Archive for Uncategorized

Super God Gene – ตอนที่ 654 ฉันจะซื้อมัน
Super God Gene – ตอนที่ 654 ฉันจะซื้อมัน

  มันคือวิญญาณอสูรทีเร็กซ์สีดำ ชื่อของมันก็คือ ‘เร็กซ์สไปค์’ มันคืออาวุธหนักที่มีความยาวเกือบ 2 เมตร   จากหนังสือแนะนำที่เขาได้มา มันเป็นอาวุธที่ดูคล้ายๆกับร่มที่หุบเอาไว้ ปลายของมันจะแหลมๆ ส่วนท้ายของมันจะมีด้ามจับ   ดูจากรูปภาพแล้วมันน่าจะเป็นอาวุธที่โจมตีได้รุนแรง มันยาวประมาณ 2 เมตร ส่วนด้ามจับยาว 50 เซนติเมตร มันมีส่วนที่เป็นคมมีลักษณะหยักๆ มันเป็นอาวุธที่ดูแปลก ไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่าดาบใหญ่หรือหอกดี   หานเซิ่นตัดสินใจซื้อมันโดยไม่ลังเล เขาต้องการอาวุธแบบนี้ เขาชอบมันมาก เนื่องจากมันเป็นอาวุธที่มีความยาวและยังโจมตีได้รุนแรง สำหรับการสู้กับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด อาวุธแบบนี้ถือว่าเหมาะมาก การใช้อาวุธระยะใกล้อย่างมีดเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายมาก   มันคือวิญญาณอสูรทีเร็กซ์สีดำ ซึ่งหานเซิ่นก็ยังดูไม่รู้เลยว่ามันเป็นธาตุไฟรึเปล่า แต่เมื่อเขาเห็นมัน เขาก็ซื้อมันทันทีโดยไม่คิดมาก   วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิดวงนี้ถูกกว่าวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิดวงอื่นๆด้วย เนื่องจากมันเป็นอาวุธที่ดูแปลกเลยไม่เป็นที่นิยม หานเซิ่นสามารถใช้มันเป็นหอกได้ แต่ด้ามจับก็ดูจะสั่นเกินไปสำหรับการใช้เป็นหอก แต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหามาก เพราะยังไงหานเซิ่นก็ไม่มีวิชาหอกดีๆใช้อยู่แล้ว   หานเซิ่นสามารถใช้มันเป็นดาบได้ แต่ใบมีดของมันไม่เหมือนกับดาบทั่วๆไป ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถใช้วิชาดาบปรกติกับอาวุธนี้ได้ ที่สำคัญมันยังหนักมากด้วย ผู้วิวัฒนาการทั่วๆไปแค่จะยกมันให้ขึ้นก็เหนื่อยแล้ว ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างนี้ ทำให้มันเป็นอาวุธที่มีราคาถูก   หานเซิ่นมีความสุขมากที่ได้มันมา เพราะยังไงวิญญาณอสูรทีเร็กซ์ก็หาได้ยากอยู่แล้ว และยังเป็นประเภทอาวุธด้วย แค่หามาได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว   ถ้าเขามีเร็กซ์สไปค์ขั้นสุดยอดไว้ใช้ เขาก็คงไม่ต้องลำบากตอนล่าทีเร็กซ์เกล็ดอัคคีมากขนาดนั้น   หลังจากซื้อเร็กซ์สไปค์มาแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเดินตลาดอีกต่อไป เขาออกจากตลาดและก็หาสถานที่ที่เขาสามารถลองใช้มันได้ เมื่อเขามาถึงห้อง เขาก็มองดูเร็กซ์สไปค์และวิญญาณอสูรอัญมณีอย่างละเอียด   “พวกมันเป็นวิญญาณอสูรทีเร็กซ์ทั้งคู่ นอกจากเร็กซ์สไปค์ไม่มีปีกแล้ว ที่เหลือมันก็ดูคล้ายๆกัน ถึงมันอาจจะไม่ใช่ธาตุไฟ แต่ยังไงอัตราการสำเร็จก็น่าจะสูงขึ้น” หานเซิ่นกัดฟัน เขาไม่อยากจะคิดอะไรมากอีกแล้ว เขารวมวิญญาณอสูรอัญมณีกับเร็กซ์สไปค์ทันที   ‘เทพเจ้า พระพุทธเจ้า เซนต์แมรี่ พระเยซูและสิ่งศักดิ์สิทธิอื่นๆ โปรดช่วยอวยพรให้ข้าน้อยด้วย! ผมมีวิญญาณอสูรอัญมณีขั้นสุดยอดแค่ดวงเดียว ตลอดชีวิตผมก็เพิ่งจะเคยได้ ดังนั้นโปรดช่วยผมด้วย!’ หานเซิ่นสวดภาวนา   ภายในอัญมณีเขาเห็นทีเร็กซ์เกล็ดอัคคีถูกวิญญาณอสูรเร็กซ์สไปค์ดูดเข้าไป จากนั้นวิญญาณอสูรเร็กซ์สไปค์ก็ส่งเสียงคำรามออกมา ขณะที่ตัวของมันเริ่มเปลี่ยนแปลงไป   เกล็ดสีดำๆของมันเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ตัวของมันเริ่มมีควันลอยออกมา และกรงเล็กของมันก็ดูจะแหลมคมขึ้น โดยรวมแล้วทีเร็กซ์ตัวนี้ดูจะแข็งแกร่งขึ้นมาก   โฮก! ทีเร็กซ์ส่งเสียงคำรามออกมา พร้อมกับพ่นไฟออกจากปาก ดูเหมือนกับว่ามันอยากจะต่อสู้มาก   แต่นี่เป็นแค่ภาพที่เขาเห็นในจิตเท่านั้น มันไม่ใช่ไฟจริงๆ เพราะถ้าเป็นไฟจริงๆ ตอนนี้ห้องของหานเซิ่นคงจะไหม้ไปหมดแล้ว   “เร็กซ์สไปค์รวมกับอัญมณีทีเร็กซ์เกล็ดอัคคีสำเร็จ คุณได้รับวิญญาณอสูรเร็กซ์สไปค์อัคคีขั้นสุดยอด”   หานเซิ่นกระโดดด้วยความดีใจ เขารีบเรียกวิญญาณอสูรเร็กซ์สไปค์เพลิงอัคคีออกมา และเขาก็เห็นว่าความยาวของมันมากขึ้น ตอนนี้มันยาวมากกว่า 2 เมตร สีของมันเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม และมีออร่าไฟห่อหุ้มเอาไว้ มันเป็นอาวุธที่ดูทรงพลังมาก   หานเซิ่นลองกวัดแกว่งมันดู ซึ่งหลังจากที่มันปะทะกับอะไรบางอย่าง ก็จะมีประกายไฟที่ดูสวยงามปรากฏออกมา   หานเซิ่นรู้สึกถูกใจมันมาก มันคืออาวุธขั้นสุดยอด และแถมมันยังดูงดงามและน่าเกรงขามมาก ในอนาคตเขาจะไม่มีปัญหาในการฉีกผิวหนังของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวเล็กๆอีกต่อไป   “อยากจะลองใช้มันโจมตีมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดดูซะแล้วสิ อยากรู้ว่ามันจะสุดยอดขนาดไหน”   หานเซิ่นป้อนคริสตัลสีดำให้เร็กซ์สไปค์อัคคีทันที เขาต้องการทำให้มันทรงพลังมากที่สุด โดยการอัพเกรดให้มันเป็นเบอร์เซิร์ก ถ้ามันเปลี่ยนเป็นอาวุธขั้นสุดยอดเบอร์เซิร์กแล้ว เขาก็น่าจะสามารถฉีกผิวหนังมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ไม่ยาก   หลังจากที่เร็กซ์สไปค์อัคคีกลืนคริสตัลสีดำเข้าไป ก็เหมือนกับมีพลังงานบางอย่างออกมาจากตัวของมัน และก็ล้อมรอบตัวมันไว้เป็นทรงกลม   หานเซิ่นยังไม่เคยเห็นวิญญาณอสูรอสูรขั้นสุดยอดถูกอัพเกรดมาก่อน ดังนั้นเขาเลยยังไม่แน่ใจว่ามันจะต้องใช้เวลานานขนาดไหน   หานเซิ่นยังไม่ได้อัพเกรดวิญญาณอสูรนกยูงเนตรมรณะ เพราะเขาต้องใช้มันค่อนข้างบ่อย ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่ามันจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ดังนั้นเขาเลยยังไม่ได้ป้อนคริสตัลสีดำให้มัน   ตอนนี้เขาตั้งใจจะให้เร็กซ์สไปค์อัคคีถูกอัพเกรดไปก่อน เนื่องจากเขายังต้องใช้หน้าไม้นกยูงอยู่   หานเซิ่นต้องการหาวิชาไฮเปอร์จีโนที่เหมาะจะเอามาใช้กับเร็กซ์สไปค์อัคคี ขณะที่มันกำลังวิวัฒนาการอยู่   อาวุธชิ้นนี้ไม่สามารถเอามาใช้กับวิชาดาบหรือหอกปรกติๆได้ ยากที่จะหาวิชาไฮเปอร์จีโนที่เข้ากับมัน   หานเซิ่นมีความสุขมากที่รวมวิญญาณอสูรสำเร็จ เขาเลยตัดสินใจพาซีโร่ออกไปเลือกซื้อชุดใหม่ๆและก็พาเธอไปเดินเล่นจนพอใจ   จิ้งจอกสีเงินนอนอยู่บนไหล่ของหานเซิ่น ขณะที่ซีโร่อุ้มเหมียวอยู่ การที่พวกเขามีสัตว์เลี้ยงที่ดูน่ารักและมีสีตรงข้ามกัน มันค่อนข้างน่าดึงดูด   “ที่รักดูนั่น! สัตว์เลี้ยงพวกนั้นสวยจังเลย” ผู้หญิงคนหนึ่งชี้ไปที่หานเซิ่นด้วยความตื่นเต้น   “ฉันจะซื้อมัน” ผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆเธอดูค่อนข้างสงบ เขาพูดกับผู้หญิงคนนั้นอย่างอ่อนโยน ทำให้ผู้หญิงคนนั้นดูจะดีใจมาก   “โอ้ ที่รัก! คุณวิเศษที่สุด” ผู้หญิงคนนั้นดึงเขามาหอมแก้ม   “เพื่อน สัตว์เลี้ยงพวกนี้ราคาเท่าไหร่?” ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาหานเซิ่นด้วยท่าทางเหย่อหยิ่ง   “ตัวไหนที่คุณอยากจะซื้อ?” หานเซิ่นถาม   “ฉันอยากจะได้ทั้ง 2 ตัวเลย” ผู้ชายคนนั้นหันไปมองผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นเขาก็ยืดอกขึ้นและพูดด้วยเสียงค่อนข้างดัง ราวกับว่าเขาอยากจะให้คนอื่นๆรู้ว่าเขารวย   โดยปรกติแล้วสัตว์เลี้ยงทั่วๆไปก็ไม่ได้แพงอะไรมาก คนส่วนมากจะเอาวิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงเล่นๆเท่านั้น ไม่ค่อยมีใครเอามันไปใช้แบบจริงๆจังๆ ส่วนที่แพงจริงๆคือวิญญาณอสูรสัตว์เลี้ยงระดับสูงที่ใช้ต่อสู้ได้ เขาเห็นว่าสัตว์เลี้ยงของหานเซิ่นดูตัวเล็กน่ารัก ดูแล้วไม่น่าจะใช้ต่อสู้ได้ เขาเลยคิดว่าราคาของมันคงจะไม่แพง   “ถ้าคุณจะซื้อ 2 ตัวเลย ผมก็พอจะให้ส่วนลดคุณได้ ผมจะยอมขายมันในราคาถูกๆแค่ 7000 ล้าน!” หานเซิ่นกำลังอารมณ์ดี ดังนั้นเขาเลยอยากจะเล่นสนุกกับคนนี้   ในเมืองใหญ่อย่างเมืองปีศาจ ราคาของวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิจะอยู่ที่ 100-200 ล้าน แต่ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงราคาของมันก็น่าจะอยู่แถว 10 ล้าน   “7000 ล้าน? นายคิดว่าสัตว์เลี้ยงของนายคือวิญญาณอสูรขั้นสุดยอดรึไง?” ผู้ชายคนนี้ดูจะไม่พอใจ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขารู้เรื่องที่มอนสเตอร์ขั้นสุดยอดมีอยู่จริง   ‘นายเข้าใจถูกแล้ว’ หานเซิ่นพูดในใจ แต่ปากของเขาพูดว่า “ถึงนี่จะไม่ใช่สัตว์เลี้ยงเลือดศักดิ์สิทธิ แต่มันอยู่กับผมมานาน และผมก็ชอบมันมากด้วย ถ้าคุณไม่ยอมจ่าย 7000 ล้าน ผมก็คงไม่ขาย”   ชายคนนี้ดูจะโกรธมาก เขาชี้นิ้วไปที่หานเซิ่นและพูดในสิ่งที่ทำให้หานเซิ่นต้องแปลกใจ “ก็ได้! ฉันจะซื้อพวกมันในราคา 7000 ล้าน” . . ฝากกดติดตามหรือกดLikeเพจด้วยครับ >>> SSG (ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอนที่ 2037 แล้วครับ)

Super God Gene – ตอนที่ 653 ปฏิเสธ
Super God Gene – ตอนที่ 653 ปฏิเสธ

  ไม่ว่าหวังอวี่ฮังจะพูดอะไรออกมาก็ตาม แต่เหล่ยเฮิงหวู่ก็ยังลังเลอยู่เล็กน้อยที่จะเข้าร่วม แม้หวังอวี่ฮังจะกล่าวอ้างถึงควีน แต่ก็ยังไม่ใช่ว่าเธอจะเข้าร่วม 100%   “นายให้เวลาฉันคิดอีกสักหน่อยเป็นยังไง?” เหล่ยเฮิงหวู่พูด   “เหล่ย ไม่เอาน่า นายยังต้องการอะไรอีก? ตอนนี้หัวหน้าเป็นผู้ที่ครอบครองเมืองราชวงศ์ถึง 2 เมือง หนึ่งในนั้นเป็นเมืองบนเกาะลึกลับด้วย ยิ่งกว่านั้นเขายังมีคนเก่งๆอีกมากมายอยู่ใต้คำสั่งของเขา ถ้ามาเข้าร่วมกับพวกเรา นายมีแต่ได้กับได้” หวังอวี่ฮังพูด   แม้หวังอวี่ฮังจะพูดดูเวอร์ไปบ้าง แต่ที่เขาพูดมาก็ไม่ได้เป็นเรื่องโกหกเลย เขาเอาเรื่องจริงมาพูดทั้งนั้น แต่ในสายตาของคนอื่นมันก็ยังไม่มีน้ำหนักมากเท่าไหร่   หานเซิ่นยังไม่ได้แต่งงานกับจีเหยียนหรัน ดังนั้นจะนับว่าเขาเป็นเขยตระกูลจีไม่ได้ ส่วนควีนก็ยังไม่ได้เข้าร่วมทีม แม้หานเซิ่นจะครอบครองเมืองราชวงศ์ 2 เมือง แต่พวกมันก็ถูกกองกำลังอื่นบริหารจัดการอยู่   ขณะที่เหล่ยเฮิงหวู่กำลังลังเล ก็มีใครบางคนมาเคาะประตูจากด้านนอก เสียงที่นุ่มนวลดังมาจากหลังประตู “คุณเหล่ยอยู่ที่นี่ใช่ไหม? ผมหลูฮุยมาที่นี่เพื่อพบคุณ”   เหล่ยเฮิงหวู่ค่อนข้างประหลาดใจ เขารีบเตรียมที่นั่งไว้รองรับ จากนั้นเขาก็เดินไปเปิดประตู คนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็คือชายหนุ่มหน้าหวาน เขายิ้มอย่างอ่อนโยน   “ทำไมหัวหน้าหลูถึงได้มาที่นี่?” เหตุผลจริงๆที่เหล่ยเฮิงหวู่มาที่เมืองนี้ก็เพราะเขาจะมาเข้าร่วมทีมของหลูฮุย   หลูฮุยเป็นคนที่ฝีมือสูงจริงๆ และเขายังเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในหมู่ผู้วิวัฒนาการ เขามีคนเก่งๆอยู่ภายใต้คำสั่งมากมาย และเขายังเป็นถึงผู้บัญชาการกองกำลังสำรองของหน่วยพิเศษบูลบลัด   หลังจากมาถึงที่นี่เหล่ยเฮิงหวู่ก็ยังไม่ได้เดินทางไปพบหลูฮุย เหล่ยเฮิงหวู่ประหลาดใจมากที่หลูฮุยเป็นฝ่ายมาหาเขาก่อน   เมื่อหลูฮุยเห็นหานเซิ่น เขาก็ยิ้มออกมาและพูด “คุณเหล่ยมีแขกใช่ไหม? งั้นผมก็คงจะไม่ขอพูดยาว ผมมาที่นี้เพื่อชวนคุณเข้าร่วมทีม คุณจะเข้าร่วมทีมของผมหรือไม่?”   เหล่ยเฮิงหวู่อึ้งไปชั่วครู่ แม้เขาพอจะรู้เหตุผลที่หลูฮุยมาแล้วก็ตาม แต่การที่เขาได้ยินคำชวนจากปากคนที่มีเกียรติและชื่อเสียงระดับนี้ มันทำให้เขาประทับใจ   “เหล่ย แล้วที่พวกเราคุยกันไว้เมื่อกี้จะว่าไง? นายจะมาเบี้ยวพวกเราตอนนี้ไม่ได้นะ!” หวังอวี่ฮังรีบพูด   เหล่ยเฮิงหวู่หันกลับไปมองหวังอวี่ฮัง “ฉันไปตกลงเมื่อไหร่? พวกเรายังไม่ได้ทำข้อตกลงกัน”   ดูเหมือนหวังอวี่ฮังมีอะไรอยากจะพูดต่อ แต่หานเซิ่นห้ามเขาไว้ หานเซิ่นลุกขึ้นและพูด “คุณเหล่ย พวกเราคิดว่าคุณเหมาะสมจะเข้าร่วมทีมของเราจริงๆ และผมสามารถให้สัญญากับคุณได้เลยว่าโอกาสที่เราจะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้นั้นมีสูงจริงๆ ดังนั้นผมหวังว่าคุณจะเข้าร่วมกับเรา”   เหล่ยเฮิงหวู่เริ่มลังเล หนึ่งก็คนมีชื่อเสียงมาก อีกคนก็ดูมีศักยภาพที่สูงมากเช่นกัน ตอนนี้เขายังตัดสินใจแบบเด็ดขาดไม่ได้   “หานเซิ่น? ผมได้ยินชื่อคุณมานานแล้ว ผมหลูฮุย” หลูฮุยเดินเข้าไปหาหานเซิ่น จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปพร้อมกับยิ้ม   “คุณเป็นหัวหน้ากองกำลังสำรองของบูลบลัดใช่ไหม? ผมก็ได้ยินชื่อคุณมามากเช่นกัน” หานเซิ่นยื่นมือออกไปจับมือทักทายกับหลูฮุย แค่ได้สัมผัสมือเขาก็รู้เลยว่าชายคนนี้มีพลังที่ไม่ธรรมดา   “ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากให้คุณมาเข้าร่วมทีมของผมด้วย ไม่ว่าผมจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ผมก็อยากให้คุณมาร่วมด้วย ผมจะยอมรับทุกเงื่อนไขที่คุณเสนอ” หลูฮุยยื่นข้อเสนอให้กับหานเซิ่น   “ผมต้องขอบคุณสำหรับคำเชิญ แต่คุณพูดเหมือนกับสิ่งที่ผมอยากจะพูดพอดี ผมเองก็อยากจะพูดอย่างเดียวกับกันคุณ” หานเซิ่นพูด   ทั้งคู่จ้องตากันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นหลูฮุยก็หันไปหาเหล่ยเฮิงหวู่และยิ้ม “คุณเหล่ย คุณจะเลือกทีมไหน แน่นอนว่าถ้าคุณเลือกมาเข้าทีมของผม ผมพร้อมที่จะมอบข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ที่คุณจะไม่มีทางปฏิเสธ”   หลังจากที่ได้ยิน เหล่ยเฮิงหวู่ก็เอนเอียงไปทางหลูฮุยทันที เขาอ่านสัญญาที่หลูฮุยมอบให้มาด้วยความช็อค “หัวหน้าหลู ทั้งหมดนี่เป็นความจริงหรอเนี่ย?”   “มันจะเป็นจริง หลังจากที่คุณเซ็นมัน” หลูฮุยตอบอย่างนุ่มนวล   “เหล่ย ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรก็ตาม พวกเราก็จะให้อย่างเดียวกัน!” หวังอวี่ฮังพูด   หานเซิ่นหยิบสัญญาของเขาออกมาเช่นกัน จากนั้นเขาก็เอาให้เหล่ยเฮิงหวู่ดูและพูด “นี่เป็นสัญญาของพวกเรา เงื่อนไขต่างๆและการแบ่งผลประโยชน์ โปรดอ่านดูให้ดี ”   หวังอวี่ฮังเริ่มจะเป็นกังวลขึ้นมาแล้ว เพราะเขาเองก็ได้เซ็นสัญญาฉบับเดียวกัน เขารู้ดีว่ามันไม่ค่อยยุติธรรม และมันก็ไม่ได้มีผลประโยชน์หรือสิทธิพิเศษอะไรน่าจูงใจเลย สัญญาของหานเซิ่นมันยากที่จะดึงดูดคน   สัญญาของหลูฮุยมีสิทธิพิเศษอื่นๆแถมให้ด้วย และด้วยชื่อเสียงของหลูฮุย ถ้าไม่เลือกหลูฮุยก็คงจิตไม่ปรกติแล้ว   เป็นไปตามคาดหลังจากที่ดูแล้ว เหล่ยเฮิงหวู่ก็ส่งสัญญาคืนให้กับหานเซิ่น “หัวหน้าหาน ผมต้องขอโทษด้วย เหตุผลที่ผมมาที่เมืองนี้ก็หวังที่จะเข้าทีมของหัวหน้าหลู และเขาก็มีข้อเสนอที่ผมปฏิเสธไม่ลงจริงๆ”   “ผมเข้าใจ” หานเซิ่นยิ้ม เขายืนขึ้นและเตรียมที่จะกลับ หวังอวี่ฮังต้องการจะพูดอะไรกับเหล่ยเฮิงหวู่ แต่หานเซิ่นห้ามเขาเอาไว้   “หัวหน้าหาน ผมหวังว่าวันหนึ่งพวกเราจะได้ร่วมงานกัน” หลูฮุยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อหานเซิ่นเดินผ่านเขาไป   “ผมก็หวังเช่นกัน” หานเซิ่นไม่ได้เกลียดหรือมีปัญหากับชายคนนี้แต่อย่างใด พวกเขาก็แค่คู่แข่งกันไม่ใช่ศัตรู   พวกเขาออกจากห้องพักของเหล่ยเฮิงหวู่ จากนั้นหวังอวี่ฮังก็พูดอย่างหดหู่ “ไอ้แก่เหล่ยมันใช่ไม่ได้เลย เขาไม่ได้เห็นแก่หน้าของฉันเลย!”   หานเซิ่นยิ้ม “ผมคิดว่าเหล่ยเฮิงหวู่กลัวคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เข้าร่วมทีมกับเรา”   “นายมาตำหนิฉันในเรื่องนี้ไม่ได้นะ ทั้งหมดเป็นเพราะสัญญาของนายมันไม่น่าจูงใจ” แม้หวังอวี่ฮังจะพูดแบบนั้น แต่ลึกๆในใจของเขาก็กลัวว่าเหล่ยเฮิงหวู่จะไม่เข้าร่วมก็เพราะความซวยของเขาอยู่เหมือนกัน   “เป็นเรื่องยากที่พวกเราจะไปชวนคนเก่งๆมาเข้าร่วมด้วย ไม่ว่าเราจะทำยังไง พวกเราไปเดินตลาดแก้เซ็งกันหน่อยเป็นไง?” หานเซิ่นไม่ได้คิดมากเรื่องเหล่ยเฮิงหวู่ไม่เข้าร่วมทีม เพราะเหตุผลหลักอีกข้อก็คือเขาต้องการมาเมืองใหญ่แบบนี้เพื่อหาซื้อวิญญาณอสูรทีเร็กซ์เลือดศักดิ์สิทธิ   เท่าที่หานเซิ่นเห็น แม้เหล่ยเฮิงหวู่จะแข็งแกร่ง แต่เขาก็แค่แข็งแกร่งธรรมดาก็แค่นั้น เขาไม่ได้มีอะไรพิเศษถึงขนาดที่ทำให้หานเซิ่นพอใจ ดังนั้นหานเซิ่นเลยไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรมากนัก   แต่ถึงเขาจะเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่นจริงๆ หานเซิ่นก็ไม่คิดจะให้สิทธิประโยชน์แก่สมาชิกคนใดคนหนึ่งมากกว่าคนอื่นๆ เขาต้องการให้ทุกคนเท่าเทียมกัน   หลังจากที่หานเซิ่นไปแล้ว หลูฮุยก็ถามเหล่ยเฮิงหวู่ “ทำไมคุณถึงไม่เลือกหานเซิ่น?”   เหล่ยเฮิงหวู่ยิ้มอย่างขมขื่น “แค่ดูและฟัง ผมก็พอรู้ว่าหานเซิ่นแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ปัญหาคือเขาขาดแบล็คอัพที่ดี ผมรู้สึกแย่ที่ต้องปฏิเสธเขา แต่ในทีมของเขาก็มีหวังอวี่ฮังอยู่ด้วย โชคของคนคนนั้น ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าพวกเขาจะล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ยังไง”   หลูฮุยผู้ปกครองดินแดนนี้ และเมืองปีศาจแห่งนี้ก็คือเมืองที่เป็นศูนย์กลางของแถบนี้ ประชากรที่นี่มากกว่าทุ่งน้ำแข็งมากมายนัก   ตลาดของที่นี่มีคนหนาแน่นมาก อัตราการซื้อขายแลกเปลี่ยนดูจะสูงกว่าของเมืองเทพธิดาเป็น 10 เท่า   ‘ถ้าเราสร้างถนนที่เดินทางได้สะดวกระหว่างเมืองเทพธิดากับเมืองนี้ มันคงจะช่วยให้เมืองเทพธิดาพัฒนาขึ้น’ หานเซิ่นคิด ถึงมันจะเป็นงานที่ยากมากก็ตาม   หานเซิ่นเคยเจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดแถวภูเขาแห่งนี้มา 2 ตัวแล้ว ถ้าเขาต้องการจะสร้างถนนจริงๆ มันเป็นงานที่ยากมากๆ   หานเซิ่นเดินไปรอบๆตลาด ซึ่งมีวิญญาณอสูรขายอยู่มากมาย และในที่สุดเขาก็เจอวิญญาณอสูรที่เขาต้องการสักที  

Super God Gene – ตอนที่ 652 เชิญยอดฝีมือ
Super God Gene – ตอนที่ 652 เชิญยอดฝีมือ

  เหล่ยเฮิงหวู่คนที่หวังอวี่ฮังพูดถึง เขาอยู่ในเมืองที่อยู่อีกฝั่งของภูเขาปีศาจ ดังนั้นพวกเขาต้องเดินทางข้ามภูเขาไปเพื่อพบคนคนนี้   แต่หานเซิ่นก็ตัดสินใจกลับไปสหพันธ์ดวงดาวก่อน เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไกล หลังจากกลับมาหานเซิ่นก็เช็คดูคอมของเขา และพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับหลายสาย ซึ่งหลักๆจะเป็นของจีเหยีนหรัน ถังเตียงลิ่ว หวงฟูผิงชิงและก็คนอื่นๆที่เขาสนิท   หานเซิ่นๆไล่โทรกลับไปหาพวกเขาทีละคน ซึ่งเนื้อหาหลักๆที่พวกเขาโทรมาหาหานเซิ่นก็คือเรื่องที่จีชิงฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ มันเป็นเรื่องที่ทำให้คนทั้งสหพันธ์ดวงดาวช็อค แต่มันก็ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ   หานเซิ่นไม่ได้โทรกลับไปหาจีเหยียนหรัน เขาเลือกที่จะไปพบเธอที่ห้องทำงานโดยตรง   จีเหยียนหรันบอกหานเซิ่นว่าจีชิงฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ แม้จะได้่รับความช่วยเหลือจากยอดฝีมือ 300 คน แต่คนที่โจมตีปิดชีวิตมอนสเตอร์ก็คือจีชิง ซากศพของมอนสเตอร์หายไปหลังจากที่มันตาย เหลือเพียงแค่ผลึกพลังชีวิต   หานเซิ่นรู้นานแล้วว่าหลังจากที่มอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตายจะไม่มีซากเหลือเอาไว้ แต่ก็มีบางตัวที่จะเหลือซากไว้ด้วย นี่ยังเป็นสิ่งที่ทำให้หานเซิ่นสงสัยอยู่ และเขาก็ยังหาคำตอบไม่ได้ด้วย   ตัวอย่างเช่นโกลเด้นโกรวเลอร์ มันพิเศษต่างไปจากมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวอื่นๆ ซึ่งหลังจากที่มันกลายเป็นวิญญาณอสูร มันก็มีความสามารถพิเศษที่ต่างไปจากวิญญาณอสูรดวงอื่นๆ   วิญญาณอสูรสำหรับขี่ปรกติ แม้จะเป็นวิญญาณอสูรขั้นสุดยอดแต่พวกมันก็จะไม่ก้าวร้าว แต่โกลเด้นโกรวเลอร์ของหานเซิ่นจะแสดงอารมณ์และความก้าวร้าวออกมาในบ้างครั้ง แถมมันยังมีความสามารถขยายร่างได้อีกด้วย มันต่างไปจากวิญญาณอสูรปรกติมาก   ดูเหมือนมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดจะมีความสามารถพิเศษและลักษณะนิสัยเฉพาะตัว นี้เป็นเรื่องที่หานเซิ่นคิดอยู่ทุกวัน แต่เขาก็ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด   ตอนนี้ทั้งสหพันธ์ดวงดาวกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด แต่หานเซิ่นรู้ว่านี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากที่มันได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องที่ทำให้คนแตกตื่นกันมาก   แม้จีเหยียนหรันจะไม่ได้พูดเรื่องนี้กับเขาตรงๆ แต่หานเซิ่นก็รู้ว่าตระกูลจีคงจะเป็นคนกระจายข่าวเรื่องนี้อย่างแน่นอน พวกเขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าพวกเขาคือกลุ่มแรกที่ฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ ซึ่งมันจะช่วยให้จียัวเจินมีโอกาสได้ขึ้นเป็นประธานสหพันธ์ดวงดาวคนใหม่   แม้จียัวเจินจะได้รับผลประโยชน์มากมายจากเรื่องนี้ แต่มันก็ยังไม่ได้การันตีว่าเขาจะชนะเลือกตั้ง 100% เพราะผู้สมัครคนอื่นๆก็คือผู้มีอิทธิพลระดับบิ๊กๆทั้งนั้น   ก่อนที่หานเซิ่นจะเดินทางกลับไปก็อตแซงชัวรี่ เขาได้โทรไปหาซานตันเฟิงด้วย   ซานตันเฟิงเกือบที่จะเก็บจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิของก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ได้ครบแล้ว หานเซิ่นเลยบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดเอาไว้ เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสก้าวหน้ามากขึ้น   หานเซิ่นไม่ได้เพิ่งจะเคยเดินทางผ่านภูเขาปีศาจ ซึ่งครั้งนี้เขาก็พาซีโร่กับจิ้งจอกสีเงินมาด้วย แต่ยังไงครั้งนี้หวังอวี่ฮังก็จะเดินทางไปกับเขาด้วย คงไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะต้องเจอเรื่องร้ายๆอะไรบ้างระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะที่ภูเขาปีศาจ มันเป็นสถานที่ที่อันตรายและลึกลับ บนภูเขาหลายจุดจะถูกหมอกปกคลุมเอาไว้ แค่มองดูหานเซิ่นก็พอจะบอกได้ว่าภูเขาลูกนี้มีมอนสเตอร์ที่น่ากลัวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาเลือกเส้นทางที่น่าจะเจอกับอันตรายน้อยที่สุดในการเดินทาง   ระหว่างการเดินทางพวกเขาตื่นตัวกันอยู่ตลอดเวลา เพราะหานเซิ่นไม่แน่ใจว่าหวังอวี่ฮังจะดึงดูดมอนสเตอร์อะไรเข้ามาอีก   ด้วยการมีจิ้งจอกสีเงินอยู่ด้วย พวกเขาเลยไม่เจอมอนสเตอร์สักตัว ดูเหมือนการมีจิ้งจอกอยู่ด้วยก็จะพอช่วยป้องกันอันตรายจากความซวยของหวังอวี่ฮังได้บ้าง   ซีโร่ในชุดสูทสำหรับต่อสู้สีขาวกำลังอุ้มจิ้งจอกอยู่ เมื่อเธออยู่ในชุดนี้ เธอก็ดูน่ารักจริงๆ ถึงขั้นที่หวังอวี่ฮังบอกว่าซีโร่คือเด็กผู้หญิงที่น่ารักที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา เขาแทบจะละสายตาจากเธอไม่ได้เลย   หานเซิ่นรีบดึงหวังอวี่ฮังออกไปห่างๆเธอ ตอนนี้เขาไม่ต้องการให้อาคนนี้มาอยู่ใกล้ๆกับซีโร่มากเกินไป   พวกเขามาถึงอีกฝากของภูเขาปีศาจได้อย่างราลื่น หวังอวี่ฮังเป็นคนนำทางพวกเขาไปที่เมืองปีศาจ   “เหล่ย!” หวังอวี่ฮังเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบชายคนหนึ่ง อีกฝ่ายเป็นคนที่ค่อนข้างมีอายุ รูปร่างของเขาล่ำสัน แค่ดูก็รู้ว่าชายคนนี้คงจะแข็งแกร่งไม่น้อย   “อวี่ฮัง ทำไมนายมาที่นี่ได้” ชายคนนี้พูดหลังจากที่เห็นหวังอวี่ฮัง ดูเหมือนเขากำลังพยายามฝืนยิ้มอยู่   “เหล่ย ฉันมาที่นี่เพื่อมาหานายโดยเฉพาะ ตอนนี้ฉันได้กลายเป็นสมาชิกของทีมที่มีพรสวรรค์ที่สุด ซึ่งพวกเรากำลังเตรียมที่จะออกล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด” หวังอี่ฮังอธิบายด้วยความตื่นเต้น   เหล่ยเฮิงหวู่มองหวังอวี่ฮังด้วยความประหลาดใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด เขามองหวังอี่ฮังด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ “นายน่ะหรอ? นายเข้าร่วมทีมที่กำลังวางแผนจะออกล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด?”   ทุกคนไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รู้จักหวังอวี่ฮัง พวกเขาต่างก็รู้เรื่องเกี่ยวกับความซวยของหวังอวี่ฮังดี การล่ามอนสเตอร์กับหวังอวี่ฮังรับประกันได้เลยว่าจะต้องเจอกับเรื่องร้ายๆแน่ ซึ่งคนส่วนมากก็คิดจะหาประโยชน์จากความโชคร้ายของเขาเพื่อล่อมอนสเตอร์ แต่ถ้าเกิดเขาดึงมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งเกินกว่าความสามารถของทีมเข้ามาละก็ มันจะกลายเป็นปัญหาได้ ซึ่งมันมีโอกาสที่พวกเขาจะสูญเสียทุกอย่าง เลยไม่มีใครกล้าพอที่จะพาหวังอวี่ฮังออกไปล่าด้วย   “ใช่! ทีมที่ฉันเข้าร่วมเป็นทีมที่มีพรสวรรค์อาจจะมากที่สุดในดินแดนนี้แล้ว ฉันมาที่นี่ก็เพื่อชวนนายเข้าร่วมทีมของเรา ฉันเห็นแก่ความเป็นเพื่อนนะเลยมาชวน ถ้านายเข้าร่วมทีมของเรา พวกเราจะกลายเป็นทีมแรกที่ฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้อย่างแน่นอน” หวังอวี่ฮังพยายามโฆษณาทีมของเขาอย่างเต็มที่   “แล้วนายเข้าร่วมทีมไหนล่ะ? หวังว่าคงจะไม่ใช่ทีมของตระกูลหวังหรอกนะ” เหล่ยเฮิงหวู่ค่อนข้างคล้อยตามคำเชิญชวนของหวังอวี่ฮังอยู่เหมือนกัน เพราะยังไงเขาก็รู้ดีว่าหวังอวี่ฮังคือคนที่มีฝีมือสูงมากคนหนึ่ง   “มา! เดี๋ยวฉันจะแนะนำให้นายได้รู้จักหัวหน้าทีมของฉันเอง เขาชื่อว่าหานเซิ่น เขาคือสุดยอดของสุดยอด! เขาสามารถฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดทุกตัวที่เขาเจอได้แน่นอน ถ้าพวกมันไม่หนีไปซะก่อน พวกเราเกือบจะฆ่าได้ตัวหนึ่งแล้ว แต่น่าเสียดายที่มันหนีไปได้ก่อน จีชิงเลยได้หน้าไปคนเดียว!” หวังอวี่ฮังอวดอ้างโดยไม่อายใครเพราะเขารู้ว่าหานเซิ่นสุดยอดจริงๆ   “หานเซิ่น?” เหล่ยเฮิงหวู่ขมวดคิ้ว เขาพยายามอย่างหนักเพื่อนึกให้ได้ว่าเขาเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน   “ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว เขาคือว่าที่ลูกเขยของจียัวเจิน” หวังอวี่ฮังยกชื่อของจียัวเจินขึ้นมาช่วยอีกแรง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของหานเซิ่น   เหล่ยเฮิงหวู่ดูจะประหลาดใจมาก หลังจากที่แนะนำเสร็จแล้ว หวังอวี่ฮังก็ชวนเหล่ยเฮิงหวู่ไปอีกห้องที่พวกเขาเตรียมไว้แล้ว เพื่อที่จะได้พูดคุยกันเกี่ยวกับทีม   “หัวหน้าหาน ฉันอยากจะรู้ว่าตอนนี้คุณมียอดฝีมือหรือนักสู้ที่มีชื่อเสียงคนไหนบ้างอยู่ในทีม” หลังจากปลดล็อคยีนได้ เหล่ยเฮิงหวู่ก็ไม่เคยต้องการเข้าทีมไหน เพราะเขากำลังรอทีมที่มีศักยภาพจริงๆ   ถ้าหานเซิ่นคือลูกเขยของจียัวเจินจริงๆ หลังจากเข้าทีมแล้วยังไงเหล่ยเฮิงหวู่ก็คิดว่าเขาคงจะได้รับแรงสนับสนุนจากตระกูลจีบ้างไม่มากก็น้อย   ตอนนี้ก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าจีชิงจากตระกูลจี คือคนที่ฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ แม้ก็อตแซงชัวรี่เขต 2 จะต่างจากเขต 1 มาก แต่การที่มีคนจากตระกูลจีมาชวน มันก็ยากที่เขาจะปฏิเสธ   “พวกเรายังไม่มียอดฝีมือคนไหนในทีม แต่สมาชิกที่เรามีอยู่ตอนนี้ก็ดีพอแล้ว พวกเราไม่สักแต่ว่าจะรับคนเข้าทีมให้เยอะๆ คนที่จะมาเข้าร่วมกับพวกเราได้จะต้องเป็นสุดยอดของสุดยอด ตอนนี้หัวหน้าของเราถือเป็นสุดยอดของสุดยอด เขาอยู่ในระดับแนวหน้าสุดของคนที่อยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 นายเคยได้ยินชื่อควีนบ้างไหม? หัวหน้าสนิทกับเธอมาก มีแนวโน้มสูงที่เธอจะเข้าร่วมทีมกับเรา” หวังอวี่ฮังรีบพูด เพราะเขากลัวว่าหานเซิ่นอาจจะบอกความจริงออกไป ถ้าหานเซิ่นพูดความจริงออกไปว่ามีกันอยู่แค่ 2 คน การโน้มน้าวเหล่ยเฮิงหวู่จะเป็นเรื่องยากทันที   “นี่เรื่องจริงหรอเนี่ย? ควีนกำลังจะเข้าร่วมทีมของนายงั้นหรอ?” เหล่ยเฮิงหวู่ถาม เขาเบิกตากว้าง ขณะมองหานเซิ่นและหวังอวี่ฮัง   “อาของผมคนนี้มักจะชอบพูดเกินจริง” หานเซิ่นยิ้ม หวังอวี่ฮังเอ่ยชื่อควีนขึ้นมา ซึ่งหานเซิ่นก็ยังไม่มั่นใจว่าเธอจะมาเข้าร่วมด้วยจริงๆ แต่หวังอวี่ฮังกับเอาชื่อเธอมาเพื่อเพิ่มความน่าสนใจของทีม   “แน่นอน ฉันไม่ได้โกหก! เหล่ย นายก็รู้จักฉันดี ฉันเคยโกหกนายอย่างงั้นหรอ?” หวังอวี่ฮังเชิดหน้าขึ้นขณะที่พูด . . ฝากกดติดตามหรือกดLikeเพจด้วยครับ >>> SSG (ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอนที่ 2031 แล้วครับ)

Super God Gene – ตอนที่ 651 เซ็นสัญญา
Super God Gene – ตอนที่ 651 เซ็นสัญญา

  หานเซิ่นมองเห็นว่าด้านหลังหวังอวี่ฮังมีมังกรเกล็ดแดงกำลังมาจากยอดเขา เห็นได้ชัดว่ามันไล่ตามเขามา แต่ดูเหมือนมันจะไม่เหมือนการไล่ปรกติ ดูแล้วมันไม่น่าจะใช่   อีกไม่กี่วินาทีต่อมา หานเซิ่นก็ต้องอึ้ง เมื่อเขาเห็นว่าด้านหลังมังกรเกล็ดแดงมีมอนสเตอร์อีกตัว มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีลักษณะเหมือนกับช้างขนาดใหญ่ ตัวของมันเป็นเหมือนกับโครงกระดูก   ถ้าเทียบขนาดกับช้างตัวนี้แล้ว มังกรเกล็ดแดงดูจะเป็นแค่ขนมขบเคี้ยวของมัน ช้างใช้งวงของมันฟาดมังกรเกล็ดแดงที่กำลังวิ่งหนี จากนั้นมันก็ใช้งวงยกมังกรเกล็ดแดงขึ้นมาทั้งตัวและก็เอาเข้าปากไป   ‘แม่เจ้าโว้ย!’ หานเซิ่นสบถออกมา จากนั้นเขาก็รีบวิ่งหนีทันที   หวังอวี่ฮังคือคนที่เกิดมาพร้อมกับความซวยจริงๆ แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังเรียกมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดมาได้ หานเซิ่นเริ่มรู้สึกเสียใจแล้ว ที่เขาไม่ได้ตัดสินใจมาล่ามังกรเกล็ดแดงคนเดียว ไม่งั้นเขาคงจะมีโอกาสได้วิญญาณอสูร   ยังโชคดีที่ช้างมันกำลังสนุกกับการเคี้ยวร่างของมังกรเกล็ดแดง ซึ่งมันทำให้หานเซิ่นและหวังอวี่ฮังมีเวลามากพอที่จะหนีได้   “อาเล็ก ผมมีคำถามอยากจะถามคุณ” หานเซิ่นกำลังหอบ พวกเขาพึ่งหนีมาถึงจุดที่น่าจะปลอดภัย   “เรื่องอะไรล่ะ?” หวังอวี่ฮังหอบหนักยิ่งกว่าหานเซิ่น   “ปรกติคุณออกล่าด้วยตัวเองยังไง?” หานเซิ่นถาม หวังอวี่ฮังเป็นเหมือนกับแม่เหล็กที่ดึงดูดมอนสเตอร์ที่น่ากลัวเข้ามา แม้จะเริ่มจากการล่ามอนสเตอร์ระดับล่างๆ แต่สุดท้ายเขาก็จะดึงดูดมอนสเตอร์ที่น่ากลัวเข้ามา ดังนั้นสำหรับหานเซิ่นแล้วเขารู้สึกแปลกใจที่หวังอวี่ฮังยังมีชีวิตอยู่มาถึงทุกวันนี้   “น้องหาน ฉันต้องขอสารภาพ ยากมากที่ฉันจะฆ่ามอนสเตอร์ด้วยตัวเอง แม้ฉันจะฆ่ามอนสเตอร์ได้ แต่ก็ไม่เคยได้วิญญาณอสูรเลยสักครั้ง การที่ฉันมาถึงทุกวันนี้ได้ ฉันต้องให้คนอื่นคอยช่วย” หวังอวี่ฮังหน้าแดง เขายอมรับความจริงที่น่าอับอาย   หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไงดี โชคดีที่หวังอวี่ฮังเป็นคนตระกูลหวัง ไม่งั้นเขาคงจะใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบากมาก มันแย่ยิ่งกว่าหานเซิ่นตอนอยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ซะอีก โอกาสรอดชีวิตของเขาต่ำมากๆ   การที่ยอดฝีมืออย่างหวังอวี่ฮังต้องให้คนอื่นคอยช่วย เป็นเรื่องที่น่า อนาถมาก   มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะหวังอวี่ฮังคือคนที่มีพรสวรรค์มากคนหนึ่ง ถ้าหานเซิ่นไม่มีหน้าไม้นกยูง ถ้าสู้กันจริงๆหานเซิ่นก็คงเอาชนะเขาได้ไม่ง่ายนัก หวังอวี่ฮังเกือบจะเก่งเท่าควีนเลยด้วยซ้ำ มันน่าเสียดายที่เขาขาดความมั่นใจที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า   “แบบนี้เป็นยังไงอาเล็ก? ผมกำลังจะจัดตั้งทีมขึ้นมาเพื่อล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ถ้าคุณสนใจ ผมจะรับคุณเข้าทีม แต่ถ้าคุณต้องการเข้าทีม คุณจะต้องเซ็นสัญญาก่อน ซึ่งในสัญญามันกำหนดไว้ว่าคุณจะต้องฟังคำสั่งของผมทุกอย่าง” หานเซิ่นพูดกับหวังอวี่ฮัง   แม้หวังอวี่ฮังจะเป็นคนที่ดวงซวย แต่หานเซิ่นก็คิดว่าความสามารถในการดึงดูดมอนสเตอร์ของเขาเป็นประโยชน์ต่อทีมมาก แต่หานเซิ่นก็ต้องหาทางทำให้หวังอวี่ฮังมีรอดชีวิตจากมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดให้ได้ในการต่อสู้   “น้องหาน!” หวังอวี่ฮังกระโดดไปยืนอยู่ต่อหน้าของหานเซิ่น เขาจับมือของหานเซิ่น และก็เอามันมาวางตรงหน้าอกของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มร้องไห้ เขารู้สึกซาบซึ้งมากจนพูดอะไรไม่ออก   “อาเล็ก ถ้าคุณมีเรื่องอะไรอยากจะพูดก็พูดออกมาได้เลย” หานเซิ่นรีบดึงมือของเขากลับมา   แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่หวังอวี่ฮังไม่ยอมปล่อยมือของหานเซิ่น เขาพูดอย่างกระตือรือร้น “น้องหาน นายเป็นยิ่งกว่าน้องแท้ๆของฉันซะอีก นายเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เห็นคุณค่าในตัวฉัน สำหรับฉันนายคือพระอาทิตย์ นายทำให้โลกของฉันสว่างสดใส!”   หวังอวี่ฮังรู้สึกซึ้งใจมาก แม้เขาจะไม่ค่อยได้สู้มากนัก เนื่องจากเขาเป็นคนที่ดวงซวยสุดๆ แต่ด้วยความสามารถในการดึงความสนใจมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดของเขาเป็นประโยชน์ต่อหานเซิ่น สำหรับหวังอวี่ฮังแล้วนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกว่าตัวเขามีประโยชน์   ตระกูลหวังช่วยเขามามาก พวกเขาหาทุกอย่างมาให้หวังอวี่ฮัง แต่ไม่เคยพาหวังอวี่ฮังออกไปล่าด้วยเลย เพราะความซวยของเขาจะส่งผลเสีย   เมื่อหวังอวี่ฮังออกล่าด้วยตัวเอง การเดินทางของเขาก็ไม่ได้ราบลื่น หลังจากที่ฆ่ามอนสเตอร์ไปไม่กี่ตัวก็จะมีมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมาต้อนรับเขาทุกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนมาชวนเขาเข้าร่วมทีม   ตอนนี้หานเซิ่นต้องการเขาจริงๆ หวังอวี่ฮังฝันมาตลอดว่าอยากเจอคนที่ต้องการเขา และในที่สุดตอนนี้เขาก็ได้รับโอกาสสักที   “เรียบร้อย! นี่เป็นสัญญาที่ผมเขียนขึ้นมา คุณลองเอามันไปดูก่อน เงื่อนไขอาจจะยุ่งยากไปสักนิด แต่การล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดไม่ใช่เรื่องง่ายๆ” หานเซิ่นเอาสัญญาให้หวังอวี่ฮังดู   หานเซิ่นคิดเรื่องสัญญาแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เขาเตรียมสัญญานี้ไว้ให้ควีนดู แต่เนื่องจากเธอกำลังยุ่งอยู่ในช่วงนี้ ตอนนี้หานเซิ่นคิดว่าหวังอวี่ฮังคือคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาเป็นสมาชิก   หวังอวี่ฮังดูมันอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็เซ็นมันทันที เงื่อนไขหลักๆของสัญญาก็คือต้องทำตามคำสั่งของหานเซิ่น มันดูเป็นเงื่อนไขที่ไม่ค่อยยุติธรรมกับสมาชิกเท่าไหร่ เนื่องจากไม่มีอำนาจตัดสินใจ แต่ในส่วนของการแบ่งผลประโยชน์นั้นค่อนข้างยุติธรรม   หานเซิ่นมีความสุขมากที่ได้เห็นแบบนั้น เขาเก็บสัญญากลับมา จากนั้นเขาก็เซ็นมัน และก็เอาฉบับก็อปปี้ส่งให้กับหวังอวี่ฮัง   “อาเล็ก ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป คุณคือส่วนหนึ่งของทีมผมแล้ว” หานเซิ่นยิ้มให้หวังอวี่ฮัง   หวังอวี่ฮังรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาถาม “หัวหน้า แล้วทีมของเรามียอดฝีมือทั้งหมดกี่คนแล้ว?”   “อืมม! มีแค่ 2 คน คุณกับผม” หานเซิ่นคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้าจะไม่โกหกสมาชิกในทีม การจะหาคนเก่งๆที่ไม่ได้สังกัดอยู่ในกองกำลังหรือทีมไหนเป็นเรื่องที่ยาก ตอนนี้เขาโชคดีมากที่ได้คนมีฝีมืออย่างหวังอวี่ฮังมาร่วมทีม   แม้จะมียอดฝีมือเก่งๆที่เป็นนักล่าเดี่ยวอยู่มากมาย แต่ปรกแล้วพวกเขามักจะรับคำชวนจากกลุ่มใหญ่ๆเท่านั้น มันยากมากที่จะมีคนมายอมเข้ากับหานเซิ่นที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น   หวังอวี่ฮังไม่ได้สนใจเรื่องนั้น จริงๆเขาก็อยากจะช่วยหานเซิ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาก็พูด “หัวหน้า ฉันรู้จักคนคนหนึ่ง เขาเป็นยอดฝีมือที่เก่งมาก เขาเป็นเพื่อนของฉันเอง เราควรจะชวนเขามาร่วมทีมไหม?”   “เขาเป็นใคร?” หานเซิ่นยังรู้สึกว่าคำว่ายอดฝีมือเก่งๆมันคลุมเครือ การล่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ซึ่งตอนนี้มนุษย์ก็เริ่มรู้ตัวกันแล้วว่ามีมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดอยู่ด้วย ถึงจะยังไม่เคยมีใครในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ฆ่ามันได้ก็ตาม   “เขาชื่อเหล่ยเฮิงหวู่ เขาอาจจะไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่ก็จริง แต่ครอบครัวของเขามีวิชาที่พิเศษอยู่ มันถูกเรียกว่า ‘ทวนอัสนีศักดิ์สิทธิ์’ ฉันเคยเห็นมันกับตามาแล้ว มันเป็นวิชาที่ทรงพลังจริงๆ เขาคือยอดฝีมือระดับแนวหน้า และยังไม่ได้เข้าทีมหรือสังกัดไหน ฉันค่อนข้างสนิทกับเขา เดี๋ยวฉันจะใช้ความสัมพันธ์อันดีดึงเขามาเข้าร่วมทีมให้เอง” หวังอวี่ฮังพูด   หานเซิ่นถามเกี่ยวกับเหล่ยเฮิงหวู่อีกหลายคำถาม หลังจากฟังแล้วคนคนนี้เป็นหนึ่งในคนที่เขาต้องการมาเข้าร่วมทีมจริงๆ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจตามหวังอวี่ฮังเพื่อไปชวนเหล่ยเฮิงหวู่มาร่วมทีม   หานเซิ่นไม่สามารถฆ่ามังกรเกล็ดแดงได้ตามแผน เนื่องจากมันถูกช้างกินเข้าไปก่อน ดังนั้นเขาเลยต้องหาวิญญาณอสูรทีเร็กซ์ดวงอื่น   โชคดีที่เหล่ยเฮิงหวู่อยู่ในเมืองใหญ่ หานเซิ่นเลยอาศัยโอกาสนี้เดินหาซื้อวิญญาณอสูรในตลาด  

Super God Gene – ตอนที่ 650 การค้นพบสุดช็อค
Super God Gene – ตอนที่ 650 การค้นพบสุดช็อค

  นี่เป็นโชคร้ายสำหรับหานเซิ่น เมื่อเขารู้สึกกลัวอะไรสักอย่าง เขาก็มักจะต้องเจอกับสิ่งนั้น ขณะที่หานเซิ่นกำลังปีนเขา เขาก็เห็นหวังอวี่ฮังกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์อยู่ที่นั่นพอดี   เมื่อหวังอวี่ฮังเห็นหานเซิ่น เขาก็ดูจะประหลาดใจมาก เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขารีบจัดการมอนสเตอร์ที่เขากำลังต่อสู้อยู่ให้เสร็จ จากนั้นเขาก็วิ่งมาหาหานเซิ่นและถามอย่างตื่นเต้น “น้องหาน นายมาหาฉันหรอ?”   “ใช่ แน่นอน” หานเซิ่นไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง เขาเลยเออออไป เขารู้สึกว่าดวงเริ่มแย่ลงตั้งแต่มาพบกับหวังอวี่ฮัง   “น้องหาน นายได้ยินข่าววงในของสหพันธ์บ้างไหม? มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ฉันยังช็อคเลยหลังจากที่ได้ยิน” หวังอวี่ฮังลดเสียงลงราวกับว่าเขากำลังจะพูดเรื่องลับๆ   “มีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นหรอ อาเล็ก?” หานเซิ่นไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเรื่องของสหพันธ์ดวงดาวเท่าไหร่ แต่เขาก็ถามไปตามมารยาท   “ตอนนี้มีแค่สมาชิกระดับสูงของสหพันธ์ และก็พวกอาวุโสตระกูลใหญ่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ได้รับการยืนยันแล้ว มันจะถูกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา” หวังอวี่ฮังหยุดชั่วครู่ เขาเอาปากมาใกล้ๆหูของหานเซิ่น “มีคนฆ่ามอนสเตอร์นั้นในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ได้”   “มอนสเตอร์อะไร?” หานเซิ่นสั่นไปทั้งตัว   “มอนสเตอร์ที่เหนือกว่าระดับเลือดศักดิ์สิทธิ เหมือนพวกเขาจะเรียกมันว่า ‘มอนสเตอร์ขั้นสุดยอด’ เรื่องนี่เป็นเรื่องที่ทำให้คนระดับสูงของสหพันธ์ช็อคมาก” หวังอวี่ฮังพูดด้วยเสียงเบาๆ   หลังจากที่หานเซิ่นได้ิยินเรื่องนั้น เขาก็รู้สึกโล่งอก เนื่องจากตอนนี้มนุษย์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ยอดฝีมือในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขารู้อยู่แล้วว่าสักวันเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น มันแค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น   “ใครเป็นคนฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ แล้วเขาทำได้ยังไง?” หานเซิ่นถามหวังอวี่ฮัง   “ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่ชื่อว่า จีชิงจากตระกูลจี นายน่าจะมีสักเป็นพี่เขยของเธอ แต่เธอก็ไม่ใช่ลูกสาวของจียัวเจินหรอกนะ สำหรับครอบครัวนายแล้ว เธอก็ถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับจีเหยียนหรัน แต่ดูเหมือนเธอจะมีพรสวรรค์สูงยิ่งกว่าจีเหยียนหรันซะอีก ตอนนี้พวกระดับสูงต่างเรียกเธอว่าความหวังใหม่” หวังอวี่ฮังหยุดพูดชั่วครู่ตอนนี้รอยยิ้มเขาจากหายไป เขาพูดต่อ “แต่การที่เธอฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ก็ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ของเธอหรืออิทธิพลของจียัวเจิน แต่เป็นเพราะได้ตระกูลหวัง หลินและเสวียช่วยด้วย พวกเขาจ้างยอดฝีมือถึง 300 คน ดูเหมือนยอดฝีมือพวกนั้นจะยังไม่ได้วิวัฒนาการ แต่พวกเขาเก็บจีโนพ้อยได้เต็มทุกคนแล้ว”   “แต่น่าเสียดายมากที่เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ยากมาก สำหรับที่นี่การจะสู้กับมอนสเตอร์พวกนั้นได้คงจะต้องวิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศก่อน ซึ่งคนที่วิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศแล้ว พวกเขาก็มักจะออกจากที่นี่ทันที ไม่งั้นร่างกายของพวกเขาก็จะปนเปื้อน” หวังอวี่ฮังถอนหายใจ   หานเซิ่นดูจะสับสนมาก เขาถาม “ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ยอมเสี่ยงชีวิตขนาดนั้น พวกเขาได้อะไรตอบแทน? แล้วทำไมจีชิงถึงได้ผลงานและชื่อเสียงไปคนเดียว?”   “เธอเป็นคนที่พบมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่บาดเจ็บ และเธอก็เป็นคนที่โจมตีปิดชีวิตมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ส่วนคนอื่นเป็นคนที่ตระกูลจีจ้างมาเพื่อช่วยเหลือเท่านั้น ซึ่งพวกเขาก็ได้รับค่าตอบแทนตามสัญญาที่ตกลงกันไว้” หลังจากพูดจบหวังอวี่ฮังก็ลดเสียงลงอีกครั้ง เขาพูด “ด้วยเรื่องนี้ ดูทรงแล้วจียัวเจินมีโอกาสสูงมากที่จะได้เป็นประธานสหพันธ์ดวงดาวคนต่อไป คงไม่มีใครกล้ามีปัญหากับตระกูลจีที่ฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้อย่างแน่นอน หลังจากที่พวกเขาทำได้ครั้งหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาคงจะสามารถทำมันได้อีก”   หานเซิ่นพยักหน้า เขารู้ดีว่าการเริ่มทำอะไรใหม่เป็นเรื่องที่ยากมาก หลังจากที่ฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวแรกอย่างยากลำบากได้ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าพวกเขาจะฆ่าตัวต่อไปได้เมื่อไหร่ แต่ยังไงพวกเขาก็คงจะทำได้ในอีกไม่นาน   “จีชิงได้วิญญาณอสูรขั้นสุดยอดรึเปล่า?”   “ใช่ ดูเหมือนจะเป็นชุดเกราะ นั่นก็เป็นเหตุผลที่จีชิงถูกเรียกว่าความหวังใหม่ ด้วยเกราะแบบนั้นก็อตแซงชัวรี่เขต 1 คงจะเหมือนสนามเด็กเล่นของจีชิง” หวังอวี่ฮังมองตาหานเซิ่น เขาพูดต่อ “โอ้ใช่ ลืมไปเลย แล้วนายมาหาฉันด้วยเรื่องอะไร?”   “ผมจะมาล่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเบอร์เซิร์กบนภูเขานี้ ถ้าอาเล็กว่างก็มาด้วยกันก็ได้” หานเซิ่นพูด เขาไม่อยากจะปฏิเสธหวังอวี่ฮัง เพราะเขาอุตส่าห์เอาเรื่องลับๆแบบนี้มาเล่าให้ฟัง   “เยี่ยมเลย! การฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิเบอร์เซิร์กเป็นงานอดิเรกของฉันเลย” หวังอวี่ฮังดีใจเหมือนกับเด็กๆ   พวกเขาทั้ง 2 คนเดินลุยเข้าไปในภูเขา หานเซิ่นปีนขึ้นเขาไปอย่างระมัดระวัง เขายังไม่ลืมว่าเขาเคยเจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่ดูเหมือนเต่าแถวๆนี้ ถ้าพวกมันยังอยู่แถวนี้ หานเซิ่นก็ต้องระวังตัวให้มาก เพราะพวกมันมีถึง 9 ตัว   ไม่นานนักหานเซิ่นก็มาถึงจุดที่เขาเคยพบกับมังกรเกล็ดแดง เขาค่อนข้างแปลกใจที่เขาเดินทางมาถึงที่นี่ได้ราบลื่นผิดปรกติ   มังกรเกล็ดแดงยังไม่ได้ทิ้งที่นี่ไป เขาเห็นด้วยสัมผัสที่ทรงพลังของเขาว่ามันกำลังพักผ่อนอยู่ภายในหุบเขา   มังกรเกล็ดแดงดูเหมือนจะแตกต่างไปจากที่เขาเห็นครั้งแรกนิดหน่อย ตอนนี้เกล็ดสีแดงๆของมันดูเหมือนกับคริสตัล เมื่อมองจากระยะไกล มันดูเหมือนกับรูปปั้นที่เกะสลักจากทับทิม มันดูสวยงามมาก   “เจ้านี่ไม่ใช่เล่นๆเลยนะ” หวังอวี่ฮังสูดลมหายใจเข้าลึก หลังจากที่เห็นมังกรเกล็ดแดง   หานเซิ่นหัวเราะ เขาหันมามองหวังอวี่ฮัง “อาเล็ก ผมขอให้คุณช่วยอะไรสักอย่าง ถ้าคุณทำได้ ผมอยากให้คุณไปดึงความสนใจมัน หลังจากที่ผมฆ่ามันได้แล้ว ผมจะให้เนื้อครึ่งหนึ่งกับคุณ”   “ตกลง!” หวังอวี่ฮังพยักหน้า เขาเรียกวิญญาณอสูรออกมาและก็วิ่งเข้าไปหามังกรเกล็ดแดง พร้อมกับส่งเสียงร้องลั่นไปตลอดทาง   เขาไม่ได้วิ่งเข้าไปใกล้มันมากนัก เขาหยุดในระยะที่พอเหมาะ จากนั้นเขาก็หาก้อนหินขว้างไปที่มอนสเตอร์ มังกรเกล็ดแดงดูจะหัวร้อนขึ้นมาทันที มันวิ่งตรงเข้าไปหาหวังอวี่ฮังด้วยความโกรธ   หวังอวี่ฮังวิ่งล่อให้มังกรเกล็ดแดงลงเขาไป หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรนกยูงเนตรมรณะออกมา จากนั้นเขาก็บรรจุขนอีกาที่เหลือทั้ง 7 เส้นลงไป   มังกรเกล็ดแดงเป็นมอนสเตอร์ที่ผิวหนังแข็งมาก แถมมันยังอยู่ในโหมดเบอร์เซิร์ก ดังนั้นผิวหนังของมันจึงแข็งกว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิทั่วๆไปมาก ถึงเขาจะใช้ขนอีกายิงก็ตาม แต่หานเซิ่นก็เกรงว่าอาจจะทำความเสียหายได้ไม่หนักหน่วงพอ   ดังนั้นหานเซิ่นเลยคิดว่าจะเล็งไปที่ดวงตาสีแดงของมัน เนื่องจากมังกรเกล็ดแดงไม่ใช่มอนสเตอร์ขั้นสุดยอด มันไม่เหมือนกับทีเร็กซ์ตัวก่อนหน้านี้ เขาเชื่อว่าสามารถยิงเข้าไปที่ตามันได้โดยตรง และอาจจะทะลุไปถึงสมอง   หานเซิ่นกำลังหาจุดเหมาะๆบนภูเขา ขณะที่เขากำลังรอให้หวังอวี่ฮังล่อมอนสเตอร์เข้ามาใกล้อีกสักนิด   ขณะที่มังกรเกล็ดแดงกำลังวิ่งวนไปวนมาอยู่แถวยอดเขา หวังอวี่ฮังก็ส่งเสียงร้องตะโกน   “วิ่ง!.” หวังอวี่ฮังกรีดร้อง เขาทำมือบอกให้หานเซิ่นรีบหนีไป ดูเหมือนจะมีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้น   หัวใจของหานเซิ่นเริ่มเต้นรัว เขากำลังคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ‘เกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย? หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นอีกนะ’ . . ฝากกดติดตามหรือกดLikeเพจด้วยครับ >>> SSG (ตอนนี้กลุ่มลับถึงตอนที่ 2025 แล้วครับ)

Super God Gene – ตอนที่ 649 ข้อสงสัยของหานเซิ่น
Super God Gene – ตอนที่ 649 ข้อสงสัยของหานเซิ่น

  เมื่อหานเซิ่นคิดถึงหลักเกณฑ์การเลือกวิญญาณอสูรมาใช้กับอัญมณี เขาก็คิดว่าผลึกพลังชีวิตก็อาจจะต้องใช้หลักการเดียวกันรึเปล่า   มอนสเตอร์ทุกตัวในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 รวมถึงมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดจะไม่ได้มีพลังธาตุ ดังนั้นเขาเลยสามารถกินผลึกพลังชีวิตของมันได้โดยตรง   แต่เมื่อมาที่ก็อตแซงชัวรี่เขต 2 มอนสเตอร์ขั้นสุดยอดแต่ละตัวจะมีธาตุของตัวเองอยู่ นั่นหมายความว่าการจะกินผลึกพลังชีวิตอาจจะต้องใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป   แน่นอนว่านี่เป็นแค่ข้อสงสัยของหานเซิ่น ซึ่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้   แต่ถ้ามันเป็นความจริง นั่นหมายความว่าหานเซิ่นจะต้องมีพลังธาตุที่หลากหลายกว่านี้ ถึงจะกินผลึกพลังชีวิตจนสามารถวิวัฒนาการเป็นผู้เป็นเลิศได้   แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว หานเซิ่นก็สงสัยว่าต้องทำยังไงถึงจะมีร่างกายธาตุไฟได้ เพราะถึงเขาจะฝึกวิชากายหยก แต่เขาก็ไม่ได้รับพลังธาตุน้ำแข็งมาแต่อย่างใด ดังนั้นตอนนี้ร่างกายของเขาก็ยังไม่เป็นธาตุไหน   ส่วนศาสตร์ตงเสวียนก็ไม่มีธาตุ มันแค่ทำให้ตัวของเขามีกลิ่นหอมๆ และที่สำคัญหานเซิ่นยังไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเลยมอนสเตอร์ในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 มีพลังธาตุด้วย   ‘ปวดหัวจริง’ หานเซิ่นกุมขมับ แม้จะยังไม่รู้อะไรเพิ่มเติม แต่หานเซิ่นก็ตัดสินใจกลับไปก็อตแซงชัวรี่ก่อน   ตอนนี้หานเซิ่นต้องการสร้างวิญญาณอสูรขั้นสุดยอดขึ้นมา ถ้าเขาได้อาวุธที่ทรงพลังมาแล้ว การจะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดเพื่อหาผลึกพลังชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับเขา   “เราต้องไปหาวิญญาณอสูรที่เป็นทีเร็กซ์ธาตุไฟมา เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จให้สูงที่สุด แต่ว่ามอนสเตอร์ที่ต่ำกว่าขั้นสุดยอดมันไม่มีธาตุ งั้นเราก็แค่หาวิญญาณอสูรทีเร็กซ์มาก็พอ” หานเซิ่นลองเช็ควิญญาณอสูรที่เขามีทั้งหมด แต่เขาก็ไม่พบวิญญาณอสูรที่ใกล้เคียงกับทีเร็กซ์เลย   การจะหาล่าด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจค้นหาในบอร์ดซื้อขายในเน็ต เขาต้องการหาซื้อวิญญาณอสูรที่ใกล้เคียงกับทีเร็กซ์   วิญญาณอสูรของทีเร็กซ์หาได้ยากและมีขายน้อยมาก หลังจากที่ใช้เวลาค้นหาอยู่นาน ในที่สุดเขาก็เจอคนที่ขายวิญญาณอสูรทีเร็กซ์   มันคือทีเร็กซ์ขนาดใหญ่ ตัวสีขาวเหมือนกับหิมะ มันคือมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่ล่าได้ในภูเขาหิมะที่ไหนสักแห่ง   หลังจากที่หานเซิ่นเห็นมัน เขาก็ต้องล้มเลิกความคิดที่จะขอซื้อมันทันที แม้เขาจะคิดว่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธินั้นไม่มีธาตุ แต่เขาเห็นว่ามันชื่อวิญญาณอสูรทีเร็กเหมันต์ เขาจึงคิดว่ามันไม่น่าจะเข้ากันได้กับอัญมณี เขาเลยไม่อยากเสี่ยง   ที่สำคัญวิญญาณอสูรดวงนี้เป็นวิญญาณอสูรประเภทชุดเกราะ ถึงเขาจะต้องการชุดเกราะขั้นสุดยอดอยู่ไม่น้อย แต่ตอนนี้เขาต้องการอาวุธมากกว่า ถ้าเขาไม่มีอาวุธที่แข็งแกร่งพอจะแทงทะลุเกล็ดหนาๆของพวกมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ มันก็ไร้ความหมาย   หานเซิ่นเห็นวิญญาณอสูรทีเร็กซ์ถูกโพสขายอยู่หลายดวง แต่ก็ไม่มีประเภทอาวุธเลย มีบางดวงเป็นวิญญาณอสูรเปลี่ยนร่าง   “อืมม เราไม่ต้องการวิญญาณอสูรเปลี่ยนร่าง ถ้าเปลี่ยนร่างเราจะใช้วิชาไม่ได้ แม้ระดับความแข็งแกร่งตอนเปลี่ยนเป็นทีเร็กซ์จะสูงขึ้นมา แต่ถ้าใช้วิชาไม่ได้ เผลอๆพลังการต่อสู้จะลดลงซะอีก” แม้จะเจอวิญญาณอสูรเปลี่ยนร่าง แต่หานเซิ่นก็ยังไม่สนใจมัน   เขาไม่สามารถหาวิญญาณอสูรที่เหมาะๆได้ ดังนั้นเขาเลยไม่อยากจะหาข้อมูลต่อไปแล้ว เขาเริ่มคิดว่าอาจจะใช้มันกับวิญญาณอสูรชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิแทน   “จริงด้วย เราเคยไปล่ามังกรเกล็ดแดงกับอีตงมู่นิ มันดูเหมือนกับทีเร็กซ์เลย บางทีมันอาจจะให้วิญญาณอสูรทีเร็กซ์ประเภทอาวุธก็ได้” หลังจากที่นั่งคิดอยู่นาน เขาก็นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้   ‘มังกรเกล็ดแดง’ เป็นชื่อที่อีตงมู่ตั้งให้มัน มันเป็นมอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิที่ดูเหมือนกับทีเร็กซ์ ในตอนที่ต่อสู้กับมันครั้งนั้นมันเปลี่ยนเป็นโหมดเบอร์เซิร์ก ทำให้หานเซิ่นกับอีตงมู่ต้องวิ่งหนี   แต่ตอนนี้เขามีหน้าไม้นกยูงอยู่ เขาสามารถล่ามันได้อย่างไม่ยากเย็น ถ้าเขาได้วิญญาณอสูรของมันมาจะเป็นอะไรที่วิเศษมาก แต่ถึงจะไม่ได้ยังไงการฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้ก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่าเสมอ   เนื่องจากเขาไม่ได้ติดต่อกลับไปที่บ้านนานแล้ว เขาจึงใช้โอกาสนี้โทรไปที่บ้านและพูดคุยกับแม่ของเขา พวกเขาคุยกันหลายเรื่อง แต่หลักๆจะเป็นเรื่องความเป็นอยู่ของครอบครัว   การเรียนของหานเหยียนเป็นไปอย่างราบลื่น เธอเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ เธอมีเพื่อนที่โรงเรียนรอยัลเป็นจำนวนมาก การที่เธอเติบโตและเข้ากับคนอื่นได้ดีแบบนี้ มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกมีความสุข   เขาไม่ต้องการให้หานเหยียนรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะเขาเองก็ไม่สามารถอยู่ดูแลเธอได้ตลอด การที่เธอดูมีความสุขกับชีวิตในโรงเรียนเป็นเรื่องที่น่ายินดี   พวกเขาคุยกับประมาน 1 ชั่วโมง ก่อนที่หานเซิ่นจะวางสายไป การคุยกับครองครัวเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ ทหารบนยานแดฟเน่จะไม่ได้อนุญาตให้โทรหาคนนอก เหตุผลที่หานเซิ่นสามารถทำได้ก็เพราะเขามีจีเหยียนหรันอยู่   ตอนนี้หานเซิ่นรู้แล้วว่าทุ่งน้ำแข็งอยู่ส่วนไหนของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ส่วนแม่ของเขาอยู่ที่เมืองซัฟไฟร์ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ไกลออกไปทางตะวันตก มันไกลเกินกว่าที่เขาจะเดินทางไปเยี่ยมเธอได้ ตามแผนที่ที่เขาได้รับมา เมืองซัฟไฟร์อยู่ไกลออกไปเป็นล้านไมล์ ซึ่งระหว่างทางก็มีพื้นที่อันตรายจำนวนมาก   แม่ของหานเซิ่นกำลังฝึกวิชาระดับSโฮลี่แองเจิลอยู่ ที่หานเซิ่นไม่ได้สอนศาสตร์ตงเสวียนให้แม่และน้องของเขาก็เพราะตัวเขาเองก็ยังฝึกไม่สำเร็จ เขาไม่รู้ว่ามันจะมีผลเสียอะไรรึเปล่า เขาจะต้องเรียนรู้มันด้วยตัวเองก่อนที่เขาจะตัดสินใจสอนให้ครอบครัวทีหลัง   สำหรับแม่ของเขา หานเซิ่นยังไม่มีแผนที่จะไปเยี่ยมเธอ เขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถเดินทางไปได้ไกลขนาดนั้น การเดินทางเป็นล้านไมล์เป็นเรื่องที่เกินไป เขาไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลามากแค่ไหน   หานเซิ่นได้สั่งห้ามแม่ของเขาจากการออกไปล่ามอนสเตอร์แล้ว เขาให้เงินเธอเพียงพอต่อการซื้อเนื้อมากินเพื่อเก็บจีโนพ้อย ซึ่งเมืองซัฟไฟร์เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีมนุษย์ที่แข็งแกร่งปกครองอยู่ แม้จะหาซื้อเนื้อระดับเลือดศักดิ์สิทธิไม่ได้ แต่สำหรับเนื้อระดับอื่นนั้นไม่ใช่ปัญหา   ด้วยเงินที่หานเซิ่นให้ไป แม่ของเขาสามารถซื้อเนื้อกินจนเก็บจีโนพ้อยเต็มได้แบบสบายๆ   หลังจากลับมาที่ก็อตแซงชัวรี่แล้ว หานเซิ่นก็เตรียมตัวสำหรับการออกไปล่ามังกรเกล็ดแดงทันที เขาต้องการวิญญาณอสูรของมันมาก   หานเซิ่นทิ้งจิ้งจอกสีเงินไว้ที่ปราสาทคริสตัล ถ้าเขาเอามันไปด้วย มังกรเกล็ดแดงคงจะหนีไปตั้งแต่ก่อนที่หานเซิ่นจะเข้าไปถึงตัวมันได้   หานเซิ่นไม่กล้ากลับไปที่เมืองเทพธิดา เพราะเขากลัวที่จะไปเจอกับหวังอวี่ฮัง ถ้าความซวยของหวังอวี่ฮังส่งผ่านมาถึงเขาได้ เขาก็คงจะไม่ได้วิญญาณอสูรที่เขาต้องการแน่ ดังนั้นเขาต้องป้องกันเอาไว้ก่อน  

Super God Gene – ตอนที่ 648 วิญญาณอสูรอัญมณี
Super God Gene – ตอนที่ 648 วิญญาณอสูรอัญมณี

  “น้องหาน ในที่สุดก็กลับมาสักที! เป็นไง นายฆ่าไดโนเสาร์นั่นได้ไหม?” หวังอวี่ฮังถามด้วยน้ำเสียงที่ลุ้นระทึก   “ผมคิดว่าคุณก็น่าจะเดาออก มันก็พอจะบอกได้แล้ว ถ้าผมฆ่ามันได้ ผมก็คงจะเอาเนื้อของมันกลับมาแล้ว?” หานเซิ่นพูด   “โอเค ไม่เป็นไรยังไงพวกเราก็ยังมีโอกาสฆ่ามันอีกมาก” หวังอวี่ฮังดูจะไม่ได้ผิดหวังเท่าไหร่ เขาพยายามปลอบใจหานเซิ่น   แต่นี่ทำให้หานเซิ่นรู้สึกไม่สบายใจแทน เขารู้สึกแปลกๆ ปรกติเขาไม่ค่อยได้เจอคนดีๆแบบหวังอวี่ฮัง ถ้าเจอคนที่คิดร้าย เขายังพอจะอ่านใจอีกฝ่ายออก ตอนนี้หานเซิ่นเริ่มกลัวคนดีๆแทน   “น้องหาน ฉันเชื่อมั่นในตัวนายมาก และฉันก็ตัดสินใจได้แล้วว่าฉันจะเข้าร่วมกลุ่มกับนาย พวกเราจะเป็นทีมเดียวกัน ฉันเชื่อว่านายจะนำพาโชคดีๆมาให้ฉันได้บ้าง ด้วยทีมที่มีหวังอวี่ฮังคนนี้อยู่ด้วย พวกเราจะมีอนาคตที่สดใสในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 อย่างแน่นอน!” หวังอวี่ฮังกอดคอของหานเซิ่น จากนั้นเขาก็เริ่มสาธยายถึงความตั้งใจของเขา ในสายตาของหวังอวี่ฮัง หานเซิ่นเป็นเหมือนกับเทพแห่งโชคลาภ เขาจะไม่ปล่อยหานเซิ่นไปไหนแน่   หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็เงียบไป เขากำลังใช้ความคิด ‘เราไปตกลงร่วมทีมกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่? ถ้าร่วมทีมกับคนคนนี้มีหวังได้เจอมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดไล่ล่าตลอดเวลาแน่!’   แม้หานเซิ่นจะไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับการจัดตั้งทีมเลย แต่หวังอวี่ฮังก็คิดไปไกลแล้ว ตอนนี้เขาวางจุดมุ่งหมายเอาไว้หมด เขาคิดว่าทีมของเขาจะต้องยิ่งใหญ่ที่สุดในก็อตแซงชัวรี่เขต 2   หลังจากที่ช่วยกันต่อสู้กับทีเร็กซ์ หวังอวี่ฮังก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาทำผลงานได้ดีกว่าที่หานเซิ่นคิด ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถในการดึงความสนใจของเขา หานเซิ่นก็ไม่มีทางใช้หน้าไม้ยิงไปที่ตาของทีเร็กซ์ได้ง่ายๆแบบนั้น   เอาจริงๆหานเซิ่นก็ต้องการคนอย่างหวังอวี่ฮัง แต่เมื่อได้ยินความฝันและจุดมุ่งหมายที่ดูเวอร์เกินของหวังอวี่ฮัง หานเซิ่นก็เริ่มที่จะลังเล   “น้องหาน ถ้าพวกเราร่วมมือกันไม่มีอะไรในโลกนี้ที่พวกเราทำไม่ได้!” หวังอวี่ฮังยังคงกอดคอของหานเซิ่นอยู่ ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในเมืองโลหะดำ ตลอดทางหวังอวี่ฮังก็พูดถึงอนาคตที่สดใสของเขาและหานเซิ่น   แต่เมื่อหานเซิ่นเห็นสภาพของเมืองโลหะดำ เขาก็ต้องเหงื่อตก นี่มันแทบไม่ต่างจากซากปรักหักพัง เมืองทั้งหมดถูกทีเร็กซ์ทำลายไม่มีเหลือ ถ้าไม่ได้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาช่วยซ่อมแซม การพยายามจะฟื้นฟูเมืองนี้ขึ้นมาดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ถึงจะมีเทคโนโลยี แต่ก็ยังต้องการเวลาและคนงานจำนวนมาก   หานเซิ่นตัดสินใจเรียกเจ้าหญิงว่างเปล่าออกมา เขาอยากรู้ว่าเธอพอจะมีทางทำอะไรได้บ้างรึเปล่า บางทีเธออาจจะมีความสามารถในการขับเคลื่อนเมืองเหมือนเจ้าหญิงเงือกก็ได้ ซึ่งผลลัพธ์ก็ทำให้หานเซิ่นยิ้มออกมา เจ้าหญิงว่างเปล่าสามารถควบคุมเมืองได้จริงๆ เธอมีความสามารถถึงขนาดทำให้เกาะลึกลับหยุด หรือเคลื่อนที่ไปไหนก็ได้ตามต้องการ   แต่ที่น่าผิดหวังก็คือการเคลื่อนที่ตอนนี้ดูจะช้ามาก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะฟื้นฟูเมืองกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แต่ถ้าเมืองกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง นี่มันก็ไม่ต่างจากยานเหาะส่วนตัวของหานเซิ่น   หานเซิ่นกลับลงไปหาหยางม่านลี่ หลี่ซิงหลุนและฟิลิป เขาต้องการแบ่งสรรพื้นที่ในเมืองให้กับพวกเขาด้วย ถ้าไม่ได้เงินลงทุนและคนของพวกเขา หานเซิ่นก็ไม่น่าจะดูแลเมืองที่ใหญ่ขนาดนี้ได้   เมื่อเกาะลึกลับลงจอดบนพื้น ทุ่งน้ำแข็งก็สั่นสะเทือน   หานเซิ่นมีสิทธิเต็มตัวในเมืองบนเกาะลึกลับ เพราะเขาบุกขึ้นไปยึดมันคนเดียว บวกกับมีคนจำนวนมากเห็นเขาไล่ล่าทีเร็กซ์ ตอนนี้ชื่อเสียงของเขาในทุ่งน้ำแข็งดังกระฉ่อน เขาเป็นยิ่งกว่าตำนานของที่นี่ คนที่นี่มองเห็นเขาราวกับเป็นเทพเลยด้วยซ้ำ   คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในทุ่งน้ำแข็งเอาข่าวเรื่องนี้ไปโพสต์ลงไปในเน็ต แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับความเห็นในแง่ลบของเกรียนคีย์บอร์ดที่บอกว่าพวกเขากุข่าวปลอมขึ้นมา ข่าวนี้เลยไม่ค่อยเป็นที่สนใจเท่าไหร่ ถึงแม้มันจะเป็นฉากต่อสู้ที่สุดยอดมากก็ตาม   หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน หานเซิ่นก็เริ่มเสียใจแล้วที่พบกับหวังอวี่ฮัง เพราะหลังจากที่ได้หวังอวี่ฮังมาเข้าร่วมด้วย ชีวิตเขาก็ไม่มีอะไรที่ราบลื่นเลย   เก้าอี้ตัวโปรดของเขาที่นั่งอยู่เป็นประจำ อยู่ๆก็หัก เมื่อเขาออกไปเดินออกกำลังกายตอนเช้า เขาก็เดินตกหลุม ตอนนี้ชีวิตประจำวันของเขาดูจะมีแต่เรื่องซวยๆ ดูเหมือนตราบใดที่หวังอวี่ฮังยังอยู่ใกล้ๆเขา ชีวิตของเขาคงจะต้องเจอแต่เรื่องร้ายๆแน่   และหานเซิ่นก็ได้พบว่าหวังอวี่ฮังไม่ได้เป็นตัวดึงมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดให้เข้ามาได้เลย ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขายังไม่ได้เจอกับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวใหม่เลย   หานเซิ่นหาข้ออ้างจนเขาสามารถออกจากเมืองเทพธิดามาได้ เขาต้องการออกห่างๆจากหวังอวี่ฮังสักระยะ หานเซิ่นต้องการไปที่ปราสาทคริสตัล แม้จะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นก็ตาม แต่เหมือนหานเซิ่นจะรู้สึกว่าไม่ควรอยู่ใกล้หวังอวี่ฮัง   “ทุกคนในเมืองเทพธิดา ฉันต้องขอโทษด้วย แต่ฉันไม่มีทางเลือก” หานเซิ่นหาข้ออ้างจนได้เดินทางออกจากเมืองเทพเทพธิดา หลังจากนั้นเขาเดินทางไปที่ปราสาทคริสตัล ในที่สุดเขาก็โล่งอกสักที   ตอนนี้หานเซิ่นยังหาวิธีกินผลึกพลังชีวิตของทีเร็กซ์ไม่ได้เลย การกินมันเข้าไปก็ไม่ต่างจากการกินยาพิษฆ่าตัวตายเท่าไหร่   หานเซิ่นเอามันเก็บไว้ในปราสาทคริสตัล จากนั้นเขาก็กลับไปที่สหพันธ์ดวงดาวเพื่อหาข้อมูลในเน็ต   แต่ก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลึกพลังชีวิตเลย ดังนั้นเขาจึงไปหาข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณอสูรอัญมณีแทน ซึ่งผลลัพธ์ทำให้หานเซิ่นต้องประหลาดใจ จนเขาเกือบจะตกเก้าอี้   ถ้าให้วิญญาณอสูรดวงอื่นกินวิญญาณอสูรอัญมณีเข้าไป มันจะเป็นการอัพเกรดวิญญาณอสูรดวงนั้น   ยกตัวอย่างเช่น ถ้าให้วิญญาณอสูรระดับกลายพันธ์กินวิญญาณอสูรอัญมณีระดับเลือดศักดิ์สิทธิ วิญญาณอสูรระดับกลายพันธ์ดวงนั้นก็จะวิวัฒนาการกลายเป็นระดับเลือดศักดิ์สิทธิ   “งั้นก็หมายความว่าถ้าเราให้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิของเรากิน มันก็กลายเป็นวิญญาณอสูรขั้นสุดยอดน่ะสิ” หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้นมาก   ถ้านี่เป็นความจริง หานเซิ่นก็สามารถให้วิญญาณอสูรอัญมณีกับวิญญาณอสูรที่เป็นอาวุธได้ เพื่อที่เขาจะได้อาวุธระดับขั้นสุดยอดมาครอบครอง แบบนี้เขาก็จะแก้ปัญหาเรื่องขาดอาวุธที่ทรงพลังได้   หานเซิ่นลองอ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิญญาณอสูรอัญมณีต่อไปเรื่อยๆ และเขาก็พบปัญหาเข้า   วิญญาณอสูรอัญมณีไม่ใช่สักแต่ว่าเอาไปอัพเกรดสุ่มสี่สุ่มห้าได้ เพราะมันมีอัตราการสำเร็จด้วย ถ้าให้กินแล้วอัพเกรดไม่สำเร็จ วิญญาณอสูรอัญมณีก็จะหายไปแบบฟรีๆ   แถมมันยังมีกฎอีกด้วยว่าวิญญาณอสูรอัญมณีจะใช้อัพเกรดให้กับวิญญาณอสูรที่ระดับห่างกันมากๆไม่ได้ เช่นถ้าให้วิญญาณอสูรอัญมณีระดับเลือดศักดิ์สิทธิกับวิญญาณอสูรสามัญ วิญญาณอสูรสามัญจะไม่สามารถรับพลังได้ไหว และมันจะทำให้ทั้งวิญญาณอสูรสามัญและวิญญาณอสูรอัญมณีหายไปทั้งคู่   การใช้จะต้องดูระดับของวิญญาณอสูรด้วยไม่งั้นก็จะทำให้เกิดผลเสียอย่างใหญ่หลวง   จากข้อมูลที่เขาได้มา ดูเหมือนจะไม่มีวิธีแบบสำเร็จแน่นอนเลย แต่ก็มีโพสต์ของคนที่มีประสบการณ์ พวกเขาบอกว่าการรวมวิญญาณอสูรที่มีลักษณะคล้ายๆกันจะเพิ่มโอกาสสำเร็จได้   ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวิญญาณอสูรอัญมณีได้มาจากมอนสเตอร์ประเภทหมาป่า ก็ควรจะหาวิญญาณอสูรอีกดวงที่เป็นประเภทหมาป่าเหมือนกันมา แบบนี้จะทำให้โอกาสสำเร็จสูงขึ้นได้ แต่แน่นอนว่ายังไงโอกาสมันก็ไม่มีทางสำเร็จ 100%   ขณะที่หานเซิ่นค้นหาข้อมูล เขาก็บังเอิญไปเจอข้อมูลที่รั่วมาจากก็อตแซงชัวรี่้เขต 3 วิญญาณอสูรอัญมณีของที่นั่นพวกธาตุจะมีผลต่อโอกาสสำเร็จด้วย ถ้าเป็นธาตุเดียวกันโอกาสสำเร็จก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น   ‘ถ้าเป็นแบบนี้เราก็ต้องไปหาวิญญาณอสูรทีเร็กซ์ธาตุไฟมาสินะ’ หานเซิ่นคิด ขณะที่คิดตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา  

Super God Gene – ตอนที่ 647 วิญญาณอสูรทีเร็กซ์
Super God Gene – ตอนที่ 647 วิญญาณอสูรทีเร็กซ์

  ทีเร็กซ์ที่ตามองไม่เห็นยังคงบินหนีต่อไป แต่มันก็ถูกหานเซิ่นและจิ้งจอกสีเงินไล่ตามโจมตีไปตลอดทาง ตอนนี้อาการของมันสาหัสมาก แต่มันก็ยังคงดิ้นร่นและไม่ยอมตายง่ายๆ   ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเลือดของทีเร็กซ์ไหลออกไปจำนวนมากแค่ไหนแล้ว แต่แค่มองดูมันไหลไปตลอดทาง หานเซิ่นก็รู้สึกว่าครั้งนี้ยังไงมันก็ไม่น่าจะรอดไปได้   เมื่อเห็นมหาสมุทร หานเซิ่นก็เลือกที่จะลงมาที่ผิวน้ำและใช้ซิลเวอร์อีลตามมันไป แต่เขาก็รักษาความเร็วให้พอๆกับทีเร็กซ์ที่อยู่ด้านบน   หานเซิ่นเองก็ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน ถ้าเขายังคงฝืนบินต่อไป ตัวเขาเองอาจจะเป็นฝ่ายที่ร่างกายทนไม่ไหวก่อนก็ได้   พวกเขาไล่ตามทีเร็กซ์ไป 8 วัน ในวันที่ 8 ทีเร็กซ์ก็ไม่สามารถที่จะบินหนีได้อีกต่อไป และในที่สุดมันก็ล่วงลงไปในทะเล   ด้วยขนาดตัวอันมหึมาของมัน เมื่อมันล่วงลงไปในทะเลก็ทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ ทีเร็กซ์พยายามอย่างหนักเพื่อจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ก็ไม่เป็นผล   แม้มันจะไม่สามารถขึ้นมาจากน้ำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะตายแล้ว หลังจากที่หานเซิ่นกระโดดขึ้นไปบนหลังมัน เขาก็พบว่ามันไม่มีแรงที่จะต่อสู้ได้แล้ว แต่เนื่องจากเขาไม่มีอาวุธที่มีพลังพอจะเจาะทะลุเกล็ดของมันได้ หานเซิ่นจึงได้แค่รอให้มันตายไปเอง   หลังจากที่เขารอมา 2 อาทิตย์ ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต   “ทีเร็กซ์เกล็ดอัคคีขั้นสุดยอดถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรทีเร็กซ์เกล็ดอัคคี เมื่อกินผลึกพลังชีวิตของมัน คุณมีโอกาสได้รับ 0-10 จีโนพ้อยขั้นสุดยอด”   หานเซิ่นมองดูร่างขนาดใหญ่ของทีเร็กซ์สลายหายไปกับตา ผลึกที่เหมือนกับคริสตัลสีแดงล่วงลงมาจากซากศพของมัน มันเป็นคริสตัลที่สวยงามมาก ขนาดของมันใหญ่พอๆกับกำปั้น   หานเซิ่นรีบรับคริสตัลไว้ทันที แต่ไฟของมันเผามือของเขา เขารีบดึงกลับมา ทำให้คริสตัลล่วงลงไปในทะเล   มันเป็นเหมือนกับลูกไฟที่ตกลงไปในทะเล น้ำทะเลรอบๆระเหยกลายเป็นไอ ตอนนี้น้ำทะเลเริ่มเดือดขึ้นมาแล้ว   “อะไรเนี่ย! แล้วเราจะกินมันเข้าไปได้ยังไง?” หลังจากที่มันตกลงไปในทะเล หานเซิ่นก็กลัวว่าจะมีมอสเตอร์ที่อยู่ใต้ทะเลมาแย่งมันไปรึเปล่า เขารีบเรียกหน้าไม้นกยูงออกมาและใช้มันเขี่ยคริสตัลขึ้นมา   ผลึกพลังชีวิตไม่ได้เย็นลงเลย แม้มันจะตกลงไปในทะเลแล้วก็ตาม   หานเซิ่นนั่งมองดูคริสตัลที่อยู่บนหน้าไม้นกยูง เขาขมวดคิ้ว “แล้วเราจะกินมันเข้าไปได้ยังไง? ถ้าเราเลียมันเหมือนตอนที่อยู่ในก็อตแซงชัวรี่เขต 1 ลิ้นเราก็คงจะถูกเผาแน่”   จิ้งจอกสีเงินลงมาอยู่ตรงแขนของหานเซิ่น มันพยายามจะใช้อุ้งเท้าของมันแตะไปที่ผลึกพลังชีวิต หานเซิ่นรีบหยุดมันทันที เขาต้องการกินผลึกพลังชีวิตด้วยตัวเอง จีโนพ้อยขั้นสุดยอดมีความหมายต่อเขามาก เขาไม่มีทางให้จิ้งจอกกินมันแน่   แต่ดูเหมือนหานเซิ่นจะเข้าใจผิด จิ้งจอกไม่ได้ต้องการจะกิน ดูเหมือนมันแค่สงสัยเกี่ยวกับผลึกพลังชีวิต มันอาจจะคิดว่าเป็นแค่ลูกบอลเลยจะเล่น แต่เมื่ออุ้งเท้าของมันสัมผัสโดนผลึกพลังชีวิต มันก็โดนลวกทันที หลังจากนั้นมันก็เลิกสนใจผลึกพลังชีวิต   “นายไม่ต้องการกินมันหรอ?” หานเซิ่นเอาผลึกพลังชีวิตมาวางตรงหน้าจิ้งจอก มันมองผลึกพลังชีวิตด้วยสีหน้าที่ดูถูก จากนั้นมันก็เมินใส่   ‘เฮ้! จิ้งจอกที่ตะกละแบบนี้กลับไม่สนใจของดีขนาดนี้งั้นหรอ?’ หานเซิ่นช็อค   หลังจากเห็นว่าจิ้งจอกไม่สนใจ หานเซิ่นก็อยากจะทดสอบต่อ เขาเรียกอาร์คแองเจิลออกมา จากนั้นเขาก็วางผลึกพลังชีวิตลงต่อหน้าเธอและถาม “เธออยากจะกินมันไหม?”   หลังจากที่นางฟ้าตัวน้อยมองผลึกพลังชีวิตแล้ว เธอก็ส่ายหัวทันที เหมือนว่าเธอจะไม่สนใจมันเลย   “เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?” หานเซิ่นรู้สึกงงเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคู่หูจอมตะกละอย่างจิ้งจอกและอาร์คเเองเจิลจะไม่สนใจของดีๆแบบนี้ นี่มันบ้าไปแล้วหรอ?   ‘อาจจะเพราะมันร้อนเกินไปละมั้ง พวกมันเลยไม่สนใจ’ หานเซิ่นคิดหาเหตุผลที่พอเป็นไปได้มากที่สุด   น่าเสียดายที่นางฟ้าน้อยกับจิ้งจอกไม่สามารถพูดได้ ไม่งั้นพวกมันก็คงจะบอกเขาได้ว่าทำไมพวกมันถึงไม่สนใจผลึกพลังชีวิต   หานเซิ่นคิดแล้วคิดอีกว่าจะกินผลึกพลังชีวิตยังไง แต่เขาก็ยังคิดวิธีดีๆไม่มีได้เลย “นี่มันยิ่งกว่าลูกเหล็กที่ถูกไฟเผาอีก แล้วเราจะกินมันยังไง?”   แม้เวลาจะผ่านไป แต่อุณหภูมิของผลึกพลังชีวิตก็ไม่ได้ลดลงเลย และก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้มันเย็นลงได้เลย หานเซิ่นลองพยายามเอาลิ้นไปแตะมันดู แต่โชคร้ายลิ้นของเขาก็ถูกไฟลวกเข้า   “อะไรว่ะเนี่ย พระเจ้ากลั้นแกล้งฉันรึไง?! แล้วฉันจะกินมันยังไง?” หานเซิ่นจนปัญญา เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เขาเหนื่อยที่จะพยายามต่อแล้ว เขาต้องเก็บมันไว้ก่อนแล้วค่อยหาทางทีหลัง   โชคดีที่แม้มันจะร้อน แต่ตความร้อนของมันก็ไม่ได้ถึงขนาดไฟของทีเร็กซ์ เขาเอามันใส่ลงไปในกระติกน้ำที่ทำจากโลหะ โชคดีที่มันไม่ได้ร้อนถึงขนาดที่ทำให้โลหะละลายได้ เขาจึงสามารถเก็บมันไว้ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร   “แปลกมาก” หานเซิ่นตรวจสอบผลลัพธ์จากการต่อสู้ทั้งหมด เขาพบว่าขนอีกาเสียหายเกือบหมด พวกมันถูกทีเร็กซ์เผาจนไม่เหลือชิ้นดี หานเซิ่นเหลือขนอีกาที่ใช้การได้อยู่เพียง 7 เส้น   แต่เมื่อแลกกับการฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้ แม้จะต้องสูญเสียมากแค่ไหนก็ยังคุ้มค่ามาก   ในที่สุดก็ถึงเวลาที่หานเซิ่นจะเช็คดูของรางวัลที่ดีที่สุดที่เขาได้มาจากการล่า ซึ่งก็คือวิญญาณอสูรของทีเร็กซ์เกล็ดอัคคี   ประเภทวิญญาณอสูรทีเร็กซ์เกล็ดอัคคีขั้นสุดยอด : อัญมณี   เมื่อเห็นคำบรรยาย เขาก็อึ้งไปเลย เขายังไม่เคยได้วิญญาณอสูรประเภทนี้มาก่อนเลย แม้เขาจะเคยอ่านผ่านๆเจอว่าในก็อตแซงชัวรี่เขต 2 มีวิญญาณอสูรประเภทนี้อยู่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไรได้   หานเซิ่นลองพยายามทดลองใช้ดู เขาเรียกวิญญาณอสูรทีเร็กซ์เกล็ดอัคคีออกมา แต่สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเขาก็คืออัญมณีสีแดงขนาดเท่ากับฝ่ามือ ภายในอัญมณีเขาเห็นรูปของทีเร็กซ์อยู่ลางๆ   แม้หานเซิ่นจะจ้องมองมันยังไง เขาก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอัญมณีอันนี้ใช้ทำอะไรได้กันแน่   “คงต้องรีบกลับไปที่เมืองก่อน และค่อยไปหาข้อมูลเกี่ยวกับมันที่สหพันธ์ดวงดาว” หานเซิ่นกลับไปนั่งบนหลังของซิลเวอร์อีล เขาใช้มันแล่นกลับไปที่ทุ่งน้ำแข็ง   มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของหานเซิ่น เขาอยากจะรู้ว่าทำไมดวงของหวังอวี่ฮังถึงได้ซวยขนาดนั้น ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าถ้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนคนนี้แล้วเขาจะซวยไปด้วย แต่เขากลับได้วิญญาณอสูรขั้นสุดยอดมา แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้รับความซวยมาจากหวังอวี่ฮังเลย   แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่การที่เขาไม่รู้ว่าจะกินผลึกพลังชีวิตยังไง ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ มันเหมือนมีอะไรกวนใจเขาตลอดเวลา   หลังจากกลับมาที่ทุ่งน้ำแข็ง เขาก็พบว่าเกาะลึกลับยังคงอยู่ มันไม่ได้ถูกไฟเผาจนสลายหายไป ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกโล่งอก   เมื่อหานเซิ่นกลับไปที่เกาะลึกลับ หวังอวี่ฮังก็ยืนรอต้อนรับเขาอยู่แล้ว  

Super God Gene – ตอนที่ 646 ไล่ล่าทีเร็กซ์
Super God Gene – ตอนที่ 646 ไล่ล่าทีเร็กซ์

  แม้ทีเร็กซ์จะตาบอด แต่มันก็ยังมีประสาทสัมผัสอื่นที่ดีอยู่ ตอนนี้มันกำลังบินไปทางเหนือเพื่อออกจากเขตทุ่งน้ำแข็ง   หานเซิ่นไล่ตามทีเร็กซ์ไปโดยเขายังมีความหวังที่จะฆ่ามันได้ บาดแผลที่ตาของมันค่อนข้างสาหัส แม้มันยังไม่พอที่จะฆ่ามันได้ แต่กระนั้นมันก็สูญเสียการมองเห็นไป ตอนนี้ทีเร็กซ์ไม่ได้น่ากลัวสำหรับหานเซิ่นอีกต่อไป   ‘ไอ้ตัวนี้อึดมาก และเห็นได้ชัดว่ามันมีพลังธาตุไฟ แต่ยังไงมันก็ดูอ่อนแอกว่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดตัวอื่นๆ ถ้าล่ากันเป็นยอดฝีมือสัก 3- 4 คนก็น่าจะพอรับมือมันได้ ซึ่งต่างจากอีกา’ หานเซิ่นคิดขณะสังเกตทีเร็กซ์   ทีเร็กซ์ยังคงพ่นไฟออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากนั้นมันก็คำรามออกมา 3-4 ครั้ง แล้วอยู่ๆไฟของมันก็ดับไป ไม่รู้ว่าไฟของมันหมดแล้วหรือว่ามันแค่เหนื่อยกันแน่?   หานเซิ่นมีความสุขที่ได้เห็นแบบนั้น ดังนั้นเขารีบปลดล็อคยีนและก็ใช้เซเว่นทวิสต์เข้าไปหาทีเร็กซ์ เขารอให้ทีเร็กซ์คำรามอีกครั้ง และหลังจากนั้นเขาก็ยิงขนอีกาเข้าไปในปากของมันทันที   ขนอีกาพุ่งไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าสีดำ ความแข็งแกร่งของขนอีกาซึ่งเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด บวกกับหน้าไม้ขั้นสุดยอด ทำให้มันไม่ต่างจากเลเซอร์สีดำ   หลังจากที่ทีเร็กซ์อ้าปากเพื่อร้องคำราม เลือดก็กบปากมันทันที ขนนกที่หานเซิ่นยิงไปนั้นทำความเสียหายให้มันได้มากจริงๆ   ทีเร็กซ์พ่นไฟออกมาอีกครั้ง ซึ่งมันมีทั้งเลือดและไฟปนกันออกมาจากปากของมัน โชคร้ายที่ขนอีกาปักอยู่ในปากของมัน ขนอีกาถูกไฟเผาจนดำเป็นถ่าน ซึ่งมันคงไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกแล้ว   หัวใจของหานเซิ่นเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีด แต่การจะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด สูญเสียแค่นี้ยังอยู่ในระดับที่หานเซิ่นรับได้   ทีเร็กซ์ยังคงมีเลือดไหลออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง มันอาจจะสามารถกำจัดขนอีกาออกจากปากได้ก็จริง แต่ความเสียหายที่มันได้รับก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม   หานเซิ่นยังไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บของทีเร็กซ์ร้ายแรงขนาดไหน แต่เขาก็รู้ดีว่าพลังการฟื้นตัวของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดนั้นสูงแค่ไหน ถ้าเขาปล่อยให้มันหนีไปได้ ยังไงมันก็คงจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปรกติได้ มันแค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น   เนื่องจากสถานการณ์บังคับ หานเซิ่นกัดฟัน เขาใช้เซเว่นทวิสต์เข้าไปหาทีเร็กซ์ และเตะเข้าไปที่เปลือกตาของมัน   แต่ทันใดนั้นทีเร็กซ์ก็ยกกรงเล็บขึ้นมา และตะปบไปทางที่หานเซิ่นพุ่งเข้ามา เล็บของมันมีขนาดที่ใหญ่และยังเร็วมาก ราวกับว่าทีเร็กซ์ทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อการโจมตีครั้งนี้   มันสายเกินไปแล้วที่หานเซิ่นจะหลบการโจมตีนี้ การที่มันใช้กรงเล็บโจมตีมาทางเขาทำให้เขาช็อค   แต่ด้วยการที่เขาปลดล็อคยีนแล้ว ความรู้สึกช็อคไม่ได้มีผลอะไร จิตใจของเขาไม่ได้หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย หานเซิ่นเรียกชุดเกราะทองกับกรีฟการ์กอยล์ออกมา และใช้หน้าไม้นกยูงเป็นโล่ป้องกันการโจมตี   ปัง! เมื่อกรงเล็บของทีเร็กซ์ปะทะกับหน้าไม้นกยูง หานเซิ่นก็กระเด็นลงไปด้านล่างราวกับจรวด พื้นน้ำแข็งข้างล่างแตกเป็นเสี่ยงๆ   หานเซิ่นว่ายขึ้นมาจากน้ำ เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว ราวกับอวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหายทั้งหมด   “เกือบจะลืมไปเลยว่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดมันแข็งแกร่งขนาดไหน ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวจริงๆ” เมื่อหานเซิ่นอ้าปากก็มีเลือดจำนวนมากไหลออกมา   ถ้าเขาไม่ใช่หน้าไม้นกยูงป้องกันการโจมตีละก็ ตัวของเขาอาจจะขาดเป็น 2 ส่วนไปแล้วก็ได้   แต่หลังจากที่ทีเร็กซ์ทุ่มพลังทั้งหมดในการโจมตีนั้น ก็เหมือนมันจะได้รับบาดเจ็บหนักขึ้นอีก เลือดของมันไหลลงไปในน้ำทะเลที่อยู่ด้านล่างจนน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดง   ทีเร็กซ์ต้องการจะกำจัดหานเซิ่นให้ได้ แม้อาการบาดเจ็บจะแย่ลง แต่มันก็เลือกที่จะบินลงไปเพื่อฆ่าหานเซิ่นที่พึ่งจะลุกขึ้นมา   เมื่อเห็นว่าทีเร็กซ์บินลงมา หานเซิ่นก็ไม่กล้าจะสู้กับมันซึ่งๆหน้า เขาเรียกวิญญาณอสูรซิลเวอร์อีลออกมา และพยายามจะใช้มันหนีไป   แต่ทว่าจิ้งจอกสีเงินที่อยู่บนไหล่ของหานเซิ่น อยู่ๆมันก็คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ดูเหมือนมันจะโกรธที่ทีเร็กซ์ ทำให้หานเซิ่นได้่รับบาดเจ็บ ตอนนี้สายฟ้าเริ่มปรากฏออกมารอบๆตัวมันแล้ว ขณะที่มีเสียงของกระแสไฟฟ้าดังออกมา จิ้งจอกสีเงินก็พุ่งขึ้นไปบนอากาศ ราวกับสายฟ้าสีเงิน มันพุ่งเข้าชนกับทีเร็กซ์   โฮก! ทีเร็กซ์ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ตัวของมันปล่อยควันสีขาวๆออกมา ถึงร่างกายของมันจะบาดเจ็บหนักก็จริง แต่ร่างกายของทีเร็กซ์ก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่จิ้งจอกสีเงินจะทำความเสียหายอย่างหนักหน่วงได้   ทีเร็กซ์ตัดสินใจหยุดไล่ตามหานเซิ่น และหันมาให้ความสนใจจิ้งจอกสีเงินแทน มันพ่นไฟออกมาอีกครั้ง มันพยายามจะเผาจิ้งจอกสีเงินให้เป็นเถ้าถ่านไป   จิ้งจอกสีเงินยังคงอยู่ในอากาศ มันใช้สายฟ้าเป็นเหมือนกับไอพ่นของเครื่องบินเพื่อเคลื่อนตัวหลบไฟของทีเร็กซ์ จากนั้นมันก็ปล่อยสายฟ้าโจมตีทีเร็กซ์อย่างต่อเนื่อง   ทีเร็กซ์ยังคงมองไม่เห็นอะไร เนื่องจากตาของมันได้รับบาดเจ็บ ทำให้ความสามารถในรับรู้ของมันแย่ลงไปอย่างมาก มันพบว่าการจะเผาจิ้งจอกเป็นเรื่องที่ยากมาก จิ้งจอกทั้งตัวเล็กและเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามจิ้งจอกสีเงินก็คือมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดวัยเด็ก พลังของมันยังห่างชั้นกับทีเร็กซ์อยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นสายฟ้าของมันจึงไม่สามารถทำให้ทีเร็กซ์เจ็บหนักได้   หานเซิ่นยังคงจับหน้าอกของตัวเอง เขากระอักเลือดออกมาอีกครั้ง เขาเรียกปีกวิญญาณอสูรออก และบินขึ้นไปบนอากาศ ตอนแรกเขาเตรียมที่จะหนีไปเพราะตัวเขาได้รับบาดเจ็บ แต่เขาไม่คาดคิดว่าจิ้งจอกสีเงินจะออกไปต่อสู้แบบนั้น ซึ่งมันเริ่มทำให้หานเซิ่นเห็นความหวังที่จะชนะ   จิ้งจอกสีเงินไม่ใช่สัตว์เลี้ยงวิญญาณอสูร เพราะฉะนั้นยากมากที่หานเซิ่นจะสั่งหรือควบคุมมัน ดังนั้นเขาเลยไม่สามารถใช้มันเป็นตัวช่วยในการต่อสู้ได้   แต่เมื่อจิ้งจอกออกไปสู้ด้วยตัวเองแบบนั้น พลังของมันก็น่ากลังยิ่งกว่าคนที่ปลดล็อคยีนแล้วมาก แม้แต่ตัวหานเซิ่นเองก็ยังต้องยอมรับว่าเขามีพลังที่ด้อยกว่าจิ้งจอก   ยังไงจิ้งจอกสีเงินก็มีระดับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด ถึงจะเป็นจิ้งจอกตัวน้อยๆ แต่มันก็แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทุกคนแน่นอน   จิ้งจอกสีเงินยังคงวนไปรอบๆตัวของทีเร็กซ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปล่อยสายฟ้าใส่ทีเร็กซ์ตลอดเวลา ความรู้สึกรำคาญของทีเร็กซ์เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันไม่สามารถทำอะไรจิ้งจอกได้เลย   แม้การโจมตีของจิ้งจอกจะไม่ได้ทำความเสียหายที่รุนแรง แต่ภายใต้การโจมตีของมันก็ทำให้เลือดของทีเร็กซ์ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ทีเร็กซ์สูญเสียเลือดไปจำนวนมาก แต่กระนั้นอาการบาดเจ็บแค่นี้ก็ยังไม่พอที่จะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดได้   หานเซิ่นปลดล็อคยีนอีกครั้ง เขาเร่งพลังจนถึงขีดสุด เขาจ้องมองทีเร็กซ์โดยไม่กระพริบตา เขาพยายามคำนวณทุกความเป็นไปได้ที่ศัตรูจะสร้างขึ้นมา และคำนวณผลลัพธ์ทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้น   เมื่อเห็นว่าโอกาสมาถึง หัวใจของหานเซิ่นก็เต้นรัวราวกับเครื่องยนต์ ทั้งหัวใจและไตสูบฉีดพลังงานให้กับหานเซิ่น เขาบินตรงเข้าไปก่อนที่ทีเร็กซ์จะกระพริบตาได้ทัน เขาเตะไปที่ตาซ้ายของมันด้วยแรงทั้งหมด   หลังจากที่เตะไปแล้ว หานเซิ่นก็หลบการโจมตีสวนกลับของทีเร็กซ์และบินออกมา ขณะเดียวกันจิ้งจอกสีเงินก็ยังคงปล่อยสายฟ้าใส่มันอยู่เรื่อยๆ ทีเร็กซ์หันหน้าไปบนท้องฟ้า และก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดที่มีสีเหมือนกับเปลวไฟไหลออกมาจากตาและปากของมัน   ตอนนี้จิ้งจอกสีเงินและหานเซิ่นร่วมมือกันโจมตีกัน ทั้งสายฟ้าและลูกเตะอย่างต่อเนื่องของหานเซิ่น ทำให้เลือดของทีเร็กซ์ไหลออกมาต่อเนื่องไม่มีหยุด   ทีเร็กซ์เริ่มกระพือปีกด้วยความเร็วสูง มันพยายามจะหนีอีกครั้ง หานเซิ่นยังคงเอามือจับที่หน้าอกด้วยความเจ็บปวด ขณะบินไล่ตามมันไป นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาจะได้ฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอด เขาไม่มีทางจะปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดลอยไปแน่   ถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะมีโอกาสแบบนี้อีก  

Super God Gene – ตอนที่ 645 พยายามฆ่าทีเร็กซ์
Super God Gene – ตอนที่ 645 พยายามฆ่าทีเร็กซ์

  ปัง! หานเซิ่นยิงขนอีกาไปที่ตาของทีเร็กซ์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่มันกระพริบตา ทำให้ขนอีกาไม่สามารถแทงทะลุเปลือกตาของมันได้   แต่การหลอกล่อของหวังอวี่ฮังมันเหนือความคาดหมายของหานเซิ่น หลังจากที่เขายิงไป ทีเร็กซ์ก็หันมามองทางเขาแค่แปปเดียวเท่านั้น ก่อนที่หวังอวี่ฮังจะขว้างก้อนหินไปที่มัน พร้อมกับร้องตะโกน ทำให้ทีเร็กซ์หันกลับไปไล่หวังอวี่ฮังต่อ   “อาเล็กแบบนั้นแหละ! คุณทำได้ ผมเชื่อในตัวคุณ!” หานเซิ่นไม่คิดมาก่อนเลยว่าความซวยของหวังอวี่ฮังจะมีประโยชน์ขนาดนี้ เขาสามารถดึงความสนใจของมอนสเตอร์ไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ   ตอนนี้หวังอวี่ฮังโดนทีเร็กซ์วิ่งไล่อีกครั้ง ซึ่งหานเซิ่นก็กำลังมองหาโอการที่ดีที่สุดในการยิงทีเร็กซ์อีกครั้ง   แม้มอนสเตอร์ตัวนี้จะวิ่งไม่เร็วเท่าไหร่ แต่ปฏิกิริยาของมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดก็ยังถือว่าสูงมาก แม้หานเซิ่นจะหาจังหวะดีแล้วในการยิงออกไป แต่มันก็ยังไปโดนเปลือกตาทุกครั้ง   ตอนนี้หวังอวี่ฮังพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกเผา ตอนนี้เปลวไฟเผาไหม้เสื้อผ้าของเขาไปเกือบหมดแล้ว เขามีบาดแผลไฟไหม้อยู่ทั่วร่าง ซึ่งมันเริ่มส่งผลต่อความเร็วของเขาแล้ว   “น้องหาน ฉันคิดว่าคงจะยื้อมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว! ถ้านายต้องการฆ่าไอ้ตัวใหญ่นี่ก็รีบทำตอนนี้เลย!” หวังอวี่ฮังตะโกนขณะที่กำลังวิ่ง   “อาเล็ก โปรดทนอีกนิด!” ขณะที่หานเซิ่นพูด เขาก็ยกหน้าไม้นกยูงขึ้นมาเตรียมจะยิงไปที่ดวงตาของทีเร็กซ์   ตอนนี้มีขนอีกาจำนวนมากปักอยู่บนเปลือกตาของทีเร็กซ์ไม่ต่างจากกระดานปาเป้า แต่ก็ยังไม่มีอันไหนผ่านเปลือกตาเข้าไปได้เลย   ปัง! ขนอีกาถูกยิงออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นระยะที่ใกล้ที่สุดเท่าที่หานเซิ่นเคยยิงมา เขาหวังว่าครั้งนี้จะถูกตาของมันจริงๆ แต่แล้วเปลือกตาก็ป้องกันได้อีกครั้ง   เมื่อหานเซิ่นยื่นมือไปหยิบขนอีกา เขาก็พบว่ามันหมดเกลี้ยงแล้ว เขายิงออกไปทั้งหมด แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับทีเร็กซ์ได้เลย   “แบบนี้ก็ต้องเสี่ยงกันหน่อยแล้ว!” หานเซิ่นรู้ว่าแค่ยิงหน้าไม้อย่างเดียวยากที่จะโดนตาของมันจริงๆ แต่เขาคิดว่ายังพอมีโอกาสอยู่ หานเซิ่นวิ่งตรงเข้าไปหามอนสเตอร์   การฆ่ามอนสเตอร์ตัวนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับหานเซิ่น เขารู้ว่าจะปล่อยให้มอนสเตอร์ตัวนี้ยึดครองที่นี่ไม่ได้ ถ้ามันยึดที่นี่ได้แล้ว ต่อไปมันก็จะบุกไปที่ทุ่งน้ำแข็ง ถ้ามันลงไปข้างล่างได้ มันคงจะเผาเมืองเป็นเถ้าถ่าน และจะมีคนอีกมากที่ต้องตาย   หานเซิ่นต้องการจะเสี่ยงปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่เขาก็เหนื่อยกับการพยายามฆ่ามันมานานพอสมควรแล้ว ถ้าจะพยายามต่อไปอีกนิดก็คงไม่เป็นอะไร ถึงเขาจะฆ่ามันไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาทำให้มันบาดเจ็บได้บ้างก็ยังดี   หานเซิ่นใช้มนตรานอกรีตและตะวันหยก แขนของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ตอนนี้พลังงานกำลังไหวเวียนไปทั่วร่างของหานเซิ่น   เนื่องจากหวังอวี่ฮังยังล่อให้มอนสเตอร์วิ่งไล่ตามอยู่ ทำให้หานเซิ่นสามารถกระโดดขึ้นไปบนตัวมันได้อย่างไม่ยากเย็น เขารีบขึ้นไปบนหัวของทีเร็กซ์ทันที   เมื่อทีเร็กซ์สังเกตเห็นหานเซิ่น มันก็พยายามที่จะเอาเขาออกไปให้ได้ มันยื่นกรงเล็บไปจับหานเซิ่น   หานเซิ่นใช้เซเว่นทวิสต์ เขากระโดดออกจากตัวของทีเร็กซ์และหลบการโจมตีราวกับนก เมื่อเห็นโอกาสหานเซิ่นก็พยายามจะเตะขนอีกาที่ปักคาอยู่บนเปลือกตาของทีเร็กซ์   แต่ทว่าทีเร็กซ์ก็พยายามจะหันตัวหลบการโจมตีของหานเซิ่น แต่ขณะที่มันกำลังหันตัวหลบ หานเซิ่นก็ยืมแรงจากอากาศ เขาเคลื่อนไหวตามมันไป และกระหน่ำเตะไปที่เปลือกตาของมันด้วย 7 สังหาร   เมื่อทีเร็กซ์รู้ว่าไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งนี้ของหานเซิ่นได้ มันก็รีบปิดเปลือกตาทันที มันคิดว่าเปลือกตาจะสามารถป้องกันความเสียหายได้   แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่หานเซิ่นต้องการ เขาใช้ 7 สังหารกระหน่ำเตะไปยังขนอีกาที่ปักอยู่บนเปลือกตาของทีเร็กซ์   ขาของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับค้อนที่ตอกลงไปบนตะปู หลังจากเตะครบ 7 ครั้งขนอีกาก็แทงลึกเข้าไปถึงดวงตาของมัน   “โฮก!” ทีเร็กซ์ส่งเสียงคำรามออกมาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้า มีเลือดไหลทะลักออกจากดวงตาของมัน   ทีเร็กซ์พยายามจะลืมตาที่บาดเจ็บ แต่เมื่อมันลืมตาขึ้นมา มันก็ทำให้ขนอีกาที่ปักอยู่ถูกลากขึ้นไปด้วย ตาของมันโดนขนอีกากรีดเป็นทางยาว ตอนนี้มีเลือดจำนวนมากไหลออกมาจากดวงตาของมัน   เมื่อเห็นโอกาส หานเซิ่นก็ไม่รอช้า เขาใช้ 7 สังหารรวมกับเซเว่นทวิสต์เตะไปที่ตาอีกข้างหนึ่งของทีเร็กซ์   “โฮก!” ตอนนี้ตาอีกข้างก็มีเลือดไหลออกมาด้วย ทีเร็กซ์สูญเสียการมองเห็นโดยสมบูรณ์แล้ว ดูมันจะทุกข์ทรมานมาก ไม่นานมันก็เริ่มอาละวาด   ตอนนี้ทีเร็กซ์พ่นไฟไปทุกทิศทาง หานเซิ่นต้องบินหนีออกให้ห่างจากตัวมันก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกไฟเผา   “น้องหาน สุดยอดไปเลย ดูเหมือนมันจะได้ผล!” หวังอวี่ฮังดูจะใจชื่นขึ้นมา แต่ในขณะที่เขาพูด เขาก็ไปโดนไฟของทีเร็กซ์เข้า ทำให้มีไฟลุกขึ้นมาบนตัวของเขา   “อ้ากกก!” หวังอวี่ฮังกลิ้งไปตามพื้น เขาพยามที่จะดับไฟ ตอนนี้ร่างกายของเขาหลายส่วนดำเป็นถ่าน   ตอนนี้ทีเร็กซ์มองไม่เห็นอะไรอีกแล้ว ทุกครั้งที่มันพยายามจะกระพริบตาก็จะทำให้ตาของมันเจ็บปวดมากขึ้น   กรงเล็บของทีเร็กซ์ทั้งแหลมและก็หนามาก มันจึงไม่สามารถดึงขนอีกาออกจากเปลือกตาของมันได้   ยิ่งมันแทงลงไปลึกเท่านั้น ทีเร็กซ์ก็ยังตื่นตระหนก มันกระพือปีกพยายามที่จะบินหลบหนี หานเซิ่นใช้โอกาสนี้ในการเก็บขนอีกาบางส่วนที่ตกลงไปบนพื้น จากนั้นเขาก็เรียกปีกวิญญาณอสูรออกมา และก็ไล่ตามทีเร็กซ์ไป   นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาใกล้เคียงกับการที่จะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ด้วยตัวเอง   ทีเร็กซ์ยังคงเกรี้ยวกราด มันพ่นลูกไฟออกจากปากของมัน ตอนนี้ท้องฟ้าที่มืดมิด สว่างขึ้นมาด้วยเปลวไฟของมัน   คนที่อยู่ข้างล่างสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งมันเป็นภาพที่น่ากลัว ยังไม่มีใครเคยเห็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวแบบนี้ในทุ่งน้ำแข็งมาก่อน ดังนั้นนี้ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับพวกเขา   “ดู! มีใครไม่รู้กำลังไล่ตามมอนสเตอร์ที่น่ากลัวอยู่!” มีคนบางคนตะโกน “ไหน? ไหน?” “มันค่อนข้างไกล นายอาจจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ลองใช้กล้องส่องทางไกลดู” ในก็อตแซงชัวรี่เทคโนโลยีจะไม่สามารถนำมาใช้ได้ แต่แค่กล้องที่ใช้เลนส์แบบธรรมดายังสามารถใช้ได้ปกติ   หลายๆคนก็พกกล้องส่องทางไกลเข้ามาใช้ในก็อตแซงชัวรี่กันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว เมื่อเห็นฉากที่น่าตื่นเต้นแบบนี้ พวกเขาก็รีบวิ่งไปหยิบกล้องของตัวเองมาทันที พวกเขาเห็นคนกำลังไล่ตามทีเร็กซ์ที่กำลังพ่นไฟอยู่บนท้องฟ้า   “โว้! นั่นมันหัวหน้าหานนิ!” “โห! หัวหน้าหาน โคตรเจ๋ง เขาไล่มอนสเตอร์ที่น่ากลัวแบบนั้นได้ยังไง?” “เขาแข็งแกร่งเกินไปแล้ว หัวหน้าหานคิดจะยึดเมืองบนเกาะลึกลับด้วยตัวคนเดียวเลยหรอ?” “เขาหล่อมาก!” ตอนนี้คนที่อยู่ข้างล่างกำลังดูหานเซิ่นไล่ตามทีเร็กซ์ไปด้วยความช็อค พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นคงจะล่ามันได้เร็วๆนี้