อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 290 มนตรานอกรีต
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
ไป๋อี้ซานหยุดไป และไม่ได้พูดอะไรต่อ
หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาคิดว่าคงจะไม่มีหวังแล้วและไม่น่าจะได้รับคำตอบที่ดีจากไป๋อี้ซาน เขารีบถามไป๋อี้ซาน “ศาสตราจารย์ คุณมีวิชาไฮเปอร์จีโนอะไรอยู่ในใจงั้นหรอครับ”
ไป๋อี้ซานลังเลและพูดต่อ “จริงๆแล้วมันไม่ใช่วิชาไฮเปอร์จีโน เธอก็น่าจะรู้ว่าวิชาไฮเปอร์จีโนประยุกต์มาจากวิชาการต่อสู้โบราณ 20 ปีก่อนมีการค้นพบตำราโบราณที่ไม่สมบูรณ์เรียกว่า ‘คัมภีร์นอกรีต’ เนื่องจากมันไม่สมบูรณ์ วิชาโบราณแต่ละวิชาที่ถูกบันทึกไว้ในตำรานั้นต่างก็ไม่มีความเหมาะสมที่จะนำมาฝึก แต่มีวิชาโบราณเพียงแค่วิชาเดียวเรียกว่า ‘มนตรานอกรีต’ ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ถ้าเธอสามารถฝึกวิชานั้นได้ถึงขั้นละก็ มันไม่ยากที่จะตัดทองได้ด้วยมือเปล่าๆ”
“มนตรานอกรีต คือวิชาระดับSของสถาบันเซนท์ใช่ไหมครับ?” หานเซิ่นถามอย่างตื่นเต้น
ไป๋อี้ซานส่ายหัวและพูด “ถึงจะมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนทำการค้นคว้าเกี่ยวกับมนตรานอกรีต และต้องการจะดัดแปลงมัน เพื่อทำให้เป็นวิชาไฮเปอร์จีโน แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับปัญหา หลังจากที่ทำการทดลอง”
“แสดงว่ามนตรานอกรีตไม่ได้ทรงพลังอย่างที่พวกเขาหวังไว้ใช่ไหมครับ?” หานซิ่นถาม
ไป๋อี้ซานตอบ “มันไม่ใช่แบบนั้น หลังจากฝึกมนตรานอกรีต ผู้ฝึกจะมีความแข็งแรงทางกายสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทว่าพวกเขาก็มีบางอย่างที่ผิดปรกติไป”
“บางอย่างผิดปรกติงั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไป๋อี้ซาน
ไป๋อี้ซานครุ่นคิดและเรียบเรียงคำพูด “ทุกคนที่ได้ลองพยายามฝึกมนตรานอกรีตจะรู้สึกอยากอาหารมากเกินไป”
หลังจากที่ได้ยินคำตอบของไป๋อี้ซาน หานเซิ่นก็งง เขาคิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรที่ร้ายแรงกว่านี้ และเขาไม่ได้คิดว่ามันจะแค่ ‘อยากอาหารมากเกินไป’
แค่มองไป๋อี้ซานก็พอจะรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไรอยู่ เขาพูดต่ออย่างจริงจัง
“บางทีเธออาจจะไม่สามารถจินตนาการได้ว่าการอยากอาหารมาเกินไป มันเป็นผลร้ายขนาดไหน ฉันจะอธิบายให้ฟัง คนปรกติจะรู้สึกอิ่มเมื่อพวกเขากินอาหารได้ระดับหนึ่ง แต่เมื่อฝึกมนตรานอกรีต พวกเขาจะสูญเสียความรู้สึกอิ่มไป ไม่ว่าพวกเขาจะกินไปมากแค่ไหน หรือว่าท้องของเขาจะรับไม่ได้แล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกหิวอยู่”
“ในบรรดาผู้อาสาฝึกทั้ง 6 คน มี 2 คนที่กินมากเกินไปจนเกือบตาย เมื่อพวกเขาเลิกฝึกมนตรานอกรีตความรู้สึกอิ่มมันก็จะค่อยๆกลับมาปกติอย่างช้าๆ”
“งั้นก็แปลว่ามนตรานอกรีต มันได้ผลใช่ไหม” หานเซิ่นถาม
“ฉันก็ไม่แน่ใจ” ไป๋อี้ซานทำให้หานเซิ่นต้องชะงักไปอีกครั้ง ไป๋อี้ซานพูดว่ามนตรานอกรีตสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ตอนนี้เขากับบอกว่าไม่แน่ใจ
ไป๋อี้ซานเข้าใจความคิดของหานเซิ่นและอธิบาย “หลังจากฝึกมนตรานอกรีต ผู้อาสาทดลอง 6 คนต่างก็ยินดีกับการพัฒนาอย่างไม่น่าเชื่อของความแข็งแกร่งและความเร็ว แต่ทว่าพวกเขาไม่สามารถทนต่อความหิวได้ พวกเขาต้องยอมแพ้ที่จะฝึกมัน การพัฒนาด้านร่างกายของพวกเขาก็สูญหายไปพร้อมๆกับความรู้สึกหิว ฉันจะบอกว่าจำเป็นต้องฝึกให้สำเร็จในขั้นแรกก่อน ถึงจะบอกได้ว่ามนตรานอกรีต มันได้ผลหรือไม่”
“งั้นก็ยังไม่มีใครฝึกสำเร็จขั้นแรกเลยหรอครับ?” หานเซิ่นถาม
“พวกเรามีผู้ทดลองหลายคนที่ฝึกมัน แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถทนความหิวได้ พวกเขาไม่สามารถทนฝึกจนสำเร็จขั้นแรกได้” ไป๋อี้ซานพูด
“มนตรานอกรีต มีทั้งหมดกี่ขั้น?” หานเซิ่นเริ่มสนใจวิชามนตรานอกรีต เนื่องจากมันไม่มีความเสี่ยงอะไร ถ้าถอดใจยอมแพ้ เดี่ยวร่างกายก็กลับมาปรกติ เขาก็อยากจะลองฝึกมันดูสักครั้ง
ไป๋อี้ซานเห็นถึงความต้องการของหานซิ่น เขาก็คิดว่าจะไม่หยุดหานเซิ่น เขาอยากให้หานเซิ่นเห็นผลลัพธ์ของมันเอง
“มันมีทั้งหมด 4 ขั้น กักเก็บพลัง, เห็นภาพล่วงตา, ยืดอายุ, และก็ความเป็นอมตะ ยังไม่มีใครฝึกสำเร็จขั้นกักเก็บพลังได้เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมนตรานอกรีต ถึงยังไม่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นวิชาไฮเปอร์จีโน”
“ศาสตราจารย์จะเป็นอะไรไหม ถ้าผมจะขอทดลองฝึกมนตรานอกรีต? ผมสามารถให้ใบอนุญาตระดับSกับคุณได้สำหรับการฝึกมัน” หานเซิ่นต้องการรีบฝึกมันให้เร็วที่สุด เพื่อจะฆ่ามอนสเตอร์ขั้นสุดยอดให้ได้ หานเซิ่นจะไม่ปฏิเสธโอกาส
“ไม่จำเป็นต้องใช้ใบอนุญาต มนตรานอกรีตไม่ใช่วิชาไฮเปอร์จีโนอยู่แล้ว มันไม่ได้มีไว้ขาย ถ้าเธอสนใจมันจริงๆ ฉันสามารถตั้งให้เธอเป็นผู้ทดลองฝึกได้เลย เธอสามารถฝึกมันได้ แต่ข้อมูลทุกอย่างที่ได้จากการฝึก เธอต้องรายงานต่อสถาบันเซนท์” ไป๋อี้ซานพูด
“ขอบคุณมากครับ” หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ถามเกี่ยวกับวิชาไฮเปอร์จีโนอีกหลายคำถาม
ไป๋อี้ซานไม่สามารถหาวิชาไฮเปอร์จีโนที่ตอบสนองความต้องการทั้งหมดของหานเซิ่นได้
แม้จะเป็นวิชาอะตอมมิคฟิชชั่นที่ต้องใช้เวลาฝึกถึง 20 ปีก็ยังไม่สามารถทำให้มนุษย์ทำลายกระดองเต่าเลือดศักดิ์สิทธิได้ด้วยมือเปล่าๆ
แต่วิชามนตรานอกรีตนั้นแตกต่างออกไป ตามที่ไป๋อี้ซานบอกมา ถ้าผู้ฝึกไม่ยอมแพ้เสียก่อน พวกเขาอาจจะสามารถสำเร็จขั้นแรกได้ภายใน 3 เดือน
หานเซิ่นถามไป๋อี้ซานเกี่ยวกับวิชาไฮเปอร์จีโนที่สามารถเพิ่มความเร็วได้ การจะสู้กับมอนสเตอร์ขั้นสุดยอด หานเซิ่นไม่ได้ต้องแค่ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่เขายังต้องการความเร็วที่มากพอ เพื่อหลบการโจมตีของมันด้วย
หลังจากที่พูดคุยกับไป๋อี้ซานอยู่หลายชั่วโมง ในที่สุดหานเซิ่นก็วางสาย ไป๋อี้ซานดำเนินการให้หานเซิ่นกลายเป็นผู้ทดลองฝึก ขณะที่ตัวหานเซิ่นเองก็ต้องเดินทางไปที่สถาบัน เพื่อเซ็นหนังสือสัญญาทดลองฝึกด้วย
หานเซิ่นต้องการเวลาที่ค่อนข้างมากในการเดินทางจากเมืองกรีนไปยังเมืองสตีลอาเมอร์ ดังนั้นเขาอาจจะต้องขาดกิจกรรมบางอย่างในโรงเรียน รวมถึงการแข่งขันธนูและการสอบอื่นๆด้วย
โชคดีที่ผู้อำนวยการของเหยี่ยวดำเห็นแก่ผลงานที่ผ่านๆมาของหานเซิ่น หลังจากที่ได้ฟังเหตุผลของหานเซิ่นทางโรงเรียนก็ยินยอมให้เขาใช้เวลาในก็อตแซงชัวรี่ได้อย่างเต็มที่
หานเซิ่นมีแผนที่จะออกจากเมืองกรีน เมื่อเขาเริ่มฝึกมนตรานอกรีตแล้ว เขาตั้งใจที่จะฝึกมันไประหว่างทาง เนื่องจากมันไม่ได้มีอันตรายในการฝึก นอกจากความหิว ในกรณีเลวร้ายที่สุดเขาก็แค่เลิกฝึกมัน
คอมเม้นต์