Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 453 กลุ่มเทพธิดา
Super God Gene – ตอนที่ 453 กลุ่มเทพธิดา

หลังจากเคลียร์งานบนยานเสร็จ หานเซิ่นก็มีเวลาว่างเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่อีกครั้ง     หยางม่านลี่รับคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง 80-90% ของคนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้มาเข้าร่วมกลุ่มเทพธิดาที่หานเซิ่นจัดตั้งขึ้นกันหมด และพวกเขาก็ได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วด้วย     แม้หานเซิ่นจะต้องขายเนื้อให้พวกเขาในราคาที่ต่ำ เพราะพวกเขาเป็นคนในกลุ่มแล้ว แต่แค่นั่นมันเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาจะได้รับ เมื่อเขาพร้อมที่จะบุกยึดเมืองสปิริตเมื่อไหร่ ทุกคนในกลุ่มก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย หยางม่านลี่บอกหานเซิ่นว่าการรับคนไม่ได้เป็นไปอย่างราบลื่นนัก แต่เพราะว่าลุงชิงเป็นคนแรกที่เข้าร่วมกลุ่ม ทำให้คนอื่นๆตามเข้ามา     หานเซิ่นพยักหน้ารับทราบ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร หนิงแสดงออกถึงความเอื้อเฟื้อต่อเขาอย่างชัดเจน แต่หานเซิ่นยังไม่กล้ามองว่าพวกเขาเป็นมิตร ตอนนี้เขายังรู้เรื่องในอดีตน้อยเกินไป ดังนั้นเขายังตัดสินใจไม่ได้ว่าหนิงเป็นมิตรหรือศัตรู     “ตอนนี้กลุ่มเทพธิดาก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว นายมีแผนจะทำอะไรต่อไป?” หยางม่านลี่ถามหานเซิ่น เธอลังเลเล็กน้อยที่จะพูดชื่อกลุ่ม เพราะในกลุ่มมีผู้หญิงอยู่ไม่ถึง 10 คน และในบรรดาพวกนั้นก็ไม่มีใครที่พอจะเรียกว่าเทพธิดาได้เลย     แต่หานเซิ่นก็ยืนกรานว่าจะใช้ชื่อนี้ เนื่องจากหานเซิ่นเป็นหัวหน้ากลุ่ม และมันก็แค่เรื่องชื่อ ทำให้หยางม่านลี่ไม่สนใจมันมาก     เธอไม่ได้รู้ถึงความคิดของหานเซิ่น สมาชิกกลุ่มถูกรับเข้ามาเพื่อช่วยงานเขาเท่านั้น แต่กลุ่มที่จะเป็นเทพธิดาจริงๆก็คือกลุ่มพวกสปิริตสาวๆ     เขายังต้องอยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 อีกนาน ถ้าเขาสามารถนำสปิริตสาวๆมาจัดตั้งเป็นกองกำลังได้ มันก็เหมือนกับฝันของเขาได้กลายเป็นจริง     แน่นอนว่าเงื่อนไขที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงก็คือร่างกายขั้นสุดยอดคิงสปิริตจะต้องทำให้สปิริตยอมภักดีต่อเขาได้จริงๆ ไม่งั้นแล้วความฝันของเขาก็คงจะเป็นได้แค่ความฝัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกองกำลังสปิริต แค่จะได้สปิริตสัก 1-2 ตัวมาช่วยทำงานให้ก็ยากแล้ว     “ให้พวกเขาได้มีเนื้อดีๆกิน หลังจากนั้นก็ฝึกพวกเขา และเลือกคนเก่งๆมาเป็นแก่นหลักของกลุ่ม ถ้าพร้อมเมื่อไรเราจะบุกยึดเมืองสปิริต” หานเซิ่นพูด ตอนนี้เขายังต้องรอซีโร่ด้วย จริงๆเขาก็คิดว่าตัวเองสามารถยึดเมืองได้เลย แต่เขาต้องการเอาชัวร์เลยรอให้ซีโร่มาถึงก่อน     จริงๆแล้วคนพวกนี้ก็ไม่ต้องฝึกซ้อมอะไรมาก เพราะกว่าที่พวกเขาจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ 2 ได้ พวกเขาก็ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชนแล้ว บางคนยังเป็นทหารประจำการในกองทัพด้วย ดังนั้นการฝึกของพวกเขาจึงเน้นไปที่การทำงานเป็นทีมมากกว่า     หานเซิ่นขอให้หยางม่านลี่คัดเลือกสมาชิกทีมมา ซึ่งเขาจะเป็นคนนำทีมออกล่าเอง เขาต้องการหาคนที่มีพรสวรรค์ภายในทีม     “นายน้อย ถ้าคุณต้องการออกล่า ผมรู้ว่าที่ไหนเหมาะ” ลุงชิงแนะนำ เมื่อเขาเห็นหานเซิ่นต้องการจะนำทีมออกล่า     หานเซิ่นยอมฟังคำแนะนำ และขอให้เขานำทางให้ ทีมเคลื่อนตัวไปยังธารน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่ลุงชิงบอกเอาไว้     แม้บริเวณนี้จะเป็นลำธารน้ำแข็ง แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้กังวลอะไรมาก ระหว่างทางกลุ่มของพวกเขาเจอกับอสูรเกราะน้ำแข็ง 3-4 ตัว หานเซิ่นไม่แม้แต่จะต้องขยับตัว หานเซิ่นกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนหลังโกลเด้นโกรวเลอร์ พร้อมกับกินเนื้อของอีวิลบลัดคอนดอร์ไปด้วย ขณะกำลังดูทีมล่า     หานเซิ่นกำลังอ่านหนังสือที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณอสูร ซึ่งเขาเอามันมาจากยานแดฟเน่ และเขาก็พบข้อมูลที่มีประโยชน์     ไม่เคยมีใครพบวิญญาณอสูรประเภทกริฟในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 มาก่อน วิญญาณอสูรประเภทนี้จะถูกพบตั้งแต่ก็อตแซงชัวรี่เขต 2 เป็นต้นไป ที่สำคัญมีเพียงแค่มอนสเตอร์ระดับกลายพันธ์และเลือดศักดิ์สิทธิเท่านั้นที่สามารถให้วิญญาณอสูรประเภทนี้ได้     ลักษณะการทำงานของวิญญาณอสูรประเภทนี้จะค่อนข้างซับซ้อน แต่ละดวงจะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยสรุปก็คือวิญญาณอสูรประเภทกริฟจะมอบความสามารถอย่างหนึ่งให้กับผู้ใช้     ตัวอย่างเช่น วิญญาณอสูรกริฟของมอนสเตอร์หมีจะสามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของผู้ใช้ได้ และวิญญาณอสูรกริฟของมอนสเตอร์ที่เด่นด้านความเร็วก็มักจะเพิ่มความเร็วให้กับผู้ใช้ได้     เนื่องจากยังไม่เคยมีใครล่ามอนสเตอร์อีวิลบลัดคอนดอร์มาก่อน หานเซิ่นเลยไม่แน่ใจว่ามันให้ความสามารถแบบไหน เขาสังเกตมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่พบว่ามีอะไรแตกต่างจากเดิมเลยในตอนที่เขาใช้มัน     ‘แล้ววิญญาณอสูรกริฟของอีวิลบลัดคอนดอร์มันทำอะไรได้กันแน่?’ หานเซิ่นยังจินตนาการไม่ออก เขาเลยตัดสินใจเลิกคิดเรื่องนี้ไปก่อน     ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจว่าการเป็นหัวหน้ากลุ่มมันดียังไง แค่นั่งดูพวกลูกทีมต่อสู้อย่างกล้าหาญ ยังไงเขาก็ได้ส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่าครึ่งของทั้งหมดที่ล่ามาได้     ในตอนนี้กลุ่มเทพธิดายังมีคนไม่มาก แต่ในอนาคตกลุ่มเทพธิดาอาจจะมีสมาชิกเป็นพันหรืออาจจะหลักหมื่น ซึ่งเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งจากคนจำนวนมากในแต่ละวันที่มีคนออกไปล่า     พวกลูกทีมก็ไม่ใช่จะเสียเปรียบซะทีเดียว พวกเขาก็ยังได้ประโยชน์จากการล่าเป็นกลุ่ม ถ้าเทียบกับการล่าคนเดียว การล่าเป็นกลุ่มจะล่าได้ง่ายกว่ามาก ทำให้พวกเขาล่าได้มากกว่าตอนล่าคนเดียวด้วย และแถมยังรู้สึกปลอดภัยมากกว่า     แน่นอนว่าที่นี่มันเป็นสถานที่ที่ล่าได้ยากลำบากมาก พื้นที่ส่วนมากเป็นที่ที่ทุกคนยังไม่รู้จัก ทำให้มันยังอันตราย ถึงจะล่าเป็นกลุ่มก็ตาม หากไม่มีนักสู้ฝีมือดีอยู่ในกลุ่ม ทุกคนก็อาจจะตายหมด ถ้าไปเจอกับมอนสเตอร์กลายพันธ์หรือมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ     พวกเขายังไม่เคยออกล่าแบบฮึกเหิมและปราศจากความกลัวแบบนี้มาก่อน พวกเขาไม่กลัวว่าจะมีฝูงมอนสเตอร์บุกเข้ามาโจมตีเมื่อติดตามหานเซิ่น แต่พวกเขาก็ยังระมัดระวังตัวและยังกังวลอยู่บ้าง แต่ยังไงพวกเขาก็รู้สึกว่ามันดีกว่าเมื่อก่อน     “นายน้อย พวกเราล่าได้แค่บริเวณนี้ ถ้าพวกเราไปไกลกว่านี้ก็อาจจะเจอมอนสเตอร์กลายพันธ์” ลุงชิงหยุดหานเซิ่นและพูด     “เดินทางต่อ เจอมอนสเตอร์กลายพันธ์ก็ยิ่งดี” หานเซิ่นสั่งให้ทีมเดินหน้าต่อไป เพราะเขาไม่สนใจพวกมอนสเตอร์สามัญหรือโบราณเท่าไหร่นัก     แม้พวกเขาจะฟังคำพูดของหานเซิ่น แต่คนอื่นๆในทีมก็เริ่มรู้สึกกังวล พวกเขามองซ้ายมองขวาตลอดเวลา พวกเขากลัวว่าจะมีมอนสเตอร์กลายพันธ์บุกเข้ามา     ในทีมมีเพียงคนเดียวที่สามารถสู้กับมอนสเตอร์กลายพันธ์ได้ ซึ่งก็คือลุงชิง ถ้าคนอื่นๆต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์กลายพันธ์ พวกเขาก็อาจจะกลายเป็นอาหารของพวกมัน     แม้หยางม่านลี่ต้องการจะพูดตักเตือนหานเซิ่นว่าไม่ควรทำอะไรเกินตัว แต่เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เพราะเธอรู้ว่ายังไงหานเซิ่นก็ไม่ฟังเธอ สุดท้ายหยางม่านลี่เลยไม่ได้พูดอะไร     ลุงชิงเองก็ไม่ได้โต้แย้ง เขายังคงนำทางต่อไป ราวกับว่าขอแค่เป็นคำสั่งของหานเซิ่น ลุงชิงจะทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อโต้แย้ง     หานเซิ่นหยิบหนังสือเกี่ยวกับภาษาโบราณขึ้นมาอ่าน ในช่วงที่เขามีเวลาว่าง เขาก็มักจะศึกษาภาษาโบราณอยู่ตลอด เขาหวังจะเข้าใจในศาสตร์ตงเสวียนให้เร็วที่สุด     แต่กระนั้นศาสตร์ตงเสวียนถูกเขียนด้วยโบราณที่เก่าแก่มาก หานเซิ่นเลยยังเข้าใจแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งส่วนนั้นก็ยังไม่ใช่ส่วนที่สำคัญ     ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้า และเสียงคำรามของมอนสเตอร์ ช้างตัวสีขาวขนาดใหญ่กำลังวิ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา แต่ละก้าวที่มันก้าว ทิ้งรอยเท้าขนาดใหญ่และลึกไว้บนน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งเริ่มสั่นสะเทือน     “แมมมอธขาว!” มีใครบางคนอุทานออกมา จากนั้นคนอื่นๆในทีมก็เริ่มตื่นตระหนกทันที     VIPถึงตอนที่ 1385 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/

Super God Gene – ตอนที่ 452 สำเร็จขั้นแรก
Super God Gene – ตอนที่ 452 สำเร็จขั้นแรก

เมื่อหานเซิ่นเริ่มฝึกกายหยก ตอนนั้นเขารู้สึกว่าอายุของเขามากเกินไปซึ่งมันเลยช่วงที่ดีที่สุดในการฝึกวิชานี้ไปแล้ว เนื่องจากร่างกายของเขาไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้รองรับวิชานี้ตั้งแต่เด็กๆ และเขายังฝึกมันได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ หานเซิ่นจึงไม่สามารถก้าวหน้าในวิชานี้ได้มาก จนทุกวันนี้เขาก็ยังไม่สำเร็จขั้นแรกของวิชากายหยกเลย     เหมือนหานเซิ่นจะติดอยู่ที่คอขวด เขาไม่สามารถทะลวงผ่านขั้นแรกได้ แต่ทว่าหลังจากที่เขาดื่มยาปรับปรุงพันธุกรรมของวิชาไมโครคริสตัลเข้าไป มันกลับไปกระตุ้นกายหยกได้อย่างไม่คาดฝัน     สิ่งเดียวที่หานเซิ่นรู้สึกได้ตอนนี้ก็คือเขาหนาว! ความเย็นมันกำลังทิ่มแทงร่างกายของเขา     มันไม่ใช่ความเย็นที่มาจากภายนอก แต่มันเป็นความเย็นจากภายใน ราวกับว่าร่างกายของหานเซิ่นในทุกๆตารางนิ้วถูกความเย็นห่อหุ้มไว้หมด หานเซิ่นรู้สึกว่าเขาสามารถถูกแช่งแข็งได้ตลอดเวลา     เขาต้องการหยุดการทำงานของงานหยก ไม่งั้นเขาอาจจะแข็งตายจริงๆ แต่ทว่าตอนนี้กายหยกเหมือนกับม้าพยศ หานเซิ่นไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้ ความเย็นยิ่งเย็นลงเรื่อยๆ ทำให้หานเซิ่นเกือบจะหมดสติ     “ไม่นะ ถ้าเราหลับ เราอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยก็ได้” หานเซิ่นพยายามเรียกสติตัวเอง เขารู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนที่หลับท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ดังนั้นเขาต้องดิ้นรนให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้     แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ในตอนนี้เขาทำไม่ได้แม้แต่จะขยับนิ้วมือ ร่างกายของเขาเย็นจัด ถึงขนาดทำให้อุณหภูมิภายในห้องของเขาลดต่ำลง     เครื่องควบคุมอุณหภูมิเหมือนจะสัมผัสไม่ได้ถึงอุณหภูมิในห้องที่ลดต่ำลง มันเลยไม่ทำงาน     “บ้าเอ้ย! เครื่องควบคุมอุณหภูมิมันจะมาเสียอะไรตอนนี้?” หานเซิ่นอยากจะทุบเครื่องควบคุมอุณหภูมิทิ้งซะเดี๋ยวนั้น แต่เขาไม่สามารถทำได้ แค่ขยับตัวตอนนี้เขาก็ยังทำไม่ได้     ทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของหานเซิ่น นี่ไม่น่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่เครื่องควบคุมอุณหภูมิไม่ยอมทำงาน เหตุผลที่มันไม่ทำงานอาจจะเป็นเพราะอุณหภูมิในห้องไม่ได้ลดลงจริงๆก็ได้ ‘เราหนาวก็เพราะว่าเรารู้สึกไปเอง นี่มันแค่อาการหลอน ไม่ใช่เรื่องจริง’     หลังจากที่คิดได้เช่นนั้น หานเซิ่นก็กัดฟันและบอกกับตัวเอง ‘ฉันไม่หนาว.. ฉันไม่หนาว.. นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง…นี่มันแค่อาการหลอน..’     “บ้าเอ้ย มันหนาวจริงๆ..” หานเซิ่นรู้สึกว่าแค่ใช้จิตวิทยาจะช่วยอะไรไม่ได้ เพราะตอนนี้เขาเกือบจะแข็งตายอยู่แล้ว มันเหมือนกับว่าหัวใจของเขาถูกแช่แข็งไปแล้ว และเลือดของเขาหยุดไหล ความเย็นกำลังไหลเข้าสู่หัวใจของเขา     แต่พอเวลาผ่านไป เขาก็รู้สึกว่าความเย็นมันค่อยๆไหลออกไปจากร่างกายของเขา หานเซิ่นเริ่มรู้สึกอุ่นขึ้น มันเหมือนกับมีแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาในช่วงฤดูหนาว มันทำให้เขาสั่นและรู้สึกดีขึ้น     แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขกับมันจริงๆ เขารู้ดีว่าความหนาวไม่ได้หายไปไหน ความอบอุ่นในตอนนี้มันหมายถึงเขากำลังเข้าใกล้ความตายเข้าไปทุกที ไม่นานหานเซิ่นที่รู้สึกสบายขึ้นจากความอุบอุ่นก็เผลอหลับไป     หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ให้ตัวเองหลับ แต่เขาก็ไม่สามารถต้านได้นานนัก ในท้ายที่สุดหานเซิ่นก็หลับสนิท     หานเซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานขนาดไหน เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็รู้สึกสบายตัว ราวกับว่าเขาเพิ่งจะขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน     “อะไรเนี่ย? เราตายแล้วงั้นหรอ?” หานเซิ่นยิกแก้มของตัวเอง เขารู้สึกเจ็บจริงๆ     “เรายังไม่ตาย และนี่ก็ไม่ใช่ความฝันด้วย” หานเซิ่นดีใจมาก ก่อนที่เขาจะหลับไป เขาคิดว่าเขาชะตาขาดแล้ว แต่ทว่าไม่เพียงแค่เขารอดมาได้ แต่เขาไม่ได้รู้สึกทรมานอะไรเลย     แต่ทว่าหานเซิ่นรู้สึกว่าร่างกายของเขามีอะไรบางอย่างที่แปลกไปจากเดิม ถึงเขายังบอกไม่ได้ว่าเปลี่ยนไปยังไง แต่เขารู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปแน่นอน     หานเซิ่นรอไม่ไหวที่จะลองใช้วิชากายหยกดู เขาต้องการลองว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา ทันทีที่เขาเริ่มใช้ มือทั้ง 2 ข้างของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวคล้ายน้ำแข็งหรือหยก     มือของเขาตอนนี้ทำให้เขานึกถึงเสวียหลงเหยียน ในตอนที่เขาพบกัน มือของเสวียหลงเหยียนก็เป็นแบบนี้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามมือของหานเซิ่นตอนนี้ ดูราบเรียบยิ่งกว่าของเสวียหลงเหยียนซะอีก มันยากที่จะเชื่อว่านี่คือมือของมนุษย์     “สำเร็จขั้นแรก… เราสำเร็จขั้นแรกของกายหยกแล้ว..” หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาลองพยายามเปลี่ยนร่างกายของเขาให้เป็นหยกดู     “กายหยก..นี่สินะวิชากายหยกที่แท้จริง.. ในที่สุดเราก็ทำได้!” หานเซิ่นไม่สามารถยับยั้งความตื่นเต้นของตัวเองได้ เขาดูร่างกายของเขาที่เปลี่ยนเป็นสีขาวเกือบจะโปร่งใส และราบเรียบเนียนเหมือนกับหยก เขาเกือบจะหัวเราะออกมาเสียงดัง     หลังจากที่ดันทุลังฝึกกายหยกมานาน ในที่สุดหานเซิ่นก็สำเร็จขึ้นแรกได้ ซึ่งถือเป็นขั้นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด     แม้หานเซิ่นจะอายุมากเกินกว่าที่จะเริ่มฝึกแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังสำเร็จขั้นแรกได้ ตอนนี้เขารู้สึกว่าการฝึกในขั้นที่ 2 คงจะไม่ยากสำหรับเขาอีกแล้ว เพราะอายุของเขาก็น่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ของการฝึกขั้นที่ 2     ตอนนี้เขารู้สึกถึงพลังอันไร้ขีดจำกัดที่ไหลอยู่ภายในร่างกายของเขา หานเซิ่นลองกำหมัดแน่น ถึงกล้ามเนื้อและกระดูกจะใสเหมือนหยก แต่พวกมันก็ยืดหยุ่นเหมือนกับเอ็นของเนื้อวัว เขาไม่ได้รู้สึกว่ามันทำให้เขาเคลื่อนไหวลำบากเลย แต่เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาทนทานขึ้น     หานเซิ่นหยุดใช้วิชากายหยก และร่างกายของเขาก็กลับมาเป็นปรกติ เขาลองดูตัวเองในกระจก และเขาก็เห็นผิวหนังของเขาดูขาวและราบเนียนยิ่งกว่าเดิมเล็กน้อย ตาของเขาเหมือนกับอัญมณี ซึ่งมันทำให้เขาดูมีเสน่ห์     “ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เราคงจะไม่กลายเป็นผู้หญิงหรอกนะ” หานเซิ่นเห็นตัวเองในกระจก ทำให้เขากังวลเล็กน้อย แต่รูปร่างหน้าตาของเขาก็ยังเป็นผู้ชายอกสายศอก     อย่างไรก็ตาม นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หานเซิ่นไม่ได้สนใจเรื่องรูปลักษณ์ หานเซิ่นเริ่มฝึกไมโครคริสตัลอีกครั้ง เขาต้องการทำให้แน่ใจว่าตอนนี้เขายังสามารถฝึกวิชานี้ได้อยู่     ไม่นานหานเซิ่นก็ต้องอ้าปากค้าง หลังจากที่ฝึกวิชาไมโครคริสตัลไปสักพัก เขาก็พบว่าวิชาไมโครคริสตัลเหมือนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกายหยกไปแล้ว     เมื่อเขาใช้วิชาไมโครคริสตัล หานเซิ่นรู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งขึ้น เนื่องจากเซลล์ในร่างกายของเขากลายเป็นคริสตัล ทำให้เขาดูเหมือนกับรูปปั้นที่เกะสลักจากคริสตัล     “ไมโครคริสตัล เราฝึกสำเร็จแล้ว..” ถึงหานเซิ่นไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความจริงก็คือความจริง เขาฝึกวิชาไมโครคริสตัลสำเร็จแล้วจริงๆ ตอนนี้ร่างกายของหานเซิ่น ดูเหมือนกับที่วิดีโอวิชานี้บรรยายไว้ไม่มีผิด     วิชาไฮเปอร์จีโนที่ต้องใช้เวลาฝึกเป็นสิบๆปีเพื่อให้ชำนาญ แต่หานเซิ่นสามารถฝึกมันสำเร็จได้อย่างง่ายๆ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น     หลังจากเฮได้ไม่นาน หานเซิ่นก็พบว่าวิชานี้ไม่ได้ดีเด่นอะไรเหมือนกับที่บรรยายไว้ ผลของมันด้อยกว่าวิชากายหยกขั้นแรกมาก ข้อดีอย่างเดียวของไมโครคริสตัลก็คือ เขาสามารถใช้มันปกปิดร่างกาย เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้เวลาเขาใช้วิชากายหยก     VIPถึงตอนที่ 1385 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/