Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 235 ปีศาจ
Super God Gene – ตอนที่ 235 ปีศาจ

หยางม่านลี่เองก็ได้ดูวิดีโอที่ว่าเช่นกัน เนื่องจากมีเวลาการทดสอบโชว์อยู่ในวิดีโอ ทำให้เธอรู้ว่านั่นคือหานเซิ่น   เมื่อดูการทดสอบของหานเซิ่น เธอก็รู้สึกขนลุก ความสามารถของหานเซิ่นมันเกินกว่าที่เธอคาดคิด ทั้งความเร็วและความแม่นของเขา มันอยู่เหนือมนุษย์ แต่สิ่งที่เขามีมากกว่าความแม่นยำก็คือ เขาความสามารถในการคาดการณ์ทุกสิ่งทุกอย่าง   ไม่ว่าจะเป็นนักธนูหรือนักแม่นปืน สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ความแม่นยำ แต่คือการคาดการณ์ภายใต้สถานการณ์ที่ซับซ้อน เห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นคือหนึ่งในนักธนูที่ดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น   เขาไม่ได้เล็งไปที่เป้าหมายในตอนที่เขายิงออกไป แต่เขาสามารถบอกได้ว่าเป้าหมายจะไปอยู่ตรงจุดไหนต่อไป   หยางม่านลี่รู้สึกตัวสั่น ถ้าเธอกับหานเซิ่นต้องมาต่อสู้กันด้วยธนูจริงๆ เธออาจจะไม่ได้ยิงธนูออกไปแม้แต่ลูกเดียว มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย   ‘ซินเสวียนเป็นฝ่ายถูก หานเซิ่นเป็นคนที่สุดยอดจริงๆ’ หยางม่านลี่คิด หลังจากดูวิดีโอจบ   วีดิโอนี้ไม่ใช่เพียงแค่ได้รับความนิยมในหมู่ของคนที่เล่นในซาจิทาเรียสเท่านั้น แต่มันยังได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบการยิงธนูด้วย   หลังจากกลับมาที่โรงเรียน หานเซิ่นต้องการโทรไปหาแฟนของเขา แต่คอมของเขาก็ดังขึ้นมาซะก่อน ซื่อถูเซียงเรียกสมาชิกทีมธนูไปพบ   ในสนามฝึกซ้อมของหน่วยธนู หานเซิ่นเห็นซื่อจื้อคัง ลู่เหมินและจางหยาง ซึ่งถูกซื่อถูเซียงเรียกมาเช่นเดียวกัน   “เซิ่น นายก็อยู่ในทีมด้วยหรอ?” ซื่อจื้อคังถามด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นหานเซิ่นถูกเรียกมาที่นี่ด้วย   “ฉันเองก็ต้องทำให้อะไรให้หน่วยธนูบ้าง แล้วทำไมพวกนายถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย?” หานเซิ่นพูด   “เหตุผลเดียวกัน” หลังจากที่ซื่อถูเซียงได้ดูข้อมูลของนักเรียนปี 1 เธอก็พบว่าไม่มีใครมีฝีมือโดดเด่นเหมือนกับหานเซิ่น เธอจึงตัดสินใจเรียกรูทเมทของหานเซิ่นมาฝึกกับทีมนักกีฬาแทน เพื่อจะทำให้หานเซิ่นรู้สึกอยากมาฝึกซ้อมมากขึ้น นี่ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว ถึงตอนนี้พวกเพื่อนๆของหานเซิ่นจะฝีมือไม่ได้ดีมาก แต่ถ้าได้รับการฝึกซ้อมที่ดี พอขึ้นปี 2 พวกเขาอาจจะกลายเป็นตัวหลักของหน่วยธนูได้   “พวกนายรู้ไหมว่าโค้ชเรียกพวกเรามาทำไม?” หานเซิ่นถามรูทเมทของเขา   “ใครจะไปรู้? พวกเราก็เพิ่งมาเหมือนกัน” ซื่อจื้อคังพูด   “โค้ชต้องเรียกพวกเรามาเพื่อฝึกซ้อมอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นส่วนหนึ่งในทีมของโรงเรียน พวกเราต้องทำให้ดีที่สุด” จางหยางยังคงมองโลกในแง่ดีเหมือนอย่างเคย   เมื่อหานเซิ่นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ซื่อถูเซียงก็เรียกให้ทุกคนไปรวมตัวกัน   “วันนี้ที่ฉันเรียกพวกเธอมาก็เพื่อดูฟอร์มของนักเรียนที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเธอ” ซื่อถูเซียงเปิดอุปกรณ์ฉายภาพโฮโลแกรม   มันเป็นวิดีโอการยิงธนูหลากหลายสถานการณ์ของคนคนหนึ่ง ซึ่งภาพส่วนมากจะมาจากลีกการแข่งขันของโรงเรียนทหาร   มันเป็นวีดิโอที่มีความยาวกว่า 40 นาที พวกนักเรียนที่ถูกเรียกตัวมาต่างก็เงียบกันหมด พวกเขาดูวีดิโออย่างใจจดใจจ่อ   หลังจากวิดีโอจบ ซื่อจื้อคังก็ปาดเหงื่อบนหน้าผากและพูด “โอ้พระเจ้า แน่ใจนะว่าไอ้หมอนี่มันเป็นแค่นักเรียนโรงเรียนทหาร ไม่ใช่ผู้วิวัฒนาการแล้ว?”   “พวกเราต้องสู้กับปีศาจแบบนี้จริงๆหรอ?” “เป็นไปไม่ได้ พวกเราต้องแพ้แน่นอน” “เขาไม่ใช่คนแล้ว”   “เขาคือคู่ต่อสู้ของเรา และเขาก็เป็นนักเรียนโรงเรียนทหารแน่นอน” ลู่เหมินพูด   ซื่อถูเซียงสนใจคำตอบของลู่เหมิน เธอพูด “ถ้าเธอรู้จักกับคนคนนี้ โปรดแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมทีมของเธอได้รู้จักบ้าง”   ลู่เหมินพูด “ฉันเชื่อว่าพวกนายน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเขามาบ้างนะ จิงจี้อู่ กัปตันทีมธนูของโรงเรียนทหารส่วนกลาง ผู้คนต่างเรียกเขาว่า ปีศาจ ตอนที่เขาอยู่ปี 1 เขาพาทีมคว้าแชมป์ระดับกาแล็กซี่ได้” “ในตอนที่เขาอยู่ปี 2 เขาช่วยให้โรงเรียนทหารส่วนกลางเอาชนะทุกรายการแข่งขัน ตั้งแต่วอเฟรม ศิลปะการป้องกันตัว หัตถ์พระเจ้าก็ไม่มีข้อยกเว้น” “ตอนที่เขาอยู่ปี 3 เขาก็ทำแบบเดียวกัน ลีกการแข่งขันระดับกาแล็กซี่ต้องเปลี่ยนกฎการแข่งขัน เพราะเขาคนเดียว ตอนนี้นักกีฬาหนึ่งคนจะอนุญาตให้ลงแข่งได้แค่ 1 รายการเท่านั้น”   เมื่อพวกนักเรียนได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็หมดกำลังใจ “ซวยจริงๆ ทำไมจิงจี้อู่ต้องเลือกแข่งธนูด้วยนะ?” “พวกเราควรจะมุ่งเน้นแข่งกับตัวเองก็พอ พยายามพัฒนาความแข็งแกร่งของเขา เพราะยังไงพวกเราก็ไม่น่าจะสู้กับโรงเรียนทหารส่วนกลางได้อยู่แล้ว ยังไม่ต้องไปพูดถึงจิงจี้อู่เลย” “นั่นมันก็จริง พวกเราแค่เข้ารอบ 2 ได้ก็เต็มที่แล้ว” “จริงๆฉันอยากให้พวกเราเจอกับเขาเลย เพราะยังไงเจอใครเราก็แพ้อยู่แล้ว แพ้เขายังดีกว่าไปแพ้คนอื่น” พวกนักเรียนปี 4 แสดงความคิดเห็นกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสูญเสียความมั่นใจไปจนหมดแล้ว   “เธอรู้ข้อมูลเกี่ยวกับจิงจี้อู่ดี แล้วเธอคิดว่าพวกเราพอมีโอกาสเอาชนะโรงเรียนทหารส่วนกลางไหม?” ซื่อถูเซียงถาม   “พวกเราไม่มีโอกาสชนะเลย พวกเขาไม่ได้มีแค่จิงจี้อู่ แต่ในทีมของพวกเขายังมีอีก 2 คนที่ติด 1 ใน 10 ของกาแล็กซี่ และอีก 2 คนที่ติด 1 ใน 20 แต่พวกเราไม่มีใครเลยที่ติด 1 ใน 100 ของกาแล็กซี่” ลู่เหมินพูด   พวกนักเรียนปี 4 ต่างก็ไม่เข้าใจคำถามของซื่อถูเซียง พวกเขารู้ดีว่าโรงเรียนเหยี่ยวดำไม่มีโอกาสชนะโรงเรียนทหารส่วนกลางได้เลย มันแทบจะไม่ต้องถามเลยว่ามีโอกาสเอาชนะโรงเรียนทหารส่วนกลางได้ไหม   ซื่อถูเซียงพยักหน้าและไม่พูดอะไร เธอหันไปถามหานเซิ่น “หานเซิ่น เธอคิดว่ายังไง?”     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 779 เเล้วครับ

Super God Gene – ตอนที่ 234 น่าเหลือเชื่อ
Super God Gene – ตอนที่ 234 น่าเหลือเชื่อ

หยางม่านลี่พอใจกับฟอร์มของตัวเองมาก เธอแสดงศักยภาพทั้งหมดออกมาได้อย่างน่าตกใจ เนื่องจากเธออยากจะเอาชนะหานเซิ่น และต้องการพิสูจน์ตัวเองให้ซินเสวียนเห็น แม้รอบนี้เธอจะได้คะแนนแค่ระดับ A แต่เธอก็ฆ่านกสีดำไปเป็นจำนวนมาก และครั้งนี้ความเร็วในการยิงของเธอก็ขึ้นไปอีกระดับ   ขณะที่หยางม่านลี่เดินออกมาจากห้องทดสอบ เธอก็เห็นซินเสวียนกับหานเซิ่นยืนรออยู่ข้างนอกแล้ว เธอคิด ‘เขาเร็วกว่าเรางั้นหรอ ไม่น่าเป็นไปได้ เขาอาจจะพลาดนกสีดำไปหลายตัว ไม่ก็อาจจะยิงนกสีขาวตาย’   “นี่คือคะแนนของฉัน” หยางม่านลี่โชว์คะแนนของเธอให้กับซินเสวียนดู   “ระดับ A ฆ่านกสีดำไป 964 ตัว ทำได้ดีมาก เธอก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว คราวนี้เธอพลาดแค่ 36 ตัว…” ซินเสวียนอ่านสถิติของหยางม่านลี่และกล่าวชมเชย   จริงๆแล้วคะแนนของหยางม่านลี่ถือว่าเป็นระดับท็อปในหมู่ผู้ยังไม่วิวัฒนาการเลยทีเดียว ฝีมือของเธอถือว่าเป็นระดับท็อปของกาแล็กซี่ และเทียบได้กับพวกนักธนูมืออาชีพ   ‘อืม’ ซินเสวียนคิด ‘ในสตีลอาเมอร์ม่านลี่เกือบจะเรียกได้ว่าไร้เทียมทานได้เลย ถ้าหานเซิ่นไม่อยู่ที่นั่นด้วย’   “แล้วนายเป็นยังไงบ้าง?” หยางม่านลี่ถามหานเซิ่น เธอไม่พอใจที่ต้องมาแย่งตำแหน่งกับคนที่อายุน้อยกว่า   หานเซิ่นไม่พูดอะไร แต่โชว์สถิติของเขาให้หยางม่านลี่ดู   ด้วยการกวาดตาดูเพียงครั้งเดียว หยางม่านลี่ก็ทำตาแคบลงทันที เธอดูไม่อยากจะเชื่อ   ตัวอักษร S สีทองปรากฏอยู่ในรายงานคะแนนของหานเซิ่น นั่นกำลังบอกว่าเธอเป็นฝ่ายแพ้   เขาฆ่านกไปทั้งหมด 1000 ตัว โดยไม่พลาดแม้แต่ตัวเดียว และเขายังเร็วกว่าเธอ ทำให้ยากที่เธอจะเชื่อได้   “มันเป็นไปได้ยังไง?” หยางม่านลี่ไม่อยากจะเชื่อว่าหานเซิ่นจะเก่งขนาดนั้น ครึ่งปีก่อนเธอยังเป็นครูสอนให้เขาอยู่เลย   ระดับS! พวกนักธนูมืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถทำได้ถึงระดับนี้ ถึงหานเซิ่นจะมาจากหน่วยธนู แต่ตามหลักแล้ว ถ้าเขาได้ระดับ A ก็ถือว่าน่าเหลือเชื่อแล้ว   ตามที่หยางม่านลี่รู้มา หานเซิ่นใช้เวลาส่วนมากไปกับการฝึกวอเฟรมและมวยขาวและดำ แถมเขายังต้องไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับSKTS ซึ่งเขาไม่น่าจะเวลามาฝึกซ้อมจนฝีมือก้าวหน้าได้ถึงขนาดนี้?   หยางม่านลี่จ้องไปที่หานเซิ่น ถึงเธอจะไม่อยากเชื่อ แต่ยังไงความจริงก็คือความจริง หานเซิ่นได้ระดับ S แม้แต่เธอก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เธอต้องยอมรับมัน   “โอเค ถือว่าพวกเรารู้ผลกันแล้ว” ซินเสวียนไม่อยากจะพูดอะไรมาก แต่เธอก็แอบรู้สึกดีที่หานเซิ่นเป็นฝ่ายชนะ แต่กระนั้นเธอก็ไม่อยากจะทำให้หยางม่านลี่เสียความรู้สึก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้กล่าวชมเชยหานเซิ่นต่อหน้าหยางม่านลี่ อีกอย่างเธอก็รู้ดีว่าคนอย่างหานเซิ่นถึงจะชมเชยไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร   เมื่อพวกเขาทั้ง 3 คนล็อคเอ้าออกจากซาจิทาเรียส ซูเสี่ยวเฉียวยังรู้สึกอารมณ์ค้างอยู่ หลังจากที่ได้ดูการยิงธนูของหานเซิ่น   “ไม่เคยคิดเลยว่าหานเซิ่นจะฝีมือดีขนาดนี้ ฝีมือยิงธนูของเขาเป็นของจริง” ซูเสี่ยวเฉียวดูวิดีโอที่เขาอัดมาซ้ำแล้วซ้ำอีก   การล่าของเขาเหมือนกับหนังไม่มีผิด ซึ่งมันเป็นฉากที่น่าเหลือเชื่อมาก ร่างกายของหานเซิ่นยืนอย่างหนักแน่นและมั่นคง การเคลื่อนไหวของเขาดูลื่นไหลและสมบูรณ์แบบ วิดีโอนี้ไม่ต้องการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น มันสมบูรณ์ในตัวเอง   “พวกคุณกล้ามีความลับกับผม เพราะฉะนั้นนี่คือการลงโทษ” ซูเสี่ยวเฉียวยิ้มและอัพโหลดวิดีโอลงในฟอรั่มของชุมชนซาจิทาเรียส เขาตั้งชื่อวิดีโอว่า ‘ระดับS-ป่านกขาว’   ซูเสี่ยวเฉียวลังเลอยู่สักพักก่อนจะกดอัพโหลด แต่ยังดีที่เขายังปรับแต่งวิดีโอ เพื่อปกปิดตัวจริงของหานเซิ่นไว้ไม่ให้ใครรู้ “ระดับSจริงดิ?” “ฉันไม่จะเชื่อว่ามันจะเป็นของจริง” คนจำนวนมากดูวิดีโอด้วยความสงสัย และเริ่มแสดงความเห็นกันในฟอรั่ม “นี่มันเหลือเชื่อเกินไป มันต้องเป็นใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟคแน่” “ฉันเพิ่งเช็คกับเว็ปไซต์ทางการมา การทดสอบนี่ได้ระดับSจริงๆ” “บ้าไปแล้ว! เขาทำได้ยังไง?” “นี่มันต้องเป็นผู้วิวัฒนาการแล้วแน่ๆ” “เขาเป็นใครกัน?” “ฉันหยุดดูวิดีโอนี่ไม่ได้เลย ช่วยด้วย…” “เดี๋ยวฉันจะไปช่วย แต่ขอดูวิดีโอนี่อีก 10 รอบก่อน” …   วิดีโอนี้ได้รับความสนใจมาก มีคนเอามันไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ต่างๆมากมาย ไม่นานมันก็เป็นที่พูดถึงกันในวงกว้าง จนมีผู้วิวัฒนาการหลายคนได้ยินข่าวและเข้ามาดู   ยังไงซะผู้วิวัฒนาการก็ต้องเคยเป็นผู้ยังไม่วิวัฒนาการมาก่อน และพวกเขาก็เคยฝึกในป่านกขาว แต่พวกเขายังไม่เคยได้ยินว่ามีใครได้ระดับSมาก่อน   ผู้วิวัฒนาการต่างก็รู้สึกช็อคหลังจากที่ดูวิดีโอนี้ ฝีมือธนูของหานเซิ่นมันอยู่เหนือจินตนาการของพวกเขา แม้ความแข็งแกร่งและความเร็วของเขาจะไม่ได้ดีเด่นอะไร ถ้าเทียบกับพวกผู้วิวัฒนาการแล้ว แต่ที่น่าตกใจก็คือความแม่นยำ และการคาดเดาการเคลื่อนไหวของนก   การจะทำแบบนี้ได้ต้องใช้เทคนิคสูงมาก มนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร การจะทำสิ่งที่สมบูรณ์ขนาดนี้ โดยไม่ผิดพลาดเลย มันแทบจะเป็นไปไมได้   คนที่อยู่ในวิดีโอนี้ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องมองดูเป้าหมาย ความสามารถในการควบคุมร่างกายและความมั่นใจของเขาอยู่เหนือกว่าความเร็วและความแข็งแรง “นี่ต้องเป็นของปลอมแน่” “เขาเก่งขนาดนี้จริงๆหรอ?” “ไม่อยากจะเชื่อ” “มันต้องเป็นของจริงแน่นอน เพราะเว็บทางการได้รับรองมันแล้ว” “เขาเป็นใคร?” …    

Super God Gene – ตอนที่ 233 เข้าใกล้ระดับ S
Super God Gene – ตอนที่ 233 เข้าใกล้ระดับ S

ซินเสวียนเองก็เลือกดูหานเซิ่นเช่นเดียวกัน หยางม่านลี่เป็นลูกน้องคนสนิทของเธอ และยังเป็นเพื่อนของเธอด้วย เธอรู้ฝีมือของหยางม่านลี่ดีอยู่แล้ว   สิ่งที่ซินเสวียนต้องการจะเห็นคือความก้าวหน้าของหานเซิ่น และความสามารถทั้งหมดของเขาว่าดีพอจะเป็นหัวหน้าของหัวพิเศษได้หรือไม่ ที่ผ่านมาเธอได้ศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ความสามารถของหานเซิ่นมาพอสมควรแล้ว เเละเธอก็ต้องประหลาดใจ   เขามาจากครอบครัวธรรมดาๆ แต่เขากับมาได้ไกลถึงขนาดนี้ คนส่วนมากจะคิดว่าเขามีเธอค่อยช่วยเหลือ แต่ซินเสวียนรู้ตัวดีว่าที่เขามาได้ไกลถึงขนาดนี้ เพราะความสามารถของเขาเองล้วนๆ ผลงานของเขาสร้างชื่อให้เธอด้วยซ้ำ   ถ้าซินเสวียนไม่ได้สะกดจิตเขาเพื่อถามความจริง เธอจะเชื่ออย่างสนิทใจว่าหานเซิ่นคือดอลลาร์   “ถึงม่านลี่จะแข็งแกร่ง แต่เธอไม่ใช่ผู้นำที่ดี หานเซิ่นยังมีความเป็นผู้นำดีกว่าเธอด้วยซ้ำ” ซินเสวียนถอนหายใจ ตำแหน่งหัวหน้าไม่ได้เป็นกันได้ง่ายๆ มันเป็นตำแหน่งที่ต้องแบกรับความกดดันจากเบื้องบน และยังต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกน้องได้ด้วย   ถ้าซินเสวียนเลือกได้ เธอจะเลือกเป็นแค่ทหารธรรมดาที่มีหน้าที่สู้อย่างเดียว เนื่องจากการที่เธอต้องมาอยู่ในตำแหน่งนี้ เธอต้องแบกรับความรับผิดชอบต่างๆไว้บนไหล่ของเธอ   “หวังว่าเขาจะไม่ทำให้เราผิดหวัง” ซินเสวียนไม่ต้องการให้หานเซิ่นแพ้ เพราะถ้าหยางม่านลี่ได้เป็นหัวหน้า เธออาจจะทำให้หน่วยตกอยู่ในวิกฤติ ในความคิดของเธอ หานเซิ่นเป็นคนที่รับมือกับปัญหาต่างๆของหน่วยได้ดีกว่า   เมื่อการทดสอบเริ่มขึ้น ความสนใจของซินเสวียนทั้งหมดก็อยู่ที่หานเซิ่น ตอนนี้เธอไม่สามารถละสายตาจากเขาได้   “ว้าว เซิ่น มันสุดยอดจริงๆ!” ซูเสี่ยวเฉียวอุทานออกมา เขาเคยดูวิดีโอของคนเก่งๆมามากมาย แต่เขายังไม่เคยเห็นใครทำได้แบบนี้มาก่อน   โดยปรกติแล้ว ไม่ว่านักธนูจะเร็วขนาดไหนก็ต้องมีเวลาหยุดชะงักบ้าง เช่นเวลาใส่ลูกธนู แต่ทว่าซูเสี่ยวเฉียวไม่เห็นหานเซิ่นหยุดเลย การเคลื่อนไหวของเขาไหลลื่นไม่ติดขัด ทุกๆก้าวที่เขาเดินไปข้างหน้า ลูกธนูจะบินออกไปปักทะลุตัวของนกสีดำราวกับสายฟ้า   ลูกธนูพวกนั้นราวกับมีชีวิต ไม่ว่านกสีดำจะอยู่ตรงไหน ลูกธนูจะพุ่งไปปักทะลุตัวมัน แม้จะต้องเจอกับความมืดในป่า เขาก็ไม่พลาด แม้ว่าจะเจอกับฝูงนกสีขาวและดำปนๆกัน ลูกธนูก็สามารถพุ่งเข้าปักทะลุตัวนกสีดำได้โดยไม่ทำให้นกสีขาวบาดเจ็บเลยแม้แต่ตัวเดียว   ลูกธนูบางลูกเหมือนกับถูกยิงออกไปอย่างไร้จุดหมาย แต่มันกับไปถูกตัวนกสีดำที่ซ่อนตัวอยู่ในต้นไม้   ซูเสี่ยวเฉียวรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังดูหนังอยู่ มันเป็นหนังแอคชั่นที่ทำให้เขารู้สึกเร้าร้อน เขาอยากจะเข้าไปร่วมกับเพื่อนของเขา   “นี่มันน่ามหัศจรรย์มาก.. ไม่อยากจะเชื่อเลย…” ซูเสี่ยวเฉียวกำหมัดแน่น เขารู้สึกดีใจไปกับเพื่อนของเขา   ซินเสวียนดูจะช็อคยิ่งกว่าซูเสี่ยวเฉียว ถึงเธอจะไม่ได้เป็นนักธนู แต่สายตาของเธอนั้นดีกว่าซูเสี่ยวเฉียว ดังนั้นเธอจึงมองรายละเอียดในจุดที่ซูเสี่ยวเฉียวมองไม่เห็นได้   ตั้งแต่เกมเริ่มจนถึงตอนนี้ ซินเสวียนยังไม่เห็นหานเซิ่นยิงพลาดเลย   เขาไม่เคยทำให้นกสีขาวต้องบาดเจ็บ บางครั้งซินเสวียนยังไม่ทันมองเห็นนกสีดำเลยด้วยซ้ำ แต่ลูกธนูก็ถูกยิงออกๆไปแล้ว ลูกธนูบางลูกจะเคลื่อนที่ช้ากว่าลูกอื่นๆ แต่มันจะไปถูกตัวนกสีดำที่บินมาพอดีทุกครั้ง ถ้ามันเกิดขึ้นแค่ 2-3 ครั้งก็ไม่ประหลาดใจเท่าไหร่ แต่นี่มันเกิดขึ้นรัวๆ ทำให้ซินเสวียนต้องอ้าปากค้าง   “การคาดการณ์ สายตาและความสามารถด้านธนูของเขามันเหนือมนุษย์มาก” ซินเสวียนต้องยอมรับว่าหานเซิ่นเกิดมาเพื่อเป็นนักธนูอย่างแท้จริง   สิ่งที่เขามีมากกว่าความแม่นยำก็คือการคาดการณ์ ซึ่งมันทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้   ถ้าซินเสวียนต้องบรรยายความสามารถด้านธนูของหานเซิ่นล่ะก็ เธอจะบอกว่าเขาใช้สมองในการยิงลูกธนูแต่ละลูกออกไป   คนเราสามารถฝึกฝนความแม่นยำและความแข็งแกร่งได้ แต่การคาดการณ์ และการวิเคราะห์มันฝึกกันได้ยาก   หานเซิ่นเดินไปตามเส้นทางเรื่อยๆ โดยไม่มีข้อผิดพลาดเลย   “นี่ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย…” ซูเสี่ยวเฉียวเบิกตากว้าง เมื่อเขาเห็นว่าทางออกมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว ตอนนี้เขายังไม่เห็นหานเซิ่นยิงพลาดเลยสักครั้ง แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าหานเซิ่นจะสังเกตเห็นนกสีดำหมดทุกตัวรึเปล่า ถ้าเขาฆ่ามันได้หมด เมื่อเขาถึงทางออกเขาจะได้ระดับ S   แม้แต่ซินเสวียนก็มีอาการเดียวกับซูเสี่ยวเฉียว ถึงหยางม่านลี่จะเก่งมาก ปรกติหล่อนจะได้ระดับ A ทุกครั้ง แต่ถ้าหานเซิ่นได้ระดับ S หยางม่านลี่จะแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย   ผลลัพธ์นี้ถือว่าเป็นผลดีกับตัวเธอและหานเซิ่น ถึงเธอจะได้เป็นหัวหน้า แต่การตัดสินใจของเธออาจจะนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถ้าหานเซิ่นสามารถเอาชนะหยางม่านลี่ได้อย่างราบคาบ เธอก็จะไม่มีข้อโต้แย้งอะไรอีก