Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 277 ราคาตลาด
Super God Gene – ตอนที่ 277 ราคาตลาด

“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะอยากได้ขนาดไหน” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม   “นายคิดจะขายสักเท่าไร สำหรับโกสอายแบร์กลายพันธ์ตัวนี้?” สวี่ยู่เหยียนไม่ต้องการให้หานเซิ่นรู้ความต้องการที่แท้จริงของเธอ   สวี่ยู่เหยียนคิดว่ามันไม่น่ามีปัญหาสำหรับเธอที่จะจ่ายในราคาที่สูงสำหรับโกสอายแบร์ระดับกลายพันธ์ เธอสามารถจ่ายหานเซิ่นมากกว่าราคาอสูรกลายพันธ์ปรกติได้ 2-3 เท่าแบบสบายๆ บนเกาะนี้มีโกสอายแบร์ระดับกลายพันธ์อยู่ 10 กว่าตัว ตราบใดที่หานเซิ่นสามารถกำจัดมันได้ทั้งหมด โกสอายแบร์เลือดศักดิ์สิทธิก็จะไม่น่ากลัวสำหรับกลุ่มของเธออีกต่อไป   แต่สวี่ยู่เหยียนไม่ได้ตระหนักเลยว่าหานเซิ่นมีแผนที่จะแบล็คเมล์เธอตั้งแต่แรก   “ผมก็ไม่ค่อยถนัดในการตีราคาของด้วยสิ แต่ผมคิดว่าโกสอายแบร์ตัวนี้ ราคาตลาดมันควรจะอยู่ที่ 100 ล้าน” หานเซิ่นพูดขณะทำตาแคบลง   เมื่อทุกคนในกลุ่มได้ยินที่หานเซิ่นพูด พวกเขาก็คิด ‘ราคาตลาด?’ พวกเขามองอย่างมากสุด ราคาเนื้อมอนสเตอร์กลายพันธ์จะขายอยู่ที่ตัวละ 2-3 ล้าน แม้จะขึ้นราคาอีก 2-3 เท่ามันก็ยังห่างไกลจากราคาที่หานเซิ่นบอกมา   หลิวจีอ้าปากกว้างและพูด “เอ็งขายหมีตัวละ 100 ล้าน ราคาตลาดบ้านไหนวะ?”   “หานเซิ่น ราคานั้นมันสูงเกินไป ถึงจะเป็นมอนสเตอร์กลายพันธ์ที่หายาก แต่อย่างมากก็ไม่น่าจะเกิน 2-3 ล้านตามราคาตลาด ต่อให้ฉันยอมจ่ายให้นาย 10 เท่า แต่ราคามันก็แค่ 20-30 ล้าน นายไม่คิดว่า 100 ล้านมันมากไปหน่อยหรอ?” สวี่ยู่เหยียนขมวดคิ้วและมองไปที่หานเซิ่น   “ที่คุณพูดมามันก็ถูก ถ้าเป็นที่อื่นราคาตลาดมันก็น่าจะเป็นตามที่คุณพูด แต่ในเมื่อตอนนี้พวกเราติดอยู่ที่นี่ พวกเราก็ต้องใช้ราคาตลาดของที่นี่ ผมเป็นคนล่าได้ ผมสามารถกำหนดราคาได้ ผมจะให้ราคาตลาดมันคือ 100 ล้าน ถ้าคุณคิดว่ามันแพงเกินไป งั้นก็ตามใจคุณ ผมจะเก็บผมไว้กินเอง” หานเซิ่นพูดอย่างสงบ   “หานเซิ่น พวกเราทุกคนต่างก็โชคร้ายต้องมาติดอยู่ที่นี่ พวกเราก็ควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นายไม่คิดว่านายเห็นแก่ตัวเกินไปหรอ? ยิ่งกว่านั้นนายบอกว่านายเป็นถึงหัวหน้าหน่วยพิเศษ ซึ่งเพื่อนร่วมงานของนายก็อยู่ที่นี่ด้วย นายยังจะขายราคาแบบนั้นอยู่อีกหรอ?” สวี่ยู่เหยียนเกิดความคิดขึ้นมาและพูด   ถ้าหานเซิ่นตอบว่าใช่ ทุกคนจะโกรธเขามาก แต่ถ้าเขาตอบว่าไม่ เขาก็ต้องลดราคาให้กับฟู่ซานและคนอื่นๆ   จริงๆแล้วสวี่ยู่เหยียนไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเนื้อเลยว่าเธอจะได้กินมันหรือไม่ ตราบใดที่หานเซิ่นกำจัดพวกโกสอายแบร์กลายพันธ์ให้หมดไปได้ เธอก็จะได้ในสิ่งที่เธอต้องการ   “แน่นอนผมจะให้ราคาที่ยุติธรรมกับทุกคนเสมอ” หานเซิ่นมองไปที่พวกของฟู่ซานและพูด “ผมได้ชวนพวกเขาให้ไปช่วยกันล่าแล้ว แต่พวกเขาปฏิเสธมัน นั่นไม่ใช่ความผิดผม”   หลิวจีรู้สึกผิดทันที เมื่อได้ยินคำพูดของหานเซิ่น เขาเป็นคนแรกเลยที่ปฏิเสธคำชวนของหานเซิ่น และยังคิดว่าหานเซิ่นเป็นแค่เด็กเหลือขอที่ชอบคุยโม้โอ้อวด   เมื่อสวี่ยู่เหยียนได้ยินคำพูดของหานเซิ่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เธอเชิดหน้าขึ้นและคิด ‘หานเซิ่น นายนี้มันโง่จริงๆ ไม่กลัวบ้างรึว่าทุกคนจะไม่พอใจ? หรือว่านายไม่ใช่คนของหน่วยพิเศษจริงๆ?’   สวี่ยู่เหยียนสั่งให้คนของเธอล้อมหานเซิ่นและโกสอายแบร์เอาไว้ ขณะที่สวี่ยู่เหยียนเชิดหน้าขึ้น และคนของเธอทุกคนก็มองไปที่หานเซิ่น   เห็นได้ชัดว่าสวี่ยู่เหยียนพยายามจะข่มขู่หานเซิ่น ตอนแรกเธอไม่กล้าให้คนของเธอทำแบบนี้ เพราะเธอกลัวว่าหน่วยพิเศษจะไม่ช่วยเธอรับมือกับหานเซิ่น แต่เนื่องจากคำพูดของหานเซิ่นที่ทำให้พวกเขาไม่พอใจ ตอนนี้เธอเชื่อว่าคนอื่นๆในหน่วยพิเศษจะอยู่ข้างเธออย่างแน่นอน ถ้ามีการต่อสู้เกิดขึ้น   ที่สำคัญพวกเขาก็ติดอยู่บนเกาะนี้ด้วยกันมานาน และฟู่ซานก็ยังไม่เคยปฏิเสธคำขอของเธอเลยสักครั้ง ครั้งนี้ฟู่ซานก็ไม่น่าจะปฏิเสธเธอ   “200 ล้าน” หานเซิ่นไม่สนใจและยิ่งขึ้นราคาเป็น 2 เท่า เขาไม่ได้แสดงความกลัวออกมาเลย ราวกับเขาไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนข่มขู่อยู่   “ฟู่ซาน นี่หรือความประพฤติของคนที่มาจากหน่วยงานเดียวกับคุณ พวกเราควรจะควบคุมตัวเขา และส่งให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานของพวกคุณ” สวี่ยู่เหยียนพูด   สวี่ยู่เหยียนคิดว่าฟู่ซานจะทำงานให้เธออย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้นสายตาที่หน่วยพิเศษมองโกสอายแบร์ก็เป็นสายตาแห่งความตะกละ และพวกเขาก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหานเซิ่นด้วย   แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอต้องประหลาดใจ ฟู่ซานส่ายหัวและพูด “ผมไม่คิดว่าเขาเป็นคนของหน่วยพิเศษอยู่แล้ว ซึ่งความประพฤติของเขาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหน่วยของเรา”   ฟู่ซานสั่งให้คนของเขาถอยหลังกลับมา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการเข้าไปร่วมความขัดแย้งครั้งนี้ด้วย   แม้แต่สมาชิกในทีมของเขาก็ยังสงสัยการตัดสินใจของฟู่ซานเช่นกัน แต่พวกเขาก็เชื่อใจหัวหน้าของพวกเขามากจึงยอมทำตามคำสั่ง   สวี่ยู่เหยียนตกตะลึง ตามความเข้าใจของเธอ ฟู่ซานคือคนที่มีเหตุผลที่สุดแล้ว ถึงเขาไม่ต้องการทำร้ายหานเซิ่น เขาก็ควรเห็นด้วยว่าควรจะบังคับให้หานเซิ่นจัดการโกสอายแบร์ให้ก่อน การตัดสินใจของฟู่ซาน ทำให้สวี่ยู่เหยียนต้องยอมตกลงกับหานเซิ่นใหม่อีกครั้ง เหตุผลเดียวที่พอจะอธิบายการตัดสินใจของฟู่ซานได้ก็คือว่าเขาไม่คิดว่าจะสู้กับหานเซิ่นได้ แม้จะใช้ทั้งหน่วยก็ตาม   “ดูเหมือนพวกคุณจะไม่ยินดีแลกเปลี่ยนกับผม” หานเซิ่นยกซากโกสอายแบร์ขึ้นมาบนหลัง   “นายคิดจะทำอะไร?” สวี่ยู่เหยียนไม่กล้าที่จะเข้าไปหยุดหานเซิ่น   “เนื่องจากที่นี่ไม่มีใครยินดีต้อนรับผม ผมก็จะไปหาที่อยู่ใหม่ ยังไงผมก็มีโกสอายแบร์กลายพันธ์ตัวนี้อยู่ ถ้าผมค่อยๆกินมันไปก็น่าจะอยู่ได้สัก 3 เดือน” หานเซิ่นพูดขณะแบกโกสอายแบร์ไว้บนหลัง   “โอเค 100 ล้าน ฉันยอมซื้อมันที่ราคา 100 ล้าน” สวี่ยู่เหยียนกัดฟันพูด สิ่งที่เธอต้องการคือให้หานเซิ่นกำจัดโกสอายแบร์ ถ้าหานเซิ่นเลือกที่จะไปซ่อนตัวอยู่เงียบๆ มันจะทำให้ความต้องการของเธอต้องล้มเหลวไป   “ราคาตอนนี้ไม่ใช่ 100 ล้านอีกแล้ว มันคือ 200 ล้านตั้งหาก” คำตอบของหานเซิ่น ทำให้สวี่ยู่เหยียนอยากจะบีบคอเขาให้ตายซะตรงนี้   Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 872 แล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 276 ต่อรองผลประโยชน์
Super God Gene – ตอนที่ 276 ต่อรองผลประโยชน์

หลังจากเข้าไปในป่า หานเซิ่นก็เดินตามล่องลอยที่มอนสเตอร์เหลือทิ้งเอาไว้ เขาลอบเข้าไปในถิ่นที่อยู่ของโกสอายแบร์   ก่อนที่เขาจะทำข้อตกลงได้ หานเซิ่นวางแผนว่าจะยังไม่ฆ่าพวกโกสอายแบร์ทั้งหมด เขาจะฆ่าแค่ตัวเดียวแล้วเอาไปให้คนอื่นๆดูก่อน เพื่อต่อรองผลประโยชน์   โกสอายแบร์มีความสูง 6 ฟุต และปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาลที่เป็นเงางามเหมือนกับโลหะ ด้วยตาดวงที่ 3 ที่อยู่บนหน้าผากของมัน มันสามารถเดินขึ้นลงเส้นทางในภูเขาได้อย่างชำนาญ   หลังจากที่เข้ามาในภูเขา หานเซิ่นก็ใช้วิญญาณอสูรกิ้งก่าเปลี่ยนสีอย่างเงียบๆ   โกสอายแบร์เคลื่อนที่ไปรอบๆ ขณะที่หานเซิ่นกำลังดักซุ่มอยู่ เป้าหมายของเขาก็คือโกสอายแบร์ตัวที่เป็นระดับกลายพันธ์ ซึ่งมันน่าจะทำให้สวี่ยู่เหยียนยอมจ่ายเงิน   ‘ถึงว่าทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ พื้นผิวและสภาพแวดล้อม ทำให้สู้ได้ลำบากจริงๆ’ หานเซิ่นมองไปรอบๆ และเห็นหน้าผาอยู่ทุกที่ โกสอายแบร์สามารถเดินขึ้นลงหน้าผาได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะฆ่ามัน   ฟู่ซานและสวี่ยู่เหยียนนำทีมออกมาเก็บพืชและเห็ดไปเป็นอาหาร แม้พวกเขาจะมีเสบียงที่สะสมไว้มากมายในถ้ำ แต่พวกเขาก็ยังต้องออกมาหา เพื่อพวกเขาจะได้มั่นใจว่าถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน พวกเขาจะมีอาหารกินอย่างเพียงพอ   หลังจากผ่านไปสักพัก พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องและเสียงคำรามของโกสอายแบร์ดังมาจากทางถิ่นที่อยู่ของพวกมัน   “เจ้าหนุ่มนั่นมันไปจริงๆหรอเนี่ย” หลิวจีรู้สึกไม่อยากเชื่อ   พวกเขารู้ดีว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของโกสอายแบร์ จากที่พวกเขาลองฟังดูเหมือนว่าพวกมันกำลังส่งเสียงคำรามออกมาตัวแล้วตัวเล่า ดูเหมือนพวกมันทั้งฝูงกำลังไล่ล่าหานเซิ่นอยู่   “ช่างน่าสงสารจริงๆที่เขาต้องเอาชีวิตไปทิ้ง” สวี่ยู่เหยียนถอนหายใจ   หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน เสียงร้องของพวกมันก็หยุดลง กลุ่มของพวกเขาไม่กล้าที่จะอยู่แถวนั้นนานๆ เนื่องจากโกสอายแบร์ถูกหานเซิ่นยั่วยุ ถ้ายังหาอาหารต่อไป พวกเขาอาจจะไปเจอกับฝูงโกสอายแบร์เข้าก็ได้   สวี่ยู่เหยียนกับฟู่ซานปรึกษากัน และตัดสินใจว่าเลิกหาอาหารกันแค่นี้จากนั้นพวกเขาก็เดินทางกลับไปที่ถ้ำ   “โกสอายแบร์กลายพันธ์!” ไม่ไกลจากถ้ำ พวกเขาเห็นโกสอายแบร์ขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกกลัว พวกเขารีบเรียกวิญญาณอสูรออกมา เพื่อเตรียมต่อสู้ทันที แต่ไม่นานพวกเขาก็พบว่าโกสอายแบร์ตัวนั้นไม่ได้ขยับได้เอง มันอยู่บนหลังของใครบางคน คนคนนั้นกำลังแบกโกสอายแบร์เดินตรงมาหาพวกเขา   เมื่อเห็นโกสอายแบร์กำลังเข้ามา พวกเขาก็เบิกตากว้าง   “เจ้าหนุ่มนั่นนิ เขายังไม่ตาย เขาล่าโกสอายแบร์มาได้จริงๆ เป็นตัวระดับกลายพันธ์ด้วย..” เมื่อหลิวจีเห็นหน้าคนที่แบก เขาก็พูดออกมา คนอื่นๆต่างก็ช็อค พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตาเห็น หานเซิ่นสามารถล่าโกสอายแบร์ได้จริงๆ และยังเป็นตัวระดับกลายพันธ์ด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก   ครั้งแรกที่พวกเขาลองไปล่า พวกเขาต้องเสียคนไปกว่าครึ่ง และพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ฆ่าตัวที่เป็นระดับโบราณเท่านั้น ไม่มีโกสอายแบร์ระดับกลายพันธ์สักตัวถูกฆ่า ตัวระดับกลายพันธ์ทั้งแข็งแรงและรวดเร็วมาก การจะฆ่ามันตอนที่มันอยู่บนหน้าผาเป็นเรื่องที่ยากมาก   แต่กระนั้นหานเซิ่นก็สามารถล่าโกสอายแบร์ระดับกลายพันธ์มาได้ด้วยตัวคนเดียว และยังแบกมันกลับมา   ฟู่ซานมองดูหานเซิ่นตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่เขาไม่เห็นบาดแผลหรืออาการบาดเจ็บอะไรบนร่างกายของหานเซิ่นเลย ซึ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม   พวกเขาได้ยินเสียงหอนและคำรามของฝูงโกสอายแบร์อย่างชัดเจน ซึ่งมันเป็นการเตือนให้พวกมันระวังศัตรูที่บุกเข้ามา แต่หานเซิ่นก็ยังสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย พร้อมกับเอาโกสอายแบร์กลับมาด้วย ทำให้เขาสงสัยว่าหานเซิ่นแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ถึงสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้   สวี่ยู่เหยียนเองก็สังเกตเหมือนกับฟู่ซาน เธอรู้สึกอึ้งและหมดคำพูด   “นายล่าโกสอายแบร์ได้จริงๆหรอเนี่ย?” เมื่อหานเซิ่นเดินมาถึง หลิวจีก็ถามทันที   “ผมคิดว่าอย่างงั้นนะ ไม่งั้นเจ้าตัวที่ผมแบกมาก็คงไม่ได้เรียกว่าโกสอายแบร์” หานเซิ่นยิ้มและเดินตรงเข้าไปในถ้ำ พร้อมกับร่างของโกสอายแบร์บนหลังของเขา   ร่างของโกสอายแบร์มีขนาดที่ใหญ่มาก เขาไม่สนใจจะกินมัน เพราะถึงกินจนอิ่มก็ไม่รู้จะได้จีโนพ้อยหรือเปล่า เขาตั้งใจจะใช้มันเป็นเครื่องต่อรองผลประโยชน์กับสวี่ยู่เหยียน   เมื่อคนที่เฝ้าถ้ำอยู่เห็นหานเซิ่นกลับมาพร้อมกับโกสอายแบร์ระดับกลายพันธ์ พวกเขาก็ช็อคเช่นเดียวกัน   “คุณสวี่ ตอนนี้คุณเริ่มสนใจจะแลกเปลี่ยนกับผมหรือยัง?” หานเซิ่นสังเกตสีหน้าของทุกๆคนและถามสวี่ยู่เหยียน   “ตอนนี้ฉันสนใจมาก” ตาของสวี่ยู่เหยียนเป็นประกาย   พวกเขาทั้งหมดติดอยู่บนเกาะนี้มาเป็นปีแล้ว ในตอนแรกพวกเขายังมีเนื้อเก็บไว้บ้าง แต่หลังจากนั้นเสบียงของพวกเขาก็หมด พวกเขาไม่ได้ลิ้มรสชาติเนื้อมาตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นซากของโกสอายแบร์อยู่ตรงหน้า พวกเขาก็แทบจะอดใจไม่ไหว   แต่ดูเหมือนสวี่ยู่เหยียนจะมีความคิดอะไรในใจมากกว่าสนใจเนื้อมอนสเตอร์กลายพันธ์ที่หานเซิ่นเสนอ   เนื่องจากหานเซิ่นมีความสามารถที่จะฆ่าโกสอายแบร์ระดับกลายพันธ์ได้ง่ายๆ นั่นก็หมายความว่าเขาอาจจะสามารถฆ่าพวกมันทั้งฝูงได้ ถ้าเขาทำได้จริงๆ พวกเขาจะได้รับประโยชน์ นอกเหนือจากแค่เนื้อของมัน   ความจริงแล้วพวกเขาโกหกหานเซิ่นมาตั้งแต่ต้น จริงๆแล้วเกาะแห่งนี้คือจุดหมายปลายทางของพวกเขา   พวกเขาต้องการมาที่เกาะนี้ แต่บังเอิญเกิดอุบัติเหตุในทะเลขึ้น แต่ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่นี่จนได้ แต่พวกเขาไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่ต้องการได้ นั่นก็เพราะว่ามันมีฝูงโกสอายแบร์อยู่บนเกาะนี้   การที่หานเซิ่นแข็งแกร่งพอจะกวาดล้างฝูงโกสอายแบร์ได้ ทำให้ทุกคนประหลาดใจโดยเฉพาะสวี่ยู่เหยียน   สวี่ยู่เหยียนเชื่อว่าในที่สุดก็ต้องมีคนเดินทางมาช่วยเธอ มันแค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่ากลุ่มสตาร์รี่จะมาเจอเกาะแห่งนี้เมื่อไหร่ แต่ถ้าเธอได้สิ่งที่เธอต้องการบนเกาะนี้ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง มันจะเป็นเรื่องที่วิเศษมาก   ไม่งั้นเธอจะล้มเหลวมาก ถ้าเธอรอให้ทีมช่วยเหลือมาถึงแล้วค่อยไปเอาในสิ่งที่เธอต้องการ ในตอนนั้นเครดิตทั้งหมดจะไม่ใช่ของเธออีกต่อไป   สวี่ยู่เหยียนมองหานเซิ่น เธอมีความคิดบางอย่าง ถึงเธอจะไม่รู้ว่าหานเซิ่นสามารถทำมันได้หรือไม่ แต่เธอเชื่อว่าการปรากฏตัวของเขาจะทำให้เธอได้ผลประโยชน์   “เซิ่น นายมีข้อเสนออะไรลองว่ามา?” สวี่ยู่เหยียนมองหานเซิ่นและพูด เสียงพูดของเธอดูนุ่มนวลกว่าทุกที