Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 89 ผมเเข็งเเกร่งที่สุด
Super God Gene – ตอนที่ 89 ผมเเข็งเเกร่งที่สุด

“ตอนนี้นายมีอะไรจะพูดกับฉันไหม” หยางม่านลี่เดินเข้ามาหาหานเซิ่นที่กำลังยืนเหมือนรูปปั้น   หานเซิ่นยังฝึกกายหยกไม่ถึงขั้น ดังนั้นความเหนื่อยล้าของเขายังไม่หายไปทั้งหมด การที่เขายืนอยู่แบบนี้มา 3 ชั่วโมงแล้ว ทำให้เหงื่อของเขาเปียกโชกไปทั้งตัว   แต่แม้จะเป็นแบบนั้น แต่การรั้งสายธนูของเขาก็ยังตึงจนสุด และมือของเขาแทบจะไม่ขยับเขยื้อนให้เห็นเลย   หยางม่านลี่คิดว่าบางทีหานเซิ่นอาจจะมีพรสวรรค์ในด้านความอดทน เขายืนแบบนี้มานานกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว มือของเขาก็ยังมั่นคง เขาต้องเป็นนักธนูที่ยิ่งใหญ่ได้แน่นอน   “ผมไม่มีอะไรจะพูด” หานเซิ่นตอบ   “ดี เนื่องจากนายอึดมากงั้นก็ยืนต่อไปแบบนั้นแหละ” หยางม่านลี่เดินออกจากยิมโดยไม่หันกลับมามอง เธอดูหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ยอมรับในความอึดของหานเซิ่น แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังทำแบบเขาไม่ได้   หลังจากหยางม่านลี่ลงไปดูด้วยตัวเอง และแน่ใจแล้วว่าเขาไม่ได้โกง เธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเขายังมีพลังพอที่จะยืนต่อไปได้   ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการวัดความทนทานอย่างเดียว ซึ่งอาจจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าเขาก็มีความสามารถโดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง   “ทำไมเขาถึงอึดได้ขนาดนั้นนะ?” หยางม่านลี่คิด เพราะระดับความแข็งแกร่งของหานเซิ่นน้อยกว่าเธอ ซึ่งเขาไม่น่าจะทำแบบนั้นได้   หลังจากกลับไปที่ห้องทำงาน หยางม่านลี่ก็ยังเฝ้าดูหานเซิ่นผ่านจอมอนิเตอร์ เธออย่างรู้ว่าเขาจะยืนต่อไปได้ถึงขนาดไหน แล้วอีกอย่างเธอก็กลัวว่าแขนของเขาจะได้รับบาดเจ็บ   ถึงเธอจะไม่อยากให้หานเซิ่นเข้าทีม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอต้องอยากให้เขาได้รับบาดเจ็บ แถมเธอยังชอบที่หานเซิ่นไม่ได้สารภาพชื่อของทหารที่บอกทริคแก่เขา ถ้าเขาสารภาพออกมา เธอยิ่งจะมองว่าเขาไม่ใช่ลูกผู้ชาย   หลังจากผ่านไปสักพัก พวกทหารที่ออกไปหาอะไรกินก็แอบกลับเข้ามาในยิม “น้องชายดื่มเครื่องดื่มชูกำลังสักหน่อย เพื่อจะได้เพิ่มความแข็งแรงขึ้น” ทหารเปิดขวดเครื่องดื่มที่เขาซื้อมา และป้อนให้หานเซิ่น   “กินอะไรหน่อย ถึงแม้ว่าเนื้อนี้จะไม่ได้ดีเหมือนเนื้อในก็อตเเซงชั่วรี่ แต่มันทำโดยเชฟฝีมือดี รสชาติของมันดีมาก” ทหารอีกคนยื่นบาบีคิวไปใกล้ๆปากของหานเซิ่น   “ไม่เป็นไร เหลือเวลาอีกแค่ 1 ชั่วโมงแล้ว ผมต้องทำให้ม่านลี่พอใจ ผมกลัวว่าเธอจะบอกว่าผมพึ่งพาพวกพี่ๆ” หานเซิ่นพูด   “น้องชาย นายมันทรหดจริงๆ ฉันไม่ค่อยชื่นชมใครง่ายๆนะ แต่ฉันต้องยอมรับนายเลยจริงๆ” “ใช่แล้ว ขอฉันรู้ชื่อนายหน่อย” ทหารอีกคนพูด “หานเซิ่น” หานเซิ่นตอบ “นายอายุเท่าไหร่ เกิน 17 ปีใช่ไหม?” “จริงๆผมยังไม่ถึงวันเกิดปีที่ 17 เลย” หานเซิ่นตอบ “พวกวัยรุ่นสมัยนี้มันแข็งแรงขนาดนี้เชี่ยวหรอ?” “เรื่องอื่นผมไม่รู้ แต่ถ้าเรื่องความอึดผมคิดว่าผมไม่แพ้ใคร” หานเซิ่นตอบอย่างภูมิใจ “อย่าไปชวนเขาคุยมาก มันเปลืองพลังงาน”   พวกทหารเห็นหานเซิ่นยังสบายดี แต่พวกเขายังไม่อยากกลับก่อน พวกเขาเลยตั้งโต๊ะเล่นไพ่กันอยู่ภายในโรงยิม   หานเซิ่นคิดในใจ ‘บ้าเอ้ย พวกเขาอยากจะช่วยหรือจะทำให้เสียสมาธิกันแน่?’   เมื่อหานเซิ่นยืนครบ 4 ชั่วโมงแล้ว พวกทหารก็เก็บไพ่และธนูของหานเซิ่น พร้อมกับจะพาหานเซิ่นไปใช้เครื่องนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อ   “ไม่เป็นไร ผมไม่ต้องการนวด ตอนนี้มันดึกมากแล้วผมต้องกลับบ้าน” หานเซิ่นรีบโบกมือลา เขาเคยเห็นเครื่องแบบนี้มาก่อน มันต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงในการนวด ซึ่งเขาไม่ต้องการเสียเวลามากขนาดนั้น   “นี่มันจะไม่ค่อยดี นายใช้กล้ามเนื้อเป็นเวลานานมาก ซึ่งมันอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ นายควรคลายกล้ามเนื้อก่อน จริงๆนายควรต้องอยู่ในเครื่องอย่างน้อย 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำ” ทหารพูดอย่างจริงจัง   “ไม่เป็นไรหรอกครับ” หานเซิ่นรอ 3 ชั่วโมงไม่ได้จริงๆ ขณะที่พวกทหารพยายามยืนกรานจะให้เขาใช้เครื่องนวด แต่เขาใช้วิชาปีศาจพันธการสลัดพวกเขาออกมาได้   “พี่ชาย ผมไม่เป็นไรจริงๆ ถ้าไม่เชื่อเดียวผมจะโชว์ให้ดูว่าผมยังมีพลังเหลือเฟือ” หานเซิ่นพูด และเดินไปใช้เครื่องยิมนาสติกของพวกทหาร   เมื่อพวกทหารเห็นหานเซิ่นใช้อุปกรณ์ยิมนาสติกได้อย่างคล่องแคล่ว พวกเขาก็จ้องมองหานเซิ่นด้วยสีหน้าเหมือนกับเห็นผี “บ้าไปแล้ว! นายนี่มันมอนสเตอร์ในร่างมนุษย์ชัดๆ” ทหารตะโกนออกมาทันทีเมื่อเห็นหานเซิ่นเล่นเสร็จ “คนเหล็กชัดๆ!” “นายมันเป็นปีศาจ!”   หลังจากที่เล่นเสร็จ หานเซิ่นรีบออกจากสถานีเทเลพอร์ตทันที มันเป็นเวลาตี 1 แล้ว แม่กับน้องของเขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน เขาต้องทำอาหารกินเองก่อนที่จะเข้านอน ถึงแม้ว่าร่างกายของเขายังสบายดี แต่เขารู้สึกเหนื่อยล้ามาก เขาหลับทันทีที่หัวถึงหมอน   เขาตื่นมาอีกทีก็เป็นตอนบ่ายแล้ว หานเซิ่นตื่นมายืดกล้ามเนื้อ และรู้สึกว่าพวกมันยังสบายดีไม่ได้บาดเจ็บอะไร ราวกับว่าเซลล์กล้ามเนื้อของเขาฟื้นคืนสภาพกลับมาเหมือนเดิมแล้ว และเขายังพบว่าวิชากายหยกพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ   “ดูเหมือนว่ากายหยกยิ่งฝึกในสถานการณ์ที่หนักและเข้มข้นก็จะยิ่งพัฒนาได้ไว” หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจ หานเซิ่นไม่รีบร้อน เขายังมีเวลาฝึกซ้อมในเครื่องแรงโน้มถ่วงอีกในอนาคต ถึงเขาไม่ทำมันยังไงหยางม่านลี่ก็ต้องสั่งให้เขาทำอยู่แล้ว   หานเซิ่นเริ่มคิดว่าการที่เข้าร่วมกลุ่มกับซินเสวียนเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ามาก แถมยังได้กองทัพมาคอยคุ้มครองครอบครัวของเขาด้วย   เหมือนกับที่ซินเสวียนพูด เซินเทียนจื่อไม่กล้าที่จะมาทำร้ายครอบครัวของเขา ตราบใดที่เขามีกองทัพให้ความคุ้มครองอยู่   ในก็อตแซงชัวรี่เซินเทียนจื่อยำเกรงซินเสวียนมาก ดังนั้นหานเซิ่นเชื่อว่าซินเสวียนจะเป็นตัวช่วยเขา ถ้าเซินเทียนจื่อยังไม่รู้ว่าเขาเป็นดอลลาร์ยังไงเขาก็ไม่มีทางกล้ามายุ่งกับครอบครัวเขาอย่างแน่นอน     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 309 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 88 ความพยายาม
Super God Gene – ตอนที่ 88 ความพยายาม

“ใครบอกนายเกี่ยวกับระบบความปลอดภัย?” หยางม่านลี่จ้องมองไปที่หานเซิ่น แน่นอนว่าเธอรู้ทริคนี้อยู่แล้ว   “ระบบความปลอดภัยอะไร? ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูด” หานเซิ่นแกล้งทำเป็นไม่รู้   “นายไม่ยอมบอกใช่ไหม? ไปเอาธนูฝึกหัด 7.0 มา” หยางม่านลี่สั่งหานเซิ่นอย่างใจเย็น หานเซิ่นไม่รู้ว่าหยางม่านลี่ต้องการอะไร แต่ก็ทำตามที่เธอสั่ง   “นายรั้งสายมันจนสุดได้ใช่ไหม?” หยางม่านลี่มองหานเซิ่นแล้วถาม “แน่นอน” หานเซิ่นพยักหน้า “ดี งั้นรั้งสายธนูจนสุดให้ดูหน่อย” หยางม่านลี่พูด หานเซิ่นฝึกธนูมาอย่างชำนาญ เขารั้งสายธนูจนสุดได้แบบสบายๆ   “ทำได้ไม่เลวนิ” หานเซิ่นแปลกใจเมื่อได้คำชมจากหยางม่านลี่ “แน่นอนอยู่แล้ว แค่นี้ไม่ยาก” หานเซิ่นพูด “ดี งั้นอยู่ท่านั้นจนถึงเที่ยงคืน ถ้านายยังไม่ให้คำตอบที่ฉันต้องการและขยับจากท่านี้ก่อนถึงเที่ยงคืน ก็นายอย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก ถึงแม้หัวหน้าจะมาขอด้วยตัวเองฉันก็จะไม่ยอม” หยางม่านลี่หันหลังและเดินออกไป   เมื่อเห็นหยางม่านลี่เดินออกไป พวกทหารที่เป็นคนบอกวิธีหานเซิ่นก็รีบวิ่งเข้ามาทันที “โทษทีน้องชาย ฉันไม่คิดว่าหยางม่านลี่จะเอาเรื่องนายถึงขนาดนี้ ฉันทำให้นายลำบากแทนที่จะสบาย” “แค่ไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีปัญหา ผมสบายมาก” หานเซิ่นพูดแบบสบายๆ “อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดีเกินไป 20 นาทียังพอว่า แต่นี้เกือบ 4 ชั่วโมง ปรกติพวกเรายังรั้งสายธนู 6.0 ไม่ได้แม้แต่ 2 ชั่วโมงเลย ครั้งนี้ม่านลี่ทำเกินไปจริงๆ” “ฉันว่านายไปสารภาพกับม่านลี่ดีกว่า ไม่งั้นแขนของน้องชายคนนี้ต้องแย่แน่ๆ” ทหารอีกคนพูด “ถ้าทำแบบนั้นดูจากท่าทีของม่านลี่แล้ว นายคงโดนด้วยแน่ๆ” พวกทหารเริ่มบ่นและถอนหายใจ พวกเขาพากันเดินออกจากยิมไปเพื่อพบหยางม่านลี่ “ไม่จำเป็นต้องกังวล ปรกติผมเป็นคนอึดอยู่แล้ว 4 ชั่วโมงผมคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา” หานเซิ่นเรียกพวกเขา ที่กำลังจะเดินไปขอโทษหยางม่านลี่ให้กลับมาก่อน   “มันไม่ใช่ปัญหาว่านายจะอึดขนาดไหน นี่มันทรมานมาก แขนนายอาจจะบาดเจ็บ” หานเซิ่นยิ้ม “งั้นเอางี้ พวกพี่ยังไม่ต้องไป รอดูก่อนถ้าผมไม่ไหวจริงๆ ค่อยไปตอนนั้นก็ยังไม่สาย และม่านลี่จะได้เห็นว่าผมพยายามแล้ว” “ความคิดดีนิน้องชาย งั้นเอาแบบนั้นก่อน ถ้านายเริ่มจะไม่ไหวแล้วให้บอกพวกเรา เดียวพวกเราจะไปหาม่านลี่เอง” พวกทหารถึงจะดูลามกและพึ่งพาไม่ได้มาก แต่พวกเขาก็ยังซื่อสัตย์   หานเซิ่นพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก การยืนอยู่เฉยๆบางครั้งก็ทรมานยิ่งกว่าการเคลื่อนไหวไปมาก ในตอนเริ่มเขาก็ยังสบายๆ แต่เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง กล้ามเนื้อแขนของเขาเริ่มไร้ความรู้สึก หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง เหงื่อของเขาไหลออกมาเป็นสายน้ำ แขนของเขาเหมือนกับถูกไฟเผา ตอนนี้เขาสั่นไปทั้งตัว หานเซิ่นกัดฟัน และเริ่มใช้โอกาสนี้ฝึกกายหยกมันซะเลย ไอเย็นไหลไปตามเส้นเลือดของเขา กล้ามเนื้อที่ไร้ความรู้สึกเริ่มได้รับการฟื้นฟู   หยางม่านลี่มองผ่านจอมอนิเตอร์ เธอจ้องมองหานเซิ่นตลอดเวลา เธอเห็นเขายืนอยู่ท่านั้นตลอด และเริ่มอาการสั่นเมื่อผ่านไป 1 ชั่วโมง ความทนทานของเขาเหนือกว่าที่เธอคิดไว้มาก แม้แต่พวกทหารที่ฝึกอยู่เป็นประจำยังทำไม่ได้ขนาดนี้   หยางม่านลี่คิดว่าเขาคงทนได้แค่ 1 ชั่วโมงกับอีก 30 นาที “กล้ามาโกงในการฝึก ฉันจะต้องให้นายรู้สึกเหมือนตกนรก” หยางม่านลี่ไม่ได้ต้องการให้หานเซิ่นบอกชื่อทหารที่บอกทริคกับเขาจริงๆ การที่เขานิ่งเงียบไว้เป็นการดี เรื่องนี้ทำให้เธอค่อนข้างประทับใจ แต่ถ้าเขาพูดชื่อออกมายิ่งทำให้เขาดูแย่ลง   หลังจากนั่งทำงานได้สักพักหยางม่านลี่ก็เปิดจอมอนิเตอร์ดูอีกครั้ง เมื่อผ่านไป 1 ชั่วโมง 30 นาที เธอก็ยังเขายืนอยู่ท่าเดิม หยางม่านลี่ขมวดคิ้ว ขณะที่หานเซิ่นดูสบายขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง 30 นาที เขาหยุดสั่นและเหงื่อไหลน้อยลง เขาดูผ่อนคลายมาก “เขาขยับรึป่าว?” หยางม่านลี่ไม่มั่นใจเลยต้องย้อนเทปดู และพบว่าหานเซิ่นไม่ได้ขยับไปไหนเลย “แปลก!” หยางม่านลี่ไม่ได้กลับมาทำงานต่อ แต่นั่งดูหานเซิ่นผ่านจอมอนิเตอร์   หานเซิ่นยืนมา 2 ชั่วโมง “น้องชาย นายสุดยอดมาก นายยังไหวอยู่ใช่ไหม?” “นายอึดเกินมนุษย์ไปแล้ว ถ้าความสามารถด้านอื่นของนายดีแบบนี้หมด นายต้องเข้าโรงเรียนทหารส่วนกลางของกาแล็กซี่ได้แน่นอน” “น้องชาย นายคือคนจริง!” ทหารยกนิ้วให้เขา “บอกให้พวกเรารู้นะถ้านายไม่ไหว อย่าเสี่ยงทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ มันไม่คุ้มหรอก” หานเซิ่นยิ้มและพูด “ไม่ต้องห่วงผมยังไหว ผมทนได้ถึงเที่ยงคืนแน่นอน ไม่ต้องมาดูผมบ่อยก็ได้” “น้องชายถ้าทนได้ถึงเที่ยงคืนจริงๆ ต่อไปฉันจะเป็นคนปกป้องนายเอง” “ปกป้อง? นายกล้าสู้กับม่านลี่?” “เอ้ยไม่เอาน่า ฉันก็คือพูดล้อเล่นไม่ได้จริงจัง” พวกทหารไปอาบน้ำและเดินออกไปหาอะไรทำ ปล่อยให้หานเซิ่นอยู่คนเดียวในยิม เขากำลังฝึกกายหยกอย่างลับๆ เขารู้สึกได้ถึงพลังของมันที่ไหลไปตามเซลล์ในร่างกายของเขา และขจัดความเหนื่อยล้าไปจนหมด   เมื่อหานเซิ่นยืนมา 3 ชั่วโมง แม้เเต่หยางม่านลี่ก็ยังต้องช็อค เธอเริ่มสงสัยว่าพวกทหารเเอบเเฮกจอมอนิเตอร์รึป่าว ในที่สุดเธอก็เดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปดูด้วยตัวเอง     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 306 แล้วครับ