อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 409 กิ่งเทพหมัดเหล็ก


แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios

ภายใต้แสงจันทร์ ทรายสีขาวในทะเลทรายปีศาจดูค่อนข้างอ้างว้างและห่อเหี่ยว ตอนนี้หานเซิ่นกำลังนั่งอยู่ข้างกองไฟ และย่างบาร์บีคิวเนื้อที่ล่ามาได้

 

เหมียวซึ่งอยู่ในโหมดสัตว์เลี้ยงกำลังนอนอยู่ข้างๆขาของหานเวิ่น ตาของมันจับจ้องไปที่บาร์บีคิว มันพยายามจะยื่นมือของมันออกไป แต่กระนั้นดูเหมือนมันจะกลัวไฟ ทำให้มันดึงมือกลับมาอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่ต้องรีบ อีกไม่นานมันก็สุกแล้ว” เมื่อเห็นการกระทำของเหมียว หานเซิ่นก็รู้สึกขำ

 

ตอนแรกหานเซิ่นตั้งใจจะมาล่ามอนสเตอร์รูปร่างเหมือนนกฟินิกซ์ เขาพยายามจะไปตรงจุดที่เขาเคยเจอมันคราวก่อนแล้ว แต่ทว่าครั้งนี้หานเซิ่นกับไม่พบต้นไม้ที่กลายเป็นถ่านเลยหรืออะไรอื่นที่เขารู้สึกคุ้นเคยเลย เขาจึงต้องตามหาภูเขาหิมะความทรงจำ แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังหามันไม่เจอ เขาเลยต้องพักก่อน

 

เมื่อบาร์บีคิวสุกได้ที่แล้ว หานเซิ่นก็แบ่งให้เหมียวครึ่งหนึ่ง ขณะที่กำลังมีความสุขกับอาหาร หานเซิ่นก็ได้ยินเสียงเหมือนกับเสียงฝีเท้าของสัตว์ขี่ดังมาจากระยะไกล และมันก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นได้ยินเสียงคนคุยกันด้วย

“ไฟ.. มีไฟอยู่ตรงนั้น.. เหมือนว่าจะมีคนอยู่ตรงนั้น..”

 

หานเซิ่นมองไปทางนั้น และเห็นสัตว์ขี่ 4 ตัวกำลังตรงมาที่เขา บนหลังของสัตว์ขี่เหล่านั้นมีชาย 2 หญิง 2 ดูจากสัตว์ขี่และชุดเกราะของพวกเขาแล้ว พวกเขาคงไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ

 

“ยังไงพวกที่กล้าเข้ามาในทะเลปีศาจก็คงไม่ธรรมดาอยู่แล้ว” หานเซิ่นหันกลับมากินบาร์บีคิว พร้อมกับเหมียวต่อ

 

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงจุดที่หานเซิ่นนั่งกินบาร์บีคิวอยู่ พวกเขาดูตื่นเต้นกันมาก พวกเขาลงจากสัตว์ขี่ และเดินเข้ามาหาหานเซิ่น ชายคิ้วหนาถาม “เพื่อน คุณพอจะแบ่งขายให้พวกเราได้บ้างไหม?”

 

ผู้หญิงอีก 2 คนและผู้ชายอีกคนจ้องกระเป๋าใส่น้ำที่อยู่ข้างๆหานเซิ่น พวกเขาเลียริมฝีปากที่แห้งของพวกเขา มันไม่ยากที่จะหาอาหารกินในทะเลทราย แต่ปัญหาก็คือน้ำ

 

แม้ว่าเลือดของมอนสเตอร์น่าจะใช้แทนกันได้หากจำเป็นจริงๆ แต่มันก็เหมือนกับน้ำทะเล ยิ่งกินมันก็ยิ่งกระหายหนักกว่าเดิม

 

กลุ่มของพวกเขาหลงอยู่ในทะเลทรายปีศาจมาเป็นเดือนแล้ว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอคน ซึ่งสิ่งแรกที่พวกเขาจะพูดถึงก็ไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากน้ำ

 

พวกเขาทั้ง 4 รู้ดีว่าคนธรรมดาๆคงจะไม่กล้าเข้ามาในทะเลทรายปีศาจแบบนี้แน่ ที่สำคัญพวกเขายังต้องถามทางออกไปจากทะเลทรายนี้ด้วย ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชายคิ้วหนาที่มีชื่อว่าเจียฉางเฟิง ถึงได้พูดกับหานเซิ่นอย่างสุภาพ

 

หานเซิ่นไม่พูดอะไร เขาโยนกระเป๋าใส่น้ำไปให้เจียฉางเฟิง และกินบาร์บีคิวต่อ

 

“ขอบคุณมากครับ!” เจียฉางเฟิงรู้สึกดีใจมาก เดิมทีเขาคิดจะจ่ายค่าน้ำให้หานเซิ่น เพราะน้ำมีความหมายต่อชีวิตของพวกเขามากในตอนที่พวกเขาอยู่ในทะเลทราย เจียฉางเฟิงไม่คิดว่าหานเซิ่นจะใจดีขนาดนี้

 

“อย่าพึ่งดื่ม” เจียฉางเฟิงเตรียมจะแบ่งให้กับคนอื่นๆ แต่ชายอีกคนหยุดเขาไว้ เขาเอากระดาษทดสอบออกมา และหยดน้ำลงไปเพื่อดูว่ามันมีพิษหรือเปล่า

 

เมื่อพวกเขาเห็นผลการทดสอบ ซึ่งบอกว่ามันไม่มีพิษ ชายรูปร่างผอม เซียวหลิงเฟิงก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หลังจากนั้นพวกเขาก็ดื่มมัน

 

“ขอบคุณมาก..จะให้พวกเราเรียกคุณว่าอะไรดี” หลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จ เซียวหลิงเฟิงก็ถามหานเซิ่น

 

“หานเซิ่น” หานเซิ่นตอบ ขณะที่กำลังเล่นกับเหมียวที่อยู่บนตัก

 

เซียวหลิงเฟิงพยายามคิดเกี่ยวกับชื่อนี้ ถึงเขาจะรู้สึกคุ้นๆอยู่บ้าง แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหน เซียวหลิงเฟิงถามต่อ “เพื่อน คุณรู้ไหมว่าพวกเราจะออกจากทะเลทรายนี้ได้ยังไง? ถ้าคุณพาพวกเราออกไปได้ ผมยินดีจ่ายค่านำทาง”

 

“เรื่องเงินไม่จำเป็น ผมยังต้องล่ามอนสเตอร์อยู่ที่นี่ ดังนั้นผมเลยนำทางไม่ได้ ถ้าพวกคุณมุ่งหน้าไปทิศทางนั้น พวกคุณจะสามารถออกจากทะเลทรายปีศาจได้ใน 3 วัน” หานเซิ่นพูด พร้อมกับชี้นิ้วบอกทิศทาง

 

“ถ้าคุณยอมนำทางให้พวกเรา ผมจะจ่ายให้คุณเป็นวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ” เซียวหลิงเฟิงพูด

 

หานเซิ่นไม่หันไปมองเซียวหลิงเฟิง เขาเอาเนื้อบาร์บีคิวป้อนเหมียว เห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นรู้ว่าเซียวหลิงเฟิงกลัวว่าเขาจะบอกทางผิด ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ดูจากท่าทางหานเซิ่นก็พอจะรู้ว่าเซียวหลิงเฟิงเป็นคนที่ขี้ระแวง อย่างไรก็ตามหานเซิ่นไม่สนใจที่จะพูดกับเขา

 

แม้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิจะมีค่ามาก แต่หานเซิ่นก็ไม่ต้องการเสียเวลาอีกแล้ว ซึ่งตอนนี้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิก็ไม่มีความหายกับเขาอีกแล้ว

 

เมื่อเห็นหานเซิ่นไม่สนใจ ทั้งเซียวหลิงเฟิงและเจียฉางเฟิงก็ดูจะประหลาดใจมาก ผู้หญิงอีก 2 คนก็มองมาที่หานเซิ่นเช่นกัน พวกเธอเองก็ไม่อยากเชื่อว่าหานเซิ่นจะไม่สนใจวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ

 

ไม่ว่าเมื่อไหร่วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิก็ยังเป็นเหมือนกับสมบัติล้ำค่าเสมอ แม้แต่ตัวพวกเขาเองก็ยังไม่สามารถอยู่สงบยิ่งได้แบบหานเซิ่น เมืออยู่ต่อหน้าวิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ

 

สิ่งที่หานเซิ่นต้องทำก็แค่ยอมนำทางให้พวกเขา และเขาก็จะได้วิญญาณอสูรเลือดศักดิ์สิทธิ แต่หานเซิ่นกับไม่สนใจ สีหน้าของหานเซิ่นเหมือนจะแสดงท่าทีดูถูกออกมา ซึ่งมันทำให้พวกเขาต้องระวังหานเซิ่นมากขึ้น

 

ชื่อ ‘หานเซิ่น’ เป็นชื่อที่คนรู้จักกันดีแค่ในหมู่โรงเรียนทหาร และคนในสตีลอาเมอร์ ในหมู่พวกคนมีชื่อเสียงแทบไม่มีใครรู้จักหานเซิ่น

 

เห็นได้ชัดว่าเซียวหลิงเฟิงและเจียฉางเฟิงไม่ได้มาจากสตีลอาเมอร์ ทำให้พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อของหานเซิ่น

 

พวกเขาทั้งต 4 คนมองหานเซิ่นตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่สักพัก

“เพื่อน คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับกึ่งเทพหมัดเหล็กบ้างไหม?” เจียฉางเฟิง และเซียวหลิงเฟิงหันมามองหน้ากัน หลังจากนั้นเซียวหลิงเฟิงก็ถามหานเซิ่น

 

“เจียซื่อเต้า?” หานเซิ่นมองเซียวหลิงเฟิงด้วยความประหลาดใจ

 

กึ่งเทพหมัดเหล็กเป็นคนที่มีชื่อเสียง เขาเป็นหนึ่งในกึ่งเทพที่มีอายุมากที่สุด ตระกูลเจียเป็นตระกูลที่ได้รับสืบทอดวิชาการต่อสู้ที่โดดเด่นเรื่องหมัด

 

วิชาหมัดเหล็กของเจียว่ากันว่าเป็นหนึ่งในวิชาหมัดที่ดีที่สุด หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงหรือเปล่า แต่เจียซื่อเต้าก็ใช้วิชาเหล่านั้นจนได้เป็นถึงกึ่งเทพ ซึ่งมันทำให้ตระกูล และวิชาของเขาเป็นที่รู้จักกันทั่ว

 

เจียซื่อเต้าแม้จะได้เป็นกึ่งเทพ เขาก็ไม่ได้เลือกเส้นทางการเมืองเหมือนกับคนอื่นๆ แต่เขาเริ่มทำธุรกิจเป็นสถาบันสอนการต่อสู้

 

มันแตกต่างจากสถาบันเอเรสที่เปิดรับทุกคน สถาบันของเขาจะเรียกให้ถูกจะต้องเรียกว่าสำนัก เขาจะรับเฉพาะคนจากตระกูลเจีย และลูกหลานของคนใหญ่คนโตเท่านั้น

 

“ชื่อของเขาคือเจียฉางเฟิง และเจียซื่อเต้าก็คือปู่ของเขา ถ้านำทางให้เรา พวกเราจะยอมให้นายเข้าสำนักหมัดเหล็ก และกึ่งเทพหมัดเหล็กจะเป็นคนถ่ายทอดวิชาให้กับนายด้วยตัวเอง” เซียวหลิงเฟิงพูด พร้อมกับชี้ไปที่เจียฉางเฟิง

 

 

คอมเม้นต์

Chapter List