ของที่หานเซิ่นมอบให้กับซูเสี่ยวเฉียวเพื่อประมูลมีทั้งหมด 4 อย่างคือชุดเกราะด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ นักฆ่ากระหายเลือด เหมียวและก็หอกของบีทเทิลไนท์

 

 

คนจำนวนมากรู้ว่าหานเซิ่นเป็นคนฆ่ามังกรปีกม่วง และเขาก็อ้างว่าไม่ได้วิญญาณอสูร นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นไม่ได้โอนวิญญาณอสูรมังกรปีกม่วงให้กับซูเสี่ยวเฉียวด้วย

 

 

ก่อนที่การประมูลจะเริ่มขึ้น หานเซิ่นก็รู้ตัวแล้วว่าเขากำลังโดนจับตามองอยู่ แต่เขาทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่อยากจะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว เมื่อชิงเดินเข้ามาทักทาย หานเซิ่นก็รีบลุกขึ้น และใช้โอกาสนี้หันไปมองแบบเนียนๆ

 

 

‘หนิงเยวี่ยก็มาอยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรอ?’ แม้จะเห็นหนิงเยวี่ย แต่หานเซิ่นก็ยังทักทายชิงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ลึกๆแล้วเขารู้สึกประหลาดใจ

 

 

แม้หนิงเยวี่ยจะใส่ชุดเกราะที่ปกคลุมทั้งใบหน้าของเขาก็ตาม แต่หานเซิ่นก็จำได้ว่าเขาคือหนิงเยวี่ย

 

 

“เหมือนว่าเขาจะจำฉันได้” หนิงเยวี่ยพูด

 

 

“จริงหรอครับ?” หลินหลินดูไม่ออก เพราะตอนนี้หานเซิ่นกำลังคุยอยู่กับชิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

 

หานเซิ่นกวาดสายตามาที่พวกเขาเพียงครั้งเดียว และก็ไม่ได้หันมามองอีกเลย เนื่องจากพวกเขาสวมชุดเกราะที่ปกปิดใบหน้า หลินหลินไม่เชื่อว่าหานเซิ่นจะสามารถจำหนิงเยวี่ยได้ ที่สำคัญท่าทางของหานเซิ่นก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย หลังจากเห็นหนิงเยวี่ยแล้วเขาดูสงบมาก

 

 

หนิงเยวี่ยยิ้ม เขาไม่พูดอะไร เขาเรียกวิญญาณอสูรชุดเกราะกลับ และเปิดเผยตัวออกมา เพราะเขามั่นใจว่ามันไม่มีประโยชน์เพราะหานเซิ่นรู้ตัวแล้ว

 

 

‘ดูแล้วหนิงเยวี่ยน่าจะมาที่นี่เพื่อฆ่าเรา’ หานเซิ่นคิดหลังจากกลับมานั่ง แต่เขายังไม่รู้แผนการของหนิงเยวี่ยว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ เนื่องจากที่นี่คือสตีลอาเมอร์ ซึ่งถือเป็นถิ่นของหานเซิ่น หนิงเยวี่ยจะกล้าลงมือที่นี่งั้นหรอ?

 

 

หลังจากการประมูลเริ่มขึ้น หานเซิ่นก็ต้องอ้าปากค้าง ตามที่เขาวางแผนไว้ เขาจะเป็นคนที่ซื้อวิญญาณอสูรทั้งหมดของดอลลาร์มาเป็นของตัวเอง ยังไงเงินมันก็ต้องมาถึงมือเขาอยู่แล้ว ถึงซูเสี่ยวเฉียวคงจะขอ%นิดหน่อยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

 

 

เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าราคาประมูลจะขึ้นไปสูงเสียดฟ้าแบบนี้ แม้แต่เกราะด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิที่เขาคิดว่าน่าจะมีราคาที่ไม่สูงมาก ก็ยังถูกประมูลด้วยใบอนุญาตเรียนวิชาระดับSของผู้วิวัฒนาการหลายใบ

 

 

“ชิง นายบ้าไปแล้วหรอ? แม้ว่าเกราะเลือดศักดิ์สิทธิจะเป็นของที่มีค่ามาก แต่มันก็ไม่น่าจะมีค่าถึงขนาดนั้น” เมื่อเห็นชิงสู้ราคาด้วยการเสนอใบอนุญาตระดับSของผู้วิวัฒนาการ 8 ใบ หานเซิ่นก็คิดว่าหนุ่มคนนี้ต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ

 

 

“ฮาฮา พี่ชายมันไม่ใช่แค่วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิธรรมดา นี่มันเป็นสัญลักษณ์ของดอลลาร์ แค่ชื่อของเขาก็มีค่าพอให้ผมสู้ราคาแล้ว..” พวกเพื่อนๆชิงเหมือนจะเห็นด้วย โดยเฉพาะไฮ้หยุนที่ใช่ใบอนุญาตระดับSเหมือนกับเศษกระดาษ ตอนนี้เขาเสนอ 10 ใบ ทำให้ทุกคนเงียบกันหมด

 

 

หานเซิ่นอึ้ง ‘ใบอนุญาตระดับSของผู้วิวัฒนาการ 10 ใบ! นี่มันบ้าชัดๆ มูลค่าของมันเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ชุดเกราะเลือดศักดิ์สิทธิอย่างมากก็มีค่า 200-300 ล้าน’

 

 

หานเซิ่นต้องการซื้อวิญญาณอสูรของตัวเองในตอนแรก แต่ตอนนี้เขาต้องคิดใหม่แล้ว ใบอนุญาตระดับSเป็นสิ่งของที่มีจำนวนจำกัดมาก และไม่สามารถหาซื้อได้ง่ายๆ ถึงจะมีเงินก็ไม่สามารถหาซื้อได้ มันจำเป็นต้องมีเส้นสายด้วย แม้หานเซิ่นอาจจะไม่เอามันไปใช้ทั้งหมด แต่เขาก็ยังสามารถเอามันไปแลกกับวิญญาณอสูรของก็อตแซงชัวรี่เขต 2 ได้ ใบอนุญาตระดับS 10 ใบเป็นสิ่งที่หานเซิ่นไม่สามารถบอกปฏิเสธได้

 

 

ตอนนี้เขาล้มเลิกความคิดที่จะประมูลชุดเกราะด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิแล้ว เขาปล่อยให้ไฮ้หยุนได้มันไป

 

 

ลำดับต่อไปคือการประมูลวิญญาณอสูรนักฆ่ากระหายเลือดที่ดุเดือดยิ่งกว่าชุดเกราะซะอีก ไฮ้หยุนเสนอราคาประมูลถึง 15 ใบโดยไม่ลังเลเลย

 

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะราคามันสูงกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก เขาชักจะสงสัยแล้วว่าไฮ้หยุนมีโรงงานปั๊มใบอนุญาตตั้งอยู่หลังบ้านหรือเปล่า

 

 

“ไฮ้หยุน วิญญาณอสูรพวกนี้มันมีค่าขนาดนั้นจริงๆหรอ?” หานเซิ่นต้องถามอย่างช่วยไมได้

 

 

“พวกมันเป็นของดอลลาร์ พวกมันมีแค่หนึ่งเดียว มันต่างจากวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิทั่วๆไป” แม้ไฮ้หยุนจะเสียใบอนุญาตระดับSไปถึง 25 ใบแล้ว แต่เขาก็ดูจะมีความสุขมากที่ได้วิญญาณอสูรมา 2 ดวงแล้ว

 

 

“ไฮ้หยุน นายได้ไป 2 แล้วนะ อย่ามาแย่งของชิ้นต่อไปจากพวกเราอีก” ชิงเริ่มหงุดหงิด เขาก็แฟนพันธ์แท้ดอลลาร์ แต่เขายังไม่ได้สักชิ้นเลย

 

 

“ใครเสนอราคาสูงกว่าก็ต้องได้ไป มันเป็นกฎของการประมูล ถ้านายอยากได้ก็เสนอราคาให้สูงกว่าฉัน” ไฮ้หยุนพูด

 

 

ต่อไปคือการประมูลเหมียว หานเซิ่นหัวใจเต้นรัว เขารู้สึกเครียดมาก ถึงเหมียวอาจจะไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว แต่มันก็เป็นสัตว์เลี้ยงของเขามานานหลายปีแล้ว หานเซิ่นไม่อยากให้เหมียวไปอยู่ในมือคนอื่น

 

 

หลังจากเริ่มประมูลได้ไม่นาน ราคาของเหมียวก็ขึ้นสูงถึงใบอนุญาต 15 ใบ โดยไฮ้หยุนเจ้าเก่า ทุกคนอึ้ง พวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครที่มีใบอนุญาตมากมายขนาดนี้ มีเงินยังเดียวไม่สามารถหามาได้มากขนาดนี้

 

 

ยกตัวอย่างเช่นหลินเป้ยเฟิงที่กำลังหัวร้อนอยู่ในตอนนี้ ถึงเขาจะรวยขนาดที่ใช้เงินเป็นเศษกระดาษ แต่เขาก็หาใบอนุญาตมาประมูลได้เพียงแค่ 5 ใบเท่านั้น

 

 

“ใบอนุญาตระดับSแบบUniversal 4 ใบ” หานเซิ่นกัดฟันและก็บอกราคาไป แม้ว่าใบอนุญาต 15 ใบจะเป็นอะไรที่น่าดึงดูด แต่หานเซิ่นก็ยอมตัดใจเพื่อที่จะเก็บเหมียวไว้ เขาใช้ใบอนุญาตที่เคยได้จากไป๋อี้ซาน ซึ่งเป็นใบอนุญาตที่สามารถซื้อได้ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่วิชาระดับSของกึ่้งเทพ

 

 

“Universal 4 ใบเลยหรอ? หานเซิ่น คุณจ่ายมากขนาดนี้ คุณก็เป็นแฟนคลับของดอลลาร์ด้วยงั้นหรอ?” ทั้งหยวนและชิงช็อค พวกเขาถามออกมาเกือบๆจะพร้อมกัน

 

 

“จริงๆก็ไม่ใช่แฟนพันธ์แท้อะไร ฉันแค่ชอบสัตว์เลี้ยงตัวนั้น” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม

 

 

“ใบอนุญาตระดับSของผู้วิวัฒนาการ 20 ใบ ผมคิดว่ามันน่าจะมีมูลค่าสูงกว่าUniversal 4 ใบ” ไฮ้หยุนไม่ยอมแพ้

 

 

“เอ่อ.. มันก็พูดยากนะว่าอะไรมีมูลค่าสูงกว่า…” ซูเสี่ยวเฉียวลังเล

 

 

“ให้ ใบอนุญาตแบบUniversalชนะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากประตูทางเข้าสถานที่จัดการประมูล ทุกคนหันไป และเห็นใครบางคนที่กำลังสวมหน้ากากอยู่

 

 

“ดอลลาร์?” ซูเสี่ยวเฉียวประหลาดใจที่เห็นคนคนนั้น

 

 

คนคนนั้นดูเหมือนกับคนที่โอนวิญญาณอสูรพวกนี้ให้กับเขาไม่มีผิด ซูเสี่ยวเฉียวจำเขาได้ในทันที

 

 

ดอลลาร์เดินออกไปทันทีหลังจากพูดจบ มันคือดอพเพลแกงเกอร์ที่หานเซิ่นสร้างโดยใช้วิญญาณอสูรบีทเทิลไนท์ มันจะดีกว่าถ้าให้มันปรากฏตัวแค่แปปเดียว

 

 

“พวกเราจะตามไปดีไหมครับ?” หลินหลินหันมาถามหนิงเยวี่ย

 

 

หนิงเยวี่ยส่ายหัวและพูด “ไม่จำเป็น เป้าหมายของเราคือหานเซิ่น ไม่ใช่ดอลลาร์”

 

 

หานเซิ่นเห็นคนจำนวนมากเดินตามดอพเพลแกงเกอร์ออกไป แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมาก ยังไงมันก็เป็นวิญญาณอสูรที่เขาสามารถควบคุมจากระยะไกล มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะสลัดการติดตามของคนจำนวนมาก

 

 

“ผมต้องของแสดงความเสียใจกับคุณไฮ้หยุนด้วย แต่ดอลลาร์บอกว่าเขาอยากได้ใบอนุญาตแบบUniversal มากกว่า”
ซูเสี่ยวเฉียวมองไปรอบๆและพูดต่อ “ผู้ชนะคือหานเซิ่นด้วยใบอนุญาตระดับSแบบ Universal 4 ใบ…”

 

 

ในที่สุดหานเซิ่นก็ชนะการประมูลเหมียว และเขาได้สัตว์เลี้ยงสุดรักกลับมาอีกครั้ง

 

 

ของชิ้นสุดท้ายคือเกียร์ซึ่งคือหอกบีทเทิลไนท์ แม้มันจะดูไม่ได้มีค่าอะไรมาก แต่ไฮ้หยุนก็ประมูลมันไปด้วยใบอนุญาต 2 ใบ หานเซิ่นไม่รู้มาก่อนเลยว่าไฮ้หยุนจะคลั่งไคล้ดอลลาร์มากขนาดนี้

 

 

แม้หานเซิ่นจะเสียวิญญาณอสูรและหอกไป แต่เขาก็ได้ใบอนุญาตระดับSของผู้วิวัฒนาการมาถึง 27 ใบ ซึ่งมันเป็นราคาที่สูงเกินจินตนาการจริงๆ