Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 281 ไร้รูปแบบ
Super God Gene – ตอนที่ 281 ไร้รูปแบบ

เคร็ง! หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรฉมวก 3 แฉกออกมาในมือซ้ายทันที และใช้มันป้องกันมีดที่อยู่ตรงหน้าเขา   จากนั้นขณะที่โครงกระดูกดึงมีดกลับ มันก็หมุนแขนอย่างรวดเร็ว และแทงกลับมาที่หานเซิ่นอีกครั้ง การโจมตีแบบทันทีของมัน ทำให้หานเซิ่นตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขาไม่มีเวลาพอจะดึงดาบเพชรกลับมาหรือกวัดแกว่งฉมวกเพื่อป้องกัน   หานเซิ่นต้องใช้สปาติเคิลหลบหลีกการโจมตีแบบกะเอาตายของโครงกระดูก มีดของมันเฉี่ยวผมของเขาไปนิดเดียว   ชุดเกาะแฟนท่อมแอนท์เลือดศักดิ์สิทธิถูกมีดเฉือนแบบถากๆ และหลงเหลือรายขีดข่วนเอาไว้ หานเซิ่นช็อคกับความคมของมีด   จากนั้นมีดอีกข้างของโครงกระดูกก็โจมตีมาจากมุมที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ทันที   หานเซิ่นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้มีดคนหนึ่ง แต่เขาไม่เคยเห็นใครใช้ท่าประหลาดแบบนี้มาก่อน   การเคลื่อนไหวของโครงกระดูกมันผิดปรกติ หานเซิ่นไม่สามารถคาดเดาโจมตีครั้งต่อไปของมันได้ ซึ่งทำให้เขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างหนัก   เหมือนกับยอดนักดนตรีที่หูดีมาก แต่ต้องมาฟังจังหวะผิดเพี้ยนๆ   ยิ่งกว่านั้นโครงกระดูกยังเคลื่อนไหวเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ การโจมตีของมันต่อเนื่อง ทำให้หานเซิ่นรู้สึกไม่มีหวังที่จะชนะมันได้   ในการต่อสู้ระยะประชิดขนาดนี้ ทำให้ดาบเพชรกลายเป็นภาระทันที หานเซิ่นไม่มีเวลาพอที่จะดึงมันกลับมา เพื่อป้องกันกระบวนท่าพิสดารของโครงกระดูกได้   ฟุตเวิร์คและทักษะการใช้มีดของโครงกระดูกเหนือชั้นกว่าหานเซิ่นมาก ทำให้เขาไม่มีโอกาสตอบโต้ ไม่นานเขาก็ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก   ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใส่ชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิอยู่ หานเซิ่นคงจะตายไปแล้ว   หานเซิ่นรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เขารีบเรียกเหมียวออกมาทันที เหมียวกระโจนเข้าใส่โครงกระดูก   โครงกระดูกพุ่งออกไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตีของเหมียว และก็แทงมีดสวนกลับมา   เหมียวเอี้ยวตัวหลบการโจมตีของโครงกระดูกได้ และกระโจนใส่โครงกระดูกอีกครั้ง โครงกระดูกดึงมีดของมันกลับมาอย่างรวดเร็ว และพุ่งหลบออกไปด้านข้างอีกครั้ง โครงกระดูกบิดแขนไปในมุมที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ และแทงมีดเข้าไปที่ท้องของเหมียว   หานเซิ่นฉวยโอกาสนี้ใช้ดาบเพชรฟันไปที่โครงกระดูก ขณะที่อีกมือของเขาก็ใช้ฉมวกป้องกันมีดที่แทงมาที่เหมียว   ถึงจะโดนหานเซิ่นกับเหมียวรุม แต่โครงกระดูกก็ยังสามารถต่อสู้ได้อย่างสบาย และยังโจมตีสวนกลับมาที่หานเซิ่นและเหมียวได้อย่างเฉียบขาด   ไม่นานหานเซิ่นก็พบว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่เอาเหมียวออกมาสู้ โครงกระดูกมันสามารถใช้ฟุตเวิร์คที่เหนือชั้น ทำให้การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นกับเหมียวขัดกันเอง   ‘ไอ้นี่มันหัวหมอจริงๆ!’ หานเซิ่นคิด เมื่อเหมียวโจมตีโครงกระดูก หานเซิ่นก็รีบหันหลังวิ่งหนีทันที ในตอนนี้ทั้งเขาและเหมียวต่างก็บาดเจ็บ ขณะที่โครงกระดูกยังไม่เป็นอะไรเลย ถึงจะสู้ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เขาตัดสินใจถอยก่อน และค่อยหาวิธีจัดการมันทีหลัง   โชคดีที่มีเหมียวคอยก่อกวนโครงกระดูก ทำให้หานเซิ่นวิ่งหนีไปได้ พอวิ่งไปไกลพอเขาก็เรียกเหมียวกลับ   โครงกระดูกไม่ยอมปล่อยให้หานเซิ่นหนีไปได้ง่ายๆ มันรีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว หานเซิ่นไม่มีเวลาลังเลอีกแล้ว เขารีบวิ่งหนีไปตามเส้นทางที่เขาผ่านมา   โครงกระดูกยังไม่ยอมแพ้ มันสามารถวิ่งได้เร็วกว่าหานเซิ่น ถึงหานเซิ่นจะมีเหมียวคอยช่วยก็ตาม และในที่สุดเขาก็หนีมาถึงจุดที่มีกำแพงสีเขียว หานเซิ่นวิ่งหนีไปตามทางเดินแคบๆที่เขาเดินเข้ามาในตอนแรก   ‘เข้ามาเลย!’ หานเซิ่นยิ้มเมื่อเห็นโครงกระดูกเดินตามเข้ามาตามทางแคบๆ เนื่องจากทางเดินแคบ ทำให้มันไม่สามารถใช้ฟุตเวิร์คที่เหนือชั้นได้อีกต่อไป หานเซิ่นรีบใช้หอกของบีทเทิลไนท์แทงมันทันที   ด้วยพื้นที่แคบๆแบบนี้ อาวุธยาวแบบหอกจะได้เปรียบมาก มีดของโครงกระดูกไม่สามารถโจมตีถึงตัวหานเซิ่นได้ อีกทั้งมันยังไม่สามารถหลบการโจมตีได้ด้วย มันเอามีดทั้ง 2 มันไขว้กันบริเวณหน้าอกเพื่อป้องกันหอกที่ตรงเข้ามา   แต่ทว่าหอกของหานเซิ่นมีพลังหมุนที่ทรงพลังอยู่ด้วย ทำให้โครงกระดูกไม่สามารถหยุดการโจมตีของหานเซิ่นได้   หานเซิ่นคิดว่าเขาต้องทำสำเร็จแน่ แต่โครงกระดูกกลับพุ่งถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็วราวกับเงา มันไวยิ่งกว่าตอนที่หานเซิ่นใช้สปาติเคิลซะอีก   โครงกระดูกตัวนี้ค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียว มันรู้ว่าไม่สามารถสู้กับหานเซิ่นในทางแคบแบบได้ มันก็ไม่พยายามที่จะไล่ตามหานเซิ่นอีก และมันเลือกที่จะตั้งรับอยู่หลังกำแพง   หานเซิ่นไม่เข้าไปสู้กับมัน เขาติดสินใจหนีออกจากรัง เขาต้องคิดวิธีจัดการกับโครงกระดูกตัวนี้ให้ได้ ไม่งั้นเขาจะไม่สามารถไปถึงไข่ได้   ‘บ้าเอ้ย อุส่าเจอรังที่แทบไม่มีมอนสเตอร์แล้ว แต่ดันเป็นรังที่มีมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิซะได้’ หานเซิ่นรู้สึกหัวเสียมาก   หานเซิ่นแอบออกจากรังอย่างเงียบๆ และฆ่าโกสอายแบร์ระดับโบราณไปหนึ่งตัว เพื่อเอามันมาเป็นอาหาร   เนื่องจากเขารู้แล้วว่าทางเข้ารังมันอยู่ตรงจุดที่ฝูงของโกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิกลายพันธ์อยู่ ทำให้เขาปล่อยพวกมันไว้แบบนั้นเพื่อเป็นป้องกันไม่ให้ใครเข้าไปในรังก่อนเขา   หานเซิ่นหาสถานที่ที่ปลอดภัยในภูเขา และเริ่มหาไม้มาก่อไฟ จากนั้นเขาก็เอาเนื้อของโกสอายแบร์โบราณมาย่างบาร์บีคิวกิน   แม้จะอยู่ในระหว่างกิน หานเซิ่นก็คิดทบทวนถึงเทคนิคการต่อสู้ของโครงกระดูก   เทคนิคและกระบวนท่าต่างๆที่มันใช้ล้วนแต่พิสดารมาก ถึงมันจะคล้ายๆกับเทคนิคของมือสังหาร แต่มันก็อยู่เหนือความสามารถคาดการของหานเซิ่น ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะต้องรับมือมันยังไง   หานเซิ่นสามารถบอกได้เลยว่าเทคนิคที่มันใช้แตกต่างจากเทคนิคของมือสังหารอยู่หลายส่วน มันเป็นเทคนิคเฉพาะตัว ยากที่จะลอกเลียนแบบมันได้   ที่มันสามารถใช้เทคนิคนี้ได้ เพราะโครงกระดูกมีข้อต่อที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ มันสามารถที่จะเคลื่อนไหวในมุมที่ไม่ปรกติได้ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดเดาการโจมตีของมัน และที่สำคัญกว่านั้นโครงสร้างกระดูกมันต่างจากมนุษย์ ทำให้มันสามารถเคลื่อนไหวแบบแปลกๆได้   ‘การจะฆ่ามันได้ เราต้องเข้าใจจังหวะการโจมตีของมันให้ได้ก่อน ไม่งั้นเราก็ไม่มีโอกาสเอาชนะได้’ หานเซิ่นนั่งทบทวนการต่อสู้กับโครงกระดูกอย่างละเอียด และพยายามหารูปแบบการโจมตีของโครงกระดูกให้เจอ    

Super God Gene – ตอนที่ 280 โครงกระดูกหยกขาว
Super God Gene – ตอนที่ 280 โครงกระดูกหยกขาว

ปัง! กำแพงสีเขียวไม่ได้หนามาก มันมีความหนาเพียงแค่ 1 นิ้วเท่านั้น ด้วยการฟันของหานเซิ่น รูกว้าง 1 ฟุตปรากฏขึ้นทันที   หานเซิ่นมองเข้าไปผ่านในรูที่เปิดขึ้น และเขาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น มันเหมือนกับเมืองในยามค่ำคืนที่ส่องสว่างด้วยแสงสีเขียว มันเกิดจากคริสตัลสีเขียวที่กำลังส่องแสงอยู่นับล้านๆชิ้น   หินสีดำถูกแบ่งเป็นห้องๆอย่างสลับซับซ้อน มันดูเหมือนกับรังของพวกผึ้งหรือแตน ห้องแต่ละห้องเหมือนจะถูกสร้างแบบสุ่ม เพราะมันมีขนาดที่แตกต่างกันมาก   หานเซิ่นรู้ดีว่ารังของมอนสเตอร์ เกิดจากห้องเล็กๆพวกนี้ประกอบเข้าด้วยกัน ในแต่ละห้องอาจจะมีมอนสเตอร์อยู่ ถ้าพวกมอนสเตอร์สังเกตเห็นตัวเขาละก็ พวกมันคงจะเข้ามาจู่โจมเขาทันทีโดยแทบไม่ต้องคิด   จากที่หานเซิ่นเห็นมันต้องมีมากกว่า 1 หมื่นห้องแน่ ห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดมีขนาดพอๆกับฝ่ามือ ในขณะที่ห้องที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดๆกับบ้านทั้งหลังเลยที่เดียว ห้องแต่ละห้องเชื่อมต่อกันอย่างแปลกประหลาด   “ขอเทพทุกองค์ในจักรวาลนี้ โปรดอวยพรให้ผมด้วย หวังว่าจะไม่มีมอนสเตอร์อยู่ในรังมากเกินไป ขอแค่มีมอนสเตอร์ระดับโบราณก็พอ” หานเซิ่นสวดภาวนา   แม้ว่าจะมีพื้นที่ที่กว้างพอที่จะทำให้เขาบินไปถึงรังได้ หานเซิ่นก็ไม่คิดจะใช้ปีกบินเข้าไป เมื่อเขาบินพวกมอนสเตอร์ทั้งหมดจะเห็นตัวเขาทันที และถ้าเกิดมันมีความสามารถบินละก็ เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากทันที และเพดานที่นี่ก็ไม่ได้สูงจากพื้นมากนัก เขาไม่มั่นใจว่าจะหลบการโจมตีจากมอนสเตอร์ได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงตัดสินใจที่จะไม่ใช้ปีก   ส่วนที่ยากที่สุดคือช่วงที่ต้องผ่านห้องแต่ละห้องไป สายตาของหานเซิ่นจับจ้องไปที่มัน ถ้ามีอะไรผิดปรกติ เขาจะรีบถอยกลับทันที ไม่นานหานเซิ่นก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาผ่านห้องที่ 1 มาแล้ว แต่ห้องนั้นยังคงเงียบสนิท   นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ห้องที่เกิดจากหินสีดำแต่ละห้องเหมือนกับระเบิดเวลา หานเซิ่นไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ห้องแต่ละห้องจะระเบิดขึ้นมา   ขณะที่เขากลัวจนเกือบจะหยุดหายใจ เขาก็เดินผ่านห้องมามากกว่า 1 พันห้อง โดยไม่เจอมอนสเตอร์แม้แต่ตัวเดียว ‘หรือว่ารังนี้จะเป็นรังที่ว่างเปล่า มอนสเตอร์ทิ้งรังนี้ไปหมดแล้วหรอ?’หานเซิ่นสงสัย ‘มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ตามที่เราอ่านมา ตราบใดที่ไข่ยังไม่ถูกทำลาย รังก็จะผลิตมอนสเตอร์ตัวใหม่เรื่อยๆ เนื่องจากตอนเข้ามากำแพงสีเขียวยังปิดสนิทอยู่ มันก็น่าจะยังไม่มีใครเข้ามาที่นี่ แล้วทำไมถึงไม่มีมอนสเตอร์อยู่เลย’   หานเซิ่นยังไม่กล้าที่จะผ่อนคลาย ถึงตอนนี้ทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี แต่เขาก็ต้องระมัดระวังอยู่ตลอด   ทุกครั้งที่เขาผ่านห้องแต่ละห้องมาได้ หานเซิ่นจะจ้องมองอยู่เสมอเผื่อกรณีที่มีมอนสเตอร์อยู่ เขาจะได้เตรียมตัวรับมือ   แต่ทว่าหลังจากที่ผ่านห้องมากว่า 1 หมื่นห้อง เขาก็ยังไม่เห็นมอนสเตอร์เลยสักตัว มันเหมือนกับว่ารังนี้จะว่างเปล่าจริงๆ   ‘นี่มันแปลกมาก ตามข้อมูลที่ได้มา รังที่เคยถูกค้นพบล้วนแต่ต้องมีมอนสเตอร์อย่างน้อยๆก็หลักร้อยอยู่ภายใน และบางครั้งจะมีถึงหลักพัน แต่รังนี้กับไม่มีอะไรเลย?’   ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงเหมือนกับหินแตกหัก เขารีบมองไปยังทิศทางนั้นทันที   มันคือห้องที่สูงกว่า 9 ฟุต ซึ่งอยู่ห่างจากเขาประมาน 30 ฟุต เกิดรอยแยกขึ้นที่ห้องนั้น และมันก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ   ‘ในที่สุดก็มาแล้วสินะ’ หานเซิ่นไม่ได้กังวลมากนัก เขาเตรียมใจไว้แล้ว เขาเดินถอยหลังมา 3 ก้าว และหาจุดที่มีที่ว่างเยอะๆ ในขณะที่สายตาของเขายังจ้องมองไปที่ห้องนั้นตลอด   ปัง! ขณะที่ห้องนั้นแตกหักอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นห้องนั้นก็ถูกเปิดขึ้นด้วยอะไรบางอย่าง และมีมอนสเตอร์เดินออกมาจากห้องห้องนั้น   ‘มอนสเตอร์รูปร่างเหมือนมนุษย์งั้นหรอ?’ หลังจากที่เขาเห็นมัน เขาก็กำดาบเพชรในมือแน่น   โดยปรกติแล้วมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ   มอนสเตอร์ตัวนี้มีรูปร่างเหมือนกับโครงกระดูกมนุษย์ ซึ่งทำจากหยกสีขาว ระหว่างกระดูกแต่ละชิ้นไม่มีช่องว่างเหมือนโครงกระดูกปรกติ แต่มันเชื่อมต่อกัน แลดูจะมีความยืดหยุ่นที่สูงมาก   บนโครงกระดูกสีขาวมีลวดลายสีดำอยู่เป็นจำนวนมาก และในมือของเขาก็ถือมีดคู่สีดำอยู่   ‘เกียร์เลือดศักดิ์สิทธิ?’ หานเซิ่นประหลาดใจ มอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์และยังมีเกียร์เป็นของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าคงไม่ง่ายแน่ที่จะสู้กับมัน   โครงกระดูกหันหน้ามาทางหานเซิ่น ตาของมันไม่ได้กลวงโบ๋ มันมีลูกตาสีขาวๆอยู่ภายใน ขณะที่จ้องหานเซิ่น โครงกระดูกเดินตรงเข้ามาหาหานเซิ่นอย่างช้าๆ   ในตอนแรกมันยังเดินช้าๆ แต่มันก็ค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นทีละนิด หลังจากที่เดินไปได้ 10 ก้าว มันก็หมุนเหมือนกับพายุที่พัดมาตรงหน้าหานเซิ่น หนึ่งในมีดสีดำของมันจออยู่ที่คอของหานเซิ่นในพริบตา   ในตอนนั้นหานเซิ่นมั่นใจแล้วว่ามันคือมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิแน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้กลัวมัน เขาใช้ดาบเพชรเพื่อหยุดมีดของมัน   มีดของมันมีขนาดเล็กและสั้นมาก ทำให้หานเซิ่นมั่นใจว่าจะสามารถฟันมันจนกระเด็นไปได้แน่นอน   แต่ทว่าในตอนที่ดาบเพชรของเขาสัมผัสถูกมีด โครงกระดูกก็หมุนตัวในท่าที่แปลกประหลาด และดึงมีดกลับได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยกระบวนท่านี้ทำให้มีดอีกเล่มของมันฟันมาที่หานเซิ่น หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงความเย็นของมีดผ่านชุดเกราะของเขา