หลังจากแบ่งซากมังกรปีกม่วง ทุกคนก็กลับไปที่สตีลอาเมอร์ และซินเสวียนก็เรียกหานเซิ่นไปพบ   “นายได้วิญญาณอสูรใช่ไหม?” ซินเสวียนมองไปที่หานเซิ่น   “หัวหน้าสถานี ผมไม่ได้วิญญาณอสูรจริงๆ ถ้ารู้แบบนี้ผมคงไม่ยิงธนูออกไปหรอก” หานเซิ่นยืนกรานว่าไม่ได้วิญญาณอสูร   ซินเสวียนไม่เชื่อเขา “หยุดเล่นละครสักที ฉันจะไม่เอาเปรียบนาย ถ้านายได้วิญญาณอสูรมาแล้วต้องการขายมัน ฉันจะจ่ายให้นายตามที่ต้องการ”   “หัวหน้าสถานี ผมจะโง่มากถ้าปฏิเสธเงินมากมาย แต่ผมไม่ได้วิญญาณอสูรจริงๆ ถ้าผมได้มันมา ผมคงเอาออกมาอวดคุณไปแล้ว” หานเซิ่นทำหน้าตาหดหู่   ซินเสวียนเห็นท่าทางหดหู่ของหานเซิ่น เธอก็เริ่มคิดว่าเขาน่าจะไม่ได้วิญญาณอสูรจริงๆ เธอขมวดคิ้วและพูดต่อ “ลืมมันไปเถอะ ช่วงนี้พยายามอยู่กับทีมบูลอายไว้ อย่าไปที่ไหนคนเดียว เซินเทียนจื่ออาจจะพยายามฆ่านายก็ได้” หานเซิ่นพยักหน้า   เมื่อกลับไปร่วมกลุ่มกับบูลอาย ซูเสี่ยวเฉียวเอาแขนไปพาดคอของหานเซิ่น และถาม “เซิ่น ฉันได้ยินว่านายโจมตีปิดฉากมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ นายได้วิญญาณอสูรไหม?”   “ฉันหวังว่าจะได้ แต่โชคไม่ดีที่ไม่ได้ ฉันยังไม่มีแม้แต่วิญญาณอสูรโบราณ ไม่ต้องพูดถึงวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ” หานเซิ่นยักไหล่และพูด   “นั่นก็ใช่ วิญญาณอสูรเป็นของหายากมาก พวกเราไม่มีทางโชคดีเหมือน ดอล” ซูเสี่ยวเฉียวถอยหายใจ เขาไม่ได้สงสัยอะไรมาก เพราะความเป็นไปได้ที่จะได้วิญญาณอสูรมันต่ำอยู่แล้ว   “ช่วงนี้นายต้องระวังหน่อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้วิญญาณอสูร แต่เซินเทียนจื่อคงไม่ยอมปล่อยนายไว้แน่” ซูเสี่ยวเฉียวพูด   “ฉันเข้าใจ” หานเซิ่น   หลังจากกลับไปที่ห้องของเขา หานเซิ่นยิ้มออกมา และเริ่มดูข้อมูลของวิญญาณอสูรที่ได้มาทันที ประเภทของวิญญาณอสูรมังกรปีกม่วงเลือดศักดิ์สิทธิ : บิน   วิญญาณอสูรประเภทบิน หมายถึงวิญญาณอสูรจะเปลี่ยนสภาพเป็นปีกเมื่อถูกเรียกใช้ ทำให้ผู้ใช้มีความสามารถในการบิน   ในก็อตแซงชั่วรี่ที่เทคโนโลยีไม่สามารถใช้ได้ การบินบนท้องฟ้าถือว่าเป็นความฝันของใครหลายๆคน ความสามารถในการบินมีความสำคัญอย่างมากในการเอาตัวรอด และยังทำให้เราสามารถไปในจุดที่คนปรกติไม่สามารถไปได้   วิญญาณอสูรประเภทบินนั่นหายากมาก ทำให้มันมีราคาสูงมาก ราคาของมันสูงกว่าวิญญาณอสูรประเภทเปลี่ยนร่างเสียอีก แน่เนื่องจากมันหายากมาก ทำให้ต่อให้คุณมีเงินก็ไม่สามารถหาซื้อมันได้   “ยอดไปเลย! วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิประเภทบิน ผมอยากจะรู้นักว่าในทั่วทั้งก็อตแซงชัวรี่มันจะมีอยู่สักกี่อันกันนะ” หานเซิ่นตื่นเต้นจนอยากจะกระโดดไปทั่วห้อง   วิญญาณอสูรโบราณประเภทบินนั้นจะบินได้ช้าและไม่สูง ผู้ใช้วิญญาณอสูรโบราณประเภทบินนั้นจะบินขึ้นสูงจากพื้นได้แค่ 10 ฟุต ส่วนระดับกลายพันธ์นั้นจะบินได้สูงและเร็วขึ้นมาอีกหน่อย แต่ระดับเลือดศักดิ์สิทธินั้นเหนือกว่ามาก มันแทบจะสามารถบินได้อย่างอิสระ หานเซิ่นยังไม่เคยเห็นวิญญาณอสูรประเภทบินแม้แต่ระดับกลายพันธ์ในสตีลอาเมอร์ด้วยซ้ำ เพราะวิญญาณอสูรประเภทบินหาได้ยากมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ารอบๆเมืองสตีลอาเมอร์ไม่ค่อยมีมอนสเตอร์ประเภทบิน   ห้องของหานเซิ่นนั่นเล็กเกินกว่าที่เขาจะเรียกวิญญาณอสูรออกมาลองได้ เมื่อเขาสงบลงจากความตื่นเต้น เขาก็แหลบไปเห็นอสูรฟันทองแดงที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นสีม่วงอย่างสมบูรณ์แล้ว   “อสูรฟันทองแดง…ละ ละเลือดศักดิ์สิทธิ!” หานเซิ่นมีความสุขจนแทบจะพูดไม่ออก   ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เขากังวลมาตลอดว่ามันจะเปลี่ยนเป็นเลือดศักดิ์สิทธิได้จริงหรือไม่ แต่ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าต่อจากนี้ไปเขาจะมีเนื้อมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิกินทุกๆ 3 เดือน ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไปทุกผู้คนต้องแตกตื่นกันแน่   ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะการรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วไปช่วยกันล่า แต่พอล่าได้ก็จะต้องแบ่งเนื้อกัน อย่างในครั้งนี้พอล่ามังกรปีม่วงเลือดศักดิ์สิทธิได้ ก็ต้องแบ่งซากมังกรปีม่วงกัน กลุ่มของเซินเทียนจื่อได้ส่วนแบ่งเยอะกว่ากลุ่มของซินเสวียน เพราะเป็นกลุ่มที่จัดการการล่าครั้งนี้ขึ้น แต่เนื้อที่แต่ละคนได้ก็น้อยนิด ถ้าโชคดีก็อาจจะได้คนละ 1 เจโนพ้อย ถ้าซวยก็อาจจะไม่ได้เลย   ในการล่าแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยปรกติจะหามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเจอทุกๆ 1 เดือน โอกาสล่าสำเร็จประมาน 50% แต่หานเซิ่นกับได้เนื้อทั้งตัวคนเดียวในทุกๆ 3 เดือน   เซินเทียนจื่อกับซินเสวียนอยู่ในก็อตแซงชัวรี่มานานกว่าหานเซิ่นมาก แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถวิวัฒนาการได้ นั่นหมายความว่าการจะวิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธินั่นต้องใช้เวลา และความพยายามมาก   เบื้องหลังของเซินเทียนจื่อมีกลุ่มธุรกิจสตาร์รี่ ขณะที่ซินเสวียนมีกองทัพให้การสนับสนุนอยู่ แต่พวกเขาก็ยังจะต้องใช้เวลาเป็น 10 ปีกว่าจะได้จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิจนครบ   แต่ตอนนี้ด้วยคริสตัลสีดำ หานเซิ่นจะใช้เวลาอย่างมากสุดก็ไม่เกิน 5 ปี เขาจะได้จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิครบ   หลังจากที่เห็นอสูรฟันแดงทองเลือดศักดิ์สิทธิ สิ่งแรกที่หานเซิ่นทำคือออกไปที่ตลาด เพื่อหาซื้อมอนสเตอร์ระดับโบราณ   เขาไม่ต้องการเสียเวลาแม้แต่นิดเดียว เพื่อให้มันวิวัฒนาการเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิอีกครั้ง ตอนนี้เขาก็ไม่อยากจะออกไปล่ามันเอง เพราะกลัวว่ากลุ่มของเซินเทียนจื่อจะมาแก้แค้น ช่วงนี้เขาต้องพยายามเก็บตัวไปก่อน   หลังจากที่ซื้อมอนสเตอร์ระดับโบราณกลับมาแล้ว เขาก็ฆ่าอสูรฟันทองแดงเลือดศักดิ์สิทธิทันทีโดยไม่ลังเล มันอ่อนแอกว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิโดยธรรมชาติมาก “อสูรฟันทองแดงระดับเลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่า ไม่ได้รับวิญญาณอสูร เมื่อกินเนื้อของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0-10 เจโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ”   ถึงแม้จะไม่ได้วิญญาณอสูร แต่หานเซิ่นก็ยังมีความสุขเหลือล้น เขาเตรียมหม้อพร้อมแล้วสำหรับการทำสตูเนื้อ     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 142 แล้วครับ

หานเซิ่นหาจุดที่ไม่ชันมาก และหยิบดูมเดย์ออกมาเตรียมพร้อม ขณะที่เขากำลังมองการต่อสู้บนยอดเขา เขาหยิบลูกธนูดาวตกออกมา และยิงขึ้นไป   เขาแทบจะไม่เคยล่ามอนสเตอร์ด้วยลูกธนูนี้เลย แต่ครั้งนี้เขายิงไปที่เซินเทียนจื่อที่กำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ   แน่นอนว่าลูกธนูดาวตกไม่สามารถทำอะไรเซินเทียนจื่อได้ คุณภาพของมันต่ำเกินไป แม้แต่มอนสเตอร์ระดับกลายพันก็ยังไม่ระคายผิวหนังของมัน   หานเซิ่นจงใจเล็งไปที่เซินเทียนจื่อ เขากำลังอุ่นเครื่องอยู่ เขาต้องการความแน่นอนเพราะมีลูกธนูโลหะzแค่ 1 ดอก   “ไอ้บ้าเอ้ย ถ้าแกไม่รู้วิธีใช้ธนูก็วางธนูอันไร้ประโยชน์ของแกลงซะ” เซินเทียนจื่อคำราม หลังจากที่หานเซิ่นยิงธนูไปที่เขา เขาคิดว่าหานเซิ่นพยายามยิงมอนเตอร์เเต่พลาดมาโดนเขา   ซินเสวียนรีบขึ้นไปบนยอดเขา และเริ่มเปิดฉากโจมตีใส่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิทันที คนอื่นๆเองก็เริ่มทยอยปีนขึ้นมาบนยอดเขา   ถึงแม้มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิจะใกล้ตายแล้ว แต่มันก็ยังทรงพลังอยู่ มันส่งเสียงร้องคำรามออกมา และผลักทุกคนที่ปีนขึ้นมาให้กระเด็นลงไป เหลือเพียงแค่ซินเสวียนกับเซินเทียนจื่อที่สามารถยืนอยู่ข้างบนได้   ทันใดนั้นเซินเทียนจื่อก็เปลี่ยนกลับมาเป็นร่างเดิม เขาพึ่งเปลี่ยนร่างไปแค่ 1 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนร่างได้นานกว่านั้นด้วยจีโนพ้อยที่เขามี แต่เขากลับเปลี่ยนร่างกลับมา   ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยว่าเขาจะทำอะไร เซินเทียนจื่อก็เรียกวิญญาณอสูรดาบสีแดงออกมา และฟันไปที่ปีกของมอนสเตอร์   ซินเสวียนเองก็เปลี่ยนกลับมาเป็นร่างเดิม และเรียกวิญญาณอสูรมีดผีเสื้อพิษออกมา แล้วแทงไปที่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ   คนที่พึ่งปีนขึ้นมาถึงก็เอาอาวุธของตัวเองออกมา และเริ่มโจมตีไปที่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ   มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิบาดเจ็บหนัก และบนปีกของมันมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่เซินเทียนจื่อเป็นคนทำ ตอนนี้ทั้งตัวมันเต็มไปด้วยเลือด   ซินเสวียนใช้โอกาสนี้แทงมีดไปที่บาดแผลของมัน และเลือดของมันที่ไหลออกมากลายเป็นสีดำทันที ราวกับถูกพิษจากมีด   “โจมตีต่อไปเรื่อยๆ มันใกล้จะตายแล้ว” มีใครบางคนตะโกนขึ้นมา จากนั้นทุกคนก็เริ่มกระหน่ำโจมตีใส่มันอย่างบ้าคลั่ง   หานเซิ่นมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากจุดที่เขายืนอยู่ ลูกน้องคนสนิทของเซินเทียนจื่อแต่ละคนมีฝีมือสูงมาก พวกเขาปีนขึ้นมาบนภูเขาที่สูงชันราวกับเดินเล่นอยู่บนพื้น ถ้าพวกเขาไม่ได้เข้าไปก่อกวนมอนสเตอร์ก็ยากที่เซินเทียนจื่อ และซินเสวียนจะทำสำเร็จได้ง่ายๆ   เมื่อเห็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิใกล้จะตายเต็มทีแล้ว หานเซิ่นจับดูมเดย์แน่น และจ้องไปที่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ เพื่อหาโอกาสในการโจมตีปิดชีวิตมัน ถ้าเขาเป็นคนโจมตีคนสุดท้ายแล้วมอนสเตอร์ตาย เขาจะมีโอกาสได้วิญญาณอสูร   ถึงแม้โอกาสจะมีน้อยนิด แต่มีโอกาสก็ดีกว่าไม่มีเลย คนอื่นๆเองก็เสี่ยงปีนขึ้นมาเพื่อโจมตีปิดชีวิตมอนสเตอร์ด้วย   ใครก็ตามที่โจมตีปิดฉากมอนสเตอร์ได้ วิญญาณอสูรจะเป็นของคนนั้น นี่เป็นกฎของการล่าแบบรวมกลุ่ม อีกเหตุผลก็คือคนที่โจมตีคนสุดท้ายจะรู้ว่าตัวเองได้รับวิญญาณอสูรหรือไม่ คนอื่นๆจะไม่มีทางรู้ ถ้าเขาโกหกว่าไม่ได้ก็จะไม่มีใครว่าอะไรเขาได้   เคร๊ง! เซินเทียนจื่อใช้ดาบฟันไปที่คอของมอนสเตอร์ จนเกิดบาดแผลที่ลึกลงไปถึงกระดูก มีเลือดจำนวนมากไหลออกมา   มอนสเตอร์ที่โดนการโจมตีที่รุนแรงก็คลั่งขึ้นมาอีกครั้ง มันรวบรวมพลังทุกหมดที่มี แล้วใช้ปีกกวาดฝูงคนกระเด็นถอยหลังไป จากนั้นมันพยายามที่จะบินไปที่ภูเขาลูกข้างๆ   ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าเลือดมันไหลออกมาจำนวนมาก และมันจะตายเร็วๆนี้ เซินเทียนจื่อเรียกวิญญาณอสูรธนูกับลูกธนูออกมา แล้วยิงไปที่มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่กำลังบินไปภูเขาลูกข้างๆ   ลูกธนูเจาะไปที่ปีกของมัน ทำให้มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิร่วงลงไป เพราะปีกของมันไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ด้วยขนาดของตัวทำให้มันตกลงไปเร็วมาก ตอนนี้หมดโอกาสแล้วที่คนอื่นจะโจมตีมันได้   เซินเทียนจื่อยิ้มออกมาอย่างความสุขทันที ถ้าหากว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิร่วงลงไปตาย เขาถือว่าเป็นคนสุดท้ายที่โจมตี และเขามีโอกาสที่จะได้วิญญาณอสูร   ทันใดนั้นมีลูกธนูอัลลอยถูกยิงมาจากบริเวณหน้าผา ลูกธนูพุ่งหายเข้าไปในแผลบริเวณคอของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ   เซินเทียนจื่อโกรธขึ้นมาทันที ในขณะที่ทุกคนช็อคกับสิ่งที่เห็นที่เกิดขึ้น ในชั่วพริบตามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิตกลงไปบนพื้น และตายทันที   “มังกรปีกม่วงระดับเลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิมังกรปีกม่วง เมื่อกินมังกรปีกม่วง มีโอกาสได้รับ 0-10 จีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ” เมื่อได้ยินเสียงที่ดังอยู่ในหัว หานเซิ่นเกือบน้ำตาไหลด้วยความสุข แต่ทว่าเขาต้องแกล้งทำเป็นผิดหวัง และหงุดหงิด   ทุกๆคนที่อยู่บนยอดเขามองไปที่เขา โดยเฉพาะเซินเทียนจื่อที่จ้องมาที่เขาเหมือนกับต้องการจะกระโดดเข้ามาฟันเขาทิ้งซะเดียวนั้น   ถึงแม้จะเป็นกฎของการล่าเป็นทีม แต่หานเซิ่นก็ตัดสินใจว่าจะไม่ยอมรับว่าได้วิญญาณอสูร ไม่งั้นเซินเทียนจื่อคงจะฆ่าเขาทิ้งแน่นอน   เมื่อทุกคนเห็นท่าทางที่ผิดหวังของหานเซิ่น ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นมาทันที   หลังจากที่ทุกคนกลับลงมาจากภูเขาแล้ว เซินเทียนจื่อจับคอเสื้อของหานเซิ่น และถาม “แกได้วิญญาณใช่ไหม?”   “ไม่” หานเซิ่นยืนกรานว่าไม่ได้วิญญาณอสูร   เซินเทียนจื่อผลักหานเซิ่นถอยหลังไป และพยายามจะใช้กำลัง แต่ซินเสวียนเข้ามาหยุดเขาก่อน   “เซินเทียนจื่อ คนของฉันไม่ได้ทำผิดกฎ เขาบอกว่าไม่ได้วิญญาณอสูร และถึงแม้ว่าเขาจะได้ นายก็ไม่มีสิทธิจะไปทำอะไรเขา” ซินเสวียนพูดพร้อมกับทำหน้าตาน่ากลัว   ตอนนี้หานเซิ่นอยู่ในกลุ่มของเธอ ถ้าเธอปล่อยให้เซินเทียนจื่อมาใช้กำลังกับคนของเธอได้ ต่อไปเธอคงไม่สามารถรักษาอำนาจในสตีลอาเมอร์ไว้ได้   เซินเทียนจื่อจ้องไปที่หานเซิ่นอยู่นาน ก่อนที่เขาจะเดินไปที่ซากมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ เขาดึงลูกธนูของหานเซิ่นออกมา และหักมันเป็น 2 ท่อน   Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 139 แล้วครับ