Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 217 เด็กเกินไป
Super God Gene – ตอนที่ 217 เด็กเกินไป

สำหรับซินเสวียนแล้ว สถาบันเซนท์นั้นไม่ใช่คนอื่นคนไกล ถึงจะเป็นสถาบันที่ขายวิชาไฮเปอร์จีโนเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่มันก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ และมีสถานะที่พิเศษ   วิชาไฮเปอร์จีโนที่สถาบันคิดค้นได้ต้องได้รับอนุญาตจากกองทัพก่อน ถึงจะขายได้ โดยเฉพาะวิชาระดับS คนธรรมดาจะหาซื้อได้ยากมาก   สำหรับคนที่จะมีทำงานที่สถานบันเซนท์ได้จะต้องผ่านการคัดเลือกที่เข้มข้นมาก และยังถูกควบคุมด้วยกฎหลายอย่าง เพื่อความปลอดภัยของวิชาไฮเปอร์จีโน บุคลากรของสถาบันจะต้องอยู่ภายใต้กฎที่เข้มงวด   ในสถาบันเซนท์ ไป๋อี้ซานคือศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ไป๋อี้ซานคือหนึ่งในบุคคลสำคัญของสถาบันเซนท์   มันถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากที่คนสำคัญอย่างไป๋อี้ซานอยากจะเรียกตัวหานเซิ่นไปเป็นผู้ช่วยของเขาที่สถาบันเซนท์ เมื่อเขาติดต่อมาที่หน่วยพิเศษ ทุกคนต่างก็ช็อค   โดยเฉพาะซินเสวียน เธอทั้งประหลาดใจและก็มั่นใจในเวลาเดียวกันว่าคนที่เธอเลือกมานั้นเป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก   แต่กระนั้นซินเสวียนก็ไม่อยากให้หานเซิ่นไปทำงานให้สถาบันเซนท์ ตามแผนที่เธอคิดไว้ เธอจะให้หานเซิ่นเป็นผู้นำของกลุ่ม หลังจากที่เธอไปยังก็อตแซงชัวรี่เขต 2 แล้ว   ถึงแม้ว่าหยางม่านลี่จะมีความสามารถเหมือนกัน แต่เธอคิดว่าหยางม่านลี่ยังไม่มีวิสัยทัศน์ของการเป็นผู้นำที่ดี การตัดสินใจของเธอหลายๆอย่างมันสุดโต่งเกินไป ซึ่งไม่เป็นผลดีกับทีม   แต่ซินเสวียนก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ เธออยากรู้ความคิดของหานเซิ่นก่อน ถ้าเขาอยากไปที่สถาบันเซนท์ เธอจะไม่พยายามหยุดเขา เพราะยังไงการได้ทำงานที่สถาบันเซนท์จะมีอนาคตที่สดใสรออยู่   “เข้ามา” ซินเสวียนเรียกหานเซิ่นเข้ามา เมื่อเห็นเขาอยู่หน้าห้องทำงาน   หานเซิ่นคือเพชรชั้นดีที่เธอเป็นคนพบ ในตอนแรกเขาเป็นแค่คนโลภและขี้ขลาด แต่ตอนนี้เขาเติบโตขึ้นมารวดเร็วกว่าที่เธอคิดไว้   เมื่อเห็นรอยยิ้มของซินเสวียน หานเซิ่นก็รู้สึกกลัวนิดๆ “หานเซิ่น ที่ผ่านมานายทำงานได้ดีจริงๆ” ซินเสวียนยิ้มให้หานเซิ่น   “เพราะได้คุณแนะนำ ผมถึงมีทุกวันนี้” หานเซิ่นรีบพูด   “พูดได้ดี” รอยยิ้มของเธอดูเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม   นั่นทำให้หานเซิ่นเป็นกังวลยิ่งกว่าเดิม เขากลืนน้ำลายและถาม “ทำไมคุณถึงเรียกผมมาที่นี่?”   “ศาสตราจารย์ไป๋อี้ซานจากสถาบันเซนท์ต้องการให้นายไปเป็นผู้ช่วยเขา นายต้องการจะไปไหม?” ซินเสวียนเข้าเรื่องทันที   “ศาสตราจารย์จากสถาบันเซนท์น่ะหรอต้องการให้ผมไปเป็นผู้ช่วย?” หานเซิ่นประหลาดใจ เพราะเขากับสถาบันเซนท์ไม่เคยเกี่ยวข้องกัน และเขาก็ไม่เคยรู้จักกับไป๋อี้ซานมาก่อนด้วย   “มันเป็นความฝันของใครหลายๆคนที่จะได้ทำงานกับสถาบันเซนท์ แล้วยิ่งอยู่ภายใต้การดูแลของศาสตราจารย์ไป๋อี้ซานด้วย มันถือว่าเป็นโอกาสที่ดี นายควรจะคิดเกี่ยวกับมันให้ดีๆ” ซินเสวียนยิ้ม เธออยากให้เขาอยู่กับหน่วยพิเศษต่อ แต่ถ้าเขาต้องการจะไป เธอก็ไม่มีสิทธิหยุดเขา ตามหลักถ้าเห็นลูกน้องได้ดี เธอก็ควรจะดีใจด้วย   “แล้วคุณคิดว่าผมควรทำยังไง?” หานเซิ่นมองซินเสวียนและถาม หานเซิ่นยังงงๆอยู่ เพราะเขาไม่รู้ว่าไป๋อี้ซานคือใคร   “ฉันคิดว่าสถาบันเซน์คือสถานที่ที่วิเศษ รายได้ที่นั่นสูงกว่าหน่วยพิเศษ และนายยังมีโอกาสได้เรียนรู้วิชาระดับสูงจำนวนมาก ยิ่งกว่านั้นถ้านายทำได้ดีแล้วมีโอกาสได้ทำงานกับศาสตราจารย์ปีเตอร์ ซึ่งเขาคือที่มีอำนาจตัดสินใจภายในสถาบัน ถ้านายได้เป็นผู้ช่วยของเขา นายจะมีสถานะที่สูงกว่าฉันซะอีก”   “แล้วคุณอยากให้ผมไปไหม?” หานเซิ่นครุ่นคิดและถาม   “ตรงกันข้ามเลย ฉันอยากให้นายอยู่ที่นี่” ซินเสวียนส่ายหน้าและพูด “นายก็รู้ว่าฉันตั้งความหวังไว้กับนายสูงมาก ภายใน 2 เดือนนี้ฉันจะวิวัฒนาการและไปยังก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ซึ่งหลังจากนั้นฉันจะให้นายเป็นหัวหน้าต่อจากฉัน”   “งั้นก็เอาตามนั้น ผมจะปฏิเสธพวกเขาและติดตามคุณ” หานเซิ่นตอบโดยไม่มีความลังเล   ในสถาบันเซนท์มีผลประโยชน์มากมายรอเขาอยู่ก็จริง แต่ถ้าเขาตัดสินไป เขาจะดูเห็นแก่ตัวมาก และยิ่งกว่านั่นเขาก็ฝึกวิชากายหยกอยู่ ถ้าเขาต้องคลุกคลีอยู่กับผู้เชี่ยวชาญตลอด เขาจะไม่มีทางปกปิดเรื่องนี้ได้ ความลับจะต้องแตกอย่างแน่นอน   หานเซิ่นเชื่อว่าถ้าเขาไปที่นั่น เขาก็ไม่ต่างจากหนูทดลองตัวหนึ่ง ถึงแม้ซินเสวียนจะไม่พูดแบบนั้นออกมา เขาก็ตัดสินใจว่าไม่ไปอยู่แล้ว   และตอนนี้เขาก็ทำให้ซินเสวียนรู้สึกพอใจมาก เหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว   ตาของซินเสวียนเปล่งประกาย เธอไม่คิดว่าหานเซิ่นจะปฏิเสธและยอมทำตามความต้องการของเธอในทันทีแบบนี้ เธอคิดว่าเขายอมทิ้งโอกาสที่ยิ่งใหญ่ก็เพราะคำพูดของเธอ   “ฉันประทับใจในตัวนายมาก ฉันเลือกคนไม่ผิดจริงๆ” ซินเสวียนจับไหล่ของหานเซิ่นอย่างตื่นเต้น “ทำหน้าที่ให้ดีต่อไป แม้การเป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษของสตีลอาเมอร์อาจจะไม่ใช่งานที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่นายถ้าตัดสินใจไปสถาบันเซนท์ นายก็อาจจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะการจะก้าวหน้าที่นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก ฉันขอรับรองว่านายจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้”   “ผมไม่ได้คิดไกลถึงขนาดนั้น แค่ผมได้ติดตามคุณ นั่นก็ดีพอสำหรับผมแล้ว” หานเซิ่นรีบตอบ   ซินเสวียนหน้าแดง หานเซิ่นทำให้เธอนึกถึงคำพูดของเขาตอนที่โดนเธอสะกดจิต “เอ่อ ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะพูดแล้ว ตอนนี้นายก็ไปอะไรตามที่นายต้องการได้แล้ว”   เมื่อเห็นหานเซิ่นเดินออกไปเธอก็คิด ‘น่าเสียดายถ้าเขาไม่เด็กเกินไป เขาก็น่าจะคู่ควรกับเรา’    

Super God Gene – ตอนที่ 216 ถูกฆ่าไปเเล้ว
Super God Gene – ตอนที่ 216 ถูกฆ่าไปเเล้ว

หลังจากได้ฉมวกเลือดศักดิ์สิทธิมา หานเซิ่นยังไม่มีเวลาเล่นกับมันมากนักก็ถูกหวงฟูผิงชิงพาไปพบเซินเทียนจื่อ   เห็นได้ชัดว่าเซินเทียนจื่อรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังจะมา เงื่อนไขที่เสนอให้กับหานเซิ่น หวงฟูผิงชิงคงจะปรึกษากับเซินเทียนจื่อมาก่อนแล้ว   ถ้าไม่ใช่เพราะการฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิบนเกาะลึกลับเป็นงานที่ยาก และต้องทำแบบเร่งด่วน เซินเทียนจื่อจะไม่มีทางยอมร่วมมือกับหานเซิ่น แต่อย่างไรก็ตาม ความแค้นที่เขามีต่อหานเซิ่นยังน้อยกว่าดอลลาร์มาก หานเซิ่นแค่แย่งเขาฆ่ามังกรปีกม่วง ซึ่งต่างจากดอลลาร์ที่ทำกับเขาไว้เจ็บแสบมาก   แต่อย่างไรก็ตามการที่เขาจ้างหานเซิ่นมาช่วยครั้งนี้เป็นเรื่องที่สูญเปล่า เพราะโฮลี่แองเจิลถูกหานเซิ่นฆ่าไปแล้ว   ตอนที่เซินเทียนจื่อ หวงฟูผิงชิงและนิ้วโป้งต้องกลับมาเตรียมตัว พวกเขาสั่งให้ลูกน้องจับตาดูอยู่ใกล้ๆเกาะ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครไปก่อนพวกเขา ถ้าจะมีก็มีแค่ดอลลาร์ ซึ่งเขาไม่มีทางสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้ด้วยคนเดียวอยู่แล้ว ทำให้พวกเขามั่นใจว่ายังมีมอนสเตอร์อยู่ข้างบนนั้น   ครั้งนี้เซินเทียนจื่อใช้เงินไปเยอะมาก เขาต้องซื้อปีกวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิกลับมาจากหลินเป้ยเฟิง และยังขอเช่าวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิที่รูปร่างคล้ายมนุษย์มาจากซินเสียน นี่ยังไม่รวมเงินที่เขาต้องจ่ายให้กับนิ้วโป้งและหานเซิ่นเป็นค่าจ้าง   ทุกอย่างที่เขาจ่ายไปก็เพื่อวิญญาณอสูรบนเกาะลึกลับเพียงดวงเดียว   หานเซิ่นรับปีกเลือดศักดิ์สิทธิรวมถึงลูกธนูเลือดศักดิ์สิทธิจากหวงฟูผิงชิง และตามเซินเทียนจื่อไปอย่างเงียบๆ   หานเซิ่นแอบขำในใจ ‘เซินเทียนจื่อ แกยอมลงทุนไปมากขนาดนี้ ถ้าขึ้นไปบนเกาะ และพบว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่าไปแล้ว อยากรู้จริงๆว่าแกจะทำหน้ายังไง’   “สิ่งที่นายต้องทำคือยิงธนูสนับสนุนจากระยะไกล และนายต้องหยุดในตอนที่ฉันบอกให้หยุด ถ้านายกล้าขโมยวิญญาณอสูรจากฉันอีก นายจะต้องเสียใจ” เซินเทียนจื่อพูดขู่หานเซิ่น   “ไม่ต้องห่วง ผมเป็นมืออาชีพพอ ผมรู้ว่าต้องทำอะไร” หานเซิ่นตอบอย่างสงบ   “งั้นก็ดี” ครั้งนี้เซินเทียนจื่อไม่ได้กลัวว่าหานเซิ่นจะแย่งวิญญาณอสูร เพราะมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิบนเกาะต่างจากที่อื่น มันจะให้วิญญาณอสูรแน่นอน ถ้าหานเซิ่นเป็นคนฆ่า เขาสามารถมั่นใจได้เลยว่าหานเซิ่นได้วิญญาณอสูร และยังไงหานเซิ่นก็ต้องคืนให้เขา เพราะถ้าไม่คืนเขาจะตามล่าหานเซิ่นในกาแล็กซี่ แม้จะมีซินเสวียนคอยช่วยก็ยากจะรอดไปได้   เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เซินเทียนจื่อก็พานิ้วโป้งกับหานเซิ่นบินขึ้นไปบนเกาะลึกลับ เมื่อพวกเขามาถึงเกาะ เซินเทียนจื่อยังไม่ได้บุกเข้าไปที่ภูเขาทันที เขาตัดสินใจพักก่อนครึ่งวัน เพื่อให้ทีมมีความพร้อมมากที่สุด   หานเซิ่นไม่พูดอะไรเลยระหว่างที่ทางมา ตอนนี้เขารอดูหน้าของเซินเทียนจื่อตอนที่รู้ว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิถูกฆ่าไปแล้ว   ในที่สุดเซินเทียนจื่อก็พาหานเซิ่นและนิ้วโป้งบุกเข้าไปที่ภูเขา   “มอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิไปไหนแล้ว?” เซินเทียนจื่อใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูทั่วภูเขา แต่เขาไม่เห็นโฮลี่เเองเจิลเลย   จากนั้นเซินเทียนจื่อก็บินไปทั่วภูเขา แต่เขาก็ไม่เจอล่องลอยของมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเลย   เขารู้สึกฝืนใจแต่เขายังคงบินหาต่อไป เขาขอให้หานเซิ่นและนิ้วโป้งช่วยกันหาให้ทั่วเกาะ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบอะไรเลย   “ไอ้เวรดอลลาร์! ฉันจะฆ่าแก…” เซินเทียนจื่อโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา ในตอนนี้เขาเกลียดดอลลาร์จนเกินกว่าที่จะบรรยายได้ แม้จะมีคนไปฆ่าพ่อเขา เขายังไม่โกรธขนาดนี้   ระหว่างทางกลับ ใบหน้าของเซินเทียนจื่อมืดมนมาก ดูเหมือนว่าเขาจะถูกความโกรธเข้าครอบงำหมดแล้ว หานเซิ่นกับนิ้วโป้งไม่กล้าพูดอะไรตอนนี้ หานเซิ่นได้แต่แอบหัวเราะในใจ   “ทำไมถึงไปกันนานขนาดนี้? พวกคุณได้วิญญาณอสูรมาแล้วใช่ไหม?” หวงฟูผิงชิงรอพวกเขาอยู่นาน และเมื่อเห็นพวกเขากลับมา เธอก็รีบถาม   “มันไม่อยู่แล้ว” เซินเทียนจื่อกัดฟันและพูด   “หมายความว่าไง? เป็นไปไม่ได้ที่หลังจากฆ่ามอนสเตอร์บนเกาะลึกลับแล้วจะไม่ได้วิญญาณอสูร” หวงฟูผิงชิงยังไม่เข้าใจสถานการณ์   “มอนสเตอร์มันไม่อยู่แล้ว ไอ้สารเลวดอลลาร์มันฆ่าไปแล้ว ฉันจะไม่มีวันให้อภัยมัน” เซินเทียนจื่อแสดงความเกลียดชังที่มีต่อดอลลาร์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด   ที่เขาโกรธมากก็เพราะเขาต้องลงทุนไปหลายอย่างเพื่อจะได้ไปล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ แต่เขากับไม่ได้อะไรเลย   “เป็นไปได้ยังไงกัน? พวกเราต่างก็เห็นถึงความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์นั้นมาแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะฆ่ามันได้ด้วยตัวคนเดียว” หวงฟูผิงชิงอ้าปากค้างด้วยความช็อค   “ไม่มีใครอีกแล้วในเมืองนี้ที่จะแบบนั้นได้ ต้องดอลลาร์ไม่ผิดแน่” เซินเทียนจื่อโกรธจนแทบกระอักเลือด   เมื่อหวงฟูผิงชิงเห็นท่าทางของเซินเทียนจื่อ เธอก็ไม่กล้าถามอะไรอีก เพราะยิ่งเธอพูดอะไรออกไป เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก เธอรู้ดีว่าเขาลงทุนไปมากแค่ไหน   แม้เงินแค่นี้จะไม่ได้มากอะไร ถ้าเทียบกับทรัพย์สินของกลุ่มสตาร์รี่ แต่ความคับแค้นที่เขาได้รับเพราะวิญญาณอสูรที่เขาอยากได้มากกับตกไปอยู่ในมือดอลลาร์   หานเซิ่นอยากที่จะอยู่ดูเซินเทียนจื่อในสภาพนี้นานๆ แต่เมื่อเขาเห็นนิ้วโป้งเดินกลับไป เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อ   เขาคืนปีกและลูกธนูเลือดศักดิ์สิทธิให้หวงฟูผิงชิง และกลับเช่นเดียวกัน   จริงๆหานเซิ่นอยากจะขอซื้อวิญญาณอสูรลูกธนูสักดวง แต่หวงฟูผิงชิงยังต้องใช้มัน เธอคงไม่ยอมขายแน่ๆ และตอนนี้เขาก็ไม่เหลือเงินแล้วด้วย   หลังจากกลับมาที่ห้องของเขาภายในสตีลอาเมอร์ หานเซิ่นก็เรียกฉมวก 3 แฉกออกมาลองทันที เขาชอบความรู้สึกตอนที่ได้ถือมันมาก และแทบรอไม่ไหวที่จะได้ใช้มันสู้กับมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิ   ‘คราวนี้แหละ ผมต้องกลับไปที่ทะเลทรายปีศาจอีกครั้ง ด้วยฉมวกเลือดศักดิ์สิทธิอันนี้ ราชาจิ้งจอกและแบล็คเฟเธอร์เลือดศักดิ์สิทธิจะหนีไม่รอดอีกต่อไป’ หานเซิ่นคิดอยากตื่นเต้น   แต่ก่อนที่เขาจะได้ไปทะเลทรายปีศาจ เขาก็ได้รับข้อความจากซินเสวียน ซึ่งเธอขอให้เขารีบเข้าไปพบเธอ เสียงของเธอดูแปลกๆ และเธอก็ไม่ได้บอกถึงเหตุผลที่เรียกเขาไปเลย ซึ่งทำให้หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจ   ‘เรื่องนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับหน่วยพิเศษ ไม่งั้นเธอคงพูดออกมาแล้วว่าเรียกไปทำไม’ หานเซิ่นไม่รู้ว่าครั้งนี้ซินเสวียนเรียกเขาไปทำอะไร   ในเวลาเดียวกัน ซินเสวียนนั่งอยู่ในห้องทำงาน เธอกำลังอ่านเอกสารฉบับหนึ่ง ขณะที่ทำหน้าแปลกๆ   “ทำไมศาสตร์จารไป๋ถึงได้เลือกหานเซิ่น?” ซินเสวียนพึมพำ ขณะอ่านเอกสารในมือ     Facebook Page : https://www.facebook.com/SuperGodGene/ ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอน 708 แล้วครับ