภายใน 1 เดือน ขีดจำกัดก็คือขีดจำกัด การฝึกไม่สามารถทำให้เราทะลุขีดจำกัดของตัวเองไปได้ง่ายๆ   จุดประสงค์ของเกมหัตถ์พระเจ้าคือการแสดงศักยภาพสูงสุดของผู้เล่นออกมา แต่การเล่นมันเรื่อยๆจะไม่สามารถเพิ่มศักยภาพได้   ตอนนี้หานเซิ่นปรับปรุงศักยภาพของเขาขึ้นเรื่อยๆ นั้นหมายความว่าระดับผู้วิวัฒนาการ-3ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา ถึงทำให้เขาสามารถลดความผิดพลาดของตัวเองได้เรื่อยๆ   “ระดับผู้วิวัฒนาการ-3ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา พรสวรรค์ของเขาไม่ธรรมดาเลย” ซินเสวียนเห็นพรสวรรค์ในตัวของหานเซิ่นมานานแล้ว แต่เธอไม่ได้หวังว่าเขาจะมีความสามารถในการเล่นเกมนี้ด้วย   ตอนที่เธออยู่ในโรงเรียนทหาร แชมเปี่ยนของโรงเรียนเธอทำได้เพียงแค่ผ่านระดับผู้วิวัฒนาการ-3 ซึ่งเขาติด 1 ใน 10 ของกาแล็คซี่ ทุกคนต่างรู้จักเขาดีว่าเขาเป็นคนที่มีความคล่องแคล่วว่องไวและความแม่นยำ จนตั้งชื่อเล่นให้เขาว่า ‘หัตถ์สายฟ้า’   การที่หานเซิ่นขึ้นมาถึงระดับนี้โดยที่ยังไม่ได้ผ่านการฝึกแบบมืออาชีพทำให้เธอรู้สึกช็อคมาก   “หรือเขาจะสามารถผ่านระดับผู้วิวัฒนาการ-3ได้” ซินเสวียนยืนอยู่ไม่ไกล และดูหานเซิ่นแบบตาไม่กระพริบ   หานเซิ่นไม่ได้สังเกตเห็นซินเสวียน ตอนนี้เขากำลังเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่จุดที่ปรากฏขึ้นมา และเขากำลังใช้วิชากายหยกช่วยอย่างเต็มที่ “เร็วขึ้นอีก ผมสามารถเร็วมากกว่านี้ได้อีก!”   แขนของหานเซิ่นนั้นขยับเร็วมาก แขนของเขาเคลื่อนไหวแปลกๆราวกับงู เขาใช้กล้ามเนื้อแขน และนิ้วมือทั้งหมด ในการจิ้มไปยังจุดที่ปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง   ก่อนหานเซิ่นจะขึ้นมาในระดับผู้วิวัฒนาการ-3ได้ เขามีประสบการณ์ความผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วน เขารู้สึกว่ามันยิ่งง่ายขึ้นเรื่อยๆถ้าเขาพยายาม ครั้งนี้หานเซิ่นรู้สึกว่าเขาต้องผ่านระดับผู้วิวัฒนาการ-3ได้อย่างแน่นอน     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 334 แล้วครับ