อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 525 ศึกษาภาษาโบราณ


แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios

 

สมาชิกกลุ่มเทพธิดาทุกคนสามารถซื้อเนื้อและวิญญาณอสูรได้ราคาต่ำกว่าคนอื่นๆ ขณะที่คนนอกกลุ่มจะต้องจ่ายในราคาที่สูง แต่กระนั้นคนจำนวนมากก็แย่งกันซื้อทั้งเนื้อและวิญญาณอสูร

 

ทรัพยากรแถวๆเมืองเทพธิดานั้นมีอยู่อย่างจำกัดมาก ถ้าพวกเขาไม่รีบตัดสินใจซื้อพวกมัน คนอื่นๆก็พร้อมที่จะจ่ายเช่นกัน

 

หานเซิ่นวางแผนที่จะเอาทั้งเนื้อและวิญญาณอสูรมาขายนานๆครั้ง เพราะนอกจากเขาจะสามารถทำเงินได้มหาศาลแล้ว เขายังทำให้คนในเมืองมีระดับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นด้วย

 

แต่อย่างไรก็ตาม หานเซิ่นไม่คิดที่จะทำมันบ่อยๆ เขาไม่ต้องการเสียเวลากับมันมากเกินไป เขาอยากจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตัวเอง และรีบวิวัฒนาการ

 

ตอนนี้ยังมีเนื้อของปูสีทองเหลืออยู่อีกจำนวนมาก หานเซิ่นจะต้องใช้เวลาอีก 3-4 วันกว่าจะกินพวกมันหมด ซึ่งการกินอาหารเดิมๆทุกวัน ทำให้หานเซิ่นรู้สึกเบื่อ เขาเลยต้องสลับไปกินอย่างอื่นบ้าง

 

หานเซิ่นตัดสินใจที่จะหยุดพักสัก 3-4 วัน หลังจากที่เขากินเนื้อของปูสีทองหมดแล้ว หานเซิ่นก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาจะลองไปฆ่าการ์กอยเบอร์เซิร์กที่อยู่ในรัง

 

เมื่อหานเซิ่นกลับมาที่ยานแดฟเน่ แอนนี่ก็เมินเขาเหมือนกับทุกที ในตอนที่เขามาหาจีเหยียนหรัน แอนนี่ไม่แม้แต่จะมองหานเซิ่น แต่แค่เธอไม่เข้ามาขวาง หานเซิ่นก็รู้สึกพอใจมากแล้ว

 

“เซิ่น นายสนใจภาษาโบราณไหม? เดี๋ยวจะมีผู้เชี่ยวชาญมาที่นี่ ถ้านายสนใจก็ลองไปเจอเขาดู”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของจีเหยียนหรัน หานเซิ่นก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขารีบถาม “ผู้เชี่ยวชาญภาษาโบราณงั้นหรอ? ทำไมเขาถึงได้มาที่ยานเเดฟเน่?”

 

จีเหยียนหรันยิ้ม “ศาสตราจารย์สวี่ เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในภาษาศาสตร์มาก เขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในสหพันธ์ดวงดาว นอกเหนือจากภาษาโบราณแล้ว เขายังศึกษาภาษาของเผ่าพันธุอื่นด้วย”

 

“ถ้าเขาเป็นคนดัง แล้วเขาจะไม่เมินฉันหรอ ถ้าอยู่ๆฉันไปเจอเขา?” หานเซิ่นถาม

 

“ฉันก็ไม่รู้ เบื้องบนส่งเขามาที่นี่เพื่อสอนความรู้เกี่ยวกับคริสตัลไลเซอรให้พวกเรา นายลองไปดูก่อนก็ได้ ถ้ามีโอกาส นายก็ลองถามเขาเกี่ยวกับภาษาโบราณดู คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” จีเหยียนหรันพูด

 

หานเซิ่นพอจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากแดฟเน่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้พวกเขายังไม่สามารถออกปฏิบัติการได้ พวกเขาจึงต้องรับสมาชิกใหม่เข้ามา และฝึกอบรมก่อนที่เริ่มปฏิบัติงานจริง

 

ครั้งนี้ศาสตราจารย์สวี่ถูกส่งมาเพื่อสอนพวกเขาเกี่ยวกับคริสตัลไลเซอร์ เห็นได้ชัดเลยว่าช่วงนี้คงจะยังไม่มีภารกิจเข้ามาแน่ และนี่ก็แสดงให้เห็นว่าเบื้องบนดูแลเอาใจใส่แดฟเน่และภารกิจสำรวจโบราณสถานคริสตัลไลเซอร์มาก

 

ตอนนี้หานเซิ่นสนใจเกี่ยวกับวิชาภาษาโบราณมาก เขารู้ว่าถึงเขาจะสามารถอ่านทุกอย่างในคัมภีร์ตงเสวียนได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเข้าใจมัน ตอนนี้ยังมีอีกหลายส่วนที่เขายังไม่เข้าใจ ซึ่งเขาจะยังไม่ฝึกมัน จนกว่าเขาจะเข้าใจว่ามันเป็นเทคนิคแบบไหนและใช้งานยังไง

 

เมื่อถึงเวลาการบรรยายของศาสตราจารย์สวี่ หานเซิ่นก็เข้าไปฟังด้วย หานเซิ่นไม่คิดว่าจะได้เห็นหัวหน้าห้องครัวและก็สมาชิกในห้องครัวคนอื่นๆ หลังจากคุยกับพวกเขาอยู่สักพัก เขาก็รู้ว่าการบรรยายนี้เป็นภาคบังคับ ทหารทุกคนยกเว้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงและบอดี้การ์ด ซึ่งก็คือแอนนี่กับหานเซิ่น ทุกคนจะต้องมาเข้าร่วมฟังบรรยายครั้งนี้

 

ภาษาของคริสตัลไลเซอร์มีความซับซ้อนมาก พวกมันไม่ได้เป็นคำพูดหรือตัวอักษร แต่พวกมันดูเหมือนกับรูปภาพมากกว่า ความซับซ้อนอยู่ที่เส้นจำนวนมากที่เชื่อมต่อกันเป็นรูปภาพ ดูเหมือนกับผังวงจรของเครื่องจักร ซึ่งมันยากมากที่จะเข้าใจความหมายของมัน

 

แม้สมองของหานเซิ่นจะได้รับการเพิ่มพลังจากคริสตัลสีแดงแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันยากมากที่จะจดจำรูปภาพต่างๆ ส่วนทหารคนอื่นๆได้แต่เอามือกุมหัว เมื่อพวกเขาเข้ามาฟังการบรรยาย พวกเขารู้สึกเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้อะไรเลย

 

แม้มันจะยากมากที่จะเรียนภาษาคริสตัลไลเซอร์ แต่หานเซิ่นก็ยังตั้งใจและพยายามจดจำทุกอย่าง ดูเหมือนมันจะมีความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างแมว 9 ชีวิตและคริสตัลไลเซอร์ ที่สำคัญยังไงเขาก็ต้องไปทำภารกิจที่โบราณสถานของคริสตัลไลเซอร์ในอนาคต ดังนั้นมันก็ไม่เสียหายที่จะทำความเข้าใจภาษาคริสตัลไลเซอร์

 

หลังจากจบการบรรยาย หานเซิ่นก็เดินเข้าไปหาศาสตราจารย์สวี่ และก็ทำความเคารพเขา “ศาสตราจารย์ ผมมีคำถามเกี่ยวกับภาษาโบราณ ศาสตราจารย์พอจะมีเวลาว่างไหมครับ?”

 

ศาสตราจารย์สวี่มียศพลตรี ซึ่งสูงกว่าหานเซิ่น แต่เนื่องจากเป็นยศที่กองทัพมอบให้กับพวกผู้เชี่ยวชาญ จริงๆพวกเขาก็ไม่ได้มีอำนาจสั่งการอะไร

 

“มันเกี่ยวกับคริสตัลไลเซอร์รึเปล่า? ถ้าเธอสงสัยตรงไหนก็ถามมาได้” โชคดีที่ศาสตราจารย์สวี่ไม่ใช่คนหยิ่ง ดูแล้วเขาน่าจะเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย

 

“ผมต้องการถามเกี่ยวกับภาษาโบราณของมนุษย์” หานเซิ่นพูด

 

ศาสตราจารย์สวี่มองหานเซิ่นด้วยความประหลาดใจ “เธอก็เรียนวิชาภาษาโบราณด้วยหรอ?”

 

ในยุคนี้ พวกคนหนุ่มสาวมักจะใช้เวลาไปกับการฝึกวิชาไฮเปอร์จีโน ซึ่งมันจะช่วยให้พวกเขาสามารถอยู่รอดในก็อตแซงชัวรี่ได้ มีคนน้อยมากที่จะใช้เวลาในการศึกษาศาสตร์ต่างๆหรือใช้เวลาอ่านหนังสือ

 

ศาสตราจารย์สวี่ไม่รู้ว่าหานเซิ่นศึกษาวิชาภาษาโบราณมาจริงหรือเปล่า หรือเขาเพียงแค่อยากจะมาตีสนิท

 

“ผมเรียนมานิดหน่อย แต่ผมรู้สึกสับสนอยู่หลายจุด ความรู้ของผมมันยังไม่พอ” หานเซิ่นพูด

 

“ไม่มีปัญหา นี่ก็เกือบจะได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว งั้นเราไปด้วยกันเลย” ศาสตราจารย์สวี่พูด

 

ศาสตราจารย์สวี่ไม่ใช่คนหยิ่ง ถ้าหานเซิ่นสนใจวิชาภาษาโบราณจริงๆ ศาสตราจารย์สวี่ก็อยากจะตอบคำถามของเขา

 

หานเซิ่นดีใจมาก เขาเดินตามศาสตราจารย์สวี่ไปที่ห้องอาหาร หลังจากที่สั่งอาหารแล้ว พวกเขาก็หามุมเงียบๆนั่งคุยกัน

 

ในตอนแรกศาสตราจารย์สวี่ยังไม่แน่ใจว่าหานเซิ่นศึกษามาจริงหรือเปล่า เขาอาจจะเข้ามาแค่ตีสนิท เพราะดูจากอายุของเขาแล้ว เขายังหนุ่มมาก น้อยมากที่จะศึกษาวิชาภาษาโบราณ

 

แต่หลังจากที่ได้คุยกับหานเซิ่น เขาก็พบว่าหานเซิ่นศึกษาภาษาโบราณมาอย่างหนัก หานเซิ่นเป็นคนที่มีพรสวรรค์และก็มีความรู้มาก ซึ่งมันทำให้ศาสตราจารย์สวี่รู้สึกประหลาดใจ ระดับความรู้ของหานเซิ่นมันเกินกว่าอายุของเขาจริงๆ

 

“หานเซิ่น เธอมีญาติหรือคนในครอบครัวที่เรียนวิชาภาษาโบราณรึเปล่า?” ศาสตราจารย์สวี่ถามอย่างอดไม่ได้

 

“ไม่ครับ ครอบครัวผมทำธุรกิจโลหะอัลลอย แต่ตอนนี้ปิดไปแล้ว” หานเซิ่นไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมศาสตราจารย์สวี่ถึงได้ถามแบบนี้

 

“แล้วเธอเริ่มศึกษาวิชาภาษาโบราณตั้งแต่เมื่อไหร่?” ศาสตราจารย์สวี่ถามอีกครั้ง

 

“น่าจะประมาน 2 ปีก่อน” หานเซิ่นพูด แต่จริงๆแล้วเขาพึ่งจะมาศึกษาหลังจากที่เขาวิวัฒนาการแล้ว ดังนั้นเขายังศึกษามาได้ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ

 

ศาสตราจารย์สวี่รู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม แค่ 2 ปีหานเซิ่นก็มีความรู้ถึงขั้นนี้ ซึ่งมันหาได้ยากมาก หานเซิ่นเป็นคนที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมหาตัวจับได้ยาก ไม่งั้นเขาไม่มีทางที่จะเรียนรู้ได้เร็วขนาดนี้

 

จริงๆแล้วหานเซิ่นไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านภาษาอะไร แต่เหตุผลที่เขาสามารถเรียนรู้ได้เร็วถึงขนาดนี้ เป็นเพราะสมองของเขาได้ดูดซับพลังจากคริสตัลสีแดง ทั้งความจำและความสามารถในการวิเคราะห์ของเขาพัฒนาไปมาก ยิ่งเขาใช้ความจำหรือใช้สมองในการวิเคราะห์มากเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าเขาจะพัฒนาได้อีก

 

เนื่องจากพวกเขามีสิ่งที่สนใจเหมือนๆกัน ทำให้ศาสตราจารย์สวี่กับหานเซิ่นนั่งคุยกันอย่างถูกคอ ยิ่งคุยกันถึงหานเซิ่น ตัวศาสตราจารย์สวี่ก็ยิ่งทึ่งในความสามารถของอีกฝ่าย

 

ศาสตราจารย์สวี่อธิบายให้หานเซิ่นฟัง ซึ่งหานเซิ่นสามารถเข้าใจและจดจำได้รวดเร็วมาก หานเซิ่นเริ่มถามศาสตราจารย์ลึกและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ศาสตราจารย์สวี่ประทับใจในตังหานเซิ่นมาก

 

พวกเขาพูดคุยกันจนลืมกินข้าว และพวกเขาทั้ง 2 คนก็เดินออกจากห้องอาหาร ในตอนที่ห้องครัวเกือบจะปิดแล้ว

 

ก่อนที่เขาจะไป ศาสตราจารย์สวี่มอบตำราเกี่ยวกับภาษาโบราณให้หานเซิ่น และเขายังบอกอีกว่าถ้ามีตรงไหนที่ไม่เข้าใจหานเซิ่นสามารถถามเขาได้โดยตรง

 

คอมเม้นต์

Chapter List