อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 453 กลุ่มเทพธิดา


แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios

หลังจากเคลียร์งานบนยานเสร็จ หานเซิ่นก็มีเวลาว่างเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่อีกครั้ง

 

 

หยางม่านลี่รับคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง 80-90% ของคนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้มาเข้าร่วมกลุ่มเทพธิดาที่หานเซิ่นจัดตั้งขึ้นกันหมด และพวกเขาก็ได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วด้วย

 

 

แม้หานเซิ่นจะต้องขายเนื้อให้พวกเขาในราคาที่ต่ำ เพราะพวกเขาเป็นคนในกลุ่มแล้ว แต่แค่นั่นมันเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาจะได้รับ เมื่อเขาพร้อมที่จะบุกยึดเมืองสปิริตเมื่อไหร่ ทุกคนในกลุ่มก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย หยางม่านลี่บอกหานเซิ่นว่าการรับคนไม่ได้เป็นไปอย่างราบลื่นนัก แต่เพราะว่าลุงชิงเป็นคนแรกที่เข้าร่วมกลุ่ม ทำให้คนอื่นๆตามเข้ามา

 

 

หานเซิ่นพยักหน้ารับทราบ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร หนิงแสดงออกถึงความเอื้อเฟื้อต่อเขาอย่างชัดเจน แต่หานเซิ่นยังไม่กล้ามองว่าพวกเขาเป็นมิตร ตอนนี้เขายังรู้เรื่องในอดีตน้อยเกินไป ดังนั้นเขายังตัดสินใจไม่ได้ว่าหนิงเป็นมิตรหรือศัตรู

 

 

“ตอนนี้กลุ่มเทพธิดาก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว นายมีแผนจะทำอะไรต่อไป?” หยางม่านลี่ถามหานเซิ่น เธอลังเลเล็กน้อยที่จะพูดชื่อกลุ่ม เพราะในกลุ่มมีผู้หญิงอยู่ไม่ถึง 10 คน และในบรรดาพวกนั้นก็ไม่มีใครที่พอจะเรียกว่าเทพธิดาได้เลย

 

 

แต่หานเซิ่นก็ยืนกรานว่าจะใช้ชื่อนี้ เนื่องจากหานเซิ่นเป็นหัวหน้ากลุ่ม และมันก็แค่เรื่องชื่อ ทำให้หยางม่านลี่ไม่สนใจมันมาก

 

 

เธอไม่ได้รู้ถึงความคิดของหานเซิ่น สมาชิกกลุ่มถูกรับเข้ามาเพื่อช่วยงานเขาเท่านั้น แต่กลุ่มที่จะเป็นเทพธิดาจริงๆก็คือกลุ่มพวกสปิริตสาวๆ

 

 

เขายังต้องอยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 อีกนาน ถ้าเขาสามารถนำสปิริตสาวๆมาจัดตั้งเป็นกองกำลังได้ มันก็เหมือนกับฝันของเขาได้กลายเป็นจริง

 

 

แน่นอนว่าเงื่อนไขที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงก็คือร่างกายขั้นสุดยอดคิงสปิริตจะต้องทำให้สปิริตยอมภักดีต่อเขาได้จริงๆ ไม่งั้นแล้วความฝันของเขาก็คงจะเป็นได้แค่ความฝัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกองกำลังสปิริต แค่จะได้สปิริตสัก 1-2 ตัวมาช่วยทำงานให้ก็ยากแล้ว

 

 

“ให้พวกเขาได้มีเนื้อดีๆกิน หลังจากนั้นก็ฝึกพวกเขา และเลือกคนเก่งๆมาเป็นแก่นหลักของกลุ่ม ถ้าพร้อมเมื่อไรเราจะบุกยึดเมืองสปิริต”
หานเซิ่นพูด ตอนนี้เขายังต้องรอซีโร่ด้วย จริงๆเขาก็คิดว่าตัวเองสามารถยึดเมืองได้เลย แต่เขาต้องการเอาชัวร์เลยรอให้ซีโร่มาถึงก่อน

 

 

จริงๆแล้วคนพวกนี้ก็ไม่ต้องฝึกซ้อมอะไรมาก เพราะกว่าที่พวกเขาจะเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ 2 ได้ พวกเขาก็ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชนแล้ว บางคนยังเป็นทหารประจำการในกองทัพด้วย ดังนั้นการฝึกของพวกเขาจึงเน้นไปที่การทำงานเป็นทีมมากกว่า

 

 

หานเซิ่นขอให้หยางม่านลี่คัดเลือกสมาชิกทีมมา ซึ่งเขาจะเป็นคนนำทีมออกล่าเอง เขาต้องการหาคนที่มีพรสวรรค์ภายในทีม

 

 

“นายน้อย ถ้าคุณต้องการออกล่า ผมรู้ว่าที่ไหนเหมาะ” ลุงชิงแนะนำ เมื่อเขาเห็นหานเซิ่นต้องการจะนำทีมออกล่า

 

 

หานเซิ่นยอมฟังคำแนะนำ และขอให้เขานำทางให้ ทีมเคลื่อนตัวไปยังธารน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่ลุงชิงบอกเอาไว้

 

 

แม้บริเวณนี้จะเป็นลำธารน้ำแข็ง แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้กังวลอะไรมาก ระหว่างทางกลุ่มของพวกเขาเจอกับอสูรเกราะน้ำแข็ง 3-4 ตัว หานเซิ่นไม่แม้แต่จะต้องขยับตัว หานเซิ่นกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนหลังโกลเด้นโกรวเลอร์ พร้อมกับกินเนื้อของอีวิลบลัดคอนดอร์ไปด้วย ขณะกำลังดูทีมล่า

 

 

หานเซิ่นกำลังอ่านหนังสือที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณอสูร ซึ่งเขาเอามันมาจากยานแดฟเน่ และเขาก็พบข้อมูลที่มีประโยชน์

 

 

ไม่เคยมีใครพบวิญญาณอสูรประเภทกริฟในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 มาก่อน วิญญาณอสูรประเภทนี้จะถูกพบตั้งแต่ก็อตแซงชัวรี่เขต 2 เป็นต้นไป ที่สำคัญมีเพียงแค่มอนสเตอร์ระดับกลายพันธ์และเลือดศักดิ์สิทธิเท่านั้นที่สามารถให้วิญญาณอสูรประเภทนี้ได้

 

 

ลักษณะการทำงานของวิญญาณอสูรประเภทนี้จะค่อนข้างซับซ้อน แต่ละดวงจะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยสรุปก็คือวิญญาณอสูรประเภทกริฟจะมอบความสามารถอย่างหนึ่งให้กับผู้ใช้

 

 

ตัวอย่างเช่น วิญญาณอสูรกริฟของมอนสเตอร์หมีจะสามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของผู้ใช้ได้ และวิญญาณอสูรกริฟของมอนสเตอร์ที่เด่นด้านความเร็วก็มักจะเพิ่มความเร็วให้กับผู้ใช้ได้

 

 

เนื่องจากยังไม่เคยมีใครล่ามอนสเตอร์อีวิลบลัดคอนดอร์มาก่อน หานเซิ่นเลยไม่แน่ใจว่ามันให้ความสามารถแบบไหน เขาสังเกตมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่พบว่ามีอะไรแตกต่างจากเดิมเลยในตอนที่เขาใช้มัน

 

 

‘แล้ววิญญาณอสูรกริฟของอีวิลบลัดคอนดอร์มันทำอะไรได้กันแน่?’ หานเซิ่นยังจินตนาการไม่ออก เขาเลยตัดสินใจเลิกคิดเรื่องนี้ไปก่อน

 

 

ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจว่าการเป็นหัวหน้ากลุ่มมันดียังไง แค่นั่งดูพวกลูกทีมต่อสู้อย่างกล้าหาญ ยังไงเขาก็ได้ส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่าครึ่งของทั้งหมดที่ล่ามาได้

 

 

ในตอนนี้กลุ่มเทพธิดายังมีคนไม่มาก แต่ในอนาคตกลุ่มเทพธิดาอาจจะมีสมาชิกเป็นพันหรืออาจจะหลักหมื่น ซึ่งเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งจากคนจำนวนมากในแต่ละวันที่มีคนออกไปล่า

 

 

พวกลูกทีมก็ไม่ใช่จะเสียเปรียบซะทีเดียว พวกเขาก็ยังได้ประโยชน์จากการล่าเป็นกลุ่ม ถ้าเทียบกับการล่าคนเดียว การล่าเป็นกลุ่มจะล่าได้ง่ายกว่ามาก ทำให้พวกเขาล่าได้มากกว่าตอนล่าคนเดียวด้วย และแถมยังรู้สึกปลอดภัยมากกว่า

 

 

แน่นอนว่าที่นี่มันเป็นสถานที่ที่ล่าได้ยากลำบากมาก พื้นที่ส่วนมากเป็นที่ที่ทุกคนยังไม่รู้จัก ทำให้มันยังอันตราย ถึงจะล่าเป็นกลุ่มก็ตาม หากไม่มีนักสู้ฝีมือดีอยู่ในกลุ่ม ทุกคนก็อาจจะตายหมด ถ้าไปเจอกับมอนสเตอร์กลายพันธ์หรือมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ

 

 

พวกเขายังไม่เคยออกล่าแบบฮึกเหิมและปราศจากความกลัวแบบนี้มาก่อน พวกเขาไม่กลัวว่าจะมีฝูงมอนสเตอร์บุกเข้ามาโจมตีเมื่อติดตามหานเซิ่น แต่พวกเขาก็ยังระมัดระวังตัวและยังกังวลอยู่บ้าง แต่ยังไงพวกเขาก็รู้สึกว่ามันดีกว่าเมื่อก่อน

 

 

“นายน้อย พวกเราล่าได้แค่บริเวณนี้ ถ้าพวกเราไปไกลกว่านี้ก็อาจจะเจอมอนสเตอร์กลายพันธ์” ลุงชิงหยุดหานเซิ่นและพูด

 

 

“เดินทางต่อ เจอมอนสเตอร์กลายพันธ์ก็ยิ่งดี” หานเซิ่นสั่งให้ทีมเดินหน้าต่อไป เพราะเขาไม่สนใจพวกมอนสเตอร์สามัญหรือโบราณเท่าไหร่นัก

 

 

แม้พวกเขาจะฟังคำพูดของหานเซิ่น แต่คนอื่นๆในทีมก็เริ่มรู้สึกกังวล พวกเขามองซ้ายมองขวาตลอดเวลา พวกเขากลัวว่าจะมีมอนสเตอร์กลายพันธ์บุกเข้ามา

 

 

ในทีมมีเพียงคนเดียวที่สามารถสู้กับมอนสเตอร์กลายพันธ์ได้ ซึ่งก็คือลุงชิง ถ้าคนอื่นๆต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์กลายพันธ์ พวกเขาก็อาจจะกลายเป็นอาหารของพวกมัน

 

 

แม้หยางม่านลี่ต้องการจะพูดตักเตือนหานเซิ่นว่าไม่ควรทำอะไรเกินตัว แต่เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เพราะเธอรู้ว่ายังไงหานเซิ่นก็ไม่ฟังเธอ สุดท้ายหยางม่านลี่เลยไม่ได้พูดอะไร

 

 

ลุงชิงเองก็ไม่ได้โต้แย้ง เขายังคงนำทางต่อไป ราวกับว่าขอแค่เป็นคำสั่งของหานเซิ่น ลุงชิงจะทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

 

 

หานเซิ่นหยิบหนังสือเกี่ยวกับภาษาโบราณขึ้นมาอ่าน ในช่วงที่เขามีเวลาว่าง เขาก็มักจะศึกษาภาษาโบราณอยู่ตลอด เขาหวังจะเข้าใจในศาสตร์ตงเสวียนให้เร็วที่สุด

 

 

แต่กระนั้นศาสตร์ตงเสวียนถูกเขียนด้วยโบราณที่เก่าแก่มาก หานเซิ่นเลยยังเข้าใจแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งส่วนนั้นก็ยังไม่ใช่ส่วนที่สำคัญ

 

 

ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้า และเสียงคำรามของมอนสเตอร์ ช้างตัวสีขาวขนาดใหญ่กำลังวิ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา แต่ละก้าวที่มันก้าว ทิ้งรอยเท้าขนาดใหญ่และลึกไว้บนน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งเริ่มสั่นสะเทือน

 

 

“แมมมอธขาว!” มีใครบางคนอุทานออกมา จากนั้นคนอื่นๆในทีมก็เริ่มตื่นตระหนกทันที

 

 

VIPถึงตอนที่ 1385 เเล้วครับสนใจสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/SuperGodGene/

คอมเม้นต์

Chapter List