อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ เรื่อง Super God Gene – ตอนที่ 572 มีปัญหาแล้ว
แปลไทย ตอนล่าสุด อ่านฟรี manga มังงะญี่ปุ่น manhwa มังงะเกาหลี manhua มังงะจีน อัพเดทล่าสุดก่อนใคร มีให้เลือกอ่านฟรีมากมาย ทั้งบนแอพมือถือ แอนดรอย ios
หลังจากที่แอนนี่กลับไปถึงห้องของเธอ เธอก็โหลดข้อมูลจากกล้องสังเกตการณ์ ซึ่งเป็นวิดีโอการฝึกซ้อมของหานเซิ่น จากนั้นเธอก็ส่งมันไปให้ใครบางคน
ในเวลาเดียวกันในออฟฟิตแห่งหนึ่ง ชายวัยกลางคนเปิดวิดีโอ หลังจากที่ดูมันเสร็จ เขาก็หลับตาและเอนหลังพิงเก้าอี้ เหมือนกับว่าเขากำลังจะพักผ่อน แต่เมื่อเขาลืมตา เขาก็ดูวิดีโอนั้นอีกครั้ง
“1 จิต ควบคุม 2 มือได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือทาญาติของหานจิงจื่อจริงๆงั้นหรอ? คำทำนายของหานจิงจื่อกำลังจะเป็นจริงขึ้นมาแล้วงั้นหรอ?”
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาจะใช้ความคิดหนักจริงๆ
ไม่นานเสียงคอมบนโต๊ะของเขาก็ดังขึ้น เขามองดูเบอร์คนที่โทรมาและเขาก็ยิ้ม เขากดรับสาย จากนั้นภาพโฮโลแกรมของสาวสวยก็ปรากฏขึ้นมาบนจอ
“เหยียนหรัน ในที่สุดลูกก็หาเวลาโทรหาชายแก่คนนี้ได้แล้วหรอ? นึกว่าพอมีเวลาว่างจะอยู่แต่กับแฟนซะอีก” ชายวัยกลางคนพูด
จีเหยียนหรันหน้าแดง “พ่อกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? พ่อก็น่าจะรู้นี่ว่าหนูก็คิดถึงพ่ออยู่ตลอด”
“พ่อรู้ว่าลูกคิดถึงพ่อ เพราะงั้นอย่างกังวลเลย แต่ช่วงนี้ดูเหมือนว่าลูกจะมีเวลาติดต่อกับพ่อน้อยลงเรื่อยๆ ลูกมีเวลาก็ติดต่อไปหาแม่เขาบ้าง เห็นแบบนั้น แต่แม่เขาก็คิดถึงลูกมากกว่าใคร” ชายวัยกลางคนพูด
“หนูรู้ค่ะพ่อ หนูก็พึ่งจะคุยกับแม่มา แต่แม่ก็เอาแต่บ่นหนูตลอดเลย” จีเหยียนหรันพูด
“ไว้รอให้หานเซิ่นเสร็จจากการรับใช้กองทัพตามเกณฑ์ก่อน และลูกก็แนะนำเขาให้แม่เขารู้จัก พวกลูกก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พวกลูกก็ควรจะรีบแต่งงานกัน พ่อคนนี้อยากจะเห็นหน้าหลายไวๆ”
“พ่ออยากให้หนูแต่งงานมากขนาดนั้นเลยหรอ?” จีเหยียนหรันหน้าเเดง แต่เธอก็รู้สึกมีความสุขที่รู้ว่าพ่อของเธอเห็นดีด้วย
“หรือลูกจะบอกว่าหนุ่มที่ชื่อหานอะไรนั่นไม่ดีพอสำหรับลูกล่ะ? ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อจะสั่งให้แอนนี่โยนเขาลงที่ดาวดวงไหนสักดวง ลูกจะได้ไปหาคนที่ลูกชอบ” ชายวัยกลางคนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ลูกสาวมักจะรู้ความคิดของพ่อตัวเองเสมอ และจีเหยียนหรันก็รู้ว่าพ่อของเธอกำลังคิดอะไร เธอหัวเราะ “เลิกล้อเล่นแค่นี้เถอะพ่อ ไว้รอให้เขารับใช้กองทัพเสร็จเมื่อไหร่ หนูจะพาเขากลับไปพบพ่อกับแม่ ถ้าพ่อกับแม่ไม่พอใจในตัวเขา หนูนี่แหละที่จะโยนเขาทิ้งเอง!”
“ดูเหมือนลูกจะมั่นใจในตัวเขามากนะ เหมือนลูกสาวของพ่อจะหลงเขาเข้าจริงๆแล้ว เมื่อคิดว่าลูกสาวที่เลี้ยงดูมา 20 กว่าปีจะต้องมาถูกพรากจากไป ใจพ่อก็….”
“พ่อ เลิกแกล้งหนูเล่นสักทีเถอะ พูดแบบปรกติดีกว่า!”
แต่หลังจากที่พวกเขาคุยกันเสร็จ รอยยิ้มของชายวัยกลางคนก็จางหายไป เขาอ่านข้อมูลที่แอนนี่ส่งมาอย่างละเอียด พร้อมกับดูวิดีโอ ตอนนี้เขากำลังนั่งเอานิ้วเคาะโต๊ะ ขณะอ่านข้อมูลไปด้วย เขาไม่พูดอะไรเลยจนกระทั่งอ่านจบ
“หานจิงจื่อ ถึงจะตายไปแล้ว คุณก็ยังสร้างเรื่องยุ่งๆไว้อีกนะ” หลังจากเงียบอยู่นาน ชายวัยกลางคนก็ถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ปิดคอมของเขา
การดวลกับแอนนี่ หานเซิ่นต้องใช้พลังงานทั้งด้านจิตใจและพลังกายสูงมาก หลังจากวันนั้นหานเซิ่นก็ต้องหยุดพักไป 12 วันเต็มๆ เขาไม่ได้ฝึกซ้อมวิชาดาบคู่ต่อ เขากลับไปที่ห้องของเขา และล้มตัวลงนอนบนเตียง จากนั้นเขาก็อ่านข่าวในเน็ต
ตอนนี้หลายๆสถานีกำลังทำข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ที่กำลังจะมาถึง นี่เป็นงานใหญ่ของสหพันธ์ ผู้สมัครแต่ละคนกำลังหาเสียงของตัวเองอยู่
ในรายชื่อผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งนี้มีชื่อที่หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจ
“ถ้าจียัวเจินได้เป็นผู้นำคนใหม่…” หานเซิ่นอ่านข่าวไปแล้วก็ถอนหายใจ ตอนนี้สีหน้าของเขากำลังเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
จากนั้นเขาก็อ่านข่าวในหัวข้ออื่นๆ เช่นเรื่องเกี่ยวกับเมืองในก็อตแซงชัวรี่ เรื่องของเด็กอัจฉริยะที่วิวัฒนาการด้วยจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิก่อนอายุ 20 ผู้เป็นเลิศที่ฆ่ามอนสเตอร์เลือดศักดิ์สิทธิได้ กึ่งเทพที่ใช้หมัดของเขาทำลายยานรบของชูร่า ฯลฯ แม้จะเป็นหัวข้อใหม่ๆที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเบื่อ เพราะมีแต่ข่าวแบบเดิมๆ
“ถ้าเราไม่ได้เป็นกึ่งเทพ มันก็คงยากที่เราจะขึ้นไปมีอำนาจเหมือนคนอื่นๆได้” ตาของหานเซิ่นเป็นประกายขึ้นมา เขามั่นใจมากว่าด้วยความสามารถของเขา วันหนึ่งเขาจะได้เป็นกึ่งเทพ แต่ก่อนอื่นเขาจะต้องทำให้พื้นฐานของเขาสมบูรณ์ซะก่อน ถ้าไม่อย่างงั้นแล้วมันก็ยากที่เขาจะไปถึงก็อตแซงชัวรี่เขต 4
ตอนนี้ยังไม่มีมนุษย์คนไหนที่สามารถไปยังก็อตแซงชัวรี่เขต 5 ได้ ทำให้ยังไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่
หานเซิ่นไม่ได้ต้องการจะครองความยิ่งเหนือทั้งสหพันธ์ดวงดาว เขาต้องการอิสระ เขาไม่ต้องการอยู่ใต้การปกครองของผู้ใด เขาไม่อยากให้ใครมาห้ามนู้นห้ามนี่ เขาอยากจะทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ
การตายของพ่อเขายังเต็มไปด้วยปริศนา ถ้าเขาไม่มีอำนาจมากพอ เขาก็จะไม่มีวันรู้ความจริงเรื่องนี้ได้
ขณะที่หานเซิ่นกำลังใจลอยก็มีเสียงคนโทรเข้ามา ซึ่งก็คือหยางม่านลี่ หานเซิ่นรู้ว่าหยางม่านลี่จะไม่โทรมา ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญ ดังนั้นเขาจึงรีบรับสาย ภาพของเธอปรากฏบนจอทันที
“ฉันกลัวว่านายจะมีปัญหาแล้ว” หยางม่านลี่พูด
“เป็นปัญหาแบบไหน?” หานเซิ่นถามแบบสบายๆ ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาไหนที่เขาลงมือทำเองแล้วแก้ไม่ได้
“หน่วยพิเศษมอบภารกิจให้เราคุ้มกันคนคนหนึ่งที่เพิ่งจะเข้ามาก็อตแซงชัวรี่เขต 2” หยางม่านลี่อธิบาย
“เขามาที่เมืองเทพธิดาของเรางั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“ไม่ตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองสตาร์วีล” หยางม่านลี่พูด
“คนคนนี้พิเศษยังไง?” หานเซิ่นไม่คิดว่าหยางม่านลี่จะเรียกคนอื่นว่าตัวปัญหา ถ้าเขาเป็นแค่คนธรรมดาๆ
“เขาคือตงเซิน ลูกชายของตงลี่” หยางม่านลี่พูด
หานเซิ่นค่อนข้างช็อค “ช่างบังเอิญจริงๆ!”
ตงลี่คือคนที่อยู่เบื้องหลังแบล็คก็อต ซึ่งคอยเป็นแบล็คอัพให้เขาจนสามารถครอบครองเมืองบนทุ่งน้ำแข็งได้หลายเมือง
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงบอกว่านายเจอปัญหาแล้ว ชายคนนั้นคงไม่นั่งอยู่เฉยๆ และคนที่ติดตามนายอยู่ส่วนมากก็ยังฟังคำสั่งของตงลี่ ถ้าลูกชายของเขามาอยู่ที่นี่ มันก็ยากที่เราจะรักษาอำนาจในเมืองแบล็คก็อตได้” หยางม่านลี่พูด
“เหมือนพวกเขาจงใจให้เรากลายเป็นผู้คุ้มกันในฐานะคนของหน่วยพิเศษ และเหมือนว่าเราจะไม่สามารถปฏิเสธได้ซะด้วย” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยิ้ม
“นายยังยิ้มได้ทั้งๆที่เจอสถานการณ์แบบนี้น่ะหรอ?” หยางม่านลี่ไม่เข้าใจ ถ้าเธออยู่ในตำแหน่งเดียวกับหานเซิ่น แล้วเจอปัญหาเหมือนตอนนี้ เธอคงกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่หานเซิ่นกลับยิ้มออก
หานเซิ่นยิ้มอีกครั้ง “ทำไมฉันถึงจะยิ้มไม่ได้ล่ะ? ไม่ว่าพวกเขาจะมีแผนการแบบไหน การให้ลูกที่อ่อนแอมาเอาเมืองคืน เขาคงคิดง่ายไป และยิ่งกว่านั้นยังมีสัญญาที่ทำไว้ ซึ่งพวกเขายังต้องปฏิบัติตาม ไม่มีทางที่ตงลี่จะยึดอำนาจจากเราได้”
“บางทีที่นายพูดมาอาจจะถูก แต่ถ้าคนอื่นๆไม่ฟังนาย และหันไปเชื่อฟังลูกของเขาแทน ถึงตอนนี้นายจะทำยังไง?” หยางม่านลี่คิดว่าหานเซิ่นคิดอะไรง่ายเกินไป
“สำหรับฉันมันไม่มีปัญหา ตราบใดที่ฉันยังปกครองเมืองแบล็คก็อต มันก็จะคงตั้งอยู่แบบนั้น แต่ถ้าฉันไม่ได้ปกครองมันเมื่อไหร่ มันก็จะถูกทำลาย” หานเซิ่นพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
เมื่อหยางท่านลี่ได้ยินที่เขาพูด เธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ภายใต้เสียงที่เยือกเย็นและสงบของหานเซิ่น หยางม่านลี่กับรู้สึกได้ถึงความรุนแรงและชั่วร้าย มันเป็นความรู้สึกที่เธอยังไม่เคยเจอมาก่อนตั้งแต่รู้จักหานเซิ่นมา
หยางม่านลี่สูดลมหายใจเข้าลึก “เขาต้องการพบนาย”
“งั้นฉันจะไปพรุ่งนี้ วันนี้มันดึกมากแล้ว” ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกอ่อนล้ามาก เขาไม่อยากจะเดินทางไกลในวันนี้ เขาคุยกับหยางม่านลี่ต่ออีกสักพัก ก่อนที่จะวางสายไป
คอมเม้นต์