Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 368 วิญญาณอสูรขั้นสุดยอดอีกดวง
Super God Gene – ตอนที่ 368 วิญญาณอสูรขั้นสุดยอดอีกดวง

เสียงครวญครางของหมาป่าหยุดลง พร้อมๆกับดาบที่แทงทะลุคอมัน แต่กระนั้นหมาป่าก็หันหัวของมัน และหักดาบวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิทันที วิญญาณอสูรหายไป และหมาป่าก็ล้มลงไปนอนจมกองเลือดบนพื้น พร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด   หานเซิ่นรีบใช้หอกหมุนแทงไปที่หมาป่าอย่างรุนแรง หมาป่าจ้องหานเซิ่นด้วยแววตาที่ดุร้าย จากนั้นมันก็หนีเข้าไปในรัง   ไม่มีทางที่หานเซิ่นจะปล่อยให้มันหนีไปได้ เขาเตรียมตัวมาเป็นเวลานาน เขาจับหอกแน่น และวิ่งตามมันไปด้วยเท้าทั้ง 4 ของนักฆ่ากระหายเลือด   เพราะเสียเลือดมาก หมาป่าจึงเคลื่อนไหวได้ช้าลง มันไม่สามารถวิ่งหนีหานเซิ่นได้ แต่ทว่าเมื่อหมาป่าหนีไปถึงตรงที่มีห้องจำนวนมากก็มีมอนสเตอร์จำนวนมากวิ่งออกมา   หานเซิ่นไม่ได้สนใจพวกมันเลย เขาวิ่งเข้าใส่ฝูงมอนสเตอร์ ราวกับปีศาจ เขาไม่เชื่อว่าในรังนี้จะมีมอนสเตอร์ชั้นสุดยอดถึง 2 ตัว   เขามีความมั่นใจว่าเขาสามารถสู้กับมอนสเตอร์ได้ทุกตัว ถ้ามันไม่ใช่มอนสเตอร์ขั้นสุดยอด   พวกมอนสเตอร์กำลังส่งเสียงคำราม หอกกำลังเต้นระบำ และมีเลือดสาดกระจายไปทั่ว หานเซิ่นฝ่าฝูงมอนสเตอร์เข้าไป และวิ่งตามหมาป่าไปติดๆ   ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นเร็วมากจนทำให้เยี่ยหยู่เฟิงรู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อสักครู่นี้หานเซิ่นยังเกือบจะถูกฆ่าอยู่เลย ขณะตอนนี้มันกลับกลายเป็นหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และกำลังวิ่งหนีอยู่ เยี่ยหยู่เฟิงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น   เมื่อเห็นหานเซิ่นกำลังฆ่ามอนสเตอร์จำนวนมากอย่างบ้าคลั่ง เยี่ยหยู่เฟิงก็รีบเดินตามเข้าไป   ยิ่งหานเซิ่นเดินลึกเข้าไปก็ยิ่งมีมอนสเตอร์ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจ เขาฆ่าทุกตัวที่เขาเห็น มอนสเตอร์ทุกตัวที่มาขว้างทางเขาจะถูกฆ่าตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ร่างกายที่เป็นนักฆ่ากระหายเลือดของเขาเต็มไปด้วยเลือดอุ่นๆของมอนสเตอร์   หมาป่าเคลื่อนที่ช้าลงเรื่อยๆ เหมือนว่ามันบาดเจ็บหนักมาก ดังนั้นมันไม่สามารถที่จะวิ่งเร็วๆได้อีกต่อไป แม้หานเซิ่นจะต้องฝ่าฝูงมอนสเตอร์จำนวนมาก แต่หมาป่าก็ยังไม่สามารถหนีหานเซิ่นได้   ทันใดนั้นหมาป่าก็หันกลับมามองที่หานเซิ่นแล้วก็กระโดดใส่ เหมือนว่าหมาป่าจะตัดสินใจสู้ตาย มันรู้ว่าถึงมันจะหนีต่อไปก็ไม่รอด   เมื่อเห็นหมาป่าเข้ามา หานเซิ่นก็ยังดูสงบนิ่งมาก ความเร็วและความแข็งแกร่งของหมาป่าลดลงมาก ดังนั้นเขารู้สึกว่าหมาป่าไม่สามารถทำอันตรายเขาได้อีกต่อไป   หานเซิ่นหลบการโจมตีของหมาป่า และใช้หอกฟาดหมาป่าลอยไปในอากาศ   ก่อนที่หมาป่าจะตกถึงพื้น หานเซิ่นก็ยกหอกกระหน่ำแทงมัน   ปัง ปัง ปัง! หมาป่าถูกหอกที่ใส่พลังหมุนแทงอย่างรวดเร็ว โดยที่ตัวมันยังไม่ทันตกถึงพื้น   หานเซิ่นรู้ว่าหอกหมุนไม่สามารถแทงทะลุผิวหนังของหมาป่าได้ ดังนั้นถึงจะแทงไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาเพียงแค่แทงไปที่บาดแผลเดิมของมัน ทำให้บาดแผลฉีกมากขึ้น มีเลือดจำนวนมากไหลออกมาจากขากรรไกรของหมาป่า   เยี่ยหยู่เฟิงฝ่าฝูงมอนสเตอร์ออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขามาถึงตรงจุดที่หานเซิ่นยืนอยู่ เขาก็เห็นหานเซิ่นกำลังแทงหมาป่าที่เคยไร้เทียมทานมาก แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรจะโต้ตอบอีกต่อไป   ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ใช้หอกที่ใส่พลังหมุนเต็มที่แทงเข้าไปที่บาดแผลของหมาป่า และดันมันให้ไปชนกับกำแพงหิน   ปัง! ร่างของหมาป่ากระแทกกำแพงหินอย่างแรง ซึ่งหอกยังคงเจาะเข้าไปที่บาดแผลของมันด้วยพลังหมุนที่รุนแรง   มีเลือดไหลออกมาจากคอของหมาป่าจำนวนมาก ตอนนี้ดูเหมือนมันจะหมดพลังอย่างสมบูรณ์แล้ว ในที่สุดหัวของหอกก็แทงทะลุเข้าไป   “เคิร์สวูฟ(หมาป่าแห่งคำสาป)ขั้นสุดยอดถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรเคิร์สวูฟ เมื่อกินผลึกพลังชีวิตของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 จีโนพ้อยขั้นสุดยอด”   เมื่อเห็นว่าร่างของหมาป่ากำลังสลายไป หานเซิ่นก็รีบคว้าผลึกพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว   “วิญญาณอสูรขั้นสุด… วิญญาณอสูรขั้นสุดยอด.. เราได้วิญญาณขั้นสุดยอดอีกดวงแล้ว..” หานเซิ่นอยากจะตะโกนดังๆให้สุดเสียง แต่เขาก็ต้องหยุดตัวเองไว้ และรีบเก็บผลึกพลังชีวิตก่อนที่เยี่ยหยู่เฟิงจะเห็น   หานเซิ่นไม่ต้องการให้เรื่องการมีอยู่ของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดรั่วไหลออกไป ไม่งั้นมันอาจจะเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นในอนาคตได้   หลังจากนั้นหานเซิ่นและเยี่ยหยู่เฟิงก็ช่วยกันฆ่ามอนสเตอร์ภายในรัง ไม่นานมอนสเตอร์ในรังก็ถูกฆ่าจนหมด พวกเขาฆ่าทุกตัวไม่มีเหลือ รวมถึงมอนสเตอร์รูปร่างเหมือนวัวที่เป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิด้วย หานเซิ่นฆ่ามันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ถึงเขาจะไม่ได้วิญญาณอสูร แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หานเซิ่นรู้สึกผิดหวังเลย เขายังคงตื่นเต้นกับวิญญาณอสูรขั้นสุดยอดไม่หาย   พวกเขาทั้ง 2 คนรีบตรงไปที่ไข่ทันที แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นทำให้พวกเขาช็อค ที่ที่ควรจะมีไข่อยู่กับว่างเปล่า   ทั้งหานเซิ่นและเยี่ยหยู่เฟิงต่างก็แปลกใจ มอนสเตอร์ในรังทุกตัวยังมีชีวิตอยู่ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ไข่จะหายไป   มันยากสำหรับพวกเขาที่จะเชื่อว่ามีใครบางคนสามารถซ่อนตัวจากมอนสเตอร์จำนวนมาก และเข้ามาทำลายไข่ได้   ยิ่งกว่านั้นเยี่ยหยู่เฟิงเป็นคนที่พบรังก่อนเป็นคนแรก ในตอนที่เขาเข้าไปกำแพงสีเขียวยังไม่ถูกทำลายเลย ดังนั้นไม่น่าจะมีใครเข้ามาก่อนหน้าเขา   “หรือว่าพี่น้องตระกูลเฉินจะทำลายไข่ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาครั้งแรกแล้ว โดยที่พวกมอนสเตอร์ไม่รู้ตัว?” เยี่ยหยู่เฟิงพึมพำ แต่เขาก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้   พี่น้องตระกูลเฉินลงมาในรังแค่แปปเดียว ถึงพวกเขาจะมีความสามารถบางอย่างที่ซ่อนตัวจากมอนสเตอร์ได้ แต่พวกเขาก็ไม่น่ามาถึงไข่และกลับออกไปอย่างปลอดภัยได้ในเวลาอันสั้น   ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา หรือหมาป่าตัวนั้นมันจะถือกำเนิดมาจากไข่?    

Super God Gene – ตอนที่ 367 แผนหมาจนตรอก
Super God Gene – ตอนที่ 367 แผนหมาจนตรอก

ยิ่งดูการต่อสู้ เยี่ยหยู่เฟิงก็ยิ่งรู้สึกช็อคมากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว และทำให้เขาช็อคมาก “นั่นมันหมากล้อมสวรรค์นิ? ดอลลาร์คือผู้สืบทอดของคนคนนั้นงั้นหรอ?”   แม้เยี่ยหยู่เฟิงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับหมากล้อมสวรรค์มาบ้าง แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นมันถูกใช้กับตาตัวเองสักครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่มั่นใจว่าหานเซิ่นกำลังใช้มันอยู่หรือเปล่า   เทคนิคที่หานเซิ่นกำลังใช้อยู่นั้น ทำให้เขารู้สึกว่ามันคล้ายๆกับวิชาหมากล้อมสวรรค์ในตำนาน   แม้หานเซิ่นจะช้ากว่าหมาป่ามาก แต่เขาก็สามารถหลบมันได้อย่างง่ายดาย เมื่อเยี่ยหยู่เฟิงลองมองดูให้ชัดๆ มันเหมือนว่าหมาป่าถูกหานเซิ่นควบคุมเอาไว้แล้ว ก่อนที่มันจะขยับหานเซิ่นได้คิดวิธีรับมือเอาไว้หมดแล้ว   นอกจากหมากล้อมสวรรค์แล้ว เยี่ยหยู่เฟิงก็ไม่คิดว่าจะมีวิชาไหนที่สามารถทำแบบนี้ได้ “สวรรค์ก็เหมือนกับกระดาน และคนก็คือเม็ดหมาก” ตามตำนานบอกไว้ หมากล้อมสวรรค์สามารถใช้ในการควบคุมจิตใจหรือแม้แต่ควบคุมพฤติกรรมของคู่ต่อสู้ บ้างก็บอกว่ามันสามารถใช้ทำนายอนาคตล่วงหน้าได้ ซึ่งมันเหมือนกับสิ่งที่หานเซิ่นกำลังทำไม่ผิดเพี้ยน   เยี่ยหยู่เฟิงไม่คิดจะเข้าไปร่วมสู้ เพราะเขามองออกว่าหานเซิ่นคุมสถานการณ์ได้แล้ว ถ้าเขาพยายามเข้าไปช่วยก็อาจจะทำให้แผนของหานเซิ่นต้องพัง   หานเซิ่นไม่เคยเรียนหรือรู้จักวิชาหมากล้อมสวรรค์ที่ว่านั่น เขาแค่เรียนรู้เทคนิคไคท์ติ้งมาจากควีนเท่านั้น และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าควีนไปฝึกวิชาอะไรมา   แต่กระนั้นหานเซิ่นก็ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สิ่งเดียวที่เขาต้องโฟกัสตอนนี้ก็คือการต่อสู้กับหมาป่า   หานเซิ่นคุ้นเคยกับหมาป่า รวมถึงสิ่งแวดล้อมในรังนี้ดี ทุกๆก้าวที่เขาเคลื่อนที่ไป เขาคิดมันมาอย่างระมัดระวัง จากประสบการณ์มากกว่า 1 เดือนที่เขาต่อสู้กับมันมา   สิ่งที่หานเซิ่นกำลังรอคอยอยู่ก็คือโอกาส โอกาสที่หมาป่าตัวนี้เคลื่อนที่ไปในแบบที่เขาต้องการ แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อให้การเคลื่อนที่นั้นเกิดขึ้น หานเซิ่นต้องคำนวณแม้แต่รายละเอียดที่เล็กที่สุด ทุกก้าวที่เขาทำตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ก็เพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์นั้น   เพียงแค่หมาป่าเคลื่อนไหวไปในแบบที่เขาเล็งเอาไว้ เขาก็จะสามารถโจมตีไปที่ขากรรไกรของหมาป่าได้   ตอนนี้ในหัวของหานเซิ่นกำลังคิดเกี่ยวกับรูปแบบการเคลื่อนไหวของหมาป่าและลักษณะนิสัยของมันเป็นพันๆรูปแบบ   เพื่อโอกาสครั้งเดียวนี้ หานเซิ่นต้องอดทนมาตลอด 1 เดือน และไม่ยอมใช้ดาบวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิรวมถึงเดวิลซอร์ด ที่ผ่านมาเขาใช้เพียงแค่หอกอย่างเดียว เนื่องจากหอกไม่ได้รับผลการเสริมพลังจากเฟลมเลฟเทนแนนท์ ทำให้การโจมตีของหานเซิ่นมีความรุนแรงน้อยที่สุดในบรรดาพวกเขา 4 คน เมื่อเผชิญหน้ากับหานเซิ่นเพียงคนเดียวจะทำให้หมาป่าประมาทได้มากที่สุด นี่คือสิ่งที่หานเซิ่นต้องการให้เกิดขึ้น   ถึงพี่น้องตระกูลเฉินจะไม่ขอถอนตัวไปเอง หานเซิ่นก็คิดไว้แล้วว่าจะมาต่อสู้กับหมาป่าตัวนี้คนเดียว เพื่อให้แผนการครั้งนี้สำเร็จ   เมื่อเห็นเป้าหมายกำลังเคลื่อนไหวไปตามแผนที่เขาวางไว้ แววตาของหานเซิ่นก็สงบนิ่งราวกับน้ำ ถึงหัวใจของเขาจะเต้นรัวเหมือนกับเครื่องยนต์ด้วยผลของมนตรานอกรีตก็ตาม แต่จิตใจของเขากับสงบนิ่งมาก   หานเซิ่นเข้าใจดีว่ามันมีโอกาสแค่ครั้งเดียว ดังนั้นเขาต้องทำให้สำเร็จ เพื่อที่จะทำให้สำเร็จ เขาจะมีอารมณ์ร่วมไม่ได้ เขาต้องทำให้แผนของเขาสมบูรณ์แบบที่สุด   หมาป่าส่งเสียงคำรามออกมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาหมาป่าถูกพวกเขาลงมาก่อกวนหลายต่อหลายครั้ง ทำให้มันต้องการจะฉีกพวกเขาเป็นชิ้นๆ   แต่ตอนนี้หานเซิ่นเผชิญหน้ากับมันคนเดียว แต่หมาป่ากับไม่สามารถถูกตัวหานเซิ่นได้เลย ทำให้หมาป่าเริ่มหัวร้อน และโจมตีรุนแรงขึ้น   เมื่อเห็นหมาป่าเริ่มหงุดหงิด หานเซิ่นก็รู้สึกยินดี ยิ่งหมาป่าตัวนี้โกรธมากเท่าไหร่ โอกาสที่แผนของเขาจะสำเร็จก็มากขึ้นเท่านั้น   หมาป่าค่อยๆเคลื่อนที่ไปในจุดที่หานเซิ่นเล็งเอาไว้ทีละนิดๆ จริงๆแล้วหานเซิ่นเป็นฝ่ายบังคับให้มันต้องเคลื่อนที่ไปตรงมุมนั้น   มันเป็นมุมแคบๆระหว่างกำแพงหิน 2 อันที่มุม 45 องศากัน และถ้าหานเซิ่นเข้าไปในมุมนั้นจะมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 3 ฟุตขวางหน้าเขาเอาไว้   ถ้าหมาป่าต้องการโจมตีเขา มันต้องกระโดดข้ามก้อนหินก้อนใหญ่ไป ซึ่งการที่มันทำแบบนั้นจะทำให้หานเซิ่นโจมตีไปที่จุดอ่อนของมันได้ง่ายขึ้น   แผนที่หานเซิ่นกำลังใช้มันเสี่ยงตายมากๆ ถ้าเขาไปติดที่มุมกำแพง มันยากที่เขาจะหลบการโจมตีของหมาป่าได้ แต่มันก็คือโอกาสเดียวที่เขาจะโจมตีเช่นเดียวกัน   หมาป่าเริ่มโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันเห็นว่าหานเซิ่นแสดงความขี้ขลาดออกมา เขาสู้ไปถอยไป และไปติดอยู่ที่มุมกำแพง ซึ่งไม่มีที่ให้หนีได้ต่อไปได้ หมาป่าไม่ลังเล มันตัดสินใจกระโดดข้ามก้อนหิน และกระโจนใส่หานเซิ่นทันที มันพยายามที่จะฆ่าเขาให้ได้ด้วยการโจมตีครั้งนี้   เยี่ยหยู่เฟิงที่กำลังดูการต่อสู้อยู่หน้าซีดเผือก ในตอนที่เขากำลังจะวิ่งเข้าไปช่วย เขาก็ตระหนักว่ามันสายเกินไปแล้ว เยี่ยหยู่เฟิงต้องมองดูหมาป่ากระโจนใส่หานเซิ่นที่จนมุม   เมื่อเห็นหมาป่าเกือบจะถึงตัว หานเซิ่นก็ยังยืนนิ่งเหมือนกับก้อนหิน ในตอนที่มันอ้าปากเผยให้เห็นขากรรไกรของมัน หานเซิ่นก็พลิกข้อมือ จากนั้นดาบสีเงินที่ห่อหุ้มด้วยควันสีดำก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มันเป็นการเคลื่อนไหวที่เหนือคาดคิด แม้แต่มนุษย์ก็ไม่มีทางรู้ว่ามันกำลังมา ไม่ต้องพูดถึงหมาป่าที่กำลังหัวร้อน   ยิ่งกว่านั้นก่อนที่หานเซิ่นจะทำการโจมตี สีหน้าท่าทางของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ไม่มีใครรับรู้ได้ถึงจิตสังหารของเขา   ตุบๆๆ! ด้วยมนตรานอกรีต หัวใจของหานเซิ่นกำลังเต้นเหมือนกับเครื่องยนต์ ทำให้เกิดเสียงดังออกมานอกร่างกายของเขา   เส้นเลือดปูดขึ้นมาทั่วร่างกายที่เป็นนักฆ่ากระหายเลือด หานเซิ่นรู้สึกว่ากล้ามเนื้อและกระดูกของเขากำลังถูกเผา มันกำลังสร้างความร้อนที่สูงมาก   ด้วยการใช้วิชาโอเวอร์ในขีดสุด ร่างกายของหานเซิ่นเหมือนกับภูเขาไฟ ถ้าหานเซิ่นไม่ได้ฝึกกายหยกมา ร่างกายเขาคงจะระเบิดไปแล้ว   แตกต่างจากร่างกายที่กำลังถูกเผา สมองและจิตใจของหานเซิ่นสงบมาก เขารู้สึกเหมือนเป็นผู้ชมที่กำลังดูร่างกายของตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาใช้ดาบแทงเข้าไปในปากของหมาป่ากะให้มันทะลุออกหัว   หานเซิ่นทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ ทั้งการควบคุมจิตใจและการโจมตีอย่างรุนแรงที่สุด   สวบ! ปลายดาบแทงทะลุขนของหมาป่าเข้าไปจนเกิดประกายไฟ   “ตายซะ!” หานเซิ่นคำรามออกมา เขาทุ้มพลังทั้งหมดไปกับการโจมตีครั้งนี้ เขาดันดาบลึกเข้าไปจนถึงเนื้อของหมาป่า และก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาตามดาบ